รีวิวโครงการ

Private Nirvana THROUGH เอกมัย – รามอินทรา บ้านแฝด 3 ชั้น โซนหลัง CDC ดีไซน์เอกลักษณ์ชัดเจน จาก Private Nirvana [Walk-in รีวิว]

3 กรกฎาคม 2020

อ่านรีวิวล่าสุด

 

Private Nirvana THROUGH เอกมัย-รามอินทรา เป็นโครงการบ้านแฝด 3 ชั้น จาก ไพรเวท เนอวานา เมื่อพูดถึงโครงการของ Private Nirvana แล้ว ก็จะนึกถึงความเป็นส่วนตัว ความสงบ เนื่องจากทางโครงการเน้นถึงการพักผ่อนของลูกบ้านเป็นหลัก  ฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านถูกออกแบบมาให้ใช้งานอย่างคุ้มค่า อีกทั้งพื้นที่ส่วนกลางก็ยังจัดมาให้ลูกบ้านได้ใช้กันได้อย่างเต็มที่

ตัวบ้านของโครงการออกแบบมาในลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม สไตล์โมเดิร์น เมื่อวางบ้านทั้งสองคู่กัน จะเห็นได้ว่ามีการ Mirror ของตัวบ้าน ทำให้เหมือนเป็นการประกบเข้าหากันด้วยความสมมาตร ด้านหน้าบ้านมีรั้วสูงที่ให้ความเป็นส่วนตัว แต่ลดความทึบตันของการมองเห็นด้วยประตูเหล็ก

การออกแบบ Facade หน้าบ้านมีความเรียบง่าย ใช้เส้นสายแนวนอนกับแนวตั้งตามสไตล์บ้านโมเดิร์น เพิ่มราวกันตกกระจกเข้าไปเพื่อลดความแน่นหนาของตัวบ้านลง

Foyer ถูกวางไว้ภายในบ้านที่ติดกับประตูทางเข้าออกหน้าบ้าน ใช้สำหรับนั่งเปลี่ยนรองเท้า ก่อนที่จะออกไปเจอกับแสงแดดภายนอก มีการเลือกใช้ม่านมูลี่เพื่อบังสายตาจากคนนอกบ้าน นอกจากประหยัดพื้นที่แล้วยังสามารถเป็นตัวบังคับทิศทางแสงที่จะส่องเข้ามาในบ้าน ให้เกิดมิติอีกด้วย

Living Area ชั้นล่าง เปิดโล่งต่อเนื่องกันระหว่างพื้นที่รับแขก นั่งดูทีวี กับพื้นที่รับประทานอาหาร จะสังเกตได้ว่ามีช่องแสงขนาดใหญ่ถึง 2 ด้าน และมีระยะพื้นถึงฝ้าค่อนข้างสูง ทำให้รู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย เมื่อเดินเข้ามาพื้นที่นี้

ชั้นล่างตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ หรือการกรุผนังไม้ที่มีความเชื่อมต่อไปถึงฝ้า ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น

เมื่อมองย้อนกลับไปจากโต๊ะรับประทานอาหารก็สามารถนั่งดูทีวีได้เช่นกัน

ยามเย็นๆเวลาแดดร่มลมตกการออกมานั่งรับอากาศดีๆ มองฟ้าไปพรางๆก็ถือเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่ง

ภายในบ้านมีการออกแบบพื้นให้ต่างระดับ ทำให้เกิดการแบ่งแยกพื้นที่ใช้งานออกเป็นสัดส่วนได้อย่างชัดเจน

ภายในห้องนอนมีการตกแต่งล้อมาจากชั้นล่าง โดยการเน้นวัสดุไม้ในการตกแต่งเป็นหลัก มีการเลือกใช้หัวเตียงเป็นหนัง ทำให้เมื่อเดินเข้ามาในห้องนี้แล้วรู้สึกถึงความสุขุม มีความเป็นผู้ใหญ่

ภายในห้องมีการกั้นห้องด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง เพื่อจัดพื้นที่แต่งตัวอย่างเป็นสัดส่วน

ห้องนอนอีกห้องก็ยังคงความอบอุ่นด้วยการตกแต่งด้วยไม้ แต่เพิ่มความหรูหราเข้ามาด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวบนหัวเตียง ทำให้ห้องดูสว่างขึ้น

มุมทำงานเล็กๆที่มีการออกแบบโต๊ะทำงานให้เชื่อมต่อกับโต๊ะหัวเตียง ทำให้ประหยัดพื้นที่ และภายในห้องมีความเรียบร้อยมากขึ้น

พื้นที่แต่งตัวกั้นด้วยผนังที่ด้านนึงเป็นที่แขวนโทรทัศน์ และอีกด้านนึงออกแบบให้เป็นตู้เสื้อผ้า ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นในขณะแต่งตัว

ห้องน้ำเชื่อมต่อกับพื้นที่แต่งตัว ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างลงตัว มีความต่อเนื่องในการใช้งาน และยังมีช่องแสงต่างๆส่องเข้ามายังพื้นที่แต่งตัว ทำให้เวลาคุณผู้หญิงแต่งหน้าก็ยังคงได้รับแสงธรรมชาติเช่นกัน

พื้นและมือจับบันได เลือกใช้วัสดุไม้เช่นเคย เพิ่มเติมความแข็งแรงของตัวบันไดด้วยโครงเหล็กสีดำ ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นแต่แข็งแรง

ชั้น 3 หรือชั้นบนสุดของบ้าน ด้านหน้าห้องมีการเปิดช่องกระจกเอาไว้ เพื่อให้แสงจากในห้องส่องลงมายังโถงบันได

เนื่องจากห้องนี้อยู่ในตำแหน่งบนสุดของบ้านหรือใต้หลังคา จึงมีการออกแบบฝ้าล้อไปกับลักษณะของหลังคา จึงทำให้รู้สึกโปร่ง ไม่อึดอัดเวลานั่งทำงาน และยังเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง สามารถออกไปพักสายตาจากการทำงานได้อีกด้วย

บ้านอีกหนึ่งหลัง ที่มีด้านหน้ามีการออกแบบเหมือนกัน แตกต่างกันตรงการวางตำแหน่งต่างๆภายในบ้าน

พื้นที่ระเบียงเล็กๆถูกวางไว้หน้าบ้าน สำหรับจิบชา กาแฟ หรือจะเลือกอ่านหนังสือสักเล่มกับอากาศดีๆในตอนเช้าก่อนออกไปทำงาน ก็ดีไม่ใช่น้อย

พื้นที่รับแขก และรับประทานอาหาร เป็นพื้นที่เชื่อมต่อเฉกเช่นบ้านหลังแรก แต่แตกต่างกันตรงที่ ช่องแสงของบ้านหลังนี้จะอยู่อีกด้านหนึ่ง แต่ก็ยังคงจัดเต็มในการเปิดช่องแส่งเช่นเคย และตรงพื้นที่รับประทานอาหารมีการเล่นระดับของฝ้า ทำให้รู้สึกถึงความโปร่งของบ้านมากขึ้น

ห้องครัววางไว้ติดกับพื้นที่รับประทานอาหาร ทำให้มีความต่อเนื่องในการใช้งาน แต่กั้นด้วยประตูเพื่อไม่ให้มีกลิ่นอาหารเข้ามายัง Living Area

เนื่องจากบ้านมีการเล่นระดับ เมื่อยืนอยู่บริเวณพื้นที่ขึ้นบันได ก็ทำให้มุมมองของการมองกลับไปยังพื้นที่รับแขก เป็นมุมมองที่ค่อนข้างแปลกตาที่ไม่ค่อยเห็นในบ้านหลังอื่นที่มีระดับเดียวกัน และมีความเป็นส่วนตัวของการกั้นพื้นที่ระหว่างประตูกับบันไดอีกด้วย

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับห้องนั่งเล่นบริเวณตรงกลางบ้าน  มีการแบ่งห้องเพื่อเพิ่มความเป็นสัดส่วน แต่ยังคงความโล่งจากการเลือกใช้ผนังกระจก และยังคงได้รับแสงภายนอกมายังโถงบันไดอีกด้วย

ภายในห้องจัดออกมาเป็นพื้นที่สำหรับสมาชิกในบ้าน ที่ใช้สำหรับพักผ่อน หรือทำกิจกรรมร่วมกัน ในขณะที่ด้านล่างอาจจะมีแขกมาเยี่ยมเยียน ลูกๆก็ยังคงมีพื้นที่เล่นทำกิจกรรมไปพร้อมๆกัน

เมื่อมองกลับออกไปจากในห้อง จะเห็นว่าโถงบันไดมีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้โถงบันไดดูสว่างตลอดในเวลากลางวัน โดยไม่ต้องเปิดไฟ

ห้องนอนตกแต่งด้วยโทนสีเทาขาว ทำให้รู้สึกถึงความเรียบง่าย และทำให้ภายในห้องดูกว้างขึ้น มีการตกแต่งหัวเตียงด้วยไฟซ่อน ทำให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น

ภายในห้องมีการเปิดช่องแสงด้วยประตูกระจกที่สามารถออกไปดูวิว รับอากาศภายนอก หลังจากตื่นนอน และใกล้ระเบียงมีการจัดโต๊ะทำงานเล็กๆเอาไว้ เพื่อรับแสงธรรมชาติในขณะนั่งทำงาน

อีกด้านหนึ่งของเตียง มีหน้าต่างเช่นกัน เมื่อแสงผาดผ่านม่านมูลี่เข้ามา ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูอบอุ่น น่าอยู่มากขึ้น

มุมมองเมื่อมองผ่านประตูตู้กระจกของ Walk-in Closet ซึ่งจัดมาไว้อีกด้านหนึ่งของเตียง กั้นพื้นที่ด้วยผนังทึบ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และก็ยังเป็นทางเดินไปยังห้องน้ำอีกด้วย

อีกหนึ่งห้องนอน มีขนาดเล็กลงมาหน่อย แต่มีพื้นที่ที่ลงตัว วางเตียง 5 ฟุตได้อย่างสบาย มีทางเดินรอบเตียง และยังมีพื้นที่พอสำหรับตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่

ห้องบนสุดของบ้านหลังนี้ ตกแต่งออกมาเป็นห้องพระ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับการวางพระหรือนั่งสมาธิ เนื่องจากอยู่ด้านบนสุดของบ้าน ก็ถือว่าเป็นไอเดียดีๆอีกหนึ่งไอเดียในการตกแต่งห้อง

หลังจากดูบ้านกันมาจนอิ่มแล้ว มาดูบรรยากาศด้านนอกกันบ้าง ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางอย่างสวน และอาคาร Club House ถูกจัดวางไว้อยู่ด้านหน้าของโครงการ

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ออกแบบมาเป็นลักษณะกล่องสี่เหลี่ยม 2 กล่องวางคู่กัน ทางเข้าออก เชื่อมด้วยป้อมรักษาความปลอดภัย ทำให้ดูเหมือนตัวบ้านแฝดภายในโครงการ

เมื่อมองลอดผ่านเข้ามาจากรั้วโครงการก็จะเห็นพื้นที่สีเขียวของสวนเป็นฉากหน้า มีฉากหลังเป็นอาคาร Club House

อาคาร Club House เป็นอาคาร 2 ชั้น ตกแต่งด้วยโทนสีขาวเทา เน้นความเป็นโมเดิร์น มีการปลูกต้นไม้ด้านหน้าอาคาร เพื่อลดทอนความแข็งของอาคารลง

บริเวณใกล้ๆ Club House จัดเป็นพื้นที่สีเขียวให้ลูกบ้านมาเดินเล่น ออกกำลังกายได้ยามเช้าและเย็น

นอกจากนี้ยังมีสนามพัดกอล์ฟเล็กๆให้กับนักกอล์ฟได้ฝึกวงสวิงอีกด้วย

ด้านบนของตัวอาคาร Club House จัดออกมาเป็นพื้นที่นั่งเล่นกระจายเป็นจุดๆ ให้ลูกบ้านมานั่งเล่นได้พร้อมๆกัน

สระว่ายน้ำถูกยกขึ้นมาไว้ด้านบน เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านในขณะใช้งาน

ริมสระว่ายน้ำก็มีชุดโต๊ะเก้าอีกเอาไว้อีกหนึ่งชุด สำหรับพ่อแม่ที่มานั่งดูเด็กๆว่ายน้ำเล่น มีต้นไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่วางไว้ตรงกลางระหว่างช่องว่างของอาคาร เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ Club House ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

ปิดท้ายไปกับวิวในขณะแช่น้ำในตอนเย็นๆ บรรยากาศดีๆ ของวันหลังจากใช้ชีวิตอย่างเหนื่อยล้ามาทั้งวัน ก็มาแช่น้ำเล่นกันให้หายเหนื่อย

หวังว่าการออกแบบของห้องต่างๆในบ้านโครงการนี้ จะเป็นไอเดียในการตกแต่งบ้านของใครหลายๆคนที่ต้องการจะสร้างบ้านหรือตกแต่งบ้านเพิ่มเติมไม่มากก็น้อยนะคะ