รีวิวฉบับที่ 1431 … สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมตึกเสร็จโครงการ Moniiq สุขุมวิท 64 คอนโด Low Rise 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64 แยก 4 ห่างจาก BTS  ปุณณวิถี ประมาณ 1 กม. และห่างจากทางขึ้นทางด่วน ประมาณ 1.5 กม. จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง ซันเคียว โฮม ออกแบบด้วยแนวคิดและทัศนคติการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพในแบบญี่ปุ่น ด้วยความเรียบง่ายและใส่ใจในรายละเอียดของการใช้ชีวิต  เราไปชมกันค่ะ

Fact @ 12 September 2017

  • Moniiq Sukhumvit 64 (โมนีค สุขุมวิท 64)
  • บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่บริเวณซอย สุขุมวิท 64 แยก 4
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องพัก 366 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 27 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 149 คันคิดเป็น 40 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน , จอดซ้อนคัน 40 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 50 %
  • ที่ดินประมาณ 3-1-89.1 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : 2559
  • สถานะโครงการ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • 1 Bedroom ขนาด 28 – 32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms ขนาด 39 – 51 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท (Promotion)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 86,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 81,000 – 91,000 บาท/ตร.ม.
  • สถานะโครงการ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่ 
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 094-567-3366

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.689093, 100.602581

Moniiq_frommoniiq-6

ที่ตั้งของโครงการ Moniiq สุขุมวิท 64 อยู่ในซอยสุขุมวิท 64 แยก 4 (ซอยพงษ์เวชอนุสรณ์) ตัวโครงการอยู่ท้ายซอยก่อนถึงทางพิเศษเฉลิมมหานครโดยทางขึ้นทางด่วนมีระยะห่างจากโครงการ 1.5 กม. ส่วนหน้าปากซอยสุขุมวิท 64 เป็นที่ตั้งของสถานี BTS ปุณณวิถีซึ่งมีระยะห่างจากโครงการ 1 กม. ซอยนี้เป็นซอยที่เริ่มคึกคักแล้วนะคะ มีคอนโดมาขึ้นกันหลายตึกแต่ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการค่อนข้างน้อย ต้องอาศัย 7-11 และ ร้านค้า ร้านอาหารบริเวณปากซอย ถ้าออกมาถนนใหญ่สุขุมวิทมีศูนย์การค้า อย่าง Gateway เอกมัย Hypermarket อย่าง Tesco Lotus รวมไปถึงโรงพยาบาลและโรงเรียนที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 5 กม.ด้วยค่ะ

map01

ทำเลของโครงการ Moniiq ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64 แยก 4 (ซอยพงษ์เวชอนุสรณ์) ซึ่งซอยนี้เป็นทางลัดระหว่างถนนสุขุมวิทช่วงซอยสุขุมวิท 64 กับทางไปขึ้นทางด่วนซึ่งอยู่ท้ายซอยสุขุมวิท 62 เส้นทางลัดนี้เป็นที่นิยมในช่วงเวลาเร่งด่วน เนื่องจากถนนสุขุมวิทเป็นถนนที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่นสม่ำเสมอเพราะเป็นถนนเส้นหลักเส้นหนึ่งของกรุงเทพมหนครซึ่งมีอาคารสำคัญทั้งอาคารศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม รวมถึงวัดสำคัญๆ ตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้จำนวนมาก แต่ถ้าใครไม่อยากเจอรถติด ก็ได้มีตัวช่วยในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้าค่ะ โครงการนี้จึงมีทางเลือกในการเดินทางทั้งแบบใช้รถยนต์และแบบไม่ใช้รถยนต์ที่สะดวกพอใช้ได้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้าสถานีปุณณวิถีค่ะ ซึ่งสถานีกับตัวโครงการมีระยะห่าง 1 กม. จึงไม่ได้อยู่ในระยะที่น่าจะเดินไหวนะคะ ต้องใช้ตัวช่วยอย่างพี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือรถ Shuttle Bus ของโครงการ อีกทั้งหน้าซอยสุขุมวิท 64 มีรถเมล์ที่วิ่งผ่านหน้าซอย คือ รถเมล์สาย 545 วิ่งระหว่างนนทบุรี-สำโรง, สาย 511 ปากน้ำ-สายใต้ใหม่ และสาย 23 อู่เมกา-เทเวศร์ ที่ร่วมให้บริการด้วย

การเดินทางโดยใช้รถยนต์สวนตัวสามารถเดินทางได้โดยผ่านถนนสุขุมวิท ถ้าต้องการเข้าเมืองไปยังถนนอโศกมนตรี สามารถออกปากซอยเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นสุขุมวิทแล้ววิ่งตรงไปได้เลย ส่วนถ้าจะออกนอกเมืองเพื่อมุ่งหน้าสู่ถนนบางนา สมุทรปราการ ก็ทำได้ไม่ยากโดยไปกลับรถบนเส้นสุขุมวิทซึ่งมีระยะห่างจากปากซอยสุขุมวิท 64 ประมาณ 200 ม. หรือถ้าต้องการเดินทางไปแหล่งงานย่านสาทร สีลม พระราม 4 ก็สามารถใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยทะลุจากถนนพงษ์เวชอนุสรณ์ออกไปทางด้านหลังซอย เส้นนี้จะเชื่อมไปทางไปขึ้นทางด่วนที่ซอยสุขุมวิท 62 ค่ะแต่อย่าลืมเผื่อเวลารถติดในการเดินทางนะคะ

Moniiq_map-6-1

เนื่องจากถนนหน้าโครงการเป็นทางลัดไปขึ้นทางด่วน จึงอธิบายเส้นทางด่วนให้สักนิดค่ะ ทางด่วนด้านหลังโครงการเป็นทางด่วนเส้นเฉลิมมหานคร ซึ่งทางด่วนนี้สามารถเข้าเมืองไปได้ 2 เส้นทางได้แก่ เส้นทางทิศตะวันตก เพื่อไปย่านพระราม 3 พระราม 4 สีลม สาทร และอีกเส้นทางหนึ่งคือทางทิศเหนือ เพื่อไปย่านรามอินทรา ลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ ส่วนการจราจรบนทางด่วนเส้นนี้จะติดขัดมากในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็นนะคะ เพราะเป็นทางด่วนเส้นเดียวที่เชื่อมแหล่งงานในเมืองกับย่านที่อยู่อาศัยบริเวณชานเมืองฝั่งตะวันออกเอาไว้ค่ะ การเข้าถึงโครงการโดยทางด่วนให้ลงทางด่วนสุขุมวิท 62 แล้วเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 62 แยก 1 ตรงมาเรื่อยๆก็ถึงโครงการแล้วค่ะ ไม่ต้องไปผ่านเส้นสุขุมวิทหน้าเลย

map03_2

เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64 แยก 4 ซึ่งแยก 4 นี้เป็นแยกที่ค่อนข้างเงียบสงบ โดยรอบยังคงเป็นบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่ จึงเป็นซอยที่มีความคึกคักสู้ซอยหลักอย่างซอยสุขุมวิท 64 ไม่ได้ เพราะแยกนี้เพิ่งเริ่มมีอาคารใหม่ๆที่กำลังก่อสร้าง ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัยไม่เกิน 8 ชั้น ซึ่งต่างจากซอยหลักที่มีโครงการมาก่อสร้างตั้งแต่ 2 ปีก่อนทำให้หลายๆโครงการสร้างเสร็จและโอนกันแล้ว ความอุดมสมบูรณ์ในซอยแยกนี้จึงค่อนข้างน้อยต้องพึ่งพา 7-11 ร้านค้า ร้านอาหารในซอยเป็นหลัก แม้ว่าพื้นที่ในซอยค่อนข้างเงียบแต่เมื่อออกจากซอยมายังถนนสุขุมวิทจะพบร้านค้า อาคารตึกแถว อาคารพาณิชย์ตามเส้นทางรถไฟฟ้า รวมถึงอีกถนนหนึ่งซึ่งเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทก็มีความเจริญไม่แพ้กัน คือ ถนนบางนา-ตราด เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าเล็กใหญ่ โรงพยาบาล มีโรงเรียนอยู่รอบๆในบริเวณ แต่ไม่ได้อยู่ในระยะเดิน ต้องนั่งรถยนต์ไปนะคะ

เพื่อนบ้านใกล้เคียงในซอยนี้จะเริ่มกันที่ซอยหลักสุขุมวิท 64 กันก่อนนะคะ จะพูดถึงภาพรวมของซอยกันก่อน แล้วค่อยเข้าไปดูในแยก 4 (ซอยพงษ์เวชอนุสรณ์)กันต่อ ภายในซอยสุขุมวิท 64 ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ที่พบ ล้วนแต่เป็นโครงการ Low Rise สูงประมาณ 8 ชั้น มีทั้งโครงการคอนโด เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ โครงการส่วนใหญ่จะขายไปเกือบหมด และโอนกันไปแล้ว ได้แก่ Olive Service Apartment, Sari condo ของแสนสิริ, The Link VANO ของธารารมณ์ ถัดมาช่วงกลางๆซอยเป็นโครงการ The Link condo ซึ่งตัวนี้ขายหมดไปนานแล้ว ค่อนไปทางท้ายซอยจะมีโครงการ The Room ที่ขายหมดแล้วเช่นกัน ส่วนโครงการที่อยู่สุดซอยก็เป็น Elio Del Ray ของ Ananda ท้ายซอยนี้ยังมีปั๊ม ปตท. ซึ่งมีของกินอย่างพวกร้านอาหาร ร้านกาแฟ เช่น S&P, Chester Grill, Amezon เป็นที่พึ่งพายามหิวได้ค่ะ

ส่วนเพื่อนบ้านในซอยพงษ์เวชอนุสรณ์ ที่แยก 4 มีโครงการพี่น้องอย่าง Whizdom the Exclusive และ Whizdom ปุณณวิถี ของ Magnoliaที่ขายไปได้เกือบหมดแล้วนะคะ เมื่อเลี้ยวซ้ายลึกเข้าไปอีกจะเป็นบ้านเดี่ยวซะส่วนใหญ่ ทำให้ซอยนี้ค่อนข้างสงบค่ะ ส่วนโครงการท้ายสุดซอยตรงข้ามกับโครงการ Moniiq คือโครงการรุ่นพี่อย่างคอนโด รีเจ้นท์ โฮม 9 ของบริษัท รีเจ้นท์ ซึ่งเริ่มขายมือ 2 กันแล้วค่ะ

map04

การเดินทางมาโครงการในวันนี้จะเริ่มต้นที่สถานี BTS ปุณณวิถี ใช้ทางออก 4 เดี๋ยวจะพาไปเดินเล่นดูสภาพแวดล้อมในซอยนี้กัน โดยระยะทางจากสถานี BTS ถึงโครงการประมาณ 1 กม. พร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่ะ

ลงสถานีปุณณวิถีนะคะ ซึ่งสถานีปุณณุวิถีเป็นสถานีที่ไม่ได้มีบริเวณโดยรอบคึกคักอย่างสถานีอุดมสุขที่มีตลาดและชุมชนอยู่กันอย่างหนาแน่น แต่เป็นแหล่งที่พักอาศัยที่สร้างขึ้นใหม่ จึงจะพบคอนโดมิเนียมใหม่ๆจำนวนมากที่บริเวณรอบๆสถานีนี้

Moniiq_SV-2

ออกทางออก 4 ฝั่งขวามือจะเป็นฝั่งซอยเลขคู่นะคะ

เดินออกมาจากทางออก 4 แล้วมองมาทางขวามือก็จะพบซอยสุขุมวิท 64 อยู่ติดทางลง BTS เลย ซอยนี้มีจุดสังเกตง่ายๆนะคะคือหน้าปากซอยจะมี Anglo Singapore International School ค่ะ

ลงมาจากสถานีปุณณวิถีนะคะ ร้านค้าใต้สถานีฝั่งนี้ไม่ค่อยมีร้านเปิดเลยนะคะ เงียบๆนิดนึง หากเป็นฝั่งตรงข้ามพอจะมีร้านค้าให้คึกคักอยู่บ้างนะคะ

เดินลงมาแล้วจะเห็นป้ายซอยสุขุมวิท 64 และป้ายซอยบางจากเนื่องจากเป็นทางเข้าไปยังโรงกลั่นน้ำมันบางจากเช่นกัน เลี้ยวขวาเข้าไปกันเลยค่ะ

Moniiq_SV-8

หน้าปากซอยจะมีพี่วินอยู่ทางซ้ายมือติดรั้ว Anglo Singapore International School ส่วนขวามือจะเป็นร้านค้าต่างๆ ทั้งร้านขายยา ร้านอาหาร เป็นจุดที่สามารถแวะซื้อของใช้ของกินก่อนเข้าไปในโครงการได้นะคะ

อัตราค่าโดยสารพี่วินค่ะ ถ้าเรียกเข้าไปโครงการ Moniiq ก็คงจะเป็นราคาเดียวกับรีเจ้นท์โฮม9 ที่ราคา 10 บาท เพราะโครงการอยู่ตรงข้ามกันค่ะ

Moniiq_SV-10

ซอยนี้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติ Anglo Singapore ทำให้แถวนี้มีเด็กนักเรียนและพ่อแม่ชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะ ในช่วงต้นซอยจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนม ร้านตัดผม อยู่ใกล้ๆบริเวณโรงเรียนนี้แหละค่ะ

Moniiq_SV-13

ถัดจากโรงเรียนนานาชาติมาจะพบรั้วโรงเรียนสีชมพูเป็นรั้วโรงเรียนพิพัฒนาซึ่งเป็นโรงเรียนประถมค่ะ ดังนั้นช่วงเวลาเช้าเย็นคงจะมีผู้ปกครองมารับ-ส่งนักเรียนจำนวนมาก ก็จะทำให้การจราจรหนาแน่นในช่วงโรงเรียนเข้าและโรงเรียนเลิกได้เหมือนกันค่ะ

Moniiq_SV-14

ถัดจากโรงเรียนพิพัฒนาเข้ามาจะเจอ 7-11 ที่หัวมุมถนนด้านขวา อยู่ห่างจากปากซอย 200 เมตร และจากเซเว่นไปโครงการห่าง 800 เมตร ซึ่งเป็นจุดสังเกตว่าเป็นทางแยกเข้าซอยสุขุมวิท 64 แยก 4 หากเลี้ยวขวาเข้าไปในซอยนี้จะไปยังที่ตั้งโครงการ Moniiq แต่เราจะยังไม่เลี้ยวเข้าไปนะคะ จะพาตรงไปดูบรรยากาศในซอยหลักให้สุดก่อนนะคะ ซึ่งทางที่จะตรงไปนี้เป็นทางที่สามารถไปเชื่อมต่อซอยสุขุมวิท 66/1 และทะลุไปยังสถานี BTS อุดมสุขได้ค่ะ

ฝั่งตรงข้าม 7-11 ซ้ายมือจะเป็นสตูดิโอของ Hafele ไม่ได้เป็นโรงงานนะคะ

Moniiq_SV-31

ตรงเข้ามาอีกหน่อยเป็นโครงการ SARI คอนโด 8 ชั้นจากแสนสิริค่ะ

Moniiq_SV-32

ติดกับโครงการ SARI เป็นอาคารสำนักงาน 6 ชั้น

Moniiq_SV-33

ถัดมาทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นคอนโด 8 ชั้นที่ขนาบถนนไว้นะคะ ซ้ายมือเป็น The Link VANO ส่วนขวามือคือMayfair Place จาก PTF Realtyค่ะ

Moniiq_SV-34

เดินต่อมาไม่กี่ก้าวจะพบอาคารฝั่งขวาที่ติดกับ Mayfair Place คือ The Link เป็นคอนโดอีกเช่นกันนะคะ แต่ตัวนี้จะเก่ากว่า The Link VANO ค่ะ

Moniiq_SV-35

ถัดไปเป็น The Room สุขุมวิท 64 จะสังเกตว่าคอนโดในซอยนี้เยอะมากเลยใช่มั้ยคะ แต่ยังไม่หมดแค่นี้นะคะยังมีโครงการที่ท้ายซอยอีกค่ะ

ท้ายซอยเป็นสามแยกนะคะ หากเลี้ยวซ้ายจะไปซอยสุขุมวิท 66/1 ซึ่งสามารถไปออกสุขุมวิทบริเวณสถานีอุดมสุขได้ ซึ่งทางซ้ายมือนั่นเองเป็นที่ตั้งโครงการ Elio คอนโด Low Rise ที่มีจำนวนห้องพักนับพันยูนิตและบริเวณหน้าโครงการ Elio ก็มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการด้วยค่ะ ส่วนหากเลี้ยวขวาขึ้นสะพานไปทางป้ายบางจาก จะเป็นเส้นทางไปโรงกลั่นน้ำมันบางจากที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของทางด่วนค่ะ เดินมาถึงเกือบจะสุดซอยนับจำนวนคอนโดได้เยอะอยู่นะคะ ซอยนี้ช่วงเช้าและเย็นคงจะมีปริมาณรถเข้าออกไม่น้อยเลยคะ การจราจรคงค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร

มองจากสะพานนะคะ หากตรงไปตามทางจะเป็นทางข้ามไปอีกฟากหนึ่งของทางด่วนเพื่อไปยังโรงกลั่นน้ำมันบางจาก หากเลี้ยวขวาเข้าปั๊มน้ำมันปตท.ได้เช่นกัน ซึ่งปั๊มนี้เป็นปั๊มเล็กภายในจะมีทางเดินไปเข้าปั๊มใหญ่ที่เป็นจุดพักรถของคนใช้ทางด่วน ก็สามารถหาของกิน หากาแฟทานที่ปั๊มใหญ่ได้ค่ะ

Moniiq_SV-15

หลังจากพาไปดูบรรยากาศในซอยหลักอย่างสุขุมวิท 64 กันแล้ว เดี๋ยวเรากลับมายังเส้นทางที่จะไปที่โครงการกันต่อคะโดยเลี้ยวขวาเข้าแยก 4 ตรงสามแยกกลางซอยสุขุมวิท 64 ที่มี 7-11 เมื่อเลี้ยวเข้ามาแล้ว ฝั่งขวาจะเป็นโรงเรียนพิพัฒนา ถนนในซอยมีเส้นเหลืองตีไว้ตลอดแนวถนน ซึ่งมีความหมายว่าเป็นเส้นที่ไปทะลุอีกถนนหนึ่งได้ ไม่ใช่ซอยตันค่ะ

Moniiq_SV-16

เข้ามาที่ถนนในซอยแยก 4 แล้ว สังเกตว่าถนนจะแคบลงกว่าซอยหลักนะคะ สำหรับการเดินเท้าในซอยจะต้องระมัดระวังรถที่วิ่งสวนไปมาหน่อยค่ะ เพราะถนนแคบและมีทางเท้าให้เดินแคบไปด้วย  ขวามือจะมีคอนโด Low Rise พี่น้องตระกูล Whizdom จาก Magnoliaค่ะ ซ้ายมือจะเป็นบ้านอยู่อาศัยซะส่วนใหญ่นะคะ ซึ่งก็มีบางหลังเปิดบ้านเป็นร้านค้าค่ะ

Moniiq_SV-17

เดินจากคอนโด Whizdom มาไม่มากก็เจอร้านก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านบึงค่ะ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของของกินในซอยนี้นะคะ

Moniiq_SV-18

เข้ามาอีกนิดจะเจออาคารนานมีบุ๊ค 2 ทางขวามือนะคะ มองไปจะมีพี่วินอยู่หน้าอาคาร ซึ่งอยู่ใกล้ทางเลี้ยวซ้ายเพื่อไปโครงการแล้วค่ะ

Moniiq_SV-19

พอเจอทางแยกตรงหน้าอาคารนานมีบุ๊ค 2 ให้เลี้ยวซ้ายนะคะ สังเกตป้ายลูกศรเลี้ยวขวาเล็กๆ เขียนว่าสุขุมวิท 62 ..ใช่แล้วค่ะเส้นทางนี้เป็นทางลัดไปสุขุมวิท 62 ซึ่งทะลุไปทางขึ้นทางด่วนได้ โดยรวมแล้วภายในซอยนี้ส่วนมากเป็นบ้านพักอาศัย ผู้คนไม่พลุกพล่าน แต่จะมีรถวิ่งผ่านในซอยอยู่ตลอดเวลาเนื่องจาก ซอยนี้สามารถใช้เป็นเส้นทางลัดไปขึ้นทางด่วนได้ จุดสังเกตทางแยกอีกจุดหนึ่งค่ะคือพี่วินที่คอยให้บริการอยู่ตรงสามแยกนั่นเอง

อัตราค่าโดยสารนะคะ หากต้องการไปขึ้น BTS ที่ปากซอย 64 พี่วินคิดค่าบริการ 10 บาทเท่านั้นค่ะ

Moniiq_SV-21

เดินตรงเข้าไปในซอยกันต่อนะคะ ขวามือมีร้านซักอบรีดเล็กๆ ส่วนซ้ายมือเป็นซอยสุขุมวิท 64 แยก 6-5 ซึ่งสามารถทะลุไปออกซอยสุขุมวิท 64 ได้ค่ะ

Moniiq_SV-22

ซอยสุขุมวิท 64 แยก 4 นี้กำลังจะคึกคักตามซอยหลักอย่างสุขุมวิท 64 นะคะ ภายในซอยมีอาคารกำลังสร้างหลายอาคารทั้งที่เป็นบ้านพักอาศัยและคอนโดขึ้นใหม่อย่าง Chateau IN Town ฝั่งขวามือคือสโมสรไลออนสากลเป็นองค์การกุศล ซึ่งมีให้บริการคลินิคทันตกรรมด้วยค่ะ จากตรงนี้ตรงไปอีกหน่อยก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ

ถึงแล้วค่ะ โครงการ Moniiq สุขุมวิท 64 มองตรงไปถนนที่ลอยฟ้าอยู่นั่นคือทางพิเศษเฉลิมมหานคร ถ้าใครเดินทางด้วยทางด่วนบ่อยๆก็คงจะเหมาะกับทำเลนี้นะคะ เพราะไปขึ้นทางด่วนไม่ยากเลยค่ะ

สุดซอยโครงการ Moniiq มีป้ายเลี้ยวขวาไปสุขุมวิท 62  ซึ่งเส้นทางนี้สามารถไปขึ้นทางด่วนได้ จากตรงนี้วิ่งไปอีก 1.5 กม. ก็จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนค่ะ

เลี้ยวขวามาจะเป็นเส้นทางไปขึ้นทางด่วนนะคะ หรือถ้าต้องการจะมาโครงการจากทางด่วนก็สามารถออกทางออกสุขุมวิท 62 แล้วตรงเข้าในซอยนี้ได้เลยเช่นกัน ค่อนข้างสะดวกมากนะคะ ไม่ต้องไปรถติดที่ถนนสุขุมวิทเลย ส่วนฝั่งขวามือคือคอนโดรุ่นพี่อย่าง Regent Home 9

Map05**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการตั้งอยู่ในถนนซอย สิ่งปลูกสร้างโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยกับอาคาร Low Rise ผสมๆ กันไป มีส่วนที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆที่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโครงการจะติดกับทางพิเศษเฉลิมมหานคร เมื่อข้ามฝั่งไปอีกด้านหนึ่งของทางด่วนจะมีโรงกลั่นน้ำมันบางจากซึ่งหากใครมีข้อมูลของการอยู่อาศัยในบริเวณใกล้โรงกลั่นนี้ก็สามารถนำมาแชร์เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ตัดสินใจซื้อบ้านได้นะคะ สำหรับพื้นที่โดยรอบโครงการสรุปได้ดังนี้ค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้น และออฟฟิศเล็กๆสูงไม่เกิน 3 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ  คอนโด Regent Home 9 สูง 8 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร

ส่วนการวิเคราะห์ในเรื่องของวิวจากห้องพักอาศัยนั้นจะวิเคราห์แยกตึก A และ B นะคะ อาคาร A คืออาคารที่ติดกับถนนซอยค่ะ ส่วนอาคาร B จะวางตัวขนานกับอาคาร A แต่อยู่ด้านในค่ะ

อาคาร A ทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะได้เปรียบในเรื่องวิวภายนอกโครงการมากกว่าทิศอื่นๆ เพราะไม่มีอยู่ประชิดกับอาคาร ทำให้มีระยะสายตาในการมองวิวได้ไกล ส่วนทิศตะวันออกเฉียงใต้จะได้วิวสระและสวนภายในโครงการ ซึ่งถือเป็นห้อง Value พิเศษนะคะ ส่วนทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะมีบางส่วนติดกับคอนโดสูง 8 ชั้นซึ่งอยู่ในระยะประชิดทำให้บางห้องในทิศนี้ที่จะถูกบล็อควิวไปบ้าง และในทิศตะวันตกเฉียงใต้ห้องพักจะอยู่ฝั่งที่หันไปหาทางด่วนทำให้อาจจะโดนเสียงรบกวนและฝุ่นควันที่มาจากทางด่วนบ้าง รวมทั้งชั้นที่อยู่ในระดับเดียวกันกับทางด่วนก็อาจจะต้องปิดม่านในบางช่วงเวลาเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

อาคาร B ทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะได้วิวภายนอกโครงการเหมือนอาคาร A ค่ะ สำหรับทิศตะวันออกเฉียงใต้มุมนี้จะได้วิวเมืองนะคะ อาคารที่ติดกับฝั่งนี้เป็นบ้าน 2 ชั้น ส่วนห้องอื่นๆในชั้นที่เลยจากชั้น 2 ขึ้นไป การมองวิวจะมองได้ไกลทีเดียว ส่วนทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะได้วิวสระและสวนภายในโครงการนะคะ มีข้อดีที่วิวในมุมนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงเพราะเป็นพื้นที่ภายในโครงการ แต่ข้อเสียคือจะโดนบล๊อคลมและวิวภายนอกโครงการจากอาคาร A ตลอดค่ะ และในทิศตะวันตกเฉียงใต้ห้องพักจะอยู่ฝั่งที่หันไปหาทางด่วนทำให้อาจจะโดนเสียงรบกวนและฝุ่นควันที่มาจากทางด่วนเหมือนตึก A เช่นกัน

ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้น และออฟฟิศเล็กๆสูงไม่เกิน 3 ชั้น

ทิศตะวันออก ติดกับ  คอนโด Regent Home 9 สูง 8 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ปิยะรมย์ สปอร์ตคลับ ~1.3 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus อ่อนนุช ~2.3  กิโลเมตร
  • Bangkok Mall ~3.0  กิโลเมตร
  • BITEC บางนา ~3.2  กิโลเมตร
  • Gateway เอกมัย ~ 4.6 กิโลเมตร
  • Central บางนา ~ 5.7 กิโลเมตร
  • ซีคอนสแควร์ ~ 5.9 กิโลเมตร
  • พาราไดซ์พาร์ค ~ 6.6 กิโลเมตร
  • MEGA บางนา ~ 11.4 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Moniiq สุขุมวิท 64 คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ตัวอาคารเป็นรูปตัว L 1 อาคารเรียกว่าอาคาร A และอาคารรูปตัว U อีก 1 อาคารเรียกอาคาร B ในส่วนของทางเข้าโครงการนั้น จะเข้าได้จากทางใต้อาคาร A ซึ่งวางด้านยาวของของอาคารขนานไปกับถนนสุขุมวิท 64 แยก 4 ตัวอาคารใช้โทนสี Earth Tone แสดงถึงความเรียบง่าย ให้บรรยากาศที่อยู่สบาย และเพิ่มเติมการออกแบบโดยการนำเส้นแนวตั้งและแนวนอนมาใช้เพื่อสื่อถึงความเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากเส้นแนวตั้งแนวนอนที่ดูเรียบ นิ่ง สงบ ชั้น 1 เป็น Lobby, ร้านค้า และลานจอดรถใต้อาคาร เริ่มมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 2 มีสวนหย่อมขนาดพอพักผ่อนหย่อนใจได้ สระว่ายน้ำ ห้องสมุด ห้องเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และ Fitness ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางในโครงการจะอยู่ใน court ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร ตั้งแต่ชั้น 3 ไปจนถึงชั้น 8 จะเป็นของห้องพักอาศัยทั้งหมดนะคะ

ก่อนไปเดินชมโครงการ เรามาเริ่มกันที่ผังชั้น 1 กันก่อนนะคะ โครงการ Moniiq สุขุมวิท 64 มีทางเข้าออกโครงการทางเดียวคือทางถนนสุขุมวิท 64 แยก 4 ที่ดินด้านหน้าโครงการที่ติดถนนมีความยาวประมาณ 50 ม. จะเห็นว่ามีด้านที่ติดถนนค่อนข้างยาวจึงเป็นโครงการที่จะสังเกตเห็นได้ง่าย ส่วนด้านลึกที่สุดมีความยาวประมาณ 72 ม. ซึ่งความลึกระดับนี้ทำให้โครงการสามารถสร้างได้ 2 อาคารซึ่งความสูงทั้ง 2 อาคารนั้นเท่ากันที่ 8 ชั้น โดยอาคารที่ติดกับถนนเรียกว่าอาคาร A เป็นอาคารที่มี Facilities ส่วนใหญ่รวมถึงร้านค้าภายในโครงการด้วย ส่วนอีกอาคารหนึ่งคืออาคาร B ที่ถัดจากอาคาร A เข้ามาด้านใน ซึ่งตัวอาคารทั้งสองจะวางตัวขนานกัน อาคาร B นี้จะแตกต่างจากอาคาร A ตรงที่มีจำนวนห้องพักเยอะกว่า และมีสระว่ายน้ำส่วนกลางอยู่ในอาคาร B

ชั้น 1 ของอาคารพักอาศัยไม่มีห้องพักอาศัยนะคะ จะเป็นพื้นที่ของลานจอดรถ เส้นทางเดินรถในอาคารเมื่อขับเข้ามาด้านในพื้นที่โครงการ จะเป็นเส้นทางเดินรถแบบสวนทางกัน สามารถขับวนรอบได้ในโครงการ ถ้าพักอาคาร A เมื่อเข้ามาจากทางเข้าให้เลี้ยวขวาเพื่อหาที่จอดรถใกล้อาคารได้เลย ถ้าพักอาคาร B แนะนำให้ขับตรงเข้ามาก่อนเพื่อหาที่จอดใกล้ๆอาคาร B ค่ะ ทางเข้าออกอาคารแต่ละอาคารมีทางเข้าออกอาคารละจุดนะคะ โดยจะขึ้นผ่าน Lobby ในอาคาร เพื่อเข้าไปยังโถงลิฟท์นะคะ ระบบความปลอดภัยของทางเข้าอาคารทั้ง 2 จะเป็นประตู 2 ชั้นคือ

  • ประตูทางเข้าอาคาร —>ไม่ต้องใช้ Key Card แขกของลูกบ้านสามารถเข้ายังอาคารได้ ต้องให้ลูกบ้านมารับเข้า Lobby เท่านั้น
  • ประตูทางเข้า Lobby —>ใช้ Key Card ลูกบ้านจึงมีความปลอดภัยตั้งแต่ในส่วนของ Lobby เลยค่ะ

ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป เราจะค่อยๆดูไปทีละตึกนะคะ มาเริ่มที่ตึก A กันก่อน ชั้น 2 จะเริ่มเป็นส่วนของห้องพักอาศัย โดยมีห้องพักอาศัย 16 ห้อง เป็นห้อง 1 Bedroom 12 ห้อง และห้อง 2 Bedroom 4 ห้อง ซึ่งจะอยู่เฉพาะห้องมุมของอาคาร ห้องพักส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่หันหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ โถงลิฟท์มีตำแหน่งเดียวอยู่ตรงกลางอาคารซึ่งในโถงจะมีลิฟท์ 2 ตัวนะคะ มีอัตราส่วนลิฟท์ 89 : 1 ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ไม่มากค่ะ  ส่วนอาคารจะมีบันไดหนีไฟ 3 ตำแหน่งกระจายตัวอยู่ทั้งฝั่งซ้ายขวาและตรงกลางของอาคาร ซึงบันไดทั้ง 3 ตัวสามารถลงไปยังลานจอดรถที่ชั้น 1 ได้ค่ะ บางส่วนของอาคารจะเป็น Facilities ได้แก่ สวนหย่อม จะอยู่ติดกับโถงลิฟท์ในชั้นนี้ค่ะ ส่วน Facilitiesอื่นๆอย่าง Fitness, Library และ Entertainment Room  จะต้องขึ้นจากบันไดชั้น 1 โดยบันไดนี้จะอยู่นอกอาคารติดกับร้านค้าค่ะ การเข้าใช้ห้อง Facilities เหล่านี้ต้องใช้ Key Card นะคะ

ต่อไปเป็นเรื่องของวิว ห้องพักในชั้นนี้ห้องที่หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้จะได้วิวสวนหย่อมของโครงการนะคะ รวมถึงมีบางห้องที่ติดกับสวนด้วย ซึ่งถือว่าเป็นห้องที่มีความพิเศษ เมื่อมองออกมาจากห้องก็เห็นสวนรมรื่นเลย แต่ความเป็นส่วนตัวก็อาจจะลดลงนะคะ ส่วนที่หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะหันออกถนนสุขุมวิท 64 แยก 4 มีบางห้องที่ตรงกับทางเลี้ยวและบางห้องที่จะโดนบล๊อกวิวโดยคอนโดฝั่งตรงข้ามค่ะ ส่วนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะติดกับทางพิเศษเฉลิมมหานครก็อาจจะได้รับมลภาวะทางฝุ่นและเสียงจากทางด่วนบ้างค่ะ

มาต่อกันที่ ชั้น 3-8 ของตึก A ค่ะ ตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดนะคะ โดยมีห้องพักอาศัยแต่ละชั้น ชั้นละ  27 ห้อง แบ่ง เป็นห้อง 1 Bedroom 21 ห้อง และห้อง 2 Bedroom 6 ห้อง การจัดวางห้องในอาคารใช้วิธีการจัดวางเรียงไปตามรูปตรงอาคารลักษณะตัว L  จะมีเพียง 2 ห้องเท่านั้น ที่ห้องหนึ่งประตูห้องตรงข้ามกับประตูบันไดหนีไฟ และอีกห้องหนึ่งที่ประตูตรงกับโถงทางเดิน ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้วิวค่อนข้างโล่งตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปจะไม่มีตึกสูงในระยะประชิดค่ะ ส่วนห้องทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือฝั่งด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนสุขุมวิท 64 แยก 4 จะมีคอนโด Regent Home 9 สูง 8 ชั้นตั้งบังวิวอยู่ ส่วนทิศตะวันตกเฉียงใต้จะหันหน้าไปทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้ห้องพักในทิศนี้จะได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางเสียงและอากาศจากทางด่วนบ้าง ซึ่งทางด่วนนี้จะมี 2 เส้นทางนะคะ เส้นล่างมีความสูงที่ระดับชั้น 1 และเส้นบนมีความสูงที่ระดับประมาณชั้น 6 ทำให้ห้องพักในในชั้น 6 นี้น่าจะได้ผลกระทบอยู่บ้าง

มาต่อกันที่อาคาร B นะคะ ในชั้น 2 การวางตัวของห้องพักในอาคารจะเป็นรูปตัว U ล้อมรอบสระว่ายน้ำ โดยมีห้องพักอาศัย 26 ห้อง เป็นห้อง 1 Bedroom 21 ห้อง และห้อง 2 Bedroom 5 ห้อง อาคาร B จะมีโถงลิฟท์ตำแหน่งเดียวเหมือนอาคาร A เช่นกัน ต่างกันที่ตำแหน่งของโถงลิฟท์ในอาคาร B จะค่อนมาทางด้านขวาของอาคารมากกว่า ทำให้ห้องที่อยู่ปลายสุดของอาคารอาจจะเดินไกลจากลิฟท์นิดหนึ่งนะคะ โดยอาคารนี้จะมีลิฟท์ 2 ตัวเช่นกัน ซึงมีอัตราส่วนลิฟท์ 94 : 1 เป็นอัตราส่วนที่ไม่มากกว่าตึก A นิดหน่อยค่ะ สระว่ายน้ำของโครงการอยู่ที่ชั้นนี้นะคะ ซึ่งมีจัดเส้นทางการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางไว้ดีค่ะ ทางเข้าจะเชื่อมกับส่วนของโถงลิฟท์เลย ทำให้ผู้ที่จะมาใช้งานไม่ต้องเดินผ่านในส่วนห้องพักอาศัยทำให้ลูกบ้านที่อยู่ในชั้นนี้ยังได้รับความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยค่ะ โดยสระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือมีขนาด 8 x 20 ม. ลึก 1.2 ม. แบ่งพื้นที่เป็นสระเด็กจะมีความลึก 0.6 ม. ส่วนอาคารจะมีบันไดหนีไฟ 3 ตำแหน่งกระจายตัวอยู่ทั้งฝั่งซ้ายขวาของอาคาร ซึ่งบันไดทั้ง 3 ตัวสามารถลงไปลานจอดรถที่ชั้น 1 ได้ค่ะ

ต่อไปเป็นเรื่องวิวสำหรับชั้นนี้ค่ะ ห้องพักที่หันหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะเป็นห้องที่ได้รับวิวสระน้ำ ซึ่งห้องเหล่านี้จะมีข้อดีที่ได้รับวิวที่ดีแต่ก็มีข้อเสียที่จะเสียเรื่องความเป็นส่วนตัวไปเหมือนกันค่ะ ส่วนห้องพักที่หันหน้าออกโครงการทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่จะติดกับที่ดินเปล่าของเอกชนนะคะ ทำให้วิวไม่ค่อยอึดอัด จะมีบางห้องที่ติดกับบ้านพักอาศัยของบุคคลอื่นรอบๆโครงการ ส่วนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะหันหน้าเข้าหาทางพิเศษเฉลิมมหานครเหมือนกับอาคาร A ค่ะ

ส่วนชั้น 3-8 ของตึก B ผังจะเหมือนกับชั้น 2 นะคะ ต่างกันที่มีห้องพักอาศัยเพิ่มขึ้นเป็น 27 ห้องต่อชั้น โดยเป็นห้อง 1 Bedroom 21 ห้อง และห้อง 2 Bedroom 6 ห้อง การออกแบบผังห้องในอาคารจะคล้ายๆกับอาคาร A ค่ะ วิวตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปส่วนใหญ่จะได้รับวิวที่ดีค่ะ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะได้รับวิวสระน้ำและสวนส่วนกลางในโครงการ ส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้จะพ้นหลังคาบ้านพักอาศัยรอบๆแล้วค่ะ ส่วนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่ติดกับทางพิเศษเฉลิมมหานครนั้นจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับห้องพักอาศัยทิศนี้ของอาคาร A เช่นเดียวกันค่ะ

เรามาดูของจริงกันค่ะ ทางเข้าออกโครงการจะอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท 64 แยก 4 หรือที่เรียกว่าถนนพงษ์เวชอนุสรณ์ โดยทางเข้าจะลอดใต้ตึก A เพื่อเข้าไปยังที่จอดรถด้านในโครงการค่ะ มีป้อมรปภ.ดูแลความปลอดภัยให้ตลอด 24 ชั่วโมง

บริเวณหน้าโครงการจะมีร้านค้าอยู่ 2 ร้าน ต้องรอดูค่ะว่าจะมีร้านอะไรมาลงบ้าง

ถัดมาจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถมอเตอร์ไซค์ค่ะ

ระบบรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการ จะมีรั้วกั้นไม้กระดกที่ต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้าไป

ไม้กระดกต้องใช้ Key Card มาวางทาบบริเวณนี้ เป็นแบบระยะใกล้ค่ะ

Lobby ของอาคาร A จะอยู่ติดกับทางเข้า-ออกด้านหน้าโครงการ เป็นแบบ Double-space ฝ้าเพดานสูง ผนังกระจกโดยรอบ

ทางเข้า Lobby ของอาคาร A อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการเลย ซึ่งข้อดีคือเข้า-ออกสะดวก

โดยประตูจะเป็นประตู 2 ชั้น คือประตูทางเข้าอาคารไม่ต้องใช้ Key Card ซึ่งเมื่อเข้ามาในอาคารแล้วจะมีประตูเข้า Lobby อีกชั้นหนึ่งซึ่งต้องใช้ Key Card  ถ้าเป็นแขกของลูกบ้านต้องให้ลูกบ้านมารับเข้า Lobby เท่านั้นค่ะเป็นระบบความปลอดภัยภายใน Lobby ที่ทำมาได้ดีกว่าคอนโดในระดับเดียวกันนะคะ

ระหว่างประตูทั้ง 2 ชั้นจะมีช่องหน้าต่างสำหรับติดต่อกับนิติบุคคลค่ะ ระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณนี้ทำได้ดีทีเดียว

สำหรับประตูด้านในต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้าไปค่ะ

Lobby อาคาร A เป็นแบบ Double Floor (2 ชั้น ติดกัน) สูงประมาณ 5 ม. ทำให้เกิดความรู้สึกโปร่งโล่งภายในอาคาร ผนังด้านหนึ่งของอาคารเป็น กระจกสูงนำแสงธรรมชาติเข้ามาในอาคาร

ทางเข้าโถงลิฟท์จะมีประตูที่ต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้าไปกั้นอยู่อีกชั้นหนึ่งค่ะ

เข้ามาด้านในโถงลิฟท์จะมีทางเข้าห้องนิติบุคคล ห้องจดหมาย และลิฟท์โดยสารอีก 2 ตัว

บรรยากาศภายในห้องจดหมายค่ะ โดยห้องนี้จะเป็นของเฉพาะลูกบ้านที่อยู่อาคาร A

ลิฟท์โดยสารมีอยู่ 2 ตัวค่ะ เป็นแบบล็อคชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูกบ้าน เราจะพาขึ้นไปชั้น 2 เพื่อไปดูพื้นที่ส่วนกลางกัน

ขึ้นมาชั้น 2 ของอาคาร A จะเจอกับสวนหย่อม เป็นสวนเล่นระดับที่ถูกออกแบบให้มีเส้นสายเชื่อมต่อกับผนังภายนอกอาคารทำให้เกิดความรู้สึกเป็นเรื่องราวเดียวกัน

มีซุ้มให้นั่งพักผ่อนอยู่เป็นระยะๆ ตอนเย็นๆหรือกลางคืนก็มีจัด Lighting มาให้ สามารถออกมานั่งเล่นกันได้

บรรยากาศบริเวณซุ้มนั่งพักผ่อนค่ะ มีระแนงไม้ครอบไว้ อาจจะบังแดดได้บ้าง แต่บังฝนไม่ได้นะ

บนชั้น 2 จะมีทั้งพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่มีการกั้นประตูแยกเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ถ้าจะเข้าส่วนพักอาศัยต้องใช้ Key Card ผ่านประตูเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง

เราออกมาจากอาคาร A บริเวณฝั่งตรงข้ามทางเข้า Lobby จะมีทางขึ้นไปยังพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่ง ซึ่งมี Fitness, Library และ Entertainment Room  โดยจะต้องขึ้นจากบันไดชั้น 1 บันไดนี้จะอยู่นอกอาคารติดกับร้านค้าค่ะ การเข้าใช้ห้อง Facilities เหล่านี้ต้องใช้ Key Card อีกเช่นกันนะคะ

เราเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 เพื่อขึ้นไปดูส่วนของ Facilities

มีป้ายบอกทางว่าข้างบนมีอะไรบ้าง

พอใช้ Key Card  ผ่านประตูเข้ามาก็จะเจอกับห้อง Entertainment Room หรือ Rest Area ติดๆกันเป็นห้องสมุด ส่วนถ้าเลี้ยวไปทางซ้ายจะเป็นห้องฟิตเนสและห้องน้ำ

ห้อง Entertainment Room เป็นห้องเอาไว้สำหรับให้ลูกบ้านมาใช้ พักผ่อน ดูหนัง ฟังเพลง หรือนัดพบปะสังสรรค์ได้

ต่อมาคือห้องสมุด ตกแต่งให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น มีหน้าต่างเต็มบานจากพื้นถึงฝ้าทำให้แสงธรรมชาติสามารถเข้ามาภายในห้องได้ เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่เหมาะสมกับการอ่านหนังสือ หรือนั่งทำงานภายในห้องสมุดนี้ค่ะ

บรรยากาศอีกมุมหนึ่ง ทางโครงการมีจัดหนังสือมาให้เราอ่านเล่นด้วย ถ้าใครอยากมานั่งทำงานก็ลงมาใช้พื้นที่ได้ มี Wi-Fi ฟรีให้ใช้ค่ะ

ถ้าใครมาคนเดียวก็มีที่นั่งแบบแยกเดี่ยวๆด้วยค่ะ

เดินเข้ามาด้านในทางฝั่งขวาจะเจอกับห้องฟิตเนส ด้านในสุดเป็นห้องน้ำ

ห้องฟิตเนสจัดอุปกรณ์มาให้ค่อนข้างเยอะดี มีทั้งเครื่องที่ใช้ออกกำลังกายแบบ Cardio วางติดอยู่ชิดหน้าต่าง เปิดชมวิวได้

อีกฝั่งเป็นเครื่องเล่นเวท โดยจะมีผนังด้านหนึ่งของห้องเป็นกระจกเงาเอาไว้ดูท่าทางเวลาออกกำลังกายค่ะ

ห้องน้ำมีมาให้ 2 ห้องแยกชาย-หญิง

ภายในห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าและห้องน้ำมาให้ ตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีขาวและน้ำตาล

บรรยากาศภายในห้องน้ำค่ะ

จากอาคาร A เราเดินเข้าไปดูด้านในโครงการกัน ด้านหลังจะเป็นอาคาร B ระหว่างเดินเข้าไปด้านในจะเห็นพื้นที่จอดรถ สามารถขับวนรอบได้ในโครงการ

ถ้าพักอาคาร A เมื่อเข้ามาจากทางเข้าให้เลี้ยวขวาเพื่อหาที่จอดรถใกล้อาคารได้เลย ถ้าพักอาคาร B แนะนำให้ขับตรงเข้ามาก่อนเพื่อหาที่จอดใกล้ๆอาคาร B ค่ะ จอดได้ประมาณ 149 คันคิดเป็น 40 % แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน

บริเวณที่จอดรถจะมี Shuttle bus รับ-ส่งเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถีด้วยค่ะ

ระหว่างอาคาร A และ B จัดเป็นที่จอดรถและสวนหย่อม บริเวณนี้เป็น Court ทำให้มีลมพัดผ่านระหว่าง 2 อาคาร และ ทำให้ระยะของอาคารไม่กระชั้นกันจนเกินไป

เราเดินมาจนถึงทางเข้า Lobby ของอาคาร B ค่ะ ถัดไปเป็นที่จอดรถใต้อาคาร ซึ่งถ้าใครอยู่อาคารนี้ก็สามารถวนมาจอดใกล้ๆได้

ทางเข้า Lobby อาคาร B ผนังเป็นกระจกทั้งแนว แต่ Space ภายในจะเป็นแบบชั้นเดียว ไม่ใช่ Double Space แบบอาคาร A ประตูทางเข้าอาคารเป็นแบบ 2 ชั้นเช่นเดียวกัน

บรรยากาศภายใน Lobby ของอาคาร B ค่ะ มีจัดชุดที่นั่งพักผ่อนมาให้หลายชุด

อีกฝั่งเป็นทางไปโถงลิฟท์

ข้างๆโถงลิฟท์ ฝั่งด้านหน้าอาคารมีมุมสำหรับนั่งพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวมาให้อีก

อาคารนี้มีห้องจดหมายแยกเป็นของตัวเอง ดีไซน์เดียวกับอาคาร A ค่ะ

อาคารนี้ก็มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัวค่ะ โดยอาคารนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางคือสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 2  เดี๋ยวเราขึ้นไปดูกันค่ะ

พอขึ้นมาที่ชั้น 2 ในส่วนพักอาศัยจะมีประตูที่ต้องใช้ Key Card กั้นอยู่ ทำให้ผู้ที่จะมาใช้งานสระว่ายน้ำไม่ต้องเดินผ่านในส่วนห้องพักอาศัย ลูกบ้านที่อยู่ชั้นนี้จึงยังได้รับความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยค่ะ

ภายนอกลิฟท์ตกแต่งด้วยสีเรียบ ส่วนภายในวัสดุเป็นลายไม้ มีติดกระจกเงาและมีกล้อง CCTV ในลิฟท์ด้วย

พอออกมาบริเวณสระว่ายน้ำ จะเจอกับพื้นที่สวนหย่อมนิดนึงก่อน ทางฝั่งซ้ายเป็นบันไดทางขึ้นไปสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำของโครงการเป็นระบบเกลือมีขนาด 8 x 20 ม. มีความลึก 2 ระดับคือ 1.2 ม. และ 0.6 ม.ค่ะ ขนาดพอให้ออกกำลังกายได้ บรรยากาศโดยรอบจะเน้นให้เกิดความร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มค่ะ

ริมสระมีที่นั่งแบบม้านั่งยาวสีขาว ให้พักผ่อน หรือ นั่งรอลูกๆเล่นน้ำ มีร่มบังแดดมาให้ด้วย

มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำล้างตัว ก่อน-ลงสระ ซึ่งทำผนังบังตาเอาไว้ให้เรียบร้อย

จากสระว่ายน้ำมองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นอาคาร A ค่ะ ฉากกั้นของสระเป็นกระจกทำให้ช่วยเปิดมุมมองให้เห็นวิวมากขึ้น

ข้างๆสระมีห้องน้ำค่ะ ก่อน-หลังว่ายน้ำสามารถมาใช้ได้

ห้องน้ำมีแยกชาย-หญิง มาให้ค่ะ

บรรยากาศภายในห้องน้ำค่ะ การตกแต่งเน้นกระเบื้องโทนสีอ่อนๆ มีอ่างล้างหน้าและห้องน้ำ แต่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำให้นะ

สำหรับโถงลิฟท์ของอาคาร B การตกแต่งก็คล้ายๆกับอาคาร A ค่ะ

โถงทางเดินตกแต่งด้วยโทนสีขาวๆเช่นเดียวกัน

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 8 x 20 ม. ลึก 1.2 ม. แบ่งเป็นสระเด็กลึก 0.6 ม.
  • ห้องออกกำลังกาย
  • ห้องอ่านหนังสือ
  • ห้องเอ็นเตอร์เทนเมนท์
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 92 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 89 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 94 : 1
  • Service Lift ไม่มี
  • ที่จอดรถประมาณ 149 คันคิดเป็น 40 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน, จอดซ้อนคัน 40 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 50 %
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • Shuttle Service


Product Walkthrough

สำหรับห้องพักโครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์ฯครบโดยจะมี Option ให้เลือก 3 แบบ ซึ่งก็คือห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันคือ มีแบบ 1 ห้องนอน 32.31 ตารางเมตร ซึ่งเป็นห้องตัวอย่างแบบแต่งเต็ม (เฉพาะห้องนี้จะให้ทั้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งด้วย) , ห้อง Ready to move 2 ห้องนอน 47.89 ตารางเมตร (ให้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐาน เพิ่ม ฟูก เครื่องใช้ไฟฟ้า ผ้าม่าน Wallpaper และ ผ้าขนหนูในห้องน้ำ) และ ห้อง 2 ห้องนอน 48.25 ตารางเมตร เป็นห้องเปล่าให้พร้อมเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานค่ะ

ไปชมห้องแรกกันเลยค่ะ เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 32.31 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องนอน 1 ห้องครัว และ 1 ห้องน้ำ ขายเป็นแบบ Fully Furnished เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Foyer คือพื้นที่วางรองเท้าที่มีการลดระดับพื้นให้ต่ำกว่าระดับพื้นห้องในส่วนอื่นๆ ติดกันเป็นห้องรับแขกที่ค่อนข้างกว้างใช้ประโยชน์ได้หลากหลายทั้งเป็นทั้งพื้นที่รับแขก นั่งเล่น ทานอาหารและพื้นที่ทำงาน ในส่วนห้องรับแขกจะถูกกั้นกับห้องนอนด้วยประตูกระจกสไลด์ทำให้ห้องนั่งเล่นได้รับแสงธรรมชาติจากช่องแสงภายในห้องนอนด้วย ขนาดของห้องนอนสามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size มีตู้เสื้อผ้า Built-inและโต๊ะเครื่องแป้ง ในส่วนครัวจะอยู่ด้านในของห้องถูกแยกส่วนจากห้องรับแขกด้วยประตูกระจกบานสไลด์จึงเป็นครัวแบบปิด จัดแบ่งพื้นที่ให้มี Pantry แบบ Built-in ถัดไปจะเป็นห้องน้ำซึ่งแยกโซนเปียกแห้งชัดเจน ส่วนระเบียงขนาดไม่กว้างมาก พอสำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าเล็กๆได้ค่ะ

ประตูห้องเป็นประตูไม้สำเร็จรูปเคลือบ PVC แบบบานเปิดเดี่ยว แต่เป็นแบบก้านโยก ส่วนด้านล่างเป็นตัวล็อกซึ่งดูแข็งแรงดีค่ะ

พื้นห้องในส่วนด้านหน้ามีลักษณะเป็น Foyer (โถงทางเข้าห้อง) เป็นจุดเด่นของโครงการที่มีเอกลักษณ์ในการออกแบบการอยู่อาศัยแบบญี่ปุ่น ที่จะมีส่วนโถงนี้ไว้เป็นพื้นที่สำหรับถอดรองเท้าซึ่งจะมีระดับต่ำกว่าระดับพื้นห้อง เพื่อช่วยกั้นฝุ่นหรือความสกปรกไม่ให้ขึ้นมายังส่วนอยู่อาศัยอื่นๆ วัสดุของพื้นในส่วนนี้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

ทางโครงการเก็บรายละเอียดส่วนพื้นที่หน้าห้องพักค่อนข้างดีค่ะ นอกจาก Foyer ที่กั้นส่วนของโถงทางเข้าแล้ว ยังมีฉากไม้ระแนงบังตาระหว่างประตูทางเข้าและห้องรับแขกซึ่งโครงการได้แถมให้ด้วยค่ะ ด้านข้างประตูจะเป็นตู้ Built-In สำหรับใส่รองเท้า

ตู้ Built-In ด้านหน้าห้องเป็นตู้ 2 ชั้นแบบบานปิด ทำให้ห้องดูเรียบร้อยไม่รกสายตา ด้านล่างเป็นตู้เก็บรองเท้า ส่วนด้านบนเป็นตู้เก็บของ 2 ชั้นและมีที่แขวนหมวกหรือกุญแจเตรียมไว้ให้ ด้านข้างตู้เดาว่าทางโครงการตั้งใจให้เป็นตำแหน่งวางที่เสียบร่มนะคะ

เข้ามาภายในห้องจะเจอห้องรับแขกที่ค่อนข้างกว้างทีเดียว มองเลยไปด้านในสุดจัดเป็นห้องนอน ซ้ายมือเป็นทางเข้าไปห้องครัวและห้องน้ำค่ะ ระดับฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร โดยพื้นในห้องรับแขกจะเป็นกระเบื้องยางลายไม้ ซึ่งข้อดีคือพื้นกระเบื้องยางจะทนทาน ทนความชื้นได้ดีกว่าพื้นลามิเนต  โดยรวมแล้วห้องดูไม่อึดอัดค่ะ ภาพรวมในการแต่งห้องเป็นสีโทนอบอุ่น โดยห้องจะขายแบบ Fully Furnished นะคะก็จะได้ Furniture ในห้องตามแบบที่เห็นนี้เลยค่ะ

สังเกตว่าบริเวณหน้าห้องจะมีพื้นที่เหลือพอสมควรเลย สามารถหาโต๊ะทานข้าวหรือโต๊ะทำงานมาวางเพิ่มได้

ห้องรับแขกจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆนะคะ ทำให้สามารถใช้ห้องนี้ได้เต็มพื้นที่ทั้งนั่งเล่น ทำงาน และกินข้าว การออกแบบจะเว้นพื้นที่หน้าโซฟาไว้เยอะ ทำให้สามารถนำโต๊ะญี่ปุ่นมานั่งเขียนหนังสือบริเวณนี้ได้หรือนำโต๊ะกินข้าว 2 ที่นั่งมาตั้งเพิ่มให้ห้องนี้ก็ได้ค่ะ ระยะดูทีวีจากโซฟาถึงทีวี กว้างประมาณ 2.2 ม. สามารถวางทีวีขนาด 48 นิ้วได้ค่ะ

ชุดโซฟาเราได้ดีไซน์แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามชุดโซฟาเป็นชั้นวางทีวี วางอยู่ติดกับประตูห้องครัว เราได้แบบนี้เลย

ตู้ด้านล่างเปิดออกมาเก็บของได้ประมาณนี้

ส่วนตู้บนมีหน้าบานปิดมาให้ ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆเช่นหนังสือได้ บานพับของตู้แบบบานเปิดจะเป็น Soft Close ค่ะ ไม่ต้องกังวลว่าเวลาปิดจะมีเสียงดัง

ในส่วนของห้องนอนจะติดกับห้องรับแขกเลยค่ะ กั้นห้องกันด้วยประตูกระจกสไลด์ ทำให้บรรยากาศโดยรวมในห้องดูโปร่งโล่งไม่ทึบค่ะ เพราะแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกห้องนอนผ่านเข้ามาถึงห้องรับแขกได้ดีทีเดียวค่ะ

ประตูเป็นบานเลื่อน 3 บานนะคะทำให้สามารถเปิดห้องได้กว้าง

ภายในห้องนอนมีเตียงที่จัดไว้ขนาด Queen size ซึ่งเหลือพื้นที่รอบๆเตียงให้เดินได้รอบ ฝั่งตรงข้ามมีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

เตียงเราได้ Queen size หน้าตาแบบนี้เลย ทางโครงการได้ Built-In ส่วนของกล่องไม้หัวเตียงมาให้สำหรับวางของได้ค่ะ กล่องไม้หัวเตียงนี้มีความกว้าง 10 ซม.

ส่วนด้านล่างเตียงมี function ลิ้นชักเก็บของมาให้ เก็บของเล็กๆน้อยๆได้ แนะนำว่าอย่าเก็บของหนักเพราะลิ้นชักจะเปิดออกยากค่ะ

ผนังอีกฝั่งหนึ่งของห้องประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าบานเปิด 2 บาน และชุดโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกเงาค่ะ

ชุดโต๊ะเครื่องแป้ง Built-In มาให้ 2 ตู้ค่ะเป็นตู้ช่องโล่งไม่มีบานปิด 1 ตู้ และตู้ใส่ของ 2 ชั้น แบบมีบานปิด 1 ตู้ พร้อมกระจกที่ติดอยู่ด้านข้างตู้เสื้อผ้า พื้นที่ใช้สอยหน้าโต๊ะเครื่องแป้งนี้มีพื้นที่ให้วางของได้เยอะพอสมควรค่ะ

แอร์ที่ติดให้เป็นแอร์ติดผนังขนาด 9,000 บีทียู 1 ตัว ซึ่งจะติดให้ในห้องนอนนะคะ

ภายในตู้เสื้อผ้าแบ่งเป็น 2 ช่องนะคะคือช่องใหญ่เป็นราวแขวนผ้า 1 ราวสามารถแขวนได้ทั้งชุดสั้นและชุดยาวนะคะ มาพร้อมตู้ลิ้นชัก 1 ตู้ ส่วนอีกช่องหนึ่งเป็นช่องเล็กด้านบนไว้สำหรับเก็บของได้อีก 1 ชั้นค่ะ

หน้าต่างของห้องนอนเป็นบานเล็กๆ 3 บานนะคะแต่ละบานเป็นบานเปิดเดี่ยวผสมกับบานติดตาย ซึ่งให้มาเต็มผนังของห้องนอนยกเว้นส่วนที่เป็นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าเท่านั้น แม้ว่าจะไม่ได้หน้าต่างบานใหญ่เต็มบานซึ่งจะเห็นวิวด้านนอกได้ต่อเนื่องกว่า แต่ช่องแสงขนาดนี้ก็เพียงพอกับปริมาณแสงธรรมชาติที่เข้าได้ถึงในห้องนอนและห้องรับแขกดีค่ะ

ระยะเปิดของหน้าต่างบานเปิดเดี่ยวค่ะ เปิดได้ค่อนข้างกว้างทีเดียว แต่ไม่ถึงกับ 90 องศานะคะ

สวิตซ์ปลั๊กยี่ห้อ Panasonic หรือเทียบเท่าค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นห้องครัว จะถูกกั้นแยกกับส่วนนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ค่ะ ครัวเป็นครัวแบบปิดมีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ระหว่างห้องครัวกับส่วนนั่งเล่น จัดแบ่งพื้นที่ไว้สองส่วน คือส่วนสำหรับประกอบอาหารและพื้นที่สำหรับตั้งตู้เย็น ครัวปิดแบบนี้สามารถประกอบอาหารอาหารที่มีควันหรือกลิ่นได้ค่ะ

การจัดวางพื้นที่ภายในห้องครัว จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนประกอบอาหาร ที่เหลือจะเป็นพื้นที่ทางเดินและใช้ยืนประกอบอาหาร กว้างประมาณ 80 ซม.ค่ะ ด้านหลังเป็นประตูทางออกไปที่ระเบียง

พื้นระหว่างห้องรับแขกและห้องครัวอยู่ในระดับเดียวกันไม่มีลางของประตูบานเลื่อนกั้นทำให้ไม่ต้องกลัวเดินสะดุดนะคะ ส่วนพื้นห้องครัวจะเป็นกระเบื้องสีขาว ซึ่งง่ายในการทำความสะอาดจากการประกอบอาหาร ส่วนรอยต่อเชื่อมระหว่างพื้นทั้ง 2 ห้อง จะใช้ตัวจบอลูมิเนียมเรียบร้อยดีค่ะ

มาดูการจัดพื้นที่ต่างๆภายในครัวกันค่ะ ด้านซ้ายสุดเป็นที่วางตู้เย็น ถัดไปคือ Counter ครัวใช้เป็นพื้นที่ประกอบอาหาร มีตู้เก็บของใต้ Counter ครัวเป็นตู้บานเปิด 1 ตู้ ลิ้นชัก 2 ช่อง และตู้ช่องโล่งไม่มีบานปิดอีก 1 ช่อง ด้านบนเป็นตู้ลอยแบบบานเปิดไว้เก็บของได้อีกเช่นกันค่ะ

เริ่มกันที่พื้นที่สำหรับวางตู้เย็น อยู่บริเวณข้างๆเคาน์เตอร์ครัวค่ะ

ตู้ด้านล่างเปิดออกมาเก็บของได้ประมาณนี้ ลิ้นชักชั้นบนจะมีตัวแบ่งช่องสำหรับเก็บช้อนส้อม ส่วนลิ้นชักชั้นล่างจะเป็นลิ้นชักโล่งไว้เก็บของใช้อื่นๆในห้องครัวได้

ตู้ด้านในมีติดถังขยะไว้ให้ด้วยค่ะ ตู้บานเปิดจะเป็นบานพับแบบ Soft Close นะคะ

และสุดท้ายเป็นชั้นวางไมโครเวฟซึ่งไม่ได้มีบานปิด ซึ่งการวางไมโครเวฟในตำแหน่งนี้ทำให้ใช้งานง่ายสำหรับผู้ที่ทำครัวที่ตัวไม่สูงมากสามารถก้มหยิบจับได้ง่าย

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียว ส่วนก็อกน้ำเป็นทรงโค้งนะคะ ลูกบิดก๊อกน้ำจับเหมาะมือใช้สะดวกดีค่ะ

เตาไฟฟ้า 1 หัวของ Teka หรือเทียบเท่า รอบๆเตามีพื้นที่เหลือให้ทำครัวค่อนข้างกว้างค่ะ เหลือพื้นที่ให้วางเครื่องปรุงหรือเตรียมของสำหรับปรุงอาหารได้สบายๆ

เครื่องดูดควันของ Teka หรือเทียบเท่า เป็นระบบหมุนเวียนซึ่งจะใช้อากาศเดียวกับอากาศที่มีกลิ่นไปผ่านระบบการกำจัดกลิ่นและน้ำมันออกจากอากาศด้วยตัวกรองน้ำมันและฟิลเตอร์คาร์บอนก่อน ที่จะนำอากาศนั้นกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งใหม่ค่ะ

ด้านบนเครื่องดูดควันทำเป็นชั้นสำหรับวางของเล็กๆน้อยๆได้ค่ะ

ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า มีเดินงานระบบมาให้ครบ ใช้งานสะดวกดี

ติดกับห้องครัวเป็นระเบียงค่ะ เป็นตำแหน่งของ Condensing unit แอร์แบบแขวน ซึ่งดีตรงที่เวลาเราออกไปใช้งานที่ระเบียงจะไม่โดนลมร้อน ส่วนรั้วลูกกรงมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเลยทำให้ห้องพักค่อนข้างปลอดภัยทีเดียวค่ะ

พื้นที่ระเบียงเราสามารถใช้งานได้เต็มที่เลย ไม่เสียพื้นที่ให้ Condensing unit ของแอร์ และ เครื่องซักผ้า วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm.

ที่วาง Condensing unit แอร์เป็นแบบแขวนทำให้ไม่ต้องเสียพื้นที่ พื้นที่ระเบียงจึงสามารถใช้งานได้เต็มที่ ส่วนตำแหน่งพัดลมคอมเพรสเซอร์หันออกด้านนอกห้องทำให้ความร้อนไม่เข้าห้องค่ะ

บริเวณีะเบียงทางโครงการจัดเตรียมงานระบบต่างๆไว้ให้พร้อม ปลั๊กมีหน้ากากครอบไว้เรียบร้อย เพื่อกันน้ำฝนสาดค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งครัวจะติดกับห้องน้ำ

ในส่วนของห้องน้ำนะคะ เป็นประตูไม้สำเร็จบานทึบทั้งบาน ไม่มีช่องเปิดระบายอากาศนะคะ ลูกบิดหน้าตาบ้านๆธรรมดาค่ะ

ภายในห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ ฝั่งขวามีการจัดสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้าไว้เรียบร้อยค่ะ พื้นที่ใช้สอยในส่วนแห้งมีขนาดที่ใช้งานได้สะดวก

อ่างล้างหน้าจัดมาครบนะคะทั้งกระจกติดผนัง และตู้ Built-In ใต้อ่างล้างหน้า ในกรณีที่ของใช้เยอะจนตู้เก็บของที่จัดให้มานี้ไม่พอ ลองเปลี่ยนกระจกเป็นตู้กระจกเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของดูนะคะ

อ่างล้างหน้าของ Toto ขนาดกลางๆ ด้านข้างอ่างล้างหน้าพอจะมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ โฟมล้างหน้าบนตู้ได้นิดหน่อย ก๊อกน้ำลูกบิดใช้ง่ายเหมาะมือดี ตู้ใต้อ่างล้างหน้ามาเป็นชุดกับอ่างล้างหน้านะคะเป็นของ Toto เหมือนกัน เป็นตู้ช่องโล่งไม่มีหน้าบานปิด ตรงนี้ก็เก็บผ้าชิ้นเล็กๆได้และต้องเว้นพื้นที่ไว้เผื่อซ่อมบำรุงก๊อกอ่างล้างหน้าด้วยนะคะ

สุขภัณฑ์ของ Cotto ขนาดไม่ใหญ่มาพร้อมอุปกรณ์ประกอบครบเซ็ทนะคะ ได้แก่ แกนใส่กระดาษทิชชู่ในห้องน้ำและที่ฉีดน้ำ เป็นแบบมาตรฐานทั่วไปค่ะ พื้นที่ระหว่างสุขภัณฑ์กับกำแพงพอนั่งได้อยู่ไม่ถึงกับอึดอัดค่ะ ด้านหลังมีขอบผนังก่อยื่นออกมาใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้อีกนะคะ มีความกว้าง 10 ซม.ค่ะ

ด้านข้างโถสุขภัณฑ์มีชั้นวางของมาให้ด้วย ลูกบ้านสามารถทำชั้นไม้เพิ่มเองได้ ตามประโยชน์การใช้สอยค่ะ

ฉากกั้นส่วนเปียกเป็นกระจก Tempered Glass มีมือจับฝั่งด้านนอกเป็นแนวนอนใช้ประโยชน์ทั้งเป็นมือจับและใช้พาดผ้าขนหนูได้อีกตำแหน่งค่ะ

พื้นที่ภายในส่วนเปียกหรือในห้องอาบน้ำ มีระยะกว้างพอจะยืนอาบน้ำหมุนตัวได้เล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทาขนาด 60 x 60 cm.

ชุดฝักบัวติดผนังไว้ให้ พร้อมจัดเตรียมระบบเพื่อการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นอยู่มุมซ้ายบน

ขนาดของฝักบัว ถือได้ขนาดถนัดมือดี แต่หัวฝักบัวใหญ่ใช้ได้ ข้างๆกันคือที่เปิดฝักบัว ขนาดถนัดมือดีเช่นกันค่ะ

ต่อมาคือห้อง Ready to move 2 ห้องนอน 47.89 ตารางเมตร (ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐาน เพิ่ม ฟูก เครื่องใช้ไฟฟ้า ผ้าม่าน Wallpaper และ ผ้าขนหนูในห้องน้ำ) เข้ามาในห้องจะเจอกับโถงก่อน ซึ่งบริเวณนี้จะมีพื้นที่สำหรับวางตู้รองเท้า และ ตู้เก็บของ ถัดเข้ามาทางฝั่งขวาของห้อง เป็นพื้นที่รับประทานอาหารและนั่งเล่น มีทางออกไประเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน อีกฝั่งเป็นห้องครัวปิด กั้นแยกเป็นสัดส่วน ทำอาหารหนักๆได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควัน ห้องนอนจัดไว้อีกฝั่งหนึ่งมีห้องนอนเล็ก 1 ห้องและ Master Bedroom สำหรับห้องน้ำมีการออกแบบวางผังโดยใช้แนวความคิดของคนญี่ปุ่นคือแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกัน ทำให้สามารถใช้งานได้หลายคนพร้อมๆกันค่ะ

เข้ามาในห้องจะเจอกับโถงก่อน ถัดเข้าไปถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและนั่งเล่น ทางฝั่งซ้ายเป็นทางไปห้องน้ำและห้องนอน การจัดผังแบบนี้ทำให้คนที่อยู่อาศัยค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว และ แยกการใช้พื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วนดีค่ะ

ด้านหน้าห้องจะมีโถงที่มีระดับพื้นต่ำกว่าระดับพื้นห้อง เพื่อช่วยกั้นฝุ่นหรือความสกปรกไม่ให้ขึ้นมายังส่วนอยู่อาศัยอื่นๆ เช่นเดียวกับห้อง 1 ห้องนอน

บริเวณโถงหน้าห้องมีตู้วางรองเท้าและตู้เก็บของมาให้

มีทั้งตู้บนและตู้ล่างดีไซน์เดียวกับห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ

เดินตรงมาจะเจอกับผนังที่มีตู้ Built-in มาให้อีก 1 จุด ตรงนี้จะเป็นจุดหยุดสายตาก่อนแจกไปยังห้องอื่นๆพอดี สามารถตกแต่งผนังด้วยรูปภาพหรือรูปปั้นสวยๆได้

ภายในตู้มีทั้งชั้นเก็บของและลิ้นชัก

จากโถงบริเวณหน้าห้องถ้าเลี้ยวไปทางขวาจะเป็นทางไปส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารและนั่งเล่น วัสดุต่างๆที่ให้เหมือนกับห้องแบบ 1 ห้องนอนนะคะ

พื้นที่ห้องนั่งเล่นอยู่เป็นสัดส่วน ติดกับทางออกไประเบียง จึงได้แสงธรรมชาติทำให้ห้องดูโปร่งและสามารถนั่งชมวิวได้ด้วย โดยทางโครงการมีโซฟาและ Built-in ชุดวางทีวีมาให้

โซฟาได้ตามนี้ค่ะ

ชั้นวางทีวีมีชั้นเก็บของทั้งตู้ด้านล่างและด้านข้าง

ตู้ด้านข้างเปิดออกมา ด้านในแบ่งเป็นชั้นย่อยๆอีกประมาณ 6 ชั้น เก็บของได้เยอะอยู่เหมือนกัน มีหน้าบานปิดเป็นระเบียบเรียบร้อย

ติดๆกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นประตูทางออกไปที่ระเบียง

ราวกันตกห้องนี้เป็นกระจก ดีไซน์สวยและยังทำให้ ดูโปร่งเปิดรับวิวได้มากขึ้น แต่ต้องหมั่นทำความสะอาดนะคะ

อีกฝั่งของระเบียงมีพื้นที่สำหรับวาง Condensing unit ของแอร์ มีระเเนงกั้น แยกเป็นระเบียบเรียบร้อย

ฝั่งตรงข้ามห้องนั่งเล่นเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เป็นสัดส่วนดี พอทำอาหารเสร็จก็ยกมาเสิร์ฟได้สะดวก

ห้องครัว เป็นแบบครัวปิดเหมาะกับการใช้งานแบบ 2 ห้องนอน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน

ภายในห้องครัวมีทั้งเคาน์เตอร์ครัวและพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆให้เหมือนกับห้อง 1 ห้องนอนค่ะ

ต่อมาเราเดินไปดูอีกฝั่งหนึ่งของห้อง เป็นส่วนพักผ่อนประกอบด้วย ทางฝั่งขวาเป็นห้องนอนเล็กและห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom)ตามลำดับ ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

สำหรับห้องน้ำของห้อง 2 ห้องนอนในโครงการนี้จะมีการแบ่งให้ ห้องหนึ่งเป็นห้องน้ำที่มีเฉพาะส่วนแห้ง มีโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้า ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ ส่วนอีกห้องหนึ่งจะมีแต่ส่วนเปียกอย่างเดียว แยกโซนกันชัดเจน ผนังและพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm.

ห้องน้ำนี้มีเฉพาะส่วนแห้งค่ะ เป็นแบบ Powder room โถสุขภัณฑ์เราได้ของ TOTO หรือ เทียบเท่า

มีอ่างล้างหน้าและกระจกเงามาให้ด้วย

โดยอ่างล้างหน้าเป็นของ TOTO หรือ เทียบเท่า เป็นรุ่นที่ขนาดค่อนข้างเล็กหน่อยแต่ก็ใช้งานได้ดี เหมาะกับห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัด

ห้องน้ำอีกห้องเป็นส่วนเปียก มีอ่างล้างหน้าที่เป็นเคาน์เตอร์ใหญ่ขึ้น มีชั้นเอาไว้วางผ้าเช็ดตัว ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่อาบน้ำ

ฝั่งตรงข้ามอ่างล้างหน้าเป็นพื้นที่อาบน้ำ ที่กั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยเป็นสัดส่วนดี

พื้นที่ภายในส่วนอาบน้ำ ขนาดพอจะยืนอาบน้ำหมุนตัวได้ค่ะ วัสดุพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm.

บริเวณข้างๆเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นตำแหน่งวางเครื่องซักผ้า ซึ่งทางโครงการเตรียมงานระบบต่างๆเอาไว้ให้ครบ

ภายในห้องนอนเล็ก วางเตียงได้ขนาดประมาณ 3.5 ฟุต ห้องนี้ทางโครงการไม่ได้แถมเตียงให้นะ แต่มีตู้เสื้อผ้ามาให้ค่ะ

ห้องนอนใหญ่ได้เตียงขนาด 5 ฟุต (Queen Size) ข้างเตียงมีช่องแสงจากหน้าต่างบานกระทุ้ง

ที่ฐานเตียงสามารถดึงออกมาเป็นลิ้นชักเก็บของเล็กๆน้อยๆได้

บริเวณหน้าห้องใกล้ๆกับประตูทางออก มีตู้เสื้อผ้า แบบ 3 บานมาให้ค่ะ

ต่อไปจะพาไปชมห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 48.25 ตารางเมตร ขายแบบ Fully Furnished โดยห้องตัวอย่างที่เราพาไปชมเป็นห้องเปล่านะคะ ห้องนี้จะประกอบด้วย 1 ห้องนั่งเล่น 2 ห้องนอน 1 ห้องครัว และ 2 ห้องน้ำค่ะ เมื่อเข้ามาจะมี Foyer (ที่ถอดรองเท้า) เหมือนแบบ 1 Bedroom เข้ามาจะเป็นทางเดินตรงกลางที่จะเป็นทางแจกเข้าห้องต่างๆ เข้ามาจะเจอห้องรับแขกและห้องทานอาหารเป็นห้องแรกมีขนาดไม่ใหญ่มาก ติดกันเป็นห้องครัวจะถูกแยกส่วนจากห้องรับแขกด้วยประตูกระจกบานสไลด์จึงเป็นครัวแบบปิดจัดแบ่งพื้นที่ให้มี Pantry แบบ Built-in  พื้นที่ระเบียงจะอยู่ในห้องครัวนะคะมีขนาดไม่กว้างมาก พอสำหรับตั้งราวตากผ้าเล็กๆได้ค่ะ ส่วนห้องน้ำมี 2 ห้อง ห้องหนึ่งเป็นห้องน้ำแขกที่มีเฉพาะส่วนแห้งไม่มีพื้นที่ส่วนเปียกให้อาบน้ำ ส่วนอีกห้องหนึ่งจะเป็นห้องน้ำซึ่งแยกโซนเปียกแห้งชัดเจน ห้องนอนมี 2 ห้อง ซึ่งจะอยู่ส่วนในสุดของห้องทั้ง 2 ห้อง เป็นห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size มีตู้เสื้อผ้า Built-inและโต๊ะเครื่องแป้ง และห้องนอนเล็ก 1 ห้องสามารถตั้งเตียงเดี่ยวได้ และ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้

พื้นห้องในส่วนด้านหน้ามีลักษณะเป็น Foyer (โถงทางเข้าห้อง) เหมือนกับแบบ 1 ห้องนอนนะคะ แต่จะมีพื้นที่ที่ใหญ่กว่า

ในส่วนนี้เป็นพื้นที่สำหรับถอดรองเท้าเพราะจะมีระดับต่ำกว่าระดับพื้นห้องประมาณ 2 ซม. เพื่อช่วยกั้นฝุ่นหรือความสกปรกไม่ให้ขึ้นมายังส่วนอยู่อาศัยอื่นๆ วัสดุของพื้นในส่วนนี้เป็นกระเบื้องสีขาว เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

ตู้ใส่รองเท้าด้านหน้าห้องแบบ Built-In ไว้ให้ค่ะ มีช่องสำหรับใส่รองเท้าหลายช่องทีเดียว ตู้บานเปิดตัวพับจะเป็นแบบ Soft Close นะคะ ส่วนลิ้นชักจะเป็นแบบธรรมดาค่ะ

ส่วนของห้องนั่งเล่นจะถูกปูพื้นด้วยกระเบื้องยางลายไม้เหมือนในแบบห้อง 1 ห้องนอนนะคะ ทางโครงการให้ชุดโซฟามา ซึ่งจะมีพื้นที่ด้านเหลืออยู่ เราสามารถหาชุดโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งมาวางเพิ่มเติมได้

ชุดโซฟาสำหรับนั่งดูทีวีมีระยะห่างจากทีวีประมาณ 1.3 ม. ขนาดของทีวีที่เหมาะสมมีขนาด 26 นิ้ว ข้างๆตู้วางทีวีเป็นทางเดินไปห้องครัวค่ะ

การจัดวางผังของเคาน์เตอร์ครัว รวมถึงอุปกรณ์ที่ให้และขนาด counter ที่ให้เหมือนกับแบบ 1 ห้องนอนเลยค่ะ

มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นอยู่ข้างๆเคาน์เตอร์ครัวเช่นเดียวกับห้อง 1 ห้องนอน

ประตูกระจกบานสไลด์เพื่อเข้าไปยังส่วนของระเบียง ด้วยวัสดุเป็นกระจกทำให้แสงธรรมชาติเข้ามายังห้องครัวได้พอสมควรเลยนะคะ ระเบียงสำหรับห้อง 2 Bedroom นี้ใช้เป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ 2 ตัวบนล่างค่ะ สำหรับแบบ 2 Bedroomนี้เครื่องซักผ้าจะไม่ได้ตั้งอยู่ที่ระเบียงนะคะ แต่โครงการจะออกแบบมีให้เครื่องซักผ้าไปตั้งอยู่ในห้องน้ำแทนค่ะ

ต่อมาเราไปดูห้องอื่นๆกันบ้าง ทางฝั่งขวาห้องแรกเป็นห้องน้ำสำหรับแขก (Powder Room) เป็นห้องสุขาเท่านั้นจะไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำค่ะ ถัดไปเป็นห้องน้ำใหญ่ซึ่งจะมีพื้นที่อาบน้ำ ห้องนอนทั้ง 2 ห้องอยู่ด้านใน มองไปตรงกลางเป็นห้องนอนเล็กและซ้ายมือถัดจากห้องนอนเล็กเป็นห้องนอนใหญ่

ห้องน้ำแบบ Powder Room จะมีเฉพาะส่วนแห้งนะคะ ไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำไว้ให้ ภายในมีการจัดสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าไว้เรียบร้อยค่ะ

ห้องอาบน้ำมีอ่างล้างหน้าและพื้นที่อาบน้ำที่กั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัย

ห้องนอนเล็ก ขนาดของห้องใส่ได้แค่เตียงเดี่ยวนะคะ แต่เตียงและโต๊ะหัวเตียงไม่ได้แถมมากับห้องนะ ห้องนอนเล็กนี้จะให้เฉพาะตู้เสื้อผ้าค่ะ

ห้องนอนใหญ่ ทางโครงการมีให้เฉพาะเตียงนอนและตู้เสื้อผ้าค่ะ ปลายเตียงจะเป็นหน้าต่างในลักษณะ Bay Window นะคะ ทำให้มีช่องให้ดูวิวทิวทัศน์ได้กว้างขึ้น

อีกฝั่งหนึ่งของหน้าต่างเป็นตู้เสื้อผ้า

ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่นี้จะต่างจากตู้เสื้อผ้าห้องอื่นตรงที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จะมีบานเปิดทั้งหมด 3 บานค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @  12 September 2017

  • 1 ห้องนอน ชั้น7 อาคารB เนื้อที่ 27.70 ตร.ม. ราคา 2.59 ล้านบาท
  • 1 ห้องนอน ชั้น2 อาคารB เนื้อที่ 32.09 ตร.ม. ราคา 3.32 ล้านบาท
  • 2 ห้องนอน ชั้น7 อาคารB เนื้อที่ 47.33 ตร.ม. ราคา 4.29 ล้านบาท
  • 2 ห้องนอน ชั้น8 อาคารB เนื้อที่ 47.71 ตร.ม. ราคา 4.39 ล้านบาท
  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา : ไม่มี
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

Moniiq สุขุมวิท 64 เป็นโครงการในทำเลซอยสุขุมวิท 64 แยก 4 มีระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี 1 กม. จึงไม่ได้อยู่ในระยะเดินนะคะ ซึ่งเป็นทำเลที่ค่อนข้างสงบเงียบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวาย ซอยนี้ความอุดมสมบูรณ์ไม่ค่อยมากนัก แค่พอพึ่งพิงได้ ในช่วงกลางวันจะมีร้านอาหารบริเวณหน้าซอยที่ติดกับโรงเรียนนานาชาติ Anglo Singapore ที่พอจะมีเลือกหลายร้านหน่อย ส่วนตอนเย็นคงต้องพึ่งโอเอซิสอย่างปั๊ม ปตท. ที่มีร้านอาหารให้เลือกหลายร้านด้านท้ายซอยสุขุมวิท 64 ที่เปิดจนถึงประมาณ 3-4 ทุ่ม หลังจากนั้นก็จะมี 7-11 ค่ะ การเดินทางไปไหนมาไหนในซอยต้องพึ่งพา Shuttle Bus ของโครงการหรือพี่วินนะคะ

การเดินทางโดยรถส่วนตัวสะดวกใช้ได้ เพราะมีทางขึ้นทางด่วนอยู่ไม่ไกล และซอยนี้เป็นทางลัดไปขึ้นทางด่วนด้วยทำให้สะดวกสำหรับผู้เดินทางด้วยทางด่วนเป็นประจำทีเดียว แต่ทำเลตรงนี้ก็เป็นซอยสุขุมวิทที่ไกลจากเมืองพอสมควร การเข้าเมืองจึงมีช่วงเวลารถติดประจำต้องดูและคำนวนเวลาเดินทางดีๆ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ สามารถนั่ง Shuttle Bus เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี ส่วนพี่วินนั้นในปัจจุบันยังไม่มีวินตรงหน้าโครงการนะคะต้องเดินออกมาหน่อยประมาณ 420 ม. แต่วันแดดจัดหรือฝนตก ก็ลำบากหน่อยค่ะ อีกทางเลือกหนึ่งคือ Taxi ซึ่งบริเวณหน้าโครงการค่อนข้างหายากนะคะ ต้องมาเรียกตรงเส้นสุขุมวิท 64หรือบนเส้นสุขุมวิทเลยค่ะ

การออกแบบโครงการ สร้างเต็มที่ดินโครงการ 3-1-89.1 ไร่ โครงการมีรูปแบบที่เรียบง่ายแต่ไม่ล้าสมัยคือสวยแบบ Modern แบ่งตัวอาคารเป็น 2 อาคารคืออาคาร Aเป็นรูปตัว L และอาคาร B เป็นรูปตัว U   ในส่วนของทางเข้าโครงการจะเข้าทางใต้อาคาร A ซึ่งวางด้านยาวของของอาคารขนานไปกับถนนสุขุมวิท 64 แยก 4 ตัวอาคาร ชั้น 1 ของโครงการจะเป็นลานจอดรถ ส่วน Facilities ทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 2 โดยสวนหย่อม Fitness Library Entertainment Room จะอยู่ที่อาคาร A ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่ที่อาคาร B โดยทั้ง 2 อาคารจะล้อมสระและสวนซึ่งอยู่ตรงกลาง ทำให้ห้องพักที่หันหน้าต่างเข้าด้านในโครงการจะได้วิวสระและสวนด้านใน ส่วนวิวด้านนอกโครงการทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น สลับกับที่ว่างของเอกชน ทำให้ได้วิวค่อนข้างโล่ง ไม่มีตึกบังสายตาในระยะประชิด 2 ฝั่งนี้ตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปวิวจะเปิดโล่งดี ส่วนวิวทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะติดคอนโด 8 ชั้นที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ ส่วนวิวทิศตะวันตกเฉียงใต้จะติดกับทางด่วน 2 เส้นทาง เส้นหนึ่งอยู่ที่ระดับชั้น 1 และอีกเส้นหนึ่งมีความสูงระดับชั้น 6 ค่ะ

การออกแบบห้องเก็บรายละเอียดการอยู่อาศัยได้ค่อนข้างดีอย่าง Foyer ด้านหน้าห้องซึ่งคอนโดอื่นๆในระดับเดียวกันไม่ได้ทำให้ พื้นที่ใช้สอยภายในห้องสามารถใช้งานได้จริงด้วย Concept การออกแบบสไตล์ญี่ปุ่น แต่มีบางส่วนที่ยังไม่เหมาะสมกับวิถีชีวิตของคนไทยอย่างเช่นห้องน้ำในห้อง 2 Bedroom ซึ่งมี 2 ห้องน้ำแต่มีสุขภัณฑ์อยู่ที่ห้อง Powder Room ห้องเดียว ซึ่งจุดนี้คอนโดทั่วๆไปจะให้ทั้ง 2 ห้องน้ำเลยนะคะ

วัสดุของที่ Moniiq จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีนะคะ Built-in ทั้งห้อง, Top ครัวหินแกรนิต, ฉากกั้นส่วนอาบน้ำเป็นกระจก Tempered Glass,โต๊ะเครื่องแป้งขนาดใช้งานได้และประหยัดพื้นที่ , หัวเตียงทำกล่องไม้วางของให้ และตู้บานเปิดในห้องใช้บานพับแบบ Soft Close ซึ่งตู้เก็บของมีจำนวนมากทีเดียว แต่น่าเสียดายเครื่องดูดควันของ Teka เป็นแบบระบบหมุนเวียนทำให้กลิ่นและควันจากการทำอาหารยังคงอยู่ในห้องครัว และผนังด้านหลังเตาไฟฟ้าไม่ได้ติดกระเบื้องมาให้

พื้นส่วนกลางที่โครงการจัดมาให้ค่อนข้างหลากหลาย คือ สระว่ายน้ำ สวนลอยฟ้า Fitness ห้องสมุด Entertainment Room เทียบกับจำนวนห้องแล้วถือว่าใช้ได้ค่ะ ฟังก์ชั่นต่างๆของส่วนกลางอาจจะมีเล็กบ้างใหญ่บ้างคละกันไป แต่จำนวนที่เยอะและมีฟังก์ชั่นหลากหลายก็ช่วยเรื่องการอยู่อาศัยได้มาก เช่น สวนหย่อมบริเวณชั้น 2 ก็ที่ช่วยให้คนที่อาศัยอยู่ในห้องเล็กหน่อยได้มีที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่อัตราส่วนของที่จอดรถยังให้มาน้อยอัตราส่วน 40 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน ถ้ารวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 50 % สำหรับอัตราส่วนลิฟท์ไม่มากค่ะ โดยมีอัตราส่วนลิฟท์เฉลี่ยรวมทั้งโครงการ 92 : 1 เท่านั้น โครงการค่อนข้างเน้นเรื่องความปลอดภัยในการอยู่อาศัยนะคะ เช่น Lobby จะเป็นประตูกั้น 2 ชั้นค่ะ ประตูที่จะเข้า Lobby ต้องใช้ Key Card ของลูกบ้านเท่านั้นค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 86,000 บาท/ตร.ม.,  12 September 2017

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลปุณณวิถี ปลายๆ สุขุมวิท แต่เข้าไปในซอยลึกพอสมควร
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – มีทางด่วนให้ขึ้นไม่ไกล เพราะเป็นซอยลัดแต่รถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนพอสมควรทีเดียว
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ห่าง BTS ปุณณวิถีที่ระยะ 1 กม. ซึ่งไม่ใช่ระยะเดินต้องนั่งรถไปค่ะ
  • วัสดุ 8/10 – จัดวัสดุมาให้ค่อนข้างดี เป็นแบบ Built-in รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ หลายอย่าง และการเชื่อมต่อระหว่างวัสดุ เช่นกระเบื้องกับลามิเนต คุณภาพการก่อสร้างตอนโครงการเสร็จทำได้ดี
  • แบบ 8.25/10 – ออกแบบรายละเอียดในการอยู่อาศัยค่อนข้างดีอย่าง Foyer และพื้นที่สำหรับวางของตามขอบมุมต่างๆ แต่มีบางส่วนที่ยังสู้คอนโดอื่นระดับเดียวกันไม่ได้ เช่น ห้องน้ำ
  • สาธารณูปโภค 8.25/10 – Facilities ให้มาเยอะและหลากหลายดีเมื่อเทียบกับจำนวนห้อง
  • MAIN CLASS
  • 7.80 / 10.00

BOTTOM LINE

Moniiq สุขุมวิท 64 เหมาะกับคนที่ต้องการอยู่ในเมืองย่านสุขุมวิท ที่ต้องการใช้ทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้า ทำงานอยู่ในย่านที่ทางด่วนและรถไฟฟ้าไปถึงอย่างสีลม สาทร พระราม 3 ต้องการ ความ Private สูง เพื่อนบ้านน้อยๆ เป็นคนรู้จักตัวเอง ซื้อของตามความต้องการไม่ใช่ตามตลาดที่เขานิยม สนใจเนื้อ Product มากกว่าชื่อยี่ห้อ มีงบประมาณระดับ 2-4 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000 – 33,000 บาท/เดือน