รีวิวฉบับที่ 1626 ปัจจุบันโครงการบนถนนรามคำแหงคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ ตามกระแสรถไฟฟ้าสายสีส้มที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะคะ ใครที่หวังอยากได้ที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวกด้วยถนนรามคำแหงและกาญจนาภิเษก ก็ต้องแวะมาดูในย่านนี้แล้วค่ะ วันนี้เราจึงพาไปชมโครงการ The Eterno รามคำแหง 174 ทาวน์โฮม 3 ชั้น ในซอยรามคำแหง 174 ลึกจากถนนรามคำแหง 900 ม. และห่างจากรถไฟฟ้าในอนาคตประมาณ 1 กม. จะเป็นอย่างไรไปชมกัน

Fact @ 02 July 2018

  • The Eterno (ดิ อิเธอโน่)
  • บริษัท รามคำแหง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยรามคำแหง 174 แขวง มีนบุรี เขต มีนบุรี
  • เนื้อที่โครงการ 9-1-0 ไร่ จำนวน 95 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 22 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ (Sold Out)
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ดิน 22 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 198 ตร.ม. 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
  • เพดาน สูง 2.8 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : ปี 2558
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center :02-976-9292

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.794073, 100.719496

ที่ตั้งโครงการ The Eterno รามคำแหง 174 อยู่ในซอยรามคำแหง 174 ตามชื่อนะคะ ลึกเข้ามาประมาณ 900 ม. สำหรับซอยนี้มีชื่อซอยที่เรียกกันในย่านนี้ว่าซอยบัวขาว ตามชื่อของหมู่บ้านเก่าแก่ในซอยนี้ค่ะ พูดถึงทำเลแบบภาพกว้างกันก่อนนะคะ ตัวโครงการนี้จัดอยู่ในย่านที่เรียกกันว่าสุขาภิบาล 3 หรือช่วงรามคำแหงตอนปลาย ระหว่างถนนกาญจนาภิเษกและมีนบุรี ทำเลนี้สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ทั้งเก่าและใหม่ค่อนข้างเยอะมาก จัดเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยย่านชานเมืองอีกย่านที่ค่อนข้างคึกคักทีเดียวค่ะ

การเดินทางในย่านนี้ส่วนใหญ่ใช้ถนนรามคำแหง และถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ในการเดินทางเข้าเมือง ส่วนการวิ่งออกเมืองทั้งไปแถบสุวรรณภูมิหรือจะวิ่งไป ฉะเชิงเทรา ก็สะดวกค่ะ สำหรับการเดินทางไปสุวรรณภูมิใช้ถนนร่มเกล้าตรงยาวๆ ไปตัดเข้าสุวรรณภูมิได้เลย สะดวกมากสำหรับใครที่ทำงานที่สนามบินหรือใช้สนามบินในการเดินทางเป็นประจำ และการเดินทางไปยังปริมณฑลอย่างฉะเชิงเทราก็ไม่ยากค่ะ วิ่งเข้ามีนบุรีตัดเข้าสุวินทวงศ์แล้ววิ่งยาวได้เลยเช่นกัน

สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะต่างๆ จัดว่าสะดวกนะคะ ด้วยความที่เป็นทำเลหมู่บ้านคึกคักดังนั้นก็จะสบายตรงที่มีพี่วินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการรับ-ส่งไปหน้าปากซอยได้ง่าย บนถนนใหญ่มีรถเมล์ รถตู้ และสองแถววิ่งให้บริการอยู่ตลอดค่ะ และต้องบอกว่าทำเลนี้ซื้อบ้านตอนนี้น่าจะคุ้มกว่าซื้อในอนาคตอันใกล้นะคะ เพราะราคาจะขยับขึ้นสูงอีกเยอะเลยค่ะ เนื่องจากบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ที่รถไฟฟ้าตัดผ่านแล้ว โดยเป็นสายสีส้มที่ตอนนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างแล้วค่ะ คาดว่าอีกประมาณ 5-6 ปี (ตามกำหนดการณ์รฟม.) คนในทำเลนี้ก็ได้ใช้วิ่งเข้าเมืองกันสะดวกมากยิ่งขึ้นแล้ว

ด้วยความที่เป็นย่านชุมชนขนาดใหญ่ดั้งเดิมทำให้ทำเลนี้หายห่วงเรื่องความอุดมสมบูรณ์นะคะ ของกินของใช้ในระยะใกล้มีค่อนข้างครบครันทีเดียวค่ะ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้กับโซนมีนบุรีที่มีศูนย์กลางอย่างตลาดมีนบุรีที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ในย่านนี้ ส่วนใกล้ๆ โครงการเลยก็จะมี Hyper Market ขนาดใหญ่เรียงยาวกันไปทั้ง Tesco Lotus, HomePro, Big C ค่ะ ส่วนเรื่องของกินใกล้โครงการในระยะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปซื้อกับข้าวได้ ก็จะเป็นซอยธนากร ซึ่งเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมในย่านนี้เช่นกัน ซอยนี้มีร้านอาหาร ร้านรถเข็นเยอะมาก คนแถวนี้มักจะฝากท้องกันประจำ สำหรับห้างสรรพสินค้าที่ใกล้กับโครงการจะอยู่บริเวณถนนรามอินทรานะคะ มีทั้ง Fashion Island และ The Promenade

การเดินทางในวันนี้เริ่มต้นกันที่บริเวณหน้า The Paseo Town Community Mall ในย่านรามคำแหง วิ่งตรงบนถนนรามคำแหงยาวๆ ผ่านกาญนาภิเษก และเมื่อวิ่งไปถึง Big C แล้วให้เตรียมกลับรถใต้สะพาน จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามคำแหง 174 ตรงเข้ามาในซอยอีกประมาณ 900 ม. จะเห็นโครงการ The Eterno รามคำแหง 174 ฝั่งซ้ายมือติดกับ 7-11 ค่ะ

เริ่มต้นจากบนถนนรามคำแหง บริเวณ The Paseo Town ซึ่งเป็น Community Mall ในย่านนี้มีร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ ทั้ง Mcdonald KFC Starbucks MK ให้เลือกมาฝากท้องกันได้ นอกจากนี้ก็มี Supermarket ด้านล่างอย่าง Villa Market และตลาดน้ำด้านหลังอีกด้วยค่ะ เรียกได้ว่าใครไม่อยากไปกินข้าวนอกบ้านไกลๆ ก็มาฝากท้องกันได้

ถัดจาก The Paseo Town แล้ว ติดๆ กันจะเป็น Tops Market ไว้ให้มาซื้อของใช้ ของสดกันได้เช่นกันค่ะ

ถัดมาอีกหน่อยเป็น  Golden Place ร้านขายปลีกของประเทศไทย หนึ่งในโครงการพระราชาดำริ ส่วนใหญ่จะขายอาหารสุขภาพเป็นหลักค่ะ

จากนั้นเราจะขับตรงไปยาวๆ มุ่งหน้าไปทางมีนบุรีกันต่อนะคะ

ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านวัดบำเพ็งใต้ ซึ่งเป็นวัดดังในย่านรวมทั้งยังมีตลาดน้ำขวัญเรียมซึ่งเป็นตลาดน้ำที่อยู่ในกรุงเทพ เดินทางมาเที่ยวกันได้ใกล้ๆ เองค่ะ

เมื่อตรงมาสักระยะนึงแล้วจะมีสะพานลอยข้ามแยกที่ตัดกับถนนมีนพัฒนาซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมเข้าถนนเสรีไทยค่ะ โดยเราจะมุ่งหน้าไปทางสุวินทวงศ์นะคะ

ลงสะพานลอยมาแล้ว ขับตรงมาอีกสักหน่อย จะเห็นป้าย Tesco Lotus เป็น Hyper Market ใหญ่ใกล้โครงการเลย

นอกจากนี้ยังมี Big C ขนาดใหญ่อีกด้วยค่ะ

ผ่าน Big C มาหน่อยให้เราเริ่มเบี่ยงซ้ายเพื่อไปกลับรถใต้สะพาน

เมื่อกลับรถมาแล้วขับตรงมาเรื่อยๆ ถึงหน้าซอยรามคำแหง 174 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเลยค่ะ สังเกตป้ายสีเขียวที่เขียนว่าหมู่บ้านบัวขาวได้เช่นกัน

ภายในซอยมีร้านค้า ร้านอาหารค่อนข้างคึกคักนะคะ ในช่วงต้นๆ ซอย และลึกเข้าไปเป็นหมู่บ้านเยอะทีเดียวค่ะ

ขับเข้ามาในซอยประมาณ 650 ม. แล้วให้เลี้ยวขวา

จากนั้นขับตรงมาประมาณ 250 ม. จะเห็น Sale Office โครงการและถัดไปคือทางเข้า-ออกโครงการแล้วค่ะ

สำหรับบริเวณหน้าโครงการเป็นอาคารพาณิชย์นะคะ มีร้านต่างๆ พอสมควรและที่สำคัญคือมี 7-11 อีกด้วยค่ะ

สภาพแวดล้อมโครงการเกือบทั้งหมดแวดล้อมด้วยหมู่บ้านและที่ดินเปล่า ซึ่งจะได้บรรยากาศเหมาะกับบ้านพักอาศัย มีความสงบพอสมควรค่ะ ส่วนด้านหลังเยื้องกับทะเลสาปขนาดย่อมๆ ข้อดีเลยคือได้ความเย็นจากน้ำที่พัดจากทิศใต้เข้ามาภายในโครงการได้ดี

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

สถานศึกษา

  • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
  • โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า
  • มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า
  • สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลการุญเวช
  • โรงพยาบาลเวชธานี
  • โรงพยาบาลสินแพทย์
  • โรงพยาบาลนวมินทร์

ห้างสรรพสินค้า, Hyper Market, Community Mall

  • Tesco Lotus สุขาภิบาล 3
  • HomPro สุขาภิบาล 3
  • Big C สุขาภิบาล 3
  • Tesco Lotus มีนบุรี
  • Big C ร่มเกล้า
  • Golden Place
  • Pure Place
  • The Paseo Town
  • Fashion Island
  • The Promenade
  • Amorini

 


เจาะลึกตัวโครงการ

เริ่มต้นจาก Master Plan โครงการกันก่อนนะคะ ตัวโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 9 ไร่กว่า โดยมีจำนวนยูนิตทั้งหมดประมาณ 95 ยูนิต ภายในประกอบด้วยทาวน์โฮม 2 และ 3 ชั้น ซึ่งการแบ่ง Product จะค่อนข้างชัดเจนเลยคือมีถนนใหญ่ภายในโครงการคั่นกลาง (ด้านบน) ของรูปหรือสีส้มอ่อนจัดให้เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นทั้งหมด ซึ่งแบ่งเป็นอยู่ในซอยย่อยบ้าง และติดถนนใหญ่บ้างค่ะ โดยทั้งหมดของทาวน์โฮม 2 ชั้นได้ขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับทาวน์โฮม 3 ชั้นจะพิเศษกว่าทาวน์โฮม 2 ชั้นขึ้นมาหน่อยจากตำแหน่งที่ตั้งนะคะ เพราะทุกหลังได้ติดถนนใหญ่ทั้งหมด ทำให้หน้าบ้านมีระยะห่างจากฝั่งตรงข้ามพอสมควร การเดินทางเข้า-ออกโครงการสะดวก และพิเศษเพิ่มขึ้นหน่อยคือบริเวณโซนทาวน์โฮม 3 ชั้นตั้งแต่เบอร์ 1-20 และ 42-45 ที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เนื่องจากไม่มีหน้าบ้านของฝั่งตรงข้ามหันมาเจอกัน อย่างโซนด้านหลังนี้ได้วิวสวนหน้าบ้านด้วยค่ะ

สำหรับสาธารณูปโภคโครงการหลักๆ จะเป็นสวนสาธารณะด้านหลังไว้เป็นพื้นที่วิ่งเล่นของเด็กๆ ได้ สวนริมยูนิตและรอบถนนเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นมากขึ้น ซึ่งจะเหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นใช้ Facilities ต่างๆ ต้องการเพียงบรรยากาศโครงการร่มรื่น แลกมากับค่าส่วนกลางที่ไม่แรง โดยโครงการเก็บยูนิตละ 800/เดือน หรือคิดง่ายเป็นปีละ 9,600 บาทเองค่ะ

ทางเข้า-ออกโครงการตกแต่งเป็นซุ้มมีหลังคาคลุมชัดเจน แบ่งการเดินรถเป็น 2 ฝั่ง คั่นกลางด้วยป้อมรปภ. ลักษณะการเปิด-ปิดใช้ไม้กั้นกระดกอัตโนมัติค่ะ

ระบบรักษาความปลอดภัยนอกจากพี่รปภ.ดูแล 24 ชม.แล้ว ที่นี่ติดตั้งระบบ Keycard Access ระยะใกล้ให้กับลูกบ้าน ซึ่งสามารถคัดกรองเฉพาะลูกบ้านเท่านั้นที่ผ่านได้ แต่หากเป็น Visitor จะมีการแลกบัตรต่างๆ กับรปภ.ก่อนเสมอ รวมไปถึงติดตั้ง CCTV บริเวณนี้อีกด้วยค่ะ

เข้ามาภายในโครงการเป็นถนนหลักยาวไปสุดขอบเขตที่ดินด้านหลัง ฝั่งซ้ายคือโซนทาวน์โฮม 2 ชั้น และฝั่งขวาเป็นโซนทาวน์โฮม 3 ชั้นนะคะ ในส่วนของถนนหลักมีความกว้างอยู่ที่ 12 ม. ให้รถยนต์สวนทางกันได้สะดวก รวมไปถึงระยะกลับรถกำลังดีไม่แคบเกินไป

ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern โดยใช้เฉดสีเทา-ขาวเป็นหลัก เพิ่มลูกเล่นด้วยสีส้มน้ำตาลและ Facade ด้านหน้าที่เป็นกรอบต่างๆ สังเกตเพิ่มเติมตรงเสาไฟฟ้าที่นี่วางให้ตรงกึ่งกลางของทุกๆ ยูนิต สลับกับต้นไม้คั่นกลาง

ทุกๆ แปลงมุมมีระยะเว้นพื้นที่ตามกฎหมายนะคะ โดยทางโครงการจัดให้เป็นพื้นที่สวนส่วนกลาง และมีเว้นพื้นที่ไว้สำหรับกลับรถได้ แต่ห้ามจอดรถ มีป้ายบอกไว้เรียบร้อย เพื่อให้พื้นที่ส่วนกลางเป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านทุกคนใช้ได้ ต้องบอกว่าปัญหาเรื่องการยึดพื้นที่ส่วนกลางนี้เป็นปัญหาคลาสสิคมากสำหรับโครงการทาวน์โฮม จะเห็นหลายโครงการมีปัญหาเรื่องนี้เยอะ ทางโครงการจึงมีการพัฒนาปัญหาคลาสสิคจากโครงการอื่นๆ มาปรับใช้ในโครงการตัวเอง

บรรยากาศภายในซอยย่อยซึ่งเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น มีคนอาศัยอยู่เรียบร้อยแล้วนะคะ สังเกตว่าทุกบ้านมีการต่อเติมหลังคาจอดรถที่มาใน theme เดียวกัน และไม่มีใครกั้นบริเวณที่จอดรถเป็นห้องทึบเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยเลย เนื่องจากทั้งหมดนี้เป็นกฎของทางโครงการเพื่อรักษาบรรยากาศโครงการให้เป็นรูปแบบเดียวกัน และการห้ามไม่ทำเป็นห้องทึบ เพื่อไม่ให้ลูกบ้านนำรถส่วนตัวมาจอดที่ถนนส่วนกลางมากขึ้น

สุดทางจัดให้เป็นพื้นที่สวนสาธารณะ

ภายในนี้เน้นพื้นที่กว้างปลูกสนามหญ้าเพื่อให้สามารถเดินเล่น หรือพาเด็กๆ น้องหมามาวิ่งเล่นได้ นอกจากนี้ก็มีการปลูกต้นไม้ใหญ่เพิ่มความร่มรื่นในแต่ละจุด

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนสาธารณะ
  • ระบบ CCTV
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. ถนนย่อย 9 ม.

 


Product Walkthrough

เรามาดูบ้านตัวอย่างกันต่อเลยนะคะ สำหรับบ้านตัวอย่างก็จะเหลือเพียง Type เดียวคือทาวน์โฮม 3 ชั้นกันแล้ว โดยมีหน้ากว้าง 5.5 ม พื้นที่ดินมาตรฐาน 22 ตร.วา บนพื้นที่ใช้สอย 198 ตร.ม. ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ

ความน่าสนใจของทาวน์โฮมโครงการนี้คือระบบการก่อสร้างที่ใช้รูปแบบ Conventional หรือระบบเสา-คาน ก่อผนังด้วยอิฐแดง ซึ่งแน่นอนว่ามีความคงทนมากกว่าเมื่อเทียบกับระบบ Prefabrication ทั้งนี้อีกจุดเด่นคือการต่อเติมทุบดัดแปลงบ้านได้ในอนาคต เรียกว่าหาได้ไม่ค่อยเยอะแล้วนะคะ ที่โครงการระดับราคาไม่สูงมากจะก่อสร้างในระบบนี้ ส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็น Pre-Cast แล้ว

มาดูที่แปลนบ้านกันค่ะ เริ่มจากชั้นล่างให้ที่จอดรถที่สามารถจอดได้ 2 คัน เข้ามาเป็น Foryer ก่อนเข้าสู่พื้นที่ Common Area ที่เชื่อมระหว่างพื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร และด้านหลังที่เป็นครัวฝรั่ง จัด Pantry ได้ ด้านข้างมีห้องน้ำที่มีพื้นที่อาบน้ำภายในทำให้สมาชิกในบ้านชั้นบนลงมาอาบน้ำในชั้นล่างได้ ไม่ต้องเสียเวลารอกันและกันในช่วงเวลารีบๆ เช่นไปทำงานตอนเช้า

ชั้น 2 แบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้องด้านหน้าบ้านและหลังบ้าน และห้องอเนกประสงค์ สำหรับห้องนอนฝั่งหน้าบ้านมีขนาดกะทัดรัดกว่าห้องนอนหลังบ้านเล็กน้อย แต่ข้อดีคือได้ระเบียงหน้าบ้านและบรรยากาศวิวหน้าบ้าน ส่วนห้องหลังบ้านข้อดีนอกจากขนาดที่ใหญ่กว่าหน่อยแล้วคือได้ห้องน้ำในตัวค่ะ แต่ห้องน้ำนี้แบ่งการใช้งานรวมกันนะคะ โดยทำประตูเข้า-ออกให้ 2 ฝั่ง

ชั้น 3 ฟังก์ชันการใช้งานจะคล้ายคลึงกับชั้น 2 นะคะ แต่แตกต่างคือมีห้องนอนเล็กเพิ่มมาอีกห้องแทนห้องอเนกประสงค์

*** พิเศษสำหรับชั้น 3 คือมีบ้านแปลงที่ออกแบบให้ห้องนอนทั้ง 2 ห้องเชื่อมเป็นห้องเดียวกัน เพื่อที่จะได้ห้อง Master Bedroom ขึ้นมา เหมาะกับคนที่มีจำนวนสมาชิกในบ้านไม่มาก และต้องการห้องขนาดใหญ่ นอกจากนี้เมื่อห้องถูกปรับเปลี่ยนแล้วบริเวณโถงทางเดินก็ปรับให้เป็นพื้นที่ Walk-in Closet แทนเนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้ทางเดินแล้ว เพื่อให้ได้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้นแทน (โดยทาง Think of Living จะพาไปดูแปลงพิเศษนี้กันด้วยค่ะ)

เริ่มต้นจากหน้าบ้านใช้เป็นรั้วเหล็กโปร่งแบบบานพับทั้งหมด 5 ตอน สำหรับความสูงรั้วไม่มากนะคะ เป็นรั้วที่ใช้กั้นขอบเขตตัวบ้านให้ชัดเจนเป็นหลักนะคะ เรื่องความปลอดภัยต่างๆ นี้ได้รปภ.และระบบการเข้า-ออกโครงการที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว

ในส่วนของที่ดินบ้านมีการยกระดับพื้นขึ้นสูงจากพื้นถนน เพื่อให้สามารถระบายน้ำจากที่ดินลงทางระบายน้ำด้านข้างถนนส่วนกลางได้ดี

สำหรับพื้นที่จอดรถในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นพื้นคอนกรีตมาตรฐาน แต่จะมีบางแปลงที่ทางโครงการจัดโปรโมชั่นจะได้พื้นตามบ้านตัวอย่างที่เราพาไปดูกันค่ะ สำหรับโครงสร้างของพื้นส่วนที่จอดรถทางโครงการให้เป็น Slab on Ground นะคะ คือเป็นพื้นวางบนดินไม่มีเสาเข็มด้านล่าง แยกโครงสร้างกับตัวบ้าน เพื่อให้ไม่ดึงโครงสร้างหลักให้เกิดการแตกร้าวจากการทรุดตัวที่ต่างกัน

ความกว้างของที่จอดรถอยู่ที่ 5.5 ม. จอดรถ 2 คันได้พอดีๆ จะกำลังดีมากขึ้นถ้ารถลูกบ้านใช้เป็นรถขนาดเล็ก หรือ Eco Car 2 คัน

ด้านข้างเป็นรั้วเหล็กโปร่งความสูงเท่ากับรั้วด้านหน้าบ้าน

สำหรับแปลงมุมจะมีพื้นที่ด้านข้างซึ่งทางโครงการไม่ได้จัดสวนให้นะคะ จะได้เป็นดินมาตรฐานเลย หากต้องการให้โครงการจัดสวนให้ก็จะมีบริการในส่วนนี้ค่ะ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยราคาขึ้นอยู่กับรูปแบบที่ลูกบ้านต้องการให้ตกแต่ง

ด้านหลังสุดเป็นลานซักล้าง หรือจะจัดเป็นครัวไทยภายนอกได้ โดยพื้นในบริเวณนี้เป็น Slab on Beam โครงสร้างเดียวกับตัวบ้าน โดยใช้คานและความยาวเสาเดียวกันเลยค่ะ จึงมีความแข็งแรงเทียบเท่ากับบ้าน

บริเวณหน้าบ้านแบ่งการใช้งานเป็น 2 ส่วน มีเฉลียงสำหรับเข้าสู่ประตูบ้าน และหน้าต่างด้านข้างพร้อมกับมีพื้นที่เก็บของ ซึ่งถือว่าเป็นการแบ่งการใช้งานที่เป็นสัดส่วนดีค่ะ เพราะแยกทางเดินเข้ากับหน้าต่างเลย แตกต่างจากโครงการทาวน์โฮมทั่วไปที่จะให้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกยาว ใช้เป็นทั้งประตูเข้าออกและหน้าต่างไปในตัว ซึ่งจะกระทบกับฟังก์ชันการใช้งานภายในเล็กน้อย เดี๋ยวเราจะอธิบายให้หลังจากเข้าไปในบ้านกันแล้วนะคะ

ด้านข้างที่เป็นพื้นที่เก็บของสามารถเก็บของได้พอสมควรเลยทีเดียว เน้นเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดและทำสวนต่างๆ ได้ดี

เข้ามาด้านในบ้านเจอกับส่วน Foyer ก่อน หรือพื้นที่ต้อนรับ ซึ่งบริเวณนี้ออกแบบมาให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แทนที่จะเปิดประตูบานแล้วเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเลยเหมือนกับโครงการทั่วไปนะคะ แต่ก็แลกมากับพื้นที่นั่งเล่นที่เล็กลงไปเช่นกัน ทั้งนี้ควรเพิ่มฟังก์ชันของพื้นที่ส่วนต้อนรับนี้เช่น Built-in ชั้นวางของด้านข้าง หรือวางของสะสมโชว์ต่างๆ

บริเวณนี้มีห้องเก็บของใต้บันไดด้วยนะคะ โดยบานประตูจะเสมอกับผนังเพื่อให้ดูเป็นเนื้อเดียวกัน ลักษณะการเปิดบานประตูจะเป็นการกดเล็กน้อย เพื่อให้ประตูเด้งออกมาแทนลูกบิดนะคะ ในส่วนพื้นที่ภายในห้องเก็บของมีขนาดพอสมควรเลยค่ะ สามารถเก็บของได้ดีและมีหลอดไฟติดตั้งให้เรียบร้อย

ถัดเข้ามาที่บริเวณ Common Area กันต่อนะคะ สำหรับชั้น 1 นี้พื้นจะเป็นแกรนิตโต้ทั้งหมดในบ้านมาตรฐาน ความสูงฝ้าเพดานจากพื้นอยู่ที่ 2.8 ม. ถือว่าสูงพอสมควรเลยช่วยให้ภายในบ้านดูโปร่งโล่งมากขึ้น และหากใครที่เลือกบ้านแปลงมุมจะได้เปรียบที่ได้หน้าต่าง (ช่องแสง) เพิ่มขึ้นจากด้านข้างทำให้บ้านโปร่งโล่งมากขึ้นรวมไปถึงได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นเพราะมีผนังด้านนึงที่ไม่ติดกับเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ก็แลกมากับราคาที่สูงขึ้นกว่าแปลงกลางนะคะ

มาดูกันที่พื้นที่นั่งเล่นกันต่อเลยค่ะ สำหรับพื้นที่นั่งเล่นนี้มีขนาดกำลังดี รองรับชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้ ส่วนผนังด้านข้างติดตั้งชั้นวางทีวีนั้นจะไม่ได้มีให้ในบ้านมาตรฐานนะคะ หากลูกบ้านต้องการพื้นที่นั่งเล่นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้นแนะนำให้ทำผนังเบาเพิ่มเหมือนบ้านตัวอย่างค่ะ ส่วนฝ้าเพดานบริเวณนี้ในบ้านมาตรฐานเป็นฝ้าฉาบเรียบไม่มี Drop ฝ้าค่ะ

มาพูดถึงข้อดีของฟังก์ชันที่แยกส่วนประตู และหน้าต่างที่กล่างถึงไปช่วงบริเวณหน้าบ้าน มาดูจากภายในบ้านจะเห็นชัดขึ้นตรงที่พื้นที่นั่งเล่นได้พื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วนชัดเจน ไม่ต้องเป็น Circulation ในการเดินผ่าน หากเทียบกับโครงการที่ใช้ประตูบานเลื่อนแทนหน้าต่างเลย เวลาเปิดเข้าบ้านจำเป็นต้องเดินผ่านบริเวณพื้นที่นั่งเล่นด้วยนั่นเองค่ะ ทำให้เวลาเราจะวางโต๊ะกลางก็ต้องเลือกขนาดเล็กลงเพื่อเผื่อพื้นที่สำหรับทางเดินด้วยนั่นเอง

หน้าต่างบานเลื่อนนี้ได้ขนาดใหญ่ กรอบบาน UPVC มีความแข็งแรงระดับนึงเลยค่ะ ด้วยขนาดแล้วช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าถึงภายในบ้านได้ดี

ถัดเข้ามาที่พื้นที่รับประทานอาหารมีขนาดที่สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้กำลังดีนะคะ

ถัดไปด้านหลังบ้านออกแบบให้เป็นพื้นที่ครัวฝรั่ง สามารถวาง Pantry ได้ ทั้งนี้ทางโครงการไม่ได้จัด Pantry ไว้ให้นะคะ แต่มีการเดินระบบน้ำต่างๆ เพื่อให้ลูกบ้านสามารถติดตั้ง Pantry ตามบ้านตัวอย่างได้

ฝั่งด้านข้างครัวฝรั่งเป็นห้องน้ำในชั้นล่าง ส่วนด้านหลังบ้านเลยเป็นประตูออกไปยังลานซักล้างด้านนอกค่ะ

ภายในห้องน้ำชั้นล่างมีขนาดพอสมควร และจัดวางฟังก์ชันไว้ให้สำหรับอาบน้ำชั้นล่างได้ด้วย การจัดวางฟังก์ชันแยกส่วนเปียกและแห้งชัดเจน โดยลดระดับพื้นที่อาบน้ำเพื่อกันน้ำไหลย้อน แต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นกระจกมานะคะ ลูกบ้านสามารถติดตั้งตามบ้านตัวอย่างได้ หรือประหยัดงบหน่อยก็ซื้อม่านพลาสติกแทนได้ค่ะ

มาที่ส่วนโซนแห้งกันก่อนนะคะ ประกอบด้วยอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ข้อดีคือที่นี่ทำเคาน์เตอร์ไว้ให้พร้อมเชื่อมกับ Low Wall ด้านหลังทำให้มีพื้นที่วางของใช้ต่างๆ ได้ดี ส่วนยี่ห้อสุขภัณฑ์ เริ่มจากอ่างล้างมือจาก Nahm โถสุขภัณฑ์จาก American Standard

ส่วนกระจกเงาที่เราเห็นในบ้านตัวอย่างมีแต่งจากบ้านมาตรฐานหน่อยค่ะ คือบ้านมาตรฐานจะได้กระจกเงาเฉพาะส่วนอ่างล้างมือนะคะ ถ้าปรับให้เป็นกระจกเต็มผนังจะดีมากเลย

สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีขนาดพอสมควรนะคะ สามารถอาบน้ำได้สบายๆ และหากจะติดตั้งฉากกั้นกระจกแบบานเปิดก็ทำได้ไม่จำเป็นต้องใช้บานเลื่อนค่ะ

ฝักบัวสายอ่อนและที่รองสบู่จาก Hafele

มาที่ส่วนโถงบันไดกันต่อนะคะ พูดถึงในส่วนโครงสร้างบันไดที่นี่ใช้เป็นคสล. (คอนกรีตเสริมเหล็ก) ที่มีความแข็งแรง พื้นบันไดทั้งลูกตั้งและลูกนอนใช้เป็น Viva Board ส่วนความกว้างบันไดบริเวณนี้มีความกว้างพอสมควรเดินได้ง่ายค่ะ

ขึ้นมาด้านข้างความกว้างจะน้อยลงมาหน่อยนะคะ

ลักษณะบันไดเป็นบันไดแนวตรงยิงยาวจากชั้นล่างถึงชั้นบนนะคะ เพื่อประหยัดพื้นที่ใช้งานมากที่สุด ก็จะมีชานพักที่เป็นขั้นสามเหลี่ยมบ้างและเป็นโถงบันไดที่ไม่ได้ช่องแสง แลกมากับพื้นที่ใช้สอยในแต่ละชั้นที่กว้างมากขึ้น

สำหรับชั้น 2 เมื่อขึ้นมาเราจะเจอกับห้องอเนกประสงค์ก่อนนะคะ ห้องนี้เป็นห้องที่ออกแบบมาให้ไม่มีประตูเปิดนะคะ ซึ่งหากใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อยากจัดเป็นฟังก์ชันอื่นๆ สามารถซื้อประตูมาติดตั้งได้ค่ะ เพราะด้วยขนาดช่องเปิดแล้วสามารถซื้อประตูสำเร็จรูปได้ค่ะ

ภายในห้องนี้มีขนาดพอสมควรจะจัดเป็นห้องเด็กเล่นตามบ้านตัวอย่าง ห้องทำงาน หรือห้องนอนเล็กก็ได้ค่ะ สำหรับใครที่อยากทำเป็นห้องนอนเล็ก ขนาดเตียงที่กำลังดีกับห้องคือ Single Bed หรือ 3.5 ฟุตนะคะ

เข้ามาที่ภายในห้องนอนบริเวณด้านหน้าบ้านนะคะ สำหรับบ้านตัวอย่างจัดให้เป็นห้องนั่งเล่นแทน ซึ่งหากวางเตียงแล้วจะเหมาะกับเตียงขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size เพื่อให้เหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงไว้สำหรับจัดตู้เสื้อผ้าได้

ระเบียงหน้าบ้านมีขนาดกำลังดีในการใช้งานนะคะ สามารถออกมานั่งเล่นหรือตากผ้าเล็กๆ น้อยๆ ได้

มีติดตั้งแผงระแนงไว้บังสายตาให้บริเวณ CDU แอร์ สิ่งที่น่าจะเพิ่มเติมคือทำราวแขวน CDU ให้พร้อมติดกริลล์เบี่ยงทิศทางลมร้อน เพื่อให้สามารถใช้ระเบียงในการนั่งเล่นได้ดีมากขึ้นค่ะ

มาต่อกันที่ห้องนอนฝั่งด้านหลังบ้านนะคะ ขนาดของห้องนี้ด้วยความใหญ่กว่าห้องฝั่งหน้าบ้านจึงสามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ดี มีพื้นที่ด้านข้างรอบเตียงให้เดินได้ง่ายนะคะ สำหรับช่องแสงของห้องนี้จะได้ขนาดเล็กกว่าหน้าบ้านนะคะ เป็นขนาดหน้าต่างบานเลื่อนมาตรฐาน หากเลือกบ้านแปลงมุมจะได้หน้าต่างเพิ่มตรงผนังด้านข้างด้วย

ฝั่งข้างเตียงสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ หรือจะจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัดได้อีกด้วยค่ะ

สำหรับห้องนอนนี้สามารถเข้าห้องน้ำได้จากห้องนอนเลย โดยห้องนี้แต่ละชั้นสามารถเปิดได้ 2 ทางนะคะ ทั้งจากห้องนอนห้องนี้และโถงทางเดิน ฟังก์ชันภายในห้องน้ำแยกโซนเปียกและแห้งชัดเจนเป็นสัดส่วนเช่นเดิม โดยลดระดับพื้นอาบน้ำลงมาเล็กน้อย กันน้ำไหลย้อนได้ดี

โซนแห้งมีการตกแต่งและจัดวางฟังก์ชันดี ใช้สเป็คและวัสดุเดียวกับห้องน้ำในชั้นล่างค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ สามารถอาบน้ำได้สบายๆ ส่วนฉากกั้นกระจกไม่ได้ให้มาเช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่างนะคะ

เพิ่มเติมบริเวณอาบน้ำในห้องนี้ได้หน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศและความชื้นได้ดี

ขึ้นมาที่ชั้น 3 กันต่อนะคะ ลักษณะบันไดจะเหมือนกับชั้น 2 เลยค่ะ

เมื่อขึ้นมา หากเลือกบ้านที่มีการรวมห้องนอนทั้ง 2 ห้องให้เป็นห้องเดียวกัน เราจะเจอพื้นที่ Foyer ก่อนเข้าห้องแทนโถงทางเดิน แต่หากเลือกบ้านมาตรฐานบริเวณนี้จะเป็นโถงทางเดินเช่นเดียวกับชั้น 2 นะคะ

เข้ามาภายในเป็นพื้นที่เตียงนอนก่อน ซึ่งตำแหน่งการวางหัวเตียงของบ้านตัวอย่างยังไม่ค่อยลงตัวมากนักนะคะ เพราะไปบังส่วนระเบียง ทำให้การใช้งานส่วนระเบียงไม่สะดวกมากนัก ปรับเป็นวางด้านข้างตรงกลางระหว่างหน้าต่างสองบานน่าจะลงตัวกว่า ซึ่งปลายเตียงก็จะหันไปทางประตูทางเข้านะคะ ไม่สามารถติดตั้งทีวีได้

ส่วนระเบียงได้แบบเดียวกับชั้นล่างทั้งขนาดและสเป็คค่ะ

สำหรับห้องนอนเล็กนี้ จากแบบประตูจะเปิดจากส่วนโถงทางเดิน (ตามรอยเส้นประ) แต่หากต้องการให้เป็นห้องที่เชื่อมกับภายในห้องนอนใหญ่ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้นะคะ เนื่องจากบ้านโครงการใช้ระบบเสา-คาน ที่สามารถรับรองการดัดแปลงบ้านได้อยู่แล้ว โดยในบ้านตัวอย่างได้ทำให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ

ภายในห้องนอนเล็กนี้มีขนาดเดียวกับห้องอเนกประสงค์ด้านล่างนะคะ เพิ่มเติมเฉพาะประตูห้องที่ให้มาด้วยค่ะ

ขนาดของห้องนี้สามารถจัดเป็นห้องนอนเล็กได้โดยวางเตียง 3.5 ฟุต และด้วยการที่มีพื้นที่หลบด้านในทำให้สามารถวางตู้เสื้อผ้าโดยไม่กินพื้นที่ทางเดิน

ถัดมาภายในห้อง Master Bedroom เองหากเชื่อมกับห้องนอนหน้าบ้านแล้วจะได้พื้นที่ยาวมากค่ะ สามารถจัดฟังก์ชันได้มากขึ้น และหากเลือกเป็นห้องนอน 2 ห้องจะมีผนังกั้นตามเส้นรอยประสีเหลืองนะคะ ซึ่งขนาดพื้นที่ก็จะตามห้องนอนชั้น 2

ด้วยความที่เป็นห้องใหญ่มีพื้นที่สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวได้ หรือห้องทำงานภายในห้องนอนก็ได้เช่นกัน

ฝั่งซ้ายมือนี้จริงๆ ในบ้านมาตรฐานจะเป็นประตูทางเข้าห้องนอนฝั่งหลังบ้านนะคะ แต่เมื่อห้องทั้ง 2 ห้องของแปลงนี้เชื่อมกัน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะมีโถงทางเดินเข้ามายังประตูฝั่งนี้อีก เพื่อให้ได้ใช้พื้นที่ใช้สอยได้คุ้มค่ามากขึ้น ทางโครงการจึงกั้นพื้นที่โถงทางเดินและปรับให้เป็น Walk-in Closet แทน

ขนาด Walk-in Closet จะได้ขนาดกะทัดรัดนะคะ และไซส์ที่ซื้อมาวางได้ยาก ดังนั้นจะแนะนำให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าเพื่อให้มีขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่มากที่สุด

ภายใน Walk-in Closet จะได้บรรยากาศประมาณนี้ค่ะ

สุดท้ายคือห้องน้ำในชั้นนี้นะคะ ทุกอย่างจัดวางฟังก์ชันพร้อมสเป็ควัสดุเดียวกับห้องน้ำชั้น 2 เลยค่ะ สำหรับบ้านมาตรฐาน แต่หากเป็นบ้านแปลงพิเศษที่เชื่อมกับห้องนอน 2 ห้อง แล้วปรับให้โถงทางเดินเป็น Walk-in Closet แทน ก็จะไม่ได้ประตูทางเข้าจากโถงทางเดินไปนะคะ ห้องนอนนี้เลยจะได้ห้องน้ำในตัวไปเลยค่ะ

บรรยากาศห้องน้ำโปร่งโล่งด้วยขนาดและช่องบานหน้าต่างที่ช่วยระบายอากาศและความชื้นได้ สุขภัณฑ์ได้เหมือนห้องอื่นๆ รวมไปถึงไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำเช่นเดียวกันค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @  02 July 2018

  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ดิน 22 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 198 ตร.ม. ราคา 3.79 (โปรโมชั่น) – 4.89 ล้านบาท

 

  • จองและทำสัญญา n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 800 บาท/ยูนิต/เดือน
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • โปรโมชั่น (เลือกได้เพียง 1 Option)

  • แอร์, หลังคาโรงจอดรถ, พื้นจอดรถ Concrete Stamp, แท็งค์น้ำ+ปั๊มน้ำ
  • ส่วนลดเงินสด
  • ค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – โครงการ The Eterno รามคำแหง 174 ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 174 ลึกจากหน้าปากซอยประมาณ 900 ม. นะคะ พื้นที่ทำเลโครงการอยู่ช่วงสุขาภิบาล 3 ระหว่างถนนกาญจนาภิเษกและมีนบุรี จัดเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยย่านชานเมืองที่ค่อนข้างคึกคักทีเดียวค่ะ และแน่นอนว่าเมื่อเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่เรื่องความอุดมสมบูรณ์ก็หายห่วงค่ะ ในย่านนี้มีทั้ง Hyper Market ขนาดใหญ่ทั้ง Tesco Lotus และ Big C เลยไปหน่อยเป็นย่านใหญ่อย่างมีนบุรี ที่มีศูนย์กลางอย่างตลาดมีนบุรี เป็นตลาดขนาดใหญ่ของย่านค่ะ

หากต้องการหาของกินในระยะใกล้เลยจะมีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ในหมู่บ้านใกล้ๆ อย่างหมู่บ้านธรากรให้สามารถเลือกซื้อของกินได้หลากหลายในราคาย่อมเยาอีกด้วยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ – การเดินทางด้วยรถยนต์บนทำเลถือว่าสะดวกค่ะ หลักๆ ใช้เส้นทางคือถนนรามคำแหง และถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) นอกจากนี้ทำเลนี้ยังเหมาะกับคนที่ทำงานวิ่งออกนอกเมืองไปทางฉะเชิงเทราก็สะดวกค่ะ เพราะใช้วิ่งเส้นสุวินทวงศ์ตรงไปยังฉะเชิงเทราได้เลย โดยไม่ต้องไปอยู่ไกลเมือง นอกจากนี้การเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิเป็นประจำก็สะดวกเช่นเดียวกัน สามารถใช้ถนนร่มเกล้าตรงไปถึงสนามบินได้ ตอบโจทย์คนทำงานที่สนามบินหรือเดินทางเป็นประจำ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – การเดินทางโดยรถสาธารณะต่างๆ มีครบครันในทำเลนี้ ด้วยความที่เป็นบริเวณนี้มีหมู่บ้านคึกคักดังนั้น รถขนส่งมวลชนต่างๆ ก็จะตามมาเช่นกัน โดยมีทั้งพี่วินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ รถตู้ และสองแถววิ่งให้บริการ นอกจากนี้ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าให้ได้ใช้กันแล้วค่ะ เพราะรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านรามคำแหง โดยจากโครงการไปยังสถานีมีระยะทางประมาณ 1 กม. จัดเป็นโครงการแนวราบที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้านะคะ

วัสดุ – จุดเด่นของโครงการคือเรื่องงานก่อสร้างที่ทำเป็นรูปแบบ Conventional หรือระบบเสา-คาน ก่ออิฐมอญแดง ที่มีความคงทนสูงและแน่นอนว่าสามารถดัดแปลง ต่อเติมเพิ่มเติมได้ตามไลฟ์สไตล์และการใช้งานของตัวเอง ซึ่งระบบโครงสร้างนี้หาได้ยากแล้วในโครงการทั่วไปปัจจุบัน ส่วนวัสดุอื่นๆ ถือว่าให้มามาตรฐานตามราคานะคะ เพิ่มเติมคือในทุกชั้นของบ้านปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ให้เป็นมาตรฐาน ซึ่งจะเหมาะกับคนที่อยากได้พื้นที่มีความคงทนในการใช้งาน ทำความสะอาดง่าย แทนที่จะเป็นพื้นลามิเนตนะคะ แลกมากับการที่อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานในห้องนอนมากนักเพราะพื้นที่เย็นเท้า ซึ่งหากใส่ Slippers ในบ้านก็หมดปัญหานี้ไปค่ะ

การออกแบบ – รูปแบบทาวน์โฮม 3 ชั้นของที่นี่เน้นห้องค่อนข้างเยอะ โดยมีสามารถจัดห้องนอนได้ถึง 5 ห้องเลยทีเดียว ซึ่งสามารถรองรับครอบครัวที่มีจำนวนสมาชิกเยอะได้ค่ะ ซึ่งก็แลกมากับห้องนอนที่ไม่มีห้องนอนใหญ่ชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นห้องที่มีขนาดใกล้เคียงกันนะคะ ทั้งนี้ก็มีบางแปลงที่ทางโครงการปรับให้ชั้น 3 เป็น Master Bedroom โดยการเชื่อมห้องนอนทั้ง 2 ห้องเข้าด้วยกัน สำหรับคนที่อยากได้ห้องนอนใหญ่และจำนวนสมาชิกไม่มาก

สาธารณูปโภค – Facilities โครงการมีเพียงสวนสาธารณะด้านหลังโครงการนะคะ เป็นพื้นที่สีเขียวไว้สำหรับเดินเล่น หรือให้เด็กๆ มาวิ่งเล่นได้ แต่จะไม่ได้มี Club House อย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนสให้ เหมาะกับคนที่ไม่ได้ต้องการใช้ Facilities อยู่แล้ว และไม่ต้องจ่ายค่าส่วนกลาง ค่าดูแลรักษาส่วนกลางที่แพง ส่วนอื่นๆ มีให้มาตรฐานเช่น ถนนโครงการกว้าง 12 ม. มีการปลูกต้นไม้ตามทางดูร่มรื่น ซุ้มโครงการติดตั้ง Keycard Access ระยะใกล้ กั้นด้วยไม้กระดกอัตโนมัติ

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 3.79 -4.89 ล้านบาท, 02 July 2018

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – อยู่ในย่านอุดมสมบูรณ์ของทำเลนี้ อยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – มีให้มาตรฐาน รปภ. keycard access และ CCTV
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7/10 – ออกแบบมาสำหรับครอบครัวใหญ่ จำนวนห้องนอนเยอะ ยังมีบางห้องที่จัดฟังก์ชันภายในยากหน่อย
  • วัสดุ 7.5/10 – ได้ระบบโครงสร้างดี ส่วนอื่นๆ ให้มามาตรฐาน
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – บรรยากาศมีพื้นที่สีเขียวพอสมควร 
  • สาธารณูปโภค 6/10 – มีสวนสาธารณะด้านหลังโครงการ
  • 7.03 / 10.00 

BOTTOM LINE

The Eterno รามคำแหง 174 เหมาะกับคนที่มองหาทาวน์โฮมในย่านรามคำแหง เดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้าในอนาคต ไม่ต้องการพื้นที่ดินขนาดใหญ่ แต่อยากได้พื้นที่ใช้สอยภายในพอสมควร สำหรับครอบครัวใหญ่ รองรับคนได้ 5-6 คน ด้วยกัน ในราคา 3.79 – 4.89 ล้านบาท