รีวิวเจาะลึกชุดที่ 37 … คอนโดเซนทริค ติวานนท์ Station เป็นคอนโดแรกที่ผมต้องหาทางลัดเลาะน้ำท่วมไปรีวิว เพราะตอนที่เดินทางไปนั้นน้ำท่วมรัชโยธิน ห้าแยกลาดพร้าว และวิภาวดีส่วนใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว แต่เส้นทางเตาปูน พระราม 6 สี่แยกประชานุกูลยังคงแห้งอยู่ สามารถใช้ถนนกรุงเทพฯ-นนท์ วิ่งไปยังสำนักงานขายได้อย่างปลอดภัย ซึ่งทำเลที่ Centric ติวานนท์ Station ตั้งอยู่นี้จัดอยู่ในเขตพื้นแห้งแห่งสุดท้ายของนนทบุรีที่ไม่ประสบภัยน้ำท่วมครับ
Fact @ 5 Nov 2011
- Centric ติวานนท์ Station
- SC ASSET Plc.
- คอนโด 31.8 – 67.4 ตารางเมตร
- 1 Bed / 2 Beds
- ราคา 1.69 – 5 ล้าน
- ราคาต่อตารางเมตร 55,000 – 65,000 บาท
- Fully Furnished
- www.scasset.com
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
คอนโดเซนทริคติวานนท์สเตชั่นตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพฯ-นนท์ ก่อนที่จะถึงสี่แยกติวานนท์ประมาณ 200 เมตร เป็นจุดเชื่อมระหว่างถนนนครอินทร์ กรุงเทพนนท์และติวานนท์ ใกล้หอนาฬิกานนทบุรีและท่าน้ำนนท์ เป็นส่วนต้นๆของช่วงต่อเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีแยกติวานนท์
จากภาพถ่ายทางอากาศจะเห็นว่าทำเลคอนโดอยู่ในที่เปิดโล่งไม่มีตึกรอบข้างเลย ทำให้เป็นวิวเปิดทุกด้าน ทิศตะวันตกและใต้ในชั้นสูงๆจะสามารถเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วย
การเดินทางไปในครั้งนี้ผมเลือกใช้เส้นทางเตาปูน เพราะถนนงามวงศ์วานและวิภาวดีนั้นถูกน้ำท่วมไปเรียบร้อยแล้ว กั้นอยู่กันตรงคลองประปาไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ เส้นทางแห้งที่สามารถเดินทางได้สะดวกก็คือถนนพระราม 6 ผ่านเตาปูน วงศ์สว่างและกรุงเทพ-นนท์
เลี้ยวเข้าถนนกรุงเทพ-นนท์ที่แถวๆสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน คอนโดเซนทริคตั้งอยู่ที่ซอย 13 ครับ … แต่ถนนนี้พอนับซอยไปเรื่อยๆพอข้ามแยกวงศ์สว่างก็นับใหม่ … ดังนั้นอย่ายึดติดกับเลข 13 เพราะท่านอาจจะหลงได้
นี่ครับขับรถตรงข้ามแยกวงศ์สว่างไปก่อน ไล่ตามแนวตอม่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงไป
พอถึงซอย 13 ก็ให้ชลอ จุดนี้จะถึงทางเข้าโครงการแล้ว
แปลงที่ดินของโครงการติดกับตึกแถวเก่าๆสองสามห้อง ดังนั้นไม่ต้องกลัวปัญหาเรื่องมุมมองถูกบดบัง
ด้านหน้าโครงการเมื่อมองไปฝั่งตรงข้ามจะเห้น โชว์รูม Yamaha
ข้างๆโครงการเป็นคลองตะนาวศรีระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
ที่จอดรถมีเหลือเฟือ เลือกตรงไหนก็ได้เพราะตอนนี้งานก่อสร้างยังไม่เริ่ม แต่พอหลังจากนี้แนวผ้าไวนิลสีน้ำเงินๆคงจะกั้นเต็มพื้นที่
