สวัสดีค่ะ ..ช่วงหลังๆมานี้เราเริ่มเห็น Product บ้านใจกลางเมืองมากขึ้น เนื่องจากที่ดินเริ่มหายากและราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ Segment ของบ้านจะเป็น Super Luxury ซะเป็นส่วนใหญ่ วันนี้เรามีบทความพิเศษ “เจาะลึกการออกแบบ SAKAYA 146″ จาก Sakaya Development มาให้ชมกัน โครงการนี้จัดเป็นโครงการบ้านพักอาศัยประเภทบ้านเดี่ยว 5 ชั้น ในระดับ Super Luxury ย่านเอกมัยในซอยเอกมัย 10 แยก 6 ราคาขายเริ่มต้นที่ 49.9 ล้านบาท โครงการนี้มีแรงบันดาลใจมาจากการตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ของสังคมเมือง แต่ยังต้องการความส่วนตัวในการพักอาศัยที่ไม่ถูกจำกัดไว้บนตึกสูงอย่างคอนโดหรือ Penthouse และต้องการมีพื้นที่ส่วนตัวให้สามารถสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด ตัวโครงการมีความน่าสนใจทั้งรูปลักษ์หน้าตาและการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในที่แตกต่างจากบ้านเดี่ยวทั่วๆไป ด้วยแนวคิด ‘Humancentric’ design คือการออกแบบที่ไม่ได้เน้นแค่ความสวยงามแต่ยังต้องตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี ให้ความรู้สึกที่อยู่สบายและสอดคล้องไปกับวิถีชีวิตคนเมือง
SAKAYA 146 นับเป็นโครงการแรกของบริษัท ศักยะ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยคุณดิว-ศิวะศิษฐ์ เลาหพงศ์ชนะ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บริหารที่ บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท อินดัสเทรียล คลีนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท รียูซิท์ (ประเทศไทย) จำกัด และคุณบอน-ณริช พารานุลักษา ที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบที่ บริษัท P49 Design and Associates จำกัด, บริษัท ปาล์มเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, Cannon Design Co., Ltd. (สหรัฐอเมริกา) ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นสถาปนิก, มัณฑนากรและอาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทางบริษัทศักยะ ดีเวลลอปเมนท์ มีจุดมุ่งหมายที่ว่า อยากจะสร้างโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูบนทำเลที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ รายละเอียของโครงการ SAKAYA 146 จะเป็นอย่างไร เรามาเจาะลึกกันไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
แผนที่จากโครงการ พิกัด : 13.725428, 100.592046
โครงการ SAKAYA 146 จัดเป็นโครงการที่อยู่กลางเมืองย่านเอกมัย ซึ่งเป็นย่านสำคัญแห่งหนึ่งในโซนสุขุมวิท เป็นทั้งแหล่งอาคารสำนักงานและแหล่งสถานที่ Hang Out ทั้งกลางวันและกลางคืน ทำเลนี้จึเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ในย่านเอกมัย – ทองหล่อ การเดินทางมีให้เลือกหลากหลายทั้งใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า ที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยเอกมัย 10 แยก 6 เข้าซอยย่อยไปประมาณ 450 ม. ซึ่งบรรยากาศในซอยย่อยนี้จะค่อนข้างเงียบสงบเป็นกลุ่มบ้านอยู่อาศัยแบบบ้านเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ แตกต่างกับความคึกคักบนถนนเอกมัยอย่างสิ้นเชิง ทำให้ทำเลของโครงการนี้จัดเป็นบ้านเดี่ยวบนทำเลใจกลางเมืองที่แวดล้อมด้วยสถานที่ที่เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
จากทำเลของโครงการสามารถเดินทางมายังโครงการได้หลายเส้นทาง เพราะซอยเอกมัย 10 เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับซอยเอกมัย 12 ที่ใช้ไปทะลุถนนปรีดี พนมยงค์ 31 ได้หรือจะออกมาทางถนนเอกมัยเพื่อไปยังถนนเพชรบุรี สุขุมวิท ก็สะดวก นอกจากนี้ซอยเอกมัย 10 แยก 6 ยังเป็นทางลัดที่ใช้วิ่งลัดๆลงมาออกถนนสุขุมวิทที่ซอย 65 และเป็นซอยเชื่อมต่อซอยปรีดี พนมยงค์ 25 ที่สามารถวิ่งทะลุไปถนนปรีดี พนมยงค์(สุขุมวิท 71) ได้อีกด้วย สำหรับใครที่ใช้ทางด่วนจะมีทางด่วนรามอินทราช่วงสุดถนนเอกมัย และทางด่วนอาจณรงค์ที่ต้องวิ่งทะลุซอยสุขุมวิท 40 ไปออกฝั่งกล้วยน้ำไทค่ะ
โครงการอยู่ในระยะที่ไม่ได้ใกล้ BTS คือมีระยะ 2 กิโลเมตรจาก BTS เอกมัย เป็นตัวเลือกในการเดินทางได้ และจากสถานีเอกมัยถ้านั่งรถไปอีก 2 สถานี ก็จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ซึ่งมีห้าง Emporium , Emquartier และในอนาคตก็จะมี Emsphere อยู่ฝั่งเดียวกับ Emporium ติดกับสวนเบญจสิริอีก ถัดจากสถานี พร้อมพงษ์ก็จะเป็นสถานี อโศก ซึ่งเป็นจุดเชื่อมกับ MRT สถานีนี้จะมีห้างใหญ่อย่าง Terminal 21 อยู่ด้วย ถัดจากอโศกข้าม นานา เพลินจิตไปก็จะเข้าสู่ชิดลม และสยาม ตามลำดับ ซึ่งความสะดวกจะอยู่ตรงที่การเดินทางเข้าเมืองอย่างสีสม-สาทร เพลินจิต-สยาม สามารถนั่ง BTS ไปได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีให้เสียเวลา
ไปดูซอยลัดในย่านเอกมัยกันหน่อย มี ซอยทองหล่อ 10 (เอกมัย 5) เชื่อมจากทองหล่อมาเอกมัยตรงร้านนั่งเล่น-เอสโคบาร์ พอดี แล้วเชื่อมต่อไปยัง ซอยเอกมัย 12 ที่ไปทะลุถนนปรีดี พนมยงค์ที่ซอย 31 ได้ อีกทางลัดที่จะเลี่ยงรถติดตรงปากซอยเอกมัยได้ คือซอยเอกมัย 10 (ซอย Health Land) วิ่งลัดๆลงมาออกถนนสุขุมวิทที่ซอย 65 และยังสามารถลัดไปออกถนนปรีดี พนมยงค์ 25 ได้
ต้องยอมรับจริงๆว่า ถนนตรงนี้ปริมาณรถเยอะ ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่มีสูตรตายตัวว่าต้องไปเส้นไหน ทางลัดตรงไหนรถจะไม่ติด แต่ทางที่ดีที่สุดคือต้องรู้จักให้ครบทุกทางแล้วช่างสังเกตเอาหน่อย เพื่อดูว่าช่วงเวลานี้ทางไหนจะติดน้อยติดมากค่ะ
ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ที่ตั้งโครงการจัดอยู่ใจกลางเมืองที่มีความเจริญมานานแล้วและหาของกินง่ายมาก ในซอยเอกมัยมีร้านอาหารอร่อยและชื่อดังอยู่หลายร้านที่เปิดกลางวันและกลางคืน บอกเลยว่าถึงจะหิวตอนดึกๆก็ไม่ต้องกลัวอดนะคะ ไล่ตั้งแต่หน้าปากซอยทาง BTS ก็จะมี Major เอกมัย ภายในมีร้านอาหารหลายร้านและบรรยากาศน่านั่งให้เลือกมากมาย ถัดเข้ามาในซอยมี Park Lane และแหล่ง Hang Out อย่างเวิ้งโบราณ หรือจะไปยังทองหล่อก็มี J Avenue, The Third Place, The Taste Thonglor เป็นต้น ถ้าต้องการช้อปปิ้งตามศูนย์การค้าใหญ่แบบจริงจังก็สามารถเดินทางไปห้างสรรพสินค้าสำคัญๆ ตามแนวถนนสุขุมวิท เช่น EmQuartier , Emporium , Terminal 21 และในพื้นที่ใกล้เคียงกับโครงการก็มีโรงเรียนอินเตอร์อย่าง Ekamai International School ที่ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 12 ส่วนโรงพยาบาลก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช ที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 49, โรงพยาบาลกรุงเทพ ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรี เรียกว่าก็มีให้เลือกได้ตามความต้องการ
เรื่องของทำเลโครงการนี้เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่ทางโครงการมองเห็นศักยภาพของพื้นที่ โดยมองว่ากลุ่มผู้ซื้อที่สามารถเลือกที่อยู่อาศัยโดยไม่มีข้อจำกัดทางการเงินนั้น จะเปลี่ยนทำเลการเลือกที่อยู่อาศัย จากการซื้อบ้านหลังใหญ่นอกเมืองจะหันกลับมาซื้อบ้านในตัวเมืองแทนเพราะบริบทของการอยู่อาศัยที่จำเป็น ทั้งการทำงานที่อยู่ใจกลางเมือง สถานศึกษาของลูกหลาน แหล่งของกินของใช้ ห้างร้านต่างๆ ที่คงปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงกระจุกรวมตัวกันในเมืองเสียส่วนใหญ่ การหลีกเลี่ยงอุปสรรคเรื่องการเดินทางจึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลถึงการเลือกบ้านของกลุ่มคนเหล่านี้ในปัจจุบัน
การเดินทางไปยังโครงการ SAKAYA 146 สามารถเข้าได้จากหลายเส้นทางทั้งทางถนนเอกมัย, ถนนปรีดี พนมยงค์ และถนนสุขุมวิท สำหรับวันนี้จะพาไปชมเส้นทางหลักที่เชื่อมกับแหล่งความอุดมสมบูรณ์บนถนนเอกมัย โดยเข้าทางเอกมัยซอย 10 เป็นซอยที่อยู่ระหว่าง Health Land และเวิ้งโบราณ เข้าซอยมาประมาณ 550 ม. แล้วเลี้ยวขวาเข้าแยก 6 ไปอีก 455 ม. ตัวโครงการจะอยู่เกือบสุดซอย โดยแปลงที่ดินภายในซอยส่วนมากจะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล ทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบเหมาะสำหรับการพักอาศัย
เริ่มเส้นทางเพื่อไปยังโครงการจากหน้าปากซอยเอกมัย 10 จุดสังเกตคือปากซอยจะมี Health Land สาขาเอกมัยอยู่ด้านหน้า ระยะทางจากปากซอยเอกมัย 10 ไปจนถึง โครงการ SAKAYA 146 ที่ซอยเอกมัย 10 แยก 6 อยู่ที่ประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ
เข้ามาในซอยจะเป็นถนน 2 เลนไปกลับ ไม่มีฟุตบาท ซอยนี้เป็นเส้นทางลัดไปออกถนนสุขุมวิท 65 และถนนปรีดี พนมยงค์ 25, 31 ได้ ทำให้เวลาเร่งด่วนจะมีรถใช้งานเส้นนี้มากทีเดียว ช่วงต้นซอยจะค่อนข้างคึกคักเพราะฝั่งซ้ายเป็นเวิ้งโบราณ ที่เป็นแหล่งรวมร้าน Hang Out ของย่าน มีร้านค้า รวมไปถึงคาเฟ่ และร้านอาหารให้เลือกมากมาย มีร้านดังอย่าง ร้านบ้านเพื่อน ส่วนฝั่งขวาเป็น Health Land เอกมัย
เข้ามาด้านในซอยบรรยากาศจะเงียบสงบขึ้น ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยแนวสูงสลับแนวราบ มีทั้งอพาร์ทเมนต์, คอนโด, บ้านเดี่ยว สลับกันไปในซอยนี้ อย่างฝั่งขวาจะผ่าน Royal Kensington Mansion
ถัดเข้ามาด้านในซอย นอกจากที่อยู่อาศัยแล้วก็จะมีร้านอาหาร ฝั่งซ้ายจะผ่านร้านชะ ชะ อัน เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ซอยนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านอยู่อาศัยที่มีที่ดินขนาดใหญ่ แต่ละแปลงจึงมักจะปลูกต้นไม้ใหญ่ทำให้บรรยากาศโดยรวมของซอยได้ร่มเงาจากต้นไม้เหล่านี้ไปด้วย
เข้ามาในซอยอีกหน่อยจะผ่าน La Cascade Condominium เป็นคอนโดสูง 30 ชั้น บรรยากาศหน้าคอนโดก็จะมีร้านค้า แผงลอย และวินมอเตอร์ไซค์อยู่ฝั่งตรงข้าม
ถัดเข้ามาอีกหน่อยฝั่งซ้ายจะผ่าน Ten Ekamai Suites เป็น Service Apartment ส่วนฝั่งขวาจะผ่าน โครัน สปา ที่ให้บริการทั้งนวดสปา นวดแผนไทย นวดเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
ตรงเข้าไปในซอยอีกหน่อย ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยเอกมัย 10 แยก 6 ซึ่งซอยนี้เป็นทางลัดไปออกสุขุมวิท 65 ได้นะคะ
เลี้ยวเข้าซอยเอกมัย 10 แยก 6 มาแล้ว ถนนภายในซอยยังเป็นถนน 2 เลนไปกลับ แต่ความกว้างของถนนจะแคบลงหน่อย ฝั่งขวาจะผ่านศูนย์วัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ทำหน้าที่เผยแพร่วัฒนธรรมอิหร่านและส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีด้านวัฒนธรรมระหว่างประเทศ มีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ทำให้ผู้อยู่อาศัยในซอยนี้มีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นไปด้วย
ตรงเข้ามาอีกหน่อยบรรยากาศจะมีควาสงบมากขึ้น เพราะแปลงที่ดินส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวที่มีขนาดเนื้อที่บ้านค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ในบ้าน ทำให้ถนนในซอยได้ร่มเงาจากต้นไม้ไปด้วย
เข้ามาจนเจอแยกแรกทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยย่อยไปอีกทีหนึ่ง หากตรงไปจะเป็นทางไปทะลุซอยสุขุมวิท 65
เลี้ยวซ้ายเข้ามาแล้วก็ตรงไปในซอย บรรยากาศจะเป็นบ้านพักอาศัยหลังใหญ่ มีรั้วสูง ขนาบทั้ง 2 ฝั่ง
ตรงไปอีกนิดจะเจอทางแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยย่อยไปอีกหนึ่ง
เลี้ยวเข้าซอยย่อยมาแล้ว ตรงเข้าไปจนสุดถึงทางที่บังคับเลี้ยวขวา ที่ดินโครงการจะอยู่บริเวณหัวมุมพอดี มีระยะจากต้นซอยย่อยไปถึงที่ดินประมาณ 180 ม.
