%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%84%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b5%e0%b8%81-%e0%b8%93-%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%b5-2559

พื้นที่ค้าปลีกรวมในกรุงเทพมหานครและพื้นที่โดยรอบ ณ สิ้นปีพ..2559 อยู่ที่ประมาณ 7.5 ล้านตารางเมตรโดยเป็นพื้นที่ของศูนย์การค้าประมาณ 58% ศูนย์การค้าขนาดใหญ่เติบโตแซงคอมมูนิตี้มอล

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เรนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า พื้นที่ค้าปลีกรวมในกรุงเทพมหานครและพื้นที่โดยรอบ ณ สิ้นปีพ..2559 อยู่ที่ประมาณ 7,537,820 ตารางเมตร โดยในปีพ..2559 มีพื้นที่ค้าปลีกเปิดให้บริการใหม่ประมาณ 130,380 ตารางเมตร โดยเป็นคอมมูนิตี้มอลล์มากที่สุดคือประมาณ 85,380 ตารางเมตรรองลงมาคือสเปเชี่ยลตี้ สโตร์ที่มีพื้นที่รวมประมาณ 41,000 ตารางเมตร แม้ว่าคอมมูนิตี้มอลล์จะมีพื้นที่เปิดขายใหม่มากที่สุดในปีที่ผ่านมาแต่ลดลงจากปีก่อนหน้านี้แบบเห็นได้ชัดเพราะมีหลายโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีแผนจะพัฒน่าคอมมูนิตี้มอลล์จึงเริ่มทบทวนแผนการพัฒนาใหม่ ศูนย์การค้าที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่จะเริ่มมีโครงการเปิดให้บริการใหม่มากขึ้นในปีพ..2560 – 2563 จากที่ชะลอไปในปีพ..2559 และมีบางโครงการที่เลื่อนมาจากปีพ..2559

พื้นที่ค้าปลีกรวมในกรุงเทพมหานครและพื้นที่โดยรอบ ณ สิ้นปีพ..2559 อยู่ที่ประมาณ 7,537,820 ตารางเมตรโดยเป็นพื้นที่ของศูนย์การค้าประมาณ 58% จากพื้นที่ทั้งหมดเพราะศูนย์การค้ามีพื้นที่ขนาดใหญ่และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาศูนย์การค้าใหม่ๆ ที่เปิดให้บริการจะพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่รวมบริการและร้านค้าที่สามารถรองรับคนทุกเพศทุกวัยไว้ในพื้นที่เดียวกันขนาดพื้นที่จึงใหญ่มาก คอมมูนิตี้มอลล์มีพื้นที่รวมมากเป็นลำดับที่สองเพราะการขยายตัวที่มากอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจนมีพื้นที่รวมมากกว่าซูเปอร์สโตร์ มอลล์ หรือไฮเปอร์มาร์เก็ตที่มีโครงการใหม่น้อยมาก

โครงการค้าปลีกใหม่ที่กำลังก่อสร้างและมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วง 1 – 3 ปีข้างหน้าส่วนใหญ่เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ชานเมือง หรือว่าเมืองชั้นนอกในขณะที่คอมมูนิตี้มอลล์ลดลง โดยมีพื้นที่ค้าปลีกอีกมากกว่า 723,000 ตารางเมตรที่กำลังก่อสร้างและมีกำหนดสร้างเสร็จในช่วงปีพ..2560 – 2561 ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกที่มีรูปแบบของโครงการพื้นที่ค้าปลีกหลากหลายมีความพยายามในการขยายหรือเพิ่มจำนวนสาขาโครงการค้าปลีกของตนเองในทุกรูปแบบโดยเฉพาะในกลุ่มของพื้นที่ค้าปลีกขนาดเล็ก เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อโดยรูปแบบที่เป็นที่นิยมในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะได้รับความสนใจต่อไปคือ ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กและร้านสะดวกซื้อในศูนย์บริการน้ำมันเพื่อรองรับกำลังซื้อของคนที่เดินทางและคนในชุมชนโดยรอบโดยสังเกตได้จากแต่ละผู้ให้บริการปั๊มน้ำมันจะมีพันธมิตรหรือว่าร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกในการเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กหรือร้านสะดวกซื้อในศูนย์บริการน้ำมันของตนเอง