ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา LPN เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่พยายามปรับตัวมาโดยตลอด อาทิการหันมาลุยตลาดแนวราบมากขึ้น ขยับไปพัฒนาโครงการระดับราคาสูงขึ้น รวมไปถึงการขยายพอร์ตด้าน Recurring Income ซึ่งทำให้ปีที่แล้ว บริษัทฯ เติบโตกว่า 20%

แต่หลังจากเห็นสัญญาณถึงความไม่แน่นอนของตลาด รวมกับการเตรียมออกมาตรการคุมสินเชื่อของ ธปท. ทำให้ปีนี้ LPN ปรับลดแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ๆ ลงไปอีก โดยลดสัดส่วนในการเปิดคอนโดเหลือเพียง 5-6 โครงการ และเน้นน้ำหนักไปยังโครงการแนวราบ (ทั้งในนามพรสันติและ LPN) ที่เตรียมไว้ประมาณ 10 โครงการ ซึ่งตั้งเป้าในระยะ 3 ปีไว้ว่าจะสามารถสร้างยอดขายจากโครงการแนวราบได้ประมาณครึ่งหนึ่งของยอดขายคอนโด

แผนเปิดโครงการใหม่ มูลค่ารวม 20,000 ลบ.

  • คอนโด 5-6 โครงการ มูลค่า 12,000 ลบ. หนึ่งในนั้นคือ  Lumpini Mix นราธิวาส ที่มีทั้งคอนโดและอาคารสำนักงานเพื่อขาย
  • แนวราบ 10 โครงการ มูลค่า 8,000 ลบ. แบ่งเป็นเครือพรสันติ 8 โครงการ และบ้าน 365 อีก 2 โครงการ

เป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่เคยผ่านวิฤกตปี 2540 อาทิ Land & Houses, LPN และ Property Perfect ต่างพากันชะลอการลงทุนในตลาดคอนโด หันไปขยายสัดส่วนแนวราบ และพยายามสร้างสินค้าที่เป็น recurring income แทน ส่วนทางกับรายใหม่ๆ ที่จับตลาดคอนโดเป็นหลัก แล้วสัญญาณการเปลี่ยนแปลงนี้จะบอกอะไรกับตลาด เราก็คงต้องดูกันต่อไป