รีวิวฉบับที่ 1236 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปดูบ้านแถวบางนา-ตราด กม. 13 กันบ้าง กับโครงการ บ้านริมสวน ซีนเนอรี บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในซอยวัดหลวงพ่อโตเป็นซอยใหญ่เชื่อมถนนบางนา-ตราด และเทพารักษ์ รวมทั้งอยู่ไม่ไกลจาก Mega Bangna จากสวนหลางบ้านและที่ดิน สำหรับใครที่เน้นเดินทางเข้า-ออกเมืองด้วยถนนบางนา-ตราดเป็นหลัก มองหา Product บ้าน ในราคาที่พอจับหยิบได้ ถูกกว่าบ้านที่ติดกับถนนบางนา-ตราดเลย ตามไปดูโครงการนี้กันค่ะ

 

รีวิวฉบับก่อน Mr.Oe ได้พาไปชมโครงการนี้มาบ้างแล้ว สำหรับรีวิวนี้เลยจะพาไปอัพเดตเฟสใหม่ของโครงการที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้านให้ Modern มากขึ้น รวมทั้งดูบรรยากาศภายในโครงการที่ผ่านไปแล้วประมาณ 3-4 ปีกันค่ะ สามารถอ่านรีวิวโครงการเมื่อปี 2013 โดย Mr.Oe (คลิกที่นี่)

 

Fact @ 06 December 2016

  • Baan Rimsuan Scenery (บ้านริมสวน ซีนเนอรี)
  • บริษัท สวนหลวงบ้านและที่ดิน จำกัด
  • MAIN – UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
  • เนื้อที่โครงการ 51-0-61 ไร่ จำนวน 283 ยูนิต
  • บ้านแฝด Scene ที่ดิน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 4.15 ล้านบาท
  • บ้านแฝด Serene ที่ดิน 40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 4.35 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว Scenario ที่ดิน 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.98 ล้านบาท
  • เพดานชั้น 1 สูง 2.7 เมตร, ชั้น 2 สูง 2.7 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 4.15 ล้านบาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : ปี 2555
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 02-186-8423

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.618393, 100.715957

บ้านริมสวน ซีนเนอรี ตั้งอยู่ช่วงบางนา-ตราด กม. 13 ในซอยวัดหลวงพ่อโต (ถนนสุขาภิบาล 6) ตรงเข้ามาประมาณ 1.7 กม. จะเห็น 3 แยกเล็กๆ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนรัตนพิศาล 2 ตรงเข้ามาประมาณ 300 ม. ก็จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ

ที่ตั้งโครงการตั้งอยู่แถบบางนา-ตราด ช่วงกม. 13 ส่วนใหญ่ทำเลนี้จะเป็นทำเลโครงการแนวราบทั้งหมดนะคะ จัดเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างตัวเมืองสมุทรปราการที่อยู่บนถนนสุขุมวิทและออกเมืองไปทางฉะเชิงเทรา ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ๆ ขับรถไปได้ง่ายๆ เลย จะมีอยู่ทั้งถนนบางนา-ตราด และถนนเทพารักษ์ อย่างถนนบางนา-ตราด ก็จะเป็น Market Village ที่มีทั้ง Tesco Lotus และ HomePro อยู่ภายใน มี Makro และตลาดกิ่งแก้วอยู่ฝั่ง หรือเลยไปไกลอีกหน่อยก็จะเป็นห้างใหญ่เลยอย่าง Mega Bangna สามารถมาช็อปปิ้ง ดูหนังกันได้โดยไม่ต้องเข้าเมืองไปไกล มาที่ฝั่งเทพารักษ์ ก็มี Big C และตลาดน้ำอยู่เช่นเดียวกันค่ะ โดยรวมแล้วทำเลนี้เหมาะกับคนที่มักเดินทางเข้า-ออกเมืองอยู่บ่อยๆ หรือทำงานบนถนนบางนา-ตราด และมีรถยนต์ส่วนตัวนะคะ

ขยับเข้ามาภายในซอยโครงการ หรือที่คนแถวนี้มักรู้จักคือ ซอยวัดหลวงพ่อโต ซอยนี้จัดเป็นซอยใหญ่ คึกคัก เพราะเป็นซอยที่สามารถออกไปยังถนนเทพารักษ์ได้ รวมทั้งภายในซอยมีวัดบางพลีใหญ่ในหลวงพ่อโตซึ่งเป็นวัดดังในย่านนี้อีกด้วย ความอุดมสมบูรณ์ภายในซอยนี้มีพอสมควรนะคะ ใครขี้เกียจไปไหนไกลก็พึ่งพาร้านค้าภายในซอยนี้ได้เลยค่ะ

การเดินทางหลักๆ ของโครงการใช้ได้ทั้ง 2 ถนนใหญ่ คือ ถนนบางนา-ตราด และ ถนนเทพารักษ์ สำหรับถนนบางนา-ตราดนั้นเป็นถนนใหญ่ใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก และมีจุดตัดกับถนนอื่นๆ อีกทั้งถนนสุขุมวิทที่แยกบางนา ตัดถนนศรีนครินทร์ที่แยกศิครินทร์ ตัดกับวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้รวมทั้งถนนกิ่งแก้วที่สามารถตรงไปยังสุวรรณภูมิได้อีกด้วย ทำให้การเดินทางเข้าไปยังโครงการหรือจากโครงการไปยังจุดต่างๆ ได้ไม่ยาก ส่วนถนนเทพารักษ์เป็นถนนคู่ขนานกับถนนบางนา-ตราด ตรงเข้าไปเชื่อมกับถนนสุขุมวิทเช่นกันแต่จะตัดบริเวณแพรกษา ใกล้ย่านอุตสาหกรรม ซึ่งใครทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมละแวกนั้นใช้เส้นนี้จะใกล้กว่าค่ะ แต่ถนนเส้นนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นถนนที่มีรถค่อนข้างหนาแน่นทีเดียวนะคะ ดังนั้นอาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางด้วยนะคะ หรือจะเลี่ยงเข้าถนนสุขาภิบาล 4 ตรงขนานกับถนนเทพารักษ์ไปเรื่อยๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ

ซูมเข้ามาอีกหน่อยสำหรับทางเข้าหลักของโครงการนั้นจะต้องพึ่งพิงถนนสุขาภิบาล 6 เพราะถนนรัตนพิศาล 2 นั้นจะไม่มีทางไปทะลุออกบางนา-ตราดได้นะคะ ในส่วนของทางเข้าหลักจากถนนสุขาภิบาล 6 นั้นจะเป็นทางเข้า A นะคะ ส่วนทางเข้า B นั้นก็สามารถใช้ได้เช่นกันแต่จะเป็นถนนย่อยลงมาอีกหน่อย และไม่แน่ใจว่าเปิดให้เข้า-ออกได้ตลอดไหมนะคะ ส่วนทางหลักที่โครงการแนะนำมาก็จะเป็นทางเข้า A นี่แหละค่ะ ^^

เส้นทางที่เราจะไปกันในวันนี้เริ่มต้นจากจุดตัดกับถนนศรีนครินทร์และถนนบางนา-ตราด ฝั่งขาออกเมืองนะคะ เราจะตรงไปเรื่อยๆ ตัดถนนกาญจนาภิเษก ถนนกิ่งแก้ว และตรงไปอีกจากจุดตัดกับถนนกิ่งแก้วประมาณ 5 กม. จะเจอสะพานกลับรถ (เกือกม้า) จากนั้นกลับรถแล้วตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 3.8 กม. ก็จะเจอซอยวัดหลวงพ่อโต หรือถนนสุขาภิบาล 6 จากนั้นตรงเข้ามาในซอยประมาณ 1.6 กม. จะเจอ 3 แยกเล็กๆ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัตนพิศาล 2 ซึ่งเป็นถนนย่อยที่เชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 6 ตรงมาอีกประมาณ 300 ม. ก็จะถึงโครงการค่ะ เดี๋ยวเราตามไปดูเส้นทางและบรรยากาศในการเดินทางกันค่ะ

