รีวิวฉบับที่ 1159 … สวัสดีค่ะ รีวิวฉบับนี้จะขอพาไปชมบ้านหลังใหญ่ ภายใต้แบรนด์ท็อปสุดของแสนสิริกันนะคะ กับโครงการ นาราสิริ ปิ่นเกล้า – สาย 1 บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ระดับ Super Luxury ในสไตล์ Organic Architecture ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Frank Lloyd Wright สถาปนิกอเมริกันชื่อดัง ตัวโครงการเน้นความเป็นส่วนตัวด้วยบ้านแปลงมุม ในราคาเริ่มต้น 22.5 ล้านบาท เดี๋ยวเราตามไปดูบรรยากาศโครงการและภายในบ้านพร้อมๆ กันเลยค่ะ

 

Fact @ 23 August 2016

  • Narasiri Pinklao – Sai 1 (นาราสิริ ปิ่นเกล้า – สาย 1)
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ตลิ่งชัน ถ.พุทธมณฑลสาย 1
  • เนื้อที่โครงการ 37 ไร่ จำนวน 57 ยูนิต
  • White Venus ที่ดิน 105 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 294 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ n/a ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท (แบบบ้านใหม่ กำลังก่อสร้าง)
  • Murano ที่ดิน 105 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 22.5 ล้านบาท
  • Carrara ที่ดิน 121 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 370 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 28.7 ล้านบาท
  • Carrara B ที่ดิน 161 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 33.5 ล้านบาท
  • Kirunavara ที่ดิน 161 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 33.5 ล้านบาท
  • ราคาเริ่มต้น 22.5 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ n/a บาท
  • โครงการเปิดขาย : 16 มีนาคม 2556
  • เวปไซต์โครงการ : (คลิกที่นี่)
  • Call Center : 1685

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.745774, 100.427576

โครงการ นาราสิริ ปิ่นเกล้า – สาย 1 ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางถนนเพชรเกษม ระหว่างจุดตัดกับถนนพระเทพฯ ตัดใหม่และถนนบางแวกค่ะ

ที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ในฝั่งธนฯ เขตตลิ่งชัน บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 อยู่คู่ขนานระหว่างถนนกาญจนาภิเษกและถนนราชพฤกษ์ โดยถนนเส้นนี้จะเชื่อมระหว่างถนนเพชรเกษมตรงไปตัดถนนบางแวก ถนนพระเทพฯ ตัดใหม่ ถนนบรมราชชนนี ถนนสวนผักไปสิ้นสุดที่ทางรถไฟสายใต้ บรรยากาศของถนนเส้นนี้นั้นจะค่อนข้างเงียบสงบ เพราะส่วนใหญ่ถนนเส้นนี้จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแนวราบ มีหมู่บ้านค่อนข้างเยอะ ทั้งแบบหมู่บ้านจัดสรรและชุมชนที่อยู่กันมานาน สลับกับแปลงที่ดินเปล่าตลอด 2 ฝั่งถนน ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์บนถนนเส้นนี้นั้นก็จะเห็นร้านอาหารเล็กใหญ่เกิดขึ้นประปรายตลอดข้างทาง แต่ความคึกคักจะส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณจุดตัดถนนบรมราชชนนีที่มีตลาดนัดคลองถม และจุดตัดกับถนนเพชรเกษมที่ส่วนใหญ่ยังเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ขายของกันตลอด 2 ฝั่งถนนค่ะ

ในเรื่องของการเดินทางนั้นถือว่าสะดวกพอสมควร สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เหมาะสำหรับคนที่มักจะไปทำงานโดยใช้ถนนบรมราชชนีหรือถนนเพชรเกษมเป็นหลักค่ะ โดยถนนทั้ง 2 สายนี้ถือเป็นถนนสายหลักในย่านนี้ที่ใช้ในการเข้า-ออกเมือง นอกจากนี้ยังสะดวกสำหรับใครที่จะวิ่งไปถนนเส้นใกล้ๆ อย่างถนนราชพฤกษ์ หรือลัดเข้าไปซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ที่มีแหล่งของกินค่อนข้างหลากหลายให้เลือก อย่างถนนราชพฤกษ์ก็จะมีทั้ง Community Mall, ร้านอาหารใหญ่ชื่อดังมากมาย ส่วนซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 นั้นจะเป็นร้านริมถนนและร้านในตึกแถวที่ขายอาหารราคาย่อมเยาและมีให้เลือกพอสมควร

เครดิตภาพจาก – http://www.sirat-orr.com/P06.html

ปัจจุบันมี ทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ถือเป็นเส้นทางช่วยระบายการจราจรจากทางพิเศษศรีรัช บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 ข้ามไปฝั่งตะวันตกของ กทม. และมาสิ้นสุดที่ถนนวงแหวนรอบนอก โดยมีแนวสายทางเริ่มต้นจากถนนกาญจนาภิเษก (ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร) จากนั้นแนวสายทางจะไปทางทิศตะวันออก โดยใช้พื้นที่เขตทางรถไฟสายตะวันตก (สายใต้เดิม) ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณสะพานพระราม 6 จากนั้นแนวสายทางยังคงไปตามเขตทางรถไฟจนถึงจุดเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) บริเวณด้านเหนือของสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) ระยะทางรวมประมาณ 16.7 กม. โดยมีรูปแบบเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร มีทางแยกต่างระดับ 2 แห่ง คือ ทางแยกต่างระดับกาญจนาภิเษกและทางแยกต่างระดับบางซื่อ มีทางขึ้น-ลง 6 แห่ง คือ

  • ทางขึ้น-ลงบรมราชชนนี
  • ทางขึ้น-ลงราชพฤกษ์
  • ทางขึ้น-ลงบางบำหรุ
  • ทางขึ้น-ลงจรัญสนิทวงศ์
  • ทางขึ้น-ลงพระราม 6
  • ทางขึ้นลง-กำแพงเพชร 2

สำหรับทางขึ้น-ลงที่สะดวกในการเดินทางมายังโครงการคือ ทางขึ้น-ลงราชพฤกษ์ อยู่บริเวณจุดตัดของถนนบรมราชชนนีกับถนนราชพฤกษ์ค่ะ

สำหรับในอนาคต ละแวกนี้ก็จะมีระบบรางรถไฟฟ้าเข้ามาใกล้ๆ กับโครงการให้ได้ใช้เข้าเมืองได้ง่ายและสามารถกะเวลาในการเดินทางเข้าเมืองได้ดี โดยสายรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้กับโครงการจะมีทั้งหมด 2 สาย คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งต่อขยายมาจากสถานีบางหว้าวิ่งตรงมาตามถนนราชพฤกษ์ สถานีที่ใกล้กับโครงการคือ สถานีบางพรม อยู่บริเวณจุดตัดระหว่างถนนพระเทพฯตัดใหม่กับถนนราชพฤกษ์พอดี และสถานีบางเชือกหนัง ที่อยู่บริเวณจุดตัดระหว่างถนนราชพฤกษ์กับถนนบางแวก ส่วนอีกสายคือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค สถานีภาษีเจริญ ซึ่งอยู่บริเวณจุดตัดกับถนนเพชรเกษมค่ะ โดยสายสีน้ำเงินนี้มีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2562 ที่จะถึงนี้ก็ถือว่าใกล้จะได้ใช้งานกันแล้วนะคะ ส่วนสายสีเขียวส่วนต่อขยายนี้คงต้องอดใจรอกันไปก่อนค่ะ

มาดูความอุดมสมบูรณ์กันบ้างนะคะ สำหรับถนนพุทธมณฑลสาย 1 นี้ ส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้าน ชุมชนเดิม และแปลงที่ดินว่างสลับกันไปอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องร้านอาหารและตลาดนั้นก็มีบ้าง ซึ่งก็จะกระจุกตัวแถบจุดตัดกับถนนใหญ่อย่างถนนบรมราชชนนีกับถนนเพชรเกษม แต่หากเทียบความอุดมสมบูรณ์กับถนนข้างเคียงแล้วก็ยังถือว่ามีไม่มากนัก อย่างถนนราชพฤกษ์นั้นถือเป็นแหล่งเที่ยว กิน ช็อปของคนในย่านนี้ ค่อนข้างครบครันทีเดียวค่ะ มีร้านอาหารทั้งรถเข็น ร้านเล็กใหญ่  มีตลาดทั้งแบบปูเสื่อขายแบกับดิน และ ตลาด Food Villa ที่มีร้านค้าร้านอาหารมากมาย  ช่วงหลังๆเริ่มมีร้านอาหารที่มี Concept ตกแต่งน่ารักๆมาเปิด เช่น โครงการ The Bloc ที่มีร้านเค้กรูปหมี อย่าง Think cafe  และ Villa de Bear ร้านอาหารในสไตล์ฮอนแลนด์ที่มี Mascot เป็น หมี Villy อยู่หน้าร้าน นอกจากนี้ก็จะมี Community Mall อย่าง The Circle และ J Arena ขึ้น ถือว่ามีความคึกคักมากกว่าถนนพุทธมณฑลสาย 1 พอสมควร

นอกจากนี้อีกแหล่งนึงที่ใกล้กับโครงการและเดินทางด้วยรถสะดวกคือ แถบถนนบางแวกยาวไปตัดออกซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ที่มีร้านค้าขายอาหารในราคาย่อมเยาให้เลือกหลากหลายดี หรือจะทะลุออกไปยังถนนจรัญสนิทวงศ์ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางความเจริญในละแวกนี้ก็จะมีตลาดใหญ่ Hyper Market โรงเรียน มหาวิทยาลัยและศูนย์การค้าที่อยู่ใกล้แยกตัดกับถนนบรมราชชนนีค่ะ

การเดินทางในวันนี้ขอเริ่มต้นจากฝั่งพระนครย่านสาทร มุ่งหน้ามายังฝั่งธนฯ ข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน วิ่งเข้าเส้นกรุงธนบุรีเชื่อมเข้าเส้นราชพฤกษ์ และตรงตามเส้นราชพฤกษ์มาเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระเทพฯ ตัดใหม่จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตรงมาอีกประมาณ 850 ม. ก็จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ

เริ่มต้นกันที่ถนนสาทรเหนือมุ่งหน้าไปขึ้นสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินกันค่ะ

ขึ้นมาบนสะพานตากสิน หรือสะพานสาทรเป็นหนึ่งในสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสะพานคู่แยกขาเข้า-ออก และมีรางรถไฟฟ้าสายสีเขียวพาดผ่านอยู่ตรงกลาง สำหรับสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินนี้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำที่ใกล้ที่สุดสำหรับคนที่ทำงานในเมือง หรือแถบสาทรนี้ค่ะ ซึ่งก็แน่นอนว่าปริมาณรถเข้า-ออกเมืองนั้นก็ย่อมมาใช้สะพานนี้มากเช่นกัน ดังนั้นสะพานนี้จึงค่อนข้างติดอยู่พอสมควรในช่วงเวลาเร่งด่วน

เมื่อข้ามสะพานมาแล้วก็จะเชื่อมเข้าถนนใหม่คือถนนกรุงธนบุรี โดยเราจะวิ่งไปเชื่อมกับถนนราชพฤกษ์กันค่ะ ซึ่งตามป้ายไปทางถนนเพชรเกษม-ถนนบรมราชชนนี

จากนั้นเราจะขึ้นทางยกระดับของถนนราชพฤกษ์กันต่อนะคะ เพื่อข้ามจุดตัดถนนใหญ่ๆ อย่างรัชดาภิเษก กัลปพฤกษ์และถนนเพชรเกษม

หลังจากลงทางขึ้นยกระดับมาแล้วเราก็ยังคงอยู่บนถนนราชพฤกษ์ในส่วนที่อยู่คู่ขนานกับถนนพุทธมณฑลสาย 1 นะคะ

เดี๋ยวเราจะเริ่มเบี่ยงซ้ายออกด้านข้างเพื่อที่จะเลี้ยวเข้าถนนพระเทพฯ ตัดใหม่ที่เป็นถนนตัดเชื่อมถนนราชพฤกษ์และพุทธมณฑลสาย 1 กันค่ะ ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการกันอีกที

เบี่ยงรถมาทางซ้ายแล้วก็ขับตรงมาเรื่อยๆ ตามทางจนถึงแยกที่ตัดกับถนนพระเทพฯ ตัดใหม่นะคะ ซึ่งถนนนี้เป็นถนนเปิดใหม่ที่ตัดมาเชื่อมถนนใหญ่ๆ ไว้ด้วยกัน โดยเริ่มจากถนนจรัญสนิทวงศ์บริเวณแยกไฟฉาย ไปสิ้นสุดที่ถนนกาญจนาภิเษกค่ะ โดยเราจะเลี้ยวซ้ายกันนะคะ

บนถนนพระเทพฯ ตัดใหม่เป็นถนนใหม่ที่ยังไม่ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการ แต่งานก่อสร้างนี้ใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่ยังไม่ได้เปิดใช้นั้น เนื่องจากบริเวณแยกไฟฉายมีการขุดเจาะอุโมงค์และทำสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่ ซึ่งถ้าถนนสายนี้เสร็จจะทำให้การจราจรบนถนนจรัญสนิทวงศ์ และถนนราชพฤกษ์คล่องตัวขึ้น และยังช่วยเพิ่มช่องทางในการเดินทางเข้าเมืองของคนฝั่งพุทธมณฑล  โดยไม่ต้องใช้ถนนบรมราชชนนีซึ่งในช่วงเวลาเร่งด่วนก็มีสภาพการจราจรที่หนาแน่นเช่นกัน 

ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นถนนพุทธมณฑลสาย 1 ที่ยกระดับผ่าน ให้เลี้ยวซ้ายเชื่อมเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 1 เลยค่ะ

จากนั้นวิ่งตรงมาอีกประมาณ 850 ม. ก็จะเห็นหน้าโครงการแล้วค่ะ สำหรับถนนพุทธมณฑลสาย 1 นี้เป็นถนนขนาดใหญ่ กว้าง 6 เลน มีเกาะกลางแยกขาเข้า-ขาออกชัดเจน สำหรับปริมาณรถบนถนนเส้นนี้จะไม่ได้ติดมากนักนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นติดกันตรงจุดตัดถนนใหญ่ๆ อย่างถนนเพชรเกษมและถนนบรมราชชนนีค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการส่วนใหญ่รายล้อมไปด้วยที่ดินเปล่าที่ยังไม่ได้พัฒนา จะมีโซนด้านหน้าติดถนนใหญ่ที่มีสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่และฝั่งตรงข้ามที่เป็นร้านอาหารและบ้านเดี่ยวสูง 2  ชั้นค่ะ ทำให้บรรยากาศแถบนี้ค่อนข้างเงียบสงบพอสมควร แต่เมื่อข้ามคลองบางเชือกหนังไปตรงนี้จะมีความคึกคักมากขึ้นหน่อยเพราะมีชุมชนขนาดย่อมๆ มีวัดตะล่อม และโรงเรียนวัดค่ะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • The Bloc  ~ 5.1 กิโลเมตร
  • The Circle ~ 6.3 กิโลเมตร
  • ตลาดบางขุนศรี ~ 6.4 กิโลเมตร
  • Food Villa ~ 6.5 กิโลเมตร
  • ตลาดน้ำคลองบางหลวง ~ 6.6 กิโลเมตร
  • Villa de Bear ~ 7.2 กิโลเมตร
  • ตลาดบางแค ~ 8.4 กิโลเมตร
  • Food Land สาขา จรัญฯ ~ 9.8 กิโลเมตร
  • แม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ ~  10 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ~ 10 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus ปิ่นเกล้า ~ 10.2 กิโลเมตร
  • Index Living Mall (The Walk)  ~  11.3 กิโลเมตร
  • The Walk ราชพฤกษ์ ~ 11.3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลศิริราช ~ 12 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ นาราสิริ ปิ่นเกล้า – สาย1 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ ใช้แบรนด์ท็อปสุดของแสนสิริ บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 มีเนื้อที่โครงการทั้งหมดประมาณ 37 ไร่ มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 57 ยูนิต ถือเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีจำนวนยูนิตน้อยค่ะ จุดเด่นของการจัดผังโครงการนี้คือเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก จะเห็นว่าบ้านแต่ละหลังจะเป็นบ้านแปลงมุมทั้งหมด หรือมีรั้วเพียงฝั่งเดียวกับหล้งบ้านที่ใช้ร่วมกับเพื่อนข้างบ้านนะคะ ยกเว้นบ้านที่อยู่ติดกับถนนหลักภายในโครงการเท่านั้น จะมีโซนบ้านด้านซ้ายที่แต่ละซอยมีบ้านติดกัน 4 หลัง แต่ก็จะมีการทำ Strip Park หรือการทำพื้นที่สวนส่วนกลางคั่นระหว่างบ้านตรงกลาง มีความกว้างสวนอยู่ที่ 5.5 ม. ซึ่งก็ทำให้บ้านหลังกลางนั้นไม่ได้ติดกันทั้ง 2 ฝั่งแต่ยังมีพื้นที่สวนกั้น เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีพอๆ กับบ้านแปลงมุมจริงๆ ค่ะ

ส่วน Facilities หลักๆ นั้นจะอยู่บริเวณหน้าทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ซึ่งเมื่อตรงเข้ามาด้านในแล้วจะเห็นส่วน Club House ก่อนเลยค่ะ ภายใน Club House นี้ก็จะมีสระว่ายน้ำแบบ Half Olympic ห้อง Fitness และพื้นที่นั่งเล่น ถัดจากส่วน Club House ด้านข้างติดกับถนนหลักของโครงการเป็นสวนส่วนกลางค่ะ โดยพื้นที่สวนรวม Strip Park นั้นมีขนาดประมาณ 2 ไร่ค่ะ

จากหน้าทางเข้าโครงการที่ติดกับถนนพุทธมณฑลสาย 1 ด้านหน้าใช้สัญลักษณ์เป็นรูปปั้นสิงโตขนาดใหญ่ซึ่งแสดงถือความยิ่งใหญ่ มั่นคง มีน้ำพุด้านหน้าแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ และงานตกแต่งด้วยหินอ่อนและสีทองที่แสดงถึงความมั่งคั่งถือเป็นสิ่งมงคลส่งเสริมด้านจิตใจค่ะ

ลักษณะการวางผังและออกแบบ แบบ Symmetry หรือการออกแบบโดยให้สองฝั่งมีความเท่ากัน หรือเหมือนกัน การออกแบบอย่างนี้จะให้ความรู้สึกถึงความเป็นทางการและความยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้นค่ะ  ส่วนเรื่องทางเข้า-ออกโครงการนั้น จากหน้าถนนตรงเข้ามาจะเห็นป้ายโครงการอยู่ตรงกลางและแบ่งถนนเข้า-ออกเป็น 2 ทางชัดเจน

ด้านข้างมีทางเดินยาวตลอดแนวจากถนนเข้าไปถึงภายในโครงการ แต่จะไม่ได้เป็น Coverway หรือเป็นทางเดินที่มีหลังคาสามารถกันแดดกันฝนได้

ทางเข้าโครงการเป็น Double Gate ขั้นแรกเป็นไม้กระดกอัตโนมัติ มีกล้อง CCTV ส่องหน้าคนขับและป้ายทะเบียนรถ ด้านข้างมีป้อมรปภ. คอยดูแลตลอด 24 ชม.ค่ะ ส่วนด้านหลังเลยจากไม้กระดกไปแล้วเป็นประตูขั้นที่ 2 คือ Automatic Gate Barrier  เปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบ RFID

จากประตูทางเข้าโครงการเข้ามาเป็นถนนหลักภายในโครงการแล้วนะคะ บริเวณนี้ทำเป็นซุ้มต้มไม้ใหญ่ ร่มรื่นดีมากๆ เรียกว่าแดดร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น เพราะแทบจะไม่เห็นแดดเล็ดรอดลงมาเลย ด้านข้างริมถนนเป็นส่วนทางเดิน ส่วนถนนนั้นแบ่งเป็น 2 ฝั่งมีคั่นกลางด้วยเกาะกลางที่ปลูกต้นไม้ใหญ่ค่ะ

มีด้านข้างถนนทำพื้นที่จอดรถมอเตอร์ไซต์และจักรยานได้ค่ะ แต่ไม่ได้ทำเป็นช่องจอดให้นะคะ พื้นที่จอดบริเวณนี้จะเป็นที่จอดของบรรดาเหล่าแม่บ้าน, คนขับรถ หรือคนดูแลสวน นะคะจะได้เดินทางมาทำงานได้สะดวกขึ้น ^^

ตรงมาสุดทางจะตัดกับถนนเส้นหลักในโครงการ ด้านหน้าเป็น Club House ของโครงการค่ะ

รูปนี้นำมาจาก Point Of View ที่ทางช่างภาพและทีมงานได้ไปเก็บภาพกันมานะคะ สำหรับส่วน Club House นี้จะถูกยกสูงขึ้นจากพื้นถนนเยอะพอสมควรเพื่อให้ระดับสายตาของคนที่อยู่ใน Club House และบนถนนนั้นอยู่คนละระดับกัน สร้างความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น ในขณะที่ยังสามารถมองเห็นส่วนอาคารได้อยู่ปกติ

ด้านหน้า Club House เป็นสระว่ายน้ำแบบ Outdoor ขนาด Half Olympic 10 x 25 ม. ลึก 1.3 ม. ระบบน้ำเกลือ

ทางเข้าส่วน Club House จะอยู่ทางด้านข้าง มีขั้นบันไดและทางลาดด้านข้างรองรับทุกวัยให้มาใช้งานได้ส่วน Club House ได้ค่ะ

ลักษณะภายใน Club House เป็นแบบ Semi-Outdoor ฝ้าเพดานสูงทำให้มีลมพัดเข้ามาในส่วนนี้ได้ดี ถึงจะเป็นตอนกลางวันอากาศร้อนๆ แดดแรงๆ ในส่วนนี้ก็ยังเย็นสบายอยู่ค่ะ บริเวณตรงกลางจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นมีชุดโซฟาให้ประมาณ 4 ชุด ด้านซ้ายเป็นทางเดินขึ้นไปยังห้อง Fitness ส่วนด้านขวาออกไปยังเป็นสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านหน้าอาคารค่ะ การตกแต่งภายในเน้นสี Earth Tone ใช้ลูกเล่นของวัสดุไม้ และผนังอีกด้านตกแต่งด้วยหินอ่อน

ภาพบรรยากาศในตอนกลางคืนในส่วนพื้นที่นั่งเล่นนี้

อีกมุมของพื้นที่นั่งเล่นส่วนนี้ ด้านที่ติดกับสระว่ายน้ำนั้นจะเป็นด้านที่เปิดโล่ง ซึ่งเป็นฝั่งทิศตะวันตก ดังนั้นใครที่มานั่งเล่นในช่วงบ่ายแก่ๆ ไปถึงเย็นแน่นอนว่าก็อาจจะต้องโดนแสงแดดแรงๆ ส่องเข้ามาด้านในได้ ซึ่งก็มีการออกแบบ Fin หรือแผงกันแดดแบบรางเลื่อนช่วยบังแสงแดดช่วงบ่ายได้ระดับนึงค่ะ

ออกมาจากส่วนพื้นที่นั่งเล่นเมื่อกี้ มาใกล้กับสระว่ายน้ำอีกหน่อยก็จะมีชุดที่นั่งให้เรียงยาวไปตามสระว่ายน้ำ ซึ่งบริเวณนี้ก็ยังร่มอยู่นะคะ เพราะมีหลังคายื่นออกมาบังแดดในส่วนนี้อยู่

ตัดภาพมาเป็นบรรยากาศในตอนกลางคืนบ้างนะคะ ด้วยสีสันจากแสงไฟทำให้บริเวณนี้ดูสวยงามทีเดียวค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศไปคนละแบบกับภาพกลางวันกันเลย ใครจะมานั่งชิลริมสระหรือจัดปาร์ตี้คงจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศดีทีเดียวค่ะ

อีกมุมนึงของสระว่ายน้ำเป็นแบบ Infinity Edge ด้วยขนาดสระ Half Olympic สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้ดีเลยค่ะ

อีกด้านเป็นสระว่ายน้ำเด็กและ Sunken Seat ตรงกลางมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นบริเวณพื้นที่นั่งได้ดีค่ะ

กลับเข้ามาด้านในกันอีกที เห็นว่ามีส่วนล้างตัวอยู่บริเวณด้านข้างของสระค่ะ ส่วนฝั่งนี้ของบริเวณนั่งเล่นจะไม่ได้มีแผงกันแดดแบบด้านหน้าอาคารนะคะ แต่ก็จะทำม่านแบบม้วนให้กันแดดค่ะ

ด้านหลังของพื้นที่ล้างตัวมีทางเดินลงไปยังด้านล่าง เลี้ยวขวาจะออกไปยังสวนส่วนกลาง ส่วนเลี้ยวซ้ายจะเป็นพื้นที่สวนเล็กๆ ค่ะ