ทิศใต้ของที่ดินโครงการเปิดโล่งสุดๆไปเลย รับรองว่าวิวงามแน่ๆ
ทิศตะวันตกจะเห็นตึกสูงสองตึกลิบๆ ไม่บังวิวเพราะมันไกลมาก
ด้านหน้าโครงการมองย้อนกลับไปที่วงศ์สว่าง เดินทางนี้แหละตรงไปเรื่อยๆประมาณ 100 เมตรจะเจอสถานีรถไฟฟ้าติวานนท์
จากทำเลคร่าวๆคือถึงแม้จะไกลไปหน่อย คือไม่ใช่คอนโดติดรถไฟฟ้าในตัวเมืองกรุงเทพมหานคร แต่ก็เป็นคอนโดติดรถไฟฟ้าในตัวเมืองนนทบุรี ทำเลรอบข้างเท่าที่เห็นยังไม่มีข้อเสีย เพราะว่าใกล้รถไฟฟ้า, ติดถนนใหญ่, ไม่ถูกบังวิว, แต่อาจจะไกลจากแหล่งอำนวยความสะดวกเช่นพวกห้างสรรพสินค้า เพราะต้องเดินทางไปถึงโน่นเลยงามวงศ์วาน
ส่วนคู่แข่งในเชิงทำเลและราคาที่เปรียบเทียบได้คงจะมีตรงๆเน้นๆอยู่ 2 เจ้า ก็คือ The Tree Interchange ของพฤกษาที่อยู่ค่อนไปทางบางซื่อ เตาปูนและศุภาลัย ปาร์ค งามวงศ์วาน-แคราย
เจาะลึกตัวสินค้า
เซนทริค ติวานนท์ Station เป็นคอนโดที่ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ในที่ดิน 4-2-59 ไร่ ซึ่งจะสร้างเสร็จเมื่อ Q1/2557 มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 1,063 ยูนิตและ 17 ร้านค้า แบ่งเป็น 907 ยูนิต 1 ห้องนอน, 100 ยูนิต 1+1 ห้องนอน และ 56 ยูนิต 2 ห้องนอน
แน่นอนว่าโครงการระดับ High Rise ที่มี 1,000 กว่ายูนิตต้องมี Facility ที่ใหญ่ เยอะและจัดเต็มกันมา เพราะว่ามีตัวหารเยอะใส่เยอะแล้วคุ้มกับปริมาณลูกบ้านที่มี และจะทำให้มูลค่าโครงการสูงขึ้นด้วย ดังนั้นทาง เซนทริคติวานนท์สเตชั่นจึงใส่มา 2 เท่าของที่ควรจะเป็น คือจับทุกอย่างคูณสองให้หมด เพราะว่าโครงการเป็นตึกอาคารเดียวที่มี 2 Towers จึงอยากให้ลูกบ้านแต่ละ Tower เข้าถึงส่วนกลางบนตึกตัวเอง ชั้นดาดฟ้าและชั้นก่อนที่จะถึงดาดฟ้าของทั้งสองตึกจึงเป็น Fitness มี Pool อยู่บนดาดฟ้า และมี Sky Lounge ติดแอร์ให้นั่งเย็นๆ เป็นเหมือนชั้นลอยมองลงไปที่ Pool อีกรอบหนึ่ง และลูกบ้านทั้งสองตึก A และ B สามารถใช้ Facility ได้ทั้งสองแห่ง เพราะว่าเงินที่เก็บค่าส่วนกลางทุกเดือนนั้น เป็นเงินบริหารส่วนกลางของทั้งตึก A และ B ไม่ได้แยกกันครับ
ชั้นล่างสุดมี Community Mall 17 ยูนิต เป็นพื้นที่ขายของซึ่งทาง SC ASSET ไม่ขาย แต่จะให้เช่าและบริหารจัดการเอง อันนี้ถามมาเรียบร้อยแล้วครับ นโยบาย (ขณะนี้) คือไม่ขาย
ชั้น 2-5 เป็นที่จอดรถมี 429 คัน ไม่นับรวมการจอดแบบซ้อนคัน ถ้าลองนับคร่าวๆจะได้ที่จอดรถราวๆ 45-50% ของจำนวนยูนิต … ดูแล้วออกจะน้อยไปหน่อย แต่ผมว่าก็พอใช้ได้นะสำหรับคอนโดราคาล้านต้นๆใกล้รถไฟฟ้า เพราะคนส่วนหนึ่งซึ่งใหญ่พอสมควรจะเดินทางโดยรถไฟฟ้าเป็นเส้นทางหลัก เลือกที่จะผ่อนคอนโดแทนผ่อนรถ เป็นพวก 2nd Jobber ตลาดคนละกลุ่มไม่เหมือนกับคอนโดตารางเมตรละ 100,000 ในใจกลางกรุงเทพมหานคร … ดังนั้นคอนโดตรงนี้ภาษีเรื่องที่จอดรถจะดีกว่าพวกคอนโดระดับเดียวกันบนถนนแจ้งวัฒนะ ประชาชื่น ที่รถไฟฟ้าสายสีชมพูยังเป็นเพียงความฝันอยู่ คนส่วนใหญ่ต้องพึ่งพารถยนต์เป็นพาหนะหลัก
พอมาถึงชั้นพักอาศัยเราก็จะมาดูทิศกันบ้าง ตึกทั้งสองเป็นตัว L และตัว I ตึกทางขวา (ตัว I) เป็นตึกที่เปิดขาย ส่วนตึกตัว L ทางซ้ายยังไม่เปิดขาย ยูนิตที่ตึก I ส่วนใหญ่แล้วเป็นยูนิตที่ดี คือวางตัวเหนือและใต้ 80% มี 2-3 ห้องเท่านั้นที่วางตัวหันไปทางทิศตะวันตก ซึ่งผมไม่แนะนำ ห้องที่สวยที่สุดคงจะหนีไม่พ้นห้องมุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จะเห็นวิวเปิดโล่งไปทางวิทยาลัยบรมราชชนนีและมองไปเห็นทางด่วนช่วงถนนงามวงศ์วาน ส่วนอีกห้องที่น่าสนใจก็คือห้องมุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่จะมองเห็นเวิ้งของแม่น้ำเจ้าพระยาบางส่วน ในขณะที่ห้องมุมของตึกตัว L ที่ยังไม่เปิดขายอาจจะได้วิวหอนาฬิกาท่าน้ำนนท์ แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะเห็นชัดหรือไม่
ชั้น 37-38 ของตึกรูปตัว L เป็นส่วนของ Facility โดยชั้น 37 จะมี Fitness, Locker Room Steam/Sauna, Pool และ Floating Garden ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าตึกรูปตัว I ได้เลย และชั้น 38 จะเป็น Sky Lounge
เช่นกันคอนเซปต์เดียวกันคือจะมี Pool กว้าง 4 x 20 เมตร เป็นสระเกลือแยกสระเด็กผู้ใหญ่ มีจากุซซี่, Fitness ขนาด 10 x 4 เมตรหรือประมาณ 40 ตารางเมตร, และ Steam/Sauna อยู่ในชั้นที่ 41
โดยชั้น 42 จะเป็น Sky Lounge ขนาด 117 ตารางเมตร (ตึกรูปตัว L ขนาด 76 ตารางเมตร) … ที่ไม่เหมือนกับตึกอื่นๆที่ผมเคยเจอมา คือจะไม่ใช่ที่นั่งห้องเปิดโล่ง ตากแดดตากลมกันไป แต่จะเป็น Lobby ติดแอร์ของจริง ให้นั่งดูสระว่ายน้ำกันได้ อันนี้เป็นคำมั่นสัญญา แต่ของจริงสร้างเสร็จจะออกมาเป็นอย่างไร อันนี้ต้องดูกันอีทีหนึ่ง
และนี่เป็นบรรยากาศวันเปิดขายนะครับ
อีกอย่างหนึ่งก็คือระหว่างตึก L และ I จะมีระเบียงที่ชั้น 6, 12 … สามารถเชื่อมกันได้ด้วยสวน
สถานีรถไฟฟ้าคงจะไม่ได้ใกล้สุดๆแบบในโมเดลตึก แต่ระยะทาง 100 เมตรผมว่าเดินยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงแล้ว
Product Walkthrough
ห้องแรกที่เราจะไปดูกัน ที่นี้เป็นห้อง B2 ขนาด 34.9 ตารางเมตร ที่เลือกมาก็เป็นเพราะเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในตึก … แต่ครั้งนี้ผมกลับชอบฟังก์ชั่นของห้อง 2 Beds มากกว่า เลยตัดใจไม่ได้ว่าจะรีวิวห้องไหนดี สุดท้ายเลยช่างมัน เอามาให้ดูทั้งสองห้องเลยก็หมดเรื่อง
