10

 คุณ อดิศร วิเวกานนท์ (ซ้าย) และคุณชัยวัฒน์ ตันติวิวัฒน์ (ขวา)

“หัวใจในการทำธุรกิจของเราคือ การใส่ใจในเรื่องของการทำ R&D คือ ต้องสำรวจ ค้นคว้าและพัฒนาผลงานของเราอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะสิ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เรารู้ถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง และเมื่อไรที่เรารู้สึกว่าเราได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว เราก็จะพลาดยาก” (คำคมจากคุณอดิศร)

ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ณ วันนี้ กลุ่ม “บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัด ” นับเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่เราอาจจะต้องหันมามองแบบไม่ให้คลาดสายตาเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยมุมมอง แนวคิดของการหยิบทำเลชิ้นปลามันย่านแจ้งวัฒนะมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเป็นเจ้าแรกๆ ตั้งแต่ย่านนั้นยังไม่มีแหล่งธุรกิจใดมากนัก ภายใต้ชื่อ Proud 1 และ ProudX2 ซึ่งได้ปิดการขายไปแล้ว บวกกับการเข้าไปเจาะตลาดต่างจังหวัดอย่างภูเก็ตมาเมื่อปี 2555 ซึ่งสร้างคอนโดฯ 2 โครงการ ภายใต้แบรนด์ Zcape1(สเคป) และ “สเคป เอ็กซ์ ทู” (ZCAPE X2 CONDOMINIUM Phuket ) ซึ่งได้ปิดการขายไปแล้วเช่นกัน โดยล่าสุดก็แว่วมาว่าจะเปิดโครงการใหม่เร็วๆ นี้  ใกล้กับย่านไฮเอ็นลากูน่าอีกด้วย จากความสำเร็จเหล่านี้จึงทำให้เราอดไม่ได้ที่จะนัดสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับผู้บริหารของไตร พร็อพเพอตี้ ฯ ถึงการพัฒนาผลงานที่เติบโตไปอย่างรวดเร็วว่ามีมุมมองแนวคิดในการทำธุรกิจเช่นนี้ได้อย่างไร

ทั้งนี้เราได้ร่วมพูดคุยกับผู้บริหาร 2 ท่านของ บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัดคือ คุณ อดิศร วิเวกานนท์ ตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร และคุณชัยวัฒน์ ตันติวิวัฒน์ ตำแหน่งประธานกรรมการบริหารด้านการเงินและการลงทุน ซึ่งของเกริ่นนิดหนึ่งนะคะว่า ในบทสัมภาษณ์จะใช้คำว่า “ผู้บริหาร” แทนชื่อของทั้งสองท่านเพราะท่านช่วยกันตอบค่ะ ส่วน “โบ” ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าว จะเป็นผู้สัมภาษณ์นะคะ


โดยมีประเด็นคำถามดังนี้
โบ :อดถามไม่ได้ว่า เราทำธุรกิจในกรุงเทพฯ ได้เพียง 2 โครงการ แล้วก้าวกระโดดไปเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต่างจังหวัดได้อย่างไร ทำไมถึงไป และมีความยากง่ายยังไงบ้าง

01

ผู้บริหาร : การที่เราตัดสินใจไปเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต่างจังหวัดอย่างภูเก็ต เพราะเรามองว่าที่นั่นเติบโต และเราก็มีภาษีดีชาวบ้านตรงที่เรามีคนพื้นเพที่เป็นคนภูเก็ตอยู่แล้ว (คุณชัยวัฒน์นั่นเองค่ะ) ซึ่งจุดนี้ทำให้เรามีข้อมูลเชิงลึก สามารถรู้ถึงความเคลื่อนไหวและความต้องการของลูกค้าที่นั่นได้อย่างแท้จริง ซึ่งทำให้ทุกอย่างในการพัฒนาธุรกิจมันง่ายขึ้น และการมองสินค้าของเราตั้งแต่ต้นจนจบ และต้องจบได้สวย ใช้ได้จริง สิ่งนี้สำคัญ ฉะนั้นจะกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดก็ไม่ต่างกัน

“หัวใจในการทำธุรกิจของเราคือ การใส่ใจในเรื่องของการทำ R&D คือ ต้องสำรวจ ค้นคว้าและพัฒนาผลงานของเราอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะสิ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เรารู้ถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง และเมื่อไรที่เรารู้สึกว่าเราได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว เราก็จะพลาดยาก” (คำคมจากคุณอดิศร)
อาจเห็นได้ว่าบางโครงการที่อยู่ใกล้โครงการที่ขายดี แต่ทำไมขายไม่ได้ก็เพราะขาดการทำ R&D อย่างจริงจัง ซึ่งการใส่ใจ วิเคราะห์ เรื่องนี้ซึ่งต้องทำตั้งแต่เรื่องรูปแบบอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้ลุูกค้า ขนาดห้องพัก ราคา ทุกอย่างต้องมาพร้อมๆ กัน ต้องประเมินเรื่อง 4 p ให้ดีทุกอย่าง

โบ:ที่บอกว่าภูเก็ตเติบโต นี่คือโตยังไงบ้าง แล้วกลุ่มลูกค้าที่นั่นต้องการที่อยู่อาศัยมาน้อยแค่ไหน แล้วทำไมต้องทำคอนโดฯ

