dscn9735

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) แจ้งว่า ธปท.ยังได้ออกรายงานแนวโน้มสินเชื่อล่าสุดไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารระดับสูงที่ดูแลงานสินเชื่อ พบว่า ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ สถาบันการเงินคาดว่าความต้องการสินเชื่อภาคครัวเรือนทุกประเภทจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เป็นสำคัญ โดยมองแนวโน้มตลาดซื้อขายรถยนต์ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงเพิ่มความเข้มงวดปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้นอีก เพราะห่วงตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตและเศรษฐกิจยังขยายตัวในระดับต่ำ รวมถึงยังรักษาระดับมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อครัวเรือนประเภทอื่นๆ ไว้ใกล้เคียงกับปัจจุบัน

สำหรับสินเชื่อภาคธุรกิจ สถาบันการเงินคาดว่าความต้องการสินเชื่อจากธุรกิจขนาดใหญ่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันมากนัก ขณะที่ความต้องการสินเชื่อธุรกิจ SMEs คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นเงินทุน หมุนเวียนและลงทุนในสินทรัพย์ถาวร อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินยังคงเพิ่มระดับความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อแก่ภาคธุรกิจตามภาวะเศรษฐกิจยังขยายตัวในระดับต่ำ และความกังวลด้านคุณภาพสินเชื่อของธุรกิจในบางอุตสาหกรรรม ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา สถาบันการเงินเข้มงวดทั้งธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจ SMEs เป็นผลจากความกังวลด้านคุณภาพสินเชื่อและอัตราการอนุมัติสินเชื่อให้กับธุรกิจ SMEs ยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ขณะเดียวกัน ธปท.ลงพื้นที่สำรวจมุมมองของผู้ประกอบการโดยตรงและออกรายงานแนวโน้มภาคธุรกิจ พบว่า ช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ผู้ประกอบการคาดว่ากำลังซื้อผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจากผลผลิตของเกษตรกรออกสู่ตลาดมากขึ้น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่อง และภาระหนี้จากโครงการรถยนต์คันแรกบางกลุ่มทยอยหมดลงจะเป็นแรงส่งที่ดีต่อการบริโภคภาคเอกชน ภาคส่งออกมีแนวโน้มชะลอลง เพราะเศรษฐกิจคู่ค้าเปราะบาง ผลกระทบการลงประชามติอังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมถึงข้อจำกัดความสามารถแข่งขันนวัตกรรมและมาตรฐานสินค้าส่งออกของไทย

ภาคอุตสาหกรรมน่าจะมีการลงทุนในเครื่องจักรเพื่อทดแทนแรงงานมากขึ้นตามคำสั่งซื้อในระยะต่อไป แต่แรงงานที่มีทักษะยังต้องการอยู่ ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และภาคการค้ายังมีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านต้นทุนการผลิตจะปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านพลังงาน จึงมีการปรับตัววิธีเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานและลดต้นทุนการผลิตด้านอื่นๆ ขณะที่ผู้ประกอบการบางรายเน้นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ เพื่อสนองความต้องการลูกค้ากลุ่มพิเศษ อาทิ ผลิตภัณฑ์ผ้าปูที่นอนนาโนสำหรับใช้ในโรงพยาบาล ผลิตภัณฑ์สีทาอาคารแบบไร้กลิ่น จึงสามารถปรับเพิ่มราคาสินค้าได้

ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะขยายตัวในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เพราะผู้ประกอบการหลายรายจะเปิดโครงการระดับกลางและบนมากขึ้น โดยในเขตกรุงเทพตามแนวรถไฟฟ้า อาทิ สายสีทอง แถบเจริญนคร ส่วนต่างจังหวัดตามแนวรถไฟรางคู่ รวมถึงนิคมอุตสาหกรรม อีกทั้งมีการจัดงานกระตุ้นการซื้อ สำหรับผลจากมาตรการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่น่าส่งผลให้เร่งขายที่ดินมาก โดยเฉพาะทำเลที่มีศักยภาพ แต่ผู้ประกอบการ อสังหาฯ จะมีอำนาจต่อรองราคาเจ้าของที่ดิน

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา