ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-เพชรบุรีตัดใหม่ คอนโด Low Rise บนถนนพัฒนาการ จาก LPN [รีวิวเจาะลึก 81]

สวัสดีครับ รีวิวช่วงนี้ Mr.Oe ไล่เก็บ Review Request จากทางบ้านอยู่นะครับ วันนี้แวะมาพัฒนาการ ต่อยอดจากโครงการที่เรารีวิวไปแล้ว คือ U Delight และ The Leaf โครงการ ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-เพชรบุรีตัดใหม่ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก เลยโดน Request  มาเยอะพอสมควร จัดสามโครงการนี้แล้ว คนที่ต้องการซื้อคอนโดย่านนี้คงจะเปรียบเทียบได้ เลือกได้ ลงตัวกับตัวเองกันมากขึ้นนะครับ คอนโดนี้บางทีก็เรียกกันสั้นๆว่า LPN พัฒนาการ ก็ถือว่าตัวเดียวกันนะครับจะได้เข้าใจตรงกัน ไปดูรีวิวกันเลยครับ

Fact (21 มกราคม 2012)

• ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ – เพชรบุรีตัดใหม่ ( LPN พัฒนาการ ) 
• คอนโด Low Rise 8 ชั้น 7 อาคารประมาณ 1,482 units (ปรับใหม่)
• เนื้อที่โครงการประมาณ 16 ไร่ 86 ตารางวา
• Developer : L.P.N Development PLC.
• Location ถนนพัฒนาการ ปากซอยพัฒนาการ 26
• จอดรถรอบอาคารแบบซ้อนคัน 540 คัน (36%)
• ห้องขนาด 22.5 – 26.5  ตารางเมตร
• รูปแบบห้อง 1 Bedroom สามารถซื้อแล้ว Combine ห้องได้ในบางห้อง
• ราคาเริ่มต้น  1,078,000 บาท (47,911 บาท ต่อ ตารางเมตร) สำหรับห้อง 22.5 ห้องเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์  
• กำหนดก่อสร้างเสร็จ พร้อมโอน พฤศจิกายน 2555
• www.lpn.co.th

ช่วยกด Like เป็นกำลังใจให้คนเขียนหน่อยนะค้าบบบบ 🙂

เจาะลึกทำเลที่ตั้ง

แผนที่โครงการ

โครงการ ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-เพชรบุรีตัดใหม่ หรือ LPN พัฒนาการนี้ ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการนะครับ อยู่ตรงซอยพัฒนาการ 26 เลย  อยู่ติดกับโครงการ Noble Cube Pattanakarn และตรงข้ามเยื้องๆกับอู่รถเมล์สาย  92 การเดินทางต้องพึงพารถยนต์ รถเมล์ พี่วิน และพี่ตู้เป็นหลัก อันเนื่องจากรถไฟฟ้ายังไม่มี มีไกล้สุดคือ BTS พระโขนงที่ระยะทาง 5 กม. ส่วน MRT เพชรบุรี อยู่ที่ 6 กม. แต่ก็ยังดีที่มี Airport Link สถานีรามคำแหง ตรงแยกคลองตันที่ระยะ 2 กม. เวลาจะเข้าเมืองไปสยามก็พอมีทางเลือกไปต่อ BTS พญาไทได้

การดินทางโดยรถยนต์ก็สะดวกสำหรับคนแถวนี้ เวลาจะไปรามก็ออกหน้าโครงการจับจังหวะดีๆเลี้ยวขวาเข้าพัฒนาการ 25 วิ่งลงอุโมงค์ไปเชื่อมกับรามคำแหง 24 (ซอยหมู่บ้านเสรี) จะไปราม, ABAC หรือสนามรัชมังคลา ก็ได้เลยถ้าจะไปพระราม 9 ก็เหมือนเดิม เลี้ยวขวาเข้าพัฒนาการ25 ชิดซ้ายห้ามลงอุโมง ชิดซ้ายออกกำแพงเพชร7 ไปออกพระราม9 ได้ จะไปสุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ ก็อาศัยวิ่งตรงๆไปเพชรบุรีได้เลย สะดวก รถติดเป็นเวลาเช้าเย็นและเวลาฝนตกตามมาตรฐานกรุงเทพมหานคร ทางด่วนมีให้ใช้เหมือนกันอยู่บนพัฒนาการห่่างไป 1.3 กม.

