DSCF3536

หลังจากการร่วมทุนระหว่างอนันดาฯ และมิตซุย ฟูโดซัง กลุ่มธุรกิจใหญ่จากญี่ปุ่น ประสบความสำเร็จอย่างสูง ล่าสุดทั้งคู่ เตรียมสร้างแรงสะเทือนให้วงการอสังหาอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว 5  โครงการใหม่ล่าสุด ที่ร่วมพัฒนาด้วยกัน ในมูลค่าประมาณ 19,000 ล้านบาท เล็งทำเลศักยภาพสูงติดสถานีรถไฟฟ้า พร้อมทยอยเปิดตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา   ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวรถไฟฟ้าในประเทศไทยกับบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง เรสซิเด็นเชียล จำกัด (MFR) ในปี 2555 ภายใต้ชื่อบริษัท  อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย จำกัด (Ananda MF Asia)   นำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเลศักยภาพสูงสุด 4 โครงการ ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ด้วยจำนวนยูนิตกว่า 4,100 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 26,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้า Gen C และนักลงทุน เกินความคาดหมายที่ตั้งไว้เป็นอย่างมาก  และในปี 2558 บริษัทฯ ยังได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการร่วมทุนครั้งใหญ่อย่างต่อเนื่องอีกครั้งด้วยการพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าร่วมกันอีก 5 โครงการ จำนวนยูนิตรวมกว่า 4,200 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 19,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าสำหรับคนเมืองเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีต่างๆ ของญี่ปุ่น มาใช้เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่มาตรฐานในระดับสากลต่อไป

สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้ นอกจากได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการบริหารงานแล้ว กลุ่มมิตซุยยังคงมองเห็นศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากเศรษฐกิจที่มีทิศทางดีขึ้น การเมืองสงบ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและผู้บริโภค รวมทั้งการเดินหน้าลงทุนโครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาล หนุนให้ความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น บวกกับศักยภาพของอนันดาฯที่มีความโดดเด่นและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ติดรถไฟฟ้า จึงทำให้เกิดข้อตกลงในสัญญาร่วมทุนครั้งใหญ่อีกครั้งในปี 2558 เพื่อการร่วมทุนกับ บริษัท มิตซุย ฟูโดซังฯ โดย อนันดาฯ จะถือครองหุ้นในสัดส่วน 49% กลุ่มมิตซุย 49% และนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นสัดส่วน 2% ที่เหลือ ซึ่งอนันดาฯ จะรับหน้าที่หลักในการบริหารงานโครงการทั้งหมด และจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารร่วมกันระหว่าง มิตซุย ฟูโดซังฯ และ อนันดาฯ ฝ่ายละ 3 ท่าน มาร่วมกันตัดสินใจและอนุมัติค่าใช้จ่ายและการลงทุนต่างๆ

แผนการดำเนินงานภายใต้การร่วมทุนครั้งใหม่นี้ยังคงดำเนินงานภายใต้ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย (Ananda MF Asia)  โดยมีแผนการดำเนินงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าร่วมกันอีก 5 โครงการ ได้แก่ โครงการคิว ชิดลม-เพชรบุรี ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Hi-rise สูง 40 ชั้น ใกล้สถานีบีทีเอสชิดลม 650 เมตร จำนวน 359 ยูนิต โดยจะเปิด Pre-sales ในไตรมาสที่ 2-ต้นไตรมาสที่ 3  ของปีนี้ นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดอีก 4 โครงการ  4 ทำเล ย่านสีลม บางนา บางซื่อ ในไตรมาส 4 และโครงการย่านท่าพระ ในไตรมาส 1 ปีหน้า

การร่วมทุนทางธุรกิจครั้งใหม่นี้อนันดาฯ ได้จับมือกับ  มิตซุย ฟูโดซัง ซึ่งถือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการสนับสนุนทางธุรกิจ  ซึ่งมิตซุย ฟูโดซัง เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมากที่สุดด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น  ซึ่งจากการร่วมทุนที่ผ่านมาทำให้การขับเคลื่อนด้านกลยุทธ์ของบริษัทมีศักยภาพและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางอนันดาเชื่อว่า ความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมการออกแบบ และเทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง รวมถึงวิทยาการใหม่ๆ ที่ได้นำมาประยุกต์ใช้น่าจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าของอนันดาฯ 

มร. อะกิฮิโกะ ฟูนาโอกะ Executive Managing Officer. บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง  จำกัด กล่าวว่า จากความร่วมมือตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั้งปัจจุบัน บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของอนันดาฯ  ที่มีความเชี่ยวชาญและศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่โดดเด่นทั้งคุณภาพและการออกแบบที่บริษัทได้สะสมประสบการณ์  ผ่านกระบวนการความคิดสร้างสรรค์และพัฒนามาเป็นอย่างดี จนก่อให้เกิดโครงการที่พักอาศัยที่มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมและมีเอกลักษณ์ ทำให้ อนันดาฯ กลายเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคด้วยดีเสมอมา ถึงการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่ใส่ใจต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย การบริหารจัดการด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานมีความแข็งแกร่ง และที่สำคัญที่สุด คือ กลยุทธ์ในการเลือกทำเลที่ดีที่สุดเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีระบบขนส่งมวลชนรองรับ อาทิ รถไฟฟ้าสายต่างๆ ในกรุงเทพฯ ที่สามารถตอบโจทย์สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพ สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคในการเดินทางหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดได้เป็นอย่างดี ในราคาสมเหตุผลสามารถเป็นเจ้าของได้

Screen Shot 2558-06-08 at 11.08.47 AM

ด้วยหลักสำคัญในการบริหารงานของกลุ่มมิตซุย ที่มุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมองหาโอกาสสำหรับการตอบรับกับพันธมิตรที่มีศักยภาพและมีความแข็งแกร่งอย่าง อนันดาฯ ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่สอดคล้องกับแนวคิดในการมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับลูกค้าเพื่อสร้างศูนย์กลางการเชื่อมต่อระหว่างปัจจุบันและอนาคต ยังคงเป็นจุดสำคัญสำหรับการขยายธุรกิจของกลุ่มมิตซุยฯ ไปสู่ภูมิภาคข้างเคียง โดยความร่วมมือของทั้งสองบริษัทจะช่วยขยายฐานด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยีการก่อสร้าง การนำวัสดุที่ทันสมัย และการนำเทคโนโลยีในการพัฒนาพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุดมาใช้ในโครงการพัฒนาร่วมกันต่อไป

ประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นตลาดที่น่าลงทุนมากที่สุด เพราะเป็นเมืองที่กำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจ และด้วยแรงกระตุ้นจากภาครัฐบาลของไทยที่มีความมุ่งมั่นในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและมีแผนขยายการลงทุนรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายต่างๆ ในกรุงเทพจาก  67 สถานีที่มีอยู่เป็น 222 สถานีในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งความชัดเจนดังกล่าวทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยรอบสถานีใหม่เกิดขึ้น และด้วยแนวโน้มของการพัฒนาเมืองที่ขยายตัวออกไปส่งผลให้ภาพรวมของประเทศไทยเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งกลุ่มมิตซุยมองเห็นถึงศักยภาพดังกล่าวนี้  จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดความร่วมมือในการพัฒนาโครงการอสังหาฯในประเทศไทยกับทางอนันดาฯ  อีกต่อไปในอนาคต