14

ผู้บริหาร : พูดถึงการเติบโตของภุูเก็ตเชื่อว่ายังโตได้อีก เพราะมีแหล่งงานเกิดขึ้นเยอะ ที่สำคัญในอนาคตอันใกล้นี้ พื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต จะเป็นแหล่งการค้าและการลงทุนที่สำคัญระดับภูมิภาค หลังจากประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นเทียบง่ายๆ หากดูเที่ยวบินที่บินมาภูเก็ตนั้นเต็มทุกไฟว์ไม่ว่าจะช่วงไหนก็ตาม นักท่องเที่ยวชาวจีน อินเดีย รัสเซีย จะวนกันมาตลอดเวลา ปริมาณของคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง กับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามามีมากขึ้น
อย่างย่านลากูนที่เราไปเปิดโครงการก็มีการเทิร์นโอเว่อร์ของนักท่องเที่ยวสูง มีความหลากหลายของผู้คน ยิ่งมี Boat Avenue ที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งผุดขึ้นมาอีกยิ่งทำให้ไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยนไป ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่เทรนด์คอนโดฯจะได้รับความสนใจมากขึ้น ทั้งจากคนไทยและต่างชาติ เพราะอย่างชาวต่างชาติก็เข้ามาซื้อเยอะขึ้น คือจะอยู่ยาว3-4 เดือน หรือซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็ได้ ไม่ค่อนมีใครที่ซื้อแล้วขายเอากำไร ส่วนใหญ่จะซื้อแล้วโอนแล้วปล่อยเช่ามากกว่า

04

โบ: ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่มาซื้อคอนโดฯ ตัดสินใจเลือกซื้อเพราะอะไร
ผู้บริหาร : จากการศึกษาลูกค้าส่วนใหญ่อย่างแรกก็คือ ทำเล ถ้าใกล้แหล่งความเจริญก็ขายได้ นอกจากนี้ก็ต้องการความครบ อย่างในห้องหนึ่งห้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ทุกอย่างต้องครบ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปต้องการความสะดวก รวดเร็ว ทั้งนี้เราเองกล้าพูดได้เลยว่าเราไม่เป็นรองเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งาน อย่างเฟอร์นิเจอร์ที่มีในห้องขนาด 30 ตร.ม. สามารถทำได้มากกว่าหนึ่งอย่าง ตรงนี้คือสิ่งดึงดูดให้ลูกค้าเห็นว่าเราคิดมาให้เค้าแล้ว แล้วเค้าก็จะสัมผัสได้เองว่าเค้าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

อย่างโครงการล่าสุดได้ออกแบบแนวคิด “Design Serving Your Desire” หรือมิติการใช้ชีวิตไม่ได้มีเพียงด้านเดียว ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่ถือว่าตอบสนองไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ เป็นการผสมผสานไอเดียการอยู่อาศัย ให้ผสมผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์การช็อปปิ้งสตรีทอย่างลงตัว ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม และการประหยัดพลังงาน เป็นต้น

โบ:เรากำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ที่อายุเท่าไร เป็นกลุ่มใด

ผู้บริหาร: ณ ตอนนี้เราปรับเปลี่ยนแนวคิดว่าเราไม่ตั้งเกณฑ์กลุ่มเป้าหมายไว้ที่อายุเท่าไร แต่เราเน้นที่กลุ่มคนสมัยใหม่ มีแนวคิดใหม่ๆ เพราะอย่างคนอายุ 45 -50 ปี สมัยนี้ยังโก้ ยังเฟี๊ยวอยู่ก็มีอีกเยอะมาก

โบ: เรามีแผนจะพัฒนาโครงการในภูเก็ตอีกไหม

ผู้บริหาร : มีแน่นอน คาดว่าเป็นคอนโดฯ ในทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ตก็ว่าได้ แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่ขอลงรายละเอียดลึกมาก ซึ่งไม่เพียงแค่ภูเก็ต เราก็มีแผนจะไปตามจังหวัดอื่นๆ ด้วย ตามหัวเมืองที่มีความสำคัญ อย่างเชียงใหม่ ก็มี หรืออุดรฯ ขอนแก่นก็มอง รวมถึงเมืองกาญฯด้วย แต่หลักๆ ก็คงไปภูเก็ตก่อน เพราะไปต่อได้อีกมาก แต่ก็มีการวิเคราะห์ว่า บางทำเลก็มีการสโลว์ ว่าถ้าที่ไหนมีการเติบโตของที่อยู่อาศัยมากขึ้น ความต้องการแฝงมันก็จะหายไป ฉะนั้นมองว่า ถ้าโปรดักซ์ที่อยู่ได้คือต้องตอบความต้องการจริงให้ได้ ซึ่งเราก็กำลังทำอยู่

13

โบ : ท้ายสุดของการทำธุรกิจเราใช้อะไรเป็นตัวขับเคลื่อนการทำงาน
ผู้บริหาร : อย่างที่บอกเรื่อง R&D สำคัญ ถ้าเราทำตรงนี้พลาดก็จะทำให้ทุกอย่างพลาดหมด เราตั้งใจว่าจะทำโปรดักซ์ของไตร พร็อพเพอตี้ ให้ผู้ซื้อได้กำไรมากกว่าเรา คือ ถ้าเขาขายต่อต้องได้กำไร เนื่องมาจากทำเล สิ่งรอบข้าง สาธารณูปโภคดีไหม แข่งกับคนอื่นได้ไหม คนที่เห็นโครงการ เห็นห้องต้องร้องว้าว เราต้องทำให้ได้ถึงขนาดนั้น(คุณอดิศร)
การฟังความคิดเห็นของคนอื่น ฟังทุกอย่างทั้งข้อมูลภายในภายนอก สำคัญ สินค้าที่เราทำต้องเป็นทรัพย์สินของคนซื้อจริงๆ ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด (คุณชัยวัฒน์)

สัมภาษณ์ : โบ