แผนที่จาก Google ดูระยะที่แท้จริง

เส้นประสีแดง คือพัฒนาการ 25 ทางที่ต้องไปรามคำแหงหรือพระราม 9 แต่จะเห็นว่าเลี้ยวขวายาก เพราะออกจากโครงการแล้วต้องปาดขวาเลย ต้องจับจังหวะดีๆ ถ้าไม่ไหวก็ไปเลี้ยวขวาตรงคลองตันได้

พัฒนาการ 25

จะเห็นว่าพื้นที่รอบข้างยังเขียวอยู่มาก ไม่ค่อยมีตึกสูง ด้านซ้ายคือ Noble Cube พัฒนาการ ด้านขวาเป็นบ้านคน ด้านหลังมีคลองเป็นแนวเกือบจะขนานกับถนนพัฒนาการ

สภาพพื้นที่โครงการด้านหน้าติดถนนกว้างประมาณ 40 เมตร ลึกมาตามแนวซอยพัฒนาการ 26 ประมาณ 350 เมตร ด้านหน้าหันไปทางทิศเหนือ แดดส่องตามแนว E – W คือออกทางขวา มาตกทางซ้าย  ด้านหลังโครงการอยู่ห่างจากแนวคลองที่ไกล้ที่สุด 60 เมตร

คลองด้านหลังโครงการ สภาพเป็นชุมชนริมคลองที่ไม่ใช่สลัมนะครับ เดินเล่นได้ ถ้าใช้มอไซค์ก็ใช้ทางนี้ไปทะลุออกสุขุมวิทได้ด้วย

ชาวบ้านริมคลองเค้า ชิลล์มากๆครับ 😀

โครงการอยู่ติดกับ Noble Cube พัฒนาการเลยทีเดียว ให้ระวังเวลาขับรถมา ที่จอดรถอยู่ข้างๆสำนักงานขาย ก่อนถึงสำนักงานนะ อย่าขับเลยไปล่ะ เพราะเห็นทางเข้าสวยๆนั่นมันของ  Noble เค้า

สิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจรอบๆโครงการในระยะเดินสบายไม่มี มีแต่ต้องใช้รถ เช่น ห้าง The Mall, Big C  ตรงรามคำแหง และพระโขนง ต้องอาศัยเข้าเมืองครับ  ส่วนโรงพยาบาลก็มีเยอะ ทั้งโรงพยาบาลแพทย์ปัญญา โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลปิยะเวช

เจาะลึกตัวโครงการ

ต้องบอกก่อนนะครับว่า ปรัชญาของ LPN ที่สร้างคอนโดลักษณะนี้นั้นเค้าตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานปัจจัยสี่เรื่องที่อยู่อาศัย ไม่หรูหราแต่ราคาเอื้อมถึง สำหรับลูกค้าที่ขยับจากเช่ามาซื้อ ลูกค้าที่ซื้อที่พักในทำเลนั้นๆ คนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในเมือง หรือคนที่เพิ่งเริ่มสร้างฐานะสร้างครอบครัว ขอมีที่อยู่อาศัยในระยะที่เดินทางได้ไม่ลำบากจนเกินไป ราคาพอผ่อนได้สบายๆไกล้เคียงกับค่าเช่าที่เคยจ่ายกันกับแฟน พอเติบโตขึ้นก็ขยับขยายย้ายออก คอนโดนี้ก็ปล่อยเช่าหรือขายต่อ ไม่ขาดทุน นี่เป็นพื้นฐานแรกสุดเลย

ขอเท้าความเรื่อง Brand ของ LPN   สำหรับเพื่อนๆที่ยังไม่คุ้นกับ LPN ก่อน นะครับ  เพราะ LPN เค้ามีหลายระดับ หลาย Sub Brand เอาเฉพาะคอนโดยุคใหม่นะ ยุคเก่าไม่ต้องพูดถึง ก็มีไล่มาตั้งแต่ Lumpini CondoTown ค่อนข้างห้องเล็กเน้นจำนวน Facility น้อย, Lumpini Ville ดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ห้องเล็ก Facility น้อยเช่นเดิม, Lumpini Park เริ่มมีห้องใหญ่ขึ้น อยูพัทยา พระรามสาม ปิ่นเกล้า, Lumpini Place ดีขึ้นทำเลดีขึ้น, Lumpini Suite ดีสุดในกลุ่มแล้ว ดังนั้นจะเลือกคอนโด LPN ก็ดูให้ดี ปรัชญาในการสร้างแต่ละ Sub Brand มันต่างกัน ส่วนที่เป็นลูกครึ่งก็มี เช่น LPN Mega-Bangna ตึกหน้าเป็น Ville ตึกหลังเป็น Condo Town

สำหรับ ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ นี้ มีทั้งหมด 7 อาคาร เป็น Low rise สูง 8 ชั้นทั้งหมด จำนวน 1,482 units  วางเรียงกันเป็นคู่ๆ A1-A2, B1-B2, C, D1-D2 มีห้อง 4 ขนาด คือ 22.5 – 23 – 26 – 26.5 ตารางเมตร ขายแบบห้องเปล่า บางห้องสามารถ Combine ห้องรวมกันได้ ของแถมติดห้องมี Pantry, ชุดสุขภัณฑ์ และแอร์ติดมาให้ ราคาเริ่มต้นขาย 1,078,000 บาท หรือ 47,911 บาทต่อตารางเมตร  ที่ตึก D ตึกในสุด ส่วน Facility สระว่ายน้ำจะแปะอยู่ที่ตึก C ด้านหน้าโครงการมีอาคารร้านค้า 3 ชั้น แบ่งเป็น 7 units  ส่วนการจอดรถเข้าออกด้านซ้ายของโครงการ รถจอดรอบๆตึกได้ 540 คัน สิ่งอำนวยความสะดวกนอกจากสระว่ายน้ำขนาด 8×19 เมตรที่ตึก C แล้ว ก็มี  Fitness, สวน และลานกีฬาอเนกประสงค์ กระจายอยู่ในโครงการ

ตัวโครงการจริงๆ แล้วกำหนดการเสร็จคือ  พฤษภาคม 2555 แต่ติดปัญหาเรื่องขอ EIA แล้วต้องมีการแก้ไข ปรับแบบเพื่อให้ผ่านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเมื่อมีการแก้ไขแล้ว ก็ผ่าน EIA แต่ล่าช้ากว่ากำหนดการที่คาดไว้ จึงมีการ Delay โครงการเป็นพร้อมโอนเดือน พฤศจิกายน 2555 แทน ที่โครงการน้ำไม่ท่วมนะครับ “เอาอยู่” 😀

 

ตัวอาคารจะเรียงตัวตามนี้ A1-A2, B1-B2, C, D1-D2

ผังรวมของโครงการ ชั้น 1 จะเห็นได้ว่า สระว่ายน้ำไปอยู่ที่ตึก C และตึก C ก็มีขนาดเล็กที่สุด จึงไม่แปลกใจที่ตอนนี้ ตึก C ขายดีที่สุด ส่วนตึก D ด้านในสุดจะมีระยะถึงตัวตึกประมาณ 250 เมตร เรียกว่าเดินไกลเหมือนกันสำหรับคนไม่มีรถ แต่ก็เป็นตึกที่ตั้งราคาถูกที่สุด ด้านหลังและด้านข้างโครงการไม่ต้องกังวล เป็นชุมชนเก่าแก่ริมคลองที่ไม่ใช่สลัม ขวามือคือ Noble ซ้ายมือคือถนนซอย26 และบ้านคน ดังนั้นชุมชนรอบข้างค่อนข้างโอเค

Model ด้านหน้าโครงการ

Model ด้านข้างโครงการ

สระว่ายน้ำตึก C

ผังจัดห้องตึก A1 -A2

 

ผังจัดห้องตึก B1- B2

 

ผังตึก C ชั้นล่าง

 

ผังตึก C ชั้น 3-8

 

ผังตึก D1-D2

 

หน้าโครงการคือสำนักงานขาย ติดถนนพัฒนาการ ตรงซอย26 พอดี

สำนักงานขาย

สภาพของโครงการวันทีี่ 21 มกราคม 2555

 

ด้านหลังโครงการ ที่เห็นล้อมรั้วสีฟ้านั่นของโครงการทั้งหมด

สภาพชุมชนเก่าแก่ด้านหลังโครงการ

โครงการนี้เป็นโครงการ Low rise ชั้น 6-8 พอจะได้วิวอยู่บ้าง แต่ชั้นล่างๆ คงไม่มีวิวอะไร ดังนั้นสิ่งที่ควรพิจารณาคือทิศตะวันออก-ตะวันตก ตึก A2-B2-D2 ค่อนข้างปลอดภัยทั้งตึกเพราะด้านทิศตะวันตกจะมีฝาแฝดตัวเองคือ A1-B1-D1 บังแดดให้ สำหรับเพื่อนๆที่เลือกตึก A2-B2-D2 ด้านทิศตะวันตกจะได้วิวสวนระหว่างตึกไปพร้อมๆกับวิวห้องตรงข้ามซึ่งต้องพิจารณาให้ดีเพราะตึกค่อนข้างอยู่ไกล้กัน คนงบน้อยแต่ไม่มีรถ ผมแนะนำว่าถ้าซื้ออยู่เองแข็งใจซื้อตึกหน้าๆจะดีกว่า ให้คนมีรถเค้าอยู่ตึกหลัง เพราะเดินไกลเหมือนกัน

ส่วนสาธารณูปโภคส่วนกลาง พวกสระว่ายน้ำ อย่าไปซีเรียสมาก เราไม่ได้ว่ายน้ำทุกวันหรอกในชีวิตจริง ก็เลยคิดว่า เลือกตึกอื่นๆก็ได้

ห้องแต่ละห้อง ไม่ได้แตกต่างกันมาก ยกเว้นห้องด้อยที่ติดที่ทิ้งขยะและลิฟท์

 

Product Walktrough

สำหรับท่านที่เคยอ่าน LPN Mega Bangna  ข้ามส่วนนี้ไปเลยก็ได้นะครับ เพราะห้องที่จะพาไปดูและวัสดุต่างๆ เหมือนกันเป๊ะเลย 😀

ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการทำไว้ให้ดู มี 4 ห้องนะครับ คือ 22.5 – 26 – 52 และ 22.5 แบบห้องเปล่า Condition เดียวกะที่จะขาย ซึ่งดีมากครับ ให้เราเห็นกันชัดเจนไปเลยว่า เราจะได้อะไร ห้องเปล่าหน้าตาเป็นยังไง จริงใจดีครับ ส่วนห้อง 52 ตรม เค้าเอาห้อง 26 สองห้องมารวมกัน แล้วจัดภายในให้เราใหม่ ดีครับ ผมชอบ พื้นที่เล็กๆ LPN จัดได้ดีครับ

ไปดูห้องตัวอย่างกันครับ 🙂

 

เริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom  22.5 ตารางเมตร กันก่อนนะครับ

 

ผังห้อง

 

เข้ามาแล้วก็เจอห้องนั่งเล่นขนาดสองคนเบียด

Side Board ที่วางทีวีได้ ไม่ใหญ่มาก แนะนำให้ติดผนังไปเลย

ผนังด้านซ้ายออกไปห้องน้ำและครัว มีลบมุมผนังตรง Side Board ระยะเดินผ่านสบาย อันนี้ดีครับ ทำให้ไม่ดูคับแคบเกินไป กั้นส่วนครัวอีกชั้นด้วยกระจกบานเลื่อน

 

ด้านฝั่งโซฟา จัดโต๊ะทำงานตัวเล็กน่ารักไว้ด้วย 1 ตัว พื้นที่ด้านบนพอจะทำตู้แขวนได้ แต่ต้องไม่ลึกมากนัก

ห้องนอนมีบานกระจก slide 3 ชิ้น เปิดปิดได้กว้างประหยัดพื้นที่ ต้องระวังนิดนึง สำหรับคนชอบเมากลับบ้าน กระจกมันแตกได้นะจะบอกให้ 🙂

ห้องนอน จัดเตียงได้ขนาด 5 ฟุต ใหญ่กว่านี้ เต็มห้อง

ปลายเตียง พอจะติดทีวีแขวนได้อยู่ เผื่อดูคนละช่องกะแควน อ้อ ตู้เสื้อผ้าที่ Build มาให้ในห้องนอนตรงปลายเตียง อาจจะเล็กมากไปสำหรับคนส่วนใหญ่นะครับ

ครัว ด้านซ้ายคือ Pantry ด้านขวาคือโต๊ะทานข้าวชิดผนัง ตรงไปก็เป็นระเบียง

โต๊ะกินข้าวถ้ากลัวทานข้าวคนเดียวแล้วเหงา แนะนำให้ติดกระจกฝั่งนี้ด้วย เวลาทานข้าวจะได้เหมือนมีคนทานด้วย 555 ไม่ใช่ครับ 🙂 มันจะทำให้ห้องตรงนี้ดูกว้างขึ้น และเผื่อทำอะไรหกเลอะเทอะผนังกระจกมันเช็ดทำความสะอาดง่ายกว่าผนังทาสี ที่สำคัญมันไม่แพง

 

Pantry

ระเบียง แขวนคอมแอร์ไว้ด้านข้างแต่มีครีบกันอากาศให้ไล่อากาศร้อนออกไปด้านนอกนะครับ เวลาไปดูห้องจริงก็ลองสังเกตุดู อันนี้ดีครับ และมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าไว้ที่ระเบียงนี้เลย ระเบียงเหลือพื้นที่ตากผ้าไม่มาก

ระหว่างพื้นห้องครัวและระเบียง กั้นด้วยธรณีก่อ สูงประมาณ 5 ซม. ซึ่งจริงๆผมไม่ค่อยชอบเพราะเคยสะดุดบ่อยๆเวลารีบออกไปเก็บผ้า เวลาถือของเข้าออกมันอันตรายครับ อยากให้ทุกๆโครงการทำเป็นพื้นลดระดับ มีธรณีเตี้ยที่สุดมากกว่า (เอ่อ Mr.Oe นิยมซักผ้าเองครับ 🙂

 

ห้องน้ำ จะเหมือนกันหมดสำหรับห้องทุกแบบ ต่างกันก็น้อยมาก ดูจากห้องนี้ห้องเดียวพอเนอะ แต่ว่าห้องเล็ก 22.5 ตรม ไม่มีฉากกั้นห้องอาบน้ำเท่านั้นเอง ห้องที่ใหญ่กว่านี้เค้าติดมาให้เลย เป็นบานอคลีลิคเลื่อน

ภาพรวมห้องน้ำ

พื้นไม่ลดระดับ แต่ใช้เป็นธรณีก่อเพื่อแยกส่วนเปียก แห้ง แทน

อ่างล้างหน้า

ห้องอาบน้ำ

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard มาตรฐานตามราคา ห้องน้ำนี้เล็กๆ แต่สามารถแต่งให้ดูดีด้วยงบต่ำหมื่นได้ง่ายๆ แค่เปลี่ยนโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า สายฉีดชำระ ฝักบัว ใหม่ ใส่กระจกบานใหญ่ ถ้าจะให้สวยกว่านี้ติดกระเบื้องโมเสคด้วยก็แจ่มเลย

ต่อด้วยห้องถัดไป

ห้อง 1 Bedroom 26 ตารางเมตร

ผังห้อง

เปิดประตูมาก็เจอห้องนั่งเล่นครับห้องนั่งเล่นกะห้องนอน กั้นด้วยกระจกบานเลื่อนสามพับ เปิกได้กว้างเต็มที่ครับ

โซฟา และโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ขึ้นมาจากห้อง22.5 ตรม

