Habitat Group หนึ่งในบริษัทอสังหารายกลาง ที่เริ่มต้นจับตลาดในพัทยา แล้วขยายมารุกคอนโดในกทม. โดยกลุ่มลูกค้าหลักๆ คือ mid to high ล่าสุดด้วยสถานการณ์ covid-19 ทำให้บริษัทฯ เริ่มปรับกลยุทธ์ใหม่อีกครั้ง

เดิมทีแนวทางของ Habitat Group จะเน้นพัฒนาโครงการในรูปแบบ lifestyle investment คือคอนโดหรือ pool villa พ่วง branded residence ที่ผู้ซื้อสามารถปล่อยให้เช่าในรูปแบบโรงแรมได้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายโครงการที่พร้อมจะโอนในปีนี้ แต่สิ่งที่ส่วนทางกับสภาพตลาดคอนโดในกทม. คือลูกค้าส่วนใหญ่กลับมาลงทุน lifestyle investment ในต่างจังหวัดมากขึ้น แม้บางคนจะเจอปัญหากู้ไม่ผ่าน แต่ก็สามาถนำกลับมาขายใหม่ในระยะเวลาไม่นาน

สำหรับกลยุทธ์ใหม่ๆ ของบริษัทฯ จะเริ่มขยับไปที่แนวราบมากขึ้น และชะลอการลงทุนคอนโดไว้ก่อน ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี

อัพเดทสถานการณ์ของโครงการที่อยู่ระหว่างขาย
กรุงเทพ

  1. Leroy ร่วมฤดี  บ้านหรูมูลค่า 205 ลบ. ก่อสร้าง 100% เตรียมส่งมอบ
  2. Walden Asoke 
  3. Walden Sukhumvit 39
  4. Walden Thonglor 8
  5. Walden Thonglor 13

พัทยา

  1. X2 Pattaya Oceanphere (Transfer 100%)
  2. Best Western Premier Premier Pattaya (Transfer 100%)
  3. Best Western Premier Collection Bluphere Pattaya (presale 100% transfer 70%)
  4. Wyndham Atlas Wongamat (presale 100%)
  5. Ramada by Wyndham Mira North Pattaya (presale 60% EIA approved)

ผลประกอบการและยอดขาย
ในช่วงครึ่งปีแรก ยอดรับรู้รายได้ ของ Habitat Group โตเป็น 2 เท่าจากปีที่แล้ว ซึ่งทำรายได้ไว้ที่ 700 – 800 ล้านบาท ในขณะที่ปีนี้สามารถดันยอดโอนครึ่งปีแรกกว่า 1,200 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมียอดโอนครึ่งปีหลังอีกกว่า 1,300 ล้านบาท และจะทำให้บริษัทฯ มียอดโอนรวมในปี 2563 กว่า 2,500 ล้านบาท เติบโตกว่าปีที่แล้วถึง 220%