ถึงแล้วค่ะ แปลงที่ดินของโครงการ SAKAYA 146 ด้านหน้าโครงการมีป้ายบอกไว้เรียบร้อย
เรามาดูสภาพแวดล้อมที่ติดกับที่ดินของโครงการกัน ภายในเส้นประสีเหลืองเป็นพื้นที่ของโครงการ SAKAYA 146 ซึ่งทางซ้ายที่ติดกับที่ดินโครงการคือบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ทำให้วิวทางทิศเหนือของโครงการค่อนข้างโล่งนะคะ
อีกฝั่งหนึ่งขอบเขตของโครงการคือเส้นประสีเหลืองด้านซ้าย ส่วนแปลงที่ดินที่ติดกันฝั่งขวาของโครงการเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นอีกเช่นกัน ทำให้วิวทางฝั่งตะวันตกของโครงการค่อนข้างโล่งเช่นกัน
เนื่องจากแปลงที่ดินของโครงการอยู่ตรงหัวมุม จึงมีอาคารเยื้องกันที่หัวมุมฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพักอาศัยสูง 4 ชั้น ถึงแม้ว่าอาคารนี้จะมีความสูงที่สูงเป็นพิเศษแตกต่างจากบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่ในซอยนี้ แต่ก็ยังไม่สูงเท่าตัวบ้านของโครงการ และไม่ได้อยู่ใกล้อาคารในระยะประชิด เพราะถูกคั่นกันด้วยถนนซอยและถนนส่วนกลางในโครงการ จึงมีระยะห่างพอสมควรที่ทำให้โครงการยังมีความเป็นส่วนตัวอยู่ค่ะ
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย ที่ดินเปล่าและอาคารพักอาศัย 4 ชั้น โครงการ SAKAYA เป็นโครงการที่มีความสูง 5 ชั้นพร้อม Roof Top บนชั้นดาดฟ้าอีก 1 ชั้น ทำให้เป็นอาคารที่มีความสูงที่สุดในบริเวณนี้ จึงไม่มีอาคารที่บังวิวในระยะประชิดตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นมา สำหรับพื้นที่โดยรอบโครงการสรุปได้ดังนี้ค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น
SAKAYA 146 เป็นบ้านเดี่ยว 5 ชั้น ระดับ Super Luxury ที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มผู้อยู่อาศัยในระดับ Premium Segment ที่มองหาบ้านที่แตกต่างจากบ้านเดี่ยวทั่วไป โดยเน้นความสำคัญในเรื่องความเป็นส่วนตัว ด้วยวิธีการวางผังและการออกแบบอาคารด้วยจำนวนเพียง 4 ยูนิต เป็นบ้านที่ผู้อยู่อาศัยสามารถสัมผัสได้ถึงความคุ้มค่าของพื้นที่ใช้สอยภายใน การจัด Function ภายในที่สอดคล้องกับการใช้งาน มีทุกอย่างครบจบในบ้านหลังเดียว มีพื้นที่ส่วนกลางแบบส่วนตัวในแต่ละบ้าน ไม่ต้องใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกับบ้านหลังอื่น ตลอดจนวัสดุต่างๆที่เลือกนำมาใช้สอดคล้องกับแนวคิดในการออกแบบและเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่ภายในตัวบ้าน
SAKAYA 146 ได้รับการออกแบบโดยบริษัท AAD ที่ก่อตั้งโดยคุณอยุทธ์ มหาโสม สถาปนิกชาวไทยที่มีผลงานออกแบบโครงการพรีเมี่ยมหลายโครงการ การันตีด้วยผลงานที่เป็นรู้จักอย่าง Yenakart Residence, AQ Aria Asoke, Pano Penthouse, Lakehouse 113 และ Petchkasem 79
SAKAYA 146 ถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury เน้นการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในและอุปกรณ์ต่างๆระดับ Premium ทั้งหมด ด้วยแนวคิด ‘Humancentric’ ที่เน้นการออกแบบเพื่อผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการออกแบบสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นผสมผสานเข้ากับแนวคิดแบบสแกนดิเนเวียน ที่สื่อออกมาด้วยความเรียบง่ายเป็นระเบียบ สะอาดตา หรือความมินิมอลในการออกแบบ เพื่อให้ผู้อาศัยเข้าถึงความสงบในการอยู่อาศัย รูปลักษณ์ภายนอกจะใช้สีขาวเป็นหลักในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นผนังทึบ ผนังโปร่ง หน้าต่าง ประตู เพื่อสร้างความรู้สึกที่มินิมอล หน้าอาคารมีแผงบังแดด (Sun Shading Facade) ที่นอกจากจะไว้ใช้กันแสงแดดแล้วยังสามารถใช้เป็นฉากสกรีนเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน โดยออกแบบเป็น Fin สีขาว เรียงกันอย่างมีระเบียบ
อีกแนวความคิดที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นได้แก่ การลดทอนความทึบตันของตัวบ้านที่ทางโครงการตั้งใจออกแบบบ้านที่สูงถึง 6 ชั้น แต่เมื่อมองแล้วกลับรู้สึกว่ามีดูมีพื้นที่ใช้งานใกล้เคียงกับบ้านพัก 2 ชั้น กล่าวคือสถาปนิกลดทอนความทึบตันของตัวบ้านด้วยการแบ่งปริมาตร (Volume) ของบ้านทรงสูงนี้ให้เหมือนเป็นบ้านทรงสี่เหลี่ยม 2 หลังมาซ้อนทับและเชื่อมต่อกัน เพื่อให้รับกับบริบทโดยรอบที่เป็นชุมชนบ้านเดี่ยวพักอาศัย
ส่วนแนวคิดแบบสแกนดิเนเวียน ถูกดึงมาใช้ในเรื่องของการออกแบบที่อยู่อาศัยให้ได้ความรู้สึกที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด ถูกนำเสนอไว้ภายในตัวบ้านผ่านการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีผิวสัมผัสเป็นธรรมชาติ และมีการเชื่อมต่อพื้นที่อยู่อาศัยภายในและภายนอกเข้าด้วยกันด้วย Pocket Gardens ลอยฟ้า ที่มีประมาณ 8-10 ตำแหน่ง ซึ่งสวนเหล่านี้ได้ถูกสอดแทรกเข้าไปตามบริเวณระเบียงหรือพื้นที่ชายคาของห้องต่างๆในทุกชั้น ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ การออกแบบลักษณะนี้เป็นความแตกต่างจากบ้านโครงการอื่นใน Segment เดียวกัน แต่ต้องเลือกพรรณไม้ให้สอดคล้องกับแสงแดดด้วยนะคะ
โดยภาพรวมของการจัดวางแปลงที่ดินภายในโครงการจัดแบ่งที่ดินออกเป็น 4 แปลง ผัง Master Plan จัดตำแหน่งประตูทางเข้า – ออกหลักของโครงการติดกับถนนเอกมัยซอย 10 แยก 6 สร้างความปลอดภัยให้กับโครงการด้วยรั้วสูง 3 ม. ถนนส่วนกลางมีต้นไม้ปลูกตามแนวทางเดินริมถนนบริเวณหน้าทางเข้าเพื่อสร้างบรรยากาศความร่มรื่น ผ่านป้อมยามเข้ามาในโครงการจะเป็นถนนส่วนกลางภานในที่มีความกว้างของถนน 7 ม. พร้อมที่จอดรถส่วนกลาง 3 คัน มีการรักษาความภัยด้วย รปภ.และกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง
โครงการมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ คือ Type A และ Type B โดยแบบบ้านทั้ง 2 แบบสามารถเลือก Option ว่าต้องการแบบ With pool หรือ Without pool จากแปลงที่ดินทั้งหมด 4 แปลง สามารถแบ่งขนาดบ้านได้ ดังนี้
- บ้าน Type A ขนาดที่ดิน 51-52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 610 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