ผนังด้านขวา มีบานเลื่อนกระจกกั้นระหว่างส่วนครัว และห้องนั่งเล่น

Side Board วางทีวี และติดตู้แขวนบางๆ ไว้ใส่ของเพิ่มได้

ห้องนอน ดูเหมือนจะเท่ากับห้อง 22.5 แต่จริงๆแล้ว กว้างกว่ากันตั้ง 30 ซม. เชียว 😀

ปลายเตียง ระยะพอได้ ติดทีวีแขวนได้ เตียงเดี๋ยวนี้ต้องBuild ให้เป็นที่เก็บของได้ด้วย เพราะพื้นที่เก็บของสำคัญมากสำหรับการอยู่อาศัยในคอนโด 🙂

ครัว มี Pantry วางด้านขวา ด้านซ้ายเป็นโต๊ะทานข้าว ตรงไปเป็นระเบียง ส่วนนี้มีเนื้อที่ตามยาวมากกว่าห้อง 22.5 ตรม อยู่ 45 ซม แต่ดูใหญ่กว่าพอสมควร เพราะโทนสีมันสว่างกว่า

Pantry ยาวและมีระยะที่ใช้ได้โอเคล่ะ

โต๊ะทานข้าว ติดผนังห้องครัว อันนี้เค้าจัดให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงไม่มีเฟอร์พวกนี้ให้อยู่แล้ว ของจริงผมว่าใช้โต๊ะทานข้าวแบบพับได้ ก็ดีนะ ประหยัดเนื้อที่ดี

ส่วนห้องน้ำ และระเบียงเหมือนห้อง 22.5 ตรม ข้ามไปเลยเนอะ 😀

 

สุดท้ายก็ห้องขนาด 52 ตารางเมตรครับ เป็นห้องที่เอาห้อง 26 ตรม มาจัดใหม่ จัดเป็น 1+1 Bedroom แบบ แปลกๆดีครับ ซึ่งขออธิบายภาพรวมห้องนี้ก่อน ห้องนี้เปิดประตูมาเป็นส่วน Living room ด้านซ้ายเป็นส่วนห้องนอนทั้งสองห้อง ด้านขวาเป็นครัว ระเบียงและห้องน้ำสำหรับแขกกับห้องนอนเล็กใช้ร่วมกัน ห้องนอนเล็กมีหน้าต่างบานเล็กๆเปิดไปเจอส่วนห้องแต่งตัว บริเวณหน้าห้องน้ำของ Master Bedroom ด้วย ดูห้องกันครับ

เปิดเข้ามาก็เป็นห้องนั่งเล่น

ชุดโซฟาและทีวี ระยะสบายๆมาก ทีวีจัดหนัก 50 นิ้วก็วางได้

ผนังด้านซ้าย เป็นประตูสู่ห้องนอนเล็ก และ Master Bedroom มีโต๊ะทานข้าววางอยู่ไกล้ประตูหน้า

โต๊ะทานข้าว

ตู้ใส่ของ และรองเท้า

ผนังด้านขวาหลังโซฟาห้องนั่งเล่น เป็นครัว และห้องน้ำครับ มีอีกอย่างที่ผมชอบคือ เค้าลบมุมส่วนผนังภายใน มันจะดูโล่งลื่นสบายตาขึ้นนะครับ สังเกตุที่พื้น เป็นแบบนี้ทุกห้องซึ่งดีครับ

ห้องนอนเล็กที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็น ห้องทำงาน ห้องแต่งตัว หรือห้องอเนกประสงค์ได้ ตกแต่งน่ารักดีนะครับ มีครบ เตียงสามฟุต ตรงปลายเตียงมีหน้าต่างเชื่อมกับห้องแต่งตัวของห้องนอนใหญ่ ระบายอากาศได้ เพราด้านนั้นมีระเบียงอีกหนึ่งอัน

