Keppel Corporation มีเครือข่ายลงทุนมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลกครอบคลุมทั้งโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมการสื่อสารและพลังงาน
Keppel Land เป็นบริษัทในเครือ Keppel Corporation ที่เน้นลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมาร่วมลงทุนในไทยในนาม Keppel Thai Properties พัฒนาโครงการบ้านอย่าง Villa Arcadia ศรีนครินทร์ และ Villa Arcadia วัชรพล แต่ตอนหลังอาจเห็นว่าช้า ไม่ทันใจ ก็เลยตัดสินใจขายหุ้นให้กับทาง King Wai Real Estate Group จากฮ่องกง เมื่อช่วงต้นปี 2016
แล้วล่าสุดก็ได้มาจับมือกับทาง KPN Land เตรียมลุยพัฒนาโครงการระดับ Hi-end ให้สมศักดิ์ศรีพี่ใหญ่จากสิงคโปร์ซะหน่อย
ชม Keppel Bay หนึ่งในอาณาจักรใหญ่ของ Keppel Land
สิ่งที่ดึงดูดสายตาเรา เมื่อก้าวเข้ามาเยือน Keppel Bay คือ Reflections @Keppel Bay ตึกสูงทรงผลึกโค้งที่เรียงกันอยู่ 3 แท่ง ออกแบบโดย Daniel Libeskind สถาปนิกชื่อดังชาวโปแลนด์–อเมริกัน (คนเดียวกับที่ก่อนหน้านี้เคยมีแบบหลุดโครงการมิกซ์ยูสระหว่าง Dusit Thani – CPN) โดยความพิเศษคือมี Unit Type 100 กว่าแบบ ซึ่งแต่ละห้องจะถูกออกแบบให้เปิดรับวิวที่ดีที่สุดทั้ง 3 ด้าน ทั้งสนามกอลฟ์ ทะเล และภูเขา นอกจากนี้ยังมีอาคารเล็กรอบล้อมอีก 11 อาคาร รวมแล้วกว่า 1,129 ยูนิต ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีห้องเหลืออยู่ ราคาเฉลี่ยประมาณ 680,000 บาท/ ตร.ม
ติดๆ กันก็จะเป็นคอนโดริมแม่น้ำ ที่มีชื่อว่า Coral @Keppel Bay ที่แม้จะเตี้ยกว่า แต่ก็มีน้ำรอบล้อมอาคาร ทำให้เกือบทุกยูนิต เป็น Water Front ทั้งหมด และความที่ใหม่กว่าทำราคาเฉลี่ยสูงกว่าหน่อย ประมาณ 900,000 บาท/ ตร.ม.
เท่าที่ลองถามๆ มา โครงการแบบนี้จะเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ ที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่า ซึ่งผลตอบแทนที่ได้ จะอยู่ราวๆ 2-3%
Marina Bay Financial Center ศูนย์กลางทางการเงินที่ร่วมทุนกับ Hong Kong Land
อย่างที่ทราบกันดีว่า สิงคโปร์ ก็เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของธุรกิจการเงิน ซึ่งมีชื่อย่านว่า Marina Bay Financial Center ที่มีตึกสูงเรียงกันหลายๆ ตึก โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง Keppel Corporation กับ Hongkong Land (ชื่อนี้คุ้นๆ มั้ยคะ) พัฒนาเป็น Mixed Used ที่มีสำนักงาน 2 ตึก และคอนโดอีก 1 ตึก ซึ่งหลังจากที่โครงการเริ่มไปได้ดี ทาง Keppel Corporation ก็ตัดสินใจขายหุ้นคืนให้กับ Hongkong Land เหลือเพียงชื่อแบรนด์เท่านั้น
จากสิงคโปร์ สู่ไทย วางงบลงทุน 5 ปี ร่วมกัน 35,000 ลบ.
KPN-KEPPEL ALLIANCE COMPANY LIMITED มีทุนจดทะเบียนราว 50 ลบ. โดยปีนี้คาดว่าจะเปิดคอนโด 2 โครงการมูลค่า 7,000 ลบ. ส่วนปีถัดๆ ไปก็ตั้งเป้าไว้คร่าวๆ ว่าจะไม่ลงทุนต่ำกว่านี้ ดังนั้นภายใน 5 ปี ก็น่าจะมีมีมูลค่ารวมกันราว 35,000 ลบ.
สำหรับโครงการที่จะเปิดในปีนี้ มีอยู่ 2 ทำเล
- สุขุมวิท 19 บริเวณโรงแรมฮันนี่เก่า ที่ชื่อโครงการว่า SHAA ASOKE มูลค่า 2,500 ลบ. เป็นคอนโดสูง 24 ชั้น จำนวน 140 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 10 ลบ. หรือประมาณ 300,000 บาท/ตร.ม.
- สุขุมวิท 28 ตัวนี้คาดว่าน่าจะใช้แบรนด์ Diplomat (ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ) มูลค่า 4,500 ลบ. เป็นคอนโดสูง 30 ชั้น จำนวน 256 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 10 ลบ. หรือประมาณ 300,000 บาท/ตร.ม.