- บ้าน Type B ขนาดที่ดิน 63 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 710 ตร.ม. 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ (ถ้าใช้ Auto Turntable จะจอดได้ 4 คัน)
เริ่มจากบ้าน Type A ขนาดที่ดิน 51-52 ตร.วา เป็นบ้านเดี่ยว 5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 610 ตร.ม. แบ่งพื้นที่ใช้งานภายในเป็น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ จัดพื้นที่ Roof Terrace เป็นส่วนตัวไว้ชั้นบนสุดของตัวบ้าน มีสวนบริเวณรอบๆบ้าน, ลิฟท์, Pocket Garden ที่กระจายอยู่ในทุกชั้น, สระว่ายน้ำ (Optional) การจัดพื้นที่ใช้งานภายในส่วนพักอาศัยและพักผ่อนจะเริ่มที่ชั้น 2 ขึ้นไป ส่วนชั้น 1 ของตัวบ้านจะเป็นส่วน Service เช่น ที่จอดรถ ส่วนครัว และ Back of house ของบ้าน
ชั้น 1 ของตัวบ้าน Type A จะประกอบด้วยพื้นที่ใช้งานหลัก 9 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่จอดรถ, โถงทางเข้าด้านหน้า, ส่วนห้องแม่บ้าน พร้อมห้องน้ำ, ห้องเก็บของ, ห้องเก็บของใต้บันได, ครัวไทย, บันไดและลิฟท์โดยสาร สามารถจอดรถบริเวณด้านหน้าได้ทั้งหมด 4 คัน เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านจะเป็นพื้นที่โถงเชื่อมต่อไปยังบันไดหลักสำหรับเจ้าของบ้านเพื่อขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้าน หรือจะเลือกใช้ลิฟท์โดยสารเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน กรณีมีผู้สูงอายุ หรือยกสิ่งของไม่สะดวกในการเดินขึ้น
พื้นที่ส่วนใหญ่ของชั้น 1 จะจัดเป็นพื้นที่ของ Back of house ของบ้าน พื้นที่ครัวไทยซึ่งเป็นครัวปิด มีประตูแบ่งพื้นที่เพื่อป้องกันกลิ่นและควันจึงเหมาะกับการประกอบอาหารหนักๆหรืออาหารไทยที่มีกลิ่นแรง โดยส่วนของครัวไทยใช้ชุดครัวของ RCD ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและถูกเลือกใช้ในโครงการหรูหลายโครงการ พร้อมอุปกรณ์ในห้องครัวของ TEKA นอกจากนี้ยังมีห้องเก็บของและแบ่งพื้นที่สำหรับที่พักของแม่บ้านพร้อมห้องน้ำไว้เรียบร้อย ในส่วนของพื้นที่ Back of house จะมีประตูเข้าทางหลังบ้านอีกประตูหนึ่ง หากเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้านก็สามารถล็อกประตูระหว่างพื้นที่ Back of house กับโถงหน้าบ้านไว้ได้
สำหรับรายละเอียดของวัสดุของชั้น 1 พื้นลานจอดรถเป็นกระเบื้องนำเข้าสีเทาเข้มและบล็อคปูถนน Cobble Stone สีเทาเข้ม จาก SCG วัสดุปูพื้นภายในบ้านเป็นหินอ่อนนำเข้า Black Marquina ซึ่งโดดเด่นด้วยสีและลายที่จะแตกต่างกันตามธรรมชาติ วัสดุปูพื้นครัวไทยเป็นกระเบื้องเซรามิก สีเทาเข้ม ผิวมัน ที่เหมาะสมต่อการใช้งานเพราะสามารถเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนบันไดจะปูตามวัสดุพื้นห้องคือใช้หินอ่อนนำเข้า Black Marquina เช่นกัน ตัวลิฟท์ใช้ของ Mitsubishi รุ่นที่ไม่มีห้องเครื่อง (Machine roomless elevator) จากการพัฒนาระบบมอเตอร์ให้มีขนาดเล็กลงและติดตั้งไว้ในปล่องลิฟท์ได้ ทำให้การออกแบบไม่ต้องมีปล่องลิฟท์มาขวางให้หงุดหงิดสายตา อีกทั้งไม่เปลืองพื้นที่ใช้สอยในอาคารด้วย จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของการออกแบบในปัจจุบัน
เมื่อขึ้นมายังชั้น 2 ของตัวบ้าน แบ่งพื้นที่ใช้งานหลักเป็น 7 ส่วน ได้แก่ ห้องนั่งเล่น, Pantry ครัว, ระเบียง, Pocket Garden, โถงบันได, ครัวแบบ Western Kitchen และส่วนทานอาหาร, ห้องอาบน้ำและลิฟท์โดยสาร การจัดพื้นที่ภายในจะมีประตูการแบ่งการใช้งานของแต่ละห้องอย่างเป็นสัดส่วน มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.7 m. ส่วนที่เป็นจุดเด่นของตัวบ้านคือ Pocket Garden ตรงกลางตัวบ้าน ที่เป็น Vertical Courtyard หรือสวนแนวตั้ง โดย Court ตรงกลางนี้มีหน้าที่นำแสงธรรมชาติและเป็นช่องลมเข้าสู่ใจกลางบ้านและกระจายไปยังทุกห้อง ทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูโล่งโปร่ง และทำให้ทุกห้องสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวนี้ได้ สำหรับบ้านไหนที่ต้องการมีสระว่ายน้ำในบ้านก็มี Option ให้เลือกได้
ด้วยพื้นที่ Court ตรงกลางตัวบ้านจึงถูกแบ่งออกเป็นส่วนด้านหน้าและด้านหลัง ฝั่งด้านหน้าบ้านจัดเป็นพื้นที่รับแขก นั่งเล่น พร้อม Pantry และเคาน์เตอร์บาร์ สำหรับชงเครื่องดื่มหรือทำอาหารเบาๆ เหมาะกับการชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาจัดปาร์ตี้เล็กๆ จากห้องนั่งเล่นนี้ยังมีประตูเชื่อมออกไประเบียงด้านหน้าบ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้อีกด้วยส่วนพื้นที่ด้านหลังจัดครัวแบบครัวฝรั่ง และส่วนทานอาหารของครอบครัว เน้นความเรียบ โปร่ง มีหน้าต่างด้านข้างสามารถเปิดระบายอากาศ และรับแสงธรรมชาติจากภายนอกได้ พื้นที่ครัวในชั้นนี้ไม่ใช่ครัวหลักแบบในชั้น 1 เป็นแบบครัวเปิด ซึ่งการแยกพื้นที่ครัวฝรั่งและครัวไทยของตัวบ้าน ที่ชั้น 1 และ 2 ในลักษณะนี้ ทำให้สามารถเลือกประกอบอาหารได้หลายหลาย มีครัวที่เหมาะสมต่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
บริเวณ Pocket Garden ที่เป็น Court อยู่ตรงกลางบ้าน นอกจากจะเป็นช่องเปิดของแต่ละห้องในตัวบ้านแล้ว ตัว Court นี้ยังให้ความรู้สึกถึงการมีปฏิสัมพันธ์กันในตัวบ้าน เพราะทุกห้องจะสามารถมองเห็นกันได้จากทาง Pocket Garden ตรงนี้ พื้นที่ในส่วนคอร์ท (court) ของตัวบ้าน จะได้รับเงาจากความสูงของบ้านข้างเคียง ทำให้เป็นพื้นที่ที่โปร่งโล่งสบาย ไม่ร้อน มีลมผ่าน โดยใช้หลักการออกแบบ Cross ventilation และ หลักการของธรรมชาติ (Principies of nature ) มาใช้เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน เกิดสภาวะสบาย (Comfort zone ) ทำให้พื้นที่คอร์ทจะสามารถมานั่งใช้งานได้จริงแตกต่างจากสวนแบบกลางแจ้งทั่วไป แต่ยังคงความเป็น Privacy เพราะผนังของบ้านฝั่งตรงข้ามจะเป็นผนังทึบทั้งหมดทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