หน้าต่างเล็กปลายเตียงห้องนอนเล็ก เปิดเพื่อระบายอากาศได้

ห้องนอนใหญ่ Master Bedroom

ปลายเตียงวางทีวีได้ แต่ได้มุมเอียงหน่อยๆ

ห้องแต่งตัว มีตู้เสื้อผ้า Built in และมีระเบียงอยู่ด้านนี้ด้วย

โต๊ะเครื่องแป้งในห้องแต่งตัว

ภาพรวมห้องน้ำ

Pantry

ระเบียงกับห้องน้ำ เหมือนเดิมเลยอ่ะ เพราะมันคือเอาห้อง 26 มาจอยกัน

Price & Performance

ราคา มาตรฐาน ณ.วันที่ 21 มกราคม 2555

• ราคาห้องตึก A1 เริ่มต้น 1,169,000 บาท สำหรับห้อง 22.5 ตรม ราคาสูงสุด 1,580,000 บาท สำหรับห้อง 26.5 ตารางเมตร ส่วนห้อง 52 ตรม คือซื้อห้อง 26 ตรม 2 ห้องรวมกัน
• ราคาห้องตึก A2 เริ่มต้น 1,159,000 บาท สำหรับห้อง 22.5 ตรม ราคาสูงสุด 1,560,000 บาท สำหรับห้อง 26 ตารางเมตร
• ราคาห้องตึก B1 เริ่มต้น 1,088,000 บาท สำหรับห้อง 22.5 ตรม ราคาสูงสุด 1,520,000 บาท สำหรับห้อง 26 ตารางเมตร
• ราคาห้องตึก B2 เริ่มต้น 1,159,000 บาท สำหรับห้อง 22.5 ตรม ราคาสูงสุด 1,540,000 บาท สำหรับห้อง 26 ตารางเมตร
•  ราคาห้องตึก C เริ่มต้น 1,108,000 บาท สำหรับห้อง 22.5 ตรม ราคาสูงสุด 1,550,000 บาท สำหรับห้อง 26 ตารางเมตร
• ราคาห้องตึก D1 เริ่มต้น 1,078,000 บาท สำหรับห้อง 22.5 ตรม ราคาสูงสุด 1,450,000 บาท สำหรับห้อง 26 ตารางเมตร
• ราคาห้องตึก D2 เริ่มต้น 1,078,000 บาท สำหรับห้อง 22.5 ตรม ราคาสูงสุด 1,500,000 บาท สำหรับห้อง 26 ตารางเมตร

ห้องราคาแปลกๆหน่อย เพราะนี่คือราคาห้องที่ยังเหลืออยู่ และขึ้นอยู่กับทำเลห้อง ทิศห้อง และชั้นของห้องด้วย แต่โดยรวมๆ ไม่ต่างกันมากมายอะไร

เงื่อนไขการซื้อ

• จอง 5,000 บาทสำหรับห้อง 22.5-23 ตรม 10,000 บาทสำหรับ 26-26.5
• ทำสัญญา  20,000  บาทสำหรับห้อง 22.5-23 ตรม และ 30,000 บาท สำหรับห้อง 26-26.5 ตรม
• ผ่อนดาวน์ 10% (รวมจองและเงินทำสัญญาแล้ว)
• โอน 90%

Promotion ฟรีเงินทำสัญญา (แปลว่าลด 20,000 -30,000 บาท นั่นแหละ)

 

เจาะลึกรวบยอด

ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ โครงการนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการมาตรฐานของ LPN ที่น่าจะบริหารหลังโอนโดย LPN ชุมชนน่าอยู่ที่มีบริการครบ ทั้งนิติ ขายต่อ และปล่อยเช่า เสียงสะท้อนจากลูกบ้านมีบวกมากกว่าลบ คาดเดาคุณภาพได้ เพราะ LPN เค้าหวังทำมาหากินอยู่กับโครงการต่อเนื่องระยะยาว ไม่ได้ขายโอนแล้วจบกัน ลูกค้าของ LPN ส่วนมาก ซื้อด้วยงบประมาณที่มันพอดีกับกระเป๋า ทำเล วัสดุ การออกแบบ Facility ของตระกูล “วิลล์” อาจจะไม่ได้ดีเลิศ แต่มันก็ทำให้โครงการของ LPN สามารถอยู่ในราคาที่ เราๆ  หยิบได้ ซื้อได้จริง แบบสบายใจ เป็นทางเลือกให้กับตลาดส่วนใหญ่

สำหรับลูกค้า LPN หรือผู้ที่กำลังสนใจ โครงการนี้ ผมคิดว่าคงไม่ได้มองราคาต่อตารางเมตร คงจะมองที่ราคาที่ต้องจ่าย ราคาที่หยิบได้ ซึ่ง ปัจจุบันปรับราคาเป็น Start ที่ 1,078,000 ล้านบาท แล้ว ถ้าผ่อนชำระกับธนาคารระยะเวลา 20 ปี จะอยู่ที่ประมาณ 7,700 บาท ที่ดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี เมื่อบวกกับค่าส่วนกลาง 630 บาทต่อเดือน ก็จะเป็นยอดจ่ายต่อเดือนที่ 8,330 บาท ก็นับว่าสูงอยู่ เมื่อเทียบกับค่าเช่าของอพาร์ตเมนท์แถบพัฒนาการ หรือรามคำแหงที่อยู่ไกล้เคียงกัน แต่ผมสนับสนุนให้ซื้อนะ ดีกว่าจ่ายค่าเช่าทิ้ง ถ้ามีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ก็คงพอผ่อนได้สบายไม่เดือดร้อนมาก

โครงการนี้ไม่ได้คึกคักเหมือนโครงการอีกหลายโครงการของ LPN เพราะต้องบอกไว้ก่อนว่าเหมาะซื้ออยู่อาศัย เหมาะกับ “คนย่านนี้” ที่ต้องอยู่แถวนี้อยู่แล้ว ยังไม่ใช่สำหรับนักเก็งกำไร หรือนักลงทุน เพราะ Supply ห้องเช่า เยอะ และราคาไม่แพง อีกทั้งขนาดของโครงการที่มีห้องถึง 1,482 ห้อง คงจะลำบากหน่อยสำหรับการปล่อยเช่าให้ได้ราคา

เปรียบเทียบกับโครงการไกล้เคียง ทำเลไกล้เคียงกัน แถวนี้มี The Leaf (อ่าน Review The Leaf กดตรงนี้เลย) อยู่ถัดไปตรงทางด่วน ห่างกันประมาณ 1.3 กม. ก็ค่อนข้างไกล้เคียง แต่ The Leaf โครงการดีกว่า ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อยถ้ามองต่อตารางเมตร (47,911  VS 51,034 ) แต่ The Leaf ขายแบบ Fully Furnished จัดให้ครบ แต่พอจะซื้อจริงจะพบว่า ตลาดมันแยกกันชัดเจนเพราะราคาที่ต้องจ่ายของ LPN มี 1.08 ล้าน ก็ได้ห้อง (ที่เล็กกว่า) แต่ The Leaf ต้องมี 1.5 ล้านถึงจะซื้อได้ ส่วนอีกเจ้าคือ U Delight Residence คอนโดหน้ากว้างที่อยู่ถัดจาก The Leaf ไป (อ่าน Review U Delight กดตรงนี้เลย) อันนั้นเอามาเทียบกันไม่ได้เลย คนละตลาดชัดเจนมาก

 

Judgement

ตามมาตรฐาน Mr.Oe นะครับ เป็น weight average คิดตามความคุ้มค่าเทียบกับเงินที่จ่ายไปโดย

40% คือทำเล, 15% คือประสบการณ์การผ่านงานของ Developer, 15% ความคุ้มค่าด้านราคา, 10% วัสดุ, 10% แบบ, และ 10% สาธารณูปโภค

• ทำเล 7.75/10 – ติดถนนพัฒนาการ ทำเลนี้ราคานี้ เหมาะสมแล้ว
• ประสบการณ์ 9/10 – LPN นี่เก๋าระดับอาจารย์ ประสบการณ์โชกโชน
• ราคา 8/10 – ราคาน่าจะกดได้ต่ำกว่านี้ แต่ราคานี้ก็ถือว่าผ่าน
• วัสดุ 7/10 – วัสดุก็ให้มาสมราคาครับ เสียแต่ว่าเป็นห้องเปล่า
• แบบ 8/10 – มีพัฒนาการ มีการออกแบบให้ใช้พื้นที่ได้ดีขึ้นครับ
• สาธารณูปโภค 6/10 – น้อยมาก แทบไม่มีอะไรเลยเมื่อเทียบกับ 1,482  ห้อง

Final Score ความคุ้มค่า : 7.75/10 คะแนน