จากจุดตัดถนนศรีนครินทร์เพื่อเข้าถนนบางนา-ตราด เราจะขับมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ ยาวๆ เลยค่ะ

ผ่าน Chic Republic ซึ่งเป็นศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยจะเป็น Index Living Mall ขายเฟอร์นิเจอร์เหมือนกัน

ตรงมาตามทางเรื่อยๆ ผ่าน Tesco Lotus Extra บางนา ใครจะแวะซื้อของเครื่องใช้ก่อนเข้าบ้านก็สะดวกดีค่ะ สำหรับคนทำงานในเมืองกำลังจะกลับบ้าน จริงๆ แล้วจะมี Tesco Lotus ที่ใกล้กว่านี้แต่อยู่คนละฝั่งถนน มาช็อปฝั่งนี้เลยไม่เสียเวลากลับรถอีกรอบ

ตรงมาอีกหน่อยในแผนที่จะเห็นเป็นจุดตัดกับถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ซึ่งฝั่งซ้ายนั้นจะมีทางไปออกถนนอ่อนนุช แถบลาดกระบัง สุวรรณภูมิ หรือใครจะขึ้นถนนกาญจนาภิเษกตรงนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ ส่วนทางซ้ายอีกฝั่งนึงนั้นเป็น Mega บางนา และ Ikea ค่ะ จัดเป็นห้างใหญ่ในละแวกนี้เลย ใครเบื่อๆ บ้านในวันหยุดก็มาช็อปปิ้ง มาดูหนังที่นี่ได้เลยไม่ต้องถ่อเข้าเมืองไกล

เราตรงมาอีกหน่อยก็จะขอเบี่ยงเข้าเลนด้านในกันก่อน เพราะอีกหลายโลเหมือนกันกว่าจะถึง

ตรงยาวๆ มาเลยค่ะ เมื่อผ่านถนนกิ่งแก้วแล้วเราก็จะเริ่มเบี่ยงซ้ายเพื่อออกไปขึ้นสะพานกลับรถนะคะ

ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอ Market Village ที่ภายในมีทั้ง Tesco Lotus และ HomePro ค่ะ ถือว่าเป็นห้างที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดแล้ว โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม. อยู่ในระยะที่ขับรถมาได้สบายๆ

ส่วนฝั่งตรงข้ามกับ Market Village ก็จะเป็น Makro และตลาดสดกิ่งแก้วค่ะ

ขับตรงมาช่วงที่เลยมหาวิทยาลัยหัวเฉียว เฉลิมพระเกียรติมาแล้วเราจะเริ่มเบี่ยงซ้ายเพื่อไปกลับรถที่สะพานเกือกม้ากัน

ขึ้นสะพานกลับรถค่ะ อย่าซิ่งมากนะ

กลับรถมาแล้วตรงมาเรื่อยๆ ยาวๆ เลยผ่านวัดบางโฉลงใน ด้านหน้ามีตลาดบางโฉลงดูเป็นตลาดใหญ่ดี ใครเคยมาซื้อกับข้าวแถวนี้มาแนะนำกันได้นะคะ

จากนั้นเราก็เดินหน้าต่อ เห็นป้ายโครงการตามเสาไฟฟ้าเรื่อยๆ ตลอดทาง ก็ตามป้ายเลยจ้า

และแล้วก็ถึงซอยทางเข้าโครงการแล้ว นั่นก็คือซอยวัดหลวงพ่อโต หรืออีกชื่อเป็นทางการหน่อยก็คือ ถนน สุขาภิบาล 6

สำหรับซอยนี้เป็นซอยใหญ่ทีเดียวนะคะ ซึ่งจะสังเกตง่ายๆ อย่างซอยไหนที่มีวัดใหญ่นั้นส่วนใหญ่แล้วจะค่อนข้างคึกคักทีเดียวค่ะ และนอกจากนี้ซอยนี้ยังเป็นซอยที่สามารถไปทะลุออกถนนเทพารักษ์ด้านหลังได้ด้วย และหน้าปากซอยนั้นก็มีรถ 2 แถวเรียงตัวเป็นตับเลย

รถในซอยมากจริงๆ ตลอดข้างทางก็มีร้านอาหารเพิงตามทางและอาคารพาณิชย์ต่างๆ ค่อนข้างคึกคักอยู่เหมือนกันค่ะสำหรับบริเวณที่อยู่ใกล้หน้าปากซอย

ตรงเข้ามาอีกหน่อยบรรยากาศจะเงียบลงมาหน่อย แต่ก็มีร้านอาหารข้างทางเรื่อยๆ อยู่นะคะ อย่างร้านสีแดงส้มฝั่งซ้ายมือนี้เป็นร้านขนาดกลางๆ ขายก๋วยเตี๋ยว ขายข้าว หลายเมนูเหมือนกัน แต่วันไปโครงการได้ไปลองก๋วยเตี๋ยวเป็ดมา จานใหญ่มากในราคาสบายกระเป๋า

ตรงมาอีกหน่อยก็มีอาคารที่รวมร้านอาหารต่างๆ ไว้ร่วมกันเป็น Community เล็กๆ และทีเด็ดเลยน่าจะเป็นชาบู นางในนั้นเอง พูดแล้วหิวขึ้นมาทันที

เรายังตรงไปอีกนะ จนเจอ 3 แยกแบบนี้ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนรัตนพิศาล 2 โลด

ถนนรัตนพิศาล 2 นี้เป็นถนนสั้นๆ ที่เชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 6 ช่วงต้นซอยจะเห็นอาคารพาณิชย์และบ้านเล็กบ้านน้อยบ้างค่ะ ส่วนด้านในลึกๆ จะเป็นโกดังเกือบทั้งหมดเลย ดังนั้นในซอยนี้เราจะเห็นรถใหญ่ค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะ

ตรงมาประมาณ 300 ม. ก็เจอหน้าโครงการแล้วค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ที่ดินโครงการอยู่ติดถนนด้านหน้าและยาวไปถึงคลองสวนด้านหลังเลย บรรยากาศโดยรอบของโครงการค่อนข้างสงบส่วนใหญ่จะเป็นโกดังเก็บสินค้า ไม่มีเสียงดังแต่มีรถใหญ่เข้า-ออกเยอะ และด้านหน้าปากทางถนนจะมีชุมชนเล็กๆ ไม่ได้คึกคักมากนัก

  • ทิศเหนือ : บ้านเดี่ยว, โกดังเก็บสินค้า
  • ทิศตะวันออก : โกดังเก็บสินค้า
  • ทิศใต้ : ที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันตก : คลองสวน

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • วัดบางพลีใหญ่ในหลวงพ่อโต ~1.8 กม.
  • Market Village ~2.3 กม.
  • ตลาดน้ำโบราญ บางพลี ~1.9 กม.
  • โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 ~ 3 กม.
  • โรงพยาบาลบางพลี ~3.5 กม.
  • Big C บางพลี ~3.6 กม.
  • โรงพยาบาลบางนา 5 ~5.3 กม.
  • ตลาดกิ่งแก้ว ~5.4 กม.
  • Makro บางพลี ~5.5 กม.
  • Mega Bangna ~7 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