ในส่วนพื้นที่นั่งเล่นใช้การเล่นระดับความสูงเป็น Double Volume ที่สูงไปถึงระดับชั้น 3 ของตัวบ้าน จึงเกิดบรรยากาศที่โปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด เหมาะแก่การพักผ่อนและยังคงมีความเป็น Family living space สามารถมองเห็นพื้นที่อยู่อาศัยรอบด้านได้ ทั้งสระว่ายน้ำและบรรยากาศของสวนภายนอก วัสดุและอุปกรณ์ที่เลือกใช้ในชั้น 2 เป็นเกรด Premium ทั้งหมดเช่นเดียวกับชั้นล่าง บริเวณห้องนั่งเล่นปูพื้นด้วยหินอ่อนนำเข้า Black Marquina ผิวเรียบขัดเงา
สำหรับ Optional ที่เลือกเป็นสระว่ายน้ำ จะได้สระว่ายน้ำที่ชั้น 2 อยู่ในตำแหน่งหน้าบ้านที่สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างบังทัศนียภาพในระยะประชิด เพราะสระว่ายน้ำจะหันไปทางด้านหน้าโครงการที่เป็นถนนส่วนกลางของโครงการ ทำให้การใช้งานจะยังคงให้ความเป็น Privacy อยู่ และจากตำแหน่งของสระว่ายน้ำทำให้สามารถมองเห็นพื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่นและโถงทางเดินได้ ซึ่งส่งเสริมให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์ของการอยู่ร่วมกันในครอบครัว สระว่ายน้ำมีขนาด 2.6 x 12 m. เป็นระบบน้ำล้น (Over Flow) แบบระบบเกลือ ภายในสระว่ายน้ำกรุด้วยกระเบื้องโมเสกนำเข้าสีเทาและสีฟ้าซึ่งทำให้เกิดลวดลายที่สวยงาม
พื้นที่ครัวแบบ Western Kitchen และส่วนรับประทานอาหาร สำหรับวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆในชั้นนี้ พื้นภายในและพื้นครัวเป็นหินอ่อนนำเข้า Black Marquina ซึ่งโดดเด่นด้วยสีและลายที่จะแตกต่างกันตามธรรมชาติ ทางโครงการเลือกใช้ชุดครัวจาก Bulthaup ซึ่งเป็นแบรนด์ดังระดับโลกจากประเทศเยอรมนี ที่มาพร้อมทั้ง Island และ Bar พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวจาก Siemens ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับพื้นที่ Pocket Garden ออกแบบโดยใช้กระจกใสบานใหญ่มีความสูงตามระยะความสูงของตัวอาคาร พร้อมเฟรมอลูมิเนียมเคลือบสี ด้วยระบบ Powder Coat ทำให้ห้องรับประทานอาหาร สามารถมองวิวแบบมุมกว้างเห็นสระว่ายน้ำและทัศนียภาพภายนอก ได้แสงธรรมชาติ และให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย มีลมผ่านและถ่ายเทอากาศได้ดี พื้นที่ส่วนรับประทานอาหารจัดพื้นที่สามารถตั้งชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 6-8 ที่นั้งและมีส่วน Pantry สำหรับจัดเตรียมอาหารได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกหากต้องการจัดเตรียมอาหารที่ไม่ยุ่งยากมากนัก ไม่ต้องลงไปใช้พื้นที่ครัวที่ชั้นล่าง
ขึ้นมาที่ชั้น 3 ของตัวบ้าน แบ่งพื้นที่ใช้งานหลักเป็น 7 ส่วน ได้แก่ ห้องหนังสือ , ห้องเก็บของ , ห้องนอนพร้อมห้องอาบน้ำและระเบียงในตัว , โถงบันได และลิฟท์โดยสาร สำหรับบ้านที่เลือก Option มีสระว่ายน้ำจะไม่มีห้องหนังสือและห้องเก็บของนะคะ
เมื่อเดินขึ้นมาจากชั้นล่างผ่านพื้นที่โถงบันไดและลิฟท์จะเข้ามายังโถงทางเดิน ซึ่งพื้นที่อยู่อาศัยจะถูกจะแยกพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 2 ฝั่งคือฝั่งหน้าบ้านที่เป็นห้องหนังสือและห้องเก็บของ ส่วนฝั่งหลังบ้านจะเป็นห้องนอนที่มีห้องอาบน้ำและระเบียงในตัว โดยพื้นที่อยู่อาศัยทั้ง 2 ส่วนจะเชื่อมต่อกันด้วย Pocket Garden ซึ่งเป็น Court โล่งไปจนถึงชั้นดาดฟ้าซึ่งเป็นลูกเล่นที่โดดเด่นของตัวบ้าน ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยทั้งหมดในตัวบ้านถูกเชื่อมโยงกันด้วย Court กลางบ้าน จากห้องหนังสือสามารถมองลงไปยังชั้นล่างเห็นในส่วนของพื้นที่รับประทานอาหาร และจากส่วนของระเบียงห้องนอนสามารถมองลงไปเห็นห้องนั่งเล่น ทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านรู้สึกถึงความมีปฎิสัมพันธ์ของการอยู่อาศัยร่วมกับครอบครัวอยู่ตลอด
พื้นในส่วนของห้องนอนและห้องหนังสือเป็นพื้นไม้ Engineering ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่าลามิเนต วัสดุมีความแข็งแรงมากขึ้นและมีความเหมือนไม้จริง และพื้นในส่วนระเบียงทางโครงการเลือกใช้กระเบื้องแกรนิตนำเข้า (Imported Homogeneous Tiles) มีการผลิตเลียนแบบหินธรรมชาติโดยการนำเอาสีเซรามิกเข้าไปผสมกับเนื้อดินเพื่อให้เกิดสีขึ้นในเนื้อดินเลย ทำให้กระเบื้องทั้งแผ่นมีสีเหมือนกัน นั่นเป็นข้อดีคือเมื่อเราใช้กระเบื้องไปนานๆจนเกิดการกร่อนของผิวหน้า กระเบื้องจะยังไม่เกิดปัญหาเหมือนกับกระเบื้องที่เคลือบผิว เพราะเมื่อผิวด้านบนสึกไปพื้นด้านล่างก็ยังคงมีสีเช่นเดียวกับพื้นด้านบน คุณสมบัติสำคัญคือการดูดซึมน้ำต่ำมากจึงเหมาะที่จะกับภายนอกอาคาร วัสดุภายในห้องน้ำ Top counter อ่างล้างหน้า เป็นหินอ่อนธรรมชาติรุ่น Super Genti Grey มีเนื้ออ่อนละเอียด สวยเงางาม ให้ความหรูหรา เข้ากันกับผนังห้องน้ำที่เลือกใช้กระเบื้อง Homogeneous ลาย Super Genti Grey ทำให้เป็นลายเดียวกัน ส่วนพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้อง Homogeneous สีเทา อุปกรณ์ภายในห้องน้ำของห้องนอนในชั้นนี้จะเป็นห้อง Kohler
มาที่ชั้น 4 ของตัวบ้านจัดพื้นที่ใช้งานทั้งชั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าของบ้านโดยเฉพาะ โดยจะประกอบด้วย ห้องนอน Master bedroom มี Living Area, Walk-in closet และห้องน้ำในตัว เพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ จัดตำแหน่งของห้องนอนให้เชื่อมกับระเบียง ใช้ประตู-หน้าต่างกระจกบานใหญ่สามารถเปิดระบายอากาศ รับแสงธรรมชาติ และมองเห็นวิวได้ดี ทำให้มีความโปร่งไม่อึดอัด นอกจากนี้พื้นที่พักอาศัยยังมีการเล่นระดับด้วยระเบียงส่วนกลางบริเวณชั้น 3 ครึ่ง ที่เข้าจากทางชานพักของบันได เป็นสวนอีกมุมหนึ่งของบ้าน จากตำแหน่งของสวนตรงนี้จะได้รับวิวบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัวโดยจะเป็นตำแหน่งที่ตรงกับผนังทึบของบ้านหลังข้างๆ
