“แม่น้ำเจ้าพระยา” เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่อยู่คู่กับเมืองไทยมาช้านาน คนไทยสมัยก่อนมักนิยมสร้างบ้านอยู่ติดริมน้ำ เพราะผู้คนในยุคนั้นยังใช้การเดินทางด้วยเรือเป็นหลัก ทำให้การคมนาคมสะดวก ก็เหมือนในสมัยนี้นี่แหละครับ ที่หลายๆคนอยากมีบ้านอยู่ติดริมถนนใหญ่ จะได้ไม่ต้องเข้าซอยไปลึก ซึ่งที่อยู่อาศัยก็ได้พัฒนามาจนเป็นการอยู่แบบคอนโดมิเนียมอย่างที่เห็นกันมากมายอยู่ในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่มีความสะดวกสบายอยู่รายล้อม และสามารถ take city view และแสงไฟสวยๆยามค่ำคืนได้อีกด้วย

แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบวิวธรรมชาติที่เปิดโล่ง “คอนโดวิวแม่น้ำเจ้าพระยา” จึงเป็นคำตอบ เพราะนอกจากจะยังเข้า-ออกเมืองได้สะดวกแล้ว ยังได้รับวิวที่เปิดโล่ง และวิวธรรมชาติที่สวยงามอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า มีคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเกิดขึ้นมากมาย โดยแม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ที่มีความยาวมาก จึงอาจแบ่งแหล่งที่อยู่ริมแม่น้ำออกได้เป็นหลายย่าน ซึ่งย่านที่ผมจะนำมาพูดถึงในวันนี้คือ “ย่านบางโพ” นั่นเองครับ

“บางโพ” ไม่ได้มีดีแค่สาวบางโพ แต่ยังเป็นหนึ่งในทำเลที่มีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาดีที่สุดจุดหนึ่งอีกด้วย นั่นเป็นเพราะทำเลย่านนี้อยู่ตรงบริเวณส่วนโค้งของแม่น้ำพอดี ดังนั้นคอนโดสูงๆจึงได้รับวิวโค้งแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่งที่สวยงามมาก อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับรัฐสภาแห่งใหม่ที่เค้าจะมีกฎหมายควบคุมความสูงของอาคารบริเวณโดยรอบ จึงเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยการันตีวิวของคอนในย่านนี้ได้ดี ว่าจะมีโอกาสบังวิวกันได้น้อยนั่นเองครับ

สำหรับคอนโดวิวแม่น้ำที่ผมจะมาพูดถึงในวันนี้มีอยู่ด้วยกัน 6 โครงการ โดยผมจะมีเกณฑ์ในการคัดเลือกมาเฉพาะโครงการที่ได้รับวิวแม่น้ำจริงๆ ไม่โดนบังวิวจากโครงการเพื่อนบ้านอย่าง The Stage Taopoon Interchange และจะไม่นับโครงการที่หันหน้าไปแต่ทางทิศเหนือ-ใต้ ที่จะไม่สามารถเห็นแม่น้ำได้โดยตรงอย่าง The Tree Bang Po Station นะครับ

โดยรายชื่อผู้ที่ผ่านเข้ารอบมาทั้ง 6 โครงการจะมีดังนี้

  • 333 Riverside
  • Chapter One Shine บางโพ
  • Chapter One Flow บางโพ
  • Modiz Collection บางโพ
  • Chewathai Residence บางโพ
  • The Tree Interchange

ซึ่งจากรายชื่อโครงการ 4 ตัวแรก จะเป็นโครงการที่มีทำเลอยู่ฝั่งเดียวกับแม่น้ำทางด้านซ้ายของถนนประชาราษฎร์ สาย 1 ซึ่งค่อนข้างการันตีวิวได้ว่าจะไม่มีอาคารสูงอื่นขึ้นมาบังวิวในอนาคต หรือมีโอกาสได้ยากครับ ส่วนอีก 2 โครงการที่จะต้องข้ามฝั่งถนนมาอีกด้านก็อาจมีสิทธิ์ถูกโครงการฝั่งตรงข้ามขึ้นบังได้มากกว่านั่นเอง

และอีกหนึ่งข้อดีของทำเลย่านนี้ที่ผมมองเห็นคือ “การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า” ซึ่งจะมี MRT สถานีเตาปูน เป็นสถานีต้นทาง/ปลายทางของรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินในปัจจุบัน และไม่กี่ปีมานี้ก็เพิ่งเปิดใช้งานรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) จึงทำให้สถานีเตาปูนกลายเป็นจุด Interchange ที่สำคัญของย่านนี้ มีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์สูง รวมถึงมีคอนโดมิเนียมมากมายเกิดขึ้นรายล้อมสถานีนี้อีกด้วยครับ

เพียงแต่คอนโดบริเวณสถานีเตาปูนนี้ อาจยังไม่ตอบโจทย์ในเรื่องวิวแม่น้ำมากนัก เพราะจะมองเห็นได้ในระยะที่ค่อนข้างไกล หรืออาจมีสิทธิ์ถูกโครงการเพื่อนบ้านที่อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้แม่น้ำมากกว่าบังวิวได้ ดังนั้นคอนโดที่ได้วิวแม่น้ำจริงๆ จึงจะต้องเขยิบเข้ามาอีกหน่อย คือบริเวณสถานี บางโพ ซึ่งเป็นรถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยายใหม่ (เตาปูน-ท่าพระ) ที่จะเปิดใช้งานในอนาคต อีกทั้งยังมีการเดินทางทางน้ำอย่าง “เรือด่วนเจ้าพระยา” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกอีกด้วย

และอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นประเด็นสำคัญสำหรับทำเลในย่านนี้คือ เขตพื้นที่ห้ามก่อสร้างอาคารสูงบริเวณใกล้กับรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งกฎกระทรวงฉบับล่าสุดปี 2560 ได้กำหนดขอบเขตที่ดินเป็น 2 ระยะคือ

  • บริเวณที่ 1 วัดจากขอบเขตที่ดินรัฐสภาออกมารัศมี 200 m. ห้ามก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารขนาดใหญ่ และอาคารสูงเกิน 15 m. (หรือเทียบเท่ากับบ้านและอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 3 ชั้น)
  • บริเวณที่ 2 วัดจากระยะของบริเวณที่ 1 ออกมาอีก 100 m. ห้ามก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารขนาดใหญ่ และอาคารสูงเกิน 23 m. (หรือเทียบเท่ากับอาคารสูงไม่เกิน 8 ชั้น)

ซึ่งความจริงแล้วการออกกฎนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วถึง 2 ครั้งครับ จากเดิมตอนปี 2554 ได้ออกกฎมา โดยกินรัศมีกว้างถึง 800 m. ซึ่งรวมไปถึงฝั่งจรัญฯด้วย แต่ก็ได้มีการปรับลดลงมาจนเหลือเพียงเท่าที่เห็นในปัจจุบัน และพื้นที่นอกเหนือจากเขตที่เค้ากำหนด ถ้าเราอิงจากกฎหมายผังสีกรุงเทพฯ ที่โซนนี้ทั้งหมดยังเป็นผังสีน้ำตาลคือ ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก นั่นหมายความว่ายังสามารถสร้างอาคารขนาดใหญ่ และอาคารสูงมากกว่า 30 ชั้นได้อยู่ครับ ดังนั้นวิวทางด้านทิศใต้ของโครงการที่ผมจะพูดถึงต่อไปนี้ ผมจะไม่ขอการันตีวิวนะครับ เพราะในอนาคตก็อาจมีตึกสูงขึ้นมาบังวิวได้เช่นกัน แต่ ณ ปัจจุบันตอนนี้คือยังไม่มีเลยครับ

โครงการแรก 333 Riverside จาก Land and Houses เป็นคอนโด High Rise ที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาเลย และยังติดกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายสถานีบางโพอีกด้วย ตัวห้องเริ่มต้นขนาดใหญ่ 45.5 ตร.ม. ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มอิ่ม และมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ร่มรื่นมากอีกด้วยครับ

Fact @ 1 September 2019

  • คอนโดมิเนียม High rise 2 อาคารและ Low rise 1 อาคาร รวม 950 ยูนิต แบ่งเป็น
    • อาคาร A สูง 41 ชั้น จำนวน 480 ยูนิต
    • อาคาร B สูง 42 ชั้น จำนวน 454 ยูนิต
    • Villa จำนวน 16 ยูนิต

  • ที่จอดรถ 800 คัน  คิดเป็น 78%  รวมจอดซ้อนคัน 84 %
  • ที่ดินประมาณ 11 – 1 – 49.5 ไร่
  • โครงการสร้างเสร็จ 2562
  • 1  Bedroom 45.5-50.0 ตารางเมตร ราคา resale ปัจจุบันปี 2019 คือ 8.2 – 8.6 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 170,000 – 189,000 บาท/ตร..)
  • 2 Bedrooms 82.7-93.8 ตารางเมตร ราคา resale ปัจจุบันปี 2019 คือ 17.5 – 19.5 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 168,000 – 203,000 บาท/ตร..)
  • Villa 143.5-201.3 ตารางเมตร ราคา resale ปัจจุบันปี 2019 คือ 36.2 – 37 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 254,930 – 260,563 บาท/ตร..)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร

สำหรับโครงการ 333 Riverside ถือว่าเป็นเพียงโครงการเดียวในย่านนี้ที่มีที่ดินติดแม่น้ำเจ้าพระยาจริงๆครับ โดยเค้าจะมีทั้งหมด 2 อาคาร และจะถูกออกแบบมาให้ไม่บังวิวกันเองด้วยครับ สำหรับอาคาร A จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกและตะวันตก ซึ่งทิศตะวันตกก็จะได้รับวิวแม่น้ำแบบเต็มๆทุกห้องเลยครับ ส่วนชั้นที่ไม่สูงมาก (ประมาณชั้น 6 – 8) ก็ยังสามารถได้รับวิวส่วนกลางที่อยู่บนโพเดี้ยมชั้น 5 ได้แก่ สวน และสระว่ายน้ำได้อีกด้วยครับ

ส่วนอาคาร B จะวางผังอาคารเป็นทรงสามเหลี่ยม ซึ่งกันมุมแหลมไปทางแม่น้ำ และมีมุมป้านที่กางออกมาเพื่อให้ห้องทุกห้องได้รับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ครับ ซึ่งวิวที่ได้จะแตกต่างจากอาคาร A ตรงที่ไม่ได้หันหน้ามองออกไปทางฝั่งจรัญฯที่อยู่ตรงข้ามโดยตรง แต่จะเห็นเป็นโค้งแม่น้ำแบบระยะไกล แล้วยังไม่ถูกแสงอาทิตย์ยามเย็นส่องเข้าห้องโดยตรงอีกด้วย

ทิศเหนือ จะเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยาฝั่งนนทบุรี และยังเห็นสะพานพระราม 7 อีกด้วยครับ วิวฝั่งนี้ค่อนข้างเปิดโล่ง เนื่องจากฝั่งนี้มีวัดเเละโรงเรียนอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้จึงอุ่นใจได้ว่าไม่น่าจะมีอาคารสูงขึ้นในระยะประชิดแน่นอน (จากการสอบถามผู้พักอาศัยในชั้นที่ไม่สูงมากจะมีบางช่วงอาจจะได้ยินเสียงงานบวช งานบุญจากวัดบ้าง ซึ่งก็ต้องแลกมากับวิวที่เปิดโล่งฝั่งนี้ครับ)

ส่วนอีกด้านทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ เราเห็นทั้งรางรถไฟฟ้า อาคารรัฐสภา เเละโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้านหนึ่งแบบนี้นั่นเอง

สำหรับห้องพักอาศัยของโครงการนี้จะเป็นห้อง size ใหญ่ ดังนั้นนอกจากการพิจารณาเรื่องวิวที่ต้องการแล้ว อย่าลืมคิดเผื่อถึงเงินในกระเป๋าด้วยนะครับ ซึ่งถ้าคุณเป็นคนมีงบจำกัด หรืออยากซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่ 2 เอาไว้มาพักผ่อนนานๆครั้ง ก็อาจเลือกเป็นห้อง 1 Bedroom 45.5 ตารางเมตร ที่อาคาร A ก็ได้ครับ เพราะยังได้วิวแม่น้ำแบบเต็มๆ แถมมีเงินเหลือไปแต่งห้องเพิ่มได้อีกด้วย

แต่ถ้าใครที่มีงบหน่อยผมอยากเชียร์อาคาร B เพราะห้องของเค้าส่วนใหญ่จะเป็นห้องหน้ากว้าง สามารถพักอาศัยกันได้หลายคน แถมยังได้วิวครบทุกฟังก์ชันอีกด้วย โดยส่วนตัวผมมองว่าการที่เราเห็นวิวโค้งแม่น้ำแม้จะเพียงแค่ด้านเดียว ก็สวยมากกว่าการแค่มองข้ามแม่น้ำไปฝั่งตรงข้าม แถมยังเป็นระยะที่มองไปได้ไกลกว่ามากอีกด้วยครับ

และอย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่มีที่ดินอยู่ติดริมแม่น้ำจริงๆ ดังนั้นจึงมีพื้นที่ facilities พิเศษอย่างสวนและระเบียงริมแม่น้ำ ให้ลูกบ้านสามารถเดินมานั่งพักผ่อนและชมวิวกันได้ง่ายๆ ไม่ต้องออกไปนอกโครงการหรือไปถึงต่างจังหวัดเลยครับ ส่วนตัวจึงมองว่าโครงการนี้ดีมากๆ ทั้งในเรื่องทำเล การออกแบบผังอาคาร และพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้งานได้จริงไม่เหมือนใครแบบนี้นั่นเอง

โครงการต่อมาคือ Chapter One Shine บางโพ จาก พฤกษา เรียลเอสเตท เป็นคอนโด High Rise ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ที่มี Concept ในการออกแบบเป็นสไตล์ Modern Chinese เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ โดยดึงเอาจุดเด่นทางกายภาพของพื้นที่เดิมที่เป็นชุมชนชาวจีน ที่เค้านิยมค้าไม้ในย่านบางโพ มาผสมผสานในการออกแบบอาคารครับ โดยปัจจุบันโครงการนี้สร้างเสร็จและกำลังอยู่ในช่วงโอนแล้วนะครับ สามารถเข้าไปชมวิวจากห้องของจริงกันได้เลย ตอนนี้เค้าขายไปแล้วกว่า 90% แต่ก็ยังไม่ห้องวิวแม่น้ำให้เลือกอยู่นะครับ

Fact @ 1 September 2019

  • คอนโด High Rise 33 ชั้น 1 อาคาร 615 ยูนิต
  • อาคารจอดรถ 5 ชั้น 1 อาคาร
  • ที่จอดรถประมาณ 251 คันคิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 50%
  • ที่ดินประมาณ 3-1-40 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : 2017
  • สร้างเสร็จ : ปี 2019 (พร้อมอยู่)
  • Studio 22.50 – 23.35 ตร.ม. ปัจจุบันปี 2019 ราคา 1.89 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 84,000 บาท/ตร.ม.)
  • 1 Bedroom 28.80 -29.30 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Exclusive 48.90 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Riverfront 44.90 ตร.ม. ปัจจุบันปี 2019 ราคา 4.29 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 95,545 บาท/ตร.ม.)
  • 2 Bedroom Riverfront 56.80 ตร.ม. ปัจจุบันปี 2019 ราคา 6.35 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 111,795 บาท/ตร.ม.)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า พฤกษา เค้าได้ที่ดินแปลงนี้ที่มีขนาดใหญ่มาครับ เค้าจึงแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 โครงการคือ Chapter One Shine บางโพ และ Chapter One Flow บางโพ โดยทั้ง 2 ตัวนี้จะไม่ได้มีที่ดินติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนโครงการก่อนหน้านี้นะครับ และที่ดินด้านหลังปัจจุบันเป็นชุมชนกับโกดังเก็บไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งผมก็ไม่การันตีเหมือนกันว่าจะไม่มีตึกใหม่มาขึ้นบังในอนาคต แต่สำหรับ Chapter One เค้าก็มีการวางผังอาคารเพื่อไม่ให้ทั้ง 2 โครงการนี้บังวิวกันเองด้วยครับ

โดยโครงการ Chapter One Shine บางโพ เค้าจะหันหน้าแคบของอาคารไปทางแม่น้ำครับ ทำให้ห้องที่ได้รับวิวแม่น้ำจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ด้าน คือห้องมุมอาคารที่หันมาทางแม่น้ำโดยตรง กับด้านทิศใต้ที่มองไปทางแยกบางโพ ซึ่งถ้าอยากได้วิวแม่น้ำก็อาจต้องมองเฉียงๆเอาหน่อยครับ แต่ถ้าเป็นชั้น 6 – 8 ก็จะสามารถชมวิวสวนบนโพเดี้ยมชั้น 5 ของอาคารจอดรถได้เลยนะ

ส่วนแบบห้องก็จะมีให้เลือกได้ทุกแบบของโครงการเลยครับ ซึ่งถ้าคุณเป็นคนต้องการ take view แม่น้ำจากในห้องของตัวเอง ผมก็จะเชียร์เป็นห้อง 1 Bedroom Riverfront และ 2 Bedrooms ที่อยู่ตรงมุมอาคารพอดี เพราะเป็นห้องหน้ากว้าง และหันหน้าไปทางแม่น้ำโดยตรง แต่สำหรับห้อง Studio และ 1 Bedroom ทางทิศใต้ของโครงการนี้จะไม่ค่อยเน้นช่องแสงมากนัก อีกทั้งยังเป็นห้องแบบตอนลึกซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตัวผมมองว่าคนที่จะเลือกห้องแบบนี้จะเป็นคนที่เน้นไปชมวิว และใช้งาน Sky Facilities ของโครงการเป็นหลักมากกว่าครับ หรือจะซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่ 2 ไว้มาพักผ่อนเป็นครั้งคราวก็ไม่เลว

โดย Facilities ของโครงการนี้จะมีอยู่ 2 จุดด้วยกันคือ บนโพเดี้ยมอาคารจอดรถชั้น 5 จัดเป็นสวนและ Co-Working Space ซึ่งได้ความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว และอีกหนึ่งจุด Highlight คือ Sky Facilities โดยเฉพาะสระว่ายน้ำ และห้อง Fitness บนชั้น 32 – 33 ที่จะเห็นวิวโค้งแม่น้ำไปเต็มๆ เหมาะกับคนที่ชอบการ take view สวยๆแบบนี้ในระหว่างการออกกำลังกายมากๆครับ

โครงการ Chapter One Flow บางโพ เป็นคอนโดพี่น้องที่เปิดตัวตามหลังจากปีที่แล้วเปิดตัว Chapter One Shine บางโพ ไปไม่นาน ซึ่งตัวใหม่อย่าง FLOW จะมีจุดเด่นที่จำนวนยูนิตน้อยกว่า มีความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังเน้นที่พื้นที่ส่วนกลางต่างๆให้ดูมีความทันสมัย น่าใช้งาน รวมถึงเน้นส่วนกลางลอยฟ้าที่เปิดรับวิวมุมกว้างของแม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้นอีกด้วย โดยโครงการนี้จะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2564 นะครับ

Fact @ 1 September 2019

  • คอนโด High Rise 41 ชั้น 1 อาคาร 385 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
  • อาคารจอดรถ 4 ชั้น 1 อาคาร
  • ที่จอดรถประมาณ 56% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 3-1-04 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : Q1 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 2564
  • 1 Bedroom (City View) ขนาด 31.80 – 32.80 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus (Riverfront) ขนาด 43.20 – 43.85 ตร.ม. ปัจจุบันปี 2019 ราคา 3.9 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 90,277 บาท/ตร.ม.)
  • 2 Bedroom 1 Bath (Riverfront) ขนาด 49.35 ตร.ม. ปัจจุบันปี 2019 ราคา 5.27 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 106,788 บาท/ตร.ม.)
  • 2 Bedroom 2 Bath (Riverfront) ขนาด 64.5 ตร.ม. ปัจจุบันปี 2019 ราคา 6.81 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 105,581 บาท/ตร.ม.)
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร

สำหรับ Chapter One Flow บางโพ เค้าจะหันหน้ากว้างออกไปทางแม่น้ำโดยตรงเลย ทำให้ห้องฝั่งทิศตะวันตกจะได้รับวิวแม่น้ำเกือบทุกห้อง เพียงแต่สำหรับโครงการนี้จะมีข้อจำกัดการมองเห็นที่ต้องเป็นเส้นตรงเท่านั้น ไม่สามารถมองวิวแม่น้ำเป็นมุมกว้างทางด้านข้างได้เหมือน Chapter One Shine ที่ตัวอาคารเค้าจะยื่นเข้ามาใกล้แม่น้ำจนเกือบพ้นระยะของอาคาร 27 ชั้นที่อยู่ข้างกัน ดังนั้นถ้าเป็นคนที่อยากได้วิวดีจริงๆ ก็อาจต้องเลือกห้องพักในชั้นสูงๆสักชั้นที่ 35 ขึ้นไป เพื่อให้พ้นระยะของอาคารข้างเคียง และแน่นอนว่าราคาย่อมสูงกว่าชั้นล่างๆด้วยนะครับ

อย่างที่เกริ่นไปแล้วนะว่าโครงการนี้มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าโครงการ Shine เพราะมียูนิตที่น้อยกว่า ส่วนห้องที่เป็นวิวแม่น้ำทั้งหมดจะเป็น size ใหญ่ของโครงการ เริ่มต้นที่ 43.2 ตารางเมตรขึ้นไป ถึงแม้แบบห้องจะไม่ใช่ห้องหน้ากว้างที่ช่วย take view ได้อย่างเต็มที่ แต่ภายในก็มีการจัดฟังก์ชันได้น่าสนใจมากๆครับ อย่างห้อง 1 Bedroom ขนาด 43.2 ตารางเมตร ผมชอบตรงห้องน้ำเข้าได้ 2 ทาง คือจากห้องนอน และห้องครัว ค่อนข้างเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากเลยทีเดียว ส่วนห้อง 2 Bedrooms ขนาด 64.75 ตารางเมตร ก็มีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้อง ไม่ต้องแย่งกันใช้ แล้วยังมีระเบียงขนาดใหญ่ให้ออกไปใช้งานได้อีกด้วย

และอย่างที่ผมเกริ่นไปแล้วว่าถ้าเป็นห้องพักอาศัยของโครงการนี้ จะถูกจำกัดในเรื่องของวิวที่ถ้าเป็นชั้นไม่สูงก็อาจไม่สามารถ take view แบบมุมกว้างได้ ดังนั้นเค้าจึงออกแบบให้มี Sky Facilities ที่ 2 ชั้นบนสุด มีทั้งสระว่างน้ำแนวยาวที่ขนานไปกับแม่น้ำ รวมถึงมี Fitness ให้ขึ้นมาใช้งานได้อีกด้วย ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เหมาะกับสายออกกำลังกายแนว Active ที่ต้องการวิวไปด้วย แต่สิ่งที่พิเศษเพิ่มขึ้นมาจากโครงการ Shine รุ่นพี่คือ มีห้อง Co-Working Space อยู่ที่ชั้นบนด้วย จึงเหมาะกับสาย working ที่เน้นทำงานอยู่ที่บ้าน แต่ก็ต้องการมุมทำงานสวยๆ วิวดีๆ โครงการนี้จึงตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว หรือถ้าใครเป็นคนชอบสวน และอยากพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว ก็สามารถมาใช้งานที่บนชั้น 5 ของโพเดี้ยมอาคารจอดรถกันได้เช่นกันครับ

โครงการ Modiz Collection บางโพ จาก Assetwise เป็นคอนโด High Rise วิวแม่น้ำเจ้าพระยาน้องใหม่ล่าสุดของย่านนี้ จุดเด่นเลยคือการยก Facilities ไว้ที่ 3 ชั้นบนสุด เพื่อให้ลูกบ้านสามารถขึ้นไปดื่มด่ำกับบรรยากาศและวิวที่สวยงามได้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับห้องแนว Loft แบบฝ้าเพดานสูง ที่ยังไม่มีโครงการไหนในทำเลนี้ แล้วยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีบางโพ ที่คาดว่าจะเปิดใช้งานกันในปีหน้าอีกด้วยครับ

Fact @ 1 September 2019

  • คอนโด High Rise 26 ชั้น 1 อาคาร 235 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณคิดเป็น 56% (Auto Parking)
  • ที่ดินประมาณ 1-1-42.8 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : Q2 / 2563
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ตุลาคม 2564
  • Unit Type

  • Studio 24.53-27.93 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 25.14-29.81 ตร.ม. ปัจจุบันปี 2019 ราคา 2.99 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 118,933 บาท/ตร.ม.)
  • 1 Bedroom Exclusive 27.98 – 33.73
  • 1 Bedroom Plus 33.78 – 64.80 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Extra 45.34 – 56.57 ตร.ม. ปัจจุบันปี 2019 ราคา 6.5 – 7.1 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 125,508 – 143,361 – บาท/ตร.ม.)
  • 2 Bedrooms 67.14 – 100.38 ตร.ม.

  • Vertical Suite หรือห้อง Loft (ชั้น 11th , 12th , 12Ath และ 22th )
    • 1 Bedroom 36.96 – 38.27 ตร.ม. ปัจจุบันปี 2019 ราคา 4.1 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 110,930 บาท/ตร.ม.)
    • 1 Bedroom Extra 42.30 – 43.24ตร.ม.
    • 1 Bedroom Plus 47.13 – 65.74 ตร.ม.
    • 2 Bedrooms 68.63 – 77.27 ตร.ม. ปัจจุบันปี 2019 ราคา 8.13 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 118.461 บาท/ตร.ม.)

  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • ฝ้าเพดานห้อง Loft สูง 4.5 เมตร
  • ที่ตั้งของโครงการ Modiz Collection บางโพ จะยังอยู่ฝั่งเดียวกับแม่น้ำเจ้าพระยาทางซ้ายของถนนนะครับ และด้านหลังยังเป็นพื้นที่ของโรงเรียน จึงไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิวในระยะประชิดแน่นอน โดยห้องที่จะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้นั้นจะเป็นห้องฝั่งทิศตะวันตกและทิศใต้ ส่วนห้องที่หันไปทางทิศเหนือจะแอบถูกโครงการเพื่อนบ้านอย่าง 333 Riverside บังวิวไปส่วนหนึ่งครับ

    อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของทำเลโครงการนี้คือ อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT บางโพ มากๆ ห่างออกไปเพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น เหมาะกับทั้งคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยวิวแม่น้ำสวยๆ และต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบ่อยๆครับ

    สำหรับห้องวิวแม่น้ำที่ผมแนะนำทั้ง 2 ด้านของโครงการนี้จะค่อนข้างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ โดยถ้าเป็นห้องที่หันไปทางแม่น้ำด้านหลังอาคารโดยตรง ทั้งหมดจะเป็นห้อง size ใหญ่ เริ่มต้น 45 – 60 ตารางเมตร ซึ่งการันตีได้ว่าวิวสวยจริงครับ แต่ก็แลกมากับเงินก้อนที่ค่อนข้างเยอะตามขนาดห้องไปด้วย แต่ถ้าใครที่อยากได้ห้องที่ราคาย่อมเยาลงมาหน่อย ก็อาจลองมองดูห้องทางทิศใต้ก็ไม่เลวครับ ได้วิวที่เปิดโล่ง มองเห็นทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา และอาคารรัฐสภา ซึ่งจะมีห้อง size 30 ตารางเมตรให้เลือกนะ

    สองสิ่งที่แตกต่างจากโครงการอื่นที่ผมเห็นอย่างแรกคือ ห้องพักส่วนใหญ่จะเน้นเป็นห้องหน้ากว้าง และใช้กระจกเข้ามุมเพื่อช่วยเพิ่มมุมมองวิวแม่น้ำให้กว้างมากขึ้น และอย่างที่ 2 คือ ที่ชั้น 11, 12 13 และ 22 จะเป็นห้อง Loft แบบฝ้าเพดานสูง 4.5 m. ครับ แน่นอนว่าช่องหน้าต่างและกระจกจะมีความสูงตามเพดานห้องขึ้นไปด้วย ทำให้ take view ให้กว้างและเต็มที่มากขึ้นครับ ซึ่งถ้าใครที่ชอบห้องแนวนี้อยู่แล้วก็ไม่ควรพลาดนะครับ

    อีกหนึ่ง Highlight ของโครงการนี้คือการยก Facilities ทั้งหมดไปไว้ที่ชั้นบนสุด มีทั้งสระว่ายน้ำ, Fitness, Meeting Lounge และ Sky Lounge แต่มีฟังก์ชันนึงที่ไม่เหมือนใครนั่นคือ Theater room ดูแล้วเป็นโครงการที่ครบวงจร เหมาะสำหรับพาแขกและเพื่อนๆมาเยี่ยมชม หรือทำกิจกรรมร่วมกันมากๆเลยนะครับ เพราะทุกฟังก์ชันที่กล่าวมานั้น สามารถชมวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามได้ทุดจุดเลย

    โครงการ Chewathai Residence บางโพ จาก ชีวาทัย เป็นคอนโด High Rise ที่สร้างเสร็จมาแล้ว 2 ปี มาพร้อมกับการออกแบบตามบริบทของพื้นที่ โดยนำแรงบันดาลใจจากทำเลของโครงการที่อยู่ในย่านบางโพซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ที่เป็นแหล่งค้าขายไม้ที่ขึ้นชื่อ โครงการจึงออกแบบงานสถาปัตยกรรม ให้มีการถ่ายทอดลายไม้ฝาปะกนลงบนลวดลายตัวอาคาร ซึ่งก็ทำให้เป็นอาคารที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร รวมถึงการตกแต่งโถง Lobby ภายในก็ยังเน้นวัสดุประเภทไม้ ทำให้หรูหราและสวยงามมากๆอีกด้วย

    Fact @ 1 September 2019

    • คอนโด High Rise 24  ชั้น 1 อาคาร 172 ยูนิต
    • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12 ยูนิตที่ชั้น 7-15
    • ที่จอดรถประมาณ 134 คันคิดเป็น 80% รวมจอดซ้อนคัน
    • ที่ดินประมาณ 1-1-94.3 ไร่
    • เริ่มก่อสร้าง : ปี 2558
    • สร้างเสร็จ : ปี 2560
    • 1 Bedroom(เล็ก) A1-A5 ขนาด 33.5-36 ตารางเมตร
    • 1 Bedrooms (ใหญ่) B1-B5 ขนาด 42.5-49 ตารางเมตร  ราคา resale ปัจจุบันปี 2019 คือ 6.79 – 8.5 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 141,458 – 173,469 บาท/ตร.ม.)
    • 2 Bedrooms  C1-C3 ขนาด 68-78.5 ตารางเมตร ราคา resale ปัจจุบันปี 2019 คือ 10.6 – 11.55 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 144,872 – 165,625 บาท/ตร.ม.)
    • 3 Bedrooms (Penthouse) P1-P2 ขนาด 95.5-117 ตารางเมตร
    • ฝ้าเพดาน ห้อง 1 Bed และ 2 Bed สูง 2.8 เมตร, ห้อง Penthouse สูง 3 เมตร

    สำหรับทำเลของโครงการนี้จะไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกับแม่น้ำเหมือนโครงการที่ผ่านๆมานะครับ แต่จะตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ซึ่งแน่นอนว่ามีโอกาสที่จะถูกโครงการเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้แม่น้ำมากกว่าบังวิวได้ โดยเฉพาะโครงการ Modiz ก่อนหน้านี้ ที่อยู่ห่างออกไป 100 m. จะบังวิวไปส่วนหนึ่ง รวมถึงโครงการแรกที่ผมพาไปชมอย่าง 333 Riverside ก็จะบังแม่น้ำส่วนหนึ่งไปด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังพอมีช่องว่างให้สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้อยู่นะครับ คือจะเป็นช่องระหว่างอาคารทั้ง 2 และห้องทางทิศใต้ก็จะยังได้วิวที่เปิดโล่งอยู่ในปัจจุบัน มองออกไปทางอาคารรัฐสภา และเห็นวิวโค้งแม่น้ำระยะไกลได้ แต่ผมก็ไม่การันตีวิวนะครับ เพราะพื้นที่ด้านหลังโครงการยังมีที่ว่างอยู่ ในอนาคตอาจมีตึกสูงขึ้นมาบังวิวได้เช่นกัน

    ผมมีรูปวิวทางทิศตะวันตกมาฝากกันด้วยครับ โดยผมได้จำลองภาพตึกของ Modiz ตอนสร้างเสร็จก็จะบังวิวตรงตำแหน่งประมาณนี้ แต่ก็ยังพอมีช่องว่างเหลือให้สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้อยู่ครับ แต่อาจไม่ได้สวยงามมาก หรือเห็นได้เต็มๆเท่ากับโครงการอื่นที่เค้าอยู่ใกล้แม่น้ำจริงๆอย่างที่บอกไปนะ

    ถ้าถามว่าแล้วโครงการนี้ดียังไง ก่อนอื่นก็ต้องบอกเลยว่าเป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว และมีคนเข้าอยู่มาสักพักแล้วครับ ซึ่งเวลาเราไปดูโครงการจริงก็จะได้เห็นสภาพความเป็นอยู่จริงว่านิติบุคคลบริหารจัดการดีหรือเปล่า อาคารได้รับการบำรุงรักษาดีมั๊ย และเพื่อนบ้านเราเป็นคนยังไง แต่ก็ไม่ใช่คอนโดที่มีราคาถูกเลยนะครับสำหรับคอนโด resale แพงเกือบเทียบเท่าคอนโดเปิดใหม่อยาก Modiz ด้วยซ้ำ

    สำหรับห้องที่ได้วิวแม่น้ำจะเป็นห้อง size ใหญ่ของโครงการครับ มีขนาดเริ่มต้น 42.5 ตารางเมตรขึ้นไป แต่ห้องที่ผมสนใจและเห็นว่าแตกต่างจากโครงการอื่นจริงๆคือห้อง 2 Bedrooms ขนาด 68 ตารางเมตร นั่นเป็นเพราะเค้าค่อนข้างให้ความสำคัญกับห้องน้ำมากเป็นพิเศษ ภายในเป็นช่องหน้าต่างเข้ามุมแบบ Bay Window นอนแช่อ่างอาบน้ำไปและชมวิวแม่น้ำไปได้ด้วย ไม่ได้เน้นการชมวิวให้ห้อง Master Bedroom เท่าไหร่นัก แต่ด้วยลักษณะห้องที่เป็นหน้ากว้าง จึงทำให้ทุกฟังก์ชันได้รับแสงสว่าง และชมวิวได้หมดเลยครับ

    สำหรับชั้น Main Facilities จะอยู่ที่ชั้น 23 และ 24 ประกอบด้วยสระว่ายน้ำและ Fitness ที่เน้น take view ไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาแบบนี้เลยครับ เพียงแต่ในอนาคตทางทิศนี้ของจริงจะมีโครงการ Modiz เกิดขึ้นมาอีก 1 อาคาร ซึ่งจะบังวิวแม่น้ำไปบ้างส่วนหนึ่ง แต่ส่วนตัวผมก็มองว่ายังโอเคอยู่นะ เพราะไม่ได้อยู่ในระยะประชิดมากนัก และยังเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้อยู่

    โครงการสุดท้ายในวันนี้คือ The Tree Interchange จาก พฤกษา เรียลเอสเตท คอนโด High rise ตึกคู่ที่มีขนาดใหญ่ตึกแรกๆของย่านนี้ และมีจำนวนยูนิตมากถึง 1,734 ห้อง เป็นอีกโครงการที่น่าสนใจในเรื่องของทำเล ที่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างรถไฟฟ้า และห้าง Gateway บางซ่อน ครับ

    Facts @ 1 September 2019

    • คอนโด High rise 2 อาคาร อาคาร A สูง 40 ชั้น 1085 ยูนิต และอาคาร B สูง 39 ชั้น 639 ยูนิต
    • ที่จอดรถอาคาร A ประมาณ 50% คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) 2 Bedroom มีที่จอดประจำ 1 คัน
    • ที่จอดรถอาคาร B ประมาณ 60% คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) 2 Bedroom มีที่จอดประจำ 1 คัน
    • ที่ดินประมาณ : พื้นที่อาคาร A 7-1-97 ไร่ และพื้นที่อาคาร B 4-2-5 ไร่
    • สร้างเสร็จ : ปี 2558
    • Cooper 22 ตารางเมตร ราคา resale ปัจจุบันปี 2019 คือ 1.95 – 2.25 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 85,000 – 97,000 บาท/ตร.ม.)
    • Studio 29.5 ตารางเมตร ราคา resale ปัจจุบันปี 2019 คือ 2.7 – 3.05 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 90,000 – 101,000 บาท/ตร.ม.)
    • 1 Bedroom 35 ตารางเมตร ราคา resale ปัจจุบันปี 2019 คือ 2.9 – 3.5 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 82,000 – 100,000 บาท/ตร.ม.)
    • 2 Bedrooms (corner) 58 ตารางเมตร ราคา resale ปัจจุบันปี 2019 คือ 4.55 – 5.9 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 78,448 – 101,724 บาท/ตร.ม.)
    • 2 Bedrooms 63 ตารางเมตร ราคา resale ปัจจุบันปี 2019 คือ 5.2 – 5.85 ล้านบาท (หรือเฉลี่ย 82,450 – 92,875 บาท/ตร.ม.)
    • ฝ้าเพดานสูง : 2.55 เมตร

    ผังโครงการนี้จะค่อนข้างแตกต่างจากโครงการอื่นๆที่ผ่านๆมา โดยเค้าจะมีการแยกอาคารออกเป็น 2 ตึก สำหรับตึก A ห้องที่ได้รับวิวแม่น้ำแบบเต็มๆจะเป็นห้องมุมทางทิศตะวันตก ส่วนห้องด้านหลังทางทิศใต้ก็มองเห็นครับ แต่อาจต้องมองแบบเฉียงๆเอาหน่อยนะ

    ที่น่าสนใจคืออาคาร B ครับ เพราะเค้ามีการวางอาคารแบบเฉียง 45 องศากับที่ดินโครงการ ซึ่งพอทำแบบนี้แล้วจึงช่วยให้ห้องทางทิศเหนือของอาคาร A มีมุมมองที่กว้างมากขึ้น (ถูกจำกัดมุมมองสายตาด้านข้างน้อยลง) อีกทั้งเป็นการหลีกเลี่ยงการถูกบังวิวแม่น้ำจากโครงการเพื่อนบ้านข้างเคียงได้ดี ทั้ง Chewathai และ Modiz นี่แทบไม่มีผลกับทิศทางสายตาเลยครับ จะมีก็แค่ 333 Riverside ที่อยู่ถัดออกไปไกลๆ อาจบังวิวนิดหน่อยนะ และถ้ามีโครงการใหม่เกิดในทิศทางนี้ก็อาจถูกบังวิวได้อีกเช่นกัน

    ซึ่งนี่คือความแตกต่างเรื่องทำเลของโครงการ ถ้าใกล้แม่น้ำก็จะได้วิวที่ดีกว่า และมีโอกาสถูกบังวิวในอนาคตที่น้อยกว่านั่นเองครับ แต่สำหรับปัจจุบันโครงการนี้ก็ยังคือว่าได้วิวแม่น้ำจริงอยู่นะ และถ้าใครที่ชอบความสะดวกสบาย ใกล้ห้างในระยะเดินได้ขนาดนี้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลยล่ะ

    ผมมีภาพวิวในห้องนอนจากห้องมุมของอาคาร A มาฝากกันด้วยครับ จะเห็นได้ว่าอาคารที่เห็นนอกหน้าต่างนั่นก็คือ 333 Riverside ซึ่งก็ไม่ได้บังวิวมากนัก ยังพอที่จะ take view แม่น้ำเจ้าพระยาได้สบายๆอยู่ครับ ซึ่งนี่คือข้อดีของคอนโดวิวแม่น้ำที่ผมอยากจะบอก คือเราสามารถชมวิวในห้องนอนของเราได้เอง แบบตื่นมาแล้วเจอวิวแบบนี้ ทำให้รู้สึกเหมือนเราได้อยู่บ้านพักตากอากาศทุกๆวันเลยครับ

    อันนี้เป็นภาพ Floor Plan ของอาคาร B ที่วางเฉียงกับที่ดินที่ผมพูดถึงนะครับ ซึ่งห้องทุกห้องที่หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะมีสิทธิ์มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้หมดเลย โดยห้อง 1 Bedroom ขนาด 35 ตารางเมตร จะเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุด ซึ่งจุดเด่นของเค้าคือมีระเบียงที่กว้างมากครับ ต่างจากโครงการอื่นก่อนหน้านี้ที่ไม่เน้นระเบียงมากนัก แต่จะเน้นเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ โดยถ้าใครเป็นคนชอบใช้งานพื้นที่ระเบียงเช่น ทำสวน หรือมุมโต๊ะทำงานกลางแจ้งตรงระเบียงเล็กๆ โครงการนี้ก็เหมาะเลยครับ แต่ถ้าเป็นห้อง 2 Bedrooms ผมจะชอบในห้องนอนใหญ่ที่ได้กระจกเข้ามุม Bay Window นะ แต่ที่ขัดใจนิดนึงคือห้องน้ำ 2 ห้องที่อยู่ด้านนอกนั่นแหละ การใช้งานยากไปสักหน่อยนะผมว่า

    จุดเด่นของโครงการนี้คือ Sky Lounge ที่อยู่ชั้นบนสุดครับ โดยที่เค้าจะมีแยกกันทั้ง 2 อาคารเลยนะ ซึ่งห้องไหนที่ไม่ได้อยู่ชั้นสูงๆ หรืออยู่ด้านที่ไม่สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ก็สามารถขึ้นมาชมวิวสวยๆด้านบนนี้กันได้เลย ซึ่งต้องบอกว่าสวยจริง และมองเห็นได้กว้างแบบ 360 องศาเลยทีเดียว ไม่โดนบังวิวแน่นอนครับ เพราะโครงการนี้ถือเป็น 1 ในโครงการที่สูงที่สุดในทำเลนี้เลย (สูงกว่า Chewathai และ Modiz แต่จะเท่ากับ 333 Riverside และ Chapter One Flow Bangpo ครับ)

    เป็นอย่างไรกันบ้างครับทุกคนสำหรับข้อมูลคอนโดวิวแม่น้ำเจ้าพระยา “ย่านบางโพ” ที่ผมนำมาฝากกันในวันนี้ อย่างที่ผมได้บอกไปแล้วนะว่าคอนโดประเภทนี้จะต่างจากคอนโดในเมืองทั่วไป และมีหลายๆอย่างที่เราจะต้องคำนึงถึง ทั้งเรื่องทำเลที่ตั้งโครงการ ซึ่งถ้าเราต้องการวิวแม่น้ำแบบเต็มๆ โดยการันตีได้ว่าจะไม่มีอาคารสูงอื่นมาบังในอนาคต ก็ควรจะเลือกโครงการที่อยู่ใกล้แม่น้ำมากที่สุด รวมถึงต้องเลือกตำแหน่งห้องในทิศทางที่จะมองเห็นวิวที่เราต้องการด้วยนะครับ เพราะแต่ละทิศ แต่ละมุมก็จะสวยแตกต่างกันไป

    เมื่อเรื่องวิวเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับโครงการประเภทนี้ ฉะนั้นในความคิดส่วนตัวของผม ผมจะซื้อโครงการแบบนี้ก็ในตอนตึกสร้างเสร็จครับ ในตอนนั้นเราจะได้เห็นวิวของจริงแล้วนั่นเอง เพราะอย่าลืมว่าคอนโดวิวแม่น้ำก็ไม่ใช่ถูกๆนะครับ ถือเป็นเงินก้อนใหญ่อยู่เหมือนกัน ถ้าจะซื้อทั้งทีผมก็อยากให้พิจารณาดีๆหน่อย (ถ้าคิดจะอยู่อาศัยจริงจัง) แต่ถ้าซื้อในช่วงนั้นก็ต้องยอมรับกับราคาที่จะสูงกว่าซื้อตอนเปิดตัวใหม่ๆนะ

    หรือบางทีก็มีบางคนซื้อไว้เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ไว้มาพักผ่อนชิลๆก็มีเยอะครับ โดยคนกลุ่มนี้เค้าอาจไม่ให้ความสนใจกับขนาดและตำแหน่งห้องมากนัก แต่เน้นใช้งาน Facilities ที่ได้วิวแม่น้ำสวยๆแทน ซึ่งโครงการที่ผมพามาดูทั้งหมดในวันนี้ก็มีจุดเด่นในเรื่องส่วนกลางที่ไม่เหมือนกันเลย บางโครงการมีสวนและระเบียงริมแม่น้ำอย่างใกล้ชิด บางโครงการเน้นพื้นที่ Active เพื่อการออกกำลังกายไปชมวิวไปได้ บางโครงการให้ความสำคัญกับพื้นที่ทำงานบนชั้นสูงๆวิวดีๆ และรับรองแขกได้ หรือบางโครงการก็มี Sky Lounge ที่ชมวิวได้กว้างมากๆเลยก็มีครับ

    ซึ่งก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดวิวแม่น้ำแบบนี้ หรือคนที่กำลังตัดสินใจเลือกอยู่ก็จะเลือกได้ตรงกับความต้องการมากที่สุดนะครับ และถ้าใครมีความคิดเห็นอื่นๆเกี่ยวกับคอนโดย่านนี้ หรือมีคอนโดแถวไหนที่มีวิวแม่น้ำสวยๆอยากแนะนำ ก็สามารถ comment บอกกันได้นะครับ สำหรับวันนี้ผมขอตัวลาไปก่อนนะครับ บ๊ายบายยย~~