แสนสิริเปิดพอร์ต กำ Cash Flow ในมือ 10,000 ล้านบาท ดันสภาพคล่องสูง ปูพรมความแข็งแกร่งด้านการเงินระยะยาว เตรียมเงินทุนอีก 2,500 ลบ. ลั่นไกเมื่อตลาดพร้อม พร้อมยืนหยัดความเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อมั่น ดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด และพร้อมช่วยเหลือสังคม เพื่อก้าวผ่านทุกสถานการณ์ไปด้วยกัน

แสนสิริเผยเบื้องหลังฝ่าวิกฤตโควิด-19 สู่การเป็นองค์กรที่มีสภาพคล่องสูง กำ Cash Flow เงินหมุนเวียนในบริษัทถึง 10,000 ล้านบาท

  • พร้อมปูพรมสร้างความแข็งแกร่งด้านการเงินระยะยาว เตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต
  • ด้วยการออก Perpetual Bond 2,500 ล้านบาท เตรียมลั่นไกเมื่อตลาดพร้อม พร้อม Warrant ที่มีสิทธิการ Exercise ภายใน 5 ปี
  • เตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้น 24 กรกฎาคม 2563 เผยมีกลุ่มทุนฮ่องกงให้ความสนใจใน Perpetual Bond แล้ว
  • เผยมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องที่ดี จากความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ระยะยาวในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เล็งเห็นศักยภาพในการรักษาการเติบโตได้ จึงมีการพิจารณาแผนความแข็งแกร่งด้านการเงินในระยะยาว เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแสนสิริในการเป็นองค์กรที่มีความแข็งแกร่งภายใต้ทุกสภาวการณ์
  • ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาสแรก 63 มีรายได้รวม 6,623 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายเติบโตขึ้น 10% จากปีก่อน อยู่ที่ 5,383 ล้านบาท และทำผลงานการโอนได้ดีทั้งแนวราบและแนวสูงในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน คือ 59 : 41 % เผยรับรู้กำไรจากการลงทุนอีกกว่า 703 ล้านบาท จากการเพิ่มมูลค่าของ JustCo ที่แสนสิริเข้าไปลงทุนถือหุ้น โดยจะบันทึกในกำไรสะสม ตามมาตรฐานบัญชีใหม่
  • ขณะที่ยอดขายล่าสุดอยู่ที่ 21,000 ล้านบาท ความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่งนำหน้าคู่แข่งในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี นอกจากนี้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ยังทำให้แสนสิริต้องเร่งการขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ให้เร็วกว่าแผนเดิม เพื่อแข่งขันกับสภาพตลาด (Speed to Market) ส่งผลให้มียอดขายและยอดโอนที่ดี สวนกระแสตลาดหดตัว

เผยปัจจัยสำคัญรองรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ได้แก่ ขยายฐานตลาดที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุมทุกระดับราคา สานต่อการสร้างแบรนด์แสนสิริ
จากการเป็นแบรนด์อันหนึ่งของคนอยากมีบ้าน การมีปริมาณยอดขาย (Pre-Sale backlog) สูงสุดในระบบถึง 46,900 ล้านบาท และการขยายฐานทุนให้มีความเข้มแข็ง และสิ่งที่สำคัญ คือ การยืนหยัดความเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อมั่น ดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด