CPN ประกาศผลประกอบการ Q3/2019 รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง พร้อมทั้งดึงพันธมิตรระดับโลกร่วมลงทุนส่งเสริมให้เป็นเบอร์หนึ่งลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2562 ธุรกิจศูนย์การค้าซึ่งเป็นธุรกิจหลักยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยรายได้รวมเติบโตกว่า 9% และกำไรสุทธิเติบโตกว่า 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไม่รวมรายการที่มิได้เกิดขึ้นประจำและผลการดำเนินงานจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์) อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ตามแผนงานที่วางไว้ ภายใต้วิสัยทัศน์ในการสร้าง ‘Center of Life’ หรือศูนย์กลางการใช้ชีวิต โดยล่าสุดเปิดให้บริการเซ็นทรัล วิลเลจ ศูนย์การค้ารูปแบบลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และยังได้รับเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI World เป็นปีที่ 2 และ DJSI Emerging Markets เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ตอกย้ำการเป็นองค์กรแบบอย่างเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนระดับโลก

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยงของ CPN กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2562 ว่า “แม้ว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวมยังคงเติบโตไม่มากจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง แต่ซีพีเอ็นสามารถรักษาผลการดำเนินงานให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจศูนย์การค้า ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของซีพีเอ็น โดยหากไม่นับรวมรายการที่มิได้เกิดขึ้นประจำและรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทฯ มีรายได้รวมเติบโตกว่า 9% และกำไรสุทธิเติบโตกว่า 12% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่หากนับรวมผลการดำเนินงานจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทฯ มีรายได้รวม 9,413 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% และกำไรสุทธิ 2,816 ล้านบาท ลดลง 3.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการบริษัทฯ มีการโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวนที่น้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีแผนที่จะโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2562 ในขณะที่ภาพรวมการดำเนินงานยังคงเติบโตดีโดยเฉพาะรายได้จากศูนย์การค้าใหม่ และศูนย์การค้าเดิม ควบคู่กับการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน และค่าใช้จ่ายในการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอัตราการเช่าพื้นที่ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2562 อยู่ที่ 92% ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมายที่บริษัทฯ วางไว้

บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างรายได้จากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ การปรับปรุงศูนย์การค้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้วภายใต้แนวคิดการพัฒนา ‘Center of Life หรือ ศูนย์กลางการใช้ชีวิต’ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างสูงสุด รวมทั้งขยายฐานธุรกิจสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นตามแผนการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use Development) ที่ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า อาคารสำนักงานศูนย์ประชุม โรงแรม และโครงการที่พักอาศัย เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เข้าทำรายการกับทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) ในการให้สิทธิการเช่าสินทรัพย์ของบริษัทฯ ซึ่งประกอบไปด้วยศูนย์การค้า 4 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลมารินา เซ็นทรัลพลาซา ลำปาง เซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี และ เซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี รวมถึงขยายระยะเวลาสิทธิการเช่าโครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 ไปอีก 30 ปี โดยคาดว่าจะเข้าทำรายการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2563

สำหรับเหตุการณ์สำคัญในไตรมาส 3 ซีพีเอ็นได้เปิดให้บริการ เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกในประเทศไทย โดยหลังจากเปิดให้บริการได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามมีจำนวนทราฟฟิกเฉลี่ยกว่า 17,000 คนต่อวัน ซึ่งในเฟสแรกนั้นได้เปิดพื้นที่ให้เช่าประมาณ 20,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยร้านค้าแบรนด์ดังกว่า 130 ราน นอกจากนี้ ยังเปิดตัว “AQUARIA Phuket” พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ด้วยพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร และเปิดให้บริการ Common Ground Co-working Space แห่งแรกในประเทศไทย ที่อาคารสำนักงาน จี ทาวเวอร์ พระราม 9 ด้วยพื้นที่กว่า 4,500 ตารางเมตร ตอบโจทย์การใช้ชีวิตคนวัยทำงานรุ่นใหม่ ตรงใจกลางย่านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

ปัจจุบัน CPN บริหารจัดการศูนย์การค้า 34 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.8 ล้านตารางเมตร (อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ, ต่างจังหวัด 18 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ) ศูนย์อาหาร 30 แห่ง อาคารสำนักงาน 7 อาคาร โรงแรม 2 แห่ง ซึ่งนับรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ได้โอนไปยัง CPNREIT และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) แต่ยังอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทฯ

ทั้งนี้ ยังมีโครงการที่พักอาศัยอีก 10 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT VILLE และ ESCENT PARK VILLE จำนวน 8 โครงการ ตั้งอยู่ในบริเวณที่ดินซึ่งติดศูนย์การค้าของ CPN แบ่งเป็นโครงการที่สร้างเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์แล้วจำนวน 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ ESCENT เชียงใหม่ ขอนแก่น และ ระยอง และ ESCENT VILLE เชียงใหม่ และ เชียงราย โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 4 โครงการ ได้แก่ ESCENT PARK VILLE เชียงใหม่ ESCENT นครราชสีมา และ อุบลราชธานี รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ได้แก่ “ฟิล พหล 34” (PHYLL PAHOL 34)” นอกจากนี้ ยังมีโครงการบ้านเดี่ยวคือ “นิยาม บรมราชชนนี” ในกรุงเทพฯ และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนาบนทำเลศักยภาพสูงในกรุงเทพฯ อีกเช่นกัน

CPN ตั้งเป้าหมายทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (ปี 2562-2566) ที่จะมีรายได้เติบโตในอัตราเฉลี่ย (CAGR) ประมาณ 13% ต่อปี โดยบริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางการขยายธุรกิจในรูปแบบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use Development) ที่ขับเคลื่อนด้วยธุรกิจศูนย์การค้าเป็นหลัก นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงดำเนินการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อเพิ่มมูลค่า พัฒนาโครงการใหม่ที่สนับสนุนธุรกิจศูนย์การค้า อาทิ อาคารสำนักงาน โรงแรม และที่พักอาศัย รวมถึงศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจใหม่ในรูปแบบอื่น การเข้าซื้อกิจการ และการลงทุนในต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย และเวียดนาม เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกและเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

CPN แสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญสูงในหลากหลายด้านเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยล่าสุดได้ดึงบริษัทใหญ่ต่างชาติ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย หนึ่งในบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ที่มีพัฒนาเอาท์เล็ตที่มีสาขากว่า 9 แห่งทั่วญี่ปุ่น อาทิ โกเทมบะ ริงกุ ชิซุย ลงนามเซ็นสัญญาเข้าถือหุ้นในโครงการ ‘เซ็นทรัล วิลเลจ’ ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกของไทย ในสัดส่วน 70:30 โดย CPN ถือหุ้นใหญ่ ยกระดับลักชูรี่เอาต์เล็ตสู่ความสำเร็จขั้นต่อไป สร้างประสบการณ์เทียบชั้นเอาท์เล็ตระดับโลก ด้วยแนวคิด ‘World-Class Outlet with Thai-Japanese Hospitality’ และหวังผลักดัน ‘เซ็นทรัล วิลเลจ’ ขึ้นเป็นอันดับเบอร์หนึ่งลักชูรี่เอาท์เล็ตที่ดีที่สุดในอาเซียนสู่ความสำเร็จร่วมกัน ‘Two Nations, One Success’
CPN ยังได้รับการยกย่องและความเชื่อมั่นอย่างสูงจากกลุ่มนักลงทุนและนักวิเคราะห์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ในด้านการเป็นองค์กรแบบอย่างที่เติบโตอย่างยั่งยืน โดยล่าสุดได้รับรางวัล Thailand Sustainability Investment (THSI) 2019 Award and Sustainability Excellence: Best Sustainability Award ที่งาน SET Award 2019 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ วารสารการเงินธนาคาร เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562

นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPN (ขวา) และนางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง (ซ้าย) รับรางวัล THSI 2019 และ Sustainability Excellence: Best Sustainability ณ งาน SET Award 2019