พาชม Dolce อุดมสุข พร้อมบทสัมภาษณ์คุณวิจาร คุปติพงศ์กุล แห่งบ.สิรยศ

หลังจากเปิด Pre-sale เมื่อกลางเดือนมกราคม Dolce อุดมสุข คอนโด low-rise ของบริษัท สิรยศ จำกัด ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากตลาดอสังหาฯ ปัจจุบันมียอดจองมากกว่า 50%

Dolce อุดมสุข เป็นอสังหาริมทรัพย์โครงการที่ 4 ของบริษัท สิรยศ จำกัด โดย 3 โครงการที่ผ่านมา คือ คอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่ Boutique รัชดา และ Boutique รัชดา 2 ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้เปิดขายเมื่อปี  2549 และสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ส่วนโครงการแนวราบ ได้แก่ วิลล่าเจ้าพระยา ใกล้ทางด่วนบางพูน เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ ปัจจุบันโครงการแล้วเสร็จและโอนให้ลูกค้าได้เกือบ 100% แล้ว

ล่าสุด Think of Living  ได้มีโอกาสเข้าพูดคุยกับคุณวิจาร คุปติพงศ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิรยศ จำกัด ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Dolce อุดมสุข

– สวัสดีค่ะ อยากให้คุณวิจารช่วยเล่าประวัติคร่าวๆ ให้ฟังหน่อยนะคะ

อันที่จริงผมทำงานในวงการอสังหาฯ มาโดยตลอด เป็นเวลานานกว่า 20 ปี ก่อนที่จะมาเปิดบริษัท สิรยศ จำกัด ผมได้ดำเนินการภายใต้บริษัท สเต็ปออฟโมเดิร์น จำกัด มีผลงานการพัฒนาโครงการร่มรื่นการ์เด้น – วังน้อย จ.อยุธยา ระหว่างปี 2537 – 2545 โครงการเป็นบ้านจัดสรรและที่ดินเปล่า ซึ่งเราสามารถพาบริษัทให้ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ได้โดยไม่เป็น NPL และจากนั้นเราได้พัฒนาอีก 1 โครงการ คือ โครงการร่มรื่นการ์เด้น – บางปะอิน จ.อยุธยา ระหว่างปี 2547 – 2548 โครงการมียอดขาย 100% ภายใน 2 ปี มูลค่า 600 ล้านบาท ซึ่งแนวราบทั้ง 2 โครงการนี้ เราพัฒนาในนามของ บริษัท สเต็ปออฟโมเดิร์น จำกัด แต่เมื่อเราขยับเข้ามาในกรุงเทพ เราพัฒนาในนามของ บริษัท สิรยศ จำกัด โดยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ และแนวราบ 1 โครงการ คือ บูทีครัชดา, บูทีครัชดา 2  และโครงการวิลล่าเจ้าพระยา ใกล้ทางด่วนบางพูน เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ ปัจจุบันโครงการแล้วเสร็จและโอนให้ลูกค้าได้เกือบ 100% แล้ว

– ความพิเศษของโครงการ Dolce อุดมสุข

เราพิถีพิถันกับ Sales Gallery มาก เพราะเราต้องการให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงความตั้งใจจริงที่จะทำให้ Dolce Condo เป็น Small Luxury condo ตามคอนเซ็ปต์ของโครงการ ทั้งวัสดุ,โทนสี และบรรยากาศ จะบอกแนวของคอนโดที่ลูกค้าสัมผัสได้ โดยเฉพาะห้องตัวอย่างจะต้องมี Dimension หรือมิติ เท่าของจริงมากที่สุด แม้กระทั่งเหลี่ยมมุมที่เป็นเสายื่นออกมาจากกำแพงในห้องตัวอย่าง ก็จะจำลองมาให้เหมือนของจริง นอกจากนั้นวัสดุที่ทางเราแถมให้จริง จะเหมือนหรือใกล้เคียงกับห้องตัวอย่างมากที่สุด เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าถ้าห้องตัวอย่างสวย ห้องลูกค้าที่ซื้อไปก็จะสวยน่าอยู่ได้แบบนี้เช่นกัน

โครงการ Dolce Condo มีความพิเศษคือ

1. เป็นห้องชุดคอนโดที่มีความสูงของพื้นถึงฝ้าเพดาน ถึง 2.85 เมตร โดยเรายอมลดพื้นที่ขายไป 1 ชั้น เพื่อให้ได้ห้องพักที่สูงโปร่ง น่าอยู่อาศัย ขอเชิญชวนมาชมห้องตัวอย่างครับ จะสัมผัสได้ถึงความคุ้มค่าและหายากที่จะมีใครกล้าทำเช่นเรา

2. Fully Functional, Full Facility, Fully Furnished, Full Quality

Fully Functional: แปลนห้องออกแบบมาแบบลงตัว เนื่องจากพฤติกรรมการอยู่อาศัยจากแนวราบไปแนวสูง เราจึงมองหาโอกาสในการนำพื้นที่ที่จำกัด มาศึกษาและออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่า (space efficient) และสามารถอยู่ได้จริง

Full Facility: ครบทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือ, ลิฟต์ 2 ตัว, ห้อง Fitness, Lobby Library

Fully Furnished: Built-in ของเราใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า และ อยุ่ได้จริง Built-in เรา builtให้จากพื้นถึงฝ้าเพดาน, ครัว Built-in ครบชุด, เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว, เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง

Full Quality: วัสดุทุกอย่างที่เราคัดสรรมา คุณภาพสูงกว่ามาตรฐานทั่วไป เราเน้นคัดสรรวัสดุที่แข็งแรง ทนทานและ ดูแลบริการหลังการขาย

3. Location ที่สุดยอดคุ้มค่า เหมาะกับเป็นที่พักของคนเมืองและนักลงทุน เนื่องจากอยู่ในทำเลที่ดีพร้อมในปัจจุบันแล้ว อนาคตอันใกล้จะดีมากยิ่งขึ้น จากการที่มีโครงการระดับใหญ่ของเดอะมอลล์กรุ๊ปมาสร้างใกล้โครงการ ห่างจากปากซอยทางเข้าโครงการประมาณไม่เกิน 100 เมตร เป็นโครงการระดับ Flagship Store ของเดอะมอลล์ ชื่อโครงการ เดอะบางกอกมอลล์ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่คาดการณ์ว่าจะเป็น Japanese Town อีกแห่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

– กลุ่มลูกค้าที่วางไว้

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของเรา หลักๆ คือกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องการความเป็นเมืองในราคาที่สามารถจับต้องได้ เพื่อหาพื้นที่ให้ความเป็นส่วนตัวแก่ตัวเองเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงราคาก็จะขยับลงมาสบายกระเป๋ามากกว่าอยู่บนเส้นสุขุมวิทหลัก และอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่เรามองไว้ คือ กลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น เนื่องจากเมื่อเราวิเคราะห์ทำเลแล้วจะเห็นได้ว่าบริเวณนี้เริ่มมีร้านสะดวกซื้อของคนญี่ปุ่น หรือ Lawson ซึ่งสามารถเป็นจุดชี้วัดได้ว่ากลุ่มคนญี่ปุ่นเริ่มมีการขยายตัวจากใจกลางสุขุมวิท 49 ออกมาเรื่อยๆ ดังนั้น กลุ่มญี่ปุ่นเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่เราจะไม่ทิ้งกลุ่มเป้าหมายของโครงการ สำหรับโครงการนี้เราได้ออกแบบให้เหมาะกับผู้ที่รักความเป็นส่วนตัวเนื่องจากมีจำนวนยูนิตน้อย ไม่พลุกพล่านเมื่อเข้าอยู่อาศัยจริง ทั้งยังให้ความรู้สึกในการอยู่อาศัยที่ไม่อึดอัด เนื่องจากเราออกแบบให้อาคารมีเพียง 7 ชั้น

– เนื่องจากในโซนสุขุมวิท-อุดมสุข มีอัตราการแข่งขันสูงมาก กังวลบ้างรึเปล่าคะ

ค่อนข้างกังวลครับ เพียงแต่เรามั่นใจในศักยภาพของ Product ที่เราสร้างขึ้น ถ้าเราสังเกตการก่อสร้างคอนโดในทำเลนี้ สุขุมวิท-อ่อนนุช จะเป็นทำเลที่มีคอนโดใหม่เยอะมาก ซึ่งก็เป็นการยืนยันความเป็น New PrimeLocation

เมื่อมีผู้แข่งขันเยอะ เราก็ต้องพัฒนาสินค้าของเรา จับลูกค้าให้ตรงกลุ่ม แล้วทำให้เขาประทับใจ มันง่ายที่จะเข้าไปอยู่ในสงครามราคา แต่เราจะเหนื่อย สู้เราเลือกทำสินค้าที่รายใหญ่ไม่คิดจะทำดีกว่า 

เราไม่ลงไปใน segment  ที่คนทำกันเยอะ ลูกค้าของเราอาจไม่ใช่กลุ่มใหญ่ แต่เป็นกลุ่มที่มีพลังจริงๆ และค่อนข้างละเอียด เพราะฉะนั้นถ้าเราจะอยู่ตรงนี้ เราต้องเน้นคุณภาพในการคัดเลือกผู้มารับเหมาก่อสร้าง เราไม่ได้เลือบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุด แต่เราเลือกจากความมั่นใจและศักยภาพในการทำงาน เพราะคอนโดมีความเสี่ยงสูง

– วางแผนในการพัฒนาบริษัทไว้อย่างไรในระยะ 5 ปี 

ในระยะ 5 ปี Dolce  จะต้องเป็นแบรนด์ที่คนเริ่มรู้จัก โดยเราตั้งใจไว้ว่าจะปล่อยอย่างน้อยปีละ 1  โครงการ ในอนาคตเราคงไม่จำกัดตัวเองที่ Low Rise  ถ้ามีโอกาสเราก็อยากทำ High Rise ซึ่งเราต้องมั่นใจในศักยภาพของบริษัทก่อน แนวทางการพัฒนาของเรา เราจะไม่สร้างอะไรที่ใหญ่เกินตัว เราต้องการทำสิ่งที่มีปราณีตและมีเอกลักษณ์

– คำถามและข้อแนะนำในการเลือกซื้อคอนโดสมัยใหม่

ในการเลือกซื้อคอนโดเบื้องต้น คงเป็นเหมือนสูตรสำเร็จที่มีแนะนำในอินเตอร์เน็ตทั่วไปคือ 

1. ทำเล ปัจจุบันรถไฟฟ้าเริ่มขยายไปเยอะมาก เพราะฉะนั้นใกล้รถไฟฟ้าอย่างเดียวคงตอบโจทย์ไม่ถูกทั้งหมด คงต้องพิจารณาจากไลฟ์สไตล์ของเราด้วย ทั้งการทำงาน การพักผ่อนติดอยู่กับใจกลางเมือง (สยาม,อโศก, หรือทองหล่อ)  เราคงต้องเลือกว่าเราสามารถเดินทางไปถึงได้ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที ซึ่งน่าจะเป็นเกณฑ์ที่เหมาะสม

2. ตัวสินค้า สินค้าที่มีการออกแบบรูปลักษณ์สวยงาม ห้องชุดมีการออกแบบการใช้พื้นที่เหมาะสมลงตัว สร้างด้วยวัสดุดี การก่อสร้างพิถีพิถัน จะอยู่หรือขายต่อก็ได้ราคาดีแน่นอน อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพดีทั้งในปัจจุบันและอนาคต

3. ผู้ประกอบการ ตำราส่วนใหญ่จะแนะนำให้เลือกรายใหญ่ ซึ่งก็ไม่แน่นอนเสนอไปว่ารายใหญ่จะต้องดีครบถ้วน  รายใหญ่หลายรายที่ลูกค้าคืนเงินจอง เพราะก่อสร้างล่าช้า รายเล็กถ้ามีปัจจัยให้เชื่อมั่นก็ควรจะพิจารณา มิฉะนั้นอาจพลาดโอกาสที่จะได้สินค้าดีๆที่รายใหญ่มักไม่เลือกทำเพราะกำไรน้อย

4. ราคา พิจารณาให้ครบถ้วนกับสิ่งที่ได้รับอย่าดูราคาต่อตารางเมตรเพียงอย่างเดียว ต้องเป็นราคาที่เราสามารถจ่ายได้โดยชีวิตไม่ลำบากเกินไป

ก่อนจะลากันไปกับวันนี้ เราขอปิดท้ายบทสัมภาษณ์ด้วยภาพสวยๆ จาก Dolce อุดมสุข ^^