2bAmatara_Resort_&_Wellness

 

8 ตุลาคม 2558 – อมาธารา รีสอร์ท & เวลเนส เข้าบริหารโรงแรมชื่อดังบนแหลมพันวา ซึ่งเดิมคือ โรงแรมรีเจ้นท์ ภูเก็ต เคปพันวา ภายใต้ชื่อใหม่ “อมาธารา รีสอร์ท & เวลเนส” (Amatara Resort & Wellness) พร้อมเปลี่ยนรูปแบบเป็นเวลเนสรีสอร์ทสุดหรูแห่งใหม่ล่าสุดของภูเก็ต สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนและดูแลสุขภาพไปพร้อมกัน เผยมีแผนพัฒนาให้เป็นเวลเนสรีสอร์ทชั้นนำอย่างครบวงจรภายใต้มาตรฐานระดับสากล

“อมาธารา รีสอร์ท & เวลเนส” พร้อมนำเสนอบริการระดับเวิลด์คลาส และห้องพักหรูท่ามกลางธรรมชาติงดงามของแหลมพันวา โดยมีห้องพักระดับห้าดาว รวม 105 ห้อง ประกอบด้วย พาวิลเลี่ยน 22 หลัง ห้องสวีท 48 ห้อง และ พูลวิลล่า 35 หลัง ทุกห้องสามารถขมวิวทะเลและมีระเบียงส่วนตัว โดยเฉพาะพูลวิลล่ายังมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ภายในโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกสมบูรณ์แบบ ทั้ง ห้องอาหารและบาร์รวม 6 แห่ง สระว่ายน้ำกลางแจ้งความยาว 55 เมตร ฟิตเนสเซนเตอร์ สนามเทนนิส และห้องสมุด ภายใต้การออกแบบและตกแต่งในสไตล์ชิโน-โปรตุกีสผสมผสานกับวัฒนธรรมไทยโคโลเนียลร่วมสมัย เป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากโรงแรมริมทะเลทั่วไป

มร.บริช โบแร็ง ผู้จัดการทั่วไป อมาธารา รีสอร์ท & เวลเนส เปิดเผยว่า อมาธาราจะเป็นเดสทิเนชั่นใหม่ด้านเวลเนสของไทย ที่จะมีบริการดูแลแบบโฮลิสติกอย่างครบวงจร ประกอบธุรกิจการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยมุ่งเน้นบริการที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีของร่างกาย ด้วยโปรแกรมเวลเนสที่จะปรับร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ให้สู่สภาวะสมดุลด้วยวิถีธรรมชาติ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้ศาสตร์ต่างๆ จากตะวันออกและตะวันตก มาออกแบบเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับลูกค้า ด้วยบริการด้านบำบัดในโซนบำบัด ซึ่งประกอบด้วย คลินิกกายภาพบำบัด ดีท็อกซ์ล้างพิษ  ทรีตเมนท์สลิมมิ่งกระชับสัดส่วน โซนผ่อนคลายด้วย ทรีตเม้นต์หลากหลายรูปแบบ ทั้งสปาทรีตเม้นต์ที่เป็นเลิศ ทรีตเมนท์โฮลิสติก และโซนแอคทีฟ ด้วยฟิตเนส โยคะ พิลาทิส มวยไทย เรือคยัก วอเตอร์แอโรบิค นอกจากนี้ ยังเน้นให้ลูกค้ามีโภชนาการที่ดีด้วยอาหารสุขภาพ สปาคูซีน รอว์ฟู้ด    คลีนฟู้ด เครื่องดื่มจูสต่างๆ ที่ออกแบบโดยเชฟมือหนึ่งที่ได้รับรางวัลมากมาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การพักผ่อนที่แตกต่าง

อมาธารา รีสอร์ท & เวลเนส ยังจะมีบริการบำบัดแบบโฮลิสติกอื่นๆ เพิ่มเติม ใน 2-3 เดือนข้างหน้า อาทิเช่น เพิ่มโซนบำบัดด้วยการควบคุมอุณหภูมิ (Thermal Area) ซึ่งประกอบด้วย ห้องฮามัมแบบไทย (Hamam) แห่งแรกของโลก ด้วยทรีตเม้นท์ที่ผสมผสานกันระหว่างแนวคิดฮามัมของตุรกีและไทย ห้องผ่อนคลายด้วยเกลือ (Salt Relaxation) สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้  ห้องนวดโคลน (Rhassoul) เพื่อบำบัดสุขภาพผิวพรรณอย่าง

ลึกซึ้ง เป็นต้นเพื่อให้ลูกค้าได้พักผ่อน พร้อมให้ความรู้ ปรับไลฟ์สไตล์ ดูแลตนเองให้มีความสุขทั้งร่างกาย อาหาร อารมณ์ และจิตใจ ทั้งนี้ยังสอดคล้องกับการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้น อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทยมากขึ้นด้วย”