Cover2-3-4

รีวิวฉบับที่ 975 … สวัสดีครับ วันนี้มีโครงการในแบรนด์ Bangkok Boulevard เป็นโครงการที่อัพเกรดแบบบ้านใหม่หลังจากที่ได้สร้าง Life Bangkok Boulevard รามอินทรา ไปก่อนหน้าเมื่อสองปีที่แล้ว ปัจจุบันพื้นที่ดินโครงการบริเวณซอยด้านหลังได้อัพเดตเป็นแบบบ้านใหม่ ให้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้นและหน้าตาบ้านทันสมัยขึ้น นั่นคือ Bangkok Boulevard รามอินทรา จาก SC ASSET จุดเด่นของโครงการนี้คืออยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา แต่เป็นการติดถนนใหญ่แบบต้องเข้าซอยของโครงการไปประมาณ 100 เมตร ถึงจะเจอกับซุ้มประตูทางเข้าของโครงการนะ เอาล่ะไปดูกันเลยดีกว่า

Fact @ 18 November 2015

  • Bangkok Boulevard รามอินทรา (บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา)
  • บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : เขตคันนายาว
  • เนื้อที่โครงการ 57-2-46 ไร่ จำนวน 265 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 แบบ

  • New Blue Danube ที่ดินเริ่ม 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 238 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • New Silver Rhine ที่ดินเริ่ม 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • New Golden Thames ที่ดินเริ่ม 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 336 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

  • เพดานชั้น 1 สูง 2.60 เมตร, ชั้น 2 สูง 2.80 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 10.99 ล้านบาท หรือ 219,800 บาท/ตร.วา
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : 2558
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปลายปี 2559
  • เวปไซต์โครงการ : ใช้ร่วมกับโครงการ ไลฟ์บางกอกบูเลอวาร์ดรามอินทรา “คลิกที่นี่”
  • Call Center : 1749

 

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.815883, 100.692822

แผนที่จากโครงการ

แผนที่จากทางโครงการครับ ตัวโครงการอยู่ติดกับถนนรามอินทรา ก่อนถึงหน้าโครงการจุดสังเกตคือสวนอาหารจันทร์เพ็ญ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้เคียงแสดงถึงห้างใหญ่และเล็กเอาไว้แล้ว อยู่ใกล้กับวงแหวนตะวันออกรอบนอก(รามอินทรา-กาญจนาภิเษก) และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสามสีชมพูมาเสริมศักยภาพทำเลครับ

แผนที่ระยะไกล

โครงการ Bangkok Boulevard รามอินทรา เป็นโครงการย่านรามอินทราที่ตัวโครงการอยู่เกือบติดถนนใหญ่ ต้องเข้าซอยไปอีกประมาณ 100 เมตร ถึงจะเจอทางเข้าหมู่บ้านที่มีซุ้มประตู ถนนในซอยทางเข้าโครงการกว้าง 6 เมตร เส้นทางหลักที่ใช้งานจะเป็น ถนนรามอินทรา ซึ่งที่ตั้งโครงการจะอยู่ไม่ห่างจากจุดตัดกับถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวนตะวันออก)ประมาณ 2.5 กม. ซึ่งช่วยให้การเดินทางไปโซนบางนาจะทำความเร็วได้ดี ถ้าจะใช้เส้นทางประเสริฐมนูกิจก็มีสะพานต่างระดับเส้น รามอินทรา-นวมินทร์ให้ใช้ แต่ถ้าจะเข้าเมืองแถวๆสยามนี่จะลำบากหน่อยเพราะเส้นทางที่มีระยะทางสั้นอย่างรามคำแหงดันเป็นเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นและรถติดเอาเรื่อง แนะนำว่าให้วิ่งเส้นประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วน-รามดินทรา)จะสะดวกและทำความเร็วได้ดีกว่า

แผนที่ระยะไกลre2

พื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเป็นส่วนมาก ทำให้มีสถานที่สำคัญที่ตอบสนองต่อการอยู่อาศัยตั้งอยู๋ใกล้ๆโครงการหลายแห่ง พวกห้างสรรพสินค้าจะมี Fashion Island , Promenade และ แมคโครรามอินทรา ส่วน Community Mall จะเป็น Amorini สวนสยาม โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดจะเป็นโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ทำเลนี้เป็นทำเลที่เอื้ออำนวยต่อการใช้จักรยานมาก แต่เป็นในแง่ของระยะห่างของสถานที่ใกล้เคียงครับ เพราะสถานที่ต่างๆส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะ 2 กม.เหมาะแก่การใช้จักรยานดี แถมในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่านหน้าโครงการด้วย ตัวสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี

แผนที่ทางด่วน

ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือ แยกรามอินทรา-กาญจนาฯ(วงแหวนตะวันออก) หรือถนนกาญจนาภิเษก ชื่อเต็มๆเลยคือ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ผมทำแผนที่ประกอบแสดงจุดขึ้นและลงทางด่วนไว้ให้ดูแล้วประมาณนี้  ซึ่งถ้าขึ้นเหนือสามารถไปถึงปทุมธานี อยุธยา หรือว่าจะเข้าเมืองด้วยการลงใต้ไปยังถนนพระรามเก้า วงแหวนตะวันออก และไปถึงสมุทรปราการได้เลย

แผนที่การเดินทางแก้ไขแล้ว

การเดินทางในวันนี้ผมจะใช้ถนนรามอินทราเส้นหลัก แต่ผมออกสตาร์ทเริ่มต้นจากบริเวณวงเวียนรามอินทราหลักสี่ ข้ามสะพานข้ามแยกแล้วตรงยาวววววววว  จะผ่านแยกใหญ่อย่างแยกรามอินทราวัชรพล และแยกรามอินทรา-กาญจนาภิเษก(วงแหวนตะวันออก)นั่นเอง หลักจากนั้นพอเลยแยกมาประมาณ 2.4 กิโลเมตร ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยโครงการได้เลย ปากซอยโครงการอยู่ติดกับร้านภัตตาคารชายทะเลจันทร์เพ็ญ

เริ่มจากถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าไปทางวงเวียนรามอินทรา-หลักสี่ (ตามป้ายมีนบุรีไปยาวๆ)

ข้ามสะพานข้ามแยกวงเวียนรามอินทรา-หลักสี่

พอลงมาจะเจอกับห้างเซ็นทรัลรามอินทราทางซ้ายมือ เป็นห้างช้อปปิ้งหลักของคนในละแวกนี้ครับ

หลังจากนั้นจะผ่านแยกที่สามารถเลี้ยวเข้าถนนลาดปลาเค้าได้

และก็จะเจอกับป้ายบอกจราจรว่าข้างหน้าจะเป็นแยกใหญ่คือแยกรามอินทรา-วัชรพล เรามุ่งตรงมีนบุรีนะครับ

การเดินทาง-71

ผ่านบริเวณจุดตัดแยกรามอินทรา-วัชรพล

หลังจากนั้นตรงมาจะเจอกับสามแยกไฟแดงที่ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นซอยรามอินทรา 40 (นวลจันทร์) เป็นอีกซอยขึ้นชื่อมีร้านอาหารอร่อยๆอยู่หลายเจ้า ซึ่งสามารถไปลัดเลาะออกถนนเลียบด่วนเอกมัยรามอินทราและถนนเกษตรนวมินทร์ได้ด้วยนะ

ทีนี้เราจะเจอกับสะพานข้ามแยกอีกอันนึง เป็นสะพานข้ามแยกถนนนวมินทร์นะครับ หรือเรียกว่าแยกนวมินทร์กม.8 เราจะเห็นคอนโดลุมพินีทาวน์เด่นอยู่ขวามือ

พอลงสะพานข้ามแยกมาจะเจอกับโรงพยาบาลสินแพทย์อยู่ฝั่งตรงข้าม

หลังจากนั้นจะเจอป้ายบอกทางว่าข้างหน้าทางซ้ายจะเป็นแยกรามอินทรา-กาญจนาภิเษก(วงแหวนรอบนอกตะวันออก) ให้เราชิดเลนขวาไว้

มุ่งหน้าตรงลอดใต้วงแหวนเลยครับ

พอพ้นวงแหวนมาแล้วซ้ายมือจะเป็นห้าง Fashion Island ห้างช้อปปิ้งมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณละแวกนี้ ซึ่งคนแถวนี้คงจะมาพึ่งพิงกันแน่นอน

พอพ้นห้าง fashion island มาปุ๊ปจะเจอกับศูนย์ Toyota Sure ให้เราเบี่ยงไปเลนซ้ายนะครับ เพราะถ้าอยู่เลนขวาจะเป็นที่กลับรถ

การเดินทาง-18

บริเวณนี้จะเป็นสามแยกรพ.นพรัตนราชธานี ซึ่งถ้าเลี้ยวขวาจะไปสวนสยามได้นะครับ ปากซอยทางเข้าจะเป็น Community Mall ชื่อว่า Amorini Mall รามอินทรา

เดินทาง1

หลังจากนั้นตามป้ายมีนบุรีเข้าไว้ แต่พยายามอยู่เลนซ้ายๆหน่อย จุดสังเกตสุดท้ายคือ ภัตตาคาร ชายทะเล จันทร์เพ็ญ

เดินทาง2

เห็น ภัตตาคาร ชายทะเล จันทร์เพ็ญ แล้วอยู่ซ้ายมือ ให้ชิดซ้ายเอาไว้เลย เห็นซุ้มทางเข้าโครงการแล้ว

เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงพยาบาลเสรีรัตน์
  • โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
  • โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
  • ตลาดมีนบุรี
  • Big C
  • Makro รามอินทรา
  • Tesco Lotus 
  • Amorini 
  • Fashion Island
  • The Promenade 


เจาะลึกตัวโครงการ

แผนที่ระยะประชิด

รูปร่างของตัวโครงการมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมตัดมุม โครงการ Bangkok Boulevard รามอินทรา และ Life Bangkok Boulevard รามอินทรา มีทางเข้าออกทางเดียวกันผ่านถนนกว้าง 6 เมตร ระยะประมาณ 100เมตร จากปากซอยถึงซุ้มประตูทางเข้าโครงการ(Gate1) หลังจากพอพ้น Gate 1 แล้วจะเจอกับสโมสร Clubhouse ทางซ้ายมือ(ปัจจุบันเป็น Sale Office) ที่มีสระว่ายน้ำและฟิตเนต ถัดไปจะเป็น Gate 2 เพื่อเข้าสู่โซนที่พักอาศัยและเจอสวนสาธารณะมีบ่อน้ำ,ศาลา,ทางเดินออกกำลังกาย,เครื่องเล่นเด็กอยู่ในสวนนี้  ตัวบ้านจะสร้างไล่จากด้านหน้าโครงการที่ติดกับ Club House ลึกเข้าไปเรื่อยๆ การสร้างจะสร้างแบบไล่เป็นล็อตๆ โดยเน้นการสร้างเสร็จก่อนเปิดขาย ทางเข้าออกโครงการจะมีทางเดียวคือด้านหน้าที่ติดกับถนนใหญ่ของโครงการ ส่วนถนนหลักในโครงการกว้าง 16  เมตร, ถนนรองบ้านเดี่ยว 9 เมตร มี CCTV ทั้งโครงการ รั้วรอบโครงการสูงประมาณ 3-4.5 เมตร

Bangkok Boulevard รามอินทรา เป็นโครงการที่อัพเกรดแบบบ้านใหม่หลังจากที่ได้สร้าง Life Bangkok Boulevard รามอินทรา ไปก่อนหน้าเมื่อสองปีที่แล้ว ปัจจุบันพื้นที่ดินโครงการบริเวณซอยด้านหลังได้อัพเดตแบบบ้านใหม่ ให้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้นและหน้าตาบ้านทันสมัยขึ้น และเป็นตัวเลือกสำหรับใครที่มีงบประมาณมากหน่อย และชอบบ้านแบบใหม่ทันสมัยขึ้นมีพื้นที่มากขึ้น และอยู่ในทำเลรามอินทราใกล้ทางด่วนนั่นเอง

ตอนนี้ป้ายยังมีแค่ของ Life นะครับ เลี้ยวเข้ามาจะเจอกับจุดตรวจเล็กๆก่อน

ขับเข้าไปประมาณ 100 เมตรก็จะถึงซุ้มประตูทางเข้าโครงการ Gate 1

ทางเข้าโครงการ Gate 1 จะมีป้ายชื่อ Life Bangkok Boulevard รามอินทรา อยู่นะครับ ตอนนี้ยังไม่ได้ติดส่วนป้ายโครงการของ Bangkok Boulevard รามอินทรา เพราะยังสร้างไม่เสร็จดี (คำว่าบูเลอวาร์ดในอเมริกาจะใช้ในความหมายของถนนใหญ่ในตัวเมือง มีสองเลน รถวิ่งสวนกัน และมีต้นไม้ใหญ่ข้างทาง) อันนี้ขอเพิ่มเติมว่าโครงการ แบรนด์บูเลอวาร์ด ของ SC Asset เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ตอนนี้มีอยู่สามกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่ม แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด เป็นคฤหาสถ์สุดหรู ราคาเริ่มต้นตั้งแต่  15 ล้านขึ้นไป อยู่ในกลุ่ม Super luxury, กลุ่มบางกอก บูเลอวาร์ด บ้านหรูทำเลดี ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 10 ล้านขึ้นไปอยู่ในกลุ่ม High class และกลุ่มที่สามคือ ไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด บ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 6 ล้านขึ้นไป อยู่ในกลุ่ม Upper class ครับ ห่างจากตัวโครงการออกไปไม่ถึง 1 กิโลเมตร จะมีโครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา อยู่ตรงทางเลี้ยวเข้าสวนสยาม คนที่งบประมาณไม่ถึงแกรนด์บางกอกบูเลอวาร์ด แต่อยากได้บ้านอยู่แถวนี้ โครงการนี้ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี

ทางเข้าโครงการ มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security Gate คือมีสองป้อมยามช่วยให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ป้อมยามจุดแรกเป็นประตูทางเข้าบานเลื่อนอัตโนมัต 3 ตอน มีระบบ Keycard Access เป็นแบบระยะใกล้ที่ยังคงต้องใช้ Key Card ไปแตะใกล้ๆตัวจับสัญญาณ และกล้อง CCTV ที่บริเวณป้อมยามตามมาตรฐานทั่วไป พี่ๆร.ป.ภ ทำหน้าที่เข็มแข็งกันดี มองผ่านเข้าไปจะเห็นรั้วเหล็กสีดำข้างหน้า เป็นป้อมยามจุดที่สองอยู่ไม่ไกลนัก

การเข้าพื้นที่โครงการด้านในจะเหมือนกันกับด่านที่แล้วคือ Key Card Access ระยะไกล รถลูกบ้านก็ขับผ่านเครื่องรับสัญญาณไปได้เลย

CCTV 2 จุดเอาไว้ส่องทะเบียนรถและใบหน้าผู้เข้ามา ถ้าเป็นส่วนของแขกผู้มาติดต่อรปภ.จะตรวจท้ายรถทั้งเข้า-ออกเลยนะครับ ได้ความรู้สึกปลอดภัยดีสำหรับลูกบ้านนะ

พอพ้นมาแล้วจะเจอกับพื้นที่โล่งๆหน่อย ทางซ้ายมือนั่นคือ Gate 2 ก่อนเข้าส่วนที่พักอาศัย โครงการนี้มีกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการตลอด 24 ชั่วโมง (เท่าที่สอบถามมาคือจะมีกล้อง 2 ตัวต่อหนึ่งซอยครับ)

ทางซ้ายมือจะเจอสำนักงานขายและพื้นที่จอดรถในส่วนผู้มาติดต่อ ซึ่งเป็นอาคารที่รวมพื้นที่ส่วนกลางอย่างคลับเฮ้าส์เอาไว้ด้วยกันครับ ด้านขวามือมีรถกอล์ฟสีส้มสำหรับพาทัวร์รอบโครงการด้วย

ด้านข้างสระว่ายน้ำ มีสวนหย่อซึ่งต้นไม่เริ่มเติบโตแล้วระดับนึง

ทางขึ้นอาคาร Clubhouse ที่ปัจจุบันยังเป็น Sale Office อยู่ครับ

เข้ามาด้านในจะเป็นส่วนสำนักงานขาย ถ้าขายหมดต่อไปส่วนนี้คงจะเปลี่ยนเป็นล้อบบี้คลับเฮ้าส์ของโครงการเต็มตัว การตกแต่งเป็นโทนสีอ่อน ขาว เบจ มีโซฟากับชุดเก้าอี้นั่งอีก 2-3 ชุดไว้รองรับลูกค้า

อีกมุมนึงครับมองออกไปทางประตู

ขอบสระด้านนึงจะเป็นแบบน้ำล้นผ่านแผงหินตกแต่ง

ด้านข้างสระทางเดินเป็นทรายล้าง และวางชุดโต๊ะเก้าอี้เอ้าไว้รอบๆ

จะเห็นว่าร่องน้ำล้นข้างตัวสระถูกออกแบบให้เป็นแบบน้ำล้นที่เอาหินแม่น้ำโรยไว้ช่วยให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติมากขึ้น มีจุดอาบน้ำชำระร่างกายให้สองจุดครับ

สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด  7 x 15 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กและผู้ใหญ่ สระเด็กลึก 60 cm สระผู้ใหญ่ลึก 1.3 m

ทางไปห้องน้ำและฟิตเนส มีการเปลี่ยนวัสดุพื้นจากกรวดล้างริมสระมาเป็นกระเบื้องแบบผิวด้าน ทางขวามือเป็นประตูห้อง Fitness แต่กำลังมีช่างมาปรับปรุงเครื่องเล่นเลยไม่สามารถเข้าไปถ่ายได้ ห้อง Fitness ขนาดไม่ใหญ่มาก วางเครื่องเล่นเอาไว้ประมาณ 6 เครื่องมีลู่วิ่งสองเครื่อง ถีบจักรยานสองเครื่อง แผงดัมเบล และ เครื่องบริหารรอบอกหนึ่งเครื่อง วิวมองออกไปเป็นสระว่ายน้ำครับ

ภายในห้องน้ำ กระเบื้องและผนังเน้นโทนขาวดำ มีอ่างล้างมือสองอ่างบนท้อปแกรนิตสีดำ ข้อดีคือมีผ้าเช็ดมือให้บริการด้วย มีพัดลมติดเพดานอยู่หนึ่งตัว บวกกับระยะพื้นถึงเพดานที่สูง 3 เมตร ทำให้ห้องน้ำโปร่งดี

กลับมาที่ทางเข้า Gate 2 การเข้าพื้นที่โครงการด้านในจะเหมือนกันกับด่านที่แล้วคือ Key Card Access ระยะไกล รถลูกบ้านก็ขับผ่านเครื่องรับสัญญาณไปได้เลย ประตูเป็นบานเหล็กเลื่อนไฟฟ้า 3 ตอนเช่นกัน

พอเข้ามาแล้วจะเจอกับถนนหลักภายในโครงการกว้างประมาณ 16 เมตร สองฝั่งข้างทางปลูกต้นไม้เอาไว้ตลอดแนว ดูร่มรื่นดี

ภายในสวนสาธารณะมีทางเดินคอนกรีตเอาไว้ตลอดทาง

มีไฟส่องแสงสว่างตามทางเดินเอาให้ทุกๆประมาณ 6 เมตร

มีศาลาริมน้ำพร้อมเฟอร์นิเจอร์โต้ะเก้าอี้แบบเอาต์ดอร์ไว้ให้นั่งเล่นกัน พื้นเป็นกระเบื้องผิวด้านสำหรับภายนอกและกรวดล้างที่ดูทนแดดทนฝน

มุมนี้นั่งอยู่ในศาลามองไปที่บ่อน้ำพุชิวๆครับ

สวนเริ่มให้ร่มเงาจากต้นไม่ได้ในระดับนึงแล้ว อย่างที่บอกไปว่าโครงการนี้เป็นส่วนต่อขยายจากไลฟื บางกอก บูเลอวาร์ดที่สร้างมาก่อนแล้ว(ประมาณปี 2556) ทำให้ต้นไม้ภายในสวนเติบโตมาระยะนึงแล้วครับ

ภายในสวนมีชุดเครื่องเล่นเด็กเอาไว้ให้ หน้าตาแบบนี้

มีเก้าอี้ม้านั่งโยกเยกเด็กอีกจุดนึง

สิ้นสุดทางเดินสวนทางฝั่งขวามือเป็นที่ตั้งศาลพระภูมิให้ลูกบ้านครับ

กลับมาที่ถนนรองกว้างประมาณ 9 เมตร เส้นทางนี้เชื่อไปยังด้านหลังโครงการ ไปโครงการ Bangkok Boulevard

เห็นที่พ่นลมสีส้มๆนั่นแหละครับ หลังจากนี้จะเป็นส่วนของพื้นที่โครงการ Bangkok Boulevard

ณ ปัจจุบันส่วนทางเข้าออกยังเป็นป้อมรปภ.ชั่วคราวเล็กๆแบบนี้ก่อน แต่ต้องสอบถามกับทางสำนักงานขายอีกทีนะครับว่า จะเปลี่ยนเป็นรูปแบบไหน

พอเข้ามาด้านในโครงการแล้ว ฝั่งซ้ายมือจะเป็นส่วนของบ้าน Bangkok Boulevard ทั้งหมด ส่วนฝั่งขวาเป็นส่วนเดินคือ Life Bangkok Boulevard ซอยนี้ทั้งคู่ใช้ถนนภายในโครงการร่วมกันครับ

บ้านบางส่วนเริ่มสร้างเสร็จแล้ว รอส่งมอบให้ลูกค้า

CCTV ภายในซอยอยู่ทุกแยก หัวซอยและท้ายซอยครับ

รั้วของโครงการเป็นรั้วคอนกรีตทึบฉาบเรียบ ทาสีขาว ต่อด้วยโครงเหล็กยืดแล้วมีผ้าใบแบบบางๆสีดำสูงอีก 1.5 เมตร รวมเป็น 4.5 เมตร

 

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • Club House 1 ชั้น
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 7 x 15 m. แยกสระเด็ก( ลึก 60 ซม), สระผู้ใหญ่ (ลึก 1.3 ม.)
  • ฟิตเนส  มีเครื่องเล่นประมาณ  6  เครื่อง
  • ศาลาพักผ่อนริมน้ำ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร ต่อโครงเหล็กบังสายตาอีก 1.5 เมตร
  • ระบบ CCTV เข้า-ออก และจุดสำคัญในโครงการ
  • Double Gate รั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
  • Key Card Access ระยะไกล
  • ระบบป้องกันขโมยทุกบ้าน 2 ระบบ (Magnetic & Shock Sensor)
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง CCTV ภายในโครงการ ทั้งหมดรวม 59 ตัว

 


Product Walkthrough

บ้านแบบ New Silver Rhine หลังนี้พื้นที่ใช้สอย 275 ตารางเมตร จะเป็นฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ  1 ห้องแม่บ้าน พื้นที่ที่เพิ่มมาหลักๆคือ ห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างเพิ่มมา 1 ห้อง และห้องแม่บ้านที่อยู่ด้านหลังบ้านอีก 1 ห้อง หลังนี้ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ประมาณ 60 ตารางวา

บ้านแบบ Golden Thames ขนาด 336 ตารางเมตร ฟังก์ชั่นแบบ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ที่ได้ที่จอดรถในร่มเพิ่มมาอีก 1 คัน เทียบจากบ้านหลังกลาง แต่ฟังก์ชั่นของห้องต่างๆในบ้านจะถูกขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น และใช้งานได้สมบูรณ์มากขึ้น หลังนี้ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ประมาณ 70 ตารางวา

** โดยบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปดูนั้นมี 2 หลัง ก็คือแบบ New Silver Rhine ขนาดกลางสุดก่อน และอีกหลังคือแบบ New Golden Thames ขนาดใหญ่ ครับ

 

แบบบ้านกลางชั้น-1

แปลนชั้นล่าง จากหน้าบานเข้ามาจะมี Living Area ด้านหน้าที่เป็นส่วนรับแขก ส่วน Living Area 2 จะเข้าไปอยู่ด้านหลัง สำหรับคนในบ้านมานั่งพักผ่อน ซึ่งแบบนี้จะแยกจากกันได้ชัดเจนและเหมาะสม โต๊ะรับประทานอาหาร วางอยู่ติดกับ Pantry แต่จะอยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นทั้งสองห้อง ถัดเข้ามาเป็นโถงบันไดสำหรับขึ้นชั้นสอง ตรงทางเดินจากโถงบันได ไปยังส่วนครัวที่อยู่ด้านหลัง จะมีห้องนอนชั้นล่างคั่นอยู่ตรงกลาง

ห้องนอนชั้นล่างนี้จะใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุก็ได้ หรือจะใช้เป็นห้องนอนสำหรับแขกที่มาพักที่บ้านก็ได้เหมือนกัน โดยห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกห้องนอน ใช้ร่วมกับห้องรับแขก แต่สามารถอาบน้ำได้  ส่วนพื้นที่ครัวจะอยู่ด้านหลังติดกับประตูทางเข้าลานจอดรถ เปิดประตูออกจากครัวไปจะเป็นลานซักล้างด้านหลังเหมือนเดิม แต่ที่อยู่ติดกับครัวจะมีห้องนอนของแม่บ้านอยู่ด้านนอกด้วย มีประตูเข้าจากนอกบ้านแยกต่างหาก และมีห้องน้ำให้ในตัว

แบบบ้านกลางชั้น-2

ที่ชั้น 2 จะมี Family Area อยู่ตรงกลางเหมือนกัน แล้วก็จะแบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้องเหมือนกับบ้านหลังแรก แต่ในห้องนอนใหญ่สุด กับห้องนอนรอง จะเพิ่มฟังก์ชั่นที่เป็นห้องนั่งเล่น “Relax Area” ที่อยู่ในห้องนอนมาด้วย สำหรับเป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัวของใครของมัน อยู่ในบ้าน คือฟังก์ชั่นจะคล้ายๆกับบ้านหลังใหญ่แต่ถูกย่อขนาดลงมานั่นเอง

หน้าตาบ้านไซส์กลาง New Silver Rhine หลังนี้พื้นที่ใช้สอย 248 ตารางเมตร จะเป็นฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ  1 ห้องแม่บ้าน หลังนี้ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ประมาณ 60 ตารางวา

การออกแบบ Facade และโทนสีมีการเปลี่ยนแปลงไปจากแบบโครงการเดิมคือนิดหน่อย ตัวบ้านใช้โทนสีเทาอ่อนสลับกับเทาเข้มดูวัยรุ่นหน่อย และตัดด้วยกระจกเขียวตัดแสงสีออกเขียวๆ จากภายนอกจะเห็นที่จอดรถ 2 คันอยู่ทางซ้ายของหน้าบ้าน มีประตูบานเปิดเข้าสู่ตัวบ้าน และทางขวาเป็นทางเข้าแบบประตูบานหลักเพื่อเข้าไปยังห้องรับแขก ส่วนด้านบนที่มีระเบียงยื่นออกมาคือเป็นระเบียงห้องนอนใหญ่ ส่วนทางซ้ายคือหน้าต่างของห้องนอนกลาง ส่วนหลังคาของพื้นที่จอดรถ ไม่ได้ปกคลุมกันแดดกันฝนให้รถทั้งคัน แค่ถึงส่วนกลางรถเท่านั้น ดังนั้นการต่อเติมที่พื้นที่จอดรถเลยเป็นจุดที่ลูกบ้านนิยมที่สุด

บ้านมาตรฐานของจริงหน้าตารั้วจะเป็นแบบนี้ เป็นรั้วเหล็กโปร่งรูปแบบล้อเลื่อนครับ

ทางซ้ายมือเป็นที่ติดป้ายบ้านเลขที่ และจุดที่เก็บขยะจากฝั่งหน้าบ้าน

ริมฟุตบาทหน้าบ้านเป็นทางเดินได้ และมีส่วนของแนวต้นไม้เอาไว้บังสายตาจากภายนอกระดับนึงเลย

ลองเปิดปิดรั้วหน้าบ้านให้ดูครับ

ที่ทิ้งขยะภายในบ้านหน้าตาเช่นนี้ทุกหลังเป็นมาตรฐาน

พื้นที่ลานจอดรถที่อยู่ในร่ม จะลงเสาเข็มด้วยครับเท่ากับตัวบ้าน เผื่อไว้ว่ากรณีบางบ้านอยากจะต่อเติมส่วนลานจอดรถ ก็สามารถทำเพิ่มได้

ที่เพดานลานจอดรถ จะมีอุปกรณ์ motion sensor ติดไว้ให้ทุกหลัง ต่อเข้ากับหลอดไฟหน้าบ้าน เวลามีคน (หรือโจร) เดินเข้าบ้าน หรือมีรถยนต์ถอยหลังเข้ามา ไฟหน้าบ้าน และโรงรถ ก็จะสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติ

ตรงนี้จะมีประตูทางเข้า ฝั่งลานจอดรถอยู่ด้วย พร้อมกับ Step บันได 1 ขั้น ห้องเก็บของติดกับโรงรถ ปิดด้วยบานประตูสีขาว มีช่องระบายอากาศ ห้องเก็บของเป็นช่องเก็บของตื้นๆ ไม่ลึกมาก แต่สามารถเก็บของชิ้นยาวๆ สูงๆได้ กรณีเรามีอุปกรณ์ล้างรถ หรืออุปกรณ์ทำสวน เราก็สามารถนำมาเก็บไว้ตรงนี้ได้ โดยไม่ต้องขนเข้าไปในบ้าน

ทางเดินไปทางฝั่งประตูทางเข้าหลักหน้าบ้านปูด้วยคอนกรีตแผ่นสำเร็จแบบนี้ และก็มีสวนให้รอบๆด้วย

รอบๆบ้านโครงการก็ลงสวนเอาไว้ให้นะครับ ตามนี้เลย มีทางเดินคอนกรีตปูเอาไว้ให้ด้วย

ฝั่งนี้จะเห็นรั้วด้านหลังเป็นคอนกรีตทึบฉาบเรียบทาสีปูงประมาณ 1.8 เมตรครับ

เดินต่อมาด้านหลังบ้านกันแล้ว จะไม่มีปลูกต้นไม้ไว้ให้มีแค่ปูหญ้ากับทางเดินคอนกรีตเท่านั้น ประตูกระจกบานเลื่อนทางซ้ายเชื่อมต่อไปยังโซนรับประทานอาหาร แนะนำให้ทำบันไดสเต็ปเพิ่มไปเลยนะครับ เวลาเข้าออก จะได้ไม่ต่างระดับกันจนเกินไป

เดินต่อมาหน่อยเจอที่ตั้งปั๊มน้ำอยู่บริเวณตรงกลางหลังบ้าน ถัดไปเป็นลานซักล้าง ลานซักล้างนี่ติดกับประตูของห้องครัว ข้างๆมีทำท่อน้ำทิ้งเอาไว้ให้ ส่วนประตูบานถัดไปเป็นของห้องแม่บ้านครับ

เดินมาที่หน้าบ้าน ตรงนี้จะเป็นประตูทางเข้าบ้านหลัก เฉลียงหน้าบ้านปูด้วยกระเบื้องผิวหยาบ ประตูหน้าบ้านทางเข้าหลักเป็นแบบบานคู่ วัสดุเป็นไม้สักเคลือบผิวด้าน

ความสูงพื้นถึงฝ้า ชั้นล่างอยู่ที่ 2.60 เมตร เข้าบ้านมาปุ๊บ ส่วนแรกที่เจอก็จะเป็นห้องรับแขกก่อน ซึ่งจะเป็นห้องรับแขก 1 สำหรับต้อนรับแขกโดยเฉพาะ แต่ถ้าเป็นโซฟานั่งดูทีวีจะอยู่แยกออกไปอีกส่วนหนึ่ง

บ้านตัวอย่างมาตรฐานของจริงภายในเป็นเช่นนี้นะครับ ติดวอลเปเปอร์ให้ทั้งหลัง

บริเวณโซฟานั่งเล่นจะติดกับหน้าต่างบานเลื่อนทั้งสองจุด ทำให้ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่ และสามารถมองออกไปที่สวนรอบบ้านได้ เวลากลางวันไม่ต้องเปิดไฟยังนั่งอ่านหนังสือได้สบายๆ กระจกพวกนี้จะเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง เพื่อลดปริมาณแสงสว่างที่จ้าเกินไป และช่วยลดปริมาณแสง UV ได้บางส่วนครับ วัสดุกรอบกระจกเป็น Aluminium อบสีขาว

ผนังด้านนี้ของจริงจะเป็นฉาบเรียบทาสี ติดวอลเปเปอร์นะครับ เราสามารถ Built-In เป็นชั้นวางทีวีและเก็บของได้ตามใจชอบ จัดว่าเหลือเฟือมาก ใส่ทีวีจอใหญ่ๆ 60-70 นิ้ว

ภาพรวมห้องรับแขกหน้าบ้าน ระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตร

ถัดจากโซฟารับแขก เข้ามาเป็นส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร และ Pantry ซึ่งวางอยู่ติดกัน ส่วนทางขวามือเป็นพื้นที่ Double Living Area ครับ

หน้าตาบ้านเปล่าเป็นเช่นนี้

โต๊ะรับประทานอาหารนี่ก็ยังจัดเป็นส่วนกึ่งๆรับแขกได้อยู่ จึงเอามาไว้ติดกับห้อง Living 1 แต่ในบ้านหลังนี้ใส่โต๊ะแบบ 4-6 ที่นั่งมาให้ดูเท่านั้นเอง ในความเป็นจริง บ้านนี้ขายแบบบ้านเปล่าอยู่แล้ว พื้นที่ก็ค่อนข้างเหลือเฟือ เราจะจัดเป็นโต๊ะยาว 8 ที่นั่ง หรือ 10 ที่นั่งก็ได้ (ถ้าไม่ใส่ Pantry ทางซ้ายมือ) หรือใครจะอยากจัดโต๊ะกลม ก็ยังพอมีพื้นที่ให้ทำได้ครับ แต่แนะนำเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมดีกว่า จะได้มีพื้นที่รอบๆโต๊ะเยอะหน่อย

ถัดจากโต๊ะรับประทานอาหารเข้ามา เป็นส่วนที่เรียกว่า Living Area 2 ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ จริงๆแล้วเป็นฟังก์ชั่นที่ไม่ต้องมีก็ได้ เราสามารถกั้นห้องตรงนี้ทำเป็นห้องเอนกประสงค์อื่นๆได้ตามใจชอบ แต่ในบ้านตัวอย่างเขาใส่มาให้ดูเป็นไอเดีย เพื่อที่จะแยกฟังก์ชั่นการใช้งานห้องรับแขก กับการนั่งเล่นดูทีวีบนโซฟาออกจากกัน เช่น บางทีพวกผู้ใหญ่อาจจะนั่งคุยกัน อยู่ที่โซฟารับแขก จิบน้ำชา กินขนม พวกเด็กๆอาจจะมานั่งรวมตัวกันที่โซฟาดูทีวี นั่งเล่นเกม หรือทำกิจกรรมอื่นๆ แยกกลุ่มออกไป แต่ก็ยังอยู่ในจุดที่ไม่ห่างไกลกันมาก มี Space ที่เชื่อมต่อกันได้อยู่

ผนังของห้องนั่งเล่น 2 นี้ อยู่ติดกับพื้นที่สวนข้างบ้าน 2 ด้านเลย และมีประตูให้เปิดออกไปที่สวนได้ และได้แสงธรรมชาติส่งเข้ามาได้เต็มที่เลย สามารถเอาไอเดียเป็นเตียงนอนอ่านหนังสือเล่นแบบนี้ก็ได้

ต่อมาเป็นทางเดินเข้าไปยังโถงบันได ระหว่างทางจะเจอห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างก่อน

ลองมายืนจากบันไดจะเห็นว่าห้องนอนห้องนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากเลยมีการใช้กระจกเข้ามุมมาช่วยทำให้ดูโล่งโปร่งขึ้น

แต่ว่ารูปแบบบ้านมาตรฐานของจริงตัววงกบจะเป็นแบบนี้ กระจกเป็นบาน Fixed เช่นเดียวดัน

ห้องนอนชั้นล่างนี้เป็นห้องนอนที่ไม่มีห้องน้ำในตัวครับ เหมาะสำหรับให้ผู้สูงอายุที่ไม่ชอบเดินขึ้นชั้น 2 หรือให้แขกที่มาพักที่บ้าน พักที่ห้องนี้ ถ้าใครไม่ได้ใช้อาจจะทำเป็นห้องอื่นๆ เช่นห้องรีดผ้า ห้องเก็บของใช้ต่างๆ ห้องให้แขกหรือเพื่อนมานอนก็แล้วแต่ตามใจ

พื้นที่ทางเดินฝั่งประตูทางเข้าค่อนข้างเหลือพอสมควร สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ตัวนึง

ปลายเตียงก็มีพื้นที่เหลือสำหรับตู้เสื้อผ้า และจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้

มุมนี้มองออกไปโถงทางเดินผมว่าห้องนี้เหมาะสำหรับจะเป็นห้องผู้สูงอายุนะครับ เพราะเวลาลูกหลานไปมาท่านจะได้เห็น และดูไม่เหงาด้วยเห็นคนเดินไปๆมาๆ ตำแหน่งของห้องน้ำก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกันเลยถือว่าใกล้นิดเดียว

ออกจากห้องนอน เดินต่อมายังโถงกลางบ้าน ทางซ้ายจะเป็นประตูเปิดออกไปยังโรงรถ ส่วนตรงไปทางขวามือเป็นทางเข้าครัว เราไปดูห้องครัวกัน

ประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างด้านหลังครัว ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งสองบาน สำหรับให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ และสำหรับการเปิดระบายอากาศ พื้นที่เคาน์เตอร์ครัว และส่วนเตรียมอาหาร ห้องครัวของบ้านจะเป็นครัวไทยแบบปิด แยกส่วนออกไป มีประตูกั้น พื้นที่ครัวของจริงไม่มีเตาและไม่มีเครื่องดูดควันนะ  (รูปทางซ้ายมือเป็นห้องครัวบ้านตัวอย่าง ส่วนรูปขวามือเป็นห้องของบ้านมาตรฐานที่จะได้นะครับ)

ชุดครัวที่ได้ท๊อปเป็นเมลามีนกันน้ำ หน้าบานตู้เป็นลามิเนตสีลายไม้โอ๊ค มีด้ามจับเปิดปิดทุกบาน บ้านแบบใหม่นี่มีการพัฒนาให้หน้าบานแล้วนะครับ โครงการเก่าๆจะเป็นแค่ก่อเคาน์เตอร์ไม่มีหน้าบานมาให้

อ่างล้างจานขนาดเล็กไปนิดหน่อยของ HAFELE ใครชอบแบบใหญ่ก็หาเปลี่ยนหรือติดเพิ่มเองได้

ฟังก์ชั่นของห้องน้ำห้องนี้ ก็คือว่าครบ เพราะสามารถอาบน้ำได้ ใช้งานจริงจังได้เลย พื้นที่ก็ให้มาหลวมๆ วางสุขภัณฑ์ต่างๆได้ 3 Fixtures ตามปกติเหมือนห้องก่อน  พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.9 x 1.3 เมตร  แต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมา ห้องน้ำพื้นลดระดับลงมาจากโถงทางเดินประมาณ 7 ซม. และพื้นที่อาบน้ำพื้นลดระดับ ลงมาอีก 2 ซม.

ชุดอ่างล้างมือ ที่ติดตู้เก็บของใต้อ่างมาให้ด้วย รอบๆมีพื้นที่วางของพอประมาณ

ต่อมาเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 มีห้องเก็บของใต้บันได โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก  ห้องเก็บของใต้บันไดปูด้วยกระเบื้องเคลือบเงาไซส์ 30 x 30 cm. ใส่ตู้ไฟ และงานระบบต่างๆไว้ใต้บันไดด้วย

พื้นบันไดเป็นไม้เต็มแผ่นแต่ทาสีโทนสีเทาเอาไว้รวมถึงราวจับ

ราวบันไดของบ้านทั้ง 3 แบบจะเหมือนกัน คือเป็นราวบันไดต่อกับเหล็ก Wrought Iron นำเข้า ชานพักบันไดเต็มพื้นที่ เป็นชั้นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว ไม่มีขั้นบันไดสามเหลี่ยม

เงยหน้าขึ้นมาบริเวณชานพักบันไดจะเจอกับหน้าต่างช่องแสง ตรงหน้าต่างนี้จะมีบานกระทุ้งเล็กๆอยู่อีกหนึ่งบาน เพื่อเปิดรับลมธรรมชาติ ที่จะไหลเข้าบ้านได้ ในกรณีที่เปิดหน้าต่างบานอื่นๆควบคู่กันไปด้วย ซึ่งการที่ใส่เป็นบานเล็กแบบนี้จะได้ไม่ต้องเปิดบานใหญ่ทั้งบาน (แต่ควรจะไปติดมุ้งลวดเพิ่มเติมนะครับ พวกแมลง หรือ จิ้งจก จะได้ไม่เข้ามาในบ้าน)

พื้นที่ชั้น 2 นี้เป็นพื้นลามิเนตทั้งหมด

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ความสูงพื้นถึงฝ้าของชั้นบนอยู่ที่ 2.80 เมตร ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ Family Area เป็นเหมือนห้องนั่งเล่นของคนที่อยู่ชั้นบน ทำหน้าที่หลักๆคือ เอาไว้ดูทีวีเวลาขี้เกียจเดินลงไปข้างล่าง หรือสมาชิกในครอบครัวต้องการดูกันคนละรายการ ก็แยกๆจุดกันไป

พื้นที่วางโซฟานั่งเล่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสมาชิกและรูปแบบความชอบของแต่ละครอบครัวนะ

หน้าต่างช่องแสงบริเวณนี้จะเป็นบานกระทุ้งทั้งหมดแบบนี้ ที่วงกบประตูและหน้าต่างทุกบ้าน ของบ้านทุกหลัง จะติดระบบป้องกันการโจรกรรมด้วย โดยจะเป็นระบบ Shock Sensor ตรวจจับการกระแทก และ Magnetic Sensor  ที่ตรวจจับการงัดแงะ ซึ่งมันจะร้องเตือนถ้ามีคนพยายามจะเข้ามาในบ้าน

ตัวสัญญาณกันขโมย จะเชื่อมกับแผงควบคุมที่ติดอยู่ที่ชั้นสอง ซึ่งตัวแผงควบคุมนี้จะส่งสัญญาณไป 2 จุด ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์บ้าน โดยจะโทรไปยังป้อมรปภ.กลางของหมู่บ้าน และโทรเข้ามือถือของเจ้าของบ้าน กรณีที่เราไม่อยู่บ้าน ก็จะสามารถรู้ได้ แต่เราต้องเสียบสายโทรศัพท์บ้านเอาไว้นะครับ

มาดูห้องนอนเล็กฝั่งหน้าบ้านกันบ้าง สิ่งที่ผมสะดุดตาอย่างแรกคือ ห้องนี้ช่องแสงเยอะมากกก กลางวันไม่ต้องเปิดไฟเลย สามารถนั่งเล่นอ่านหนังสือได้สบาย ดูโปร่งโล่ง แต่ข้อเสียคือก็รับไอแดดเข้ามาด้วยเช่นกัน ม่านอาจจะเอาไม่อยู่ต้องเปิดแอร์ช่วยตลอดเวลาถ้าอยู่

พื้นที่ด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่งเหลือเดินได้สบายๆทั้งสองด้าน แต่ถ้าเราไม่ได้ตกแต่งตามแบบบ้านตัวอย่าง ขยายเตียงไปเลยครับ 5 ฟุต 6 ฟุต เอานอนสบายๆไปโลด

ด้านข้างเตียงฝั่งขวามีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอยู่ และก็หน้าต่างบาน Fixed เป็นกระจกเข้ามุมครับ

ห้องนอนเด็กซึ่งพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าขนาดนี้ก็น่าจะพอเหลือเฟือ ส่วนผนังทางขวามือเป็นไอเดียว่าสามารถทำเป็นชั้นวางของสะสมโขว์ได้ หรือจะทำเป็นชั้นวางหนังสือก็ดี

พื้นที่ปลายเตียงเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อเนกประสงค์สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นดูทีวี หรือมุมโต๊ะทำงานอ่านหนังสือ วางคอมพิวเตอร์ก็ได้

ลองเปิดผ้าม่านให้ดูให้เห็นหน้าต่างช่องแสงบานต่างๆครับ

ห้องน้ำขนาดไม่ใหญ่มากแต่ฟังก์ชั่นสามประการครบครับ พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาจากห้องนอนประมาณ 3 ซม. และส่วนพื้นที่อาบน้ำลดลงมาอีกประมาณ 3 ซม.

ชุดสุขภัณฑ์อยู่ติดกับพื้ที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.95 x 0.95 เมตร

ด้านข้างสุขภัณฑ์มีหน้าต่างระบายอากาศบานกระทุ้งเอาไว้ให้ ส่วนผนังข้างชุดฝักบัวมีเซาะร่องเอาไว้ให้ 2 จุดสำหรับเก็บของใช้อาบน้ำทั่วไปได้

ห้องนอนเล็กฝั่งหลังบ้าน เข้ามาในห้องแล้วจะเห็นแบบนี้ ทางขวาเป็นเตียงนอน ปลายเตียงวางชั้นวางของได้ระหว่างหน้าต่างช่องแสง

ระยะทางเดินปลายเตียงเหลือพอสมควร แต่ห้องนี้วางเตียงไว้แค่ไซส์ 3 ฟุต เอาเตียงชิดผนังไว้ฝั่งนึง

ถ้าเราไม่เอาโต๊ะหัวเตียงมาวางก็สามารถขยายเตียงเป็นไซส์ 5 ฟุตได้นะครับ นอนสบายกว่า ส่วนพื้นที่ทางเดินอีกฝั่งเชื่อมไปยังตู้เสื้อผ้า

พื้นที่ตู้เสื้อผ้าอยู่ติดกับตรงทางเดินเข้าห้องน้ำ

รูปแบบภายในห้องน้ำเหมือนเดิมครับ ไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ห้องน้ำขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.9 x 1.3 เมตร

อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยผืนผ้า มีชุดตู้ใต้อ่างเก็บของรอบๆเคาน์เตอร์อ่างได้ วัสดุของ COTTO ทั้งหมด

ชุดฝักบัวและหน้าต่างช่องแสงหันหน้าเข้าหากัน

มาดูห้องสุดท้าย Master Bedroom พื้นที่จัดมาเหลือเฟือ ดูจากการที่วางเตียงขนาด 6 ฟุตพร้อมฐานเตียง และโต๊ะข้างหัวเตียงลงไปแล้ว ยังมีพื้นที่ทั้ง 3 ด้านรอบเตียง

บ้านมาตรฐานของจริงหน้าตาเช่นนี้

ระยะปลายเตียงเหลือเดินสวนกันสองคนได้สบายๆ

พื้นที่ด้านข้างเตียงสามารถวางโต๊ะหัวเตียงขนาดใหญ่ได้เลย

ปลายเตียงจะมีหน้าต่างช่องแสงบานเลื่อนมาอีกหนึ่งจุด พื้นที่ด้านข้างสามารถทำเป็นชุดโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้

ประตูกระจกบานเลื่อนที่ออกไปยังระเบียงเป็นกระจกเข้ามุมทั้งสองฝั่ง

พื้นที่ระเบียงด้านนอกขนาดกว้างมากสามารถจัดสวนกระถางได้เลย ราวกันตกเป็นโครงเหล็กสีดำกับกระจกนิรภัยสีเขียวตัดแสงสูงรวมประมาณ 1.1 เมตร

กระจกเข้ามุมทั้งสองฝั่ง ถ้าหาผ้าม่านที่เหมาะสม จะทำให้ได้รับมุมมองที่กว้างออกไปยังด้านอกบ้านได้สบายตาเลยละ

ทางซ้ายจะแยกมาเป็นห้อง Relax Area หรือเป็นเหมือนห้อง Living Room ขนาดเล็กๆ ส่วนตัวๆสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เอาไว้พักผ่อน หรือเปลี่ยนอิริยาบท เราไม่จำเป็นต้องจัดเป็นโซฟาดูทีวีก็ได้ จะทำเป็นมุมทำงานก็ได้

Idea มุม Walk in closet กั้นฉากกั้นกระจกเป็นสัดส่วน

หน้าห้องน้ำจะเป็น Walk-in Closet แบบ ไม่ใหญ่มาก

ห้องน้ำ Master Bathroom ครับ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องผิวด้านไซส์ 60 x 60 cm. มีฟังก์ชั่นอ่างอาบน้ำด้วย ตัวห้องน้ำถูกลดระดับลงมาประมาณ 5 ซม. เวลาทำความสะอาดจะได้ไม่กระเด็นมาเปียกพื้นด้านนอก ชุดอ่างล้างมือและสุขภัณฑ์เหมือนกัน

ตำแหน่งวาง Shower Box อยู่ตรงข้ามกับสุขภัณฑ์ ห้องนี้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้เป็นแบบกระจกนิรภัย กรอบ Stainless พื้นที่อาบน้ำลดระดับลงอีกประมาณ 2 ซม. ขนาดประมาณ 0.9 x 1.0 เมตร ภายในพื้นที่อาบน้ำกับอ่างอาบน้ำจะกั้นด้วยกระจกอีกชั้นนึงทำให้แสงส่องเข้ามาได้ และเป็นชั้นวางของไปในตัวด้วย

ส่วนอ่างอาบน้ำอยู่ตรงข้ามกับอ่างล้างมือมีช่องแส่งที่ปลายเท้า

ชุดฝักบัวที่มากับอ่างอาบน้ำของ COTTO เช่นกัน

แบบบ้านใหญ่-ชั้น-1

แปลนบ้านหลังใหญ่ มีที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 336 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ห้องรับแขก 1 ครัวปิด 1 ห้องคนรับใช้ 3 ที่จอดรถ  แปลนชั้นล่าง จากหน้าบ้านเข้ามาจะมี Living Area ด้านหน้าที่เป็นส่วนรับแขก ส่วน Living Area 2 จะเข้าไปอยู่ด้านหลัง สำหรับคนในบ้านมานั่งพักผ่อน ซึ่งแบบนี้จะแยกจากกันได้ชัดเจนและเหมาะสมกว่าแบบกลาง โต๊ะรับประทานอาหาร วางอยู่ติดกับ Pantry จะอยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นทั้งสองห้อง ถัดเข้ามาเป็นโถงบันไดสำหรับขึ้นชั้นสอง มีห้องเก็บของใต้บันไดด้วย

ตรงทางเดินจากโถงบันได ไปยังส่วนครัวที่อยู่ด้านหลัง จะมีห้องนอนชั้นล่าง คั่นอยู่ตรงกลาง ห้องนอนชั้นล่างนี้จะใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุก็ได้ หรือจะใช้เป็นห้องนอนสำหรับแขกที่มาพักที่บ้านก็ได้เหมือนกัน โดยห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกห้องนอน ใช้ร่วมกับห้องรับแขก แต่สามารถอาบน้ำได้  ส่วนพื้นที่ครัวจะอยู่ด้านหลังติดกับประตูทางเข้าลานจอดรถ เปิดประตูออกจากครัวไปจะเป็นลานซักล้างด้านหลัง  แต่ที่อยู่ติดกับครัวจะมีห้องนอนของแม่บ้านอยู่ด้านนอกด้วย มีประตูเข้าจากนอกบ้านแยกต่างหาก และมีห้องน้ำให้ในตัว

แบบบ้านใหญ่-ชั้น-2

พอขึ้นมาที่ชั้นสองแล้วจะเจอกับ Family Area ก่อน และมีห้องนอน 3 ห้อง แต่ในห้องนอนใหญ่สุด จะเพิ่มฟังก์ชั่นที่เป็นห้องนั่งเล่น “Relax Area” ที่อยู่ในห้องนอนมาด้วย สำหรับเป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัวอยู่ในบ้าน แต่ทีเด็ดคือห้องนอน Master Bedroom ที่ใส่ Walk-in Closet แบบ Full-Size มาให้ 2 ฝั่ง และขยายขนาดของห้อง Relax Area ในห้องนอนให้กว้างขึ้น และใช้งานได้ดีขึ้น ส่วน Master Bathroom จะเพิ่มฟังก์ชั่นอ่างอาบน้ำเข้ามา

**เนื่องจากแปลงของหลังนี้ค่อนข้างคล้ายกับหลังแรก(ไซส์กลาง) ผมจะขอพาไปดูแบบภาพรวมหน่อยไม่เน้นเจาะวัสดุมากเหมือนหลังแรกครับ

ตัวบ้านสูงกว่าระดับถนนในโครงการเล็กน้อย พื้นลานจอดรถเป็นพื้นทรายล้าง ปูทับบนพื้นคอนกรีต

2re

พื้นที่ลานจอดรถหลังนี้จอดได้ 3 คันครับ ด้านหลังตรงนี้จะมีประตูทางเข้า ฝั่งลานจอดรถอยู่ด้วย พร้อมกับ Step บันได 1 ขั้น ห้องเก็บของติดกับโรงรถ ปิดด้วยบานประตูสีขาว มีช่องระบายอากาศ

เดินมาที่หน้าบ้าน ตรงนี้จะเป็นประตูทางเข้าบ้านหลัก เฉลียงหน้าบ้านปูด้วยกระเบื้องผิวหยาบ มีไฟสิ่งส่องสว่างข้างเสาเอาไว้ให้สองจุด

ทางเดินไปยังด้านข้างบ้านของจริงจะเป็นสนามหญ้าปูด้วยแผนคอนกรีตทางเดิน คล้ายๆกับหลังแรก และลงต้นไม้เอาไว้ให้รอบๆรั้ว

IDEA จากโ๕รงการ ปูไม้ระแรงฝั่งประตูทางออกด้านข้างบ้าน ทำเอาไว้เป็นมุมน่าเล่นน่าใช้งาน

พื้นที่ซักล้าง อยู่ติดกับปั๊มน้ำ และถังเก็บน้ำ มีเดินท่อน้ำทิ้งเอาไว้ให้ ประตูแรกทางขวามือเป็นห้องครัว ส่วนอีกบานนึงเป็นห้องนอนแม่บ้านแยกส่วน

ภายในห้องแม่บ้าน คงวางได้แค่เตียง 3 ฟุต กับตู้เสื้อผ้าก็เต็มแล้ว แต่มีห้องน้ำในตัวนะครับ

วัสดุภายในห้องน้ำก็ได้ของ Cotto เช่นเดียวกันแต่ลดสเป็คลง

กลับมาที่ประตูหน้าบ้านทางเข้าหลัก เป็นแบบบานคู่ วัสดุเป็นไม้สักเคลือบผิวด้าน หลังแรกผมลืมเปิดบานคู่ให้ดูแบบนี้ให้เห็นว่าเราสามารถยกของชิ้นใหญ่เข้ามาได้ถ้าเปิดใช้งานคู่

เข้าบ้านมาปุ๊บ ส่วนแรกที่เจอก็จะเป็นห้องรับแขกก่อน ซึ่งจะเป็นห้องรับแขก 1 สำหรับต้อนรับแขกโดยเฉพาะ แต่ถ้าเป็นโซฟานั่งดูทีวีจะอยู่แยกออกไปอีกส่วนหนึ่ง บ้านหลังใหญ่สุดนี้ Spec วัสดุในบ้านหลังใหญ่สุดนี้ Spec วัสดุในบ้านจะถูกอัพเกรดขึ้นมาจากบ้านสองแบบแรกอยู่หลายส่วน อย่างเช่น พื้นบ้านบริเวณส่วนรับแขกตรงนี้ จะปูด้วยหินอ่อน

ผนังด้านนี้ของจริงจะเป็นฉาบเรียบทาสี ติดวอลเปเปอร์นะครับ เราสามารถ Built-In เป็นชั้นวางทีวีและเก็บของได้ตามใจชอบ จัดว่าเหลือเฟือมาก ใส่ทีวีจอใหญ่ๆ 60-70 นิ้ว

บริเวณโซฟานั่งเล่นจะติดกับหน้าต่างบานเลื่อนทั้งสองจุด ทำให้ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่ และสามารถมองออกไปที่สวนรอบบ้านได้ เวลากลางวันไม่ต้องเปิดไฟยังนั่งอ่านหนังสือได้สบายๆ กระจกพวกนี้จะเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง เพื่อลดปริมาณแสงสว่างที่จ้าเกินไป และช่วยลดปริมาณแสง UV ได้บางส่วนครับ ภาพรวมห้องรับแขกหน้าบ้าน ระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตร (ถ้าทำเป็นพื้นที่ดูทีวีด้วย)

ถัดจากโซฟารับแขก เข้ามาเป็นส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร และ Pantry ซึ่งวางอยู่ติดกัน โต๊ะรับประทานอาหารนี่ก็ยังจัดเป็นส่วนกึ่งๆรับแขกได้อยู่ จึงเอามาไว้ติดกับห้อง Living 1 ในบ้านหลังนี้ใส่โต๊ะแบบจัดเต็มโต๊ะยาว 6-8 ที่นั่ง หรือ 10 ที่นั่งเลยก็ได้ (ถ้าไม่ใส่ Pantry ทางขวามือ)

ประตูกระจกบานเลื่อน ที่ได้แสงส่องเข้ามาบริเวณโต๊ะทานอาหาร เวลาจะเข้าออกก็ระวังนิดนะครับเป็นธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม.

มาดูส่วน Pantry ที่อยู่ข้างๆโต๊ะกินข้าวบ้าง สำหรับใช้งานเอนกประสงค์ เช่น วางถาดขนม วางอาหารที่เตรียมจะเสิร์ฟขึ้นโต๊ะอาหาร หรือใครจะใช้เป็น Breakfast Bar ก็ทำได้  **พื้นที่ตรงนี้ จริงๆแล้วก็ให้มาเป็นพื้นที่โล่งๆนะครับ จะไม่ใส่อย่างที่เค้าทำให้ดูก็ได้ เผื่อว่าใครจะอยากได้พื้นที่ของโต๊ะรับประทานอาหารที่ใหญ่ขึ้น ก็จะได้ขยับมาแทนที่

ถัดจากโต๊ะรับประทานอาหารเข้ามา เป็นส่วนที่เรียกว่า Living Area 2 ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆ เพื่อที่จะแยกฟังก์ชั่นการใช้งานห้องรับแขก กับการนั่งเล่นดูทีวีบนโซฟาออกจากกัน เช่น บางทีพวกผู้ใหญ่อาจจะนั่งคุยกัน อยู่ที่โซฟารับแขก จิบน้ำชา กินขนม พวกเด็กๆอาจจะมานั่งรวมตัวกันที่โซฟาดูทีวี นั่งเล่นเกม หรือทำกิจกรรมอื่นๆ แยกกลุ่มออกไป แต่ก็ยังอยู่ในจุดที่ไม่ห่างไกลกันมาก มี Space ที่เชื่อมต่อกันได้อยู่

ผนังของห้องนั่งเล่น 2 นี้ อยู่ติดกับพื้นที่สวนข้างบ้าน 3 ด้านเลย และมีประตูให้เปิดออกไปที่สวนได้ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบฟังก์ชั่นห้องนั่งเล่น 2 เราจะกั้นห้องนี้เป็นห้องทำงานก็เหมาะเหมือนกัน หรือจะเป็นห้องอ่านหนังสือ ห้องสมุดเล็กๆในบ้าน ก็จะได้มุมที่ผ่อนคลาย แบบส่วนตัวๆอีกมุมหนึ่ง

Idea ของบ้านตัวอย่าง พื้นทางออกด้านข้างทางนี้จะทำเป็นพื้นไม้ระแนงให้สูงใกล้เคียงกันก็ได้ (ของจริงจะต่ำลงไปประมาณ 20 ซม.)

ต่อมาเป็นทางเดินเข้าไปยังโถงบันได ระหว่างทางจะเจอห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างก่อน

ห้องนอนชั้นล่างนี้เป็นห้องนอนที่ไม่มีห้องน้ำในตัวครับ เหมาะสำหรับให้ผู้สูงอายุที่ไม่ชอบเดินขึ้นชั้น 2 หรือให้แขกที่มาพักที่บ้าน พักที่ห้องนี้ ถ้าใครไม่ได้ใช้อาจจะทำเป็นห้องอื่นๆ เช่นห้องรีดผ้า ห้องเก็บของใช้ต่างๆ ตามลักษณะการใช้งานของแต่ละครอบครัวนะ

พื้นห้องนอน เป็นพื้นปาร์เก้ ไม้มะค่า พื้นที่ในห้องก็เรียกว่าใหญ่พอที่จะทำเป็นห้องนอนได้สบายๆ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า เตียง 6 ฟุต โต๊ะหัวเตียง แล้ววางโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงานได้อีก

ห้องนี้อยู่ติดกับหน้าบ้าน มีหน้าต่างเปิดออกระบายอากาศได้ มีแสงสว่างธรรมชาติส่องเข้าในห้อง ชุดหน้าต่างเป็นบานเลื่อนออกตรงกลาง นอกนั้น Fixed เอาไว้ครับ

ปลายเตียงก็มีพื้นที่เหลือสำหรับวางทีวีและโต๊ะอเนกประสงค์

ตำแหน่งตู้เสื้อผ้าเอาไว้ข้างประตู หรือใครจะชอบไอเดียแบบบ้านหลังกลางที่เป็นกระจกเข้ามุม มองเห็นใครผ่านไปมาก็เอาไปใช้ได้นะครับ

ออกจากห้องนอน เดินต่อมายังโถงกลางบ้าน ทางขวาจะเป็นประตูเปิดออกไปยังโรงรถ ด้านซ้ายเป็นทางเข้าห้องน้ำ ส่วนตรงไปเป็นทางเข้าครัว เราไปดูห้องครัวกันก่อน

ห้องครัวของบ้านจะเป็นครัวไทยแบบปิด แยกส่วนออกไป มีประตูกั้น พื้นที่ครัวของจริงที่ให้มาจะมีแค่เคาน์เตอร์ครัว 2 ฝั่ง ท้อปหินแกรนิต ไม่ใส่หน้าบาน ไม่มีตู้เก็บของด้านบน และไม่มีเตา ไม่มีเครื่องดูดควันนะครับ  ประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างด้านหลังครัว ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งสองบาน สำหรับให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ และสำหรับการเปิดระบายอากาศ พื้นที่เคาน์เตอร์ครัว และส่วนเตรียมอาหาร ของจริงไม่ได้ Hob&Hood

หน้าต่างช่องแสงอีกฝั่งหหน้าบ้านติดกับที่จอดรถครับ

พื้นที่เหลือเอาไว้สำหรับวางตู้เย็น 2 จุด เชื่อว่าบ้านขนาดใหญ่ครอบครัวใหญ่ขนาดนี้ที่วางจุดเดียวคงไม่พอเป็นแน่

รูปแบบหน้าต่างเปิดช่องแสงช่วยระบายอากาศเป็นบานกระทุ้งบนล่างแบบนี่

ฟังก์ชั่นของห้องน้ำห้องนี้ เหมือนบ้านหลังกลางทุกประการ ไม่ขออธิบายซ้ำนะครับ

ตำแหน่งห้องเก็บของอยู่ใต้บันไดเหมือนกัน

ต่อมาเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 มีห้องเก็บของใต้บันได โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นบันไดของบ้านหลัง Golden Thames จะเป็นไม้แดงเต็มแผ่น

ราวบันไดของบ้านทั้ง 3 แบบจะเหมือนกัน คือเป็นราวบันไดไม้แดง ต่อกับเหล็ก Wrought Iron นำเข้า ชานพักบันไดเต็มพื้นที่ เป็นชั้นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว ไม่มีขั้นบันไดสามเหลี่ยม

ที่โถงบันได มีการติดบานหน้าต่างเพื่อให้แสงส่องเข้ามาได้ ให้โถงบันไดสว่างในเวลากลางวัน รูปแบบหน้าต่างนี้จะมีบานกระทุ้งเล็กๆอยู่อีกหนึ่งบาน เพื่อเปิดรับลมธรรมชาติ ที่จะไหลเข้าบ้านได้

พอขึ้นมาชั้นบนจะเห็นว่าพื้นเป็นปาร์เก้ไม้มะค่าครับ แตกต่างจากบ้านไซส์กลางที่เป็นพื้นลามิเนต

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ความสูงพื้นถึงฝ้าของชั้นบนอยู่ที่ 2.80 เมตร ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ Family Area จะเป็นเหมือนห้องนั่งเล่นของคนที่อยู่ชั้นบน ทำหน้าที่หลักๆคือ เอาไว้ดูทีวีเวลาขี้เกียจเดินลงไปข้างล่าง หรือเวลาที่อยากจะดูทีวีพร้อมกัน แต่คนนึงอยากดูบอล อีกคนอยากดูละคร หรือไม่ก็เวลาที่ด้านล่างคุณพ่อคุณแม่มีแขกมาหาที่บ้าน แล้วไม่อยากให้ลูกๆลงไปรบกวน ก็ให้เด็กๆอยู่ที่ชั้น 2 นั่งเล่นกันไปตรงนี้ แต่ผมว่าบ้านหลังนี้พื้นที่ 336 ตารางเมตร พื้นที่ Family Area ตรงนี้น่าจะใหญ่กว่านี้หน่อย เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมได้ร่วมกันได้หลากหลายขึ้น แต่เข้าใจว่าอาจจะอยากให้ลงไปใช้พื้นที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างมากกว่า จึงไม่เน้นพื้นที่ข้างบนมากนัก ซึ่งมันก็แล้วแต่ความชอบของผู้อยู่อาศัยจริงๆครับ

พื้นที่วางโซฟานั่งเล่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสมาชิกและรูปแบบความชอบของแต่ละครอบครัวนะ

หน้าต่างช่องแสงบริเวณนี้จะเป็นบานกระทุ้งทั้งหมดแบบนี้

มาดูห้องนอนขนาดกลาง ที่อยู่หน้าบ้านกันก่อน

พื้นที่เตียงในห้องนี้ใส่เตียง 5 ฟุต ก็ยังมีระยะเหลือทางเดินด้านข้างซ้ายขวาอยู่พอสมควร

ผนังด้านหลังหัวเตียงเป็นผนังกระจกหลายๆบานประกอบกัน มีบานหน้าต่างสไลด์เปิดได้ พร้อมกับกระจกแบบเข้ามุม ให้สามารถมองเห็นวิวได้กว้างขึ้น

ข้างๆทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนกลาง จะมีเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนของคุณลูกด้วย หรืออาจจะเอาโต๊ะทำงานมาตั้ง แล้วใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานอ่านหนังสือก็ได้

ด้านหลังโซฟาเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน มีส่วนของระแนงเหล็กนอกบ้านที่เป็น Facade ช่วยบังแสงธนนมชาติได้ระดับนึง ส่วนทางซ้ายมือเป็นบานกระทุ้งครับ

มุมนี้แอบมีหน้าต่างช่องแสงให้ทะลุถึงกันได้อีก

ตรงข้างเตียงที่อยู่หน้าห้องน้ำ เป็นตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง

Layout ของห้องน้ำของห้องนี้ พอเข้ามาแล้วเจออ่างล้างมือทางขวาแบบนี้ แล้ววางโถสุขภัณฑ์ทางซ้าย ถัดไปเป็นโซนอาบน้ำแบบมีที่นั่งก่อคอนกรีตและปูกระเบื้องเอาไว้

ชุดอ่างล้างมือและสุขภัณฑ์

ชุดฝักบัว ด้านข้างเป็นผนังเซาะร่องเก็บของได้ 2 จุด ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่สามารถนั่งอาบได้มีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่ด้านหลัง พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.6 x 1.1 เมตร

ห้องนอนเล็กฝั่งหลังบ้าน เข้ามาในห้องแล้วจะเห็นแบบนี้ ทางซ้ายเป็นเตียงนอน ทางขวาเป็นพื้นที่ที่วางโซฟานั่งเล่น ด้านในเป็นห้องน้ำ กับ ตู้เสื้อผ้า

พื้นที่ปลายเตียงยังเหลือให้เดินผ่านได้ค่อนข้างกว้าง วางตู้เก็บของ หรือใส่ชั้นวางทีวีเต็มผนังได้เลย

ห้องนี้วางเตียงแบบไซส์ 5 ฟุตเอาไว้ให้ดูแบบนี้ทำให้นอนสบาย สามารถหาพื้นที่วางโต๊ะหัวเตียงได้แค่ฝั่งเดียวนะครับ

หน้าต่างช่องแสงกระจกบานเลื่อน ตัวกลอนหน้าต่างเป็นแบบ Double Lock กรอบหน้าต่างเป็นอลูมิเนียมสีดำ

ตู้เสื้อผ้าอยู่ทางด้านในสุดหน้าบริเวณหน้าห้องน้ำ  ทำเป็น Walk in closet แบบนี้ได้

เข้ามาดูพื้นที่ในห้องน้ำบ้าง จัดเป็น 3 ฟังก์ชั่นมาตรฐาน วางอ่างล้างหน้า ไว้คู่กับโถสุขภัณฑ์ทางด้านหน้า และมี Shower Box อยู่ทางด้านใน พื้นที่ Shower Box ขนาดใหญ่เหลือเฟือ แต่ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ซึ่งควรไปหาติดเอง เพื่อกั้นส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกันนะครับ เพราะไหนๆเขาก็จัดสรรพื้นที่มาให้แล้ว

พื้นที่รอบๆโถสุขภัณฑ์ให้มาแบบเหลือๆ นั่งได้แบบไม่อึดอัด ข้างๆโถสุขภัณฑ์ มีหน้าต่างบานกระทุ้งอีกหนึ่งบานสำหรับระบายอากาศในห้องน้ำ และสำหรับให้แสงส่องเข้ามาได้ เผื่อใครชอบอ่านหนังสือระหว่างทำธุระไปด้วย 😀 ข้างๆมีชั้นวางของสำหรับวางของกระจุกกระจิกได้ด้วย

ห้องนอนใหญ่พื้นที่จัดมาเหลือเฟือมากจริงๆ ดูจากการที่วางเตียงขนาด 6 ฟุตพร้อมฐานเตียง และโต๊ะข้างหัวเตียงลงไปแล้ว ยังมีพื้นที่ทั้ง 3 ด้านรอบเตียงเหลือขนาดนี้จะเหลือเยอะไปรึเปล่าหนอ

พื้นที่ปลายเตียง วางตู้เก็บของชั้นวางทีวีเอาไว้  ระยะเดินผ่านก็ยังมีเหลือมากอยู่

ระยะด้านข้างทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของเตียง เรียกว่าเหลือเฟือเกินทีเดียวครับ หาโต๊ะหัวเตียงไซส์ใหญ่ๆมาวางได้เลย

ประตูกระจกบานเลื่อนที่ออกไปยังระเบียงเป็นกระจกเข้ามุมทั้งสองฝั่ง

พื้นที่ระเบียงด้านนอกขนาดพอๆกับบ้านหลังกลาง ปูด้วยกระเบื้องผิวด้านไซส์ 30 cm.

มุมนี้ถ่ายย้อนกลับไปภายในห้องจะเป็น Relax Area และโซน Walk in closet

ทางซ้ายจะแยกมาเป็นห้อง Relax Area หรือเป็นเหมือนห้อง Living Room ขนาดเล็กๆ ส่วนตัวๆสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เอาไว้พักผ่อน หรือเปลี่ยนอิริยาบท เราไม่จำเป็นต้องจัดเป็นโซฟาดูทีวีก็ได้ จะทำเป็นมุมทำงานก็ได้

หน้าต่างช่องแสงที่อยู่ด้านหลังโซฟาขนาดใหญ่พอสมควรและเป็นกระจกเข้ามุมด้วย

Idea มุม Walk in closet กั้นฉากกั้นประตูกระจกเป็นสัดส่วน

ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นทางเข้าห้องน้ำและห้องแต่งตัว หน้าห้องน้ำจะเป็น Walk-in Closet แบบ Full-Size ใส่ตู้เสื้อผ้าได้ 2 ด้านเต็มที่เลย พื้นที่ตรงนี้พอลองใส่ตู้แบบเต็มๆขึ้นมาแล้ว ก็จะทำให้เก็บของอื่นๆเพิ่มได้ นอกเหนือจากเสื้อผ้าด้วย เช่นพวกกระเป๋า หรือ Accessory ต่างๆ แล้วแต่เราว่าจะจัดแบบไหนนะครับ  ที่ปลายสุดของทางเดินยังมีช่องแสงอีกหนึ่งจุดด้วย ต้องบอกว่าโครงการพยายามจะใส่ช่องแสงเพิ่มเข้าไปในทุกๆห้อง เพื่อลดการใช้แสงจากหลอดไฟ และเพิ่มความสามารถในการถ่ายเทอากาศในบ้านได้เป็นอย่างดี

ห้องน้ำ Master Bathroom ครับ ห้องนี้จะใส่ฟังก์ชั่นอ่างอาบน้ำเพิ่มเติมเข้ามาด้วย ตัวห้องน้ำถูกลดระดับลงมาประมาณ 7 ซม. เวลาทำความสะอาดจะได้ไม่กระเด็นมาเปียกไม้ปาร์เก้ครับ

อ่างล้างหน้าและพื้นที่วางของเก็บของขนาดใหญ่กว่าห้องอื่น

ด้านล่างเป็นช่องเก็บของ พวกอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในห้องน้ำ กระดาษทิชชู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีพื้นท่ีสำหรับติดเครื่องทำน้ำร้อนในห้องน้ำมาให้ด้วย ในขณะที่ห้องอื่นๆจะติดเครื่องทำน้ำอุ่น

ตำแหน่งวาง Shower Box อยู่ตรงกลางห้องน้ำเลย ห้องนี้ติดฉากกั้นอาบน้ำให้  เป็นแบบกระจกนิรภัย มีหน้าต่างช่องแสงบานกระทุ้งมาให้ด้วย(แต่อยู่ตำแหน่งผู้หญิงไม่น่าสามารถเอื้อมไปเปิดได้) พื้นที่อาบน้ำลดระดับลงอีกประมาณ 2 ซม. ขนาดประมาณ 1.0 x 1.0 เมตร

อ่างอาบน้ำ วางอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้า ยี่ห้ออ่าง, ก็อก และสุขภัณฑ์ต่างๆ เป็นของ COTTO ทั้งหมดครับ ปลายเท้าเป็นหน้าต่างช่องแสงบานกระทุ้งสามารถระบายอากาศความชิ้นได้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 18 November 2015

  • แบบบ้าน New Blue Danube พื้นที่ใช้สอย 238 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา ราคา 10.99 ล้านบาท
  • แบบบ้าน New Silver Rhine พื้นที่ใช้สอย 275 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 60 ตารางวา ราคา 12.49 ล้านบาท
  • แบบบ้าน New Golden Thames พื้นที่ใช้สอย 336 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 70 ตารางวา ราคา 15.99 ล้านบาท

  • ขายแบบบ้านเปล่า (ห้องน้ำ/เคาน์เตอร์ครัว/จัดสวน/ถังน้ำ/ปั๊มน้ำ/โทรศัพท์บ้าน 1 เบอร์/ระบบสัญญาณกันขโมยทั้งหลัง/ติด Wallpaper)
  • จอง 100,000 บาท (ทำสัญญา ติดต่อสอบถามเซลล์โครงการ)
  • ดาวน์ 20% (ระยะงวดผ่อนจ่าย ติดต่อสอบถามเซลล์โครงการ)
  • แปลงมุม ราคาเพิ่มอีก 200,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ Bangkok Boulevard รามอินทรา เป็นโครงการนี้คืออยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา แต่เป็นโครงการติดถนนใหญ่แบบต้องเข้าซอยของโครงการไปประมาณ 100 เมตร ถึงจะเจอกับซุ้มประตูทางเข้าของโครงการ เส้นทางหลักที่ใช้งานจะเป็น ถนนรามอินทรา ซึ่งที่ตั้งโครงการจะอยู่ไม่ห่างจากจุดตัดกับถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวนตะวันออก)ประมาณ 2.5 กม. ซึ่งช่วยให้การเดินทางไปโซนบางนาจะทำความเร็วได้ดี ถ้าจะใช้เส้นทางประเสริฐมนูกิจก็มีสะพานต่างระดับเส้น รามอินทรา-นวมินทร์ให้ใช้ แต่ถ้าจะเข้าเมืองแถวๆสยามนี่จะลำบากหน่อยเพราะเส้นทางที่มีระยะทางสั้นอย่างรามคำแหงดันเป็นเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นและรถติดเอาเรื่อง แนะนำว่าให้วิ่งเส้นประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วน-รามดินทรา)จะสะดวกและทำความเร็วได้ดีกว่าครับ

สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ในย่านนี้จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแนวราบซะเป็นส่วนมาก และมีสถานที่สำคัญๆหลายแห่งที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ แต่การเดินทางด้วยรถยนต์มีจุดที่ต้องระวังอยู่จุดนึงคือที่กลับรถครับ เพราะมันใกล้ทางทางเข้า-ออกของหมู่บ้านมากเกินไปทำให้ระยะที่จะชิดขวากลับรถค่อนข้างอันตรายแถมเป็นทางโค้งด้วย แนะนำว่าให้ตรงไปอีกหน่อยแล้วค่อยกลับรถจะปลอดภัยกว่ามาก ระยะทางที่เพิ่มขึ้นมาคือ 2.4 กม. ห้างที่มีให้เดินจะเป็นแฟชั่นไอแลนด์และพรอมมานาดที่ตอนนี้ตัวห้างพัฒนาไปมากและมีคนเดินเยอะเลย ส่วน Community Mall จะมีอมอรินีอยู่ใกล้ๆ ทั้งนี้ทั้งน้ันถ้าใครสะดวกปั่นจักรยานไประยะจะสั้นมาก ปั่นไปแฟชั่นไอแลนด์ 2 กม. และไปอมอรินีแค่ 600 เมตรเท่านั้น หรือถ้าจะไปเล่นน้ำที่สวนสยามก็ปั่นไปแค่ 1.6 กม. ส่วน Hyper Market ที่ใกล้สุดจะเป็น Big C ที่อยู่ในตัวห้างแฟชั่นไอแลนด์ จุดเด่นของโครงการอีกอย่างคือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย – ปากเกร็ด – มีนบุรี) สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานนีรพ.นพรัตนราชธานีซึ่งห่างจากทางเข้าหมู่บ้านประมาณ 600 เมตร แต่ปัจจุบันแผนงานก่อสร้างยังล่าช้าอยู่และยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง

ตัวโครงการออกแบบมาโดยค่อนข้างเน้นเรื่อง Security กับ Privacy สังเกตได้จากเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆที่มีมาให้ในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Double Gate Security การแบ่งโซนลูกบ้านกับโซนผู้มาติดต่อ, กล้อง CCTV รอบโครงการ, รั้วโครงการที่ต่อเติมขึ้นไปสูงๆ และใส่ระบบกันขโมยให้ทุกบ้าน ทุกบานประตูหน้าต่าง อีกสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือ พื้นที่สีเขียวในโครงการ ที่ตั้งใจใส่มาเยอะพอสมควร ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะโครงการนี้ใช้สวนสาธาณะส่วนกลางมาจากโครงการไลฟ์บางกอกบูเลอวาร์ดเมื่อสองปีที่แล้ว สังเกตเพิ่มเติมได้จากพื้นที่สวนสาธารณะ, แนวรั้วต้นไม้ตลอดทั้งโครงการ แม้แต่รั้วบ้าน หรือภายในบ้าน ก็จัดสวนให้ ใส่ต้นไม้มาแน่นดี สร้างความร่มรื่นในหมู่บ้านได้ดี

ตัวบ้านออกแบบมาถึงจะมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ในระดับ 227-336 ตารางเมตร แต่ไม่ได้เน้นให้มีฟังก์ชั่นเยอะๆ แบบมีห้องเยอะๆอยู่กันหลายๆคน แต่ให้จำนวนฟังก์ชั่นมีเท่าๆกับครอบครัวปกติ 3-4 ห้องนอน แต่เน้นขยายขนาดของห้องให้ใหญ่ขึ้น และให้ใช้ฟังก์ชั่นแต่ละจุดได้สะดวกสบายขึ้น ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง มีห้องนั่งเล่น 2-3 แห่งในบ้านหลังเดียว ซึ่งอาจจะตอบโจทย์หรือไม่ตอบโจทย์ของแต่ละครอบครัวอันนี้ต้องดูตัวเองนะครับ ส่วนตัวผมจากที่ดูแล้ว ตัวบ้านขนาดกลาง 275 ตารางเมตร ดูจะตอบโจทย์กับระดับ อยู่ในจุดที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากฟังก์ชั่นแทบไม่ต่างจากบ้านหลังใหญ่ 336 ตารางเมตร เพียงแค่พื้นที่จะเล็กกว่า แต่บ้านหลังใหญ่จะดูมีพื้นที่บางส่วนที่เกินๆมาที่อาจจะไม่ได้จำเป็นมาก เทียบกับเงิน 2-4 ล้านที่ต้องจ่ายเพิ่มจากบ้านขนาดกลาง ซึ่งคนที่เลือกบ้านหลังใหญ่สุด อาจจะมีความจำเป็นอย่างหนึ่งคือ ขนาดที่ดินที่ใหญ่กว่า กับจำนวนที่จอดรถที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดขายที่น่าสนใจของบ้านหลังใหญ่ครับ ส่วนคนที่กำลังเลือกระหว่างบ้านหลังกลาง กับหลังเล็ก ก็ให้มาดูความสำคัญของห้องแม่บ้าน กับห้องนอนชั้นล่างเป็นหลัก ซึ่งผมคิดว่า ถ้าจะต้องมีแม่บ้านมาอาศัยอยู่ในบ้านด้วย การมีห้องแม่บ้านก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี หรือถ้ามีสมาชิกผู้สูงอายุในบ้าน ความจำเป็นของห้องนอนชั้นล่างก็ควรจะให้อาศัยอยู่อย่างจริงจังได้มากขึ้นครับ

วัสดุที่ให้มาในบ้านก็ถือว่าให้มาสมราคาค่าตัว พื้นห้องนอนเป็นปาร์เก้, กระเบื้องแกรนิโต้ 60 x 60 ผสมพื้นหินอ่อนสำหรับบ้านหลังใหญ่, บันไดไม้จริง, ประตูไม้สัก, สุขภัณฑ์ COTTO ทั้งหลัง, ติดสัญญาณกันขโมยที่ประตูหน้าต่างทุกบาน, จัดสวนให้รอบบ้าน, กระเบื้องห้องน้ำแต่งลายโมเสก รวมถึงครัวที่มีให้พร้อมแต่ไม่มี Hob&Hood มาให้นะ รวมๆแล้วก็จัดว่าโอเค

ส่วนสาธารณูปโภคในโครงการก็ถือว่าให้มาโอเค น่าใช้งาน มีครบถ้วน แต่ห้องฟิตเนสเล็กไปนิดนึง มีพื้นที่สวนเยอะและจัดออกมาได้สวยน่าใช้งานมากๆ เมื่อเทียบกับราคาบ้าน, จำนวนยูนิต, ขนาดของที่ดิน และราคาค่าส่วนกลางที่ 40 บาท/ตร.วา/เดือน ถือว่าไม่ถูกไม่แพงครับปานกลาง

สาธารณูปโภคของที่นี่ จุดเด่นน่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย ทั้งตัว Access key card และระบบ Double Gates (ป้อมยาม 2 ชั้น) ก่อนเข้าส่วนที่พักอาศัย โครงการนี้มีกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการตลอด 24 ชั่วโมง(เท่าที่สอบถามมาคือจะมีกล้อง 2 ตัวต่อซอย) ตัวคลับเฮ้าส์ทั้งฟิตเนสและสระว่ายน้ำถือว่าค่อนข้างเล็กถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตทั้งครงการ สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด  7 x 15 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กและผู้ใหญ่ สระเด็กลึก 60 cm สระผู้ใหญ่ลึก 1.3 m ห้องฟิตเนสก็มีเครื่องเล่นประมาณ 6 เครื่อง

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 10-16 ล้านบาท, 18 November 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.0/10 – อยู่ติดถนนรามอินทรา(เข้าซอยของโครงการ100ม.) ใกล้ห้างใหญ่และคอมมูนิตี้มอลล์ อนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูมาเสริม
  • ความปลอดภัย 8.5/10 – Access key card ระยะไกล และระบบ Double Gates มีกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการ ตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมยทุกหลัง รั้วรอบโครงการสูง 3+1.5 ม. ได้ไฟโรงรถเปิดปิดอัตโนมัติ
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – บ้านหลังเล็กและหลังกลางใส่ฟังก์ชั่นมาดี แต่บ้านหลังใหญ่ยังมีพื้นที่ส่วนเกินเยอะ ทุกแบบเป็นแบบหน้ากว้างหมด
  • วัสดุ 7.5/10 – วัสดุส่วนใหญ่ อยู่ในเกณฑ์ มาตรฐานของระดับราคาบ้าน
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 –  ใส่ต้นไม้มาปานกลางเมื่อเทียบกับความหนาแน่ของลูกบ้านใช้ร่วมกันทั้งสองโครงการ มีต้นไม้ตามริมรั้วและถนนเมนโครงการ และสวนของจริงสวยน่าใช้
  • สาธารณูปโภค  7.25/10 – ส่วน Club House มีพื้นที่ค่อนข้างเล็กทั้งสระว่ายน้ำและฟิตเนสเมื่อเทียบกับปริมาณลูกบ้าน

7.90 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการนี้เหมาะสำหรับคนที่หาบ้านเดี่ยวย่านรามอินทรา ต้องการความสงบไม่ชอบความพลุกพล่าน มีสมาชิกในครอบครัว 4-5 คน ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบในระยะขับรถไม่ไกลมาก มองดูโครงการที่เน้นเรื่อง Security และ Privacy ของลูกบ้านเป็นส่วนสำคัญ และยอมจ่ายเงินเพิ่มส่วนหนึ่ง เพื่อให้ได้สินค้าแบรนด์ และเพื่อความสบายใจในคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขาย มีงบประมาณ 10-16 ล้านบาท หรือกำลังผ่อนชำระเดือนละ 75,000 – 120,000 บาท

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )