Book09-รูปเปิด

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาสปอยส่วนหนึ่งของบทความในหนังสือเล่มใหม่ เล็ก.อยู่.ได้ เป็นออเดิฟเรียกน้ำย่อยก่อนจะได้อ่านบทความเต็มๆ กันในหนังสือเล่มใหม่ที่จะแจกในงาน Living EXPO 2016 วันที่ 25 -28 สิงหาคมนี้นะคะ

สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านหรือมีบ้านแล้วทั้งของใหม่และมือสอง แต่ยังไม่รู้เริ่มแต่งบ้านยังไงดี เพราะถูกจำกัดด้วยงบประมาณและขนาดห้อง หรือว่าคิดไม่ออกเลยว่าจะเริ่มยังไง มีปัญหาในการซื้อเฟอร์นิเจอร์มาวางเองก็ดูเหมือนจะวางไม่พอ เรามีข้อแนะนำดีๆในการวางแผนการตกแต่งบ้านค่ะ

บ้านที่ทำออกมาขายในปัจจุบันมีแนวโน้มที่ขนาดจะเล็กลงเรื่อยๆ การปรับขนาดนี้มีสาเหตุมาจากที่ดินหายากขึ้นและมีราคาที่แพงขึ้น ทำให้บ้านที่ทำออกมาขายโดยเฉพาะในทำเลใจกลางเมืองต้องปรับผลิตภัณฑ์ที่จะทำออกมาขายใหม่ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้ขายในราคาที่ลูกค้าพอจับต้องได้ คนที่อยากได้บ้านทำเลดีหน่อยก็ต้องยอมที่จะได้บ้านที่มีขนาดเล็กลง เมื่อบ้านเล็กลงพฤติกรรมของคนที่อยู่ในบ้านก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย เราไม่สามารถใช้ชีวิตในบ้านกว้างๆได้เหมือนแต่ก่อน จึงต้องใช้พื้นที่ใช้สอยที่มีอยู่อย่างจำกัดให้คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการให้ได้มากที่สุด ทำให้ผู้เขียนนึกถึงบ้านของชาวฮ่องกงและญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กมากๆ แต่การจัดพื้นที่ใช้สอยในบ้านของเค้านั้น จัดได้คุ้มค่าอย่างน่าทึ่ง มีการซ่อน เก็บ พับ และ ปรับห้องตามความความต้องการที่จะใช้สอย และเมื่อไม่ใช้ก็พับเก็บ ทำให้บ้านดูดี เรียบร้อย น่าอยู่ นั่นแสดงให้เห็นว่ามี “การวางแผน” และ “การออกแบบ” เป็นสิ่งที่สำคัญในบ้านที่มีขนาดเล็ก

Book09_2003

เมื่อเราซื้อบ้านมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ “การตกแต่ง” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายแค่ไปเดินเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มาวางก็จบแล้ว แต่การแต่งบ้านให้ออกมาดูดี อยู่สบายและใช้พื้นที่ได้คุ้มค่านั้น ต้องผ่านการคิดและการออกแบบมาพอสมควร โดยเฉพาะการแต่งบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่มีขนาดเล็ก (ขอเรียกรวมๆว่าเป็นบ้านเล็กนะคะ) เนื่องจากบ้านเล็กนั้นมีพื้นที่จำกัด ในขณะที่ความต้องการของเราไม่ได้จำกัดตาม จึงเกิดปัญหาอยากจะใส่นู่นใส่นี่ แต่ไม่มีพื้นที่จะวาง ทำอย่างไรจึงจัดพื้นที่ให้ลงตัวมากที่สุด จากประสบการณ์การออกแบบภายใน หากมือใหม่หัดแต่งบ้านไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ให้ลองทำขั้นตอนในการแต่งบ้านที่สรุปได้เป็นหัวข้อง่ายๆตามนี้ดูค่ะ

กำหนดความต้องการ (REQUIREMENT)

การกำหนดความต้องการ คือ การที่เราคิดว่าอยากจะได้อะไรในบ้านหลังนี้บ้าง เช่น อยากได้ห้องอะไร มีฟังก์ชั่นการใช้งานอะไรบ้าง แต่ละห้องใช้เฟอร์นิเจอร์กี่ตัว ตกแต่งสไตล์ไหน เป็นต้น ความสำคัญของการคิดและวางแผนเอาไว้ก่อนว่าเราจะแต่งบ้านอย่างไร คือการป้องกันการ “ออกทะเล” ของผู้ตกแต่งบ้านมือใหม่ เช่น พอไปเดินเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านเกิดรู้สึกชอบก็เลยซื้อมา แต่พอเอามาวางในห้องแล้วมันไม่เข้าชุดกัน หรือไม่ได้วัดขนาดมาทำให้วางไม่พอดีกับพื้นที่ รวมถึงการซื้อของโดยไม่คำนึงถึงงบประมาณ ซึ่งรวมๆแล้วทำให้การแต่งบ้านของเรา ออกมาไม่ถูกใจผู้อยู่และทำให้งบประมาณ “บานปลาย” อย่างใช่เหตุ

Book09003

ปัญหาของบ้านเล็กคือพื้นที่จำกัด

การกำหนดความต้องการนั้น เราสามารถใช้เป็นข้อมูลในการคุยกับสถาปนิก หรือ มัณฑนากรในกรณีที่จะจ้างผู้ออกแบบได้ด้วย หรือถ้าไม่จ้างก็เก็บเอาไว้ทำเป็น Check List เวลาเราแต่งบ้าน โดยสามารถทำได้ทั้งเขียนหรือร่างง่ายๆในกระดาษ หรือ ทำเป็น Presentation สวยงาม

Book09_2004

อยากได้อะไรให้เขียนสรุปความต้องการลงในกระดาษ

Book09004

หรือร่างไอเดียคร่าวๆหารูปจากในเน็ตเอามาทำเป็น Presentation ไว้ใช้คุยกับสถาปนิกหรือเก็บเป็น Check List ในการแต่งบ้าน

Book09005

วางแนวความคิด (IDEA CONCEPT)

เมื่อเรารู้ความต้องการเบื้องต้นของเราแล้วว่าอยากได้อะไรในบ้านบ้าง ก็เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการออกแบบ ในการออกแบบให้ออกมาสวยงามนั้น ขั้นแรกจะต้องมีการทำ IDEA CONCEPT หรือ การวางแนวความคิด ซึ่งจะช่วยเป็นตัวควบคุมให้เราแต่งบ้านออกมาในทิศทางเดียวกัน และสอดคล้องกัน โดยการวางแนวความคิด จะต้องคำนึงถึง แนวความคิดในการออกแบบ , สไตล์ , การใช้สีและบรรยากาศ , การใช้วัสดุ และ การเลือกเฟอร์นิเจอร์  

Book09006

Concept คืออะไร ??

ในการออกแบบนั้นจะต้องมี Concept ซึ่ง Concept หลายครั้งก็มีความหมายที่ค่อนข้างเป็นนามธรรม สรุปง่ายๆว่ามันคือ การตั้งโจทย์ให้ผู้ออกแบบทำตามนั้นเอง โดยมันจะมีความสำคัญตรงที่ทำให้งานออกแบบของเรามี “เอกลักษณ์”

ขอยกตัวอย่างง่ายๆเช่น ถ้าเรากำหนด Concept ว่า อยากทำบ้านเล็กๆของเราให้เหมือนรีสอร์ท เราก็ไปคิดต่อว่าจะเอาลูกเล่นอะไรมาใส่ให้ห้องของเราได้อารมณ์รีสอร์ทดี เช่น ใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติในการตกแต่ง , ออกแบบมีช่องแสงหรือหน้าต่างที่เปิดกว้างรับวิว เป็นต้น  การวาง Concept สามารถคิดได้ตั้งแต่การวางผังห้องไปจนถึงการเลือกของตกแต่ง

เมื่อเราคิด Concept ขึ้นมาได้แล้ว การทำให้มันออกมาเห็นภาพ สามารถใช้สื่อสารกับผู้อื่นได้ อาจจะทำในสิ่งที่เรียกว่า Material Board หรือ Mood&Tone Board

Book09007

Material Board  คือการรวบรวมตัวอย่างวัสดุที่เราจะใช้ในห้องมาติดรวมกันในกระดานเอาไว้ใช้เป็นไอเดียในการตกแต่ง หรือคุยกับผู้รับเหมา

Book09_2001ขอบคุณภาพประกอบจาก : www.pinterest.com

Mood Board – คือการหาภาพ หรือ บรรยากาศที่เราต้องการในแต่ละ Zone มาติดรวมกัน ช่วยให้ไม่หลุด Theme ในการออกแบบ

Book09009

การออกแบบ

หลังจากที่เรารู้ว่าอยากจะได้อะไรให้บ้านบ้าง และอยากตกแต่งบ้านให้ออกมาในรูปแบบไหน ขั้นตอนต่อมาคือการออกแบบ ซึ่งก็คือการนำความต้องการ กับ แนวความคิดของเรามารวมร่างกลายเป็นบ้านในฝันของเรานี่เอง ต้องการออกแบบสามารถทำได้โดย

Book09011ขอบคุณภาพประกอบจาก : www.pinterest.com

  • จ้างสถาปนิก ผู้ออกแบบภายใน หรือ มัณฑนากร วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายแต่เราก็มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าบ้านของเราจะสวยได้ดั่งใจฝัน เพราะทางสถาปนิกจะมีประสบการณ์ว่าจะต้องทำอย่างไร บ้านเราจะออกมาดูดี และจะมีการทำภาพจำลองบรรยากาศ หรือ ภาพ 3D ซึ่งศัพท์เฉพาะของสถาปนิกเรียกมันว่า “ตีบ” หรือ “Tive” ซึ่งเป็นคำย่อมาจาก Perspective แปลว่าภาพจำลองทัศนียภาพให้เราเห็นภาพก่อน นอกจากนั้นยังมีการเขียนแบบก่อสร้างและคุยกับผู้รับเหมาซึ่งจะลดความผิดพลาดในการก่อสร้างได้ ข้อแนะนำคือให้หาสถาปนิกที่มีประสบการณ์ การจ้างสถาปนิกเหมาะกับบ้านที่ต้องการงานออกแบบที่ค่อนข้างพิเศษ ถ้ามีงบประมาณที่จำกัดและไม่อยากตกแต่งอะไรมากมาย การตกแต่งบ้านด้วยตัวเองถึงแม้ว่าจะเสียเวลาสักหน่อยแต่ก็จะประหยัดกว่าค่ะ

Book09014

  • ออกแบบเอง วิธีนี้ค่อนข้างประหยัด แต่ท่านเจ้าของบ้านต้องอาศัยการทำการบ้าน และ เก็บข้อมูลมากพอสมควร โดยการทำวิธีที่แนะนำไปคือ การกำหนดความต้องการ และ การวางแนวความคิด ซึ่งถ้าอยากเห็นภาพห้องก็อาจจะเอามาวาดๆให้ออกเป็นภาพ Sketch หรือไปจ้างวานทำภาพ 3D เพื่อพอให้เห็นภาพคร่าวๆ วิธีนี้เหมาะกับบ้านที่มีขนาดเล็กที่เราไม่ต้องตกแต่งอะไรมากนัก  ข้อแนะนำคือถ้าคิดไม่ออกว่าจะแต่งอย่างไรให้ไปเดินตามบ้านตัวอย่าง ร้านเฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่มีจัดเป็นมุมห้องต่างๆให้เราดูค่ะ 

  • ให้ทางบริษัทเฟอร์นิเจอร์ออกแบบ ปัจจุบันมีร้านเฟอร์นิเจอร์ที่รับออกแบบวางผัง วางเฟอร์นิเจอร์ และทำออกมาเป็นแบบ 3D ให้ เราได้เห็นกันก่อนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการออกแบบ แต่มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่นจะต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ของเค้าเท่านั้นเป็นต้น

นี่เป็นเพียงออเดิฟเรียกน้ำย่อยเล็กๆน้อยๆเป็นส่วนนึงจากบทความในหนังสือตอน เริ่มตกแต่งบ้านทำอย่างไร (ยังไม่ใช่เวอร์ชั่นเต็มนะคะ) สามารถอ่านบทความพร้อมบทสรุปได้ในหนังสือ เล็ก.อยู่.ได้ ที่จะมาแจกให้ท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกคนฟรีๆ ในงาน Living EXPO 2016 วันที่ 25 -28 สิงหาคมนี้ ที่ชั้น 1 สยามพารากอน แล้วมาพบกันให้ได้นะคะ

  • สำหรับใครที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรับหนังสือ เล็ก.อยู่.ได้ กันแบบฟรีๆ สามารถ คลิกที่นี่