Master bedroom ได้พื้นที่ในส่วนหน้าบ้านเต็มๆ ทำให้ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีพื้นที่สำหรับจัดชุดโซฟานั่งเล่นดูทีวีเป็นส่วนตัวได้ ความสูงของฝ้าเพดานที่ 2.7 m. และมีฝ้าเพดานส่วนหนึ่งเป็น Double Volume ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง ภายในห้องนอนมีระเบียงส่วนตัวที่มีตำแหน่งอยู่ตรงกับ Court ส่วนกลางสามารถมองลงมาเห็น Pocket Garden พื้นที่สีเขียวของตัวบ้านได้ จากส่วนของห้องนอนสามารถเชื่อมไปยังพื้นที่ Walk In Closet และห้องน้ำ ด้วย Foyer ทางเดิน โปร่ง โล่ง ผนังฝั่งหนึ่งเป็นกระจกใสตลอดแนว ได้วิว Pocket Garden กลางบ้าน ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติจากภายนอก ทางเดินนี้จะไปเชื่อมกับพื้นที่ฝั่งด้านหลังบ้าน ซึ่งจัดแบ่งพื้นที่ภายในสำหรับทำเป็น Walk-in closet และพื้นที่สำหรับตั้งชุดโต๊ะเครื่องแป้งแต่งตัวไว้ค่อนข้างกว้างเพื่อการใช้งานได้สะดวก และให้ความสำคัญในการจัดพื้นที่ห้องน้ำที่กว้างและเหมาะสมกับการใช้งาน ด้วยเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบ His & Her มีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันไว้เป็นสัดส่วน
วัสดุและอุปกรณ์ที่เลือกใช้ภายในห้องนอนจะเป็นพื้นไม้ Engineered ชุดกระจกประตู-หน้าต่างเป็นอลูมิเนียมอบสี Powder Coat ลูกฟักใช้กระจกใสบานใหญ่มีความสูงตามระยะความสูงของตัวอาคาร พื้นระเบียงใช้กระเบื้องแกรนิตนำเข้า (Imported Homogeneous Tiles) เช่นเดียวกับระเบียงบนชั้น 2
สำหรับผนังห้องของ Master Bedroom จะมี 2 ด้านที่เป็นผนังกระจกตลอดแนว (Curtain Wall) ซึ่งมีบางส่วนเป็นบานกระจกใสที่เปิดออกไปจะมีพื้นที่ระเบียงเล็กๆด้านนอก ตรงนี้ไม่ได้ทำเพื่อไว้ใช้งานเหมือนระเบียงทั่วๆไป จริงๆจะไม่ทำก็ได้ แต่ในการออกแบบนั้นเพื่อให้ได้ช่องเปิดขนาดใหญ่เต็มบานตั้งแต่พื้นขึ้นมาก็จำเป็นต้องมีราวกันตกไว้เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้เพื่อความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย จะมีแผงกันแดดอลูมิเนียมบังแดดตลอดแนว ด้วยวัสดุ Aluminium Composit สีขาว มีระบบเปิดปิดได้
ในส่วนของห้องน้ำ Master bedroom จัดพื้นที่ห้องน้ำแยกการใช้งาน สามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม ออกแบบโดยเน้นการเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ ให้ตรงตามแนวคิด Concept หลักของตัวบ้าน คือมีความเป็น Modern Luxury Style เรียบหรู แต่ใช้งานได้จริง พื้นผนังปูด้วยหินอ่อนนำเข้า Black Marquina ออกแบบให้สีให้ตัดกับ Top counter ซึ่งกรุด้วย หินอ่อน Marble Stone White Venus ที่นำเข้าจากอิตาลี โทนสีขาวมีลวดลายเส้นแร่สีเทา ส่วน Counter มีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง แบ่งใช้งานแบบ His and Her สำหรับคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายสามารถแยกใช้งานกันได้ อุปกรณ์ในห้องน้ำจะแตกต่างจากห้องน้ำอื่นๆ โดยชุดสุขภัณฑ์ Automatic จาก TOTO อ่างอาบน้ำแบบตั้งลอยจาก Kohler ผลิตจากวัสดุอะครีลิคเสริมใยแก้ว ส่วนอุปกรณ์ภายในห้องน้ำอื่นๆใช้ของ Kohler ในส่วนพื้นที่อาบน้ำจะติดตั้ง Hand & Rain Shower จาก Hansgrohe
ที่ชั้น 5 ของตัวบ้านจัดพื้นที่ใช้งานหลักๆเป็นพื้นที่ส่วนพักอาศัย โดยจะประกอบด้วย ห้องนอนอีก 2 ห้องเป็นห้องนอนที่ 2, 3 ของตัวบ้าน โดยทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว เพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ห้อง Bedroom 3 จะมีระเบียงสามารถเปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้
วัสดุและอุปกรณ์ภายในชั้น 5 ของตัวบ้านจะคล้ายกับชั้น 4 พื้นภายในทั้งหมดจะเป็นพื้นไม้ Engineering ส่วนระเบียงพื้นเป็นกระเบื้องช้กระเบื้องแกรนิตนำเข้า (Imported Homogeneous Tiles) พร้อมราวระเบียงกระจก วัสดุภายในห้องน้ำจะเหมือนกับในห้องนอนบนชั้น 2 คือ Top counter อ่างล้างหน้า เป็นหินอ่อนธรรมชาติรุ่น Super Genti Grey ผนังห้องน้ำที่เลือกใช้กระเบื้อง Homogeneous ลาย Super Genti Grey ทำให้เป็นลายเดียวกัน ส่วนพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้อง Homogeneous สีเทา อุปกรณ์ภายในห้องน้ำของห้องนอนในชั้นนี้จะเป็นของ Kohler
ขึ้นมาชั้นที่ชั้น 6 เป็นชั้นดาดฟ้าของตัวบ้าน ถูกออกแบบให้เป็น Rooftop Garden พื้นที่สีเขียวแบบส่วนตัว ที่สามารถมานั่งเล่นใช้งาน ชมวิวมุมสูงโดยรอบได้ นอกเหนือจากคุณสมบัติที่ใช้เป็นที่พักผ่อนแล้ว Rooftop Garden จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนฉนวนป้องกันความร้อนจากแสงแดดที่ส่องลงมาที่หลังคาด้านบน ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตนำเข้า(Imported Homogeneous Tiles) ราวระเบียงเป็นกระจกใสไม่รบกวนสายตามองเห็นวิวแบบมุมกว้าง
สำหรับบ้าน Type B เป็นแปลงที่มีขนาดใหญ่สุดและอยู่ด้านในสุดของโครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 5 ชั้น แบ่งพื้นที่ใช้งานภายในเป็น 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ มีพื้นที่ Roof Garden ที่ชั้นบนสุดของตัวบ้าน และพื้นที่สวนบริเวณรอบๆบ้าน , ลิฟท์ , สระว่ายน้ำ การจัดพื้นที่ใช้งานในบ้านหลักๆเหมือนกับบ้านแบบ Type แรก แต่บ้าน Type นี้จะมีพื้นที่ใช้งานที่มากกว่าและมีจำนวนห้องที่มากกว่า โดยชั้น 1 เป็นส่วนของ Service เช่น ที่จอดรถ ครัวไทย และ Back of house สำหรับพื้นที่พักอาศัยและพักผ่อนจะเริ่มต้นที่ชั้น 2 ขึ้นไป
เริ่มจากชั้น 1 ของตัวบ้าน Type B จะประกอบด้วยพื้นที่ใช้งานหลัก 10 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่จอดรถ, โถงทางเข้าด้านหน้า, ห้องเก็บของ, ห้องเก็บของใต้บันได, ห้องแม่บ้าน 2 ห้อง, ห้องน้ำ, ครัวไทย, บันไดและลิฟท์โดยสาร ในส่วนของที่จอดรถใน Type นี้จะมี Auto Turntable เพิ่มเข้ามาสามารถกั้นห้องกระจกเป็นที่จอดรถ Super Car ได้ หรือถ้าไม่ใช้ Auto Turntable ก็จะสามารถจอดรถบริเวณด้านหน้าได้ทั้งหมด 5 คัน เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านจะเป็นพื้นที่โถงเชื่อมต่อไปยังบันไดหลักสำหรับเจ้าของบ้านเพื่อขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้าน และลิฟท์โดยสาร โดยภาพรวมชั้น 1 ของตัวบ้านจะจัดเป็นพื้นที่ของ Back of house ของบ้านไว้ มีครัวไทย และส่วนที่พักของแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัว แยกการใช้งานของแม่บ้าน ไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนกับพื้นที่ของเจ้าของบ้าน