ส่วนฝั่งซ้ายจัดเป็นสวนขนาดเล็ก มีพื้นที่นั่งเล่นให้ฝั่งนึง

ด้านหลังอาคารเป็นส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำ แยกหญิงชายค่ะ

มีห้องนึงทำเป็นห้องน้ำสำหรับผู้พิการ หรือสำหรับผู้สูงอายุก็ได้นะคะ มีราวจับให้พยุงตัวช่วยเหลือตัวเองได้ รวมทั้งมีความกว้างของห้องน้ำพอที่จะนำ Wheel Chair เข้าไปได้ค่ะ

ห้องน้ำเป็นแบบ Semi-Outdoor เปิดโล่งด้านข้างเห็นพื้นที่ส่วน เข้ามาจะเป็นอ่างล่างมือใหญ่ทำเป็นเคาน์เตอร์รวมใช้งานรวมกันมีก็อกน้ำแบ่งเป็น 2 จุด ส่วนผนังและพื้นใช้เป็นหินอ่อนในการตกแต่งทั้งหมด

ด้านข้างมีตู้ล็อกเกอร์เก็บของให้

และสุดทางเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำอย่างละ 2 ห้องค่ะ

ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

อีกฝั่งของส่วนห้องน้ำจะมีห้อง Steam ให้นะคะ ซึ่งจะได้ทั้งห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิงค่ะ ภายในห้อง Stream จุคนได้ประมาณ 5-6 คน

ขึ้นไปชั้นบนกันบ้างนะคะ ทางขึ้นจะเป็นบันไดยาวขึ้นไปตรงๆ แบบนี้เลย ด้านข้างตกแต่งด้วยไม้เรียงไปตลอดแนว ส่วนด้านบนของโถงบันไดเป็น Sky Light ให้แสงส่องเข้ามาได้ดี ดูสวยงามค่ะ

ในชั้นบนจะเป็นห้อง Fitness ภายในมีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 เครื่องเล่นและโซนเวทด้านข้าง

ด้านหลังมีเครื่องเวทให้ 1 เครื่อง

ด้านหลังของอาคารติดกับห้อง Fitness เป็นส่วนระเบียงค่ะ

กลับมาที่ถนนหลักของโครงการกันต่อนะคะ ความกว้างของถนนหลักอยู่ที่ 16 ม. วัสดุถนนเป็นคอนกรีตสลับกับคอนกรีตสแตมป์ตกแต่งด้านข้าง ส่วนระบบไฟฟ้านั้นจะเป็นแบบ Underground Cables คือเดินสายไฟใต้ดินทั้งหมด ทำให้ทัศนียภาพภายในโครงการดูสวยงามมากขึ้นค่ะ นอกจากนี้ไฟถนนและไฟสวนเป็นหลอดไฟ LED ทำงานและตัดอัตโนมัติเพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

ส่วนด้านข้างของถนนจะเป็นสวนส่วนกลางที่มีความยาวตลอดแนวถนนหลักค่ะ ในเรื่องของการรดน้ำดูแลสวนนั้นทางโครงการได้ทำเป็นระบบสปริงเกอร์อัตโนมัติให้ทั้งโครงการด้วย ซึ่งช่วยลดปริมาณคนดูแลสวนได้พอสมควร

ภายในสวนมีพื้นที่ทางเดินด้างข้างให้เดินเล่นได้ง่าย อีกด้านปูหญ้าไม้พุ่มให้สวยงาม และจะศาลานั่งเล่นในทุกๆ จุดที่เชื่อมกับซอยย่อยด้านหลัง

ศาลานั่งเล่นยกระดับพื้นขึ้นมาจากสวนเล็กน้อยและมีทางเดินเชื่อมให้เดินมาใช้งานได้ง่าย

เดินต่อมาอีกหน่อยแนวการจัด Landscape ก็จะเปลี่ยนไปเป็นสนามหญ้าโล่งๆ ด้านข้างปลูกไม้ยืนต้นตลอดแนวดูร่มรื่น

ถัดมาอีกล็อกก็จะมีหน้าต่างต้นไม้และการจัดสวนที่แตกต่างออกไป ซึ่งทำให้เวลาเดินเล่นไม่น่าเบื่อดีค่ะ

ศาลานั่งเล่นแต่ละจุดก็จะมีหน้าตาไม่เหมือนกันมากนัก อย่างศาลาก่อนหน้านี้มีชิงชาให้ไกวเล่นได้ ส่วนอันนี้จะเป็นที่นั่งแบบ Sunken ค่ะ

ด้านหลังเชื่อมกับซอยย่อย ให้ลูกบ้านในโซนด้านหลังนั้นเดินมาใช้สวนส่วนกลางได้ง่ายขึ้น

เดินออกมาไปออกซอยย่อยก็จะมีที่นั่งเล่นด้านข้างแบบนี้ให้ด้วยค่ะ

หันหลังกลับไปในส่วนทางที่เชื่อมกับสวนส่วนกลางไว้ สองข้างปลูกไม้ยืนต้นให้และมีไม้พุ่มตรงกลางแยกทางเดินขึ้น-ลงออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งถือว่าจัดสวนให้ออกมาสวยงามดีค่ะ

ภายในซอยย่อยมีความกว้าง 9 ม. ถนนเป็นถนนคอนกรีตปกติ

เดินออกมาที่ถนนรองด้านหลังโครงการมีความกว้าง 10 ม. ด้านข้างถนนริมรั้วโครงการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้สวยงามและอีกด้านที่ติดกับบ้านนั้นปลูกไม้พุ่ง ปูหญ้าและวางทางเดินให้ดูเรียบร้อยดีค่ะ สำหรับความสูงของรั้วโครงการนั้นรวมกับรั้วโปร่งแล้วอยู่ที่ 4.5 ม.

ส่วน Strip Park กั้นระหว่างบ้านแปลงกลางเพื่อเพิ่มพื้นที่ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีความกว้างของสวนอยู่ที่ 5.5 ม. บริเวณด้านหน้านั้นจะปลูกเป็นไม้พุ่มเล็กๆ เนื่องจากฝั่งที่ติดกันของบ้านนั้นยังเป็นส่วนสวนหน้าบ้าน ไม่ได้ต้องการการบังสายตามากนัก แต่ลึกเข้าไปหน่อยบริเวณตัวบ้านจะมีการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้เพื่อช่วยบังสายตาจากบ้านข้างเคียงได้ด้วย

ในส่วนของหน้าบ้านทุกหลังจะมีพื้นที่สีเขียวบริเวณหน้าบ้านให้ด้วย ถือเป็นข้อดีนะคะ เพราะเป็นพื้นที่ส่วนกลางก็จริงแต่ลูกบ้านในแต่ละหลังก็จะได้ผลประโยชน์ร่วมด้วยคือมีหน้าบ้านที่สวยงามจากการดูแลของส่วนกลางค่ะ

 

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ ขนาด 10 x 25 ม. (Half Olympic) ลึก 1.3 ม. และสระเด็ก
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4-5 เครื่อง
  • สวนสาธารณะ + Strip Park ประมาณ 2 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 4.5 ม.
  • Automatic Gate Barrier เข้า-ออก โครงการเป็นระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติทำงานด้วยระบบ RFID
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ Double Gate ทั้งรั้วกั้นไม้กระดกและประตูบานเลื่อนไฟฟ้า
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Motion Sensor ทุกหลัง
  • ถนนหลักกว้าง 16 ม. ถนนรองกว้าง 10 ม. และถนนย่อยกว้าง 9 ม.


Product Walkthrough

บ้านตัวอย่างหลังแรกที่จะพาไปชมกันคือบ้าน Carava ขนาดที่ดิน 121 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 370 ตร.ม. มีทั้งหมด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ เหมาะกับครอบครัวขยายอยู่อาศัย4-6 คน

จากหน้าบ้านที่จอดรถสามารถจอดได้ 4 คัน แต่จะมีคันนึงที่จะต้องจอดซ้อนคันอยู่นะคะ ด้วยข้อจำกัดของหน้ากว้าง ดังนั้นเวลาเข้า-ออกบ้าน สำหรับรถคันในก็น่าจะเหมาะกับรถที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยนักหรือเป็นรถของสมาชิกในบ้านที่มักจะออกจากบ้านสายกว่าคนอื่น จะได้ไม่เสียเวลามาถอยรถเข้า-ออกให้รถด้านใน ถัดมาส่วนทางเข้าบ้านเป็นเฉลียงเล็กๆ ด้านข้างมีที่นั่งและวางรองเท้าได้ เข้ามาเป็นส่วนรับแขกก่อนมีพื้นที่ให้วางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้ สำหรับใครที่มีแขกมาเยี่ยมเยือนบ้านบ่อยครั้ง แต่ก็ยังต้องการความเป็นส่วนตัวนั้นสามารถกั้นพื้นที่ให้ส่วนนั้นได้นะคะ ถัดเข้ามาเป็นโถงกลางแจกไปยังส่วนต่างๆ ที่เป็นพื้นที่รวมของคนในครอบครัวอย่างพื้นที่รับประทานอาหารและส่วนเตรียมเครื่องดื่มหรืออาหารเล็กๆ น้อยๆ ส่วนฝั่งที่ติดกับห้องรับแขกเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งลูกบ้านสามารถจะเป็นห้องทำงาน ห้องสมุดหรือ Home theater ได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นห้องนอนรองรับแขกที่มาได้ดีค่ะ ในฝั่งขวาจากพื้นที่เตรียมอาหารจะเป็น Service Zone มีห้องครัวกั้นเป็นสัดส่วนเรียบร้อยเชื่อมกับบริเวณซักล้างด้านหลังและห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำค่ะ ซึ่งห้องแม่บ้านนี้จะมีประตูจากส่วนซักล้างเพียงส่วนเดียวนะคะ ไม่สามารถเปิดเข้ามาภายในบ้านได้เลย ดังนั้นจึงเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวดีค่ะ ฝั่งขวาของบ้านเป็นส่วนห้องนอนผู้สูงอายุ ระเบียงด้านข้าง ห้องน้ำในชั้นนี้จะอยู่ติดกับห้องนอนผู้สูงอายุเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกถึงแม้ไม่ได้มีห้องน้ำภายในห้องนอนเลย

ขึ้นมาชั้น 2 จะเป็นโถงเล็กๆเชื่อมไปยังพื้นที่นั่งเล่นที่ติดกับส่วนระเบียงนั่งเล่น มีห้องพระอยู่ด้านหลังส่วนนั่งเล่น และในชั้นนี้มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง พร้อมห้องน้ำในห้องนอนทุกห้อง สำหรับห้องนอนใหญ่อยู่หน้าบ้าน มี walk in closet และห้องน้ำขนาดใหญ่ สำหรับด้านหลังบ้านเป็นห้องนอนกลางและห้องนอนเล็ก มีพื้นที่เตียงนอนพอสมควร แต่จะไม่มีส่วน walk in closet จัดเป็นสัดส่วนชัดเจน เป็นไปจามขนาดของพื้นที่ห้องนอนค่ะ

การออกแบบบ้านนั้นใช้แนวคิดคือ Organic Architecture เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติ และสีสันของวัสดุแท้จริงไม่แต่งสีใหม่ ส่วนรูปลักษณ์ของบ้านนั้นเป็นแบบ Comtempory ค่ะ จากรั้วบ้านเป็นรั้วเหล็กโปร่งพ่นสีดำ เป็นบานเลื่อนประตู 2 ตอน แบบอัตโนมัติ

ด้านข้างเป็นทางเดินเข้าทำเป็นซุ้มสวยงามด้านบนมีหลังคาทรง Hip Roof ยื่นชายคาออกมาเล็กน้อย ช่วยกันฝนได้บ้างค่ะ ประตูบานเปิด 2 บานใช้วัสดุเดียวกับรั้วบ้านคือเหล็กพ่นสี ด้านข้างมีช่องเก็บจดหมาย กริ่งเรียบร้อย สำหรับเลขที่บ้านของโครงการนี้จะขึ้นต้นด้วยเลข 8 ในทุกๆ บ้านนะคะ ซึ่งถือว่าเป็นเลขมงคล สื่อถึงความร่ำรวย

อีกด้านเป็นส่วนวางมิเตอร์น้ำและไฟ มีพื้นที่ทิ้งขยะเป็นสัดส่วนเรียบร้อย สามารถทิ้งขยะจากในบ้านและให้คนเก็บขยะเปิดประตูเล็กๆ จากด้านนอกบ้านเก็บขยะไปทิ้งได้เลย

