ถ้ายังจำกันได้ช่วงปลายปี 2559 รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยการลดค่าโอนจดจำนอง สำหรับบ้านราคาไม่เกิน  3 ลบ. และมีระยะเวลาประมาณ 6 เดือนซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดี ล่าสุดอาจมีข่าวดีว่า รัฐบาลเตรียมนำมาตรการดังกล่าวกลับมาใช้อีกครั้ง โดยหวังผลักดันให้เป็นมาตรการถาวร แต่จะต้องเป็นที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1.5 ลบ. เท่านั้น

อ้างอิงจากข้อมูลของ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ แหล่งข่าวจากทำเนียบฯ ได้เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดิน เมื่อช่วงกลาง มิ.. ที่ประชุมเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยให้จัดทำมาตรการการเงินการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเร่งให้ดำเนินการเร็วที่สุด

แนวทางที่นำเสนอคือ ออกมาตรการผ่อนคลายภาระ ผู้ซื้อบ้านที่มีรายได้น้อย โดยให้ลดค่าโอนและจำนองจาก จาก 3% เหลือ 0.01% เป็นมาตรการถาวร สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1.5 ลบ.

ก่อนหน้านี้มีการหารือระหว่างเอกชน เพื่อให้ขยับราคาบ้านเป็น2 ลบ. แต่ก็มีการแย้งว่า อาจเป็นราคาที่สูงเกินไป ควรลดลงมาเพื่อให้เป็นราคาสำหรับผู้มีรายได้น้อยจริงๆ คือไม่เกิน 1.5 ลบ.

จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) โครงการที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ลบ. ของเอกชนทั่วประเทศที่อยู่ระหว่างการขาย มีประมาณ 10,000 ยูนิต แบ่งครึ่งระหว่างกรุงเทพและต่างจังหวัด  แต่ถ้าขยับมาเป็น 1.5 ลบ. ทั้งประเทศจะมีประมาณ 30,000 ยูนิต ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสินค้าราคา 2 ลบ.

ส่วนใหญ่พอร์ตหลักของสินค้าระดับราคานี้ จะไปอยู่ที่การเคหะแห่งชาติ ซึ่งมีนโยบายหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยระดับราคาของโครงการจะอยู่มี 800,000-1,500,000 ลบ. และมีแผนในอนาคตที่จะพัฒนาให้ถึง 200,000 ยูนิตทั้วประเทศ

แหล่งข่าวยังระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้มีการหารือกันระหว่างเอกชนและรัฐบาลเป็นระยะ ซึ่งทางเอกชนเสนอให้ลดหย่อยสำหรับราคาบ้านที่ไม่เกิน 2 ลบ. แต่ก็มีการถกเถียงว่าเป็นราคาสูงเกินไป ควรลดลงมาให้เป็นราคาสำหรับผู้มีรายได้น้อยจริงๆ ซึ่งก็มีในส่วนของหมูบ้านการเคะ ที่พัฒนาโครงการสำหรับผู้มีรายได้น้อยโดยตรง ปัจจุบันราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 800,000-1,500,000 บาท