AP WORLD ความท้าทายใหม่ของวงการอสังหาฯ

AP WORLD คือพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี จากเอพี ไทยแลนด์ ซึ่งจะสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศน์ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง และครอบคลุมทุกประสบการณ์การอยู่อาศัย ก้าวไปไกลกว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เริ่มต้นที่

  • PROJECT GROW มาสเตอร์แพลนแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน การออกแบบที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่มีสุขภาพกายและใจที่ดีจากภายในสู่ภายนอก ไปจนถึงการพัฒนาพื้นที่สีเขียว การรักษาสิ่งแวดล้อม และการเอื้อประโยชน์สู่สังคมรอบข้างในรูปแบบยั่งยืน
  • PROJECT JOY นำเสนอนวัตกรรมความอุ่นใจ ที่เราให้ความสำคัญในทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณได้มีอิสระและความสบายใจ พร้อมใช้เวลาแห่งความสุขในสิ่งที่คุณรัก ร่วมกับคนสำคัญของคุณ
  • PROJECT FLOW แพลทฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตเมือง พร้อมพาร์ทเนอร์รอบข้างที่พร้อมเติมเต็ม และดูแลรอบด้านผ่านบริการจากมืออาชีพ ให้คุณมั่นใจและวางใจ และพร้อมจะแบ่งปันไปยังสัมคมรอบข้าง
    โดยเริ่มถ่ายทอดพันธกิจแรกกับการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยโดยเก็บต้นไม้ใหญ่ไว้เป็นหัวใจของชุมชนที่โครงการ Rhythm Ekamai Estate โดยร่วมมือกับรุกขกรผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาต้นไม้ใหญ่ในงานภูมิทัศน์เมืองอย่าง ครู ต้อ-ธราดล ทันด่วนเพื่อให้โครงการย้ายต้นไม้ในครั้งนี้สำเร็จ และสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนได้มากที่สุด

หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามกับการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ว่าเป็นการพัฒนาที่สร้างสรรค์หรือทำลาย เพราะ สิ่งหนึ่งที่ต้องแลกกับการขยายตัวของเมืองในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา คือปริมาณต้นไม้ใหญ่ในเมืองที่ลดน้อยลงทุกวัน โดยมีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเบื้องหลังการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัย และการที่จะเก็บต้นไม้ใหญ่เอาไว้ต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง?

ถึงแม้ว่าเรื่องพื้นที่สีเขียวกับการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ แต่สิ่งที่ท้าทาย สำหรับ เอพี ไทยแลนด์ ในการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยในโครงการ RHYTHM EKAMAI ESTATE เอกมัยซอย 1 คือ การทำให้ชุมชนและประชาชนเห็นถึงความยั่งยืนในการอนุรักษ์ต้นจามจุรีเก่าแก่อายุราว 50 ปี ทั้ง 3 ต้นที่เปรียบเสมือนเป็นปอดฟอกอากาศ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีคุณค่ากับคนในชุมชนเอกมัย

อสังหาฯ ไปที่ไหน ต้นไม้หายที่นั่น?

คนทั่วไปอาจมองว่าการเก็บต้นไม้ใหญ่ไว้สักต้นเป็นเรื่องง่ายๆ แค่ปล่อยให้ต้นไม้เติบโตไปตามธรรมชาติก็เพียงพอแล้ว แต่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ที่ดินมีมูลค่าสูงนั้นนับเป็นเรื่องท้าทายมากที่ต้องออกแบบอาคารสักหลังบนพื้นที่ที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง เพราะหัวใจของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือการใช้ทุกตารางเมตรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด

คุณสรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง ผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์แบรนด์องค์กร ของบริษัท เอพี ไทยแลนด์ เล่าว่า “พวกเราสำรวจพบว่าที่ดินของเราในซอยเอกมัย 1 มีต้นไม้ใหญ่อยู่ 3 ต้นด้านในพื้นที่ ซึ่งมีอายุประมาณ 40- 50 ปี ถือได้ว่าเป็นต้นจามจุรีเก่าแก่ของกรุงเทพฯ เราไม่ลังเลเลยที่จะเก็บทั้ง 3 ต้นไว้ตั้งแต่แรก เพราะเราเชื่อว่าต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ เหมือนคนๆ หนึ่งที่มีความสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งกับคนในชุมชนไปแล้ว ต้นไม้ทั้ง 3 ต้นนี้ไม่ได้มีประโยชน์แค่เรื่องร่มเงาหรือความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตและเป็นตัวแทนของความผูกพันให้กับผู้คนในเอกมัยได้เป็นอย่างดี

อสังหาฯ คิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตัว หรือประโยชน์ส่วนรวม?

คุณศุภฤกษ์ สว่างอำไพ ผู้จัดการโครงการจากเอพี ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นผู้ที่รับหน้าที่ในการดูแลการย้าย ต้นไม้ในโครงการนี้เล่าถึงกระบวนการทำงานว่า “คำถามที่คนมักจะพบอยู่บ่อยๆ เมื่อมีการก่อสร้างที่ส่งผลกระทบกับต้นไม้คือ ทำไมถึงไม่สร้างตึกล้อมต้นไม้ไปเลย? ปัญหาหนึ่งที่คนทั่วไปไม่เคยรู้คือตำแหน่งที่ตั้งของต้นไม้มีผลโดยตรงกับราคาของที่พักอาศัย การเก็บต้นไม้ใหญ่สักต้นไว้ตรงกลางที่ดินในย่านใจกลางกรุงเทพฯ จะทำให้ราคาของที่พักอาศัยสูงขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาที่พักอาศัยอยู่ในอนาคต คงปฏิเสธไม่ได้ว่าราคามีผลต่อการตัดสินใจแน่นอน เมื่อราคาพื้นที่อยู่อาศัยสูงขึ้นหลายเท่าตัว ลูกหลานของคนในย่านเอกมัยที่อยากจะอาศัยในชุมชนเดิมก็อาจจะซื้อไม่ได้เช่นกัน”การจะย้ายต้นไม้ใหญ่ถึง 3 ต้นในชุมชนในกลางกรุงเทพฯ ในครั้งนี้มี ครูต้อ-ธราดล ทันด่วน รุกขกรผู้เชี่ยวชาญในการย้ายต้นไม้เข้ามาเป็นที่ปรึกษา เพื่อให้ต้นไม้ทุกต้นอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้อย่างที่ตั้งใจ เพราะการจะทำให้ทุกคนเห็นถึงเจตนาที่ดีได้ไม่ใช่แค่คำพูดเท่านั้น แต่ควรพิสูจน์ด้วยการลงมือทำอย่างถูกต้องทุกกระบวนการด้วยเช่นกัน ซึ่งหลายครั้งในกระบวนการนี้แม้จะทำโดยรุกขกรผู้เชี่ยวชาญ เขาก็ถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายที่กำลังทำลายต้นไม้เช่นเดียวกัน

“คนทั่วไปมักจะไม่เข้าใจว่าเราตัดแต่งเพื่อให้มันเติบโต ไม่ได้ตัดเพื่อทำลาย อย่างในโครงการนี้พอเราเริ่มตัดเราจะได้รับสายตาที่เป็นปรปักษ์เสมอ คนในชุมชนเขามองด้วยความแค้นว่าเรากำลังจะตัดต้นไม้ของเขา แต่พอเขาเห็นเราดูแลต้นไม้อย่างดี พยายามทำงานอย่างเพื่อจะรักษาชีวิตต้นไม้เอาไว้ ปฏิกิริยาของคนที่อยู่โดยรอบก็เปลี่ยนแปลงไป เขาเอาใจช่วยให้เราทำสำเร็จ เพราะเขาเห็นแล้วว่างานที่เราทำอยู่ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมเชื่อว่าความตั้งใจจริงที่อยู่ในเบื้องหลังงานที่เราทำจะเป็นข้อพิสูจน์ให้คนยอมรับเราได้ในระยะยาว”

ทำดีแค่เอาหน้า หรือ ทำจริงให้ยั่งยืน

ที่ผ่านมา คำว่า “สิ่งแวดล้อม” หรือ “ความยั่งยืน” มักจะถูกมองว่าเป็นโฆษณาที่ใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กร ไม่เคยคิดจะทำอย่างจริงจังหรือสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง เอพีจึงกลับไปทำความเข้าใจปัญหา ฟังเสียงเมือง เสียงประชาชน และหาทางออกที่ดีที่สุดในการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยในอนาคต ซึ่งนอกจากจะต้องตอบโจทย์เรื่องคุณภาพชีวิตแล้ว ผู้อยู่อาศัยและชุมชนรอบข้างจะต้องมีอนาคตที่ดีไปพร้อมๆ กับที่ที่เอพีสร้างขึ้นด้วยเช่นกัน เราเชื่อว่าการตระหนักและเห็นความสำคัญกับเรื่องพื้นที่สีเขียวในวันนี้จะนำไปสู่ความยี่งยืนในอนาคตได้

นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างในจุดเริ่มต้นของ PROJECT GROW ที่ทางเอพีมุ่งมั่นในการทำ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกบ้าน และสังคมไทย และยังมีแผนสานต่อพันธกิจโดยได้จับมือกับพันธมิตร Big Trees และเครือข่ายต้นไม้ในเมืองจัดงาน AP GROW DAY เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องต้นไม้ใหญ่ในเมือง พร้อมกับคลินิคหมอต้นไม้ กิจกรรมปีนต้นไม้ ที่สวนจตุจักร ในวันที่ 31 มีนาคม 2562 นี้ ติดตามได้ที่ apthai.com