มาต่อที่ส่วนที่จอดรถกันนะคะ สำหรับพื้นของที่จอดรถเป็นพื้นคอนกรีตพิมลาย และยกระดับสูงขึ้นมาจากถนนภายในโครงการค่ะ ส่วนโครงสร้างพื้นเป็น Slab on Beam หรือทำโครงสร้างพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อบนคานไว้เรียบร้อย ใช้เสาเข็มลึก 26 ม. ค่ะ ข้อดีคือเรื่องการทรุดตัวของพื้นนั้นจะมีการทรุดน้อยกว่าโครงสร้าง Slab on Ground ที่ใช้ลักษณะวางแผ่นพื้นไว้บนพื้นดินค่ะ รวมทั้งขนาดความยาวของเสาเข็มที่มีความยาว 26 ม. เท่ากับขนาดความยาวเข็มที่ใช้กับโครงสร้างบ้านเลยนั้นก็จะเพิ่มความแข็งแรงและทำให้โครงสร้างรับน้ำหนักได้ดีมากขึ้น เพราะที่จอดรถเองนั้นต้องรองรับน้ำหนักของรถถึง 4 คันด้วยกันนะคะ

สำหรับที่จอดรถนี้มีหน้ากว้างพอสำหรับจอดรถ 3 คันได้พอดีๆค่ะ ลึกเข้าไปในสุดจะมีที่จอดรถเพิ่มมาอีก 1 ช่อง ซึ่งช่องจอดนี้ควรจะจอดรถที่มักไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ หรือรถของสมาชิกในบ้านที่มักจะออกจากบ้านสายกว่าคนอื่น จะได้ไม่เสียเวลามาถอยรถเข้า-ออกให้รถด้านในค่ะ ด้านข้างติดกับเสาก่อผนังเพิ่มเป็นพื้นที่เก็บของ ได้ขนาดใหญ่พอสมควรสามารถเก็บอุปกรณ์ล้างรถหรือทำสวนได้ดีค่ะ กั้นด้วยประตูบานเลื่อนสีขาวเรียบร้อยดี ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าเรียบทาสีขาว และติดดวงโคมแบบ Photo Switch หรือดวงโคมที่สามารถเปิด-ปิดได้เองอัติโนมัติ ขึ้นอยู่กับสภาวะของแสง เช่นในตอนกลางวัน ภายนอกมีแสงมากดวงโคมก็จะปิด ส่วนตอนกลางคืนภายนอกมืดดวงโคมก็จะเปิดค่ะ

เดี๋ยวเราไปดูรอบๆ บ้านกันก่อนค่อยเข้าไปดูในตัวบ้านกันนะคะ สำหรับบ้านมาตรฐานนั้นด้านข้างบ้านจะมีการปูหญ้าให้และมีไม้พุ่มตามแนวรั้วที่ติดกับบ้านด้านข้าง และมีลานซักล้างทำเป็น Slab on Beam ใช้เสาเข็มลึก 26 ม. ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกเรียบร้อยค่ะ

เดินตรงมาในในส่วนนี้เป็นส่วน Service ของบ้าน คือเป็นส่วนลานซักล้างค่ะ โดยด้านบนมีหลังคาคลุมอยู่ทำให้เป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor มีลมพัดผ่านได้ดีและ ไม่โดนฝน ในส่วนนี้ทำเคาน์เตอร์แบบก่อปูด้วยกระเบื้องและฝังอ่างล้างมือให้เรียบร้อยสำหรับล้างของได้ ด้านข้างจัดให้เป็นที่วางเครื่องซักผ้า และนอกจากนี้ยังเป็นทางเข้าห้องนอนแม่บ้าน ห้องน้ำแม่บ้าน และห้องครัวค่ะ โดยแม่บ้านที่จะเข้าไปในบ้านนั้นจะต้องเข้าผ่านทางห้องครัวเท่านั้นนะคะ ไม่มีประตูเข้าไปในบ้านจากทางห้องนอนแม่บ้าน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการจัดฟังก์ชันได้ดีเหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยระดับนึงค่ะ

สำหรับบ้าน Type นี้จะได้ถังเก็บน้ำขนาด 1,500 ลิตร 2 ใบ พร้อมเครื่องปั๊มน้ำ ขนาด 300 วัตต์ 1 ชุดและขนาด 400 วัตต์ 1 ชุดค่ะ เนื่องจากบ้านขนาดใหญ่ก็ย่อมมีจำนวนสมาชิกในบ้านมากอยู่แล้ว ซึ่งก็มีการใช้น้ำในปริมาณที่มาก ดังนั้นการที่ให้ถังเก็บน้ำ 2 ใบและ ปั๊มน้ำ 2 ตัวก็ทำให้เพียงพอต่อการใช้งานและยังเผื่อเอาไว้สำหรับการเสียหายของถังหรือปั๊มตัวใดตัวหนึ่งก็จะยังมีอีกตัวใช้ได้อยู่

ด้านหลังบ้านมาตรฐานจะปูเป็นพื้นหญ้าให้และมีไม้พุ่มด้านข้างริมรั้วโครงการค่ะ ในส่วนของเครื่องปรับอากาศนั้นในบ้านมาตรฐานก็จะได้ด้วยนะคะ โดยห้อง Master Bedroom, ห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นจะติดตั้งเป็นแอร์แบบ Cassette Type ให้ และห้องนอน 2, 3, 4, ห้องพักผ่อนและห้องอเนกประสงค์จะติดตั้งเป็นแอร์แบบ Wall Type ให้ค่ะ

พื้นที่ด้านข้างนั้นทำสวนให้นะคะ เป็นการปูหญ้า มีไม้พุ่มและไม้ยืนต้นให้ตามมาตรฐานของโครงการ แต่จะไม่ได้เหมือนในบ้านตัวอย่างที่จะแต่งให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้น และเนื่องจากพื้นที่ดินด้านข้างของบ้านนั้นจะได้พื้นที่ค่อนข้างมากจึงสามารถต่อเติมบ้านขยายเนื้อที่ออกมาได้ หรือทำเป็นศาลานั่งเล่นขนาดปานกลางมาจิบชาชิลๆ ชมสวนได้ค่ะ

เข้าไปในตัวบ้านกันต่อนะคะ สำหรับพื้นทางเข้าในส่วนนี้ที่ตรงไปเฉลียงก่อนเข้าบ้านนั้นจะไม่ได้มีให้ แต่จะเป็นการปูหญ้าให้ปกติ ลูกบ้านสามารถทำทางเดินแบบนี้ได้ตามบ้านตัวอย่างได้ค่ะ ซึ่งก็สะดวกในการเดินมากขึ้น

พื้นบันไดและเฉลียงนั้นเป็นพื้นหินอ่อนสลับกับพื้นแกรนิต ดูสวยงามดีค่ะ แต่ก็จะมีข้อเสียหน่อยในตอนฝนตกพื้นเปียกนี่แหละค่ะ จะทำให้พื้นลื่นง่ายไปหน่อย ส่วนบานประตูเป็นประตูบานเปิด 2 บาน ทำจากไม้สักย้อมสี และกระจกเขียวตัดแสงขนาบข้างประตูทั้ง 2 ข้าง สำหรับเรื่องของความปลอดภัยนั้นทางโครงการจะมีการติดตั้งระบบกันขโมยให้เป็น Magnetic Censor และ Motion Censor ให้ด้วยค่ะ

พื้นมีการยกสเต็ปขึ้นมาจากพื้นเฉลียงอยู่ 2 สเต็ป ซึ่งเวลาปิด-เปิดประตูนั้นก็จะไม่มีช่องว่างของประตูลอยจากพื้นภายใน รวมทั้งเวลามีฝุ่นหรือน้ำที่สาดเข้ามาที่เฉลียงก็จะไม่เข้าไปในบ้านได้ ในส่วนของพื้นภายในบ้านนั้นใช้เป็นหินอ่อนอัดสีขาว ชื่อ Riso Bionco ขนาด 60 x 60 ซม. ของ Stone & Style นำเข้าจากอิจาลี คุณสมบัติของหินอ่อนอัดนั้นคือจะมีความทนทาน สวยงามและราคาที่แพงกว่าเมื่อเทียบกับกระเบื้องแกรนิตโต้

เข้ามาภายในบ้านจะเป็นส่วนรับแขกก่อนนะคะ สำหรับส่วนห้องรับแขกนี้เหมาะกับลูกบ้านที่มักจะมีแขกมาบ่อยๆ ต้องการพื้นที่รับรองแขกเป็นสัดส่วนและยังต้องการพื้นที่ส่วนตัวอยู่เผื่อสมาชิกในบ้านคนอื่นๆ ได้ด้วย ทั้งนี้นั้นสำหรับบ้านมาตรฐานจะไม่ได้มีการกั้นประตูให้นะคะ ลูกบ้านจะต้องไปตกแต่งเพิ่มเติมเองค่ะ

ขนาดพื้นที่ในส่วนนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่พร้อมกับโต๊ะกลางขนาดกลางๆ ได้ ด้านบนจะได้ฝ้าหลุมซ่อนไฟพร้อมติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้เรียบร้อย ส่วนหลอดไฟนั้นจะใช้เป็นหลอด LED ทั้งหมดค่ะ ด้านข้างมีหน้าต่างบานเลื่อนให้สามารถมองวิวสวนและมีแสงธรรมชาติด้านนอกส่องเข้ามาได้ดี

ส่วนอีกฝั่งนั้นสามารถวางตู้โชว์หรือตู้วางรองเท้าได้นะคะ ซึ่งก็ต้องเน้นเฟอร์นิเจอร์ที่ดูสวยงามหรือทำเป็นสัดเป็นส่วนหน่อยเพื่อให้ดูไม่น่าเกลียดมากนัก เนื่องจากพื้นที่ส่วนนี้ก็เป็นหนึ่งในส่วนของห้องรับแขกด้วย หรือถ้าจะตัดปัญหาที่จะทำให้บ้านดูไม่เรียบร้อยนั้นก็อาจจะเป็นแนวกั้นห้องรับแขกเป็นตามรอยเส้นประ ซึ่งก็จะได้ห้องขนาดเล็กลงมาหน่อยแต่เป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยสมาชิกในบ้านคนอื่นๆ ก็สามารถเดินเข้า-ออกบ้านได้เลยไม่ต้องเข้ามาภายในส่วนห้องรับแขกเหมือนการกั้นประตูตามบ้านตัวอย่างค่ะ

จากห้องรับแขกเข้ามาจะเป็นโถงแจกไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งส่วนด้านในคือพื้นที่รับประทานอาหารและส่วน Pantry ด้านข้างค่ะ

หันกลับมาจะเห็นทางเข้า-ออกหลักของบ้านอยู่ด้านขวาและด้านซ้ายเป็นห้องอเนกประสงค์นะคะ เดี๋ยวเราไปดูกันค่ะ

ห้องอเนกประสงค์นี้สามารถทำเป็นห้องทำงาน ห้องสมุด Home Theater เล็กๆ หรือห้องนอนเพิ่มอีกห้องก็ได้เช่นกันนะคะสำหรับบ้านที่มีสมาชิกในบ้านเยอะ หรือทำเป็นห้องนอนรองรับแขกได้ค่ะ สำหรับบ้านที่ต้องต้อนรับแขกบ่อยๆ ภายในสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่หรือจะวางเตียงขนาด 5 ฟุต ก็ได้เช่นกันค่ะ

ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารนั้น สามารถวางโต๊ะอาหารขนาด 5-6 ที่นั่งได้ดี จะวางเป็นโต๊ะยาวหรือโต๊ะกลมก็ได้ค่ะ ด้านข้างเป็นส่วน Pantry สำหรับเตรียมอาหารเครื่องดื่มเล็กๆ น้อยๆ ได้ แต่สำหรับบ้านมาตรฐานจะไม่ได้ให้มานะคะ

หน้าต่างใช้เป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง วงกบเป็นอลูมิเนียมผิวซาฮาร่า สีเทา ส่วนตัวล็อกนั้นจะเป็นตัวล็อกมาตรฐานและมีตัวล็อกก้นหอยเพิ่มมาให้อีกชั้น

ถัดจากส่วน Pantry จะเป็นห้องครัวนะคะ ซึ่งเป็นครัวไทยในบ้านมีประตูปิดให้เรียบร้อย พื้นครัวลดระดับลงมาจากพื้นส่วน Pantry ส่วนกระเบื้องที่ปูพื้นครัวจะเป็นกระเบื้อง แกรนิตโต้ 60 x 60 ซม.ค่ะ

ชุดครัวจะได้ตามบ้านตัวอย่างทั้งหมด รวมทั้ง Hob & Hood โดยด้านล่างเป็นเคาน์เตอร์ก่อน ท็อปเป็นหินแกรนิตดำอินเดีย ผนังปูกระเบื้องให้เรียบร้อยง่ายต่อการทำความสะอาด ส่วนตู้ลอยด้านบนมีพอสมควรค่ะเก็บของได้ดี บานเปิดเป็น Soft Closed ทั้งหมด จาก Starmark