ห้อง Type B2 ออกแบบมาให้มีครัวปิด ห้องนอนแยกส่วน ห้องน้ำเชื่อมห้องรับแขก มีห้อง Shower แยกต่างหาก แต่ไม่มีระเบียง ในขนาด 34.9 ตารางเมตร
พอเปิดประตูมองตรงเข้าไปก็จะเห็นห้องนั่งเล่น ห้องครัวและห้องนอน การที่ห้องไม่มีระเบียงจะทำให้รู้สึกว่าห้องแคบไปบ้าง แต่ทางเซนทริคก็แก้ด้วยการใช้ประตูใสให้มองทะลุห้องครัวไปยังหน้าต่างขนาดใหญ่ จึงทำให้รับแสงได้มากส่องเข้ามาผ่านทางห้องครัว
ห้องนั่งเล่นมีขนาดพอเหมาะ คอนโดที่นี่เป็นแบบ Fully Furnished ดังนั้นผมจะถ่ายรูปมากกว่าปกติ เก็บภาพที่เป็นเฟอร์นิเจอร์มาด้วย ยกตัวอย่างเช่นโซฟาตัวนี้
พอมองกลับไปทางมุมอับก็จะมีตู้และชั้นวาง Built มาให้เรียบร้อย มองในกระจกจะเห็นภาพสะท้อนเป็นช่องเปิดประตู
ห้องครัวอย่างที่บอกทำหน้าต่างบานใหญ่มากเพื่อรับแสงแทนฟังก์ชั่นระเบียงที่ถูกตัดออกไป
ครัว Built มาเต็ม มีอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ครบ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เตาไมโครเวฟและเตาไฟฟ้า จุดตำหนิมีจุดเดียวก็คือซิงก์ที่เป็นแบบอ่างรูเดียวไม่มีที่คว่ำจาน
โต๊ะกินข้าวนั่งได้ไม่เกินสองคนวางเอาไว้หน้าครัว จุดนี้ประหลาดไปหน่อย ใครจะมานั่งกินข้าวหน้าครัว ร้อนๆ แทนที่จะไปนั่งในห้องรับแขก ผมว่าการดีไซน์ฟังก์ชั่นตรงนี้ไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่ไม่เป็นไรเพราะ … โต๊ะกินข้าวมันยกได้ครับ อย่างมากก็แค่ยกออกมาตั้งข้างนอก เท่านั้นเอง
จากจุดนี้จะเห็นเป็นหน้าต่างใหญ่ สองฟากมีบานตู้ขาวๆเอาไว้เปิดสู่อากาศภายนอกทดแทนระเบียงที่หายไป
ตู้แรกเอาไว้ตากผ้า จะเห็นว่ามีที่ตากผ้ายื่นออกมา แต่ดูจากขนาดหากอยู่เกิน 1 ชีวิตคงจะตากไม่พอล้าน% เพราะมีอยู่ 5-6 ซี่เท่านั้น สุดท้ายก็ต้องไปหาราวตากผ้ามาวางขวางหน้ากระจก เหมือนกับทุกห้องที่ทำกันในปัจจุบัน
อีกฝั่งหนึ่งเป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ ไม่มีความจำเป็นที่จะเปิดยกเว้นจะล้างแอร์
กุญแจไขบานตู้ทั้งสองทำด้วยแท่งเหล็กกลมๆมีรอยบาก เสียบเข้าไปแล้วหมุนๆ ให้ความรู้สึกแปลกดี … แต่เอาจริงๆถ้าเปิดกลไกแบบเอามือกดเข้าไปแล้วบานเด้งเปิดออกมาเองจะดีกว่านะครับ เพราะไม่ต้องดูแลรักษากุญแจอีกดอก จะตากผ้าทีต้องเอามาไขทีอะไรแบบนี้
บานกระทุ้งเปิดออกไปรับอากาศภายนอก กรอบวงกบใช้เป็นอลูมิเนียม
ให้ดูครัวกันอีกครั้ง ชัดๆกับที่วางเครื่องซักผ้า ออกแบบมาพอดีเป๊ะๆ
พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นลามิเนต 8 มม. ส่วนพื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่ น่าจะแถวๆ 60×60 ซม.
ภาพรวมของห้องน้ำที่นี่ก็พอใช้ได้ ดูสมราคา ไม่ได้ลดเกรดลงแบบคอนโดที่ตั้งใจทำราคาลงมาเล่นในตลาดล่าง (ติดภาพผมมาด้วย จงใจเล็กน้อย 555)
ตู้อาบน้ำเป็นกรอบไวนิล เลื่อนบานเข้าไปอาบน้ำได้เลย มีเครื่องทำน้ำอุ่นติดตั้งให้เสร็จสรรพ ไม่ต้องเสียเวลาและความยุ่งยากในการติดตั้งอีก
อ่างล้างหน้าดีตรงที่มีพื้นที่วางรอบๆได้ครบครัน แต่น่าจะ Built ตู้ใต้อ่างมาให้ด้วย เพราะที่อื่นเขาทำกันหมดแล้ว
โถสุขภัณฑ์ไม่ได้โดดเด่นแต่ก็ไม่ขี้เหร่ จัดว่าโอเคในมุมมองผม โดยเป็นสุขภัณฑ์ของ Cotto ที่ติดตรา SCG Eco Value อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการใช้น้ำแบบประหยัด
มองจากโซฟาตรงไปก็มีทีวีและห้องน้ำ ตรงนี้ในทางปฏิบัติจะใช้ยาก เพราะทีวีไม่ได้วาง Center เวลามองจากโซฟาก็จะต้องเอียงๆคอหน่อย แนะนำให้ใช้ทีวีที่หมุนได้ มีฐานเป็นกลมๆแล้วปรับหันมุมได้ตามต้องการ
ห้องนอนของเซ็นทริคก็สวย มีเตียงให้แต่ไม่มีฟูก หิ้วกระเป๋าเข้ามาเลยไม่ได้นะครับ ด้วยเหตุผลที่ว่าแต่ละคนมีความต้องการฟูก แข็ง บาง หนา นุ่ม ต่างกัน ดังนั้นไม่ใส่มาให้ ถูกต้องแล้วครับ
มองมุมกลับจากห้องนอนก็จะเห็นประตูทางเข้าห้องทางซ้าย และมีตู้เสื้อผ้าทางขวา มีโต๊ะทำงานตัวเล็กๆ วางโคมไฟได้
โต๊ะที่วางโคมไฟใช้เป็นโต๊ะอ่านหนังสือเฉพาะกิจได้ แต่ถ้าเป็นผมคงจะ Built ให้มันเต็มๆไปเลย กลายเป็นชั้นหนังสือหรือโต๊ะเครื่องแป้ง
สุดท้ายมาจบที่ดีไซน์ประตู มือจับและการล็อคห้อง ที่ออกแบบมาได้โอเค ดูดีสมราคา
มาถึงห้องที่ผมชอบกันบ้างแล้ว ก็คือห้อง D2 พื้นที่ขนาด 67.40 ตารางเมตร จะทำให้ฟังก์ชั่นต่างๆลงตัวขึ้นอีกมาก ผิดกับห้อง B2 ที่ถูกบีบด้วยขนาด จะเอาดีอย่างหนึ่งก็ต้องเสียอีกอย่างหนึ่ง
จาก Floor Plan จะเห็นว่าเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว ครัวแยกส่วน มีระเบียงพร้อมและโต๊ะอาหารจัดวางนอกครัว ฟังก์ชั่นสมบูรณ์แบบมากๆ
ห้องรับแขกของห้อง D2 จะเห็นว่างต่างจากห้อง B2 เยอะเลย มี Space กว้างขวาง ระเบียงใหญ่ ลงตัวสุดๆ
โต๊ะอาหารที่ถูกยัดเข้าไปหน้าเตาก็เอาออกมาเรียบร้อย วางจานนั่งได้ 4 คนสบายๆ ในตำแหน่งใกล้ครัว
มีบานเลื่อนเปิดปิดจากโต๊ะอาหารเข้าครัวได้เลย ไม่ต้องเดินไกล แถมยังกักกลิ่นอาหารในขณะปรุงอาหารได้อีก
นี่เป็นจุดที่ผมชอบที่สุดของห้องนี้ ก็คือเป็นห้องน้ำ 3 Functions ที่แยกการล้างมือ สุขาและอาบน้ำออกจากกัน ให้ 3 คนใช้งานได้พร้อมๆกัน เรียกว่าดีมากๆเลยครับ สำหรับการอยู่อาศัยจริงของครอบครัวขนาด 4 คน ที่จะต้องใช้บางอย่างชนกันในช่วงเวลาเร่งด่วน
ห้องอาบน้ำทางขวาเป็นบานผลัก
ห้องสุขาทางซ้ายเป็นบานเลื่อน เพราะมันผลักไปแล้วจะติดโถสุขภัณฑ์
ห้องนอนใหญ่มี Space เล็กไปนิดเพราะต้องเอาพื้นที่ทางซ้ายมาทำห้องน้ำในตัว
ห้องน้ำในห้องนอนก็ดูดีเลยล่ะ
จบที่ฟังก์ชั่นของโซฟาที่สามารถเก็บของได้ตรงที่พักแขน
Price & Performance
ราคา ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2554 – ห้อง Fully Furnished
Type A2 ห้อง Promotion ทิศตะวันตก
31.8 ตร.ม. = 1,690,000 บาท หรือ 53,000 บาท ต่อ ตารางเมตร
Type A2 ชั้น 6 ทิศ South
31.8 ตร.ม. = 1,875,000 บาท หรือ 59,000 บาท ต่อ ตารางเมตร
Type D1 ชั้น 20 ทิศ East/South
66 ตร.ม. = 4,275,000 หรือ 64,700 บาท ต่อ ตารางเมตร
- 35 บาท / เดือน / ตารางเมตร ค่าส่วนกลาง
- 500 บาท / เดือน / ตารางเมตร กองทุน
- จอง 10,000
- ทำสัญญา 50,000
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ Q1 / 2557
เจาะลึกรวบยอด
ก่อนจะวิเคราะห์ Centric ติวานนท์ Station ผมต้องหาคู่ชกให้ก่อน เพราะคอนโดตึกนี้ตั้งอยู่บนทำเลที่ไม่ค่อยจะมีแบรนด์ใหญ่ๆเข้ามาทำตลาดกัน ดังนั้นแบรนด์ที่ใกล้เคียงและสามารถวัดกันได้คู่คี่หน่อยก็คือ The Tree Interchange ของบมจ.พฤกษา ที่ทำเลอยู่ใกล้กรุงเทพฯมากกว่าหน่อยแต่ต้องเดินไกลประมาณ 400-500 เมตรกว่าจะถึงรถไฟฟ้าเตาปูนและ/หรือบางโพ
พอเรามาดูทำเลของ Centric ติวานนท์จะพบว่าเดินใกล้กว่ามาก ระดับ 100 เมตรกับ 500 เมตรถึงรถไฟฟ้าราคาขายต่างกันประมาณ 10-15% เลยนะครับ ลองไปเทียบดูได้กับทุกสถานีรถไฟฟ้าในสินค้าเกรดเดียวกัน แต่ว่าทำเลที่ไกลออกไปในนนทบุรีก็ทำให้คนเลือกเซ็นทริคต้อง Trade Off บางส่วนให้กับเดอะทรี แต่ถ้าลองคิดอีกแง่หนึ่ง ถ้าทำงานในเมือง ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก จะอยู่ไกลหรือใกล้มันก็ต่างกัน 2-3 สถานี ดังนั้นเดินใกล้ก็ต้องดีกว่าเดินไกล ทำให้เซนทริคเหมาะสำหรับผู้ที่มี Lifestyle แบบนี้มากกว่าเดอะทรี
บ่นไปบ่นมาเอาจริงๆเถอะ คนเมืองนนท์ก็ซื้อเซนทริค คนเตาปูนก็ซื้อเดอะทรี คนแครายก็ซื้อศุภาลัย เพราะต่างคนต่างติดทำเลใกล้บ้าน ความจริงที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะว่าเป็นลูกค้าคนละกลุ่ม
ต่อมาเรามาดูกันที่คุณภาพวัสดุ สำหรับตารางเมตรละ 55,000 – 65,000 สิ่งที่เซ็นทริคให้ถือว่าเกินราคา วัสดุประมาณนี้ พร้อมการตกแต่งแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า (ยกเว้นทีวี) ควรจะเป็นคอนโดที่อยู่ในระดับราคา 60,000 – 70,000 บาท ซึ่งจัดว่าดีกว่ามาตรฐาน
จากนั้นเรามาดูกันที่แบบห้อง พออ่านรีวิวก็ทราบว่าห้อง B2 มีจุดที่ต้อง Trade Off บางส่วน เช่นระเบียงเพื่อให้ได้ห้องครัวกว้างขวางและเป็นครัวปิด ซึ่งเหมาะมากกับการใช้สอยจริงในเรื่องของการทำอาหาร ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพราะขนาดของห้องที่ 35 ตารางเมตรมันจำกัดเท่านี้
แต่พอเรามาดูห้อง D2 ที่แก้จุดบกพร่องทางการออกแบบไปเสียหมด ด้วยพื้นที่ขนาด 67 ตารางเมตรเราก็ต้องชมจากใจว่าเป็นคอนโดที่ออกแบบมาได้ดีมาก ฟังก์ชั่นทุกอย่างลงตัวเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยในครอบครัวขนาด 4 คนจริงๆ
ปัจจัยสุดท้ายหากวัดกันที่ราคาจะพบว่าราคาของเซ็นทริคใกล้เคียงกับเดอะทรี อินเตอร์เชนจ์แต่เซ็นทริคได้เปรียบเรื่องคุณภาพของวัสดุและ Fully Furnished ในขณะเดียวกันเซ็นทริคก็เสียเปรียบเรื่องราคากับศุภาลัย ปาร์ค งามวงศ์วาน-แครายที่ขายอยู่แถวๆตารางเมตรละ 45,000 – 50,000 บาท แต่ก็ยังได้เปรียบเรื่อง Fully Furnished และคุณภาพวัสดุ ทำให้ช่วยลดช่องว่างลงไปได้ส่วนหนึ่ง
สุดท้ายเรามาจบกันที่สาธารณูปโภคที่ Over Expectation ของเซ็นทริค ก็ถือเป็น Highlight ของโครงการนี้เลยครับ ตั้งแต่ Sky Pool, Fitness, Sky Lounge ติดแอร์, Steam, Sauna, Park ทุกอย่างคูณ 2 เอาไปตึกละชุด
Judgement
- ทำเล 9/10 – ติดถนนใหญ่กรุงเทพ-นนท์ ใกล้รถไฟฟ้าในระยะ 100 เมตร ทำเลดีมากเมื่อเทียบกับราคา … ที่สำคัญน้ำยังไม่ท่วม (8 พ.ย. 54)
- คุณภาพวัสดุ 8/10 – ใช้ของดีทั้งโครงการแต่ยังไม่เกินราคา
- แบบห้อง 8/10 – ห้อง 2 Beds ออกแบบมาได้ดีมาก, ห้อง 1 Bed ทำได้ปานกลาง
- สาธารณูปโภค 10/10 – สาธารณูปโภคครบครัน Sky Pool, Fitness, Sky Lounge ติดแอร์, Steam, Sauna, Park ทุกอย่างคูณ 2 เอาไปตึกละชุด
- ชื่อเสียง 9/10 – Centric, SC ASSET
- ความคุ้มราคา 8/10 – ราคาเปิดตัวไม่แพง ได้เฟอร์นิเจอร์ทั้งเซ็ตพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า สมราคา
- Final Score : 8.75/10
- Grade A
กด Like ให้กับรีวิวกันหน่อยนะครับ แค่ Click เดียวก็สนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living ได้แล้ว