รีวิวฉบับที่ 1483 … สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีพาไปชมทำเลโครงการใหม่จากพฤกษาที่ใกล้จะเปิดตัวแล้วในปีหน้ากับโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 คอนโด Low Rise ระดับ Super Luxury บนทำเลในซอยสุขุทวิท 61 ระหว่างโซนทองหล่อและเอกมัย มาภายใต้แนวความคิดความสงบใจกลางเมือง ที่มาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่พร้อมกับบรรยากาศสงบค่ะ โดยวันนี้เราจะพาไปเจาะลึกทำเลกันก่อนโครงการเปิดโครงการนะคะ

สำหรับหน้าเว็บโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 สามารถคลิกได้ที่นี่ (เว็บไซต์โครงการ) ท่านที่สนใจสามารถเข้าไป Register เพื่อรับข้อมูลข่าวสาร หรือสิทธิพิเศษจากทางโครงการก่อนใครได้เลยค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.728824, 100.584179

ที่ตั้งโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ระหว่างซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) และซอยเอกมัย (สุขุมวิท 63) จัดอยู่ใน ย่านเอกมัย-ทองหล่อ” ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านดัง มีชื่อเสียงใจกลางกรุงเทพมหานครก็ว่าได้ เพราะเป็นแหล่งรวมที่อยู่อาศัยหรู อาคารสำนักงาน ธุรกิจร้านค้า แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารอร่อยมากมายเปิดทั้งกลางวันกลางคืน ซึ่งส่วนใหญ่ดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังทรัพย์ มีไลฟ์สไตล์ ชอบอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก รวมไปถึงชาวต่างชาติจำนวนมากอีกด้วย ทำให้บรรยากาศในละแวกนี้ค่อนข้างคึกคัก มีสีสันทีเดียวนะคะ

เมื่อตัวโครงการอยู่ระหว่างเอกมัย-ทองหล่อเช่นนี้ เราจะขอพูดถึงบรรยากาศของทำเลทั้ง 2 นี้กันก่อนที่จะพาไปเดินดูที่ตั้งโครงการกันนะคะ สำหรับทั้งย่านเอกมัยและทองหล่อนี้ แม้จะอยู่ในทำเลใกล้ก็จริง แต่ก็ต่างมีเอกลักษณ์ที่บ่งบอกทำเลของตัวเองได้ชัดเจนอยู่เช่นเดียวกัน เริ่มต้นจากย่านเอกมัย (ซอยสุขุมวิท 63) ที่อยู่ใกล้กับซอยสุขุมวิท 61 กันก่อน

ย่านเอกมัย

ทำเลย่านเอกมัยจัดเป็นทำเลหนึ่งที่ได้รับความนิยม คู่กันมากับย่านทองหล่อด้วยความที่เป็นซอยคู่ขนาน มีความเชื่อมต่อกันทางกายภาพของพื้นที่และบริบทโดยรอบ แต่จะเด่นกว่าย่านทองหล่อตรงที่มีอาคารสำนักงาน ตึกสูงพอสมควรเลยค่ะ และมีห้างสรรพสินค้าให้ช็อปปิ้ง ดูหนังอีก 2 แห่งด้วยกัน Major Cineplex สุขุมวิท ห้างเก่าแก่ในย่านนี้ที่เน้นไปที่โรงภาพยนต์ในชั้นบน และมีร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ ในชั้นล่างให้ได้เลือกกินแต่ก็จะไม่ได้เน้นไปที่ของแพงมากนักนะคะ ถัดมาอีกหน่อยก็คือ Gateway เอกมัย ห้างที่เน้นสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยร้านอาหารภายในที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นชัดเจน ที่เป็นแบบนี้เพราะย่านเอกมัยปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นอีกย่านดังของชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน หรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย และหลักๆ ที่เห็นเยอะเลยคือชาวญี่ปุ่นนี่เองค่ะ