Hob & Hood ที่ได้จาก Smeg

Sink ล้างจานฝังเคาน์เตอร์  2 หลุมจาก Mex ด้านบน Sink มีหน้าต่างบานเลื่อนให้สำหรับระบายความชื้นในส่วนนี้ได้ดีค่ะ

กลับมาดูอีกฝั่ง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับส่วนครัวนะคะ ด้านซ้ายเป็นโถงบันได มีห้องเก็บของใต้บันไดอยู่ตรงกลางและทางขวาตรงเข้าไปจะเป็นส่วนห้องน้ำชั้นล่างและห้องนอนผู้สูงอายุค่ะ

ภายในห้องเก็บของสามารถเก็บของได้พอสมควรค่ะ ภายในปูด้วยพื้นกระเบื้องเซรามิก

ด้านข้างบันไดเป็นโถงทางเดินกว้างประมาณ 1 ม. ด้านขวาเป็นห้องน้ำในชั้นล่างนี้ค่ะ ใช้ประตูเป็นประตูบานเลื่อน และสุดทางของโถงเป็นส่วนห้องนอนผู้สูงอายุค่ะ สำหรับบ้าน Type นี้ห้องนอนผู้สูงอายุนั้นจะไม่ได้มีห้องน้ำในตัวนะคะ แต่จะใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องน้ำในชั้นล่างนี้เลย

ภายในห้องน้ำในชั้นนี้มีพื้นที่อาบน้ำให้ด้วยค่ะ รองรับห้องนอนที่อยู่ในชั้นล่างนี้แต่เป็นห้องน้ำที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับห้องน้ำผู้สูงอายุโดยเฉพาะนะคะ เนื่องจากยังมีการลดระดับพื้นห้องน้ำและมีธรณีประตูส่วนพื้นที่อาบน้ำ รวมทั้งความกว้างของทางเดินภายในห้องน้ำไม่ได้กว้างมากนักพอสำหรับให้ Wheel Chair เข้า- ออกได้สะดวก ในส่วนของพื้นห้องน้ำและผนังใช้วัสดุเป็นหินอ่อนอัด ชื่อ Sino Emprador โทนสีน้ำตาล ดูสวยงาม

โถสุขภัณฑ์และโถปัสสาวะชายอัตโนมัติจาก American Standard ด้านบนโถสุขภัณฑ์มีช่องสำหรับวางของโชว์หรือวางของอื่นๆ ได้ค่ะ

อ่างล้างมือพร้อมหน้าต่างบานใหญ่ ด้านบนทำฝ้าหลบเข้าไปและซ่อนไฟไว้ ทำให้ไฟไม่ส่องลงมาโดยตรงเวลาส่องกระจกแล้วจะเกิดเงาที่ใบหน้าดูไม่สวยงามค่ะ

อ่างล้างมือเป็นหินควอทช์ ด้านล่าง Built – in ตู้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้

ห้องนอนผู้สูงอายุ สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ

ปลายเตียง Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวีได้

ด้านข้างเป็นส่วนเฉลียงมีพื้นที่พอสมควรจะวางชุดโต๊ะเก้าอี้กินขนมดื่มชาเพลินๆ ชมสวนได้ค่ะ

ลักษณะเฉลียงนั้นมีหลังคาคลุมเรียบร้อยกันแดดและฝนได้ดีทีเดียวค่ะ

โถงบันไดใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอน ราวมือจับและลูกกรงบันได้เป็นไม้มะค่ายอมสี ส่วนลูกตั้งเป็นไม้สำเร็จรูปค่ะ

บันไดเป็นทรงตัว U หรือแบบพับผ้า มีชานพักบันไดยาวเดินได้ง่าย

หน้าต่างตรงโถงบันไดเป็นบานกระทุ้งเล็กๆ ด้านบนเป็นกระจกบาน Fixed ขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งทำให้แสงเข้ามาในโถงได้รัดับนึงค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ตรงไปจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่นติดระเบียงนะคะ สำหรับพื้นในชั้นนี้เป็นพื้นไม้สักสำเร็จรูปทำสี

บริเวณพื้นที่นั่งเล่นนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ ด้านหลังของชุดโซฟานั้นเป็นพื้นที่อเนกประสงค์จะทำเป็นพื้นที่ทำงานหรือห้องพระก็ได้ค่ะ ส่วนพื้นบริเวณพื้นที่อเนกประสงค์นั้นในบ้านมาตรฐานจะไม่ได้ยกสเต็ปขึ้นมาให้นะคะ

พื้นที่อเนกประสงค์นี้ขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก แนะนำให้กั้นพื้นที่เหมือนในบ้านตัวอย่างที่ยกผนังขึ้นมาเล็กน้อยกั้นส่วนโซฟาและพื้นที่อเนกประสงค์ จะทำให้พื้นที่นี้ดูโปร่งโล่งมากกว่าการกั้นผนังทึบทั้งหมดค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันในพื้นที่ส่วนนี้นะคะ ว่าลูกบ้านต้องการจะทำพื้นที่นี้เป็นอะไร หากต้องการห้องเป็นส่วนตัวก็สามารถกั้นผนังเบาได้เช่นกันค่ะ

ส่วนระเบียงที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก ในส่วนนี้จะไม่มี CDU ของแอร์นะคะ ทำให้ระเบียงนี้สามารถใช้นั่งเล่นชมวิวสวนหน้าบ้านได้จริง

ด้านบนมีหลังคายื่นออกมาพอสมควร กันแดดและฝนได้ดีค่ะ

ใครเลือกบ้านติดถนนหลักนั้นก็จะได้วิวสวนโครงการแบบนี้เลย

กลับเข้ามาที่ในบ้านกันต่อนะคะ สำหรับชั้น 2 นี้จะมีห้องนอน 3 ห้องนอน โดย ห้อง Master Bedroom จะอยู่ตำแหน่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนกลางและห้องนอนเล็กอยู่ด้านหลังบ้านค่ะ

ห้องนอนใหญ่มีขนาดใหญ่ สามารถวางเตียงขนาด King Size หรือ 6 ฟุตได้ ด้านข้างติดกับส่วนระเบียงมีประตูบานเลื่อนกระจกใหญ่ทำให้แสงเข้ามาภายในห้องได้ดี ส่วนฝ้าเพดานนั้นก็จะได้เป็นฝ้าหลุมซ่อนไฟแบบ Indirect Light ให้สวยงามค่ะ

หันหลังมาอีกฝั่งด้านข้างเป็นส่วน Walk in Closet ค่ะ ส่วนระยะห่างจากเตียงถึงตำแหน่งทีวีนั้นค่อนข้างห่างพอสมควรสามารถวางทีวีขนาดใหญ่ได้ตั้งแต่ 60″-70″ ค่ะ

ภายในห้องนี้จะมี Phone Call ให้สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่รปภ.ได้ตลอด 24 ชม. และฝั่งหัวเตียงจะมีปุ่มกดฉุกเฉินให้ซึ่งกริ่งจะไปดังที่ป้อมรปภ. ให้สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลาหากเกิดเหตุด่วนโดยไม่ต้องโทรเรียกค่ะ ส่วน Switch ไฟของบ้านจะเป็นระบบสัมผัสทั้งหมดค่ะ

ระเบียงของห้องนอน ก็สามารถเดินออกมาชมวิวจากสวนหน้าบ้านได้เช่นกันค่ะ

เลยพื้นที่ระเบียงมามีส่วนยื่นของกันสาดออกมาค่อนข้างเยอะ ซึ่งจริงๆ แล้วนั้นน่าสามารถขยายส่วนพื้นที่ระเบียงให้กว้างมากขึ้นได้

เข้ามาที่ส่วน Walk In Closet กันต่อนะคะ

ขนาด Walk-in Closet ถือว่าให้มาเยอะพอประมาณ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่นั้นเป็นห้องน้ำ Hi-Light ของบ้านเลยค่ะ มีขนาดใหญ่แบ่งพื้นที่อาบน้ำไว้ด้านขวา อ่างอาบน้ำตรงกลาง โถสุขภัณฑ์ด้านซ้ายและฝั่งตรงข้ามอ่างเป็นอ่างล้างมือค่ะ มีช่องเปิดขนาดใหญ่อยู่ตรงอ่างอาบน้ำทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ดี และเมื่อกระทบกับหินอ่อนสีดำ Portoro Silver จากพื้นและผนังของห้องน้ำก็ขับให้บรรยากาศในห้องน้ำดูสวยขึ้นดีทีเดียวค่ะ

ส่วนอาบน้ำมีขนาดกะทัดรัด กั้นด้วยฉากกระจกเรียบร้อย ภายในมีฝักบัวสายอ่อนและ Rain Shower ด้านบนติดกับฝ้าเพดาน ด้านข้างผนังมีหน้าต่างบานกระทุ้งเล็กๆ ไว้ระบายอากาศได้ระดับนึงค่ะ

อ่างอาบน้ำถือเป็นจุดเด่นของห้องน้ำนี้เลยค่ะ เป็นอ่างระบบน้ำวนจาก American Standard  ขนาดสำหรับแช่น้ำได้ 1-2 คน

ตรงข้ามอ่างอาบน้ำเป็นส่วนอ่างล้างมือนะคะ มาพร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่สวยงาม

อ่างเป็นแบบ His & Her มีก็อก 2 ฝั่ง ท็อปทำมาจากหินควอทช์ รุ่น Lagoon

ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นกระจกเช่นเดียวกับพื้นที่อาบน้ำค่ะ แต่ไม่มีการยกธรณีประตูขึ้นเหมือนพื้นที่อาบน้ำนะคะ โถสุขภัณฑ์ได้ฝาอัตโนมัติ กดปุ่มคอนโทรลด้านข้างค่ะ

เข้ามาดูกันต่อที่ห้องนอนกลางนะคะ พื้นห้องนอนกลางเป็นพื้นไม้สักสำเร็จรูปเช่นเดียวกัน จบขอบด้วยไม้สัก ทางเข้านี้จะเป็นโถงเล็กๆ มีความกว้างพอดีกับระยะสวิงของประตูเลยแบบพอดีมากๆ

เข้ามาภายในห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ ตำแหน่งปลายเตียงจะหันไปทางด้านหลังบ้าน

อีกด้านของห้อง ผนังด้านข้าง (ตามเส้นประสีเหลือง) สามารถวางหรือ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ จะเป็นตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะ

หรืออีกตำแหน่งคือด้านขวาของโถงทางเดินก่อนเข้าไปส่วนห้องน้ำภายในห้อง แต่จะมีขนาดเล็กหน่อยค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนนี้จะมีขนาดกะทัดรัดแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน พื้นและผนังไม่ได้ปูด้วยหินอ่อนเช่นเดิมแต่ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก

ด้านหลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือทำ Low Wall ให้สามารถวางของได้เล็กน้อย พร้อมซ่อนไฟด้านในกระจกเงาบานใหญ่ค่ะ

ส่วนเปียกได้ฉากกั้นกระจกเรียบร้อย ด้านล่างยกธรณีสูงขึ้นมาเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนออกมาส่วนแห้งได้ดี ภายในพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.6 x 0.9 ม.

