IMG_1021

“เราเน้นการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ พัฒนาโปรเจคที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สามารถตอบสนองกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน เน้นทีมงานที่เป็นมืออาชีพ”

ทางทีม Think of Living ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณชวลิต นิ่มละออ ประธานบริษัท เจ กรุ๊ป เรียล เอสเตท ดีเวลลอปเม้นท จำกัด ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีในธุรกิจเสื้อผ้าส่งออก ประสบความสำเร็จและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ  อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งประธานคณะทำงานอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเริ่มเข้าสู่ธุรกิจอสังหาฯเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาภายใต้ชื่อบริษัท เจ กรุ๊ป เรียล เอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และในวันนี้เรายังได้รับเกียรติจาก คุณอรุณี นิ่มละออ บุตรสาวผู้ดำรงตำแหน่ง Marketing Director มาร่วมสัมภาษณ์พูดคุยกับเราด้วย

 

IMG_1015

โบว์ : อยากให้เล่าประวัติความเป็นมาของบริษัท เจ กรุ๊ป เรียลเอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ว่าเป็นมาอย่างไร

คุณชวลิต :  ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราจัดตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา โดยเริ่มจากการซื้อคอนโดระดับ A+ ในปริมาณเยอะๆและปล่อยเช่า โดยเน้นกลุ่มต่างชาติเป็นหลัก ปัจจุบันมีประมาณ 50 กว่าห้อง และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราเริ่มสร้างบ้านเอง ภายใต้แบรนด์ The Preston Townhome ซึ่งเราทำตัวโครงการให้แตกต่างจากคนอื่น เราร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เลือกผู้ที่มีประสบการณ์ในแต่ละด้านมาทำให้โปรเจคนี้ออกมาโดดเด่น ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า อย่างในส่วนของสถาปนิก เราเลือกใช้ Four Aces ส่วน Landscape เราเลือก Rafa (ระฟ้า) และส่วนการทำการตลาดเราเลือก BluEdge สำหรับตัว The Preston Townhome เป็นโครงการแรก ที่เราจะยึดเป็นมาตรฐานในการสร้างโปรเจคต่อๆไป  ใช้การออกแบบมีเอกลักษณ์  มาตรฐานสูง และใช้อิฐมวลเบาในการก่อสร้าง

IMG_1039

บูม : ในเมื่อเริ่มจากการซื้อคอนโดแล้วปล่อยเช่า ทำไมถึงเลือกที่จะมาสร้างบ้านเอง

คุณชวลิต :  เรามองว่าการปล่อยเช่าเป็นการลงทุนที่ตอบสนองความเจริญเติบโตของตลาดต่างประเทศ เป็นสิ่งที่เราเริ่มหาประสบการณ์ในการทำธุรกิจอสังหาฯ เราเลือกที่จะมาสร้างเอง เพราะเรามองว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซี่ยน เป็นศูนย์กลางทางด้านการค้า จะเห็นว่ามีต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งมีการเจริญเติบโตค่อนข้างมาก ทำไรเราตัดสินใจที่จะมาทำเอง

IMG_1027

โบว์ : แนวคิดในการทำโครงการ The Preston townhome เป็นอย่างไร

คุณชวลิต : เรามองธุรกิจในระยะยาว เราต้องสร้าง Corporate Image, Product Image และ Brand Image ก่อน ซึ่งเป็นจุดเด่น สามารถทำต่อได้ในอนาคต สำหรับตัวบ้านที่เราสร้างเราใช้อิฐมวลเบาในการก่อสร้าง เราใช้การสร้างแบบ Conventional เราไม่ใช้การสร้างแบบ Precast เราเป็นผู้ประการการใหม่ในส่วนของ Townhome มีการคุยภายในกันหลายๆแบบ สุดท้ายออกมาเป็นสไตล์ Modern English ซึ่งเรามั่นใจว่าเราเป็นเจ้าแรกในไทย เราต้องการสร้าง Corporate Image เรามีการทำ Research ก่อนทำโปรเจคนี้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของสถาปัตยกรรม Landscape การทำสวนที่เป็น English Country ซึ่งสิ่งเหล่านี้เรามองว่าเป็นช่องว่างที่ยังไม่มี

IMG_1016

บูม : ใช้ผู้ประกอบการรายใดในการทำ Research ให้

คุณอรุณี : เราเลือก BluEdgeในการทำการตลาด ทำการวิจัยสถาปัตยกรรมในมุมมองการตลาดที่สามารถขายได้

บูม : วาง Positioning ของ The Preston Townhome ไว้อย่างไร

คุณอรุณี : เรามองว่าเราเป็นแบรนด์ระดับ Premium ราคาที่เราตั้งสูงกว่าตลาดเล็กน้อย แต่เราต้องการสื่อให้เห็นถึงความคุ้มค่าที่จะได้รับจากตัวโครงการ วัสดุที่เราเลือกใช้ และ สังคมที่เราได้เลือกแล้ว

คุณชวลิต : เราตั้งราคาขายที่ 4.99 ล้านบาท เราทำการศึกษามาทั้งตลาดและคู่แข่ง สำหรับหน้ากว้างเราทำที่ 5.7 เมตร ร่วมทั้ง Function อื่นๆ เราก็ให้มากกว่า ซึ่งด้วยต้นทุนที่สูงขึ้นเราคิดว่าราคานี้น่าจะเหมาะสม

IMG_0962

บูม : กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร

คุณชวลิต : เรามองกลุ่มเป้าหมายระดับ Medium – High Class คนที่มองว่ายอมจ่ายเพิ่มอีกไม่มากเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่า เราตอบสนองกลุ่มคนที่มี Life style มองความเป็นส่วนตัว ชอบความแตกต่าง กลุ่มคนเมือง เนื่องจากกรุงเทพกรีฑาเชื่อมเข้าเมืองได้ง่าย ใกล้ทางด่วน นอกจากนี้เป็นกลุ่มที่มองเรื่องการเดินทางไปสุวรรณภูมิได้ด้วยเช่นกัน

IMG_0964

โบว์ : มองการแข่งขันในบริเวณนี้อย่างไรบ้าง

คุณชวลิต : หมู่บ้านจัดสรรในบริเวณนี้เยอะ โครงการที่มีอยู่ส่วนใหญ่ขายไปเกือบหมด แต่สำหรับเจ้าอื่นๆจะค่อนข้างเป็นสไตล์ Modern แต่เรามองว่าเราเป็น Segment ที่แตกต่างทั้งในเรื่องของ Location และตัวโปรเจคเอง

IMG_1013

โบว์ : ทำไมถึงเลือกพัฒนาโครงการที่เป็น Townhome ไม่ใช่บ้านเดี่ยว

คุณชวลิต : ด้วย Location ที่เราสร้าง The Preston อยู่ตอนนี้ ต้นทุนที่ดินค่อนข้างสูง ถ้าเราทำบ้านเดี่ยว ราคาจะแพงไป เราจึงเลือกทำ Townhome เพื่อจับกลุ่มลูกค้าระดับ Medium – High Class เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มครอบครัวใหม่ ที่มีรายได้ดีพอสมควร

คุณอรุณี : เรามองถึงกลุ่มที่มี Life style ต้องการบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมาก แต่ไม่ต้องการการดูแลรักษาเยอะเหมือนบ้านเดี่ยวด้วย

คุณชวลิต : บ้านเดี่ยวต้องดูแลสวนเยอะ ในขณะที่ Townhome ไม่มีพื้นที่สวนให้ต้องดูแล ซึ่งเรามองว่าน่าจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายเรามากกว่า

IMG_1007

บูม : คาดการณ์ว่าโครงการ The Preston Townhome จะสร้างเสร็จขายหมดเมื่อไหร่

คุณชวลิต : เราวางแผนไว้ว่าตัวโครงการน่าจะเสร็จหมดประมาณสิ้นปี 2557 และสำหรับการขายเฟสแรก ช่วงกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2557 น่าจะขายหมด ส่วนเฟสที่ 2 คาดว่าจะขายหมดในช่วงเวลาเดียวกันกับที่โครงการสร้างเสร็จพอดี

บูม : แผนงานในการพัฒนาโปรเจคต่างๆในอนาคตเป็นอย่างไรบ้าง

คุณชวลิต : จาก Business plan ที่เราวางไว้ เน้น Townhome, Home office เราอยากเน้นจุดแข็งของเรามากกว่า ยังไม่อยากแตกไลน์ไปทำอย่างอื่น

IMG_0997

บูม : ยังคงสไตล์เป็นแบบ British ต่อหรือไม่

คุณชวลิต : โครงการต่อไปอาจจะไม่ต่างจากโครงการปัจจุบันเท่าไหร่ เพราะเราจะทำให้เป็นเอกลักษณ์ ไม่ขายตามคนอื่น แต่ทั้งนี้โครงการถัดๆไปจะเป็นสไตล์แบบไหน เราก็คงจะมีการปรับให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายของเราซึ่งยังไม่ได้กำหนดไว้ตายตัว

IMG_1001

โบว์ : โปรเจคที่วางไว้ในอนาคตนี้ ตั้งใจพัฒนาที่บริเวณไหน

คุณชวลิต : ปีหน้าเราตั้งใจทำ Home Office ในบริเวณกรุงเทพกรีฑาหรือใกล้เคียงเหมือนเดิม ส่วนปี 2558 เราตั้งใจทำ Townhome ที่ใหญ่ขึ้น เพราะเรามองว่าตลาดตรงนี้ไปได้

โบว์ : มองการพัฒนาที่บริเวณอื่นนอกจากกรุงเทพกรีฑาหรือไม่

คุณชวลิต : เราอยากสร้างจุดแข็งที่ทำเลโซนกรุงเทพกรีฑาก่อน เพราะเป็นทำเลที่เราเชี่ยวชาญ เพื่อให้ผู้ซื้อมั่นใจในโปรเจคและการบริการของเรา ซึ่งการสร้าง Image ต้องใช้เวลาให้ลูกค้าซึบซับตรงจุดนี้

IMG_0985

โบว์ : สำหรับแบรนด์ จะยังคงตั้งชื่อเป็น The Preston อีกหรือไม่

คุณอรุณี : ยังไม่กำหนด แต่เราคิดว่าเราจะแยกแบรนด์ตาม Image กับ Positioning ของแต่ละโปรเจค

โบว์ : จุดยืนของบริษัท เจ กรุ๊ป เรียล เอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นอย่างไร

คุณชวลิต : เราเน้นการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ พัฒนาโปรเจคที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สามารถตอบสนองกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน เน้นทีมงานที่เป็นมืออาชีพ เนื่องจากเราร่วมมือกับพันธมิตรด้านธุรกิจที่เป็นมืออาชีพในแต่ละด้าน

โบว์ : สำหรับแผนงานในระยะยาว จะสร้างมืออาชีพขึ้นมาเองหรือไม่

คุณชวลิต : เรายอมรับว่าการสร้างคนให้เท่ากับมืออาชีพต้องใช้ระยะเวลา ในเมื่อผู้ซื้อต้องการสิ่งที่ดีที่สุด เราต้องสร้างสิ่งที่ดีที่สุดเช่นกัน ซึ่งการร่วมมือกับมืออาชีพเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด และจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เรามองว่ามีคนที่เก่งเฉพาะทาง เราจึงสร้าง Management ที่สามารถทำงานร่วมกับมืออาชีพเหล่านั้นได้แทน

IMG_1035

โบว์ : มองภาพรวมอสังหาฯปีนี้และปีหน้าอย่างไรบ้าง

คุณชวลิต : สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกคือเรื่องเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจปีหน้าอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ สิ่งที่จะกระทบคือ Mass Market  ส่วนอีกประเด็นคือสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งไม่มีใครบอกได้แน่นอนว่าจะเป็นอย่างไร แต่จะกระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะเป็นเรื่องของคนกลุ่มใหญ่ เพราะฉะนั้นจาก 2 ประเด็นหลักนี้ ทำให้เรามองตลาด Niche ตลาดเฉพาะกลุ่มที่น่าจะมีกำลังซื้อแน่นอน เป็นการตอบสนองกลุ่มผู้ซื้อได้อย่างชัดเจน

จากการพูดคุยกันวันนี้ ทำให้เราเห็นว่าผู้บริหารบริษัท เจ กรุ๊ป เรียลเอสเตท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัดมีแนวคิดการทำธุรกิจที่ชัดเจนมากทีเดียว ประกอบกับที่ทางทีม Think of Living ได้นั่งสัมภาษณ์พูดคุยเป็นกันเองภายในบ้านตัวอย่างของ Preston Townhome ทำให้รู้สึกถึงความเป็นมืออาชีพที่คุณชวลิตบอกเราว่า ต้องการทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าได้จริงๆ รอติดตามชมรีวิวฉบับเต็มได้เร็วๆนี้นะคะ