ย่านทองหล่อ

ทำเลย่านทองหล่อเป็นหนึ่งในทำเลอันดับแรกๆ ของกรุงเทพมหานคร ซอยทองหล่อ หรือซอยสุขุมวิท 55 นี้ เป็นซอยที่ติดอยู่ในอันดับต้นๆของย่านที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เป็นซอยที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านทำเลที่อยู่อาศัย ธุรกิจร้านค้า แหล่ง ช้อปปิ้งและร้านอาหารอร่อย Hi-end มากมายเปิดทั้งกลางวันกลางคืน เป็นถนนอีกสายหนึ่งของ กรุงเทพฯที่ไม่เคยหลับและสุดแสนจะอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้ความฝัน ของหลายๆคนคือการได้มาอยู่อาศัยหรืออยากจะมาทำมาค้าขายในย่านนี้ เรียกว่าเป็นทำเลที่อยู่ใน ความต้องการหรืออยู่ในใจของใครหลายๆคนในปัจจุบันทีเดียว

จากการประเมินราคาของกรมธนารักษ์ปี 59-62 Update ที่ดินในซอยทองหล่อติดถนนมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 420,000 บาท ต่อตร.วา แต่ราคาขายจริงไปไกลกว่านั้นมากหลายเท่าแล้ว ที่ดินหลายผืนก็ราคาพุ่งไปถึงเป็นล้านบาทต่อตร.ว. ทำให้ย่านทองหล่อสะท้อนความเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้บริโภค กำลังซื้อสูง และพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยคอนโดฯ แถบนี้โดยส่วนใหญ่นิยมกินดื่มนอกบ้าน ในซอยทองหล่อ จึงเป็นแหล่งรวมของร้านอาหาร ร้านกินดื่ม และแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์จำนวนมากในระยะเดินถึงแทบทั้งหมด

จากแผนที่ข้างต้นเป็นการพิกัดร้านอาหาร ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า hyper market และ Community Mall ต่างๆ ในละแวกโครงการ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทำเลนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียว มีตัวเลือกให้เลือกรับประทาน ช็อปปิ้ง หรือเดินเล่นค่อนข้างหลากหลาย รวมไปถึงสาธารณูปโภคต่างๆ เช่นโรงพยาบาล และโรงเรียนก็มีครบครันเช่นเดียวกันค่ะ

ด้วยความที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง แน่นอนว่าในซอยเอกมัย หรือทองหล่อเองก็จะมีความคึกคัก เต็มไปด้วยสีสัน และผู้คนจำนวนมากทั้งในทำเลนี้ และคนที่เข้ามาเพื่อท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ซึ่งใครที่อยู่อาศัยในซอยทองหล่อก็ดี หรือเอกมัยนั้นก็ต้องเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่สอดคล้องกับทำเลไปด้วย คือชอบชีวิตมีสีสัน ไม่หยุดนิ่ง ชอบความคึกคัก แต่ในขณะเดียวกันก็ย่อมมีกลุ่มคนที่มองหาที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง บนทำเลเอกมัย-ทองหล่อเช่นเดียว แต่ไม่ชอบไลฟ์สไตล์ที่มีความคึกคักจนเกินไป อยากอยู่ในสไตล์บ้าน มีความสงบและเป็นส่วนตัวพอสมควร ตัวโครงการก็จะตอบโจทย์คนประเภทนี้นะคะ ด้วยความที่โครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ซึ่งเป็นซอยตัน อยู่ระหว่าง 2 ซอยใหญ่ๆ บรรยากาศก็จะมีความสงบพอสมควรเลยทีเดียว ช่วงต้นซอยติดกับ Major Cineplex สุขุมวิท ลึกเข้าไปในซอยส่วนใหญ่เป็นคอนโดพักอาศัย สลับไปกับอพาร์ทเม้นท์ และบ้านพักอาศัย ไม่พลุกพล่าน รถในซอยไม่เยอะมาก

ตัวโครงการเองจะอยู่ลึกจากหน้าปากซอยไปประมาณ 850 ม. และห่างจาก BTS เอกมัยประมาณ 1.1 กม. ซึ่งถือว่าหลุดระยะเดินได้ง่ายไปแล้วนะคะ แต่ทางโครงการก็มีเตรียมรถรับ-ส่งไว้บริการเรียบร้อย รวมไปถึงการแลกมากับบรรยากาศโครงการที่มีความสงบ สำหรับพักผ่อนและการอยู่อาศัยที่มากขึ้นแทน

ด้วยความที่ตัวโครงการอยู่ระหว่างซอยเอกมัย-ทองหล่อนะคะ เราเลยทำแผนที่เส้นทางการเข้าถึงซอยเอกมัย-ทองหล่อมาให้ดูกัน จะเห็นว่าจากโครงการการเข้าถึงซอยเอกมัยจะสะดวกทีเดียวนะคะ สามารถลัดออกเอกมัยซอย 1 ได้ หรือจะลัดออกตรงซอย Park lane ก็ได้เช่นกันค่ะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาตรงออกไปยังถนนสุขุมวิท ซึ่งรถติดมากกว่าแน่นอน ส่วนการเดินทางเข้าถึงซอยทองหล่อนั้นจะต้องออกมายังถนนสุขุมวิททางเดียวนะคะ ไม่มีทางลัด แต่ดีตรงที่อยู่ตรงแยกที่สามารถเลี้ยวขวาออกได้เลย สามารถตรงไปทองหล่อได้ง่าย ไม่ต้องกลับรถให้เสียเวลาค่ะ

มาที่เส้นทางแรกในการเดินทางของเราในวันนี้จะเริ่มจากสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย ไปยังโครงการ เข้าซอยสุขุมวิท 61 เป็นระยะทางจากทั้งหมดประมาณ 1.1 กม. ก็จะถึงที่ดินโครงการแล้วค่ะ เราไปดูบรรยากาศในซอยสุขุมวิท 61 กันค่ะ

เริ่มการพาเดินชมทำเลในวันนี้จากสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้กับที่ตั้งโครงการมากที่สุด โดยเมื่อลงมาจากสถานีให้เลือกทางออกหมายเลข 1 เพื่อไปซอยเอกมัย หรือสุขุมวิท 63

จากสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย จะมีแนวทางเดินเชื่อมไปทางงฝั่งซ้ายไป Gateway เอกมัย ได้หากใครต้องการไปเดิน Shopping ก่อนก็สามารถเดินเชื่อมไปได้ แต่ต้องเลือกทางออก 4 ภายในจะเป็นร้านอาหารเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งร้านอาหารค่อนข้างหลากหลาย โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่นมีให้เลือกพอสมควรเลยค่ะ

ภายในห้างที่เด่นๆ เลยคือมีร้านอาหารแบรนด์ชื่อดังมากมายให้เลือกเลยค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะมีร้านอาหารญี่ปุ่นค่อนข้างมากนะคะ ใครที่ชอบอาหารญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วมาฝากท้องที่นี่เป็นประจำเลยก็ยังได้

นอกจากร้านค้า ร้านอาหารแล้วที่นี่ก็มีจัดตลาดนัดทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ด้วยนะคะ ชื่อว่า Urban Market ที่มีขายทั้งเสื้อผ้า และอาหารต่างๆ

ที่เด็ดกว่านั้นคือชั้นบนสุดที่นี่มี Snow Town ด้วยค่ะ สำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศมาหากิจกรรมเพลินๆ ทำร่วมกันใกล้ๆ โครงการก็มาเล่นสกี กับหิมะกันได้นะคะ

ออกมาด้านนอกตรงไปยังโครงการกันต่อ ซึ่งจะอยู่อีกฝั่งของ Gateway นะคะ กลับมาทางที่มุ่งหน้ามายังซอยเอกมัยค่ะ โดยจาก Sky walk จะสามารถเห็นบรรยากาศมุมสูงในซอยเอกมัยได้ลงมาทางถนนสุขุมวิทฝั่งซอยเอกมัย และมองเข้าไปทางถนนซอยเอกมัย ช่วงบ่ายๆแบบนี้ปริมาณรถก็ยังมีเข้าออกซอยเอกมัยอยู่ตลอดเวลา จากปากซอยเอกมัยทางซ้ายมือจะเป็น Major Cineplex สุขุมวิท

ถ้าเดินตาม Sky walk มาอีกหน่อยก็จะถึงทางเชื่อมเข้า Major Cineplex สุขุมวิทแล้วค่ะ แต่จะต้องเดินผ่านบริเวณ WE Fitness ไปก่อน แล้วจึงเป็นตัวห้างนะคะ

เข้ามาข้างใน Major กันแล้ว ทางเชื่อมจาก BTS จะเชื่อมเข้ามาที่บริเวณชั้น 2 ส่วนที่เห็นบันไดเลื่อนขึ้นไปนั้น คือ ชั้น 3 ที่เป็นชั้นโรงหนัง เราสามารถลงบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 1 ของห้างฯ กัน เพื่อไปที่ประตูทางออกฝั่งถนนสุขุมวิทได้

เราเดินลงมาจากทางออกหมายเลข 1 จาก สถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย จะลงมาตรงกับหน้าปากซอยเอกมัยพอดี เดี๋ยวเราจะเดินข้ามทางม้าลายไปสำรวจร้านต่างๆทางฝั่งตรงข้ามกันค่ะ

ข้ามถนนมาก็จะเจอกับร้านกาแฟ The Coffee Club อยู่ตรงหัวมุมตึกพอดี เปิดเป็นร้านกาแฟแล้ว ยังให้ใช้ WiFi ฟรีด้วย จึงเป็นสถานที่ที่กลุ่มฟรีแลนซ์ และ เหล่า Start-Up มักมานั่งทำงาน หรือนัดคุยงานกัน เลยถัดมาหน่อยจะเป็นร้านค้าสหกรณ์ กรุงเทพ ด้านในมีขายอาหารและสินค้าของใช้ต่างๆในราคาย่อมเยา

จากนั้นก็มาถึงหน้าปากซอยสุขุมวิท 61 แล้วนะคะ บริเวณหน้าปากซอยนี้จะอยู่ติดกับ Major Cineplex และอีกฝั่งเป็น Family mart ค่ะ

ลักษณะซอยนี้เป็นถนน 2 เลนสวนกัน บริเวณหน้าปากซอยนี้หากใครที่มาจากพระโขนง-อ่อนนุช ก็สามารถเลี้ยวเข้าซอยได้เลย เพราะซอยนี้อยู่ติดกับจุดกลับรถพอดีค่ะ ไม่ต้องวิ่งไปกลับรถไกล บรรยากาศบริเวณหน้าปากซอยค่อนข้างคึกคักนะคะ นอกจากติดห้าง ติดร้านสะดวกซื้อแล้วก็มีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการ รวมไปถึงร้านรถเข็นต่างๆ นอกจากนี้ภายในซอยเราก็จะเห็น Shuttle Service อยู่ตลอดๆ ซึ่งเป็นรถจากโครงการเพื่อนบ้านหรืออพาร์ทเม้นท์ในซอยลึกๆ หน่อย คอยรับ-ส่งลูกบ้าน

เดินเข้ามาในซอยอีกหน่อยเราจะเจอทางเข้าที่จอดรถของ Major Cineplex นะคะ ลูกบ้านคนไหนที่จะมาดูหนังก็สามารถขับรถจากโครงการมาจอดรถได้เลยค่ะ ค่อนข้างสะดวกทีเดียวเพราะทางเข้าที่จอดรถอยู่ในซอยเลย ไม่ต้องออกนอกถนนใหญ่

ถัดเข้ามาหน่อยเราก็จะเริ่มเห็นคอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ สลับกับสำนักงานมากขึ้นนะคะ อย่างฝั่งซ้ายที่เราเห็นนี้คือเป็นช่วงที่รถสามารถจอดข้างทางได้นะคะ แต่ก็จะสวนกันยากหน่อย

