ในช่วงที่มีข่าวเรื่องการเปิด AEC ใหม่ๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือกลุ่ม C(Cambodia) L(Laos) M (Myanmar) V(Vietnam) เนื้อหอมมากกลุ่มทุนใหญ่จากหลายชาติต่างแห่กันไปลงทุน ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ก็ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่มาแรงมาก

ทาง Think of Living ได้ลองสำรวจสิทธิในการถือครองที่ดินของประเทศต่างๆ ใน CLMV” โดยแยกเป็นการเช่าที่ดินระยะยาว และการถือครองบ้านคอนโด พร้อมเทียบกับของบ้านเราให้ดูด้วย

Leased Hold: การเช่าที่ดินระยะยาว

สังเกตได้ว่าเกือบทุกประเทศเริ่มต้นที่ 50 ปี ยกเว้นไทยซึ่งเริ่มที่ 30 ปี เป็นหลักการเดียวกับการพัฒนาโครงการ leased hold ต่างๆในประเทศส่วนลาวจะต่างจากประเทศอื่นๆเนื่องจากมีระบบการปกครองที่ยังเป็นคอมมิวนิสต์ทำให้ไม่มีใครสามารถเป็นเจ้าของที่ดินได้นอกจากรัฐบาล ซึ่งคนต่างชาติที่เข้าไปจะต้องเช่าสิทธิ์ต่อจากคนในประเทศอีกที โดยแบ่งไว้อย่างชัดเจนตามวัตถุประสงค์ของการเช่า เช่น

  • เช่าจากคนลาวเพื่ออยู่อาศัย 30 ปี
  • เช่าจากรัฐบาลเพื่อทำธุรกิจ 50 ปี
  • เช่าที่ดินในเขตอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโรงงาน 75 ปี
  • เช่าในนามของสถานทูต 99 ปี

การถือครองคอนโดและทาวน์เฮ้าส์

อย่างที่เรารู้กันว่าในเมืองไทย ชาวต่างชาติสามารถถือครองคอนโดได้ไม่เกิน 49% ของจำนวนห้องในโครงการ ซึ่งก็ใกล้เคียงกับประเทศใน CLMV ทั่วไป (ไม่นับลาว) ที่เยอะสุดก็คือกัมพูชา สามารถถือครองได้สูงถึง 70% แต่มีข้อแม้ว่า ต้องไม่ใช่ห้องที่อยู่ชั้นล่าง เช่นเดียวกับพม่าที่ให้มา 40% และซื้อได้ตั้งแต่ชั้น 6 เป็นต้นไป

ส่วนทาวน์เฮ้าส์ มีเพียงประเทศเดียวที่สามารถถือครองได้คือเวียดนาม เนื่องจากเพิ่งเปลี่ยนกฏหมายไปไม่นาน แต่ก็อนุญาติเพียง 10% เท่านั้น

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจของ SCB แนะนำว่า แม้จะมีโอกาสมากมายในหลายมิติจากกลุ่ม CLMV แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จคือการนำความเชี่ยวชาญที่ตัวเองมีเข้าไปคว้าโอกาสในตลาดใหม่ ไม่ใช่แค่เพียงผู้ประกอบการไทยเท่านั้นที่เล็งเห็นโอกาสในตลาดใหม่นี้ ประเทศอื่นๆที่มีศักยภาพสูง ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี หรือ สิงคโปร์ ต่างกำลังมองภาพเดียวกัน ดังนั้นการที่จะเข้าไปรุกตลาดดังกล่าว ผู้ประกอบการไทยจึงควรนำเอาความเชี่ยวชาญที่มีไปใช้ในการแข่งขัน

CREDIT: THE IRISH TIMES

ปัจจัยสู่ความสำเร็จที่สำคัญอีกประการคือการมองหาพันธมิตรทางธุรกิจจากในท้องถิ่นของประเทศกลุ่ม CLMV เพื่ออาศัยความเป็นเจ้าบ้านที่เข้าใจตลาด วัฒนธรรม สังคม กฎหมาย และข้อมูลท้องถิ่นที่ดีกว่า ในการปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทยได้ โดยการที่ผู้ประกอบการไทยเร่งดำเนินการหาพันธมิตรทางธุรกิจได้เร็วมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อผู้ประกอบการนั้นๆ เนื่องจากพันธมิตรที่มีศักยภาพในแต่ละประเทศมีจำนวนจำกัด

Credit Photo: Mĩ Miều

อ้างอิง: EIC Analysis “ส่องโอกาส วางกลยุทธ์เจาะตลาด CLMV”