RK_125

บริษัท รุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัด หรือ RK Property ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 60 กว่าปีก่อน โดยตระกูล “กิตติอุดม” ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง  และอสังหาริมทรัพย์มาในนาม “รุ่งกิจก่อสร้าง” พัฒนาตึกแถว อาคารพาณิชย์ และหมู่บ้านจัดสรร ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของทายาทรุ่นที่ 3 “วรยุทธ กิตติอุดม” 

คุณกอล์ฟ-วรยุทธ กิตติอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัด หรือ RK Property มีมุมมองการบริหารงานที่แตกต่างจากนักบริหารคนอื่นๆ เนื่องจากเติบโตมาพร้อมกับธุรกิจของตระกูล มีโอกาสเรียนรู้งานจากคุณปู่และคุณพ่อตั้งแต่อายุ 13-14 ปี…วันนี้ Think of Living มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณกอล์ฟ เพื่อสอบถามถึงภาพรวมของบริษัท โครงการที่ผ่านมา และแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตอันใกล้นี้ 🙂

RK_181

– สวัสดีค่ะ คุณกอล์ฟ ช่วยเล่าประวัติคร่าวๆ ของ RK Property ให้เราฟังหน่อยนะคะ

RK Property เริ่มต้นมาจากรับเหมาก่อสร้าง สร้างตลาด ทำตึกแถวให้เซ้ง จนคุณปู่ร่วมลงทุนทำบ้านจัดสรรกับเพื่อนๆ ชื่อ “หมู่บ้านไทยวันดี” แถววชิรธรรมสาทิต 57  ช่วงแรกที่ทำโครงการก็ประสบปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ของกรุงเทพฯ แต่เราก็ได้ปรับกลยุทธ์ และสามารถปิดการขายโครงการได้ในที่สุด

หลังจากนั้น คุณปู่ก็เริ่มเกิดความคิดที่จะทำหมู่บ้านจัดสรรจริงๆ เลยมารวมกันเฉพาะกลุ่มพี่น้อง ครอบครัว เริ่มทำโครงการที่ถนนสุขาภิบาล 3 รามคำแหง ชื่อ “รุ่งกิจวิลล่า 1” ภายในโครงการมีทั้งตึกแถว ทาวน์โฮม และคอนโด 8 ชั้น โครงการแรกก็ประสบความสำเร็จไปด้วยดี แล้วเราก็เริ่มข้ามทำเลมาที่ถนนร่มเกล้า เพราะเล็งเห็นศักยภาพของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเวลานั้นลาดกระบังยังไม่เริ่มพัฒนาเลย แต่เรามีโครงการในมือประมาณ 10 โครงการ ก็พัฒนามาเรื่อยๆ และลองขยายโซนไปที่ถ.นิมิตรใหม่ ถ.หทัยราษฎร์

ประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ Re-Branding จาก “รุ่งกิจวิลล่า” เป็น RK Property เพิ่มผู้ถือหุ้น แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มครอบครัว และสร้างจุดแข็งให้แบรนด์ RK คือ ทุกโครงการมีพื้นที่ใช้สอยมาก ต้องติดถนนใหญ่ ผู้บริโภคสามารถสัญจรได้ง่าย และสาธารณูปโภคต้องครบ ซึ่งหลังจากที่ได้ปรับแบรนด์ ทำให้บริษัทฯมียอดขายปีละ 1,500ล้านบาท ถือว่าผลตอบรับดีมาก ๆ

The Rux_re

–  มีโครงการอะไรบ้างคะ ที่เกิดขึ้นหลังจากการ Re-Branding

เริ่มจาก RK Office Park ที่อยู่บริเวณมอเตอร์เวย์ แถวสนามบินสุวรรณภูมิ แบรนด์ใหม่ที่เราทำ Home Office อย่างเดียว ราคาเริ่มต้นเราประมาณ 3-20 ล้านบาท โดยเราศึกษาจากแนวโน้มของตลาดว่า ลูกค้าที่อยู่ในสนามบิน อาจมีโอกาสที่จะย้ายออกมาอยู่ข้างนอก เนื่องจากค่าเช่าพื้นที่ในสนามบินค่อนข้างแพง และยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ ทำให้เราสามารถปิดโครงการนี้ในระยะเวลาไม่นาน

หลังจากนั้นเราทำให้เส้นแบ่งระหว่างแบรนด์ชัดเจนมากขึ้น โดยเราจะใช้ชื่อ RK Office Park สำหรับ  Home Office และ RK Home Park สำหรับหมู่บ้านจัดสรร

RK Home Park โครงการแรกๆ อยู่แถวถ.หทัยราษฎร์ ทาวน์เฮ้าส์เริ่มต้น 1.69 ล้านบาท ซึ่งถือว่าถูกสุดในละแวกนั้น นอกจากนี้เรายังเพิ่มฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, และคลับเฮ้าส์ เข้าไปในโครงการด้วย เราทำมาเรื่อยๆ จนโครงการภายใต้แบรนด์ RK มีมากกว่า 10 โครงการ ภายในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา

rk park หทัยราษฎร์ 3_resize

– ปัจจุบันโครงการที่ยังเปิดขายอยู่มีโครงการอะไรบ้างคะ

1. RK PARK รามอินทรา-ซาฟารี

– รูปแบบ: ทาวน์โฮม 2 ชั้น ทาวน์โฮม 3 ชั้น และโฮม ออฟฟิศ พร้อมคลับเฮาส์

เฟส 1 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 80% กำลังเปิดเฟส 2 อีก 120 ยูนิต

– ราคา ทาวน์โฮม เริ่มต้น 2.19 ล้านบาท, โฮม ออฟฟิศ ราคา 3.39 ล้านบาท

2. RK PARK วัชรพล-สายไหม

– รูปแบบ: ทาวน์โฮม 2 ชั้น ทาวน์โฮม 3 ชั้น และโฮม ออฟฟิศ

– ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท, โฮม ออฟฟิศ ราคา 3.29 ล้านบาท

3. RK Home Park 2 (พระราม 9 – รามคำแหง)

– รูปแบบ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น

– ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท

4. The Rux (รามอินทรา 65)​

– รูปแบบ: โฮมออฟฟิต 4 ชั้น

– ราคาเริ่มต้น 6.2 ล้านบาท

rk park หทัยราษฎร์ 3_resize

– มองว่าทิศทางอสังหาฯ ในช่วงปีนี้เป็นอย่างไร

ส่วนใหญ่โครงการของ RK  จะทำอยู่ในกรุงเทพฯ ตะวันออก โซนนี้ยังมีเสน่ห์ และมีความน่าสนใจ อัตราการเติบโตของประชากรก็สูง เมื่อเทียบกับ2-3 ปีที่ผ่านมา ยอดขายเราไม่ได้ตกเลย แม้ว่าจะเกิดความไม่มั่นคงต่างๆ และค่อนข้างเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย แต่ในช่วงที่ผ่านมา อาจมีผลกระทบในเรื่องของธนาคารที่ลดความน่าเชื่อถือกับลูกค้าที่เป็นผู้กู้หลัก ระมัดระวังมากขึ้นในเรื่องของการปล่อยสินเชื่อ แต่กลุ่มลูกค้าของเราก็ตอบรับดีอยู่ reject rate ก็อยู่ประมาณ 20% แล้วบ้านของเราที่ขายไป ลูกค้าก็ยังอยู่ครบ มีน้อยมากที่จะประกาศขาย หรือเป็น NPL แลวโครงการที่เราทำอยู่ ก็ได้มีการ screen ลูกค้าระดับนึง 

RK_6

– วางทิศทางในอนาคตของ RK Property ไว้อย่างไรบ้างคะ

ในปี 2559 เรามีแผนที่จะเอา RK Property  เข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยเราได้เตรียมการไว้หลายปีแล้ว ขั้นตอนต่างๆ อยู่ระหว่าง 50% คิดว่าภายในปีหน้า เราจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ แต่ระหว่างนี้ก็ยังต้องพิจารณาจากสถานการณ์เศรษฐกิจในเวลานั้นอีกที

หลังจากเข้าตลาดแล้ว เราต้องการสร้างความน่าเชือให้กับลูกค้า เริ่มต้นจากการพัฒนาคุณภาพโครงการก่อสร้าง  ล่าสุดเรานำเอานวัตกรรมจากมาเลเซีย มาช่วยให้ระยะเวลาในการก่อสร้าง เสร็จเร็วขึ้น 20%  และมีการจับมือกับ SCG Precast เข้ามาช่วยก่อสร้างในโครงการ RK Home Park เพื่อที่จะให้ลูกค้าได้รับบ้านที่มีมาตรฐานที่ดีที่สุด 

RK Property ค่อนข้างชำนาญแนวราบ เพราะเราอยู่ตรงนี้มานาน สามารถคำนวณต้นทุนได้ไม่สูงมากนัก ราคาขายของเราก็จะไม่สูง การขายการปิดโครงการของเราจะเร็ว และได้ Margin ที่ดี ดังนั้นในส่วนของสิ่งที่เรายังไม่ถนัด เราก็คงยังไม่ลงไปเต็มตัวมากนัก อาจรอดูทิศทางก่อน ในอนาคตอาจมีการพัฒนาคอนโด Low Rise หรือขยายทำเลให้ทั่วกรุงเทพฯ เพราะพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังมีอีกหลายจุดที่ยังพอทำได้ และ demand เหลืออยู่เยอะด้วย

RK_6

– มาถึงคำถามสุดท้ายนะคะ อะไรคือจุดเด่นของ RK Property  ที่เราภูมิใจนำเสนอมากที่สุด

เรื่องบริการหลังการขายครับ สมัยที่ผมเริ่มเข้ามาทำแรกๆ ผมลองเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านของตัวเอง ปรากฏว่าวันหนึ่ง ฝนตกหลังคารั่ว นอนไม่ได้ ผมเลยเริ่มเข้าใจความเดือดร้อนของลูกค้า และได้เปิดแผนกบริการหลังการขายออกมา ชื่อ RK Care ตั้งกฏไว้ว่า “Fast Fix in One Day” ซ่อมทุกอย่างให้เสร็จภายใน 1 วัน ตอนนี้ก็เริ่มทำไปได้ซักพักแล้ว 

เริ่มต้นตั้งแต่…ก่อนที่จะส่งมอบบ้าน เราจะให้ลูกค้าตรวจบ้านอย่างละเอียด ให้ครบทุกซอกทุกมุมเลย หลังจากนั้นเวลาเขารับบ้านไป โอกาสที่จะเกิดความบกพร่องต่างๆ จะเหลือน้อยมาก ทำให้บริการหลังการขายของเราเสร็จได้ในวันเดียวเหมือนกัน