ปก Fuse

รีวิวฉบับที่ 1124… มีใครกำลังหาคอนโดพร้อมเข้าอยู่ในย่านรัชดา สุทธิสารกันอยู่บ้างง วันนี้จะพาไปชมคอนโดตึกเสร็จ Fuse Miti สุทธิสาร-รัชดา จาก พฤกษา กันค่ะ โครงการนี้เปิดตัวมาได้ 2 ปีกว่า จนปัจจุบันตึกเสร็จใกล้โอนเข้าอยู่กันเต็มที่แล้ว ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนสุทธิสารค่อนๆไปทางวิภาวดี เหมาะกับคนที่ใช้รถยนตร์เพราะสามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่และมีทางลัดได้หลายเส้นทางหรือถ้าอยากใช้รถไฟฟ้าตอนไหนก็นั่งพี่วินออกไปได้กิโลนิดๆ ตัวโครงการให้ Facilities มาน่าใช้เลยค่ะ หน้าตาตึกเสร็จจะเป็นอย่างไร หล่อเหลาแค่ไหน ไปดูพร้อมๆกันเลยค่าา  🙂

 

Fact @ 7 July 2016

  • Fuse Miti Sutthisarn-Ratchada (ฟิวส์ มิติ สุทธิสาร-รัชดา)
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ดินแดง
  • คอนโด High Rise 17 ชั้น 1 อาคาร 281 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 20 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ  114 คันคิดเป็น  40%
  • ที่ดินประมาณ 1-2-41 ไร่
  • ปีที่เริ่มก่อสร้าง : ต.ค. 2557
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มิ.ย. 2559
  • 1 Bedroom 28 – 34.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.94 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 48.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.94 ล้านบาทหรือประมาณ 105,000 บาทต่อตารางเมตร
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1739
  • สำนักงานขาย : 02-277-2929

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด :13.789386, 100.563942

img_map_resize

แผนที่จากทางโครงการ จะเห็นว่าโครงการตั้งอยู่หน้าปากซอยอินทามระ 22 บนถนนสุทธิสารที่เชื่อมต่อกับถนนใหญ่รัชดาภิเษกกับถนนวิภาวดี ซึ่งมีทางลัดเลาะได้หลายเส้นทางทั้งจากซอยอินทามระ 22 ไปถนนดินแดง รวมทั้งยังสามารถใช้ซอยรัชดาภิเษก 17 หรือถนนประชาสงเคราะห์เป็นทางลัดไปยังถนนใหญ่รัชดาภิเษกก็ได้ โดยรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการที่สุดคือ MRT สุทธิสาร ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กิโลเมตร

Fuse Miti_Map-1

โครงการ Fuse Miti สุทธิสาร-รัชดา ตั้งอยู่หน้าปากซอยอินทามระ บนถนนสุทธิสารวินิจฉัย หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่าถนนสุทธิสาร ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่ต่อเชื่อมจากถนนพหลโยธินและถนนประดิพัทธ์ ไปยังถนนวิภาวดีรังสิต ถนนรัชดาภิเษก และสิ้นสุดที่ถนนลาดพร้าวช่วงซอยลาดพร้าว 64 แยก 4 ด้วยความที่ถนนเส้นนี้พาดผ่านถนนใหญ่สายสำคัญที่กล่าวไปข้างต้น และยังเชื่อมต่อกับทั้ง BTS สะพานควายบนถนนพหลโยธิน และ MRT สุทธิสาร บนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า รถไฟฟ้ามาที่ไหน ความเจริญมาที่นั่น ทำให้บริเวณสองข้างทางของถนนสุทธิสารคึกคักไปด้วยที่พักอาศัย และอาคารสำนักงาน มีทั้งคนที่ใช้งานถนนเส้นนี้เป็นทางลัดและใช้เป็นจุดหมาย การจราจรบนถนนสุทธิสารจึงค่อนข้างหนาแน่น

หากโฟกัสมาที่ทำเลโครงการจะอยู่ห่างจากถนนวิภาวดีประมาณ 230 เมตร ในขณะที่อยู่ห่างจากถนนรัชดาภิเษก 1.1 กิโลเมตร ดังนั้นทำเลนี้จึงค่อนข้างเหมาะกับคนที่ต้องการใช้รถ เพราะอยู่ห่างจากถนนวิภาวดีนิดเดียว แต่การโดยสารด้วยรถไฟฟ้าก็เป็นทางเลือกได้ในช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะหน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์ให้ไปใช้บริการกันได้ค่อนข้างสะดวก จากโครงการไปถึง MRT สุทธิสาร ค่าบริการประมาณ 20 บาท หรือจะขึ้นรถเมล์ รถแท็กซี่ ก็มีวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน

เรื่องความอุดมสมบูรณ์ต้องบอกว่า สามารถหาของกินในระยะเดินได้ง่ายมาก เนื่องจากรอบๆโครงการเป็นบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน และมีตึกแถวที่มีของกินของขายให้เลือกเยอะ ตั้งแต่ฝั่งเยื้องๆโครงการที่มีเต้นท์ขายอาหารเล็กๆไว้พึ่งพาเวลาหิว มี Lotus Express เปิด 24 ชั่วโมง ธนาคารกสิกรไทย ร้านนวด ร้านขายของกินของใช้ และบริเวณตึกแถวบนสุทธิสารฝั่งที่ติดกับถนนวิภาวดีก็มีร้านกาแฟ ร้านขายอาหาร ร้านข้าวคึกคักมากทีเดียว หรือเขยิบออกไปหน่อยช่วงกลางซอยก็มีตลาดสุทธิสาร หรือใครอยากไปห้างสรรพสินค้าก็มี Central ลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอล บริเวณห้าแยกลาดพร้าว หรือจะไป The Street เอสพลานาดรัชดา Central พระราม 9 ฟอร์จูน บนถนนรัชดาภิเษกก็ไปได้ไม่ยาก

Map เส้นทางลัด Fuse

อย่างที่บอกไปว่า การเดินทางด้วยรถยนต์สำหรับโครงการนี้ค่อนข้างสะดวก สามารถทะลุถนนลาดพร้าว รัชดาภิเษก วิภาวดี พหลโยธิน  แต่ด้วยความที่ถนนเส้นนี้มีการจราจรที่หนาแน่น ทำให้คุณตำรวจต้องมาจัดการการจราจร 3 จุดใหญ่ๆในช่วงเวลาที่มีการจราจรหนาแน่น หากมาจากถนนลาดพร้าวต้องการวิ่งบนถนนสุทธิสารเพื่อไปยังถนนพหลโยธิน ในช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างวันจันทร์-ศุกร์ เราจะไม่สามารถวิ่งได้ตรงๆ แต่การเดินทางจะเป็นไปตามลูกศรสีเขียว โดย

หากมาจากลาดพร้าว ผ่านแยกสุทธิสาร-รัชดา(ตามลูกศรสีเขียว) จะไม่สามารถตรงเข้าถนนสุทธิสารได้ แต่จะต้องเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษกแล้วไปยูเทิร์นที่แยกห้วยขวางมาเข้าทางซอยรัชดาภิเษก 17 หากจะมายังโครงการก็ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยประชาสุข(ลูกศรสีน้ำเงิน)แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุทธิสารวิ่งตรงไปเรื่อยๆก็จะถึงโครงการค่ะ

แต่ถ้าต้องการไปทะลุถนนวิภาวดีก็ให้วิ่งตามเส้นสีเขียวไปเรื่อยๆ ทะลุออกซอยอินทามระ 22 แต่จะวิ่งไปถึงปากซอยเพื่อออกถนนสุทธิสารไม่ได้ เนื่องจากบริเวณหน้าปากกว้างแค่ 3 เลนค่อนข้างแคบ หากปล่อยให้รถออกทางนี้การจราจรจะติดกันเป็นคอขวด คุณตำรวจจึงกั้นไว้แล้วให้รถออกทางซอยอินทามระ 24 แทน เพราะจากซอยนี้จะไปทะลุออกถนนสุทธิสารช่วงปากซอยที่เป็นถนนกว้าง  6 เลน จะช่วยระบายรถได้ง่ายกว่า ซึ่งจากตรงนี้จะวิ่งตรงต่อไปถนนพหลโยธินผ่านวิภาวดีตรงๆไปไม่ได้นะคะ ต้องเลี้ยวซ้ายไปกลับรถก่อนแล้วค่อยเข้าเส้นสุทธิสารอีกที แต่รถจากพหลโยธินจะสามารถเลี้ยวเข้าวิภาวดีได้ค่ะ

การเดินทาง Fuse

เนื่องจากเราเคยทำรีวิวตอนเปิดขายไปแล้วครั้งนึง การเดินทางในวันนี้จะพาเดินจากเส้นทางที่ยังไม่เคยรีวิวคือมาจาก MRT สุทธิสาร ประตูที่ 4 เดินย้อนขึ้นไปที่แยกสุทธิสาร-รัชดา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุทธิสาร จากนั้นเดินดูสภาพแวดล้อมบนถนนสุทธิสาร ด้วยระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ปกติจะคงไม่มีใคลเดินอยู่แล้วนั่งมอเตอร์ไซด์จะเหมาะกว่า แต่วันนี้ขอพาเดินดูบรรยากาศและความอุดมสมบูรณ์ก่อนจะถึงโครงการกันนะคะ