เลยมาเล็กน้อยเป็นร้านนั่งชิล นั่งดื่ม นั่งกินอาหาร สังสรรค์กับเพื่อนๆ นะคะ ชื่อร้าน The Owl Society Whiskey Saloon เป็นวิสกี้บาร์แบบจริงจังเลยทีเดียวค่ะ การตกแต่งจะออกมาในแนว Industrial Vintage Loft Charm ลึกลับและน่าค้นหา ใครที่เป็นนักดื่ม ก็ไม่ต้องไปไกลแล้ว อยู่แค่ช่วงหน้าปากซอยโครงการเอง

ถัดมาเป็นโครงการเพื่อนบ้านอย่าง Mode Sukhumvit 61

ถัดเข้ามาช่วงกลางซอยอีกหน่อยบรรยากาศก็จะมีความสงบมากขึ้นอีกหน่อยนะคะ แต่ไม่ได้เปลี่ยวนะคะ เรายังเห็นคนเดินอยู่เรื่อยๆ 2 ฝั่งข้างทาง เป็นคนไทยครึ่งๆ กับชาวต่างชาติ

บริเวณนี้จะมีอาคาร Park lane ซึ่งภายในเป็น Community Mall ขนาดย่อมๆ หลักๆ เลยคือมี MaxValu Supermarket ที่เปิดตลอด 24 ชม. ขับมาจากโครงการได้ทุกเมื่อ

ด้านข้างทางเข้า MaxValu มีที่ให้จอดรถได้ง่าย จอดแล้วเดินเข้า Supermarket ได้เลย

ภายใน MaxValu ถือว่าค่อนข้างใหญ่นะคะ และข้าวของภายในครบครัน มีทั้งอาหารสด อาหารสำเร็จรูป ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รวมไปถึงร้านเบเกอร์รี่ภายในด้วยค่ะ

ถัดจาก MaxValu จะเป็น Community Mall ขนาดย่อมๆ ที่รวบรวมร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ ไว้ด้วยกัน อาทิ Omu Japanese, True Coffee เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีร้านนวดและสปาจาก Let’s Relax อีกด้วยค่ะ และ Park Lane เองนั้นก็เป็นเส้นทางผ่านเข้า-ออกได้ด้วยนะคะ สามารถลัดไปออกซอยเอกมัยได้ ช่วงบริเวณเยื้องๆ กับเอกมัยซอย 2

ติดกับ Park Lane ถัดเข้าไปด้านในหน่อยก็จะเป็นโครงการเพื่อนบ้านในซอยเดียวกับโครงการอย่าง The Address สุขุมวิท 61 ค่ะ

ลึกเข้ามาหน่อยเราก็ยังเห็นอพาร์ทเม้นท์ระดับดี น่าอยู่ สลับกับคอนโดมิเนียมเรื่อยๆ ตลอดทางนะคะ

จากนั้นเราก็ยังเห็นร้านอาหาร ร้านนวดต่างๆ เป็นระยะๆ ค่ะ ไม่เงียบเหงา

หนึ่งในร้านกาแฟของย่านเอกมัย-ทองหล่อคือร้าน Phill Coffee Company เป็นร้านกาแฟที่นำบ้านเดี่ยวสองชั้นมาตกแต่งเป็นร้านคาเฟ่นั่งชิล ทำงานเงียบๆ ในซอยสุขุมวิท 61 โดยร้านนี้จะอยู่ในซอยย่อยอีกทีนะคะ ก่อนถึงร้าน Quaint House

ถัดมาเราจะเห็นร้าน Quaint House ฝั่งซ้ายมือนะคะ เลยไปอีกหน่อยเป็นคอนโดมิเนียมค่ะ

ร้าน Quaint House เป็นร้านที่ตกแต่งได้สวยงามตามสไตล์ Art Deco, Art Nuvo, Industrial และ Loft รวมไปถึงของสะสมเก่าแก่หายากด้วยนะคะ ถือเป็นอีกหนึ่ง Gimmick ที่น่าสนใจของร้าน อาหารของที่นี่มีทั้งอาหารไทยและเทศ เน้นวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติเป็นหลักค่ะ จัดเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารเก๋ๆ ในซอยที่ไม่ไกลจากโครงการเลย

ใต้อาคาร Residence @ 61 จะมีร้าน Shugaa เป็น Dessert Bar ตกแต่งมาในแนวโทนพาสเทล สำหรับคอขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นต้องไม่พลาดไปลองชิมกันนะคะ

นอกจากอพาร์เม้นท์ และคอนโดมิเนียมที่ขึ้นมาเยอะมากในซอยนี้แล้ว ก็ยังคงมีบ้านพักอาศัย ทั้งรูปแบบบ้านเดี่ยว ตึกแถว ทาวน์โฮมต่างๆ ในซอยนี้เช่นเดียวกันนะคะ

ลึกเข้ามาด้านในซอยมากขึ้น ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ จะน้อยลงเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เหลือแต่โรงแรม อพาร์ทเม้นท์ และคอนโดมิเนียมเป็นหลัก บรรยากาศจะเป็นส่วนตัวและเงียบสงบมากขึ้นค่ะ

ก่อนถึงโครงการมีโครงการ The Bangkok สุขุมวิท 61 โครงการดั้งเดิมในซอยนี้

ถัดมาบรรยากาศจะเงียบสงบมากขึ้นนะคะ ชอบที่ทั้งสองฝั่งข้างทางปลูกต้นไม้ใหญ่ตามทางดูร่มรื่นทีเดียวค่ะ

และสุดซอยฝั่งขวาของรูปที่เห็นเป็นรั้วเหล็กสีดำนั้นคือทางเข้า-ออกหลักของโครงการนะคะ ติดกันฝั่งขวาเป็นซอยย่อยที่เป็นซอยตันค่ะ

ภายในซอยเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมดทั้งแบบบ้านเดี่ยวและแบบทาวน์โฮม

บริเวณหน้าทางเข้าโครงการนี้ยังไม่เสร็จดีนะคะ ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและยังไม่เปิดให้ลูกค้าเข้ามาชมภายในได้ค่ะ

บริเวณที่ดินภายในโครงการเมื่อเดินเข้ามาเลยจะเห็นป้าย Slogan ขนาดใหญ่ Find Your Escape ที่เปรียบเสมือนว่าโครงการนี้เป็นเสมือนทางออกจากความวุ่นวายใจกลางเมือง เป็นโครงการที่เน้นความสงบ มาพร้อมกับต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น ที่เป็นต้นไม้ใหญ่ดั้งเดิมภายในโครงการ ซึ่งทางโครงการเองก็ตั้งใจเก็บไว้เหมือนเดิม

สัญลักษณ์โครงการนี้ใช้ “หมี” เป็นสัญลักษณ์โครงการซึ่งถูกถอดมาจากลักษณะนิสัยของหมีที่ชอบความสงบ โครงการนี้ก็เปรียบเป็นถ้ำของหมีที่รักความสงบนั่นเองค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโครงการโดยรอบอยู่ติดกับบ้านพักอาศัยที่มีความสูงประมาณ 1-2 ชั้น จะมีด้านหน้าบริเวณทางเข้าโครงการหรือทิศใต้ที่ติดกับบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 3 ชั้นค่ะ ทำให้โดยรอบไม่โดนบล็อกวิวในระยะใกล้ทั้งหมดนะคะ ส่วนเรื่องของวิวนี้ทางฝั่งทิศตะวันตกจะได้เปรียบอยู่หน่อยคือได้วิว City View เป็นอาคารสูงฝั่งทองหล่อนะคะ ส่วนทิศอื่นๆ จะเป็นวิวเปิดโล่งมากกว่าเพราะโดยรอบเป็นอาคารแนวราบค่ะ ในกรณีทิศเหนือนี้ก็จะได้เปรียบในเรื่องของทิศทางแดด เพราะไม่โดนแดดช่วงบ่าย ส่วนทิศใต้ก็ได้เปรียบในเรื่องทิศทางลมมากกว่าทิศอื่นๆ อยู่ค่ะ ซึ่งเราอาจจะไม่สามารถพูดในเชิงลึกได้นะคะ เพราะยังไม่ทราบการวางผังอาคารบนที่ดินที่แน่นอน

จากที่ดินโครงการ หันไปทางฝั่งทิศตะวันตกซึ่งเป็นฝั่งซอยทองหล่อนะคะ จะได้วิวอาคารสูงสลับอาคารเตี้ยเรียงรายกันไป

เส้นทางถัดไปที่เราจะพาไปเดินดูกัน เริ่มต้นจากที่ตั้งโครงการออกไปยังซอยเอกมัย 1 เพื่อทะลุไปออกถนนเอกมัย และมุ่งหน้าไปทางถนนสุขุมวิทค่ะ

เริ่มจากเอกมัยซอย 1 นะคะ ซอยนี้เราเห็นเป็นซอยสั้นๆ ก็จริงแต่เป็นซอยที่มีร้านอาหารอยู่หลายร้านเลยนะคะ เรียกว่าเป็นซอยที่ลูกบ้านสามารถเดินออกมา Hangout หรือกินข้าวได้เลย ไม่ต้องขับรถได้เลย

ติดๆ กับทางเข้า-ออกโครงการก็จะมีร้าน Velvetimo Cafe ซึ่งเป็นร้านทำผม และมีคาเฟ่ อาหารพร้อมเครื่องดื่มต่างๆ รองรับด้วยนะคะ ร้านนี้ใช้ช่างตัดผมอิมพอร์ตมาจากประเทศญี่ปุ่นด้วยค่ะ

ถัดมาอีกหน่อยเป็นร้านดังในย่านเอกมัยอีกร้านก็ว่าได้นะคะ กับร้าน In the Mood for Love One โดยสไตล์อาหารของที่ร้านจะมาในแนวคอนเซ็ปต์เน้นซูชิต้นตำรับ และอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่น ที่นี่จัดเป็นสาขาที่ 2 ของร้านนี้นะคะ ใครชอบอาหารญี่ปุ่นต้องไม่พลาด มาฝากท้องใกล้โครงการได้เลย

สุดหน้าปากซอยเอกมัย 1 คือร้านไก่ย่างสบายใจนั่นเองค่ะ เป็นร้านอาหารไทยอีสาน รวมไปถึงซีฟู้ดต่างๆ ก็มีขายนะคะ

ส่วนซอยเอกมัย 10 เป็นซอยที่สามารถทะลุไปซอยสุขุมวิท 71 (ซอยปรีดี พนมยงค์) ได้ ส่วนร้านที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของซอยเอกมัย 10 ตรงข้าม Health Land คือเวิ้งโบราณ (เอกมัยช็อปปิ้งมอลล์) ที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่น่ารักๆ เช่น ร้าน Perhaps Rabbits’ ที่เป็นร้านเค้กค่ะ

บริเวณหน้าปากซอยเอกมัย 10 นี้จะเป็นที่ตั้งของ Health Land ที่มีครบครันทั้งสปา นวดไทย นวดเท้า นวดอายุรเวท และโปรแกรมอื่นๆ

ถัดมาริมฝั่งถนนเอกมัยเราก็จะเห็นร้านอาหาร สถานบันเทิงต่างๆ เรียงรายบริเวณช่วงนี้ค่อนข้างคึกคักเลยนะคะ

หนึ่งในร้านอาหารต่างๆ ก็จะมีร้านอาหารคุณหญิง ร้านนี้เป็นร้านอาหารไทยรสดั้งเดิมย่านเอกมัย ที่เปิดมานานสมัยรุ่นคุณพ่อเลยค่ะ

ถัดมาเป็น Hyper Market ขนาดใหญ่ในซอยเอกมัยเลยก็ว่าได้ค่ะ คือ Big C ที่นี่เปิดทุกวันถึงตีสองเลยทีเดียวนะคะ

ภายใน Big C ค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะมีทั้งของสด ของกินของใช้ต่างๆ ครบครัน

และก็ยังมีร้านอาหารต่างๆ มาเปิดให้บริการด้วยนะคะ

รวมไปถึง Starbucks ด้วยเช่นกันค่ะ

ส่วนด้านบนของ Big C เป็นชั้นของ Index Living Mall ค่ะ และชั้น 2 นี้ก็จะมีศูนย์อาหารขนาดย่อมๆ ไว้รองรับพนักงานในย่านนี้ด้วยเช่นกัน

บรรยากาศภายใน Index Living Mall เป็นศูนย์รวมข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านต่างๆ ไว้ครบครันทีเดียวค่ะ

อีกฝั่งนึงเป็น Office Mate ให้สามารถซื้อของใช้สำนักงานต่างๆ ราคาประหยัดได้ด้วย

ถัดมาช่วงต้นซอยอีกหน่อยจะเป็นอาคาร Bangkok Business Center เป็นอาคารสำนักงานสูง 33 ชั้น

เดินตรงมาอีกหน่อยเราก็จะเจอ Park Lane แล้วนะคะ ซึ่งสามารถเชื่อมไปเข้าซอยสุขุมวิท 61 ได้เช่นกัน ที่เราได้พาไปดูก่อนหน้าว่าภายในมีทั้ง True Coffee, ร้านอาหารญี่ปุ่นต่างๆ รวมไปถึง MaxValu ด้วยเช่นกัน

ถัดมาหน่อยเป็นคอนโดมิเนียมโครงการ Noble Reveal เป็นคอนโด High Rise สูง 27  ชั้น

และฝั่งตรงข้ามคือร้าน MK Gold ที่เปิดมานานมากในย่านนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ

ผ่าน Civic Horizon ซึ่งเป็น Hotel & Residences ค่ะ

และช่วงแยกที่ตัดกับถนนสุขุมวิท จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือบ้านไร่กาแฟนั่นเอง ที่นี่มีอาหารมากมายหลายอย่างให้เลือกเลยนะคะ บรรยากาศมาในแนวไทยๆ เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติทีเดียวค่ะ

ปิดท้ายกันที่บริเวณหน้าปากซอย จากตรงนี้สามารถเชี้ยวซ้ายเพื่อมุ่งหน้าไปทางพระโขนงได้ หรือจะเลี้ยวขวาไปทางทองหล่อก็ได้เช่นกันค่ะ


สรุปทำเลโครงการ

ทำเลโครงการจัดว่าอยู่ในใจกลางเมือง ใกล้ซอยทองหล่อ-เอกมัย จะไปทองหล่อหรือเอกมัยก็สะดวกดีค่ะ เพราะถัดไปอีกซอยสองซอยก็ถึงทองหล่อ-เอกมัยได้แล้ว แต่บรรยากาศทำเลจะมีความแตกต่างกับโครงการในซอยทองหล่อ-เอกมัยนะคะ ด้วยตัวซอยสุขุมวิท 61 เองนั้นเป็นซอยตันที่ไม่ได้เป็นซอยหลัก ทำให้บรรยากาศภายในจะเงียบสงบมากกว่า และภายในซอยส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยเกือบทั้งหมด ทั้งรูปแบบคอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์และบ้านพักอาศัย จะมีอยู่ช่วงต้นซอยที่จะมีร้านอาหารและ Supermarket ตอบโจทย์กลุ่มคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองแต่ก็อยากได้บรรยากาศเงียบสงบเหมือนอยู่บ้าน มากกว่าความคึกคัก สีสันเกือบตลอด 24 ชม.อย่างทองหล่อ-เอกมัยค่ะ

 

นี่คือรีวิวทำเลของคอนโด The Reserve สุขุทวิม 61 โครงการใหม่ในย่านใจกลางเมืองทองหล่อ-เอกมัยจาก พฤกษา สำหรับรีวิวฉบับเต็มที่จะเจาะลึกรายละเอียดของตัวโครงการอดใจรอกันอีกหน่อยนะคะ เมื่อสำนักงานขายเสร็จเรียบร้อยและมีรายละเอียดของโครงการที่ครบถ้วน ทางทีมงานจะเข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิวตัวเต็มอีกทีเพื่อทำเป็นรีวิวฉบับเต็มให้อ่านกันค่ะ 🙂