มาดูที่ Master Plan กันบ้างนะคะ สำหรับเนื้อที่ดินโครงการมีขนาด 51 ไร่กว่า ภายในวางผังให้มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 283 ยูนิต ซึ่งแบ่งงานก่อสร้างออกเป็น 6 เฟสด้วยกัน ปัจจุบันทยอยก่อสร้างในเฟสที่ 3 และ 4 อยู่นะคะ เริ่มจากทางเข้า-ออกโครงการจะมีอยู่ฝั่งเดียวคือติดกับถนนรัตนพิศาล 2 ซึ่งเป็นถนนเล็กๆ เชื่อมเข้ากับถนนสุขาภิบาล 6 ตรงเข้ามาภายในโครงการด้านหน้ายังเว้นที่ดินว่างไว้อยู่ 2 ข้างทางของถนน ซึ่งยังไม่มีโครงการจะพัฒนาเป็นอะไรนะคะ อาจจะต้องคอยสอบถามทางโครงการเพิ่มเติมกันหน่อย มีตรงเข้ามาถึง Sale Office แล้ว ตัวถนนจะแยกออกเป็น 3 ทาง โดยถนน Main อยู่ตรงกลาง กว้าง 15 ม. ส่วนถนนรองกว้าง 9 ม. ค่ะ ทั้ง 3 เส้นจะมีซอยเล็กๆ เชื่อมเข้าด้วยกัน

ในส่วนของสาธารณูปโภคโครงการมี 2 จุดใหญ่ๆ แบ่งเป็นโซนด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อให้ลูกบ้านทั้งโซนด้านในและด้านนอกใช้งานได้สะดวก เนื่องจากความลึกของหมู่บ้านจากบ้านด้านในสุดโครงการถึงหน้าโครงการก็ค่อนข้างไกลเหมือนกันนะคะ การแบ่งส่วนกลางออกเป็น 2 จุดถือว่าเป็นข้อดีทีเดียว ซึ่งส่วนกลางด้านหน้านั้นจะมีส่วน Club House ที่ภายในมีพื้นที่นั่งเล่น Fitness และสระว่ายน้ำ รวมทั้งยังมีสนามหญ้าและสนามเด็กเล่นให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่วิ่งเล่นอีกด้วย ในส่วนของส่วนกลางด้านหลังโครงการจะเล็กลงมาหน่อยคือมีสวน พื้นที่นั่งเล่น และสนามพัตต์กอล์ฟค่ะ

ว่ากันต่อสำหรับตำแหน่งหน้าบ้านนั้น จะหันเข้าถนนทั้งหมด โดยอยู่ในทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เหมาะสมในการวางตำแหน่งหน้าบ้านเพื่อให้รับลมได้ตลอดทั้งปีอย่างทิศเหนือนั้น ข้อดีคือเรื่องของทิศทางแดด ที่จะได้แดดอ่อนๆ เข้าทางหน้าบ้านในช่วงเช้า ไม่ร้อนมาก ส่วนทิศใต้ข้อดีคือมีลมพัดผ่านเข้าทางหน้าบ้านได้ดี แค่เปิดหน้าต่างหลังบ้านเพิ่ม ลมก็พัดเข้าบ้านเย็นสบายแล้วค่ะ ซึ่งก็ต่างมีจุดเด่นต่างกันหน่อยนะคะ แล้วแต่ใครให้ความสำคัญแบบไหนค่ะ

เริ่มจากด้านหน้าโครงการ อยู่ติดถนนย่อยรัตนพิศาล 2 มีป้ายโครงการเด่นสวยงาม

ถนนทางเข้าช่วงหน้าโครงการปูด้วยพื้นคอนกรีตสแตมป์ดูสวยงาม ในส่วนประตูทางเข้า-ออกแบ่งเป็น 2 ฝั่งคั่นด้วยป้องพี่รปภ.ตรงกลางนะคะ การเข้า-ออกของที่นี่จะใช้ดูจาก Sticker ติดหน้ารถลูกบ้านนะคะ ส่วนเป็นประตูบานเลื่อนเปิดอัตโนมัติ (โดยพี่ยามจะเป็นคนกดรีโมทให้)

เข้ามาภายในโครงการถนนเปลี่ยนเป็นคอนกรีตปกติแล้วยาวไปเรื่อยๆ สองข้างทางและเกาะกลางปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ ดูร่มรื่นระดับนึงค่ะ

ส่วนพื้นที่ว่างทั้ง 2 ด้านของถนนหลักนั้นจะยังไม่ได้มีโครงการพัฒนาเป็นอะไรนะคะ ซึ่งอาจจะมีการพัฒนาในภายหลัง อย่างไรก็อย่าลืมติดตามข่าวหรือลองสอบถามกับทางเซลล์ดูนะคะ

ถนน Main หลักจะตรงไปเรื่อยๆ จนสุดที่ดินเลย ส่วนบริเวณนี้จะแยกออกเป็น 3 แยก ใครบ้านอยู่ถนนรองทั้ง 2 ฝั่งก็เลี้ยวซ้าย-ขวา ได้เลย ไม่ต้องวิ่งเข้าถนน Main ไปทะลุออกซอยย่อยอีก

หันมาทางซ้ายเป็น Sale Office ในปัจจุบันนะคะ ซึ่งในอนาคตก็จะมีการปรับเป็นส่วนนิติบุคคลต่อไป

ถนน Main มีความกว้างอยู่ที่ 15 ม. จากนั้นตรงมาอีกหน่อยความกว้างของถนนก็จะลดลงไปเหลือประมาณ 12 ม. เพราะพื้นที่สวนยื่นออกมาทำให้กินพื้นที่ถนนเข้ามาหน่อยค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางจุดแรกนี้มีขนาดประมาณ 1.2 ไร่ เลยนะคะ ก็ถือว่าให้มาเยอะพอสมควรนะ

ภายในทางทางเดินด้านข้างเลาะไปกับสนามหญ้าแบบนี้ ด้านข้างปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาได้ดี สุดทางจะเป็นส่วนสนามเด็กเล่นค่ะ

สนามเด็กเล่นนี้เด็กๆ คงชอบกันน่าดู มีเครื่องเล่นให้ทั้งหมด 4 เครื่องค่ะ พื้นบริเวณนี้ดูด้วยกระเบื้องยางมีความนุ่ม เผื่อเวลาเด็กๆ วิ่งเล่นแล้วหกล้มจะได้ไม่เป็นแผลหนักมากเท่าวิ่งบนพื้นปูนปกติ

ด้านหลังมีศาลาไว้นั่งเล่นด้วยนะ เผื่อผู้ปกครองออกมาเฝ้าเด็กๆ เล่นกันก็มานั่งเล่น อ่านหนังสือชิวๆ ในสวนได้ระหว่างรอ

อีกด้านนึงถัดจากสนามหญ้าไปจะเป็นศาลานั่งเล่นและ Club House

บริเวณศาลานั่งเล่นอีกจุดหนึ่ง มีบ่อน้ำด้านหน้าด้วยดูสวยงามดีค่ะ

ภายในศาลามีพื้นที่ให้นั่งเล่นได้แต่ที่ให้จะเป็นเพียงม้านั่งเท่านั้นนะคะ ใครอยากนั้นสบายๆ เพลินๆ ก็เอาเก้าอี้สนามแบบพับได้มากันเองได้เลย

มาต่อกันที่ส่วน Club House กันบ้างนะคะ สำหรับรีวิวฉบับที่แล้วที่ Mr.Oe มารีวิว ส่วน Club House ยังไม่เสร็จดี แต่ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราเข้าไปดูข้างในกันค่ะ

ก่อนเข้าไปภายในลูกบ้านจะต้องสแกนบัตรเข้าใช้ก่อนด้วยนะคะ เป็นการป้องกันคนนอกเข้ามาใช้ส่วนกลางได้อีกขั้นตอนนึง

เข้ามาด้านในทางซ้ายมือคือห้องฟิตเนส ส่วนด้านขวาจะเป็นห้องน้ำแยกหญิง/ชายค่ะ

ภายในห้องฟิตเนสค่อนข้างโปร่งโล่งทีเดียวด้วยกระจกรอบทิศ ด้านในมีเครื่องเล่นแต่ละชนิดมา 1 ตัว ทั้งหมดประมาณ 5 เครื่องและมีโซนเวทให้ด้วยค่ะ

ได้กระจกบานใหญ่ส่องไปเห็นวิวสนามหญ้าเขียวๆ สดชื่นด้านนอก

ภายในห้องน้ำแยกหญิง/ชาย ตกแต่งออกมาดูสวยงาม มีอ่างล้างมือ ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำให้อย่างละ 1 ห้อง

ภายในห้องอาบน้ำมีที่นั่งอาบน้ำหรือจะใช้เป็นที่วางของน่าจะเหมาะกว่าเพราะจากที่นั่งค่อนข้างไกลกับฝักบัวไปหน่อย ภายในสะอาดเรียบร้อย

ส่วนห้องน้ำได้วิวแบบนี้ค่ะ ออกแบบให้มีพื้นที่เป็นแบบ Semi-Outdoor เล็กๆ ด้านข้างนั้นเป็นสวนหินไม่มีหลังคา ซึ่งดึงแสงธรรมชาติจากด้านบนลงมาเกิดเป็นบรรยากาศแบบนี้ สวยดีค่ะ

ออกมาจากห้องน้ำแล้วกำลังจะขึ้นชั้น 2 ไปดูส่วนสระว่ายน้ำเท่านั้นแหละ เห็นเครื่องบินลำโตผ่านหน้ากล้องพอดีเลย จะบอกว่าทำเลนี้เป็นเส้นทางของเครื่องบินที่จะไป Landing ลงสุวรรณภูมินะคะ เรื่องของเสียงรบกวนนี้ถ้าอยู่ด้านนอก อย่างส่วน Club House นั้นก็พอได้ยินเสียงอยู่นะ แต่ถ้าเข้ามาในส่วนบ้านแล้ว เปิดแอร์ปิดหน้าต่างก็ไม่ได้เสียงดังรบกวนมากนักค่ะ

ในชั้น 2 เป็นส่วนสระว่ายน้ำแบบ Outdoor แบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ค่ะ ขนาดกำลังดี สามารถใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้อยู่ค่ะ

ด้านข้างสระมีพื้นที่นั่งเล่นใต้หลังคา วาง Day Bed ให้ 2 ตัว

วิวจาก Day Bed นอกจากจะเห็นสระว่ายน้ำแล้วก็เลยไปถึงสนามหญ้าด้วยนะ

ขึ้นไปดูชั้น 3 กันต่อค่ะ

ชั้น 3 นี้เขาออกแบบให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือใครจะมาปิกนิกบนนี้ก็ได้อยู่นะ

นอกจากนี้ก็มีชุดโต๊ะเก้าอี้ให้ 2 ชุด บรรยากาศจากตรงนี้ดีมากอะ มีลมพัดตลอดเลย

เดินต่อไปตามถนนหลัก เข้าไปส่วนโซนด้านหลังโครงการกัน

จะสังเกตว่าด้านข้างถนนนั้นปลูกไม้พุ่มแบบนี้ให้ด้วย ถือเป็นข้อดีของบ้านที่ติดถนนหลักนะคะ เพราะทำให้หน้าบ้านดูสวยงาม ในขณะที่เป็นพื้นที่ส่วนรวมมีนิติหรือโครงการมาดูแลให้ ซึ่งพุ่มไม้แบบนี้จะได้เฉพาะหน้าบ้านของถนนหลักเท่านั้นนะคะ ถนนรองไม่ได้ปลูกให้แบบนี้นะ

ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงวนเวียน ซึ่งมีทางแยกไปถนนรองทั้ง 2 ฝั่ง เดี๋ยวเราไปดูบรรยากาศของถนนรองกันบ้าง

ถนนย่อยที่เชื่อมถนนหลักกับถนนรองไว้เป็นถนนสั้นๆ แบบนี้ เขาปลูกต้นไม้ใหญ่ให้แบบนี้ทั้ง 2 ฝั่งเลย ใครซื้อบ้านแปลงมุมก็โชคดีไปเพราะได้ความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ข้างถนนแบบนี้ไปด้วย 🙂

ถนนรองกว้าง 9 ม. ข้างทางไม่ได้ปลูกต้นไม้พุ่มไว้ให้อย่างถนนหลักนะคะ แต่โดยรวมก็ดูสะอาดเรียบร้อยดีค่ะ

ตลอดทั้งโครงการนั้นจะติดตั้ง CCTV ให้ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน

กลับมาที่บริเวณวงเวียนกันเหมือนเดิมนะคะ บริเวณนี้ก็จะมีสวนอีกจุดของโครงการ ซึ่งมีขนาดประมาณไร่กว่าๆ เช่นกัน แต่จะไม่มี Club House และสนามเด็กเล่นนะคะ แต่จะเป็นสนามหญ้าและสนามพัตต์กอล์ฟเล็กๆ เดี๋ยวเข้าไปดูกัน

นี่แหละค่ะสนามพัตต์กอล์ฟซึ่งจัดไว้ให้ 5 หลุม

อีกมุมนึงของส่วนพัตต์กอล์ฟ ด้านหลังมีที่นั่งให้

จากนั้นก็เป็นทางเดินยาวๆ ไปถึงศาลานั่งเล่นด้านหลังสวน ส่วนด้านข้างเป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่ให้เด็กๆ ได้มาวิ่งเล่นกันได้

ทำทางเดินประกอบกับวางตำแหน่งของม้านั่งได้สวยทีเดียวค่ะ เชื่อมไปถึงด้านหลังที่เป็นศาลานั่งเล่น

มาดูศาลาหน้าตรงกันบ้าง ด้านในจัดให้มีม้านั่งอยู่ 2 ตัว เหมือนด้านนอกเลย หันหน้าไปทางสนามหญ้า เผื่อผู้ปกครองมาปล่อยเด็กๆ วิ่งเล่นสนามหญ้า ก็นั่งรอด้านในศาลาชิวๆ ได้

 

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ แบ่งสระเด็กลึก 0.6 ม. สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม.
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 เครื่อง
  • สวนสาธารณะ 2 ไร่กว่า
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • Sticker Access
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า
  • ถนนหลักกว้าง 15 ม. และถนนรองกว้าง 9 ม.

 


Product Walkthrough

โครงการนี้มีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบนะคะ โดยในรีวิวที่แล้ว Mr.Oe ได้พาไปดูแบบบ้านแฝดกันไปแล้ว ดังนั้นในรีวิวนี้จะพาไปดูบ้านเดี่ยวในเฟสใหม่กันบ้างนะคะ ซึ่งทางโครงการได้มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาบ้านในสไตล์ที่ Modern ขึ้นด้วยค่ะ โดยบ้านเดี่ยวหลังที่จะพาไปดูนี้ คือ Scenario ขนาดที่ดินมาตรฐาน 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ เหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่ดินและพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นอีกหน่อย ได้ขนาดห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องที่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ แตกต่างจากบ้านแฝดที่มีขนาดเหมาะกับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตมากกว่า และได้ครัวในบ้านที่เป็นครัวปิดเป็นสัดส่วน ทำอาหารหนักได้ดี ไม่จำเป็นต้องไปวางครัวไทยอยู่บริเวณลานซักล้างด้านหลังบ้าน ซึ่งจะได้ใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าหรือซักผ้าได้ นอกจากนี้สำหรับใครที่มีผู้สูงอายุก็สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่รับประทานอาหารกั้นเป็นห้องนอนได้ แล้วขยับพื้นที่รับประทานอาหารเดิมมาวางตรงพื้นที่ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารได้นะคะ

ในชั้นบนนั้นจะแบ่งเป็น 3 ห้องนอน โดยมีโถงกลางแจกไปยังทั้ง 3 ห้อง โดยบริเวณโถงกลางนี้จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ติดหน้าต่าง สำหรับเป็นที่ตั้งโต๊ะหมู่บูชาพระ หรือทำเป็นที่นั่งเล็กๆ อ่านหนังสือ หรือโต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัดได้ค่ะ ส่วนห้องนอนใหญ่จะได้เป็น Master Bedroom คือมีห้องน้ำในห้องนอน และมีพื้นที่สำหรับจัด Walk in Closet ได้

หน้าตาบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern เน้นความเรียบง่ายและใช้สี Monotone ซึ่งจะมีให้เลือกอยู่ 2 เฉด คือสีครีมและสีเทาอ่อนค่ะ รูปลักษณ์ภายนอกตัวบ้านดูค่อนข้างโปร่งเพราะได้ช่องเปิดขนาดใหญ่พอสมควร ส่วนงานโครงสร้างของบ้านใช้ระบบ Conventional คือ ใช้เสา – คานปกติ ก่อผนังด้วย EkoBlok ซึ่งจะมีคุณสมบัติพรุนคล้ายคลึงกับ อิฐมวลเบาที่เรารู้จักมักคุ้นกันดี ที่มีข้อดีคือสามารถระบายความร้อนได้ดี ไม่อมความร้อน และยังมีความแข็งแรงคล้ายคลึงกับอิฐมอญที่มีจุดเด่นคือความคงทนแข็งแรง ดังนั้นใครที่จะต่อเติมหรือทุบผนังเพื่อปรับเปลี่ยนบ้านก็สามารถทำได้นะคะ ซึ่งแตกต่างจากระบบ Prefabrication ที่ไม่สามารถต่อเติมได้

เดี๋ยวเราจะพาไปเจาะลึกตัวบ้านกันต่อนะคะ เริ่มจากหน้าบ้านกันเลย จะเห็นว่าบ้านตัวอย่างหลังนี้ได้ประตูรั้วเป็นบานพับ ซึ่งมาตรฐานนั้นจะเป็นประตูบานเลื่อนนะคะ ส่วนที่ได้เป็นบานพับก็เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่ เฉพาะบ้านบางหลังนั้นจะได้ประตูรั้วเป็นแบบบานพับ เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่ด้านข้างที่เว้าเข้าไปเนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ติดกับถนนวงเวียนพอดี

สำหรับบ้านมาตรฐานปกติจะได้เป็นประตูบานเลื่อนแบบนี้ค่ะ ซึ่งง่ายต่อการเปิด-ปิดมากกว่าการใช้ประตูแบบบานพับเยอะ ใครอยากทุ่นแรงหน่อย ไม่อยากลุกมาเปิดประตูก็สามารถติดตั้งระบบเปิด-ปิดประตูอัติโนมัติเพิ่มได้สำหรับประตูแบบบานเลื่อน แต่หากเป็นบานพับยังไงก็ต้องเดินมาเปิดประตูอยู่ดีนะคะ

ด้านหน้าติดดวงโคมแบบติดผนังให้และมีกริ่งอยู่ด้านล่างเรียบร้อย

ถังขยะอยู่ด้านในบ้าน และมีประตูบานเล็กๆ ด้านหน้าให้คนเก็บขยะมาเก็บขยะได้ง่าย ข้อดีของการมีถังขยะภายในบ้านเป็นสัดส่วนแบบนี้ ก็ช่วยให้บริเวณจุดที่ทิ้งขยะสะอาดสะอ้านและสะดวกในการใช้งาน เมื่อเทียบกับที่โครงการให้ถังขยะไว้หน้าบ้าน ซึ่งนอกจากจะมีโอกาสที่หมาแมวในละแวกจะมาคุ้ยขยะแล้วบางทีก็อาจจะทะเลาะกับเพื่อนบ้านเพราะปัญหาการทิ้งขยะได้ด้วยนะ (จากประสบการณ์ล้วนๆ 555)

เดี๋ยวเราจะพาไปเดินดูรอบๆ บ้านกันก่อนเข้าไปในตัวบ้านนะคะ ด้านหน้าทางเข้าหลักของบ้านนั้นทางโครงการจะปูหญ้าให้ด้วย แต่ไม่ได้ลงไม้พุ่มหรือต้นไม้ใหญ่ให้นะ

ด้านข้างสำหรับแปลงมุมดูกว้างกว่าบ้านมาตรฐานอยู่เกือบครึ่งๆ เลย ซึ่งใครที่เลือกที่ต้องการพื้นที่เพิ่มเติมหรืออยากจะต่อเติมด้านข้างเพิ่มฟังก์ชันห้องมากขึ้น ก็เลือกแปลงมุมกันเลย

ด้านหลังติดบ้านติดกับหลังบ้านของฝั่งตรงข้าม มีระยะห่างจากบ้านถึงรั้วหลังบ้านประมาณ 2 ม. สุดทางจะเป็นพื้นลานซักล้าง ซึ่งทางโครงการจะทำให้เป็นมาตรฐานเลย

พื้นซักล้างนั้นปูกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ให้เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด สำหรับงานโครงสร้างในบริเวณลานซักล้างนี้จะเป็นโครงสร้างเดียวกับตัวบ้านนะคะ คือยื่นคานคอดิน (คานด้านล่าง) ออกมาเพื่อรับน้ำหนักพื้นส่วนนี้ ดังนั้นเรื่องของการทรุดตัวนั้นก็จะทรุดไปพร้อมๆ กับตัวบ้าน ซึ่งเป็นข้อดีนะคะ เพราะถ้าเราแยกโครงสร้างลานซักล้างออกจากตัวบ้าน แน่นอนว่าการทรุดตัวของดินในแต่ละบริเวณไม่เท่ากันแน่ๆ ดังนั้นก็จะเกิดช่องโหว่ระหว่างลานซักล้างกับตัวบ้านด้วยเป็นเหตุให้มีสัตว์เล็กสัตว์น้อยเข้าไปอาศัยอยู่ได้ หรือหากเราก่อปูนเชื่อมระหว่างตัวบ้านกับลานซักล้างเลยแต่ไม่ได้ใช้โครงสร้างหลักร่วมกัน อันนี้ยิ่งแย่ใหญ่เพราะเมื่อหน้าดินมีการทรุดตัวไม่เท่ากันแต่ได้เชื่อมบ้านกับลานไว้ด้วยกันก็อาจจะเกิดรอยร้าวที่ตัวบ้านได้ด้วยนะคะ ดังนั้นการทำโครงสร้างลานร่วมกับโครงสร้างบ้านแล้วนั้นถือเป็นข้อดี และหมดปัญหาจากที่กล่าวไปด้านบนไปได้นะ

อีกด้านข้างของตัวบ้านที่ติดกับเพื่อนบ้านมีระยะห่างประมาณ 1.2 -1.5 ม. ซึ่งทางโครงการก็จะปลูกหญ้าให้เป็นมาตรฐานแบบที่เห็นในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ ซึ่งหากใครรู้สึกว่าพื้นที่ใกล้เพื่อนบ้านไปหน่อย เสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง วิธีแก้ไขง่ายๆ เลย แต่ต้องใช้เวลาหน่อยก็คือปลูกไม้พุ่มเหมือนบ้านตัวอย่างนั่นแหละค่ะ แล้วรอให้ต้นไม้เจริญเติบโตหน่อยก็จะได้รั้วบ้านที่มีความสูงมากขึ้นและร่มรื่นด้วยนะ

กลับมาที่บริเวณที่จอดรถนะคะ ขนาดความกว้างอยู่ที่ประมาณ 5 ม. ซึ่งสามารถจอดรถได้ 2 คัน แต่อาจจะเบียดไปหน่อยสำหรับรถใหญ่นะคะ สุดทางมีทางเข้าอีกทางเป็นประตูบานเลื่อนกระจกด้วยค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าดีกว่าประตูบานเปิดเดี่ยวที่ส่วนใหญ่จะออกแบบให้เป็นแบบนั้น สำหรับประตูบานเลื่อนนี้ข้อดีเลยคือเรื่องแสงสว่างภายนอกที่สามารถเข้ามาได้บ้านได้ดี ในส่วนของหลังคาที่จอดรถนั้นจะครอบคลุมรถได้ประมาณครึ่งคันนะคะ ใครที่ไม่อยากให้รถเปียก เสียเวลาล้างรถใหม่หรือกลัวสีรถลอกไม่สวยเวลาโดนแดดก็สามารถติดตั้งผ้าใบกันแดดกันฝนได้ หรือจะทำเป็นหลังคาเบา ใช้วัสดุมุงหลังคาเป็น Polycarbonate ก็ได้เช่นกันค่ะ ทั้ง 2 อย่างนี้ติดตั้งไม่นานและมีให้เลือกแบบตามท้องตลาดเยอะ แล้วแต่ใครจะชอบสไตล์แบบไหนเลยค่ะ

มาที่ทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่ทางด้านข้างของที่จอดรถนะคะ มีขั้นบันไดขึ้นไป 2 ขั้นเป็นเฉลียงเล็กๆ ด้านบนมีความยาวของระเบียงในชั้นบนเป็นหลังคาคลุมได้บ้างทำให้สามารถวางชั้นวางรองเท้าบริเวณนี้ได้อยู่ค่ะ ในส่วนบานประตูนั้นเป็นบานเลื่อนคู่ ใช้กระจกสีเขียวตัดแสงทุกหน้าต่างเลย

มือจับและตัวล็อกได้แบบมาตรฐาน น้ำหนักบานดี แข็งแรงและ Fitting ออกมาดีทีเดียวค่ะ

ระดับพื้นภายในสูงกว่าพื้นเฉลียงเล็กน้อย บริเวณวงกบของประตูนั้นเค้าเก็บงานได้ดีทำให้เดินได้ราบรื่นไม่สะดุด

เข้ามาภายในบ้านจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นหรือพื้นที่รับแขกก่อนเลย ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารด้านในค่ะ ส่วนความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.7 ม. ทำให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่งดีทีเดียวค่ะ

หันกลับมาดูพื้นที่นั่งเล่นกันชัดๆ อีกทีนะ ขนาดบริเวณนี้อยู่ที่ประมาณ 3.5 x 3 ม. ค่ะ มีระยะทีวีประมาณ 3.3 ม. สามารถแขวนทีวีขนาดใหญ่ 40″-42″ ได้สบาย

ด้วยขนาดพื้นที่ประมาณ 3 ม.นั้นสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่และโต๊ะกลางได้สบายเลย

ตรงกลางมีพื้นที่กว้างประมาณ 2.8 ม. ซึ่งสามารถทำเป็นพื้นที่ทำงานหรือใครจะกั้นตรงกลางด้วยชั้นวางของเพื่อแยกส่วนพื้นที่รับประทานอาหารกับส่วนนั่งเล่นให้ชัดเจนมากขึ้นก็ได้นะคะ บริเวณนี้ลูกบ้านสามารถปรับเป็นฟังก์ชันตามไลฟ์สไตล์หรือความต้องการเราได้เลย หรือใครที่บ้านมีผู้สูงอายุอยู่บ้านด้วยก็อาจจะวางโต๊ะรับประทานอาหารมาบริเวณนี้แทนแล้วปรับพื้นที่รับประทานอาหารด้านหลังบ้านเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้

ถัดมาคือส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้กำลังดี ด้านข้างได้หน้าต่างบานใหญ่ทั้ง 2 ด้าน ทำให้บริเวณนี้ค่อนข้างสว่างดีเดียวในตอนกลางวัน ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในบ้านเลย รวมทั้งระบายอากาศได้ดีด้วยนะ

ด้านข้างของโต๊ะรับประทานอาหารนั้นจะเป็นส่วนครัวค่ะ ซึ่งด้านหน้าก่อนทางเข้าครัวนั้นจะมีพื้นที่ว่างเล็กน้อยสำหรับทำเคาน์เตอร์บาร์เหมือนในบ้านตัวอย่างได้นะ ส่วนครัวนี้จะเป็นครัวปิดค่ะ กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกซึ่งจะได้เป็นมาตรฐานในทุกบ้านนะคะ

พื้นภายนอกและพื้นภายในครัวเชื่อมต่อกันเลยไม่ได้ลดระดับลงมา

Fitting ทำออกมาได้แข็งแรงดีค่ะ เปิดได้แนบสนิท

พื้นที่ภายในครัวได้ค่อนข้างใหญ่ทีเดียวนะคะ ขนาดประมาณ 3 x 4 ม. เหมาะกับแม่บ้านที่รักการทำอาหารเลยทีเดียว สามารถจัด Pantry ครัวเป็นรูปตัว L ยาวเหมือนในรูปหรือจะทำเป็นเป็นตัว U ก็ยังได้นะคะ และมีฝั่งนึงมีให้หน้าต่างบานเลื่อนมาให้ ซึ่งบริเวณหน้าต่างนั้นจริงๆ แล้วเหมาะกับการวางอ่างล้างจานนะคะ เพราะจะได้ไล่ความชื้นได้ง่ายขึ้น แต่ทางโครงการทำท่อมาให้อีกด้านนึงแล้ว ตำแหน่งติดหน้าต่างนี้ก็ปรับเป็นส่วนเตาก็ได้อยู่ค่ะ

ด้านข้างติดกับประตูบานเลื่อนมีประตูออกไปยังลานซักล้างด้านหลังบ้าน

ถัดจากครัวแล้วก็จะเป็นส่วนโถงทางเดินเชื่อมไปยังประตูโรงจอดรถ ห้องน้ำในชั้นล่าง และบันไดขึ้นชั้น 2 นะคะ

ประตูบานเลื่อนออกไปยังที่จอดรถ

ฝั่งตรงข้ามใต้บันไดทำเป็นพื้นที่เก็บของได้

ขนาดพื้นที่เก็บของประมาณนี้ค่ะ

สุดทางจะเป็นส่วนห้องน้ำห้องเดียวในชั้นล่างนี้นะคะ พื้นจะถูกลดระดับจากพื้นชั้นล่างลงไปเล็กน้อย

ห้องน้ำในชั้นนี้จะเป็นห้องน้ำแบบ Powder room นะคะ คือไม่มีส่วนพื้นที่อาบน้ำ ขนาดพื้นที่ประมาณ 1.3 x 2 ม. ค่ะ ซึ่งใครที่อยากจะต่อเติมห้องน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่อาบน้ำในชั้นล่างนี้สำหรับผู้สูงอายุก็สามารถทำได้นะคะ อาจจะต้องปรึกษากับผู้รับเหมาเพิ่มเติมในการรื้อและต่อเติมเพิ่มค่ะ

ในส่วนอ่างล้างมือนั้นด้านบนใช้วัสดุเป็นอะคลิลิกนะคะ มีความทนทานระดับนึงแต่ไม่สามารถสู้อ่างแบบกระเบื้องได้ในเรื่องของระยะการใช้งาน ด้านล่างนั้น Built-in ตู้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้ ทั้งหมดจากแบรนด์ Mogen นะคะ

โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำทั้งหมดจาก Mogen เช่นกันค่ะ จากเดิมทางโครงการจะใช้เป็น American Standard แต่ได้ปรับสเป็คเป็น Mogen ทั้งหมดแทน ในส่วนบริเวณโถสุขภัณฑ์นี้กว้างประมาณ 1.2 ม. มีระยะกว้างพอสมควรเลย สามารถนั่งปลดทุกข์ได้สบายๆ 55

ขึ้นมาที่ชั้น 2 นะคะ ลักษณะบันไดจะเป็นรูปตัว U แบบนี้ได้ชานพักเต็มชั้น ทำให้เดินขึ้น-ลงได้สะดวกเลย ส่วนผนังบริเวณโถงบันไดนี้ได้เป็นกระจกบานใหญ่มีแสงสว่างเข้ามาได้ดีไม่ต้องพึ่งพาโคมไฟด้านบน และยังมีหน้าต่างบานเลื่อนเล็กๆ ด้านล่างด้วยทำให้สามารถระบายอากาศภายในตัวบ้านได้ดีมากขึ้นด้วยค่ะ ส่วนพื้นบันไดนี้ใช้วัสดุเป็นพื้นไม้ยางสีเข้มนะ

ส่วนราวบันไดเหล็กด้านบนในส่วนของมือจับใช้เป็นไม้สำเร็จรูปค่ะ ขึ้นมาที่ชั้น 2 กันแล้วลักษณะโถงจะเป็นโถงทางเดินรูปตัว L ฝั่งขวาเป็นทางหน้าบ้านและฝั่งซ้ายจะเป็นฝั่งด้านหลังบ้านนะคะ สำหรับฝั่งหน้าบ้าน (ขวา) แบ่งเป็นห้องนอนใหญ่และห้องนอนที่ 2 (ที่เรียกเป็นตัวเลขเพราะขนาดห้องนอน 2 และ 3 มีขนาดเท่ากัน เลยสรุปไม่ได้ว่าเป็นห้องนอนกลางและห้องนอนเล็ก) จากนั้นเลี้ยวซ้ายมาจะเจอห้องน้ำกลางก่อน เป็นห้องน้ำที่แชร์ร่วมกันระหว่างห้องนอน 2 และ 3 และสุดทางจะเป็นห้องนอน 3 ค่ะ

โถงทางเดินนี้พอเลี้ยวซ้ายมาแล้วสุดทางจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด ประมาณ 1.4 x 1.4 ม. ได้หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ด้วยทำให้บริเวณนี้ดูสว่างดีทีเดียวค่ะ จะจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือนั่งทำงานก็ได้ และนอกจากนี้จากที่เห็นเพื่อนบ้านเค้าทำกันก็คือ จัดพื้นที่นี้เป็นส่วนห้องพระ

เข้ามาดูที่ห้องนอน 2 กันก่อนนะคะ ขนาดห้องอยู่ที่ 3 x 4 ม. เหมาะกับวางเตียงขนาด 5 ฟุต ได้พอดีๆ และมีพื้นที่ด้านข้างกว้างพอที่จะ Built-in หรือวางโต๊ะทำงานภายในห้องได้ค่ะ ส่วนบริเวณผนังนั้นได้หน้าต่างทั้ง 2 ฝั่ง เลยทำให้ระบายอากาศได้ดีทีเดียว

อีกฝั่งหนึ่งเว้นไว้สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้า

ถัดมาที่ห้องนอน 3 กันต่อเลยค่ะ เป็นห้องที่มีขนาดเท่ากับห้องนอน 2 เลย แต่มีความแตกต่างตรงอยู่ด้านหลังบ้านและได้หน้าต่างบานมาตรฐานไม่ได้ยาวลงไปถึงพื้นเหมือนห้องที่ 2

ส่วนตู้เสื้อจะวางไว้บริเวณปลายเตียงค่ะ

มาดูที่ห้องน้ำรวมของชั้นนี้บ้างนะคะ

ภายในห้องน้ำนี้แยกเป็นพื้นที่เปียกและแห้งไว้ชัดเจน ในส่วนของสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำใช้ Mogen เช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่างเลย แต่มีปรับสเป็ค Built-in ชั้นวางของด้านล่างอ่างอาบน้ำเป็นแบบชั้นวางปกติไม่ได้มีบานเปิดเหมือนเดิม

อ่างล้างมือมีที่วางด้านข้างให้วางของได้พอสมควรเลย

ถัดมาเป็นส่วนเปียกกันบ้างนะคะ สำหรับส่วนนี้จะไม่ได้ให้ฉากกั้นกระจกมานะ แต่ก่อผนังกันน้ำกระเด็นออกมาส่วนแห้งให้เลยเรียบร้อย เพียงแต่ไม่สามารถกั้นได้ทั้งหมดนะคะ

พื้นที่อาบน้ำนั้นจะลดระดับลงไปเล็กน้อยจากส่วนแห้ง

มีที่นั่งอาบน้ำให้ด้วย ส่วนฝักบัวสายอ่อนขนาดหัวฝักบัวใหญ่พอประมาณ มือจับแข็งแรง ด้านข้างติดที่วางสบู่ไว้ให้เรียบร้อยค่ะ รวมทั้งอีกด้านใกล้กับฝักบัวนั้นก็เดินท่อไว้ให้สำหรับรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นเรียบร้อย

เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่กันต่อนะคะ ขนาดห้องนอนใหญ่บริเวณส่วนเตียงนอนนั้นมีขนาดประมาณ 3 x 4.7 ม. สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ เลยค่ะ และเป็นห้องที่โปร่งโล่งมากกว่าห้องนอนห้องอื่นๆ เลย ด้วยความที่ได้ประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่อยู่หน้าบ้านนั่นเอง

ขนาดระเบียงประมาณ 1 x 3.8 ม. ได้ราวกันตกเป็นกระจก tempered ด้วย

หันมาอีกด้านเป็นพื้นที่ Walk in Closet ซึ่งสามารถจัดตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ รูปตัว L ได้เลย รวมทั้งมีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องสำอางค์ด้วยนะ ส่วนด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำในห้องนอนใหญ่นี้ค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ขนาดประมาณ 1.75 x 2.8 ม. แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งเหมือนห้องน้ำกลาง

แต่ห้องนี้มีการก่อ Low Wall ขึ้นมาด้านหลังสุขภัณฑ์ด้วย ก็ทำให้มีที่วางของเล็กๆ น้อยๆ ได้มากขึ้นจากห้องน้ำกลางนะคะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำนั้นก็กั้นผนังให้แบบนี้เช่นเดียวกับห้องน้ำกลาง

ด้านล่างก่อที่นั่งอาบน้ำมาให้ และสุขภัณฑ์ก็สเป็คเดิมกับห้องน้ำห้องกลาง มีเพิ่มเติมคือพื้นที่วางแชมพู ครีมอาบน้ำที่ผนังด้านข้างค่ะ ^^

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 06 December 2016

  • Scenario แปลง 85-S1A พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. ที่ดิน 52 ตร.วา ราคา 5.685 ล้านบาท
  • Scenario แปลง 165-S1A พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. ที่ดิน 52 ตร.วา ราคา 6.035 ล้านบาท (ติดสวน)
  • Scenario แปลง 84-S1A พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. ที่ดิน 52 ตร.วา ราคา 5.985 ล้านบาท (ได้พร้อมเฟอร์นิเจอร์)

  • จอง 20,000 บาท
  • ทำสัญญา 150,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 20 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

บ้านริมสวน ซีนเนอรี เป็นโครงการที่มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในย่านบางนา-ตราด กม. 13 อยู่ ในช่วงราคา 4 – 6.6 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยวัดหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นซอยใหญ่เชื่อมระหว่างถนนบางนา-ตราดและถนนเทพารักษ์ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหาบ้านทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านบ้านแฝด ที่เน้นเดินทางเข้า-ออกเมืองด้วยบางนา-ตราดเป็นหลัก และอยู่ในช่วงราคาที่หยิบจับได้ง่าย เพราะโครงการบ้านติดถนนบางนา-ตราดในช่วงราคานี้และเป็นบ้านใหม่นั้นค่อนข้างหาได้ยากในช่วงเวลานี้ รวมทั้งยังมีตัวเลือกเพิ่มเติมในการเดินทางไปออกถนนเทพารักษ์ได้เช่นกัน ซึ่งก็ต้องยอมแลกกับทำเลที่เข้ามาภายในซอยประมาณ 2 กม. แต่สำหรับซอยวัดหลวงพ่อโตนี้ไม่ใช้ซอยเล็กๆ นะคะ แต่เป็นซอยใหญ่ที่มีวัดบางพลีใหญ่ในหลวงพ่อโต จัดเป็นซอยสำคัญและค่อนข้างคึกคักพอสมควรค่ะ

ทำเลบางนา-ตราด กม. 13 ถึงจะเลยจากเมืองมาพอสมควรแต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ๆ โดยไม่ต้องขับรถไกลมาก เช่น Market Village ตลาดสด ตลาดน้ำ และ Big C อยู่ในระยะ 1-2 กม. เรียกว่าขับรถออกจากบ้านไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ได้ใกล้ๆ เลยไม่ต้องขับเข้าเมืองไปไกล และซอยวัดหลวงพ่อโตนั้นอย่างที่บอกไว้ว่าเป็นซอยใหญ่ คึกคัก มีความเจริญพอสมควร จะเห็นทั้งร้านค้า ร้านอาหารเปิดขายอยู่ตามระยะ ทำให้หาของกินได้ไม่ไกลมากนักในระยะขับรถ ส่วนใครจะเดินช็อปปิ้งดูหนังในวันหยุดบนถนนบางนา-ตราดนี้ก็มีห้างใหญ่ๆ เลยอย่าง Mega Bangna ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 7 กม. ไม่ต้องวิ่งเข้าเมืองในเสียเวลารถติด

ตัวโครงการจัดผังออกมาได้ดี ด้วยความที่เป็นโครงการขนาดใหญ่มีจำนวนยูนิต 283 บนพื้นที่ทั้งหมด 51 ไร่กว่า และมีลักษณะที่ดินหน้าแคบลึกจากถนนหน้าโครงการไปสุดคลองสวนด้านหลัง ก็เลยมีการวาง Facilities ให้เป็น 2 จุดใหญ่ๆ ในโซนด้านหน้า และโซนด้านหลังโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านทั้งสองโซนไม่ต้องเดินไปใช้งานไกลๆ ส่วนงานออกแบบบ้านนั้นมีการปรับเปลี่ยนจากเฟส 1-2 ให้มีสไตล์ที่ Modern มากขึ้น เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับขนาดที่ดิน บ้านเดี่ยวจัดฟังก์ชันภายในได้ลงตัว ชั้นล่างเด่นที่พื้นที่ครัวที่ได้ขนาดใหญ่ เป็นครัวปิดในบ้านชัดเจน มีพื้นที่สำหรับทำ Counter Bar ให้เป็นสัดส่วน นอกจากนี้ยังสามารถต่อเติมกั้นห้องเป็นห้องผู้สูงอายุได้

งานโครงสร้างอาคารเป็นระบบ Conventional เสา-คาน ปกติและใช้วัสดุ EkoBlok ก่อผนัง ข้อดีของ Ekoblok สามารถระบายความร้อนได้ดี ไม่อมความร้อน และยังมีความแข็งแรงคล้ายคลึงกับอิฐมอญ ซึ่งทำให้เราสามารถต่อเติมหรือทุบผนังเพื่อปรับเปลี่ยนบ้านได้ในอนาคต แตกต่างจากระบบการก่อสร้างบ้านแบบ Prefabrication ที่ไม่สามารถทำได้นะคะ ส่วนวัสดุภายในบ้านนั้นได้ตามราคาที่จ่าย คือพื้นชั้น 1 เป็นพื้นแกรนิตโต้ ชั้น 2 พื้นลามิเนต ส่วนระเบียงและห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิก งานหน้าต่างใช้กรอบบานอลูมิเนียม Fitting ดี มีน้ำหนัก กระจกเขียวตัดแสง สุขภัณฑ์จาก Mogen ทั้งหมด

สาธารณูปโภคให้มาพอสมควรด้วยขนาดพื้นที่ส่วนกลางประมาณ 2 ไร่ มีสวน สนามเด็กเล่น Club House ที่ผ่านในมีส่วน Fitness และสระว่ายน้ำ ส่วนสวนโซนด้านหลังก็จัดสนามพัตต์กอล์ฟให้ 5 หลุม ถือว่ามี Facilities ครบครันนะคะ ความกว้างของถนนหลักกว้าง 15 ม. ถนนรอง 9 ม. ได้ CCTV รอบโครงการและมีพี่ยามตลอด 24 ชม. ประตูหน้าโครงการเป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ ใช้ระบบ Sticker แปะหน้ารถและให้ยามเป็นคนเปิดประตูนะคะ เป็นจุดที่อยากให้เพิ่มเติมเป็นระบบ Key Card Access ที่มีความสะดวกมากกว่า

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 4 – 6.6 ล้านบาท, 06 December 2016

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.0/10 – อยู่ในซอยเชื่อมถนนบางนา-ตราดและเทพารักษ์ มีของกินในซอยเป็นระยะ เน้นมีรถยนต์ส่วนตัว
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ รปภ. 24 ชม. และ CCTV ภายในโครงการ
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – จัดฟังก์ชันได้ลงตัว
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – ได้ขนาดสวน 2 ไร่กว่า
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ได้ครบ น่าใช้งาน
  • 7.43 / 10.00

BOTTOM LINE

บ้านริมสวน ซีนเนอรี เป็นโครงการบ้านในซอยวัดหลวงพ่อโต มี Product ในเลือกทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ตอบโจทย์คนที่มองหาบ้านแถบบางนา-ตราดและเทพรักษ์ เน้นเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ชอบพื้นที่สวน และใช้ Facilities มีงบประมาณ 4.15 – 6.6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ  29,000 – 53,000 บาท

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )