สวัสดีคุณผู้อ่านทุกคนนะคะ ก่อนเรามาอ่านบทความทุบกระปุกนี้กัน เราขอเกริ่นความเป็นมาสักเล็กน้อย เนื่องจากบทความซีรีย์นี้ทางทีมงานตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางการช่วยเหลือคุณผู้อ่านจากทางบ้านที่มักจะเกิดคำถามเรื่องการเลือกคอนโดให้เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งจากที่ทางทีมได้ตอบคำถามคุณผู้อ่านมาตลอดไม่ว่าจะผ่านทาง Inbox Fanpage ใน Facebook หรือจะเป็นการโทรมาสอบถามโดยตรง จึงทำให้ทางทีมก็เกิดไอเดียอยากให้คุณผู้อ่านคนอื่นๆ ที่อยากรู้เหมือนกัน แต่อาจจะไม่สะดวกสอบถามเข้ามาได้ความรู้กันไปเช่นกัน เลยเป็นที่มารายการและบทความนี้ขึ้นมา

ทั้งนี้ความพิเศษที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้คือเราได้มีการพูดถึงคอนโด Re-sale ด้วย ซึ่งเรามองว่าไม่ค่อยจะได้เห็นรายการ/บทความแบบนี้ในโลกออนไลน์เท่าไหร่นัก ประกอบกับทางเราเองมองว่า คอนโด Re-Sale นั้นก็มีประเด็นที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน และคิดว่าน่าจะสามารถช่วยคุณผู้อ่านในการเลือกคอนโดของผู้อ่านได้มากขึ้น

ส่วนการเลือกทำเลหรือย่านมาพูดถึงนั้น เราจะขอหยิบยกคำถามจากผู้คนทางบ้านจากย่านที่มีจำนวนคนส่วนใหญ่ส่งคำถามเข้ามาถามกันนะคะ โดนเน้นไปที่คำถามของคุณผู้อ่านที่ส่งมาโดยตรง

เริ่มจากย่านแรกเลยคือ “ทองหล่อ” ที่เรียกได้ว่าเป็นทำเลฮอตฮิตอยู่ตลอดของตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเทศไทย เนื่องจากทำเลใจกลางเมือง บรรยากาศกินหรู อยู่ดี พร้อมกับมีความครบครันทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียนเอกชนหรือจะเป็นโรงเรียนนานาชาติเองก็มี ซึ่งหนึ่งในคนที่ส่งคำถามเรื่องคอนโดในย่านทองหล่อนี้ก็คือ ครอบครัวคุณลิลลี่ค่ะ และวันนี้เราจะมาช่วยคุณลิลลี่หาคำตอบกันว่าโครงการไหนดีที่เหมาะสมกับครอบครัวนี้กัน

ทั้งนี้คุณผู้อ่านคนอื่นๆ ที่สนใจคอนโดในย่านทองหล่อ เช่นเดียวกับคุณลิลลี่ ก็สามารถอ่านบทความนี้เพื่อนำข้อมูล หลักการพิจารณา และความคิดเห็นของเราไปประกอบการพิจารณาตัวเองได้นะคะ โดยเปลี่ยนส่วน Requirement (ความต้องการ) เป็นของตัวเองเท่านั้นเองค่ะ และหากใครอยากได้ความเห็นจากเราและทีมโดยตรงสามารถ Comment ในช่องด้านล่างของบทความได้เลยค่ะ ^^


โซนทองหล่อ

ย่านทองหล่ออย่างที่เรารู้กันว่าเป็นหนึ่งในทำเลอันดับแรกๆ ของกรุงเทพมหานคร และต้องบอกว่าซอยทองหล่อ หรือซอยสุขุมวิท 55 นี้ เป็นซอยที่ติดอยู่ในอันดับต้นๆของย่านที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นซอยที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านทำเลที่อยู่อาศัย ธุรกิจร้านค้า แหล่ง ช้อปปิ้งและร้านอาหารอร่อย Hi-end มากมายเปิดทั้งกลางวันกลางคืน

จากแผนที่ข้างต้นเป็นการพิกัดร้านอาหาร ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า Hyper market และ Community Mall ต่างๆ ในละแวกโครงการ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทำเลนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียว มีตัวเลือกให้เลือกรับประทาน ช้อปปิ้ง หรือเดินเล่นค่อนข้างหลากหลาย รวมไปถึงสาธารณูปโภคต่างๆ เช่นโรงพยาบาล และโรงเรียนก็มีครบครันเช่นเดียวกันค่ะ

นอกจากนี้การประเมินราคาของกรมธนารักษ์ปี 59-62 Update ที่ดินในซอยทองหล่อติดถนนมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 420,000 บาท ต่อตร.วา แต่ราคาขายจริงไปไกลกว่านั้นมากหลายเท่าแล้วนะคะ ที่ดินหลายผืนก็ราคาพุ่งไปถึงเป็นล้านบาทต่อตร.วาก็มี ทำให้ย่านทองหล่อสะท้อนความเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้บริโภค กำลังซื้อสูง และพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยคอนโดฯ แถบนี้โดยส่วนใหญ่นิยมกินดื่มนอกบ้าน ในซอยทองหล่อ จึงเป็นแหล่งรวมของร้านอาหาร ร้านกินดื่ม และแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์จำนวนมากในระยะเดินถึงแทบทั้งหมด

ทำเล บรรยากาศ และการเดินทาง

สำหรับทำเลทองหล่อเองนั้น แม้จะอยู่ในพื้นที่เดียวกันแต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่ทั้งเรื่องของบรรยากาศและการเดินทางนะคะ ซึ่งจากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมต่างๆ แล้วจะขอแบ่งเป็นทั้งหมด 3 โซนด้วยกัน

โซนถนนสุขุมวิท
จุดเด่นของทำเลทองหล่อที่ติดถนนสุขุมวิทจะมีอยู่ 2 ข้อหลักๆ คือเรื่องการเดินทางทั้งขับรถส่วนตัวและการใช้รถไฟฟ้า กรณีขับรถส่วนตัวถือว่าค่อนข้างง่ายไม่ต้องเสียเวลาเข้า-ออกซอยย่อย ใช้ถนนสุขุมวิทวิ่งตรงเข้าใจกลางเมืองได้เลย หรือจะวิ่งเข้าซอยทองหล่อก็ไม่ยากนะคะ เพราะจะมีจุดกลับรถให้เลี้ยวเป็นระยะ

และแน่นอนว่าการเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าก็สะดวกเช่นกันค่ะ สามารถเดินไปได้ง่าย มีฟุตบาทขนาดใหญ่เดินสบาย โดยรถไฟฟ้าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีทองหล่อ มีตำแหน่งอยู่บริเวณช่วงปากซอยสุขุมวิท 55, สุขุมวิท 36 และสุขุมวิท 38

โซนทองหล่อ (สุขุมวิทเลขคี่ / สุขุมวิท 55)
โซนในซอยทองหล่อหรือซอยสุขุมวิท 55 นั้นความโดดเด่นคือบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่มีความคึกคัก ความอุดมสมบูรณ์สูง เป็นซอยที่เปิดตลอด 24 ชม. มีร้านค้า ร้านอาหารระดับหรู รวมไปถึง Community Mall กว่า 4 ที่เลยทีเดียว ซึ่งตอบโจทย์คนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความคึกคัก มีสีสัน และเน้นการเข้าถึงร้านอาหารได้สะดวก

นอกจากนี้ซอยสุขุมวิท 55 เองก็เป็นซอยที่เชื่อมเข้ากับถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรีทำให้มีตัวเลือกหลากหลายในการเดินทางมากขึ้น รวมไปถึงยังมีซอยย่อยที่สำคัญเชื่อมการเดินทางไปยังโซนใกล้ๆ ในละแวก เช่น ซอยทองหล่อ 10 ที่เชื่อมเข้ากับถนนเอกมัย (สุขุมวิท 63) เลยไปถึงถนนปรีดี พนมยงค์ได้ และอีกซอยสำคัญคือซอยทองหล่อ 13 ที่สามารถลัดไปออกพร้อมพงษ์ได้เช่นกัน

โซนสุขุมวิทเลขคู่ (สุขุมวิท 36 และสุขุมวิท 38)
และโซนสุดท้ายคือโซนสุขุมวิทเลขคู่ ซึ่งประกอบด้วยซอยที่สำคัญคือ สุขุมวิท 36 และสุขุมวิท 38 โดยทั้ง 2 ซอยนี้จะสามารถเชื่อมกันได้นะคะ แต่ซอยสุขุมวิท 36 จะพิเศษกว่าหน่อยคือเป็นซอยหลักที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนพระราม 4 ทำให้โซนนี้ตอบโจทย์กลุ่มคนที่เน้นเดินทางไปทางพระราม 4 ได้ด้วย และขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครง่ายกว่าโซนอื่นของทองหล่อ

โครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ในโซนนี้

ต้องบอกว่าโครงการคอนโดมิเนียมในย่านทองหล่อนี้มีหลายโครงการมากๆ เลยนะคะ รวมๆ แล้วกว่า 25 โครงการเลยทีเดียว ซึ่งนี่ยังไม่ได้รวมถึงคอนโดมิเนียมที่อยู่ในย่านใกล้เคียงอีก เช่น คอนโดบนถนนเพชรบุรีที่อยู่ใกล้ซอยทองหล่อ หรือคอนโดบนถนนพระราม 4 ที่อยู่ใกล้ซอยสุขุมวิท 36 อีก ทั้งนี้ทั้งนั้นหากคุณผู้อ่านไม่ได้ซีเรียสว่าต้องอยู่ในโซนทองหล่อจริงๆ แต่สามารถต่อรถเข้ามาในโซนทองหล่อได้สะดวกก็สามารถเพิ่มโซนใกล้เคียงเข้ามาเพิ่มได้อีกค่ะ

ส่วนครั้งนี้เราจะขอสโคปเฉพาะโซนทองหล่อทั้ง 3 โซนย่อยที่กล่าวไว้ข้างต้นกันก่อน ซึ่งพอลองปักหมุดออกมาตามรูปด้านบนก็แบ่งย่อยคอนโดได้อีก 2 รูปแบบคือ

1. คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ หรือจะอยู่ในรูปแบบ Re-Sale : ข้อดีของคอนโดประเภทนี้คือ สามารถย้ายเข้าอยู่ได้เลย ได้เห็นของจริงไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศในโครงการ สภาพของห้องพักอาศัย รวมไปถึงวิวจริงที่ได้จากตำแหน่งห้อง
2. คอนโดใหม่ และคอนโดที่อยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง : สำหรับคอนโดใหม่ข้อดีก็จะเป็นไปตามชื่อเลย คือได้ของใหม่ มือ 1 อะไรหลายๆ อย่างในโครงการที่ใหม่กว่าโครงการ Re-Sale ที่ผ่านมาหลายปีแล้ว เช่น รูปแบบการออกแบบ อย่างฝ้าเพดานสูง 3 เมตร หรือจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการอยู่อาศัย ยกตัวอย่างเช่น Home Automation, Automatic Parking เป็นต้น
ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบคอนโดนี้ก็มีทั้งข้อดีของตัวเองอยู่นะคะ แต่จะตอบโจทย์ใครนั้นก็ขึ้นอยู่ว่าเรามีความชอบในการอยู่อาศัยแบบไหน พิจาณาส่วนไหนเป็นสำคัญมากกว่าค่ะ แต่สำหรับบทความนี้เราขอยกมาให้ดูทั้ง 2 รูปแบบ โดยจะเปรียบเทียบเป็นตารางด้านล่างนี้

โจทย์จากคุณผู้อ่าน
เรื่องราวของคุณลิลลี่และสามี คุณลิลลี่มีธุรกิจส่วนตัวอยู่โซนทองหล่อ ส่วนคุณสามีทำงานบริษัทเอกชนในย่านพร้อมพงษ์
รายได้ครอบครัว (รวม 2 คน) อยู่ราวๆ 200,000-300,000 บาท/เดือน
ความสามารถในการกู้ อยู่ที่ไม่เกิน 14 ล้านบาท
กำลังมองหาคอนโดมิเนียมในย่านทองหล่อ ขนาด 1 Bedroom แบบอยู่สบายสำหรับ 2 คน

สรุป Requirement (ความต้องการ)

  • 1 Bedroom ขนาดอยู่สบาย 40-55 ตร.ม.
  • คาดว่าจะสามารถกู้เงินได้ประมาณ 12-14 ล้านบาท
  • Location พื้นที่ทองหล่อ (เลขคี่,คู่ และติดสุขุมวิท)

ซึ่งเมื่อเรารวบรวมข้อมูลโครงการทั้งหมด แล้วมาเช็คกับ Requirement แล้วก็สามารถคัดกรองโครงการที่ตรงกับความต้องการได้ เช่นกรณีคุณลิลลี่และสามี โครงการที่ตรงกับความต้องการจะมี ดังนี้

จากนั้นวิธีการต่อไป คือให้เราไปโครงการจริง เพื่อดูบรรยากาศ สภาพ วิวจริงๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจนะคะ โดยเรายกหัวข้อหลักๆ ในการเลือกโครงการไว้ ดังนี้คือ

ทำเล
ตัวโครงการ
Facilities
ผังห้อง
ราคา
และนอกจากปัจจัยหลักเหล่านี้ ก็ยังมีปัจจัยย่อยอื่นๆ ตามไลฟ์สไตล์ ความชอบ หรือสิ่งที่กังวลของแต่ละคน สามารถเพิ่มเติมเองได้เพื่อเลือกห้องที่ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองมากที่สุด และให้ค่าน้ำหนักในการพิจารณาแต่ละปัจจัยด้วยตัวเองก็จะดีค่ะ เพราะจะได้รู้ว่าโครงการตอบโจทย์สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด

โดยในบทความฉบับนี้เราจะวิเคราะห์โครงการที่ตอบโจทย์คุณลิลลี่กันนะคะ แต่จะขอเลือกวิเคราะห์โครงการที่มีประเด็นน่าสนใจ และที่เราสามารถเข้าไปดูได้ (เนื่องจากโครงการ Re-Sale มีลูกบ้านอาศัยอยู่จริง ก็จะมีบางโครงการไม่สะดวกให้เข้าไปถ่ายทำและเก็บข้อมูลนะคะ) เพื่อให้เห็นภาพกว้างกันมากขึ้นค่ะ ทั้งนี้คุณผู้อ่านคนอื่นๆ ก็สามารถใช้วิธีเดียวกันในการพิจารณาได้ค่ะ


The Crest สุขุมวิท 34

Fact @ 20 December 2018

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด
SUPER LUXURY CLASS
ที่ดินประมาณ 20-0-16 ไร่
คอนโด High Rise 28 ชั้น 1 อาคาร 265 ยูนิต
ปีที่สร้างเสร็จ : 2014
ที่จอดรถ ชั้น 1-5 มี 180 คันไม่รวมจอดซ้อนคัน รวมจอดซ้อนคันเป็น 228 คัน คิดเป็นประมาณ 86%
1 Bedroom ขนาด 35-53.7 ตารางเมตร
2 Bedroom ขนาด 65.1-78.5 ตารางเมตร
Duplex ขนาด 83.2-111.5 ตารางเมตร
Penthouse ขนาด 87.9-101.5 ตารางเมตร
ปี 2012 : ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น/ตารางเมตร 160,000 บาท
ปี 2019 : ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 200,000-220,000 บาท (Re-sale)

จุดเด่นที่ตั้ง

The Crest สุขุมวิท 34 เป็นคอนโดที่อยู่โซนทองหล่อติดถนนสุขุมวิท ฝั่งมุ่งหน้าไปทางพร้อมพงษ์ และห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อประมาณ 100 เมตร ทำให้จุดเด่นโครงการอย่างนึงเลยคือ ทำเล ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์และไม่ใช้รถ อย่างการเดินทางโดยใช้รถ จะต้องใช้ถนนสุขุมวิทเป็นหลักนะคะ สามารถวิ่งตรงเข้าอโศก หรือจะออกเมืองไปทางอ่อนนุชก็สะดวก แต่ต้องยอมรับได้กับเรื่องการจราจรที่ติดขัดอยู่ตลอดของสุขุมวิทด้วยเช่นกัน ส่วนเรื่องการเดินทางโดยไม่ใช้รถก็ไม่น้อยหน้าเพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีทองหล่อแค่ 100 ม. และยังเรียกรถสาธารณะอื่นๆ อย่าง แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ได้สบายๆ รวมถึงบรรยากาศไม่เปลี่ยวด้วย เพราะทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เลย

เรามามองในแง่ทำเลนี้กับครอบครัวคุณลิลลี่ จัดว่าทำเลโครงการนี้ตอบโจทย์อยู่นะคะ เนื่องจากคุณสามีทำงานย่านพร้อมพงษ์ใช้รถไฟฟ้านั่งไป 1 สถานีก็ถึงได้ หรือจะใช้รถยนต์ขับตรงไปก็ไม่นานค่ะ กรณีคุณลิลลี่ที่ทำร้านอาหารอยู่ในซอยทองหล่อเองอาจจะต้องใช้รถยนต์ในการเดินทางเป็นหลัก ซึ่งก็ขับรถไปอีกฝั่งได้ไม่ยากด้วยระยะกลับรถประมาณ 100 ม. และยังเป็นระยะที่เบี่ยงเลนได้ไม่กระชั้นเกินไป

ส่วนที่จอดรถที่นี่ให้มาทั้งหมด 68% ไม่รวมซ้อนคัน และเป็น Conventional ก็ถือว่าอยู่ในระดับโอเคเลยนะคะ เพียงพอในการใช้งานอยู่

ตัวโครงการ

ถัดมาที่ตัวโครงการนี้ถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic เน้นโทนสีทองให้ดูหรูหรา ซึ่งสไตล์นี้ก็จะตอบโจทย์กลุ่มคนบางส่วนนะคะ ไม่ใช่ทุกคน แต่สำหรับเราพอเวลาพูดถึงคำว่า Luxury ก็จะนึกถึงสไตล์แบบนี้เป็นอันดับแรกๆ โดย Interior ภายในพื้นที่ส่วนกลางจะเน้นโทนสีทอง ตกแต่งผนังและพื้นต่างๆ ด้วยหินอ่อนค่ะ หากใครยังเห็นไม่ชัดเดี๋ยวเราจะไปอธิบายตรงส่วน Facilities กันอีกที

และสิ่งที่อยากจะพูดถึงมากๆ ของโครงการนี้คือการดูแลโครงการ เพราะเมื่อเราได้เข้าไปดูตัวโครงการนี้ที่จริงๆ แล้วมีอายุกว่า 5 ปี ภายในยังถือว่ามีการดูแลโครงการได้ดีทีเดียว พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดยังดูใหม่ สะอาด น่าใช้งานนะคะ ต้องบอกว่านี่คือข้อดีคือคอนโดแบบ Re-Sale คือเราจะได้เห็นของจริง การดูแลจริง ว่านิติบุคคลที่นี่ทำได้ดีไหม ยิ่งโครงการไหนเป็น Re-Sale ที่มีอายุระดับนึงแล้ว แต่ยังมีสภาพที่ดีเหมือนใหม่ อย่างโครงการนี้ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าการดูแลของนิติบุคคลที่นี่ดีจริง ทำให้เราคาดหวังได้เลยว่าสภาพส่วนกลางของโครงการน่าจะยังสวยอยู่อีกนาน

มาดูผังอาคารจะมีประเด็นอยู่ 2 ประเด็นคือ 1. วิวจากโครงการ ต้องยอมรับว่าตำแหน่งโครงการอยู่ใจกลางเมือง โซนทองหล่อและติดถนนสุขุมวิทด้วย แทบจะเป็นไปไม่ได้ว่าจะไม่โดนเพื่อนบ้านบล็อกวิวไม่ทิศใดก็ทิศหนึ่งนะคะ โดยโครงการนี้ก็มีเช่นกันโดยทิศที่จะโดนบล็อกจริงๆ จะเป็นทิศตะวันออกซึ่งอยู่ติดกับโครงการ The Keyne by Sansiri ส่วนทิศตะวันตกนั้นอยู่ใกล้กับโครงการรุ่นน้องอย่าง Beatniq แต่ก็ไม่โดนบล็อกวิวในระยะประชิด และมีบางห้องที่ไม่โดนบังวิวระยะไกล เนื่องจากมีการวางอาคารที่เยื้องกันอยู่ ส่วนทิศเหนือและใต้โดยรวมได้วิวระยะไกล แต่ทิศเหนือแนะนำว่าควรเลือกชั้นบนๆ ไปเลย ได้วิวทองหล่อและยังหลุดระยะสายตาจากรถไฟฟ้า ได้ความเป็นส่วนตัว

2. ตำแหน่งห้องและการจัดวางผังพื้น (Floor Plan) ว่ากันที่ตำแหน่งห้องก่อนนะคะ ส่วนใหญ่ห้องมุมอาคารจะเป็นตำแหน่งดีอยู่แล้ว เนื่องจากได้วิว 2 ฝั่ง จึงมักจะวางห้องใหญ่ไว้เสมอ ตำแหน่งห้องมุมที่น่าสนใจของโครงการนี้คือห้องล่างซ้าย (B01) เพราะนอกจากได้วิว 2 ฝั่งแล้วยังติดกับบันไดหนีไฟ ทำให้ห้องนี้ไม่มีผนังติดกับเพื่อนบ้านเลย ส่วนห้องไซส์เล็กที่น่าสนใจก็จะเป็นห้อง B11 เพราะฝั่งตรงข้ามเป็น Single Corridor ที่ติดกับกระจกได้แสงจากภายนอกพร้อมกับไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม

ส่วนการจัดวางผังพื้นเราว่าจัดได้ดี ตรงที่ส่วนใหญ่ได้ Single Corridor มีแค่บางห้องเท่านั้นที่เป็น Double Corridor แต่ทั้งนี้ก็มีการจัดประตูหน้าห้องไม่ให้ตรงกันเป๊ะมาก เพื่อได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และตำแหน่งลิฟต์ที่อยู่ตรงกลางผัง ทำให้ลูกบ้านทั้ง 2 ปีกอาคารเดินได้สะดวก ไม่มีฝั่งใดเดินไกล

Facilities

สำหรับ Facilities ทำมาได้น่าสนใจดีนะคะ โดยสไตล์ก็จะเป็น Modern Classic อย่างที่กล่าวไป เน้นการตกแต่งสีทอง และหินอ่อน จะสังเกตได้ชัดๆ ตรงส่วน Lobby, โถงลิฟต์ และห้องสมุด นอกจากนี้จุด Highlight ของพื้นที่ส่วนกลางถูกยกขึ้นไปชั้นบนมีสระว่ายน้ำ 2 จุดทั้งแบบ Indoor และ Outdoor (ที่บางส่วนอยู่ในร่มไม่ร้อน) ทั้ง 2 จุดได้ City View และ Gimmick คือมีสระน้ำอุ่น + Jacuzzi ให้นอนแช่พักผ่อนได้ชิลๆ นอกจากนี้ส่วนอื่นๆ ก็ให้มามาตรฐาน ขนาดไม่ได้อลังการแต่บรรยากาศดี และจัดได้สวย อย่างห้อง Fitness สวน และ Sky Lounge

แบบห้อง

1 Bedroom ขนาด 44.9 ตร.ม. ลักษณะของตัวห้องนี้เป็นห้องแบบหน้าแคบลึก และจัดวางฟังก์ชันเป็น 2 โซนชัดเจน คือ

1.โซน Common Area (ครัว, พื้นที่รับประทานอาหาร, พื้นที่นั่งเล่น) ซึ่งเข้ามาจะเจอกับ Foyer ขนาดกะทัดรัดก่อนสามารถวางชั้นวางรองเท้าต่างๆ ได้ และด้านข้างเป็นครัวปิดเรียบร้อย เหมาะกับการทำอาหารดี ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารจะวางขนาด 2 ที่นั่งได้กำลังดี วาง 4 ที่นั่งจะแคบไปนะคะ และพื้นที่นั่งเล่นอยู่ติดกับระเบียง ข้อดีคือได้วิวภายนอก สุดท้ายคือระเบียงที่จัดมาให้ขนาดพอสมควร ใช้งานจริงได้ และที่เราชอบคือการแยกโซน CDU เครื่องปรับอากาศเป็นสัดส่วน

2. โซนห้องนอน ถือว่าได้ขนาดใหญ่นะคะ แต่จะเป็นลักษณะหน้าแคบลึกเป็นไปตามลักษณะของห้อง จึงวางตำแหน่งเตียงที่เป็นตำแหน่งดีสุดติดกับหน้าต่าง ได้วิวภายนอก ส่วนด้านข้างเตียงสามารถจัดวางฟังก์ชันได้ทั้งวางโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า

ส่วนห้องน้ำแปลนนี้จะค่อนข้างพิเศษทีเดียวค่ะ เพราะมีการแยกส่วน โซนเปียกและโซนแห้งออกจากกัน โซนแห้งจะเข้าได้ทั้งจาก Common Area และห้องนอน เพื่อให้สะดวกในการใช้งานทั้ง 2 ฝั่ง เวลาแขกมาก็ไม่จำเป็นต้องเข้าห้องนอนก่อนที่จะเข้าห้องน้ำ ทำให้ลูกบ้านเสียความเป็นส่วนตัว อีกอย่างคือกรณีอยู่ร่วมกัน 2 คนก็สามารถแยกส่วนกันใช้งานได้ เช่น คนนึง แปรงฟัน อีกคนอาบน้ำได้ ไม่ต้องเสียเวลาในช่วงเวลาเร่งด่วนก่อนจะไปทำงานตอนเช้า

แต่ทั้งนี้ต้องบอกว่าข้อเสียก็มีเหมือนกันนะคะ เพราะการแยกการใช้งานแบบนี้ทำให้หลายคนที่มักจะใช้งานพร้อมๆ กันไม่สะดวก ต้องเดินผ่านโซน Walk-in Closet ที่เป็นพื้นไม้ก่อนอีกด้วย

เรทราคาของห้อง 1 Bedroom โครงการ The Crest สุขุมวิท 34 : 8.02 – 15.6 ล้านบาท

(ขอบคุณข้อมูลจาก Bangkok Citismart 28/01/19)


Park Origin ทองหล่อ

Fact @ 11 October 2018

Origin Property Public Company Limited
ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
โครงการตั้งอยู่ในเขต : วัฒนา
คอนโด High Rise 3 อาคาร จำนวนทั้งหมด 1182 ยูนิต
TOWER A จำนวน 375 ยูนิต สูง 39 ชั้น
TOWER B จำนวน 478 ยูนิต สูง 53 ชั้น
TOWER C จำนวน 329 ยูนิต สูง 59 ชั้น
ที่จอดรถ 643 คัน ประมาณ 54 % (Auto Parking)
ที่ดินประมาณ 5-3-90.9 ไร่
เริ่มก่อสร้าง : Q2/2562
คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q2/2565
Tower A 1
1 Bedroom : 31.50 – 34.50 SQ.M ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
2 Bedroom : 44.50 – 67.50 SQ.M ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
Tower B 1
1 Bedroom : 30.00 – 36.0 0 SQ.M ราคาเริ่มต้น 6.90 ล้านบาท
2 Bedroom : 40.50 – 45.00 SQ.M ราคาเริ่มต้น 11.90 ล้านบาท
Tower C
1 Bedroom : 32.50 – 33.50 SQ.M ราคาเริ่มต้น 7.84 ล้านบาท
2 Bedroom : 45.50 – 51.50 SQ.M ราคาเริ่มต้น 12.38 ล้านบาท
2 Bed Duo Space : 32.50 – 46.00 SQ.M ราคาเริ่มต้น 10.59 ล้านบาท
2 Bed plus Duo Space : 47.50 – 51.50 SQ.M ราคาเริ่มต้น 15.50 ล้านบาท
2 Bed Penthouse : 55.00 – 66.50 SQ.M ราคาเริ่มต้น 18.08 ล้านบาท
3 Bed Penthouse : 97.00 SQ.M ราคาเริ่มต้น 33.90 ล้านบาท
ฝ้าเพดานสูง
ห้อง Simplex 3.00 เมตร
ห้อง Duo Space 4.25 เมตร (ชั้นล่าง 2.10 เมตร, ชั้นบน 2.00 เมตร)
ห้อง Penthouse 3.50 เมตร
ราคาห้องเริ่มต้น 6.90 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 250,000 – 260,000 บาท/ตร.ม.
EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ในระหว่างดำเนินการ

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้โดย (คลิกที่นี่)

จุดเด่นที่ตั้ง

Park Origin ทองหล่อ ตั้งอยู่บนกึ่งกลางซอยทองหล่อ 10 ซึ่งเป็นซอยหลักที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) และถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย) ทำเลนี้อาจจะไม่ใช่อยู่บนถนนหลักนะคะ แต่เป็นซอยที่น่าสนใจอีกซอยเนื่องจากเชื่อมเข้าซอยทองหล่อได้ และซอยเอกมัย มีตัวเลือกในการเดินทางพอสมควร และนอกจากนี้ยังอยู่ใจกลางของความอุดมสมบูรณ์สูงสุดของย่านทองหล่อ เพราะส่วนใหญ่ร้านค้า ร้านอาหาร รวมไปถึง Community Mall จะอยู่รวมๆ กันในช่วงตอนกลางของซอยทองหล่อนั่นเองค่ะ

และหากมองในแง่ของคุณลิลลี่ทำเลนี้ก็จัดว่าสะดวกในการเดินทางเลย เพราะขับรถออกจากโครงการแล้วเลี้ยวเข้าใจกลางซอยทองหล่อได้ง่าย ส่วนสามีคุณลิลลี่ยังสามารถใช้ซอยย่อยจากซอยทองหล่ออีกทีเพื่อลัดเลาะไปออกย่านพร้อมพงษ์ได้อยู่ค่ะ ไม่ต้องออกไปสุขุมวิทที่รถน่าจะติดกว่า

โครงการ

ตัวโครงการนี้มีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลักๆ คือ 4 เรื่องด้วยกัน เริ่มแรกเลยต้องบอกโครงการนี้หากสร้างเสร็จแล้วจะเป็นคอนโดมิเนียมที่มีความสูงที่สุดในย่านทองหล่อ (เฉพาะอาคาร C นะคะ) เรื่องที่ 2 คือ จำนวนที่ดินเกือบ 6 ไร่ ถือว่ารวมที่ดินได้เยอะทีเดียวเพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการ ซึ่งข้อดีคือทำให้มีพื้นที่สีเขียวในชั้นล่างพอสมควร และค่อนข้างหาได้ยากสำหรับคอนโดใจกลางเมืองปัจจุบันแต่ก็ต้องแลกกับจำนวนยูนิตที่จัดว่าเยอะเช่นกัน ความหนาแน่นในโครงการจะสูงกว่าคอนโดในระดับ Segment เดียวกัน ซึ่งดีที่ทางโครงการหารยูนิตออกมาเป็น 3 อาคาร เพื่อให้ในแต่ละอาคารเองจำนวนยูนิตไม่มากนักสูงสุดอยู่ที่ 13 ยูนิต และได้ Single Corridor สุดท้ายคือ Facilities ที่เรียกว่าจัดเต็มให้เหมาะสมกับจำนวนยูนิตเช่นเดียวกัน โดยแต่ละอาคารจะมี Facilities ของแต่ละอาคารเองเลย แต่มี Sky Bridge (สะพานเชื่อม) ให้ลูกบ้านทุกอาคารสามารถเดินข้ามตึกมาใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมด สุดท้ายคือห้องที่เน้นฝ้าเพดานสูงทุกแบบ โดยห้อง Simplex หรือห้องธรรมดา ฝ้าเพดานที่ได้ก็สูง 3 ม. แล้วนะคะ ถ้าเป็น Penthouse จะอยู่ที่ 3.5 ม. และ Duo Space (Loft) จะอยู่ที่ 4.25 ม.(ชั้นล่าง 2.1 ม., ชั้นบน 2 ม.)

ว่ากันต่อที่รูปแบบการขายสักเล็กน้อย เนื่องจากที่นี่มี 3 อาคารนะคะ อาคาร A จะเป็นอาคารที่เปิดขายให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ส่วนคนไทยเน้นขายอาคาร B และ C ด้านหลังค่ะ

Facilities

ด้วยความที่ Facilities เป็นอีก 1 จุดเด่นของโครงการนี้ เราจึงขอหยิบยกมาอธิบายเพิ่มเติมนะคะ จากรูปด้านบนจะเห็นว่าทุกอาคารมี Facilities ในแต่ละอาคารเยอะมาก แต่โดยหลักแล้วจะมีสระว่ายน้ำทุกอาคาร เพื่อให้แยกใช้งานได้ มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมไปถึงเพียงพอในการใช้งาน ส่วน Facilities อื่นๆ เช่น Gym ก็มีให้ 2 อาคาร ถือว่าโอเคนะคะ แม้จะมีอันเดียวแต่ลูกบ้านทุกอาคารสามารถใช้งานได้ทั้งหมด และค่อนข้างสะดวกไม่ใช่ต้องลงลิฟต์ไปขึ้นลิฟต์อีกอาคาร แต่เพราะมีสะพานเชื่อมให้เลยก็ช่วยให้ง่ายมากขึ้น ส่วนตำแหน่งของ Facilities เน้นยกขึ้นไปโซนบนๆ จึงได้รับวิวมุมสูงของโซนทองหล่อด้วย

แบบห้อง

สำหรับโครงการนี้ห้อง 1 Bedroom นั้นจะเน้นห้องขนาดเล็ก 31.50 – 36 ตร.ม. ซึ่งขนาดห้องเท่านี้จะเล็กไปหน่อย ไม่ตอบโจทย์คุณลิลลี่ที่มองหาห้องขนาด 40 – 55 ตร.ม. เราจะมองหา Option เสริมสำหรับเป็นไอเดียเพิ่มเติมให้คุณลิลลี่ หรือคุณผู้อ่านเองจะมาปรับใช้ก็ได้เช่นกันค่ะ สำหรับห้องของโครงการนี้ที่เราเลือกมาจะมี 2 แบบห้องด้วยกันที่น่าสนใจคือ

1.ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 45- 46 ตร.ม.

อันดับแรกที่เลือกห้องนี้คือขนาดห้องตรงกับความต้องการของคุณลิลลี่ แต่พิเศษขึ้นมาคือมีอีกหนึ่งห้องอเนกประสงค์ ฟังก์ชันนี้เผื่อไว้สำหรับการแพลนจะมีลูกในอนาคต หรือหากไม่ได้คิดวางแผนว่าจะมีน้องก็สามารถปรับไปเป็นห้องทำงานที่เป็นสัดส่วนไปเลย หรือเป็นห้องนอนแขกก็ได้เช่นกัน ส่วนความน่าสนใจอื่นๆ ของแปลนนี้ก็จะเป็นห้องตำแหน่งมุมอาคาร วางห้องนอนไว้ตรงมุมรับแสงธรรมชาตและวิวได้ดีเลย รวมไปถึงพื้นที่ Common Area แบบหน้ากว้างได้บรรยากาศที่ดูโปร่งโล่งมากขึ้น

ราคาห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 45- 46 ตร.ม. : 13 ล้านบาท

(ข้อมูลจากสำนักงานขายโครงการ เมื่อ 13/02/19)

2. ห้อง 1 Bedroom แบบ Combine 33 + 33 ตร.ม.

เนื่องจากห้อง 1 Bedroom ของโครงการมีขนาด 3x ตร.ม. ซึ่งก็อย่างที่บอกว่าขนาดเล็กไปหน่อยจาก Requirement ของคุณลิลลี่ ซึ่งหากคุณลิลลี่สนใจโครงการนี้เป็นพิเศษก็จะมีอีก option ในการเลือกห้องคือ การทำห้อง 1 Bedroom แบบ Combine กัน โดยการทำแบบนี้จะมีความน่าสนใจอยู่ และมีข้อจำกัดให้ต้องพิจารณาเช่นกัน สำหรับความน่าสนใจคือหากใครเลือกแบบ Combine สามารถบอกโครงการได้เลยว่าให้ทำห้อง Combine โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมไปถึงการจัดฟังก์ชันด้านในจะได้แบบเดียวกับห้อง Penthouse ของโครงการ (แต่ฝ้าเพดานมีความสูงแบบ Simplex 3 ม.) พร้อมกับอัพสเป็ควัสดุให้ เช่น เคาน์เตอร์ครัวที่ได้ตามแบบห้อง Penthouse

แต่ข้อจำกัดของคุณลิลลี่คือราคาเกินงบที่ตั้งไว้นะคะ โดยราคาจากที่สอบถามสำนักงานขายมาเพื่อ Combine แล้วจะอยู่ที่ 15 ล้านบาท ถ้าสู้ไหวก็จะได้ห้อง 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น

ราคาห้อง 1 Bedroom Combine ขนาด 33 + 33 ตร.ม. : 15 ล้านบาท

(ข้อมูลจากสำนักงานขายโครงการ เมื่อ 13/02/19)

Aestiq

Fact @ 25 October 2018

AESTIQ Thonglor (เอสทีค ทองหล่อ)
REAL ASSET DEVELOPMENT CO.,LTD.
Ultimate CLASS
โครงการตั้งอยู่ในเขต : เขตวัฒนา
คอนโด High Rise 40 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 203 ยูนิต
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 11 ยูนิต
ที่จอดรถประมาณ 220 คันคิดเป็น 103%
ที่ดินประมาณ 1-3-88 ไร่
เริ่มก่อสร้าง : พ.ค. 2562
คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ไตรมาส 4 ปี 2564
1 bedroom: 33 – 52 ตร.ม.
2 bedroom: 76 – 119 ตร.ม.
3 bedroom : 131 – 158 ตร.ม.
Penthouse 289 – 301 ตร.ม.
ฝ้าเพดานสูง 2.70 – 3.0 เมตร
ราคาห้องเริ่มต้น 9.59 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 295,000 บาท/ตร.ม.

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้โดย (คลิกที่นี่)

 

จุดเด่นที่ตั้ง

โครงการ AESTIQ Thonglor ตั้งอยู่ติดถนนทองหล่อช่วงตอนปลาย บริเวณเยื้องกับโรงพยาบาลคามิลเลียน ซึ่งโซนนี้จัดว่าเป็นโซนที่มีความคึกคักน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทองหล่อตอนต้นใกล้กับสุขุมวิท และตอนกลางที่มี Community Mall และร้านอาหารหรูต่างๆ สิ่งที่ทำเลโซนตอนปลายของทองหล่อได้เปรียบคือเรื่องของวิวจากคอนโด เนื่องจากสภาพแวดล้อมโดยรอบเมื่อเทียบกับโซนตอนต้น-ตอนกลางแล้วยังมีอาคารสูงไม่มากนัก โอกาสที่คอนโดจะได้วิวระยะไกลมีมากกว่า และ Aestiq ก็เป็นหนึ่งในโครงการที่ไม่โดนบล็อกวิวระยะใกล้เช่นกัน

เรื่องการเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวถือว่าดีเลย เพราะจัดที่จอดรถมาให้ 103% ตอบโจทย์กลุ่มคนระดับ Luxury ส่วนตัวเลือกอื่นๆ สะดวกรองลงมาคือ เรียกรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ต่างๆ ไม่ยาก เพราะในซอยนี้รถสาธารณะวิ่งกันเยอะอยู่แล้ว ส่วนรถไฟฟ้าไม่จัดอยู่ในระยะเดินได้นะคะ โดยห่างอยู่ที่ 1.8 กม. ไปแล้ว แต่ข้อดีคือทางโครงการก็จัดบริการ Shuttle Service รับ-ส่งให้ บวกบริการเสริมคือ Luxury Car Service ซึ่งคาดว่าจะเป็นรถ Tesla ให้ลูกบ้านยืมใช้บริการกันได้

วิเคราะห์ทำเลโครงการในมุมมองของคุณลิลลี่ ทำเลนี้จัดว่าโอเคเช่นเดียวกับอีก 2 โซนในแง่การเดินทางโดยใช้รถ โดยคุณลิลลี่วิ่งไปทำงานได้ไม่ยากเพราะอยู่ในซอยเดียวกันอยู่แล้ว ส่วนสามีต้องเน้นขับรถเป็นหลักจะสะดวกสุด และใช้ซอยลัดไปออกพร้อมพงษ์ได้ อย่างซอยที่ใกล้ๆ ก็จะมีซอยทองหล่อ 23 และซอยทองหล่อ 13

โครงการ

Highlight ของโครงการนี้มีหลายจุดทีเดียวค่ะ เริ่มต้นจากการออกแบบรูปลักษณ์อาคารให้เป็นแนว Futuristic ฉีกแนวจากโครงการระดับ Ultimate Class อื่นๆ ในย่านนี้ ด้วยการทำ Facade กระจกโค้งขนาดใหญ่ อย่างที่ 2 คือ Private Lift แบบ 1 Time/1 Unit คือลิฟต์จะเปิดให้เข้าใช้ทีละครั้งเท่านั้น ไม่มีการรับผู้โดยสารเพิ่มระหว่างชั้น เท่ากับว่าเราจะไม่ต้องใช้ลิฟต์ร่วมกับใคร จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

อีกความน่าสนใจคือการจัดผังพื้น (Floor Plan) ได้แปลกไม่ค่อยได้เห็นที่ไหน โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน แต่ละโซนวางห้อง 2-6 ยูนิตเท่านั้น ทำให้มีห้องมุมมากขึ้น ได้ความเป็นส่วนตัวดี และห้องฝั่งที่หันไปซอยทองหล่อได้วิวถึง 3 ทิศเลยทีเดียวค่ะ ส่วน Corridor จัดมาแบบ Single Corridor ได้ช่องแสงเยอะของจริงน่าจะโปร่งโล่ง

Facilities

สุดท้ายอีก Highlight คือ Facilities ที่จัดเต็มและทำมาน่าสนใจ เช่น โซนชั้นล่างแยก Lobby ไว้ถึง 3 Lobby โดยมีการแยก Lobby สำหรับ Visitor ออกจาก Lobby ลูกบ้าน เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น หรือจะเป็นสระว่ายน้ำยาว 25 ม. พร้อมกับ Aquatic Treadmill : ที่ออกกำลังกายใต้น้ำ และการตกแต่งที่ค่อนข้างน่าสนใจด้วย Aluminium Mosaic มีพื้นที่ผิวที่สะท้อนผิวน้ำและแสงไฟเมืองรอบๆ ได้บรรยากาศการว่ายน้ำที่แปลกตาไปอีก

แบบห้อง

ห้องที่เหมาะกับครอบครัวคุณลิลลี่ สำหรับโครงการนี้คือ 1 Bedroom Type A3 ขนาด 44.38 ตร.ม. ความน่าสนใจของห้องนี้มีทั้งหมด 3 จุดหลักๆ คือ

1. ตำแหน่งของห้องเป็นห้องมุม จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะมีแค่ผนังส่วนพื้นที่รับประทานอาหารเท่านั้นที่อยู่ติดกับเพื่อนบ้าน

2. Private Lift ด้วยความเป็นได้ Private Lift ทำให้เปิดลิฟต์ออกมาก็เข้ามาภายในห้องตัวเองได้เลย ซึ่งเมื่อเปิดลิฟต์มาจะเจอกับห้องครัวที่ใช้งานแบบ 2 ฟังก์ชันไปในตัวคือเป็นทั้ง Foyer และครัว หลายคนอาจจะไม่ชอบเพราะดูไม่เป็นสัดส่วน ไม่เหมาะ เช่น ต้องวางรองเท้าในห้องครัว หรือดูไม่สวยงามเท่าไหร่ ตรงที่เปิดมาเจอกับเคาน์เตอร์ครัวก่อนเลย แต่ข้อดีก็มีนะคะ ด้วยความที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยในห้องไม่ได้ใหญ่มาก การจะทำเป็นครัวปิดจึงค่อนข้างยาก ดังนั้นการรวบพื้นที่ใช้งานแบบนี้ก็ทำให้ได้ครัวปิด เหมาะกับการทำอาหารไปในตัว

3. ห้องหน้ากว้าง จัดพื้นที่ใช้สอยภายในได้ลงตัวดี อย่าง Common Area ทั้งส่วนนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารก็อยู่ติดระเบียง ชมวิวได้ ห้องนอนก็อยู่ติดหน้าต่างเช่นกัน

ราคาห้อง 1 Bedroom Type A3 ขนาด 44.38 ตร.ม. : 12.4 ล้านบาท

(ข้อมูลจากสำนักงานขายโครงการ เมื่อ 13/02/19)


ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์อสังหาฯ จาก Think of Living

หลังจากไปดูโครงการทั้ง 3 โครงการ ชอบโครงการไหน และคิดว่าเหมาะสมกับคุณลิลลี่

The Crest สุขุมวิท 34 (คุณดา Yada S.)

ทำเล – อยู่ติดถนนสุขุมวิทเลย ซึ่งมองในแง่การใช้งานแล้วคุณสามีสามารถเลือกใช้การเดินทางไปทำงานได้โดยใช้รถไฟฟ้าได้ และคุณลิลลี่ใช้รถขับเข้าซอยทองหล่อ ซึ่งก็กลับรถไม่ไกลมาก อีกทั้งห้องพักอาศัยที่คุณลิลลี่มองหาจะเป็น 1 Bedroom ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้ให้ที่จอดรถมากกว่า 1 คันอยู่แล้วด้วย จะไม่มีปัญหาในเรื่องที่จอดรถ
ราคา – ห้องพักอาศัยยูนิตที่เราพาไปดูมีราคาอยู่ประมาณ 10.9 ล้านบาท ซึ่งถือว่าถูกกว่างบประมาณที่คุณลิลลี่ตั้งเอาไว้ประมาณ 1 ล้านบาท งบที่เหลือจะนำไปตกแต่งห้องใหม่หรือเก็บไว้เองก็ได้
บรรยากาศโครงการ – อายุโครงการนี้ประมาณ 5 ปีแล้ว แต่เมื่อเข้าไปดูภายในโครงการจริงต้องบอกว่ามีการดูแลได้ดีมาก ทำให้เห็นว่านิติบุคคลที่นี่ทำงานได้ดี ส่วนดีไซน์ที่นี่จะเป็นแนว Classic เรียบหรู และใช้วัสดุตกแต่งเกรดดีเช่น หินอ่อน ที่ตกแต่งตั้งแต่ Lobby ไปจนถึงในห้องพักอาศัยเลย

Aestiq (คุณปั้น Pongpon V.)

งบประมาณ – ห้องพักอาศัยของโครงการนี้ยังอยู่ในงบประมาณของครอบครัวคุณลิลลี่ คือไม่เกิน 14 ล้านบาท ซึ่งราคาห้องนี้จะอยู่ที่ประมาณ 12.4 ล้านบาท ทำให้เหลืองบประมาณอีกหน่อยไปตกแต่งห้องเพิ่มเติมได้ รวมไปถึงแบบห้องก็ตรงกับความต้องการคือ 1 Bedroom ขนาด 40-55 ตร.ม.
ทำเล – ตัวโครงการตั้งอยู่ช่วงปลายของทองหล่อก็จริง แต่ถึงอย่างไรก็เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่อยู่ติดกับถนนทองหล่อเลย ดังนั้นคุณลิลลี่สามารถเดินทางไปร้านอาหารได้สะดวกอยู่แล้ว ส่วนสามีก็สามารถเดินทางไปย่านพร้อมพงษ์ได้ไม่ยากโดยใช้ซอยฝั่งเลขคี่ เช่น ซอยทองหล่อ 9, 13, 19, 23, 25 เป็นต้น และสุดท้ายรูปแบบการเดินทางโดยใช้รถยนต์เป็นหลักก็สัมพันธ์กับโครงการที่ให้ที่จอดรถมา 103% เรียกว่ากลับบ้านมามีที่จอดรถแน่นอน
โครงการ – ตัวโครงการมีจุดเด่นอยู่หลายจุดทีเดียว เช่น
การดีไซน์โครงการ แบบ Futuristic เน้นใช้กระจกโค้งมาประดับหน้าอาคาร และโทนสีดำสุขุม ซึ่งรูปแบบนี้จะไม่ค่อยได้เห็นในย่านทองหล่อ เพราะส่วนใหญ่มักจะเน้นไปทางแนว Timeless Design หรือจะเป็นแนว Classic มากกว่า แต่เรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องรสนิยมส่วนตัวนะ
ความเป็นส่วนตัว จะเห็นได้ว่าโครงการให้ความสำคัญพอสมควร เริ่มจาก Lobby ที่ให้มา 3 จุดด้วยกัน, มี Private Lift แบบ 1 Time/1 Unit) , มีการแยกกลุ่มอาคารเป็น 3 กลุ่มเพื่อให้มีห้องมุมมากขึ้น ไม่อยู่ติดกันมากนัก และสุดท้ายคือจำนวนยูนิตไม่มาก เป็น High Rise ที่มียูนิต 203 ยูนิต แต่ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายมากขึ้นด้วยเช่นกัน


สำหรับบทความนี้เป็นแค่ 1 ตัวอย่างในการหาคอนโดเท่านั้น เพราะแต่ละคนก็มีความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างกันไป อย่างคอนโดที่เหมาะกับคุณลิลลี่ ก็อาจจะไม่เหมาะกับคนอื่นๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณผู้อ่านสามารถนำเอาหลักการที่เราใช้วิเคราะห์มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเองได้นะคะ และหากคุณผู้อ่านสนใจโครงการในย่านไหนก็สามารถคอมเม้นท์มาด้านล่าง หรือจะ Inbox เข้ามาที่แฟนเพจ Facebook ของ Think of Living ได้เลยค่ะ

  • ขอบคุณข้อมูลจาก Bangkok Citismart : www.bkkcitismart.com
  • อ่านรีวิวเจาะลึกเพิ่มเติม : www.thinkofliving.com
  • ส่งเรื่องราวของคุณเพื่อให้เราช่วยหาคอนโดมาได้ที่ : www.facebook.com/ThinkOfLiving
  • ดูรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube.com/ThinkofLiving (อย่าลืมกด Subscribe นะคร้าบ)[ทุบกระปุกซื้อคอนโด EP2 : ตามหาคอนโดย่านทองหล่อ]

  • ติดต่อทีมงานรายการ คิด.เรื่อง.อยู่: [email protected]
  • ติดต่อโฆษณาได้ที่  ฝ่ายขาย บริษัท คิดเรื่องอยู่ จำกัด : 02-168-3107

เขียนบทความโดย : Yada.S