เรามาเริ่มกันจาก MRT สุทธิสารทางออกที่ 4

เมื่อเดินออกมาจากตัวสถานี จะเจออาคารพาณิชย์และอาคารสำนักงาน ทางซ้ายมือเป็นถนนรัชดาภิเษกช่วงอุโมงค์สุทธิสาร

เราเดินย้อนกลับมาเพื่อจะไปยังแยกสุทธิสาร-รัชดา ทางฟุตบาทเดินสบายๆ ไม่แคบ และมีต้นไม้ให้ร่มเงาตามทาง

ออกมาพ้นบริเวณประตูรถไฟฟ้า จะเจออาคารพาณิชย์เลียบถนนรัชดาภิเษก ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารนานาชาติโซนอเชีย อย่างร้านอาหารจีน เกาหลี นอกจากนี้ก็เป็นอาคารสำนักงานซะส่วนใหญ่

มองไปบนถนนรัชดาภิเษก จะเป็นอุโมงค์ลอดใต้ถนนสุทธิสาร เพื่อบรรเทารถติดที่แยกสุทธิสาร-รัชดา

แยกสุทธิสาร

เดินมาอีกนิดจะถึงแยกสุทธิสารที่ตัดกับถนนรัชดาภิเษก หากไปทางขวามือจะไปยังถนนลาดพร้าว ช่วงซอยลาดพร้าว 64 หากตรงไปจะไปแยกรัชดา-ลาดพร้าว

จากตรงนี้เราจะเดินเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนสุทธิสารกันนะคะ

เลี้ยวมาบนถนนสุทธิสาร ช่วงต้นซอยฝั่งนี้จะค่อนข้างเงียบไม่มีของกินของขายเยอะสักเท่าไหร่ไม่เหมือนฝั่งวิภาวดีที่คึกคักกว่าื เวลาที่เราเดินผ่านตอนนี้เป็นช่วงเวลาประมาณ 9.30 น. วันธรรมดา ซึ่งเป็นช่วงเช้าที่การจราจรยังไม่หนาแน่น รถจากทางลาดพร้าวหรือจากถนนรัชดาจึงยังสามารถเข้ามาได้ตามปกติ

fuse miti (2)

แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนในวันจันทร์-ศุกร์ จะมีการปิดการจราจรฝั่งขาเข้าถนนสุทธิสาร เพื่อจำกัดรถที่เข้า-ออก ถนนเส้นนี้ ไม่ให้รถติดมากเกินไป แต่วันเสาร์อาทิตย์จะเป็นการเดินรถปกติไม่มีการกั้นแบบนี้นะคะ

เดินมาอีกหน่อยเราจะเจอพี่วินแก็งค์อารมณ์ดีเล็กๆ ยิ้มแฉ่งให้กล้องด้วย 😀

ค่าโดยสารพี่วินจากตรงนี้ไปโครงการ ประมาณ 20 บาทค่ะ

ใกล้ๆกันมี 7/11 เผื่อใครอยากซื้อของกินของใช้

เดินมาอีกหน่อยจะเจอทางโค้งเล็กๆ เดินเข้ามาได้ไม่ไกลตัวถนนจะถูกบีบให้เหลือ 2 เลนแล้ว ฝั่งตรงข้ามกันจะเป็น City Room อพาร์ทเม้นท์ 8 ชั้น ให้เช่า

พอถนนเหลือ 2 เลยทำให้ความกว้างฟุตบาทแคบขึ้น ตึกแถวบริเวณนี้จะทำการค้าขายภายใต้อาคารกันพอสมควร เช่น ร้านทำผมร้านขายยา และอื่นๆ

ระหว่างทางเดินไปโครงการเราจะเจออพาร์ทเม้นท์เป็นระยะๆค่ะ

ทำให้มีร้านอาหารริมทางอยู่เป็นระยะเช่นเดียวกัน

ด้วยความที่มีคนพักอยู่ในซอยนี้ค่อนข้างเยอะ เลยมีร้านค้าหลากหลายเช่น ร้านขายของชำ ร้านถ่ายเอกสาร และร้านทำผม อยู่ตลอดเส้นทาง

ร้านขายผลไม้รสดก็มี และ 7/11 ก็มีหลายสาขาเลยค่ะ นับจากปากซอยมานี่เป็นสาขาที่ 3 แล้วนะมาทายกันไหม๊ค่ะว่าจะมีทั้งหมดกี่สาขากันในซอยนี้

ร้านอาหารตามสั่งใต้อาคารแบบเป็นกิจลักษณะก็มี

ถ้าเราเจอสะพานข้ามคลองห้วยขวางแปลว่าเราเดินมาเกือบครึ่งทางแล้วค่ะ

 

นอกจากตึกแถวแบบเก่าแก่แล้วยังมีอาคารพาณิชย์ที่สร้างใหม่ปนอยู่ด้วยนะ ส่วนใหญ่ถูกทำเป็นอาคารสำนักงานหน้าตาจะดูดีขึ้นมาหน่อย มี Domino Pizza ให้มาซื้อหาเวลาหิวกันด้วย

ฝั่งตรงข้ามก็เป็นอาคารพาณิย์หน้าตาเหมือนกัน ด้านล่างถูกทำเป็นสำนักงาน ร้านขายยา ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ฯลฯ

เดินต่อมา บรรยากาศสองข้างทางก็ยังคงเป็น ตึกแถวริมฟุตบาทอยู่เช่นเคย ฟุตบาทบนถนนช่วงนี้ค่อนกว้างข้าง เดินง่าย ตรงนี้มีร้านขายเสื้อผ้า-รองเท้าจิปาถะ ถัดไปเป็นร้านนวดแผนไทย

ร้านขายอะไหล่ วิทยุ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือจานดาวเทียมก็มี ฝั่งตรงข้ามกันเป็นคลีนิคทั่วไป ร้านขายยา  7/11 สาขาที่ 4

เดินมาอีกนิดจะถึงสี่แยกถัดจากตรงนี้ไปจะมีร้านค้าคึกคักกว่าที่ผ่านมา ด้านขวาเป็นซอยอินทามระ 41 ที่ตอนเย็นๆจะมีร้านค้าแผงลอยขายของกินเยอะมาก และหากเลี้ยวซ้ายจะเป็นถนนประชาสุข สามารถไปทะลุออกซอยรัชดาภิเษก 17 เพื่อไปยังถนนรัชดาภิเษก หรือจะไปทะลุออกอินทามระ 22 ซึ่งเป็นซอยด้านข้างโครงการก็ได้ค่ะ

เดินข้ามสี่แยกมา จะเจอร้านอัดรูปดิจิตอล ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านทอง คลีนิค 7/11 สาขาที่ 5 ริมฟุตบาทมีของกินวางขายเป็นระยะๆ ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์

ไม่ไกลกันจะมีตลาดสุทธิสาร ซึ่งเป็นตลาดเล็กๆ ท่ามกลางตึกแถวที่อยู่ในชุมชนเก่าแก่

ภายในตลาดมีทั้งของใช้ในครัวเรือน จำพวกกะละมัง เก้าอี้พลาสติก เสื้อผ้าราคาไม่แพง หรือถุงสายรุ้งต้นตำรับกระเป๋าบาเลนซิเอก้าก็มีนะ 🙂

นอกจากของใช้แล้ว ภายในตลาดก็มีเต้นท์อาหารเล็กๆให้มาหาของกินกันได้ มีทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ  ตรงกลางมีโต๊ะเก้าอี้ให้เลือกนั่งตามสบาย

หน้าตลาดสุทธิสารมีทางม้าลายให้ข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามตลาดที่มีทั้งธนาคารไทยพาณิชย์ และมี Pizza Hut เผื่อใครอยากกิน

เดินมาอีกหน่อยจะเจอโรงภาพยนตร์สุทธิสารพลาซ่า ตั้งอยู่ตรงข้ามซอยอินทามระ 39 แต่เดิมชื่อว่าโรงภาพยนตร์ “สุทธิสารราม่า” แล้วเปลี่ยนชื่อมาเป็นโรงภาพยนตร์ “สุทธิสารพลาซ่า” ก่อนปิดกิจการไปประมาณ 30 ปีแล้ว แต่ตัวอาคารของโรงภาพยนตร์ยังอยู่ ภายในซอยเลียบโรงภาพยนตร์นี้ก็ได้ชื่อว่า ซอยโรงหนังสุทธิสารพลาซ่าไปด้วย บรรยากาศรอบๆจะเป็นตึกแถว 4-5 ชั้นซะเป็นส่วนใหญ่

ติดกันจะเป็นตึกแถว 4-5 ชั้น ฝั่งเยื้องๆกันเป็นอาคารวิริยะถาวร ที่ด้านล่างมีธนาคารกรุงเทพให้ไปใช้บริการกันได้

อาคารวิริยะถาวร เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า ภายในเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ ช.การช่าง ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาแนวหน้าที่หลายคนคงคุ้นชื่อกันดี

ข้างๆ ตึกวิริยะถาวรเป็นซอยอินทามระ 37 เป็นซอยเล็กๆที่บรรยากาศค่อนข้างเงียบ

เราเดินต่อมาอีกหน่อยจะเห็นว่าฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว 4  ชั้นที่ค่อนข้างเก่ารูปด้านของอาคารเล่นลายคลาสสิคเป็นเอกลักษณ์ ใต้อาคารมีทั้งร้านกรอบรูป ร้านทำป้าย ร้านอาหาร ร้านทำผม และร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ แต่บางห้องก็ไม่ได้เปิดร้านอะไรนะคะ

เราเดินมานิดเดียวก็จะเจอโครงการ Fuse Miti สุทธิสาร-รัชดา แล้วค่ะ

Map zoom fuse**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการเป็นย่านชุมชนและมีอาคารสำนักงาน ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งร้านค้า ร้านอาหารคึกคัก ทั้งเต้นท์ขายอาหาร Tesco Lotus Express ธนาคารกสิกร ร้านนวด ร้านตัดขนสุนัข ร้านกาแฟ ร้านอาหาร แถมฝั่งตรงข้ามก็มีวินมอเตอร์ไซค์ให้ใช้บริการได้สะดวก จากแผนที่จะเห็นว่าตัวโครงการอยู่ใกล้กับช่วงถนนที่กว้างทำให้การเข้าออกโครงการสะดวกไม่ต้องเจอรถติดนานนัก

  • ทางทิศเหนือ ของโครงการติดกับถนนสุทธิสาร ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว 4 ชั้น ที่มีการทำร้านค้า ร้านขายของ ใต้อาคาร คนที่อาศัยอยู่ทางทิศนี้อาจต้องเจอเรื่องเสียงรถวิ่งไปมาบ้าง และชั้น 4 ของอาคารเป็น Facilities ห้องพักอาศัยที่อยู่ทางทิศนี้จึงอยู่ที่ชั้น 5 ขึ้นไป ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องการโดนบังวิวค่ะ
  • ทางทิศตะวันออก ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น และซอยอินทามระ 24 ที่ค่อนข้างเงียบถึงเงียบมาก ทางทิศนี้ไม่มีตึกสูงบังวิวอีกเช่นกัน
  • ทางทิศตะวันตก ติดกับซอยอินทามระ 22 ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆมาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะเป็นอพาร์ทเม้นท์ 8 ชั้น คนที่อยู่ทางด้านนี้ตั้งแต่ชั้น 8 ลงไปจะโดนบังวิว แต่ชั้น 9 ขึ้นไปก็ไม่มีปัญหาค่ะ
  • ทางทิศใต้ ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ซึ่งถัดออกไปหน่อยจะมีอพาร์ทเม้นท์ 5 และ 6 ชั้น คนที่อยู่ห้องชั้น 4-6 อาจจะโดนบังวิวเล็กน้อย แต่อยู่ในระยะที่ไม่ประชิด  ส่วนชั้น 7 ขึ้นไปก็ไม่มีตึกอะไรมาบังสายตาค่ะ

มาดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการกันบ้าง ทางทิศตะวันตกของโครงการ ติดกับซอยอินทามระ 22 ฝั่งตรงข้ามกันเป็น BB Mansion อพาร์ทเม้นท์ 8 ชั้น สีส้มโดดเด่น คนที่อยู่ฝั่งนี้ในชั้น 4-8 อาจจะโดนตึกนี้กวนสายตาไปบ้าง แต่ก็อยู่ในระยะที่ไม่ประชิด

ซอยอินทามระ 22 เป็นซอยเล็กๆ ที่ช่วงเย็นจะมีร้านอาหารมาตั้งขายในช่วงต้นซอยข้างๆโครงการ ซึ่งซอยนี้จะเป็น One way ในช่วงต้นซอย คือบังคับให้รถเข้าซอยเท่านั้น แต่รถจะออกทางหน้าซอยเข้าถนนสุทธิสารไม่ได้ จุดสังเกตคือบนถนนจะมีลูกศรสีขาว ชี้ทางเข้าอย่างเดียว

เมื่อเดินเข้ามาในซอยอินทามระ 22 จะเห็นคุณตำรวจเอาที่กั้นมากั้นรถให้เข้าที่ซอยอินทามระ 24 ทางขวามือเพื่อไปทะลุออกช่วงต้นถนนสุทธิสารที่เป็นถนน 6 เลน จะสามารถระบายรถได้ง่าย ลดปัญหาจราจรตัดขัดไปได้ส่วนหนึ่ง

กลับมาที่หน้าโครงการจะมีทางม้าลายให้ข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้

เมื่อข้ามถนนมา จะเจอพี่วินแก็งค์เล็กๆคอยให้บริการ หากต้องการไป  MRT สุทธิสาร ค่าบริการจะอยู่ที่ 20 บาทค่ะ

ข้างๆกันเป็นเต้นท์ขายอาหารขนาดเล็กๆ

เข้ามาด้านในเต้นท์จะมีร้านขายอาหารให้เลือก 5-6 ร้าน ตรงกลางมีที่นั่งรองรับพอสมควร ช่วงเที่ยงๆคนจะเยอะมากเป็นพิเศษค่ะ เพราะพนักงานออฟฟิศพักกลางวันก็จะมากินกันที่นี่

ข้างๆเต้นท์ขายอาหาร มี Tesco Lotus Express เปิด 24 ชั่วโมง ตรงข้ามกันเป็นธนาคารกสิกร ซึ่งถัดจากธนาคารไปก็มีร้านนวด ร้านขายของอื่นๆให้ไปใช้บริการกันอีก

ถัดไปจะเป็นช่วงต้นของถนนสุทธิสาร ที่ตรงไปสุดทางจะเป็นถนนวิภาวดี ซึ่งตัวถนนจะมีขนาดกว้างประมาณ 6 เลน สามารถรองรับรถได้มากกว่าถนนช่วงอื่น สองข้างทางจะเป็นตึกแถว 4-5 ชั้น ที่มีร้านขายของกินของใช้คึกคักมากกกก เดินจากโครงการมานิดเดียวเองค่ะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ตลาดสดสุทธิสาร ~ 240 ม.
  • Central ลาดพร้าว~ 3.4 กม.
  • Union Mall~ 3.4 กม.
  • Tesco Lotus~ 4 กม.
  • Esplanade รัชดา ~ 4.3 กม.
  • Central พระราม 9 และ Fortune~ 4.9 กม.
  • ตลาดห้วยขวาง~ 1.8 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Fuse สุทธิสาร-รัชดา เป็นคอนโด High Rise สูง 17 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีทั้งหมด 281 ยูนิต อยู่กันแบบไม่หนาแน่นเท่าไหร่ ตัวอาคารใช้โทนสีขาว-เทา-ดำ ดูเรียบๆ โดยตัวโครงการเปิดตัวมาได้ 2 ปีกว่าๆแล้ว สถานะโครงการตอนนี้เสร็จสมบูรณ์เกือบ 100% พร้อมจะให้ลูกบ้านเข้าอยู่ประมาณต้นเดือนสิงหาคมค่ะ โดยพื้นที่ใช้สอยของอาคารแบ่งเป็น

  • ชั้น 1 เป็น Lobby  นิติบุคคล ห้องจดหมาย และห้องน้ำสาธารณะ
  • ชั้น 1-3 เป็นที่จอดรถ
  • ชั้น 4 ประกอบด้วย สวน ห้องอเนกประสงค์ และห้อง Mini Theater
  • ชั้น 12-13 เป็นพื้นที่สวนเล็กๆไว้นั่งเล่น
  • ชั้น 17-ชั้นดาดฟ้า เป็นสวน สระว่ายน้ำ และ Fitness

โดยรวมแล้วให้ Facilities มาค่อนข้างดีสำหรับ 281 ยูนิต เดี๋ยวเราจะพาไปดูผังแต่ชั้นและทัวร์อาคารไปพร้อมๆกันทีละส่วนนะคะ 🙂

FuseMiTi_Plan_Master

มาดูที่ผังอาคารชั้นแรก ทางเข้า-ออกหลักของอาคารติดกับถนนสุทธิสาร ช่วงเกือบจะตรงกลางของที่ดิน รอบอาคารมีถนนกว้าง 6 เมตร สามารถเดินรถสวนกันได้ แต่การเดินรถจะเป็น one way วนขวาทวนเข็มนาฬิกา หากใครต้องการขึ้นชั้นจอดรถก็สามารถขึ้นได้ทางขวามือของอาคาร จะมีชั้นจอดรถถึงชั้น 3 แต่หากไม่ต้องการขึ้นชั้นจอดรถ ก็สามารถจอดรถที่ใต้อาคารได้รอบอาคารเลยค่ะ เมื่อเข้ามาในอาคารแล้วจะเจอ Lobby ห้องนิติบุคคล ห้องจดหมาย ตรงกลางอาคารเป็นโถงลิฟต์โดยสาร จำนวน 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 141 : 1 เลยเกณฑ์มาตรฐานมาหน่อย ค่อนข้างหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน

บริเวณด้านหน้าโครงการเป็นรั้วเหล็กโปร่ง ตกแต่งด้วยผนังไม้ลาดเอียงสไตล์ Loft เพิ่มบรรยากาศของทางเดินหน้าโครงการให้ดูทันสมัยขึ้นมาก

เมื่อเข้ามาในโครงการจะมีป้อม รปภ.อยู่ทางซ้ายมือ มีการรักษาความปลอดภัยโดยใช้รั้วกั้นไม้กระดก เข้าออกโดยใช้ Keycard Access พื้นของโครงการเป็นพื้นคอนกรีตแสตมป์และพื้นปูนซีเมนต์ โดยบริเวณใต้อาคารทั้งหมดจะถูดจัดให้เป็นที่จอดรถตามล็อกเรียบร้อย โดยวันที่เราไปถ่ายโครงการยังมีการเก็บงานก่อสร้างอยู่เล็กน้อย จึงยังไม่เรียบร้อย 100% นะคะ

มองไปทางซ้ายมือจะมีรั้วกั้นกระดกสำหรับรถขาออก

หากจะนำรถเข้าจอดในโครงการ ต้องวนขวาตามลูกศรสีขาวนี้ไป

เมื่อวนขวามา จะเจอทาง Slope ขึ้นโดยมีลูกศรบอกทาง หากเลี้ยวซ้ายจะขึ้นลานจอดรถ แต่หากตรงไปจะเป็นการอ้อมไปจอดรถใต้อาคาร

เราจะพาเลี้ยวซ้ายไปดูชั้นจอดรถกัน โดยทางเดินรถจะเป็น 2 เลน กว้างประมาณ 6 เมตร รถสามารถวิ่งสวนกันได้สบายๆ พื้นลานจอดรถเป็นพื้นปูนขัดมัน

เมื่อขึ้นมาที่ชั้นลอยจะมีจุดจอดรถให้  1 จุด สามารถจอดรถได้ประมาณ 7-8 คัน ไม่รวมซ้อนคัน

หากเลี้ยวซ้ายขึ้นไปจะมีบันไดหนีไฟอยู่ทางขวามือ หากจอดรถที่ชั้นนี้ก็สามารถใช้เดินขึ้น-ลง อาคารได้

หากวนรถขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอบันไดหนีไฟอีกจุด

พอเลี้ยวขึ้นมาที่ชั้น 2 ครึ่ง จะเป็นทางเข้าโถงลิฟต์ไปยังชั้นอื่นๆได้

เรากลับมาที่ถนนรอบอาคารกันต่อ ด้านหลังอาคารเป็นถนนเป็น one way กว้าง  6 เมตร และมีที่จอดรถใต้อาคารเช่นเดิม รั้วรอบโครงการปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่น

เลี้ยวมาทางทิศตะวันออกของอาคาร ถนนกว้างประมาณ 6 เมตร อาคารที่ติดกับโครงการด้านนี้เป็นตึกแถว 2 ชั้น ห้องพักที่อยู่ฝั่งนี้จึงไม่ต้องกลัวถูกบังวิวในระยะประชิดค่ะ

เลี้ยวมาด้านหน้าโครงการจะเจอรั้วกั้นไม้กระดกกั้นรถขาออก สามารถใช้ Keycard Access เพื่อออกจากอาคารได้ค่ะ ทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของ Sales Office ซึ่งปัจจุบันเป็นสำนักงานขายชั่วคราว

เข้ามาด้านใน Lobby ตกแต่งด้วยโทนสีทอง ม่วง ทางซ้ายมือเป็นที่นั่งไว้รับแขก ตรงกลางเป็นประตูทางเข้าโถงลิฟต์ และทางขวามือเป็นทางเข้าห้องจดหมายและห้องน้ำ

เข้ามาด้านในจะเป็นโถงเล็กๆ มีทางแยก ขวามือจะเป็นห้องน้ำ ส่วนตรงไปจะเป็นห้องจดหมาย

ภายในห้องจดหมาย มีตู้ล็อกเกอร์สำหรับใส่จดหมายให้แต่ละห้อง มีช่องวางของ รวมทั้งรถเข็นตะกร้าสำหรับใส่จดหมายหรือพัสดุขนาดเล็ก และรถเข็นเอาไว้ขนของชิ้นใหญ่ๆค่ะ

ถ้าแยกมาทางขวามือจะเป็นห้องน้ำ โดยแบ่งออกเป็นห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิง

กลับมาที่ Lobby มองไปทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของที่นั่งพักไว้รับแขก และด้านในเป็นสำนักงานนิติบุคคล ด้านหน้าจะเป็นโถงลิฟต์หลักที่จะไปสู่ชั้นอื่นๆของอาคาร

บรรยากาศภายในโถงลิฟต์ตกแต่งค่อนข้างดี ปูพื้นและผนังด้วยหินอ่อน ตกแต่งด้วยไฟสีส้มและ Prop สีทองเหลืองให้อารมณ์ Luxury เดี๋ยวเราจะพาขึ้นลิฟต์ไปดู Facilities หลักที่ชั้น 4, ชั้น 12-13 และชั้น 17-ชั้นดาดฟ้า ค่ะ

ผังชั้น 4 ในชั้นนี้จะเป็นชั้นที่มีห้องพักรวมกับ Facilities ที่ประกอบด้วยสวน และห้องอเนกประสงค์หันหน้าไปทางทิศเหนือ ติดกับถนนสุทธิสารและอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ทำให้มุมมองของส่วนกลางในชั้นนี้ได้วิวที่ไม่พ้นยอดตึก ส่วนห้องพักมีทั้งหมด 18 ยูนิต ทางเดินภายในอาคารเป็น  Double Corridor แบบหันหน้าเข้าหากันหมด มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัวและลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว ตำแหน่งของลิฟท์อยู่ในช่วงกลางๆของอาคารพอดีดังนั้นห้องที่อยู่ริมสุดทั้ง 2 ด้านจะมีระยะเดินไม่ห่างกันมากนัก ที่ปลายของอาคารทั้งสองด้านมีหน้าต่างช่วยให้แสงธรรมชาติและอากาศถ่ายเทเข้าสู่โถงทางเดินได้ดีค่ะ

ผังชั้น 5 จะวางผังคล้ายๆชั้น 4 แต่ไม่มีสวนหย่อม และเปลี่ยนจากห้องอเนกประสงค์เป็นห้อง Mini Theater แทน ห้องพักในชั้นนี้มีทั้งหมด 20 ยูนิต และเราเข้าส่วนจากชั้นนี้ไม่ได้นะคะ

ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 4 เมื่อออกจากลิฟต์แล้วมองไปทางซ้ายมือ จะมีประตู 2 จุด คือ ตรงไปจะเป็นประตูทางออกสวน ส่วนทางขวามือเป็นประตูเข้าห้องอเนกประสงค์และห้องดูหนัง(Mini Theater)

เราเดินตรงมาดูที่สวนกันก่อนค่ะ โดยสวนชั้น 4 นี้เป็นลานกว้างๆ ปูด้วยสนามหญ้าเทียมเล่นลาย สลับกับหินกรวดและกระเบื้อง ราวระเบียงเป็นรั้วเหล็กโปร่งและก่อปูนเป็นที่นั่งทึบ ตกแต่งด้วยไม้พุ่มและไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ตรงสนามหญ้ามีชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาด 2 ที่นั่งให้ 2 ชุด โดยวิวที่มองเห็นจากชั้นนี้เป็นวิวที่ไม่สูงมาก ส่วนใหญ่จะมองเห็นยอดตึกที่อยู่รอบๆค่ะ เพราะอาคารที่อยู่ทางทิศเหนือนี้จะเป็นตึกแถวสูง 4 ชั้น และทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ(ตึกสีส้มทางซ้ายมือ)ก็เป็น BB Mansion สูง 8 ชั้น

มองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะมองเห็นตัวอาคารและห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ข้างๆ ด้านบนเป็นห้องดูหนัง(Mini Theater) ซึ่งเป็นห้องกระจกทั้งหมด เดี๋ยวเราจะพาไปดูข้างในกันค่ะ

เข้ามาภายในห้องอเนกประสงค์ จะมีชุดโซฟานั่งเล่น หรือโต๊ะเขียนหนังสือรองรับไว้ให้หลายชุด สามารถใช้เป็นห้องนั่งเล่น ติวหนังสือ หรือจัดปาร์ตี้สังสรรค์ได้

มองกลับไปที่ประตูทางเข้า จะเห็นว่าที่ผนังติดตั้งทีวีไว้ให้ 1 เครื่อง

ถัดไปเป็นชุดโต๊ะเขียนหนังสือมีความสูงหลายระดับไว้ให้เลือก ที่ใต้บันไดมีหนังสืออ่านเล่นไว้ให้ด้วย

มองกลับไปจะเห็นบันไดทางขึ้นไปยังชั้นลอยที่เป็นห้องดูหนัง หรือ Mini Theater ฝ้าเพดานตรงนี้ค่อนข้างสูง ช่วยให้ห้องดูโปร่ง

เดินขึ้นบันไดไปดูหนังกันดีกว่าาา^^

ระหว่างทางขึ้นบันได เมื่อมองลงไปจะเห็นห้องโถงด้านล่างที่เป็น Double Volume ฝ้าเพดานค่อนข้างสูง สามารถมองออกไปเห็นวิวสวน และวิวรอบๆได้ เพราะโครงการใช้ผนังเป็นกระจกใสสูงตั้งแต่พื้นจรดฝ้าเพดาน ทำให้บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างโอ่โถง

เข้ามาภายในห้องดูหนังชั้น 5 กันแล้ว เราจะเจอโถงทางเดินเล็กๆที่จะมีทางบังคับเลี้ยวไปทางขวา การที่เข้าห้องมาแล้วไม่เจอเบาะนั่งดูหนังเลย มีข้อดีตรงที่จะทำให้คนที่กำลังดูหนังอยู่รู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้นกว่าเวลานั่งดูหนังแล้วมองเห็นคนเดินเข้า-ออก ผ่านไปมาแถวประตูตลอดเวลา เป็นการออกแบบพื้นที่ที่ช่วยให้เกิดความ Privacy มากขึ้น

เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วจะเจอพื้นที่ดูหนังไล่ 3 ระดับ เหมือนเวลาเลือกที่นั่งในโรงภาพยนตร์ไซส์มินิ  โดยห้องนี้รองรับได้ทั้งหมดประมาณ 15-17 ที่นั่ง โครงการทำผนังให้เป็นกระจกทั้งหมดเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้า แต่ในขณะเดียวกันก็ติดตั้งผ้าม่านให้เรียบร้อยเผื่อใครอยากได้บรรยากาศมืดๆดูจอให้เห็นชัดๆ ก็ปิดม่านได้ ซึ่งมีการออกแบบไฟซ่อนมาให้เรียบร้อย ช่วยให้บรรยากาศของห้องน่าใช้งานมากขึ้น

โซฟาที่เอานั่งดูหนังจะมีหมอนไว้ให้เรียบร้อย ใครมาเป็นกลุ่มเล็กๆก็เลือกมุมนอนกันได้ตามสบาย

ระยะดูทีวีจากชั้นบนสุดอยู่ที่ประมาณนี้ มีเครื่องเล่น DVD เตรียมให้เรียบร้อย ส่วนลำโพงมีเป็นชุด Home Theater มาให้เลยค่ะ

fuse miti

หน้าจอมีแอพลิเคชั่นให้เลือกหลายแบบ ทั้งดูหนัง ฟังเพลง ต่อ Internet ดู YouTube ก็ได้พูดง่ายๆคือ Smart TV นั่งเองค่ะ

ตัวทีวีเป็นของ Samsung ดังนั้นใครใช้มืถือ Samsung จะสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ ทางทีมงานเลยขอทดสอบซะหน่อยดู MV กันสนุกเลยค่ะ 🙂

ออกมาจากห้องอเนกประสงค์มาที่หน้าโถงลิฟต์ เมื่อมองไปอีกทางเราจะเจอประตูไปสู่ส่วนพักอาศัย โดยมีการรักษาความปลอดภัยโดยใช้ Keycard Access เข้า-ออกได้เฉพาะลูกบ้านผู้มี Keycard เท่านั้น

โถงทางเดินในอาคารเป็นโทนสีขาว ประตูห้องเป็นบานสำเร็จรูปผิวลามิเนตลายไม้ ที่ปลายทางเดินมีหน้าต่างค่อนข้างกว้าง ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าสู่ทางเดินได้ดีไม่มืดทึบ

ผังชั้น 6-9 จะมีห้องพักเพิ่มขึ้นมา 2 ห้อง(ในเส้นประสีแดง) รวมเป็น 22 ห้อง โดยรูปแบบห้องพักในชั้นนี้เป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมดแต่จะต่างกันตรงที่เป็นห้องแนวลึก หรือแนวกว้างเท่านั้นเอง

ผังชั้น 10-11 มีห้องพักทั้งหมด 22 ห้อง โดยจะแตกต่างจากชั้นอื่นๆตรงที่หัวมุมของอาคารจะเป็นแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งในโครงการนี้จะมี 2 ห้องนอนแค่ตำแหน่งนี้ตำแหน่งเดียวเท่านั้น

C:UserskeendesignstudioDesktopfusePLAN color Model (1)

ผังชั้น 12 จะมีการวางผังคล้ายกับชั้น 10-11 แต่มีห้องพักทั้งหมด 20 ห้อง และมีการตัดห้องหัวมุมทางทิศเหนือออก 2 ห้องแล้วเปลี่ยนเป็นพื้นที่สวนเล็กๆแทน โดยสวนชั้นนี้ไม่มีทางเข้าจากชั้น 12 จะต้องเข้าทางชั้น 13 เท่านั้น

C:UserskeendesignstudioDesktopfusePLAN color Model (1)

ผังชั้น 13 เหมือนกับผังชั้น 12 เพียงแต่ตัดห้องนอน 2 ห้องด้านหน้าอีก แล้วเปลี่ยนเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ โดยสวนในชั้นนี้จะมีบันไดทางลงต่อเนื่องไปยังสวนชั้น 12 ได้ ห้องพักในชั้นนี้มีทั้งหมด 18 ห้อง

เราขึ้นลิฟต์มายังชั้น 13 จะมีประตูออกไปสู่สวนด้านนอก

เมื่อออกมาที่สวน จะมีรูปแบบคล้ายๆกับสวนชั้น  4 คือใช้สนามหญ้าเทียมเล่นลาย สลับกับกระเบื้องและหินกรวด ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งค่อนข้างสูง และมีการก่อปูนขึ้นไปเป็นกระถางต้นไม้แนวโมเดิร์น

เดินตรงไปสุดทางจะมีโซฟากลางแจ้งทรงกลมไว้ให้ 2 ตัว เผื่อนั่งเล่น รอบๆมีไฟสนามให้เผื่อใครมานั่งเล่นตอนกลางคืน

จากสวนนี้จะมีบันไดทางลงไปชั้น 12 ได้ ระหว่างการลงบันได จะมองเห็นวิวเมืองฝั่งวิภาวดีชัดมาก วิวจะสวยกว่าของสวนชั้น  4 เพราะอยู่สูงกว่า มองวิวได้เต็มตากว่า

ระหว่างลงบันได มองลงไปจะเห็นพื้นที่สวนชั้น 12 ที่เป็นสวนเล็กๆปูสนามหญ้าเทียมให้

เมื่อเดินลงมาจะได้มุมมองนี้ค่ะ บรรยากาศค่อนข้างแคบและอึดอัดกว่าสวนข้างบนเล็กน้อย มีชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาด 2 ที่นั่งให้  2 ตัว

วิวจากสวนชั้น 14 จะมองเห็นวิวทางทิศเหนือและทิศตะวันตก ซึ่งจะเห็นวิวเมืองทั้งฝั่งวิภาวดี และบนถนนสุทธิสาร

C:UserskeendesignstudioDesktopfusePLAN color Model (1)

ผังชั้น 17  จะเปลี่ยนเป็นรูปตัว I ลดจำนวนห้องพักลงมาเหลือเพียง 17 ยูนิต โดยพื้นที่ด้านหน้าทางทิศเหนือถูกปรับเป็นสวนเล็กๆ

C:UserskeendesignstudioDesktopfusePLAN color Model (1)

ส่วนผังชั้นดาดฟ้า จะมีบันไดขึ้นมาจากชั้น 17 เจอสระว่ายน้ำรูปทรงอิสระ พร้อม Day bed ให้ 6 ตัว ห้องฟิตเนท และห้องน้ำสาธารณะแยกชายหญิง

ออกจากลิฟต์ชั้น 17 มา จะเจอประตูออกไปสู่สวนด้านนอก

พื้นที่สวนชั้น 17 จะเป็นสนามหญ้าเทียมเหมือนกับสวนชั้นอื่นๆ มีลานไม้อเนกประสงค์เล็กๆมุมหนึ่ง ราวระเบียงเป็นผนังปูนและต่อเหล็กโปร่งด้านบนขึ้นไปค่อนข้างสูงเพื่อความปลอดภัย พร้อมผนัง Green wall ที่ก่อปูนขึ้นมาเป็นที่นั่งไว้ให้

มองกลับไปยังประตูทางเข้า ข้างๆกันเป็นสวนแนวตั้งและบันไดทางขึ้นไปสู่ชั้นดาดฟ้า

ด้านบนของสวนแนวตั้งจะเป็นสระเด็กเล็กๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ค่อนข้างร่มรื่น

เมื่อขึ้นมาด้านชั้นดาดฟ้า จะเจอสระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมที่ล้างตัวข้างๆสระให้เรียบร้อย

โดยที่ล้างตัวจะเป็นแท่นไม้เล็กๆสำหรับอาบได้  1 คน พื้นที่ยืนอาบน้ำเป็นพื้นไม้และพื้นทรายล้างกันลื่น

ตัวสระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ลักษณะ Free From ขนาด 7 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร ข้างๆเป็น Pool deck ปูสนามหญ้า วาง Day bed ไว้ให้ 6 ตัวพร้อมโต๊ะเตี้ยสำหรับวางของ

ราวกันตกของสระว่ายน้ำใช้กระจก Tempered  ปลอดภัยและช่วยให้สามารถมองเห็นวิวขณะว่ายน้ำได้

พื้นที่ริมสระมีการจัดสวน ปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่น การทำ Green wall ยังช่วยเพิ่มความ comfortable ได้ในระดับนึง

มองกลับไปจะเห็น Fitness ที่เป็นอาคารสีเทาอยู่ทางตรงกลาง ขณะที่เราว่ายน้ำอยู่ก็จะเห็น Fitness และคนที่เล่น Fitness ก็จะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำ

บรรยากาศภายในห้อง Fitness ค่อนข้างโปร่งเพราะเป็นกระจกล้อมรอบ มีทั้งเครื่องเล่นประมาณ 9 เครื่อง และมีโซฟานั่งพักให้

และสามารถมองวิวขณะออกกำลังกายได้แบบนี้ 🙂

เรามาดูวิวจากดาดฟ้าของอาคารกันบ้างค่ะ ตัวโครงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีตึกสูงอยู่ในระยะประชิด เนื่องจากบริเวณรอบๆส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย ตึกแถว หรืออพาร์ทเม้นท์ 8 ชั้น แต่ก็จะมีตึกสูงใกล้เคียงที่บังวิวกันอยู่บ้างนะคะ โดยทางทิศเหนือจะเห็นวิวฝั่งถนนสุทธิสารและฝั่งลาดพร้าว ที่มองไปไกลๆจะเห็นตึกสูงกระจายอยู่พอสมควร ทางขวามือเป็นอาคารวิริยะถาวร สำนักงานให้เช่า

ทางทิศตะวันตก จะเป็นวิวเมืองฝั่งวิภาวดี มองตรงไปเห็นแยกสะพานสุทธิสาร ที่เป็นจุดตัดของถนนสุทธิสารตัดกับถนนวิภาวดีชัดเจน

ทางทิศใต้ สภาพแวดล้อมของสิ่งปลูกสร้างใกล้ๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น และอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า ไม่ค่อยมีตึกสูงมากเท่าไหร่ แต่ถ้ามองตรงไปไกลๆ จะเห็นวิวเมืองฝั่งสุขุมวิทช่วงอโศก ที่มีตึกสูงหนาแน่นทีเดียว

fuse miti (1)

ทิศตะวันออก จะเห็นวิวฝั่งรัชดาไปถึงสุทธิสาร ตึกสูงๆเรียงหน้ากระดานที่เรามองเห็นนั้นเป็นคอนโด โรงแรม และอาคารสำนักงานบนถนนรัชดาภิเษกค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 25 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 9 เครื่อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการที่ชั้น 4, 12, 13 และชั้นบนสุด
  • Multi Space (มุมพบปะสังสรรค์)
  • Mini Theater Room
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 141 : 1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ  114 คัน คิดเป็น  40%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 

 


Product Walkthrough

ห้องของโครงการ Fuse Miti สุทธิสาร-รัชดา ขายแบบ Fully Fitted ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัว ตู้เสื้อผ้า แอร์ และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ โดยมีห้องพัก 2 รูปแบบ คือ

  • 1 Bedroom 28 – 34.5 ตารางเมตร จำนวน  273 ยูนิต
  • 2 Bedrooms 48.5 ตารางเมตร จำนวน  8 ยูนิต

โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูกันเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 29 ยูนิต และห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ยูนิต หน้าตาห้องพักจะเป็นอย่างไรไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ

Screen Shot 2016-07-14 at 11.39.05 PM

มาเริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตารางเมตร โดยผังห้องเป็นรูปตัว L  แบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วน คือซีกขวาเป็นโซน Service อย่างห้องน้ำและห้องครัวเปิด ที่สามารถทำฉากกั้นเป็นครัวปิด ไม่ให้กลิ่นอาหารมาติดส่วนอื่นๆของห้องได้ ส่วนทางซีกซ้ายเป็นส่วนพักผ่อนที่ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่เชื่อมต่อกับระเบียง จุดเด่นของห้องนี้คือการให้ความสำคัญกับพื้นที่พักผ่อน จะเห็นว่าจัดมาให้ค่อนข้างกว้าง โดยเฉพาะห้องนั่งเล่นที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้หลากหลาย เช่น สามารถวางโซฟานั่งเล่น + โต๊ะรับประทานอาหาร สามารถจัดโต๊ะวางทีวีติดผนัง และยังตั้งเคาน์เตอร์วางของข้างประตูห้องได้อีก เป็นต้น

ประตูห้องเป็นประตู HDF กรุลามิเนตลายไม้ มีตาแมวให้ตามมาตรฐานและกลอนประตูเป็น Digital Dool Lock ของ Sumsung

โดยกลอนประตูเป็น Digital Door Lock ของ Samsung รุ่น push and pull สามารถใช้งานได้สะดวกโดยกลอนประตูด้านนอกจะมี 3 ฟังก์ชั่น คือ สามารถตั้งรหัสแล้วกดหรือสแกนคีย์การ์ดก็ได้ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างก็ได้เผื่อใครต้องการความปลอดภัย แล้วก็ผลัก(Push) ที่ด้านล่างประตูก็จะเปิดออกได้เองค่ะ

พื้นห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้  มีคิ้วปิดรอยต่อระหว่างพื้นโถงทางเดินและพื้นห้องนอนให้เรียบร้อย

fuse miti (3)

เมื่อเปิดประตูมาจะเจอกับห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอนและระเบียง ทางขวามือเป็นครัวเปิดและห้องน้ำรวม

fuse miti (4)

มองย้อนกลับไปที่ประตูห้อง เหนือประตูจะติดตั้งเมนบอร์ดไฟมาให้ ส่วนผนังข้างๆกันทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่โครงการ Built-in ตู้วางของมาให้เป็นไอเดียตัวอย่าง

โดยพื้นที่ตรงนี่เราสามารถติดตั้งตู้วางของอเนกประสงค์ เช่น เป็นตู้ใส่รองเท้า วางร่ม แขวนกุญแจ วางของเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นจุดที่เอาไว้สำหรับเตรียมตัวเข้า-ออก ห้อง หรือจะต่อเติมเคาน์เตอร์ครัวออกมาจากเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย หรือใครจะ Built-in ตู้แบบพับเก็บได้แบบห้องตัวอย่างก็เป็นไอเดียที่ดีนะคะ

fuse miti 5

ข้างๆกันเป็นพื้นที่ครัวเปิด ขนาด 1.4 x 1 เมตร ที่โครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว I มาให้ ทางเดินระหว่างผนังถึงเคาน์เตอร์ครัวมีระยะประมาณ  0.80 เมตร

โดยพื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ปิดคิ้วรอยต่อเรียบร้อย การปูพื้นครัวด้วยประเบื้องช่วยให้สามารถทำความสะอาดคราบสกปรกได้ง่ายดีค่ะ

fuse miti

เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการ Built-in มาให้หน้าบานด้านล่างเป็น Hi-gloss ส่วนด้านบนบุด้วยลามิเนต

ตรงผนังเคาน์เตอร์ติดกระเบื้องโมเสกสีดำมาให้เรียบร้อย ช่วยให้สามารถทำความสะอาดน้ำและคราบต่างๆได้ง่าย ที่ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินเทียมสีดำ ติดตั้งซิงค์ล้างจาน เตาและที่ดูดควันของ Franke มาให้เรียบร้อย

พื้นที่วางตู้เย็นหน้ากว้าง 1 เมตร สามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้สบายๆ

ข้างๆห้องครัวเป็นห้องน้ำ ใช้บานประตู HDF สีขาว มีเกร็ดระบายอากาศ

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร และมีธรณีกั้นยกสูงขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร

เข้ามาในห้องน้ำขนาด 1.3 x 2.6 เมตร ตัวห้องมีขนาดปานกลาง แบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนอ่างล้างหน้า ส่วนติดตั้งโถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำ

อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัวรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มี Low wall ที่ผนังและชั้นวางของเล็กๆให้วางของได้เล็กน้อย ส่วนที่ผนังติดตั้งกระจกเงามาให้ 1 บาน

ใต้อ่างล้างหน้าเป็นตู้บานเปิดของ Index สามารถเก็บของจะพวกกระดาษทิชชู่ แปรงสีฟัน หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายในห้องน้ำได้

อ่างล้างหน้าขนาดปานกลางของ Grandhome พร้อมก๊อกน้ำสแตนเลสแบบก้านโยก ของ American Standard

ข้างๆกันเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่  ติดไว้ทางด้านขวามือฝั่งเดียวกัน (หันหน้าออกมาจากโถสุขภัณฑ์)

ถัดไปเป็นพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำขนาด 1.3 x 0.9 เมตร มีฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัยแบบบานเลื่อน 2 ตอน สูง 2 เมตร ติดตั้งให้เรียบร้อย

พื้นส่วนอาบน้ำปูกระเบื้องแบบเดียวกับพื้นที่อื่นๆในห้องน้ำ คือกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ไม่มีการระดับลงไป แต่ก็จะมีตัวธรณีสูงขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกรอบบานเลื่อนประมาณ 5  เซนติเมตร

ชุดฝักบัวอาบน้ำพร้อมที่วางสบู่ของ American standard

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง พร้อมพัดลมระบายอากาศของ Kruger

fuse miti (5)

ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่น ขนาด 2.9 x 3.2 เมตร ขนาดห้องค่อนข้างกว้าง การวางโซฟาพร้อมโต๊ะรับประทานอาหารแบบนี้ ก็เป็นไอเดียการจัดพื้นที่แบบ 2 in 1 ที่น่าสนใจ

fuse miti (6)

โดยห้องนี้มีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.5 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 52″-55″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตา

ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องรับแขก จะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เวลาเปิดประตูออกมาได้ช่องเปิดที่กว้างดี

fuse miti (7)

ภายในห้องนอนมีขนาด 2.6 x 3.2 เมตร สามารถวางเตียง Queen Size ขนาด 5 ฟุต ได้พอดีๆ โดยห้องนี้โครงการจะ Built-in ให้เฉพาะตู้เสื้อผ้าอย่างเดียวนะคะ

พื้นที่ปลายเตียงทางขวามือเป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่สามารถติดตั้งโต๊ะเครื่องแป้งแบบห้องตัวอย่างได้ ส่วนทางซ้ายมือโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าความสูงถึงฝ้าเพดานมาให้ โดยหน้าบานตู้เป็นหน้าบานสีขาวด้านหนึ่งส่วนอีกด้านเป็นกระจกเงาไว้ส่องความเรียบร้อยระหว่างแต่งตัวได้

เปิดตู้เสื้อผ้ามา ด้านในจะเป็นพื้นที่โล่งๆมีราวแขวนผ้าด้านล่างและด้านบนให้

พื้นที่ปลายเตียงมีระยะประมาณ  0.4 เมตร เป็นระยะที่ค่อนข้างแคบ คนตัวใหญ่หน่อยอาจจะเดินผ่านหรือแต่งตัวลำบากหน่อยนะ

พื้นที่ข้างเตียงมีระยะประมาณ 0.7 เมตร สามารถวางโต๊ะหัวเตียงขนาด 0.4-0.5 เมตร ได้สบายๆ

พื้นที่ข้างเตียงเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอนซึ่งเป็นทางออกระเบียง ระเบียงมีพื้นที่ 0.7 x 1.1 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30  เซนติเมตร ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำ สูงประมาณ 1.1 เมตร

ที่ระเบียงด้านหนึ่งมีการติดตั้งก็อกน้ำและเต้ารับแบบมีฝาครอบกันน้ำให้ ส่วนอีกด้านหนึ่งติดตั้งโคมไฟให้ 1 ดวง ด้านบนติดตั้ง Condensing แอร์แบบเป่าออกด้านนอก ทำให้ระเบียงไม่ร้อนเวลาเปิดแอร์

ถัดไปเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 29 ตารางเมตร ผังห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวลึก มีการจัดการพื้นที่ขนาดเล็กได้ลงตัวดี เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับส่วน Service อย่างครัวและห้องน้ำก่อน จากนั้นจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน และระเบียง ข้อดีของห้องนี้คือการจัดพื้นที่เป็นสัดส่วน การนำห้องครัวไว้ติดกับประตูทางเข้าจะทำให้เวลาเราซื้อกับข้าวหรือถือของเข้าห้องมาเยอะๆ ก็สามารถวางที่เคาน์เตอร์ครัว จากนั้นก็จัดการเก็บของให้เรียบร้อยแล้วไปนั่งพักผ่อนที่ห้องนั่งเล่นได้ โดยครัวที่โครงการให้มาเป็นครัวเปิดแต่เราสามารถกั้นห้องทำเป็นครัวปิด เวลาประกอบอาหาร กลิ่นจะได้ไม่ไปรบกวนส่วนอื่นๆภายในห้อง ส่วนข้อเสียคือห้องนี้เป็นแบบหน้าแคบทำให้ไม่ได้บรรยากาศแบบโปร่งๆนะคะ แต่จะเป็นลักษณะเหมือนห้อง Studio ค่ะ

ประตูห้องเป็นประตู HDF กรุลามิเนตลายไม้ มีตาแมวให้ตามมาตรฐานและกลอนประตูเป็น Digital Dool Lock ของ Sumsung รุ่น push and pull เหมือนกับห้องแรก

เปิดประตูมาจะเจอกับห้องขนาดประมาณ 7 x 3.23 เมตร ที่จัดฟังก์ชั่นให้เป็นห้องครัวเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และระเบียง ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร โดยเรานำห้องตัวอย่างมาเปรียบเทียบกับห้องจริงเพื่อจะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นนะคะ

มองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นพื้นที่ครัวทั้งหมด โดยห้องครัวมีขนาด  1.95 x 2.50 เมตร โครงการ Built-in ชุดครัวรูปตัว I มาให้เหมือนห้องแบบแรก พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร สามารถเช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกได้ง่าย

เคาน์เตอร์ครัวด้านล่างหน้าบาน Hi-gloss ส่วนด้านบนบุด้วยลามิเนต ทางซ้ายมือเว้นช่องไว้ให้สำหรับวางตู้เย็น

มือจับตู้ด้านล่างและด้านบนค่ะ

ข้างๆกันเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ บานประตูเป็น HDF สีขาว มีเกร็ดระบายอากาศ

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร และมีธรณีกั้นยกสูงขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร

อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัวรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มี Low wall ที่ผนังและชั้นวางของเล็กๆให้วางของได้เล็กน้อย ใต้อ่างล้างหน้าเป็นตู้บานเปิดของ Index สามารถเก็บของที่ใช้ภายในห้องน้ำได้ อ่างล้างหน้าขนาดปานกลางของ Grandhome พร้อมก๊อกน้ำสแตนเลสแบบก้านโยก ของ American Standard ส่วนที่ผนังติดตั้งกระจกเงามาให้ 1 บาน

ข้างๆกันเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ หน้าตาเหมือนห้องแบบแรก

ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัยแบบบานเลื่อน 2 ตอน สูง 2 เมตร ติดตั้งให้เรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.2 x 0.8 เมตรมีระยะให้อาบได้ตามมาตรฐาน ปูกระเบื้องแบบเดียวกับพื้นที่อื่นๆในห้องน้ำ คือกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ไม่มีการระดับลงไป แต่ก็จะมีตัวธรณีสูงประมาณ 3 เซนติเมตร รวมความสูงของกรอบฉากกั้นก็ประมาณ 5 เซนติเมตร

ชุดฝักบัวอาบน้ำพร้อมที่วางสบู่ของ American standard

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง พร้อมพัดลมระบายอากาศของ Kruger

ถัดไปเป็นพื้นที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่นที่ต่อเนื่องกัน แต่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน

พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นพื้นลามิเนตลายไม้

โดยพื้นที่ห้องนั่งเล่นมีขนาดประมาณ 1.90 x 3.23 เมตร สามารถ Built-in ชั้นวางทีวีเต็มพื้นที่แบบห้องตัวอย่างได้ โดยห้องมาตรฐานของจริงจะติดตั้งแต้ารับและที่เสียบสายเคเบิลไว้ให้เรียบร้อยย

ฝั่งตรงข้ามกันสามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้แต่ต้องเชคระยะก่อนซื้อหน่อยนะคะ

ถัดไปเป็นห้องนอนที่ถูกกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 2 ตอน แบบสไลด์ไปทางซ้ายทางเดียว เมื่อเปิดประตูออกมาแล้วจะได้ช่องเปิดค่อนข้างกว้าง

เข้ามาภายในห้องนอนขนาดประมาณ 2.6 x 3.23 เมตร ห้องนี้มีขนาดพอๆกับห้องนอนแบบแรกและมีการจัดวางฟังก์ชั่นเหมือนกันคือ โครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าปลายเตียงมาให้อย่างเดียวนอนนั้นเป็นพื้นที่โล่ง เหมาะกับการวางเตียง Queen Size ขนาด 5 ฟุต

ข้างเตียงเป็นทางออกระเบียง ซึ่งเป็นประตูบานเลื่อนคู่ขนาดใหญ่เต็มผนัง ระเบียงมีพื้นที่ 0.7 x 1.1 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30  เซนติเมตร ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำ สูงประมาณ 1.1 เมตร

สวิตซ์ไฟและเต้ารับให้ของ Panasonic สีขาวหน้าตาแบบนี้เลย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 7 July 2016

  • 1 Bedroom ขนาด  32.43 ตร.ม. ชั้น 4 ยูนิต 0402 ราคา 3,504,745 บาท หรือ 108,071 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 32.56 ตร.ม. ชั้น 7 ยูนิต 0703 ราคา 3,541,186 บาท หรือ 108,758 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 49.33 ตร.ม. ชั้น 10 ยูนิต 1001 ราคา 5,426,301 บาท หรือ 110,000 บาท/ตร.ม.

 

  • Fully Fitted
  • เพดานสูง 2.55 เมตร
  • Kitchen & Sink ของ FRANKE
  • Hob & Hoodของ FRANKE
  • Digital Doorlock ของ Samsung
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา ฟรี
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 42 บาท/ตร.ม./เดือน
  • โปรโมชั่น รับส่วนลด 200,000 บาท พร้อมทองคำหนัก 5 บาท (วันที่ 7-31 July 2016)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

 


เจาะลึกรวบยอด

โครงการนี้ตั้งอยู่บนทำเลที่ค่อนข้างเฉพาะตัวเหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในย่านนี้แล้วต้องการที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงานโดยใช้รถยนต์เป็นหลัก ตัวโครงการเองอยู่บริเวณปากซอยอินทามระ 22 ติดกับถนนสุทธิสารวินิจฉัย ซึ่งถนนเส้นนี้เชื่อมต่อถนนสายสำคัญๆหลายสาย ตั้งแต่ พหลโยธิน, วิภาวดีรังสิต,  รัชดาภิเษก ลาดพร้าว และตัวถนนยังเชื่อมต่อกับถนนประดิพัทธิ์ ที่รับรถมาจากถนนพระราม 5 และสามเสนอีกด้วยทำให้มีปริมาณรถผ่านเส้นนี้ค่อนข้างเยอะ แต่เสียดายให้ที่จอดรถมาน้อยไปหน่อยสำหรับโครงการที่สะดวกต่อการใช้รถได้มา 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

แม้ว่าทำเลแถวนี้จะเดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างสะดวก แต่สำหรับใครที่ไม่ค่อยได้วิ่งเส้นนี้มีเรื่องที่ต้องระวังนิดหน่อยคือการเดินรถแบบ One way ในชั่วโมงเร่งด่วน เช่น ตอนบ่ายวันจันทร์-ศุกร์ ที่จะต้องเช็คการเดินทางดีๆแต่ถ้าใครคุ้นเคยเส้นทางนี้อยู่แล้วทำเลนี้ถือว่าค่อนข้างดีเพราะมีทางลัดเยอะเดินทางได้สะดวก ในขณะที่การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะก็สะดวกไม่ได้ลำบากอะไรเพราะหน้าโครงการมีรถแท๊กซี่ มีรถเมล์ วิ่งผ่านเยอะ ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นพี่วิน ที่พร้อมรับส่งไป MRT สุทธิสาร ค่าบริการ 20 บาท ในระยะทาง 1.2 กิโลเมตร

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยและอาคารสำนักงานทั้งบนถนนสุทธิสาร และบนถนนวิภาวดี จึงมีความคึกคักค่อนข้างสูง โดยเฉพาะบริเวณรอบๆโครงการ ที่ฝั่งตรงข้ามจะมีเต้นท์ขายอาหาร Lotus Express เปิด 24 ชั่วโมง ธนาคารกสิกร ตึกแถวและอาคารพาณิชย์ที่มีร้านขายอาหาร ร้านกาแฟ และของกินให้เลือกหลากหลาย แถมข้างๆโครงการตรงซอยอินทามระ 22 ในช่วงเย็นก็จะมีร้านอาหารมาตั้งโต๊ะขายด้วย เรียกได้ว่าอาหารการกินในระยะใกล้ถือว่าอุดมสมบูรณ์มากทีเดียว เขยิบออกไปช่วงกลางซอยก็จะมีตลาดสุทธิสาร หรือในซอยประชาสุขก็มีของกินให้เลือกเยอะ ใครอยากไปเดินห้างจะมี 2 ทางเลือกใกล้ๆอย่างฝั่งลาดพร้าวก็มี Central ลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอล สวนลุมไนท์พลาซ่า หรือจะไปฝั่งรัชดา-พระราม 9 ก็มี The Street Esplanade รัชดา Central พระราม 9 หรือห้างฟอร์จูนก็มีอุปกรณ์ IT ราคาดีๆให้เลือก

เรื่องของวิวก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้สำหรับคอนโดตึกสูง สำหรับโครงการนี้ไม่มีตึกสูงบังวิวในระยะประชิด ยกเว้นทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะมีตึกวิริยะถาวรที่สูงหน่อยแต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดนะมีซอยคั่นอยู่ ส่วนฝั่งตรงข้ามซอยอินทามระ 22 เป็น BB Mansion อพาร์ทเม้นต์สูง 8 ชั้น ห้องที่อยู่ชั้น 4-8 จะโดนตึกนี้บังวิว แนะนำให้เลือกชั้น 9 ขึ้นไปจะดีกว่าค่ะ ส่วนทิศอื่นๆอย่างทิศเหนือ ก็ติดกับถนนสุทธิสาร ที่อาจมีเสียงรถวิ่งเยอะหน่อยแต่ก็ได้วิวโล่งๆไปถึง 5 แยกลาดพร้าวเลย ส่วนทางทิศตะวันออกและทิศใต้ ส่วนใหญ่เป็นตึกแถวและบ้าน 2 ชั้น จึงไม่มีปัญหาเรื่องการโดนบังวิว

วัสดุของโครงการให้มามีของดีนะแต่บางชิ้นก็ธรรมดาถ้าเทียบกับราคา เป็นการขายแบบ Fully Fitted คือให้เคาน์เตอร์ครัว Built-in ท็อปหินสังเคราะห์ ติดตั้งซิงค์ พร้อมเตาและที่ดูดควันของ Franke มาให้ทั้งชุด สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard และตู้เสื้อผ้าในห้องนอน พื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นพื้นลามิเนต ส่วนพื้นห้องครัวเป็นกระเบื้อง ซึ่งตรงนี้ถือว่าติดตั้งวัสดุตามการใช้งานได้ดี ประตูห้องเป็นบาน HDF ติดตั้ง Digital Door Lock ของ Samsung มาให้ของจริงดูดีนะคะทั้งสีประตูและตัว Digital Door Lock

การออกแบบโครงการทำออกมาได้ดูแปลกตาดีทีเดียว ตัวอาคารใช้โทนสี เทา-ขาว-ดำ ดูเรียบๆ แต่การออกแบบภายในเป็นลักษณะ Modern Luxury ใช้หินอ่อน มีการใช้สีทองที่มีความเงางามมาใช้ช่วยตกให้บรรยากาศดูหรูหราขึ้น และยังมีรายละเอียดการจัดไฟที่ช่วยให้ส่วนกลางต่างๆดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โถงทางเดินเป็น Double corridor และมีหน้าต่างที่ปลายทางเดินและที่โถงลิฟต์ทำให้แสงธรรมชาติและอากาศถ่ายเทเข้าอาคารได้ดี ส่วนการออกแบบห้องพักห้องเล็กจะเน้นเป็นห้องแนวหน้าแคบลึก จุดเด่นของห้องพักที่นี่คือจัดการห้องขนาดพื้นที่ใช้สอยน้อยๆได้คุ้มค่ามีฟังก์ชั่นครบและแบ่งการใช้งานได้ชัดเจนสะดวกในการใช้งาน ระยะดูทีวีมีให้กว้างใส่ทีวีใหญ่ได้สบาย ห้องที่ขนาดใหญ่กว่า 30 ตร.ม.จะได้บรรยากาศห้องนั่งเล่นที่ดีกว่าแต่จากการสอบถามห้องนี้แทบจะไม่เหลือแล้วค่ะ

สาธารณูปโภคให้มากำลังดีสำหรับ 281 ยูนิต โดย Facilities หลักๆเริ่มที่ชั้น 4 ที่มีสวนหย่อม ห้องอเนกประสงค์ และห้อง Mini Theater ที่มีอุปกรณ์ให้ครบ จะเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่น เปิด Youtube หรือจะเชื่อมต่อผ่านมือถือก็ทำได้ สะดวกสบายทีเดียว ห้องอเนกประสงค์ทำเป็น Double Space มาให้ถึงแม้พื้นที่จะมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็ช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งและน่าใช้งานมากขึ้น

ขึ้นมาที่ชั้น 12-13 เป็นพื้นที่สวนเล็กๆที่ต่อเนื่องกัน โดยสวนนี้จะไม่มีทางเข้าที่ชั้น 12 จะต้องเข้าจากชั้น 13 เท่านั้นแล้วค่อยเดินลงไปข้างล่าง บรรยากาศของสวนจะเน้นเป็นพื้นที่เล็กมีส่วนตัวสูง เหมาะกับมานั่งเล่นเวลาแดดร่มลมตกเพราะไม่มีหลังคาคลุมมาให้นะ ส่วนชั้นบนสุดอย่างชั้น 17 เป็นสวนที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำและห้อง Fitness ที่อยู่ชั้นดาดฟ้าซึ่งฝั่งสระว่ายน้ำได้วิวโล่งๆที่หันไปทาง 5 แยกลาดพร้าว ส่วนห้อง Fitness จะได้วิวทางดินแดงพระราม 9 เรียกว่าโครงการนี้ให้ Facilities มาหลายอย่างแต่จะมีพื้นที่ไม่เยอะนักตามสัดส่วนของโครงการค่ะ หากคุณเป็นคนที่มีงบประมาณซื้อคอนโดตารางเมตรละแสนต้นๆ และชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง คอนโดนี้ก็ค่อนข้างตอบโจทย์

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 105,000 บาท/ตร.ม., 7 July 2016

  • ทำเล 7.75/10 –  อยู่หน้าซอยอินทามระ 22 บนถนนสุทธิสาร รอบๆโครงการคึกคักมีทั้งร้านอาหาร เต้นท์อาหาร ธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์
  • เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกเพราะทะลุออกได้หลายเส้นทาง แต่บางช่วงเวลารถจะติดหนักมากและเป็นการเดินรถแบบ One Way
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – ห่างจาก MRT สุทธิสาร 1.2 กิโลเมตร สามารถนั่งพี่วินหน้าโครงการ หรือใช้บริการแท๊กซี่ได้
  • วัสดุ 7.5/10 – ขายแบบ Fully Fitted ให้ของดี ตามมาตรฐาน เลือกใช้วัสดุเหมาะสมกับฟังก์ชั่น
  • แบบ 8.0/10 – ออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานครบ และดูโอเคสำหรับพื้นที่ที่จำกัด
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – ส่วนกลางเยอะดี มีสวนให้เลือกใช้หลายจุด มีสระว่ายน้ำ, Fitness, ห้องอเนกประสงค์ และ Mini Theater

  • UPPER CLASS
  • 7.61 / 10.00

 

BOTTOM LINE

โครงการ Fuse สุทธิสาร -รัชดา เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านสุทธิสารที่มีการเดินทางสะดวก มีความอุดมสมบูรณ์สูง หาสาธารณูปโภคได้ง่ายในระยะเดิน ชอบห้องพักขนาดกะทัดรัด และชอบโครงการที่จัดหนักเรื่อง Facilities มีงบประมาณ 2.9 – 8 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนประมาณ 20,300 – 56,000 บาท/เดือน 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะค่ะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )