คอนโด ราคา ตารางเมตร ห้าแสน คลอลิเออร์ Colliers

จริงหรือที่คอนโดไทยจะราคาพุ่งไปตารางเมตรละครึ่งล้าน? ก็อาจเป็นไปได้เพราะต่างประเทศเป็นกันไปแล้ว นครใหญ่ๆ อย่าง HK, Shang Hai, Tokyo, Singapore ทะลุไปตารางเมตรละ 5 แสนอัพกันหมด ในขณะที่เมืองไทยยังเด๊าะแด๊ะอยู่ที่ 135,000 บาทต่อตารางเมตร … น่าคิดเหมือนกันนะครับ อนาคตจะไปอย่างไร?

ก็คิดได้ดี แต่ผมว่าตราบใดที่ราคาบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ยังกดให้ถูกได้ PS, LH, AP, SIRI, QH ยังลุยกันอุดตลุดกับตลาด Segment ล่างและ Segment กลาง ในทำเลใกล้เมืองไม่ได้ขี้เหร่ ราคา 3-5 ล้าน ดังนั้นสินค้าทดแทนก็มี ราคาคอนโดก็ขึ้นไปขนาดนั้นไม่ได้ เพราะว่าถ้าตารางเมตรละ 5 แสน นี่ยูนิต 22 ตารางเมตรตก 10 ล้านเลยนะครับ ThinkOfLiving ฟันธง!

คลอลิเออร์ ระบุตลาดคอนโดมิเนียมหรูมีโอกาสแตะ 5 แสนบาทต่อตร.ม.ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยตลาดหลักยังเป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติฮ่องกงและสิงคโปร์เป็นหลัก เพราะราคาอสังหาฯไทยยังน่าสนใจ อยู่ในเขตซีบีดี แต่ยังมีราคาถูกกว่า

นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่าย วิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ราคาคอนโดมิเนียมในเขตเมืองมีราคาขายเฉลี่ยที่ 135,000 บาทต่อตร.ม.คาดว่าในไม่อีก 2-3 ปีข้างหน้าราคาจะสูงเกิน 500,000 บาทต่อตร.ม.ในบางทำเล อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบราคาขายคอนโดฯ ในประเทศต่างๆ อาทิ ฮ่องกง มีราคาขายเฉลี่ยที่ 500,000-2,000,000 บาทต่อตร.ม. และสิงคโปร์ 300,000-1,700,000 บาทต่อตร.ม. กรุงโตเกียว ราคาขาย 850,000 บาทต่อตร.ม. หรือเซี่ยงไฮ้ ราคาขายที่ 510,000 บาทต่อตร.ม.

ราคาเฉลี่ยคอนโดฯในกรุงเทพฯยังต่ำอยู่มาก ทำให้ในปัจจุบันคอนโดฯ ระดับลักซูรี่ในประเทศไทยยังอยู่ในความสนใจของชาวสิงคโปร์และฮ่องกงซึ่งเป็นตลาดหลักที่สำคัญของคอนโดฯหรู โดยพบว่าหลังจากกำลังซื้อต่างชาติซบเซาไปเมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ได้เริ่มกลับมาซื้ออสังหาฯไทยแล้ว อาทิ โครงการมหานครที่สามารถทำยอดขายจากประเทศเหล่านี้ได้ถึง 600 ล้านบาท แม้ในภาพรวมจะยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจน

ปัจจัยหลักของการกลับมาของกำลังซื้อทั้งสองประเทศดังกล่าวคือสถานการณ์ด้านการเมืองไทยที่คลี่คลายจากความรุนแรงแล้ว ประกอบกับความน่าสนใจของตลาดคอนโดฯไทยที่มีราคาถูก และยังตั้งอยู่ในย่านซีบีดี นอกจากนั้นยังมีเรื่อง AEC ในปี 2015 (ASEAN ECONOMIC COMMUNTTY) หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอาเชี่ยนให้เป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่มีมาตรฐานการผลิตเดียวกัน สามารถเคลื่อนย้ายสินค้า บริการและการลงทุน เงินทุน และแรงงานมีฝีมือได้อย่างเสรีที่ใกล้เป็นจริง

อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยพบว่า ชาวอินเดีย และจีน เป็นตลาดใหม่ที่มีการเติบโตสูงในช่วงปี 2554 จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคตแต่เป็นหัวเมืองท่องเที่ยวคือพัทยาและภูเก็ต และพบว่า 5 อันดับแรกของชาวต่างชาติที่ต้องการมาพำนักในประเทศไทยในบั้นปลายชีวิตคือ อังกฤษ อเมริกา เยอรมัน ญี่ปุ่น สวิส นอกจากนั้นยังมีชาวต่างชาติที่เดินทางมารักษาตัวในโรงพยาบาลประเทศไทยอีกราว 1.7 ล้านคน

สำหรับตลาดซื้ออยู่จริงในปีนี้ลดความร้อนแรงลงไปเพราะผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยส่วนหนึ่งมองว่ายังมีโอกาสที่จะซื้อทาวน์เฮาส์ในราคาล้านบาทต้นๆ ในแนวรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังจะเห็นจากจำนวนประชากรในพื้นที่ชานเมืองเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สูงสุดอยู่ในย่านบางใหญ่เติบโตถึง 107% รองลงมาคือบางบัวทอง 85% เป็นผลมาจากอิทธิพลของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ทั้งนี้ภาพรวมตลาดคอนโดฯในเมืองเกาะแนวรถไฟฟ้ายังขายได้ และชานเมืองหรือในย่านแหล่งชุมชนที่จับกลุ่มคนทำงานราคา 1-3 ล้านบาท อาทิ ย่านรามคำแหง บางนา สะพานใหม่ เป็นต้น