ในส่วนของวัสดุจะเหมือนกับบ้านหลังแรก พื้นลานจอดรถเป็นกระเบื้องนำเข้าสีเทาเข้มและบล็อคปูถนน Cobble Stone สีเทาเข้ม จาก SCG พื้นภายในบ้านเป็นหินอ่อนนำเข้า Black Marquina พื้นครัวไทยเป็นกระเบื้องเซรามิกสีเทาเข้มผิวมัน บันไดใช้หินอ่อนนำเข้า Black Marquina และลิฟท์โดยสารแบบไม่มีห้องเครื่อง จาก Mitsubishi
ชั้น 2 ของตัวบ้าน แบ่งพื้นที่ใช้งานหลักเป็น 9 ส่วน ได้แก่ โถงบันได, ครัวแบบ Western Kitchen, ห้องน้ำ, พื้นที่รับประทานอาหาร, ระเบียง, สระว่ายน้ำและลิฟท์โดยสาร
การวางแปลนโดยรวมจะใช้ Concept เดียวกับบ้าน Type B คือมี Pocket Garden ตรงกลางตัวบ้าน ที่เป็น Vertical Courtyard หรือสวนแนวตั้งซึ่งเป็นเหมือนช่องลมสำหรับรับอากาศภายนอก โดยระเบียงตรงกลางนี้มีหน้าที่นำแสงธรรมชาติและเป็นช่องลมเข้าสู่ใจกลางบ้านและกระจายไปยังทุกห้อง ทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูโล่งโปร่ง และทำให้ทุกห้องสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวนี้ได้ และด้วยพื้นที่ระเบียงที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ตัวบ้านจึงถูกแบ่งออกเป็นส่วนด้านหน้าและด้านหลัง การจัดพื้นที่ภายในจะเน้นความโปร่ง โล่งจึงออกแบบให้พื้นที่ใช้สอยฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้านเชื่อมถึงกันได้โดยไม่มีประตูกั้น ครัวในชั้นนี้เป็นแบบครัวฝรั่ง (Western Kitchen) เป็นครัวเปิดสำหรับทำอาหารเบาๆ ที่กลิ่นไม่แรงมาก ผนังฝั่งหนึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่ Pocket Garden ออกแบบโดยใช้กระจกใสบานใหญ่มีความสูงตามระยะความสูงของตัวอาคาร เฟรมอลูมิเนียมเคลือบสี ด้วยระบบ Powder Coat ทำให้สามารถมองวิวแบบมุมกว้างเห็นทัศนียภาพภายนอก ได้แสงธรรมชาติ และให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ส่วนฝั่งด้านหน้าบ้านจัดเป็นพื้นที่รับแขก นั่งเล่น โต๊ะรับประทานพร้อม Pantryและเคาน์เตอร์บาร์ สำหรับชงเครื่องดื่มหรือทำอาหารเบาๆ เหมาะกับการชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาจัดปาร์ตี้เล็กๆ จากห้องนั่งเล่นนี้ยังมีประตูเชื่อมออกไปยังสระว่ายน้ำด้านหน้าบ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้อีกด้วย
วัสดุและอุปกรณ์ที่เลือกใช้ในชั้น 2 เป็นเกรด Premium ทั้งหมดเช่นเดียวกับชั้นล่าง บริเวณห้องนั่งเล่นและพื้นห้องครัวปูพื้นด้วยหินอ่อนนำเข้า Black Marquina ผิวเรียบขัดเงา ชุดครัวจาก Bulthaup ซึ่งเป็นแบรนด์ดังระดับโลกจากประเทศเยอรมนี ที่มาพร้อมทั้ง Island และ Bar พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวจาก Siemens ส่วนสระว่ายน้ำมีขนาด 3.5×5.3 m. เป็นระบบน้ำล้น (Over Flow) แบบระบบเกลือ ภายในสระว่ายน้ำกรุด้วยกระเบื้องโมเสกนำเข้าสีเทาและสีฟ้าซึ่งทำให้เกิดลวดลายที่สวยงาม เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งานสระว่ายน้ำด้วยรั้วต้นไม้ตลอดแนวฝั่งที่ติดกับบ้านข้างเคียง
การออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยในชั้น 2 จะสัมพันธ์กับชั้น 3 โดยออกแบบให้การใช้งานทั้งส่วนนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหารบนชั้น 2 และห้องหนังสือบนชั้น 3 ให้เชื่อมต่อถึงกันโดยการเล่นระดับให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีฝ้าเพดานสูงเป็น Dobble Space ต่อเนื่องกับผนังกระจกของห้องหนังสือบนชั้น 3 ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยภายในบ้านมีความเป็น Family living space สามารถมองเห็นกิจกรรมถึงกันได้ โดยจากห้องหนังสือชั้นบนสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำ และบรรยากาศภายนอก ได้ความรู้สึกโปร่งไม่อึดอัด และจากห้องนั่งเล่นและสระว่ายน้ำก็สามารถมองขึ้นมาเห็นห้องหนังสือได้
ขึ้นมาที่ชั้น 3 ของตัวบ้าน แบ่งพื้นที่ใช้งานหลักเป็น 7 ส่วน ได้แก่ ห้องหนังสือ , ห้องเก็บของ , ห้องนอนพร้อมห้องอาบน้ำและระเบียงในตัว , โถงบันได และลิฟท์โดยสาร สำหรับบ้านที่เลือก Option มีสระว่ายน้ำจะไม่มีห้องหนังสือและห้องเก็บของนะคะ
เมื่อเดินขึ้นมาจากชั้นล่างผ่านพื้นที่โถงบันไดและลิฟท์จะเข้ามายังโถงทางเดิน ซึ่งพื้นที่อยู่อาศัยจะถูกจะแยกพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 2 ฝั่งคือฝั่งหน้าบ้านที่เป็นห้องหนังสือและห้องเก็บของ ส่วนฝั่งหลังบ้านจะเป็นห้องนอนที่มีห้องอาบน้ำและ Walk-in Closet ในตัว โดยพื้นที่อยู่อาศัยทั้ง 2 ส่วนจะเชื่อมต่อกันด้วย Pocket Garden ซึ่งเป็น Court โล่งไปจนถึงชั้นดาดฟ้าซึ่งเป็นลูกเล่นที่โดดเด่นของตัวบ้าน ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยทั้งหมดในตัวบ้านถูกเชื่อมโยงกันด้วย Court กลางบ้าน ห้องหนังสือเป็นห้องที่โปร่งมาก ด้วยผนังที่เป็นกระจกเปิดโล่งทางฝั่งด้านหน้าบ้าน ที่สามารถมองลงไปเห็นบรรยากาศในห้องนั่งเล่น และพื้นที่สระว่ายน้ำ และยังสามารถมองผ่าน Court กลางบ้านลงไปยังชั้นล่างเห็นในส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารได้อีกด้วย ทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านรู้สึกถึงความมีปฎิสัมพันธ์ของการอยู่อาศัยร่วมกับครอบครัวอยู่ตลอดในส่วนของวัสดุที่ชั้น 3 จะเหมือนกับบ้านหลังแรก Type B พื้นภายในบ้านเป็นพื้นไม้ Engineering พื้นในส่วนระเบียงทางโครงการเลือกใช้กระเบื้องแกรนิตนำเข้า (Imported Homogeneous Tiles) วัสดุภายในห้องน้ำ Top counter อ่างล้างหน้า เป็นหินอ่อนธรรมชาติรุ่น Super Genti Grey มีเนื้ออ่อนละเอียด สวยเงางาม ให้ความหรูหรา เข้ากันกับผนังห้องน้ำที่เลือกใช้กระเบื้อง Homogeneous ลาย Super Genti Grey ทำให้เป็นลายเดียวกัน ส่วนพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้อง Homogeneous สีเทา อุปกรณ์ภายในห้องน้ำของห้องนอนในชั้นนี้จะเป็นห้อง Kohler
มาที่ชั้น 4 ของตัวบ้านพื้นที่ใช้งานหลักๆ จัดเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าของบ้านโดยเฉพาะ ประกอบด้วย ห้องนอน Master bedroom มี walk in closet และห้องน้ำในตัว เพื่อความเป็นส่วนตัวและสะดวกในการใช้งาน ห้องนอนจะเชื่อมกับระเบียงใช้ประตู-หน้าต่างกระจกบานใหญ่สามารถเปิดระบายอากาศ รับแสงธรรมชาติ และมองเห็นวิวมุมกว้าง นอกจากนี้ยังความแตกต่างจากบ้าน Type แรกคือมีห้องออกกำลังกายที่มีห้องน้ำในตัว สามารถทำเป็นห้อง Sauna แทนได้หรือจะจัดเป็นห้องเด็กเล็กก็ได้
Master bedroom ได้พื้นที่ในส่วนหน้าบ้านเต็มๆ ทำให้ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีพื้นที่สำหรับจัดชุดโซฟานั่งเล่นดูทีวีเป็นส่วนตัวได้ ความสูงของฝ้าเพดานที่ 2.7 m. และมีฝ้าเพดานส่วนหนึ่งเป็น Double Volume ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง ภายในห้องนอนมีระเบียงส่วนตัวที่มีตำแหน่งอยู่ตรงกับ Court ส่วนกลางสามารถมองลงมาเห็น Pocket Garden พื้นที่สีเขียวของตัวบ้านได้ ห้องนอนใหญ่หลังนี้จะพิเศษกว่ากลังแรกตรงที่มี Walk-in closet มาให้ถึง 2 จุด จุดแรกจะอยู่ติดกับห้องนอนเลย ส่วนพื้นที่ Walk-in Closet ที่ 2 จะมีทางเดินไปเชื่อมกับพื้นที่ฝั่งตรงกลางบ้าน ซึ่งจัดแบ่งพื้นที่ไว้สำหรับทำเป็น Walk-in closet และพื้นที่สำหรับตั้งชุดโต๊ะเครื่องแป้งแต่งตัวไว้ค่อนข้างกว้างเพื่อการใช้งานได้สะดวก ส่วนพื้นที่ในห้องน้ำให้ความสำคัญในการจัดแบ่งฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะสม ด้วยเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบ His & Her มีการแบ่งส่วนการใช้งานส่วนเปียกและแห้งออกจากกันอย่างชัดเจน
ในส่วนของวัสดุที่ชั้น 3 จะเหมือนกับบ้านหลังแรก Type B พื้นภายในบ้านเป็นพื้นไม้ Engineering พื้นในส่วนระเบียงทางโครงการเลือกใช้กระเบื้องแกรนิตนำเข้า (Imported Homogeneous Tiles) ในส่วนของห้องน้ำพื้นผนังปูด้วยหินอ่อนนำเข้า Black Marquina ออกแบบให้สีให้ตัดกับ Top counter ซึ่งกรุด้วย หินอ่อน Marble Stone White Venus ที่นำเข้าจากอิตาลี Counter มีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง แบ่งใช้งานแบบ His and Her สำหรับคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายสามารถแยกใช้งานกันได้ อุปกรณ์ในห้องน้ำจะแตกต่างจากห้องน้ำอื่นๆ โดยชุดสุขภัณฑ์ Automatic จาก TOTO อ่างอาบน้ำแบบตั้งลอยจาก Kohler ผลิตจากวัสดุอะครีลิคเสริมใยแก้ว ส่วนอุปกรณ์ภายในห้องน้ำอื่นๆใช้ของ Kohler ในส่วนพื้นที่อาบน้ำจะติดตั้ง Hand & Rain Shower จาก Hansgrohe
ที่ชั้น 5 ของตัวบ้านจัดพื้นที่ใช้งานหลักๆเป็นพื้นที่ส่วนพักอาศัย โดยจะประกอบด้วย ห้องนอนโดยมีห้องนอนทั้งหมด 2 ห้องนอน แบ่งเป็น Bedroom 2 และ Bedroom 3 โดยทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ห้อง Bedroom 3 จะมีระเบียงขนาดใหญ่สามารถเปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้ ห้อง Bedroom 2 จะมีขนาดห้องเล็กลงมาหน่อย และมีหน้าต่างบริเวณหัวเตียง สำหรับเปิดรับแสงและลมจากภายนอก ที่ชั้น 5 จะมีความแตกต่างจากบ้าน Type A โดยจะมีห้องพระเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งห้อง เพื่อเป็นพื้นที่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับทุกคนในบ้าน จึงถูกตั้งไว้ในชั้นบนสุดของตัวบ้าน
วัสดุและอุปกรณ์ภายในชั้น 5 ของตัวบ้านจะคล้ายกับชั้น 4 พื้นภายในทั้งหมดจะเป็นพื้นไม้ Engineered วัสดุภายในห้องน้ำจะเหมือนกับในห้องนอนที่ 1 บนชั้น 3 Top counter อ่างล้างหน้า เป็นหินอ่อนธรรมชาติรุ่น Super Genti Grey มีเนื้ออ่อนละเอียด สวยเงางาม ให้ความหรูหรา เข้ากันกับผนังห้องน้ำที่เลือกใช้กระเบื้อง Homogeneous ลาย Super Genti Grey ทำให้เป็นลายเดียวกัน ส่วนพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้อง Homogeneous สีเทา อุปกรณ์ภายในห้องน้ำของห้องนอนในชั้นนี้จะเป็นห้อง Kohler
เมื่อขึ้นมาชั้นดาดฟ้าของตัวบ้าน ออกแบบให้เป็น Rooftop Garden พื้นที่สีเขียวแบบส่วนตัว ที่สามารถมานั่งเล่นใช้งาน ชมวิวมุมสูงโดยรอบหรือจัดปาร์ตี้เล็กๆบนชั้นดาดฟ้าก็ได้ นอกเหนือจากคุณสมบัติที่ใช้เป็นที่พักผ่อนแล้ว Rooftop Garden จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนฉนวนป้องกันความร้อนจากแสงแดดที่ส่องลงมาที่หลังคาด้านบน
จากชั้นนี้สามารถมองเห็นวิวโดยไม่มีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างบังทัศนียภาพในระยะประชิด เพราะมีความสูงในระดับสายตาที่สูงกว่าบ้านข้างเคียงที่เป็นบ้าน 2 ชั้นไปแล้ว ทำให้การใช้งานจะยังคงให้ความเป็น Privacy และพิเศษสำหรับบ้าน Type B ที่ด้านข้างฝั่งทางทิศใต้จะติดกับสนามฟุตบอลอาร์เซนอล เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่ทำให้บ้านหลังนี้จะได้วิวมุมนี้ไปเต็มๆ วัสดุใช้แบบเดียวกับ Rooftop ของบ้าน Type แรก ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตนำเข้า(Imported Homogeneous Tiles) ราวระเบียงเป็นกระจกใส
ทั้งหมดนี้เป็นแนวคิดและรายละเอียดในการออกแบบของโครงการ SAKAYA 146 ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าทางโครงการมีความใส่ใจในรายละเอียด ในการออกแบบและเลือกใช้วัสดุทั้งหมด บ้านจึงมีความเป็นเอกลักษ์ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งทาง Think of Living ก็อยากจะให้มีบ้านสวยๆแบบนี้ออกมาให้ชมกันอีกเสมอๆ ถ้ามีโครงการไหนที่น่าสนใจอีก ทาง Think of Living จะไม่พลาดนำข้อมูลมาแบ่งปันให้ท่านผู้อ่านอีกแน่นอนค่ะ
รายละเอียดราคา @ 11 October 2016
- Type A ขนาดที่ดิน 51,52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 610 ตร.ม. จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 4 คัน ราคาเริ่มต้น 49.9 ล้านบาท
สนใจข้อมูลโครงการเพิ่มเติม สามารถดูเพิ่มได้จากเวปไซด์หลักของโครงการ Sakaya คลิกที่นี่
หรือสอบถามข้อมูลโครงการได้ที่เบอร์ : 099-051-9696
