Haus 23 คอนโดโซนรัชดา-ลาดพร้าว ที่เราเคยรีวิวกันไปตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มของ Think of Living พบว่าวันนี้นำของใหม่มาเสนอ คือห้องแบบ “Floating Duplex” 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 56.5 ตารางเมตร ที่แปลกและแตกต่างจากการดีไซน์ห้อง Duplex ทั่วๆไป

ผู้อ่านที่สนใจคอนโดมิเนียมตึกนี้สามารถคลิ๊กเข้าไปอ่านรีวิว Huas 23 ที่ Mr. Oe ได้ทำไว้ ซึ่งจะไม่นำมาเล่าใหม่ในบทความวิเคราะห์แบบห้องครั้งนี้นะครับ

จากภาพจะเห็นว่าทาง “เข้า” ห้องนั้นอยู่ที่ชั้น 2 แตกต่างจาก Duplex ทั่วไปที่จัดวางทางเข้าห้องไว้ชั้นล่าง หรือสามารถเปิดเข้าออกได้ทั้งสองชั้นแต่ทางเข้าหลักยังเป็นชั้นล่าง แล้วก็ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่ชั้นล่าง พอจะนอนค่อยเดินขึ้นชั้น 2 แต่ Floating Duplex ของ Haus 23 นั้นคิดกลับกัน

จาก Floor Plan จะเห็นว่าแต่ละชั้นมีความกว้างของหน้าห้องแค่ 3.5 เมตรเท่านั้นเอง ความโปร่งโล่งจึงมาจากแนวดิ่งมากกว่าแนวราบ ที่ได้พื้นที่ส่วน Void บริเวณห้องรับแขกด้านล่าง จนมาถึงส่วนที่อยู่อาศัยชั้น 2

ด้วยกระจกกันตกที่กั้นระหว่างโซฟาชั้น 2 กับโถงบันได ทำให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟ้าชั้น 2 สามารถมองลงไปด้านล่าง Take View ได้เต็มที่ (ซึ่งคงจะเป็นที่มาของคำว่า Floating Duplex)

ปกติแล้วบันไดของคอนโดมิเนียมจะทำแล้วเหลือขั้น 3 เหลี่ยม ไม่มีชานพัก แต่ที่นี่ยังคงมีชานพักบันไดไว้ให้ ซึ่งจะเพิ่มทั้งเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งานได้มากกว่าบันไดแบบที่ไม่มีชานพัก

ภาพนี้มุมกล้องจากการที่เราเดินเข้าห้องมาเป็น First Impression ก็คือมีห้องครัว, โต๊ะรับประทานอาหาร, ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น อยู่บนนี้ทั้งหมด หน้าตาแออัดไปหน่อยเหมือนห้อง Studio เกินไป การที่เอาโต๊ะกินข้าวมายัดไว้ตรงนี้ก็ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไรนัก เพราะยังมีพื้นที่มากมายทั้ง Living Room ชั้นบนและชั้นล่าง ให้นั่งรับประทานอาหารไปชมวิวไปสบายๆ ดีกว่าเอามาตั้งหน้าเตาข้างห้องน้ำแบบนี้

พอเดินลงบันไดไป ซึ่งห้องนี้เป็นห้องมุมตึกพอดี จะสามารถมองวิวได้จากทั้งด้านข้างและด้านหน้า ทางโครงการตั้งใจออกแบบไว้ให้เป็นส่วนการใช้ชีวิต นั่งทำโน่นนี่จิบกาแฟกินขนม แต่เอาจริงๆแล้วน่าทำเป็นโต๊ะอเนกประสงค์มากกว่า กินข้าวเป็นเรื่องเป็นราวหรือนั่งทำงานได้ด้วย

ภาพหน้าตัดถ้ามองจากด้านนอกเข้าไปจะเป็นอย่างนี้ กระจกจากด้านข้างช่วยเปิดมุมมองให้กับโถงบันได จากมุมนี้พบว่าตำแหน่งที่นั่งชมวิวแล้วดูดีที่สุด น่าจะเป็นชานพักบันไดละมั้งครับ

เอารูป Floor Plan มาดูกันต่ออีกครั้ง จะเห็นว่าห้องนี้แปลกตรงที่มี 1 ห้องนอนแต่เป็น 2 ห้องน้ำ ที่คิดเอาไว้แล้วว่าคนไม่ต้องการเดินขึ้นหรือเดินลงบันไดไปเข้าห้องน้ำ จึงเตรียมห้องน้ำเอาไว้ให้ทั้งสองชั้นเลย

ดูทางขวามือเป็น Plan ชั้นล่าง จะพบว่าห้องนอนและห้องนั่งเล่นถูกกั้นเอาไว้ด้วย “ห้องน้ำ” ที่เวลาเดินผ่านห้องน้ำไปก็จะสามารถออกไปห้องนั่งเล่นได้เลย เป็นความคิดที่แปลกๆอีกแบบ และถ้าเลื่อนบาน Slide ไปจนสุด ไม่ต้องการปิดห้องนอนให้เหลือมุมแคบๆ ห้องนอนก็สามารถมองทะลุห้องนั่งเล่นชั้นล่างไปเห็นวิวของกระจกบานใหญ่ได้อีกด้วย

การออกแบบอย่างนี้จะต่างกับการเอา “ห้องนอน” ไว้ชั้น 2 ที่บางครั้งผู้สร้างก็ตัดประตูห้องนอนออก ทำให้ห้องนอนเปิดโล่งเกินไป ไม่ Practical ถ้าจะทำอาหารเพราะว่ากลิ่นจะลอยขึ้นไปติดบนที่นอนเพราะไม่มีผนังกั้น แต่พอเอาห้องนอนไว้ชั้นล่างและยังคงขนาดไว้ที่ 56.5 ตารางเมตร ก็จำเป็นต้องสลับเอาครัวไปไว้ข้างบน เปลี่ยนมุมใช้ชีวิตไปอยู่ชั้น 2 ทำให้ห้องนอนมีบานปิดได้ ก็เป็นอีก IDEA ที่ดีเหมือนกัน แต่ข้อเสียก็มีนะครับ ถ้าจะหนีไฟก็ต้องวิ่งขึ้นชั้น 2 ไปออกทางห้องครัวอยู่ดี

เปิดตัวครั้งแรกวันนี้ครับ (17 มีนาคม 2555) โดยที่มีราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท ที่พื้นที่ 50.5 ตารางเมตร หรือแถวๆ 9 หมื่นปลายๆต่อตารางเมตร

สิ่งที่ชอบ

  • ห้องนอนชั้นล่าง ที่เปิดประตูออกไปเชื่อมต่อกับพื้นที่ Living Room ชั้นล่างได้เลย
  • ห้อง Living ชั้น 2 ที่นั่งมองวิวได้สบาย
  • ชานพักบันได ทำให้การเดินขึ้นลงปลอดภัยมากขึ้น
  • กระจกบานใหญ่ทั้งจาก Corner ระเบียง และโถงบันได

สิ่งที่ไม่ชอบ

  • ครัวเปิดไม่มีที่ระบายอากาศ
  • โต๊ะกินข้าวแออัดเกินไป เอาไปตั้งไว้ในซอกระหว่างครัวกับห้องน้ำ
  • ระเบียงเล็ก ทั้งยังต้องวางเครื่องซักผ้าอีก