ฝักบัวสายอ่อนจาก American Standrad เช่นเดิม ด้านข้างมีช่องสำหรับวางแชมพู ครีมอาบน้ำได้และส่วนด้านล่างติดตั้งก็อกสนามให้ เผื่อการล้างห้องน้ำหรือใช้ซักล้างเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ

มาที่ห้องนอนเล็กกันนะคะ ทางเข้าเป็นโถงเล็กๆ เข่นเดียวกับห้องนอนกลางเลย

ภายในห้องวางเตียง 5 ฟุต จะเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ห้องนะคะ หันปลายเตียงไปหลังบ้านเช่นเดียวกับห้องนอนกลาง ได้หน้าต่างบานเลื่อนจาก 2 ทาง ซึ่งก็ทำให้ห้องสว่างและโปร่งโล่งระดับนึง ตำแหน่งที่วางแอร์นั้นอยู่ด้านข้างเตียงก็จริงแต่เป่ามาทางหัวเตียงซึ่งก็ดูจะหนาวไปหน่อย

หันกลับมาอีกด้านนะคะ จะเห็นทางเข้าห้องอยู่ทางขวามือ ตรงกลางเป็นห้องน้ำในห้องนอนเล็ก และด้านซ้ายคือพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า ซึ่งห้องนี้จะมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าค่อนข้างเล็กมาก ใครที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ หน่อยอาจจะต้องเพิ่มชั้นเก็บของด้านข้างอีกหน่อย

ห้องน้ำมีขนาดและสเป็คเหมือนกับห้องนอนกลางค่ะ เพียงแต่มีตำแหน่งของประตูคนละตำแหน่งกัน

บ้านอีกหลังที่จะพาไปชมกัน คือบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการค่ะ Kirunavara ที่ดินเริ่มต้น 253 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 518 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 48.5 ล้านบาท เหมาะกับครอบครัวขยายขนาดใหญ่ตั้งแต่ 4-6 คน เมื่อเทียบกับบ้านหลังแรกนั้นจะมีฟังก์ชันใกล้เคียงกันนะคะ แต่จะเหมาะกับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ดินใหญ่ขึ้นและมีพื้นที่ใช้สอยภายในกว้างขวางมากขึ้นค่ะ รวมทั้งมีกำลังทรัพย์มากขึ้นด้วย

สำหรับทางเข้าบ้านนั้นจะมีอยู่หลายทางด้วยกันทั้งจากส่วนที่จอดรถและจากเฉลียงทางเข้าที่เชื่อมทางเดินไว้ด้วยกันทั้ง 3 เฉลียงและจากห้องครัวด้านหลังฝั่งซ้ายของบ้าน เข้ามาจากทางเข้าหลักจะเป็นส่วนฟังก์ชันรวมของสมาชิกในบ้านคือพื้นที่รับประทานอาหาร ห้องอเนกประสงค์ และ Pantry ส่วนด้านซ้ายนั้นเป็นห้องรับแขก สำหรับแขกที่มาเยี่ยมที่บ้าน หรือนัดมาคุยงานที่บ้านกัน ซึ่งทำห้องแยกไว้ชัดเจน และมีทางเข้า-ออกสำหรับแขกโดยเฉพาะ คือเข้าจากเฉลียงหน้าบ้านที่ติดกับห้องรับแขกนี้ แยกส่วนกับสมาชิกในบ้านได้เลย ทำให้มีความเป็นส่วนตัวดีค่ะ ส่วนห้องนอนผู้สูงอายุนั้นจะอยู่ด้านหลังห้องรับแขกและติดกับส่วนอเนกประสงค์ ภายในห้องนอนผู้สูงอายุนั้นจะมีห้องน้ำในตัวเลย สะดวกในการใช้งานและเป็นสัดส่วน ไม่ต้องใช้ร่วมกับห้องน้ำชั้นล่างเหมือนบ้านหลังแรก ส่วนห้องน้ำในชั้นล่างนี้ก็จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room แทน ส่วนอีกฝั่งคือด้านซ้ายของบ้านนั้นจะเป็นส่วน Service มีส่วนซักล้าง ห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้านและห้องครัว

ชั้น 2 ขึ้นมาจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่นและห้องพระที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นจะเป็นห้องนอนทั้ง 3 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง แบ่งเป็นห้องนอนเล็กอยู่ตรงกลางด้านหลังบ้าน ห้องนอนกลางอยู่ฝั่งซ้ายสุด และห้องนอนใหญ่อยู่ฝั่งขวาสุดมี Walk in Closet เป็นสัดส่วน ห้องน้ำขนาดใหญ่และระเบียงที่อยู่หน้าบ้าน

ตัวบ้านนั้นเป็นบ้านแบบหน้ากว้าง มีการออกแบบ ดีเทล และวัสดุตกแต่งเหมือนกับบ้านหลังแรกค่ะ สำหรับบ้านหลังนี้จะเป็นบ้านมาตรฐานไม่ใช่บ้านตัวอย่างนะคะ ซึ่งก็จะเป็นบ้านเปล่าๆ เท่านั้น ซึ่งเราจะได้เห็นกันชัดเจนไปเลยว่าซื้อบ้านโครงการนี้จะได้อะไรและไม่ได้อะไรบ้างค่ะ

ส่วนสวนนั้นจะได้แบบนี้เลยค่ะ เป็นสวนมาตรฐานที่โครงการจัดให้โดยหลักๆ คือปูหญ้าและล้อมรอบด้วยไม้พุ้มและไม้ยืนต้น

ที่จอดรถของบ้านหลังนี้นั้นในส่วนใต้หลังคาสามารถจอดได้ 4 คันมีคันซ้อนด้านในอยู่ 1 คัน เช่นเดียวกับบ้านหลังแรกนะคะ แต่ด้วยที่ดินที่มีมากกว่าทำให้สามารถจอดรถเพิ่มออกมาด้านนอกได้อีก 3 คันค่ะ แต่ก็จะต้องตากแดดตากฝนหน่อยนะคะ โดยลูกบ้านสามารถต่อเติมหลังคาในส่วนนี้เพิ่มได้ เพียงแต่ควรจะแยกโครงสร้างกับอาคารเดิมไม่เชื่อมติดกันค่ะ

ช่องจอดรถซ้อนด้านในเหมือนกับบ้านหลังแรก แต่ด้านข้างและด้านในมีพื้นที่เก็บของทั้ง 2 ที่ แยกเก็บอุปกรณ์ทำสวนและอุปกรณ์ทำความสะอาดรถได้สบายค่ะ ฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบและติดไฟแบบ Photo Switch เช่นเดิม

ด้านข้างเป็นเฉลียงทางเข้าบ้านจากส่วนที่จอดรถค่ะ

พื้นซักล้างใช้โครงสร้าง Slab On Beam เสาเข็มลึก 26 ม. เช่นเดียวกับบ้านหลังแรก ในส่วนบริเวณซักล้างก็เป็นแบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมกันแดดและฝนได้ บริเวณนี้ก่อเคาน์เตอร์และอ่างล้างมือให้ รวมทั้งเป็นทางเข้า-ออกห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้าน และเชื่อมกับส่วนห้องครัวภายในบ้านค่ะ เป็นฟังก์ชันเดียวกับบ้านหลังแรก

ด้านหลังบ้านนั้นมีพื้นที่สวนกว้างประมาณ 6 ม. เป็นระยะที่เว้นไว้เพื่อไม่ให้ใกล้กับเพื่อนบ้านมากนักค่ะ สำหรับใครที่รู้สึกว่ายังต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกหน่อยก็อาจจะปลูกไม้ยืนต้นตลอดแนวรั้วบ้านเพื่อช่วยบังสายตาจากเพื่อนบ้านได้มากขึ้นค่ะ

อีกด้านก็จะมีการปูหญ้า มีไม้พุ่มและไม้ยืนต้นให้เช่นกัน แต่ที่เห็นว่าเป็นพื้นโล่งๆ แบบนี้เนื่องจากมีการจัดสวนและปูหญ้าใหม่ค่ะ

ทางเข้าหน้าบ้านสามารถเข้าได้จาก 3 ทาง และเป็นทางเดินที่เชื่อมกันทั้งหมด ด้านขวาเป็นทางเข้าหลักนั้นสำหรับสมาชิกในบ้านเข้า-ออกปกติ ส่วนทางเข้าฝั่งซ้ายนั้นเป็นทางเข้าที่เข้าไปยังส่วนห้องรับแขกค่ะ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ออกแบบไว้สำหรับให้แขกที่มาที่บ้านเข้า-ออกได้ โดยไม่ต้องผ่านส่วนอื่นๆ ภายในบ้าน ทำให้สมาชิกในบ้านยังคงมีความเป็นส่วนตัวอยู่ค่ะ

ทางเข้าบ้านเป็นซุ้มทางเข้าสวยงาม พื้นปูด้วยหินอ่อนสลับกับหินแกรนิต บานประตูไม้สักสเป็คเดียวกับบ้านหลังแรกค่ะ

ด้านบนเป็นหลังคายกสูงกันแดดและฝนได้ดีแต่ยังมีแสงสว่างส่องเข้ามาบริเวณเฉลียงได้ดีเนื่องจากด้านข้างเปิดโล่งให้แสงสามารถเข้ามาได้ ส่วนโคมไฟด้านบนนั้นจะได้ตามนี้เลยค่ะ

เข้ามาจะเป็นโถงทางเดินก่อนจะเข้าไปยังภายในบ้าน สำหรับส่วนนี้ด้านข้างสามารถ Built-in ตู้โชว์หรือตู้เก็บรองเท้าและอีกฝั่งวางชุดโซฟาเล็กๆ ใช้เวลานั่งใส่รองเท้าได้

ด้านบนทำเป็นฝ้าหลุมให้เพื่อความสวยงาม ดูโอ่อ่าบริเวณนี้

เข้ามาในบ้าน สำหรับบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่งแบบนี้ค่ะ เป็นพื้นที่สำหรับส่วนรับประทานอาหารและด้านซ้ายเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ในส่วนรับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่รองรับที่นั่งได้ 8-10 ที่นั่ง ได้ทั้งแบบโต๊ะกลมและโต๊ะยาวค่ะ ส่วนพื้นที่อเนกประสงค์นั้นสามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นของครอบครัวได้ จะกั้นผนังแยกส่วนกับพื้นที่รับประทานอาหารให้เป็นสัดส่วนขึ้นมาหรือจะเปิดโล่งแบบนี้เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกัน ทำให้สมาชิกในบ้านที่อยู่ในส่วนนี้สามารถพูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์กันได้มากขึ้นก็ได้ค่ะ

มองจากส่วนรับประทานอาหารไปทางห้องรับแขกนะคะ ในสุดจะเป็นส่วนห้องรับแขก ซึ่งไม่ได้กั้นห้องเป็นสัดส่วนให้นะคะ จะยังคงเป็นพื้นที่ที่เชื่อมกันกับพื้นที่อื่นๆ อยู่ หากใครที่ต้องการห้องรับแขกที่พูดคุยได้เป็นส่วนตัวหน่อยก็สามารถกั้นด้วยผนังเบาปิดเป็นห้องรับแขกได้ค่ะ ส่วนด้านขวาข้างพื้นที่อเนกประสงค์นั้นจะเป็นส่วนห้องนอนผู้สูงอายุ และฝั่งซ้ายติดกับทางเข้าหลักของบ้านนั้นมีประตูบานเลื่อนออกไปยังเฉลียงหน้าบ้านค่ะ

ส่วนเฉลียงหน้าบ้านนั้นมีขนาดพื้นที่พอสมควร สามารถตั้งโต๊ะน้ำชา หรือโต๊ะบาร์บีคิวมาปิ้งย่างได้เลยค่ะ ด้านบนส่วนเฉลียงนี้จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งนะคะ ดังนั้นก็จะไม่ได้กันแดดกันฝนได้ แต่จะอาศัยพึ่งร่มเงาจากด้านข้างของบ้านแทนค่ะ ซึ่งก็ให้ร่มเงาได้ดีพอสมควรเลยนะคะ

ส่วนห้องรับแขกนี้บรรยากาศโปร่งโล่งดีเนื่องจากได้กระจกเฟรมใหญ่ทั้ง 3 ด้านและกระจกเข้ามุม ด้านบนเป็นฝ้าหลุมซ่อนไฟแบบ Indirect Light รวมทั้งดวงโคมดาวน์ไลท์ ส่วนหลอดไฟนั้นใช้หลอด LED ทั้งบ้านค่ะ พื้นที่ในห้องรับแขกนี้มีขนาดใหญ่พอสมควรสามารถวางชุดโซฟาและที่นั่งโซฟาขนาดใหญ่ได้ดีค่ะ แต่ตำแหน่งที่ติดตั้งทีวีนั้นจะต้องอยู่ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าด้านหน้าบ้าน ดังนั้นตำแหน่งโซฟาก็จะต้องหันหลังให้กับทางเข้าบ้านไปด้วย ซึ่งก็จะดูเป็นทิศทางที่แปลกหน่อย แต่ถ้าใครเน้นทำเป็นพื้นที่รับแขกจริงจัง เน้นติดทีวีขนาดใหญ่ก็สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อิสระค่ะ

ส่วนห้องผู้สูงอายุนั้นมีความกว้างสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตจะเป็นขนาดที่เหมาะสมและมีพื้นที่ด้านข้างเตียงเดินได้สะดวก และภายในห้องนอนนี้ก็จะมีห้องน้ำด้วยในตัวค่ะ

ภายในห้องน้ำของห้องผู้สูงอายุนั้นไม่ได้ออกแบบไว้เป็นห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะนะคะ ซึ่งสามารถติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการเดินและใช้งานในห้องน้ำเพิ่มเติมได้ อย่างมือจับ หรือฝาชักโครกอัตโนมัติ นอกจากนี้ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็สามารถสกัดส่วนธรณีออกได้และติดตั้งเป็นที่ระบายน้ำเสมอติดกับพื้นไม่เป็นขั้นยกขึ้นซึ่งจะสะดุดได้ง่ายค่ะ ส่วนที่นั่งอาบน้ำนั้นมีให้เรียบร้อยเป็นมาตรฐานของบ้านนี้ค่ะ

ถัดมาอีกฝั่งของบ้านติดกับส่วนรับประทานอาหารนั้นเป็นส่วน Pantry และอีกด้านเป็นโถงบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะ

สำหรับบ้านหลังใหญ่นี้จะได้ชุด Pantry ครัวทั้งหมดค่ะ โดยท็อปเป็นหินควอทช์ บานเปิดเป็น Soft Closed ทั้งหมด

ส่วนอ่างล้างมือและ Sink ท็อปก็เป็นหินควอทช์ทั้งหมด ด้านข้างมีปลั๊กไฟไว้ให้ ซึ่งแนะนำให้ติดฝาครอบทำเป็นปลั๊กไฟกันน้ำได้นะคะ เนื่องอยู่ใกล้ตำแหน่งที่เป็นพื้นที่เปียก

ชุด Built-in ด้านข้างหน้าบานปิดผิวด้วยวัสดุ Hi-Gross ได้ชุดเครื่องอบครบเซตจาก Smeg ส่วนอีกด้านเว้นว่างเอาไว้สำหรับวางตู้เย็นค่ะ

ด้านข้างส่วน Pantry ติดตั้ง Video Phone ให้สำหรับติดต่อกับเจ้าหน้าที่รปภ.หน้าหมู่บ้านเวลามีเหตุฉุกเฉินหรือมีแขกเข้ามาเยี่ยมค่ะ

ภายในห้องครัวได้ตามในรูปทั้ง 2 ฝั่ง โดยใช้สเป็ควัสดุและ Hob & Hood เหมือนกันกับบ้านหลังแรกคือ ท็อปเป็นหินแกรนิตดำอินเดีย บานเปิดเป็น Soft Closed ทั้งหมด จาก Starmark และ Hob & Hood จาก Smeg

ออกมาจากส่วนห้องครัวนะคะ ด้านข้างของห้องครัวจะมีโถงทางเดินแจกไปยังส่วนห้องน้ำชั้นล่างนี้และประตูทางเข้าที่เข้ามาจากส่วนที่จอดรถค่ะ

ห้องน้ำในชั้นล่างนี้เป็นแบบ Powder Room พื้นและผนังปูด้วยหินอ่อน Sino Emprador โทนสีน้ำตาลทั้งหมด ส่วนสเป็คสุขภัณฑ์เช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่างของบ้านหลังแรกค่ะ คืออ่างท็อปเป็นหินควอทช์ Built-in ตู้ด้านล่างไว้สำหรับเก็บของเรียบร้อย โถปัสสาวะชายอัตโนมัติ และโถสุขภัณฑ์จาก American Standard ด้านบนมีช่องแสงซ่อนไฟแบบ Indirect Light ไว้ให้ความสว่างด้านหลังสุขภัณฑ์ ส่วนผนังด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งเล็กๆ ไว้ระบายอากาศได้ระดับนึงค่ะ

โถงบันไดใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นลูกนอน ราวจับและลูกกรงเป็นไม้มะค่าย้อมสี ส่วนลูกตั้งเป็นไม้สำเร็จรูปค่ะ ซึ่งเป็นสเป็คเดียวกับบ้านหลังแรก

กระจกส่วนโถงบันไดได้บานใหญ่ขึ้นทำให้ส่วนโถงนี้สว่างพอสมควร ด้านล่างเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งเล็กๆ 2 บานช่วยระบายอากาศบริเวณโถงๆ ได้บ้าง ส่วนด้านบนติดดวงโคมระย้าให้ด้วยค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับส่วนพื้นที่นั่งเล่นก่อนนะคะ ด้วยขนาดแล้วสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายค่ะ หรือจะทำพื้นที่ส่วนนี้เป็นส่วนทำงานหรือห้องสมุดขนาดย่อมๆ ก็ได้เช่นกันตามความชอบและความต้องการของแต่ละคนค่ะ นอกจากนี้ใครที่อยากได้พื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องส่วนตัวขึ้นมาก็สามารถกั้นผนังเบากั้นหรือฉากกระจกเป็นห้องชัดเจนไปเลยก็ได้นะคะ

เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนกลางที่อยู่ติดกับโถงบันไดกันก่อนนะคะ ค่อยไปดูห้องอื่นๆ

ห้องนอนกลางนั้นเป็นห้องที่มีลักษณะหน้าแคบลึก ยาวตั้งแต่หน้าบ้านไปถึงหลังบ้าน ในส่วนของหน้าบ้านนี้เป็นส่วนพื้นที่เตียงนอนค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบาย

อีกฝั่งเป็นส่วน Walk in Closet และมีห้องน้ำในห้องนอนอยู่ฝั่งขวาค่ะ

ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียกและแห้งเรียบร้อย แต่จะไม่ได้กั้นพื้นที่ด้วยฉากกั้นกระจกเป็นสัดส่วนชัดเจน ซึ่งแนะนำให้ลูกบ้านติดเพิ่มกันเองนะคะ เพื่อความเป็นสัดส่วนและน้ำจะได้ไม่กระเด็นมาเปียกส่วนแห้ง ให้ลื่นเท้าจนเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

จากห้องนอนกลางออกมาจะมีโถงทางเดินแจกไปยังห้องต่างๆ ทางซ้ายเป็นส่วนห้องพระ และทางขวาเป็นห้องนอนเล็ก ตรงไปจนสุดทางคือห้องนอนใหญ่ค่ะ ในส่วนพื้นของชั้น 2 นี้เป็นพื้นปาร์เก้ไม้สักค่ะ

ส่วนห้องพระยกระดับขึ้นไปให้และเพิ่มความสูงฝ้าเพดานมากขึ้นด้วยค่ะ

ส่วนอีกฝั่งของห้องพระคือห้องนอนเล็ก ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีและมีทางเดินรอบเตียงได้สบายเลยค่ะ

ส่วนห้องน้ำนั้นได้เหมือนกับห้องนอนกลางเลยค่ะ

โถงทางเดินไปยังห้องนอนใหญ่กัน

ภายในห้องนอนใหญ่นั้นโปร่งโล่งด้วยหน้าต่างและกระจกเฟรมใหญ่ ส่วนพื้นที่ใช้สอยที่ค่อยข้างมากนั้นสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 6 ฟุตได้สบายค่ะ

ระเบียงหน้าห้องนอนใหญ่เป็นระเบียงที่ใช้ได้จริงมีขนาดพอสมควรนั่งเล่นชิวๆ ได้สบายค่ะ

หันกลับมาอีกฝั่งสุดทางเป็นส่วน Walk in Closet ค่ะ

หน้าตากริ่งกดฉุกเฉินที่อยู่ด้านข้างของหัวเตียง ปุ่มกดนี้จะไปลิ้งค์เข้ากับรปภ. หน้าหมู่บ้านเลยค่ะ

ส่วน Walk – in Closet ค่อนข้างใหญ่วางตู้เสื้อผ้าหรือจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เยอะพอสมควร รองรับกับสาวๆ ที่ชอบช็อปปิ้งและมีเสื้อผ้าเยอะได้ดี ส่วนทางเข้าห้องน้ำนี้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกฝ้าทั้ง 2 บานเปิดเข้า-ออกได้ทั้ง 2 ด้าน

ภายในห้องน้ำมีการวางผังเหมือนห้องน้ำของห้องนอนใหญ่หลังที่แล้วเลย แต่ส่วนผนังและพื้นปูด้วยหินอ่อนคนละเฉดสีกับบ้านหลังแรกค่ะ สำหรับสีนี้มีชื่อว่า White Carrara Joya ซึ่งข้อจำกัดของหินอ่อนสีขาวนี้คือเรื่องสีเหลืองตามขอบมุมของหินนะคะ จะค่อนข้างสังเกตได้ง่ายมากเมื่อเทียบกับหินอ่อนสีดำค่ะ สำหรับโครงการนี้จะนำหินอ่อนทั้ง 2 สเป็คคือหินอ่อนสีขาวและหินอ่อนสีดำจากบ้านหลังแรก มาตกแต่งภายในห้องน้ำ Master Bedroom ให้ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการเฉดสีไหนค่ะ แต่ต้องเลือกเป็นบ้านๆ ไปนะคะ ไม่สามารถกำหนดสเป็คได้ตั้งแต่แรกค่ะ

ส่วนโถสุขภัณฑ์ กั้นด้วยฉากกั้นกระจกเป็นสัดส่วน โถสุขภัณฑ์และฝาชักโครกอัตโนมัติจาก American Standard

อ่างอาบน้ำระบบน้ำวนเช่นเดิม มีด้านบนมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจกฝ้าให้ได้แสงธรรมชาติจากด้านนอกส่องเข้ามาภายในห้องน้ำได้ดี

อ่างล้างมือท็อปหินควอทช์พร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่เหมือนบ้านหลังแรกเลยค่ะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำได้ขนาดใหญ่ขึ้นมาจากบ้านหลังแรกนะคะ โดยส่วนนี้กั้นด้วยฉากกั้นกระจกเรียบร้อย ภายในก่อที่นั่งให้พร้อมที่วางของเล็กๆ น้อยๆ ด้านบน ส่วนด้านข้างเป็นฝักบัวสายอ่อนและด้านบนติด Rain Shower ให้เรียบร้อยค่ะ

บ้านอีกหลังที่เก็บมาฝากคือบ้านแบบใหม่ของโครงการ ถือเป็นบ้านหลังเล็กสุดในโครงการด้วย ตอนนี้อยู่ในช่วงเก็บงานยังไม่แล้วเสร็จดีนะคะ บ้าน Type นี้มีชื่อว่า White Venus ขนาดที่ดินเริ่มต้น 105 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอย 294 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ค่ะ ส่วนราคายังไม่ได้ระบุไว้นะคะ ใครที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่โครงการเลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 23 August 2016

  • White Venus Type L294 พื้นที่ใช้สอย 294 ตร.ม. ที่ดิน 105 ตร.วา ราคา n/a ล้านบาท
  • Murano Type L310 พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม. ที่ดิน 105 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 22.5 ล้านบาท
  • Carrava Type L370 พื้นที่ใช้สอย 370 ตร.ม. ที่ดิน 121 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 28.70 ล้านบาท
  • Carrava Type L380 พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. ที่ดิน 161 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 33.50 ล้านบาท
  • Kiranavara Type X518 พื้นที่ใช้สอย 518 ตร.ม. ที่ดิน 253 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 48.50 ล้านบาท

  • จอง 200,000
  • ทำสัญญา 400,000 – 800,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้าถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ผู้ซื้อและผู้ขายเป็นผู้ชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ (กรณีซื้อเป็นเงินสดไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้)
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ นาราสิริ ปิ่นเกล้า – สาย 1 บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ระดับ Super Luxury  แบรนด์ท็อปสุดจากแสนสิริ ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 1 ระหว่างช่วงตัดกับถนนพระเทพฯ ตัดใหม่และถนนบางแวก ทำเลในแถบนี้ส่วนใหญ่จะเห็นโครงการบ้านขนาดใหญ่ในระดับราคาใกล้เคียงกันขึ้นค่อนข้างเยอะจาก Developer หลายเจ้า ทั้งแถบถนนพระเทพฯ ตัดใหม่และถนนราชพฤกษ์ ซึ่งการมาของที่อยู่อาศัยเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้หนึ่งว่าทำเลนี้มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ไปในทิศทางที่ดีค่ะ สำหรับโครงการนี้จุดเด่นนอกจากเรื่องของชื่อเสียง Developer ที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีแล้ว ก็คือสภาพแวดล้อมภายในโครงการที่ร่มรื่น ได้ Facilities ครบครัน และการจัดวางผังให้บ้านเป็นแปลงมุมเกือบทั้งหมด หรือมีรั้วบ้านติดกับเพื่อนบ้านเพียงฝั่งเดียว โดยกั้นด้วยพื้นที่สวน และมีจำนวนยูนิตไม่มาก ซึ่งตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและได้สาธารณูปโภคที่ครบครัน สวยงาม รวมทั้งการออกแบบและสไตล์ของตัวบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์และความชอบของแต่ละบุคคลด้วย

มองในเรื่องของทำเลบนถนนพุทธมณฑลสาย 1 นี้ ส่วนใหญ่เป็นทำเลที่อยู่อาศัยแนวราบ มีหมู่บ้านจัดสรรทั้งใหม่และเก่าเยอะทั้งติดถนนใหญ่และอยู่ในซอยย่อย รวมไปถึงมีที่ดินเปล่าอยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งในอนาคตก็คงจะมีการพัฒนาที่ดินเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบให้เห็นเพิ่มขึ้น ความอุดมสมบูรณ์บนถนนเส้นนี้นั้นก็จะเห็นร้านอาหารเล็กใหญ่เกิดขึ้นประปรายตลอดข้างทาง แต่ความคึกคักส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณจุดตัดถนนบรมราชชนนีที่มีตลาดนัดคลองถม และจุดตัดกับถนนเพชรเกษมที่ส่วนใหญ่ยังเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ขายของกันตลอด 2 ฝั่งถนน หากจะมองหาความเจริญอย่าง Community Mall หรือร้านอาหารระดับหรูหน่อยนั้นส่วนใหญ่จะต้องอิงไปที่ถนนราชพฤกษ์ ถนนคู่ขนานกันที่มีความเจริญมากกว่า

การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นการเดินทางหลักของถนนเส้นนี้ เหมาะกับคนที่ใช้ถนนบรมราชชนีหรือถนนเพชรเกษมเป็นหลักโดยถนนทั้ง 2 สายนี้ถือเป็นถนนสายหลักในย่านนี้ที่ใช้ในการเข้า-ออกเมือง นอกจากนี้ยังสะดวกสำหรับใครที่จะวิ่งไปถนนเส้นใกล้ๆ อย่างถนนราชพฤกษ์ หรือลัดเข้าไปซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ไปทะลุออกถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งเป็นแหล่งใจกลางเมืองของย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูงทั้งตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร Hyper Market และศูนย์การค้า นอกจากนี้ปัจจุบันก็มีตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มขึ้นคือ ทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในย่านนี้ที่ต้องการเดินทางเข้าเมืองให้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องไปขึ้นทางด่วนบริเวณสะพานตากสิน หรือ ทางด่วนยมราช โดยทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด ทางขึ้น-ลงราชพฤกษ์ อยู่บริเวณจุดตัดของถนนบรมราชชนนีกับถนนราชพฤกษ์ค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะในปัจจุบันแน่นอนว่าต้องอาศัยรถแท็กซี่หลักๆ เพราะถนนเส้นนี้ยังไม่มีรถประจำทางผ่านนะคะ ส่วนในอนาคตก็จะมีระบบรางรถไฟฟ้าเกิดขึ้นในย่านนี้ให้เข้าเมืองได้สะดวกมากขึ้น คือ สถานีภาษีเจริญ เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงต่อขยายหัวลำโพง-บางแค ซึ่งจะอยู่บริเวณจุดตัดกับถนนเพชรเกษมค่ะ โดยมีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2562 ที่จะถึงนี้ แน่นอนว่าไม่ได้อยู่ในระยะเดินได้ ต้องพึ่งพาแท็กซี่ต่อแน่ๆ แต่ก็เชื่อว่าเมื่อมีรถไฟฟ้าเกิดขึ้นก็น่าจะมีรถสาธารณะอื่นๆ เกิดขึ้นตามมาด้วย อย่างรถสองแถว หรือรถตู้เป็นต้นค่ะ ซึ่งก็ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยายมาจากสถานีบางหว้า โดยตัวโครงการจะใกล้กับ สถานีบางพรม และ สถานีบางเชือกหนัง ซึ่งเป็นสายหลักในการเข้าเมืองมากที่สุด แต่ยังเป็นสายที่ต้องอดใจรอกันไปก่อนค่ะ

การออกแบบโครงการเน้นความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก ทั้งจำนวนยูนิตที่มีไม่มากนัก และการจัดวางผังที่เน้นให้บ้านแต่ละหลังเป็นแปลงมุม จากที่กล่าวไปแล้วในตอนต้นนะคะ ส่วนแบบบ้านนั้นมีให้เลือกหลากหลายแบบโดยมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ ตั้งแต่ขนาดที่ดิน 105 – 253 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอย 294 – 518 ตร.ม. ซึ่งแบบบ้านทั้งหมดจะตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ทั้งหมด โดยมีจำนวนห้องเริ่มต้นที่ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ส่วนพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ด้วยความที่พื้นที่ในบ้านค่อนข้างเยอะ ทำให้การจัดเฟอร์นิเจอร์ทำได้ค่อนข้างลงตัว ไม่มีเหลี่ยมมุมบ้านเยอะมากทำให้พื้นที่ของห้องแต่ละห้องมีขนาดใหญ่และจัดง่าย แต่ฟังก์ชันการใช้งานของบ้านทั้ง 5 แบบ จะใกล้เคียงกัน คือได้จำนวนห้องนอน, ห้องน้ำ พอๆ กันค่ะ ไม่แตกต่างกันมากนัก ส่วนที่แตกต่างกันเน้นๆ เป็นเรื่องของ Flow การใช้งาน และขนาดภายในของแต่ละห้องมากกว่า ซึ่งก็ต้องพิจารณาจากความเหมาะสมและเพียงพอกับการใช้งานของเรา เช่น หากคุณเป็นคนที่ต้องต้อนรับแขกอยู่เสมอๆ แต่ก็ยังต้องการพื้นที่ส่วนตัวให้กับสมาชิกภายในบ้านคนอื่นๆ อยู่ บ้านหลังใหญ่ก็อาจจะเป็นคำตอบของคุณเพราะมีการแยกส่วนห้องรับแขกออกมาชัดเจนและแยกทางเข้าด้วย แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันด้วยค่ะ และเรื่องอื่นๆ ที่จะเพิ่มเติมในเรื่องของการออกแบบห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง ที่ส่วนใหญ่แล้วคนใช้ห้องนี้มักจะเป็นผู้สูงอายุ แต่การออกแบบยังไม่ได้ตอบโจทย์ผู้สูงอายุเท่าที่ควร ซึ่งหากใครที่มีผู้สูงอายุเป็นสมาชิกในบ้านนั้นก็ยังจำเป็นต้องมีการดัดแปลงและเพิ่มเติมอุปกรณ์เพื่อตอบสนองการใช้งานที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุมากขึ้นค่ะ

วัสดุของโครงการให้มาสมกับราคาที่จ่ายไป เรียกว่าจ่ายมาแพงก็เอาของเกรดดีไป เริ่มตั้งแต่โครงสร้างพื้นที่จอดรถ ลานซักล้างทำเป็น Slab On Beam เสาเข็มลึก 26 ม. (เป็นความยาวเสาเข็มที่ใช้สำหรับโครงสร้างบ้าน) พื้นหินอ่อนอัด ชุดครัวครบชุดพร้อม Hob & Hood ห้องน้ำชั้นล่างและห้องน้ำในห้อง Master Bedroom ที่กรุผนังและปูพื้นด้วยหินอ่อนทั้งหมด พื้นปาเก้ไม้สัก ประตูด้านหน้าเป็นประตูไม้สัก กรอบบาน Fitting ดี ใช้อลูมิเนียมผิวซาฮาร่า พื้นและราวบันไดเป็นไม้มะค่าย้อมสี สุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก American Standard หลอดไฟแบบ LED ทั้งหลัง ส่วนหลอดไฟบริเวณที่จอดรถเป็นแบบ Photo Switch เปิด-ปิด อัตโนมัติตามภาวะของแสง

สภาพโครงการจัดการและดูแลได้ดีมาก มีพื้นที่สีเขียวเยอะ มีความร่มรื่น ถึงแม้ตัวโครงการจะผ่านมาแล้ว 3 ปีกว่าแต่ยังคงสภาพโครงการไว้อย่างดีเยี่ยม และยิ่งต้นไม้ที่โตขึ้นเรื่อยๆ ก็ยังเพิ่มความร่มรื่นให้กับโครงการได้ดี โดยเฉพาะจุดที่เด่นมากๆ ในเรื่องของพื้นที่สีเขียวคืออุโมงค์ต้นไม้บริเวณทางเข้าโครงการ ที่จัดออกมาได้สวยมากทีเดียว ส่วนพื้นที่สวนรวมทั้งหมดของโครงการอยู่ที่ประมาณ 2 ไร่ (ตามที่โครงการเคลมไว้) ตลอดทางของถนนไม่มีเสาไฟรบกวนใจ เพราะนำระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมด ทำให้ทัศนียภาพของโครงการสะอาดสะอ้านไม่รกตา สร้างระบบดูแลสวนด้วย Automatic Spinkle ทั้งโครงการ ช่วยลดจำนวนการจ้างงานคนดูแลได้ ประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนกลางได้ระดับนึง และใช้ไฟถนนและไฟสวนแบบ LED ทำงานและตัดอัตโนมัติ

Facilities ถือว่าครบครัน และออกแบบมาได้สวยงามน่าใช้ ภายใน Club House ประกอบไปด้วย พื้นที่นั่งเล่นติดสระว่ายน้ำ, Fitness และสระว่ายน้ำขนาด Half Olympic ใช้ออกกำลังกายได้ดี คิดว่าน่าจะครอบคลุมความต้องการพื้นฐานในการใช้ Facilities ของคนในหมู่บ้านได้ และเนื่องจากมีคนจากแค่ 57 ครอบครัวที่จะมาใช้งาน Facilities พวกนี้ ก็คงไม่ต้องห่วงว่าจะต้องมาแย่งกันใช้แล้วค่ะ

เรื่องความปลอดภัยเป็นอีกเรื่องที่ทางโครงการใส่ใจนะคะ เริ่มตั้งแต่รั้วรอบโครงการ สูง 4.5 ม. ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. พร้อมกล้อง CCTV ที่ป้อมรปภ.และทั่วโครงการ การเข้า-ออกโครงการแบบ Automatic Gate Barrier ระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติทำงานด้วยระบบ RFID และเป็น Double Gate Security ติดระบบรักษาความปลอดภัยให้ในบ้านทุกหลัง มีทั้งแบบ Magnetic Censor, Motion Censor และ Video Door Phone ที่เชื่อมระบบทั้งหมดเข้ากับป้อมรปภ.ด้วย ก็เรียกว่าให้มาจัดเต็มสำหรับหมู่บ้านจัดสรรที่เหลือก็คือขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของนิติบุคคลต่อไปค่ะ

เสริมอีกหน่อยสำหรับการจะหาซื้อที่อยู่อาศัยในราคา 22.5 – 50 ล้านบาทนั้น จริงๆแล้วมีตัวเลือกอื่นอีกเยอะมาก เราอาจจะหาบ้านลักษณะคล้ายๆกันนี้ได้ ในราคาที่แพงกว่านี้ หรือถูกกว่านี้ หรือในราคาเท่ากันแต่เป็นรูปแบบอื่น แต่ถ้าเราเอามาซื้อ นาราสิริ ปิ่นเกล้า – สาย 1 นี้ สิ่งที่จะได้กลับไปนอกจากที่ดินและตัวบ้านแล้ว มันยังมีเรื่องอื่นๆที่มันเป็น Value (หรือ Cost) ที่มองไม่เห็น อยู่ลึกๆด้วย เช่น การให้บริการหลังการขายของ Developer อย่างแสนสิริ, การดูแลรักษาของนิติบุคคลในหมู่บ้าน, มาตรฐานการดูแลความปลอดภัย, มาตรฐานการก่อสร้าง, สังคมและเพื่อนบ้าน หรือแม้กระทั่งไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในโครงการเดียวกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่ควรพิจารณาเช่นกัน เพราะแน่นอนว่าต้องส่งผลต่อการอยู่อาศัยไม่มากก็น้อยค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นและความเหมาะสมของการใช้ชีวิตแต่ละครอบครัวที่มีการให้น้ำหนักและตีเป็นมูลค่าออกมาไม่เท่ากัน^^

 

Judgement

นาราสิริ ปิ่นเกล้า – สาย 1 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ  Super Luxury ที่มีราคาขายระดับ 22.5 – 50 ล้านบาท ทำให้ปัจจัยในการเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณา แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครงการลักษณะนี้ค่ะ

 

BOTTOM LINE

นาราสิริ ปิ่นเกล้า – สาย 1 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู ขนาดใหญ่ มีจำนวนยูนิตไม่มาก เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว มี Facilities ครบครัว มองหาหมู่บ้านที่น่าวางใจจาก Developer ดัง เน้นมาตรฐานสูง ทั้งเรื่องความปลอดภัย สภาพแวดล้อมโครงการ และตัวบ้าน ต้องการบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีงบประมาณสูงในการซื้อบ้านตั้งแต่ 22.5 – 50 ล้านบาท

 

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )