Enrich Group ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มีผลงานโครงการอสังหาริมทรัพย์มากมาย ล่าสุดได้เดินหน้าขยายธุรกิจและการลงทุนเปิดโครงการคอนโดมิเนียม-โรงแรม ในชื่อโครงการ Dusit D2 หัวหิน และ โครงการ Dusit D2 Residence หัวหิน” รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท ในพื้นที่ทำเลทองติดถนนเพชรเกษมใจกลางเมืองหัวหิน ใกล้บลูพอร์ตเพียง 400 เมตร
โดยการเปิดตัวโครงการในครั้งนี้ มาพร้อมการประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างเอ็นริชและดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้นำด้านการบริหารโรงแรมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ในการเป็นผู้ดำเนินการด้านการ บริหารจัดการโรงแรมในครั้งนี้ ภายใต้แบรนด์ “ดุสิตดีทู” รวมถึงการแต่งตั้ง พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เป็นตัวแทนขายและบริหารจัดการในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม
โครงการดุสิตดีทู หัวหิน เน้นกลุ่มเป้าหมายประเภทกลุ่มครอบครัวและกลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ที่มองหาสถานที่พักผ่อนเพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา พร้อมด้วยความสะดวกสบายในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยทำเลที่ตั้งของดุสิตดีทู หัวหิน ถือเป็นทำเลทองกลางใจเมืองหัวหิน โดยตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์การค้าบลูพอร์ต แหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง ที่มีทั้งร้านอาหารและโรงภาพยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของหัวหิน และตลาดซิคาด้า แหล่งรวมสินค้าสุดฮิปมีสไตล์ โดยตั้งเป้าแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายในไตรมาสแรกของปี 2563
ทั้งนี้ โครงการแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนโรงแรมในชื่อ โรงแรมดุสิตดีทู หัวหิน เป็นอาคารขนาดความสูง 7 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ มูลค่าโครงการ 620 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 150 ห้อง พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องอาหารที่เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน ฟิตเนส สระว่ายน้ำ รูฟท็อปบาร์ โดยเน้นดีไซน์แบบโมเดิร์น ภายใต้คอนเซปต์ Timeless Design
และส่วนที่สองคือที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมีเนียมในชื่อ ดุสิตดีทู เรสซิเดนเซส หัวหิน เป็นคอนโด Low-Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3.5 ไร่ มูลค่าโครงการ 820 ล้านบาท โดยบริหารโครงการโดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ประกอบด้วยห้องพักพร้อมเฟอร์นิเจอร์จำนวน 364 ยูนิต โดยห้องพักจะมีขนาดตั้งแต่ 26 ถึง 41 ตร.ม. โดยมีสิ่ง อำนวยความสะดวก อาทิ Exclusive sunken pool and Garden, Grand panoramic lobby โดยกำหนดราคาขายเริ่มต้นไว้ที่ยูนิตละ 1.9 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 7.7 หมื่นบาทต่อตารางเมตร ที่มาพร้อมระบบ Mobile Key Access ซึ่งเป็นระบบการ เข้า-ออก ประตูผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือเพื่อความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัย
นางสาวสุพิชา พงศ์ศีลธน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัทเอ็นริช เปิดเผยว่า “จากความสำเร็จของการสร้างสรรค์โครงการบ้านหรูระดับไฮเอนด์หลายโครงการในกรุงเทพฯ และแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของเอ็นริชที่ไม่ได้จำกัดแค่ธุรกิจที่อยู่อาศัย แต่เรายังมองไปถึงธุรกิจโรงแรมและบริการที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของการก้าวเข้ามาพัฒนาโครงการโรงแรมและคอนโดในครั้งนี้ ซึ่งจากจุดเริ่มต้นนี้ได้นำไปสู่ความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำอย่างดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล และ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ยาวนานและเป็น ที่ยอมรับในวงกว้าง จึงทำให้เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าโครงการดุสิตดีทู หัวหิน จะเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”
มิสเตอร์ ลิม บุน ควี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ยังได้กล่าวถึงการเปิดตัวโรงแรมในแบรนด์ดุสิตดีทูแห่งแรกในหัวหินว่า “หัวหินเป็นเมืองตากอากาศชายทะเลที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของไทย สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 5 ล้านคนต่อปี และก็ยังคงเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์และบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ซึ่งเหมาะทั้งครอบครัวและนักท่องเที่ยวที่มองหาการพักผ่อนและกิจกรรมสนุกๆ ริมชายหาด ซึ่งภายใต้ความร่วมมือของทั้ง 3 พันธมิตรที่มีมีวิสัยทัศน์เดียวกันที่จะสร้างสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้พักอาศัยและนักท่องเที่ยว เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าการเปิดตัวของดุสิตดีทู หัวหิน จะสร้างความประทับใจให้กับผู้พักอาศัยและนักท่องเที่ยวทุกคนได้อย่างแน่นอน”
นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่าว่า “โครงการ ดุสิตดีทู เรสซิเดนเซส หัวหิน นับเป็นโมเดลการทำธุรกิจที่อาศัยความเชี่ยวชาญและศักยภาพขององค์กรชั้นนำ จึงเป็นโครงการที่มีจุดแข็งเหนือกว่าคู่แข่งในตลาด โดยเฉพาะแบรนด์ดุสิตดีทูที่มาช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ ตลอดจนทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาด จะสามารถดึงดูดผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อลงทุน รวมถึง ผู้เช่าที่เป็นชาวต่างชาติได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มสแกนดิเนเวียนและรัสเซีย สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหัวหินนั้น จากการสำรวจของพลัสฯ เมื่อเดือนมิถุนายน 2560 พบว่าตลาดคอนโดมิเนียมยังคงเป็นสินค้าหลักมีส่วนแบ่งถึง 84% และยังคงมีอัตราดูดซับที่ดี ส่วนราคาอสังหาฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น สำหรับคอนโดที่นำกลับมาขายใหม่ (รีเซล) ที่ติด ชายทะเล เฉลี่ยอยู่ที่ 135,000 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากตอนเปิดโครงการ 10% ส่วนโครงการที่ไม่ติดชายทะเลราคารีเซลอยู่ที่ 79,000 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากตอนเปิดโครงการ 19% จึงมั่นใจได้ว่าดุสิตดีทู เรสซิเดนเซส หัวหิน จะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน”