UPDATE วิเคราะห์คอนโดแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ สีเขียวเหนือ “หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต” เปิดใช้ปี 2562-2563 เผลอแปปเดียวรถไฟฟ้าสายใหม่เส้นนี้ก็ก่อสร้างไปแล้วกว่า 75% เลยนะครับ อีก 1 ปีกว่าๆชาวกรุงเทพตอนเหนือก็จะมีรถไฟฟ้าใช้กับเค้าแล้ว ทางเราเลยอยากจะมาอัพเดตข้อมูลคอนโดที่อยู่ตามแนวของรถไฟฟ้าสายนี้กัน เพราะทาง Developer ทั้งหลายเค้าก็มาพัฒนาโครงการกันเพียบแล้วล่ะ

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้า รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) จะมีลักษณะเป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับตลอดเส้นทางโดยจะมีความยาวทั้งหมด 19 กิโลเมตร และมีจำนวนสถานีทั้งหมด 16 สถานี

แนวเส้นทางก็จะเริ่มตั้งแต่ BTS เดิมหมอชิต ขึ้นไปทางเหนือบนเส้นถนนพหลโยธินยาวไปเลย จนไปถึงแถวธูปะเตมีย์ แล้วจะเบี่ยงขวาไปโผล่แถวสถานีตำรวจภูธรคูคต และสิ้นสุดที่นี่ / และอนาคตยังมีแผนส่วนต่อขยายจากคูคตไปอีกยาวไปอีก….  แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงส่วนแรกนี้กันก่อน

พอเห็นอย่างนี้แล้วเหล่า Developer ผู้พัฒนาโครงการต่างๆก็พากันมาจับจองที่ดินริมถนนพหลโยธินหรือใกล้ๆสถานีรถไฟฟ้าเหล่านี้เพียบ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และมีท่าทีว่าจะมาเรื่อยๆครับ แต่ว่าเค้าก็จะเลือกโซนมาลงที่จะสร้างโครงการขึ้นหน่อย ผมก็เลยลองกรุ๊ปเป็นจุดเด่นหลักๆ

1 โซนฮอตฮิต ราคาซิ่งวิ่งแรง : ในโซนนี้จะประกอบไปด้วยจุดตัดที่เป็นแยกใหญ่อย่าง ห้าแยกลาดพร้าว / แยกรัชโยธิน / แยกม.เกษตร แน่นอนว่าพูดถึงแยกเหล่านี้หลายๆคนคงรู้จักกันแน่นอน เพราะเป็นแหล่งงานมหาศาล มีทราฟฟิค ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และที่ดินแปลงขนาดใหญ่ที่ยังพัฒนาเป็นเมกะโปรเจคได้อยู่ โซนพวกนี้เลยมีราคาที่ดินพุ่งขึ้นสูงมาก แค่ราคาที่ดินเปล่าๆก็เห็นมีคนประกาศขายกันตารางวาละ 4-7 แสนบาท/ตร.วาเข้าไปแล้วครับ

2 โซนความหนาแน่นปานกลาง : ก็จะนับตั้งแต่แยกรามอินทรา ขึ้นเหนือไปยันสายหยุดและก็สะพานใหม่ครับ โซนนี้อาจจะไม่ร้อนแรงเท่าโซนแรก แตกก็ยังมีคอนโดมาเกาะตามแนวรถไฟฟ้าอยู่ อาจจะเหมาะสำหรับครอบครัวใหม่ ที่กำลังมองหาบ้านใกล้ๆในย่านนี้ทุนเดิม และได้ใช้รถไฟฟ้า กับความต้องการที่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ด้วย

จุดแรก “ห้าแยกลาดพร้าว” ซึ่งนับว่าเป็นแยกใหญ่ที่สุดด่านแรกนับตั้งแต่ส่วนต่อขยาย ซึ่งจะมีถนนหลัก 3 เส้นมาบรรจบกันครับ ตรงนี้จะมีห้างขวัญใจอยู่สองแห่งคือ เซ็นทรัลลาดพร้าว และก็ ยูเนียนมอลล์ และที่สำคัญรอบๆพื้นที่นี้ยังนับว่าเป็นแหล่งงานตึกสูงออฟฟิศชื่อดังที่สำคัญอีกหลายตึก อาทิเช่น ปตท.สนง.ใหญ่ / ตึก TMB / ซันทาวเวอร์ / ตึกการบินไทย เป็นต้น แน่นอนว่าต้องมีพนักงานและมนุษย์เงินเดือนไม่น้อยแน่นอน

 

แต่ก่อนแต่เดิม ระบบการเดินทางสาธารณะ บนเส้นพหลโยธินตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวขึ้นเหนือไป สิ่งที่จะให้คนพึ่งพิงได้ก็มีเพียง รถเมล์ รถแท็กซี่เท่านั้น ซึ่งต้องบอกเลยว่า “สาหัสหนักหนาครับ” เพราะต้องผ่านพื้นที่สำคัญและแยกไฟแดงมากมายทั้ง ห้าแยกลาดพร้าว แยกรัชโยธิน แยกม.เกษตร แยกวงเวียนหลักสี่ สะพานใหม่ ฯลฯ เป็นต้น เรียกว่ามันไม่สะดวกเท่าไรหรอก แต่มันไม่มีตัวเลือกอื่นเหมือนกับย่านอื่นๆที่ยังพอมีรถสองแถว รถกระป๊อ นั่งเรือ หรือรถไฟฟ้า

ทีนี้แผนของรถไฟฟ้าเส้นนี้ พอเซ็นผ่านอนุมัติแล้วก็ลุยสร้างเดินหน้าแบบ Speed กันไปเลย หลายๆคนรอนับวันใช้งานกันแล้ว ซึ่งตามแผนงานแจ้งว่าจะเปิดใช้ประมาณกลางปี 63 นะครับ และจะมีสถานีพิเศษอย่างสถานีห้าแยกลาดพร้าว ที่อาจจะเปิดก่อนพิเศษ 1 สถานี ในช่วงประมาณ สิงหาคม ปี 2562 ครับ และตรงนี้ก็จะกลายเป็น Interchange แห่งใหม่กับสายสีน้ำเงินเดิมอย่าง MRT พหลโยธินด้วย

ในอดีตแต่เดิมก่อนที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า ต้องบอกว่าแถวรอบๆห้าแยกนี่คอนโดนับว่ามีน้อยนะครับ นับได้เลยแหละ เริ่มจากสัก 7 ปีก่อนตอน M ลาดพร้าวเปิดตัว(ยังไม่สร้างนะครับ) ตอนนั้น Major Development เริ่มขายด้วยราคาประมาณ 9 หมื่นบาท/ตร.ม. (หรือประมาณ 3.9 ลบ.อัพ) คนแถวนี้ฮือฮามาก ว่าแพงมาก สมัยนั้นราคานี้ ซื้อแถวสุขุมวิทตอนกลาง บางตัวเลยครับ

ซึ่งณ วันนี้ M ลาดพร้าวก็ยังมีขายอยู่นะครับเหลือราวๆ 5-10% ของจำนวนห้องทั้งหมด(เหลือน้อยแล้วล่ะ) แต่ราคาขยับไปเป็น Top High ของย่านนี้ไปแล้วอยู่ที่ประมาณ 6.1 ล้าน(ชั้น 33) ราคาต่อตรม.ประมาณ 190 k ครับ (คือทาง Major เค้าก็ปรับราคาขึ้นต่อปีไปเรื่อยๆแหละ) (นี่ผ่านมา 7 ปี Capital Gain ขึ้นมา 60% แล้วนะครับ) ที่เค้าไม่สนใจเรื่องปรับราคาขึ้นเพราะ ตัวนี้เค้ามั่นใจจุดแข็งของโครงการเรื่อง Location / ปัจจัยรอบๆ / และตัวโปรดักส์เองที่มียูนิตน้อย และขาย FullyFurnished พร้อมอยู่ด้วย

สาเหตุที่คอนโดเปิดใหม่รอบ “สถานีห้าแยกค่อนข้างหอมหวานก็คงเป็นปัจจัยต่างๆที่ผมบอกไปตอนต้นหลายๆอย่างนั้นแหละครับ ทีนี้เราลองมาดูตลาดคอนโดเอาเฉพาะรอบๆห้าแยกลาดพร้าว และยังใหม่ๆหน่อยนะครับ จริงๆทั้งหมดนี้เป็นมือหนึ่งเกือบหมดเลย ยกเว้น Life Ladprao จาก AP ตัวแรกที่พึ่งปิดการขายทั้งโครงการไป ตอนนี้ต้องหา Resale เอา โดยแผนที่นี้ผมมีการทำสรุปราคาขายช่วง ณ ปัจจุบันใว่มาให้ดู

ส่วนใหญ่โปรดักส์ห้องของตลาด ณ ปัจจุบันในย่านนี้มักจะทำเป็น 1 Bedroom เป็นหลักช่วงๆ 30 ตร.ม. ทำให้คอนโดมือหนึ่งในย่านนี้การจะซื้อได้ราคาก็จะอยู่ที่เริ่มต้นประมาณ 4 ล้านบาท+ขึ้นไป (ไม่นับบางโครงการที่ทำ Studio มาแซมๆนะครับอาทิเช่น The Privacy, Life ทำให้สองโครงการนี้คนนี้มีงบน้อยกว่าหน่อย ยังพอหาซื้อในราคาช่วง 3 ล้านกลางๆได้อยู่)

ปัจจัยอีกอย่างนอกจากรถไฟฟ้าสายใหม่ที่ทำให้คอนโดนี้น่าสนใจ และมีราคาขยับตัวขึ้นอีกก็คงจะเป็น Mega Project ที่ดินแปลงนี้ครับ เป็นของ BTS + Gland รวมตัวจับมือกันซื้อตั้งชื่อบ.ว่า BayWaters จะทำเป็น. Mixed Used ขนาดใหญ่ ซึ่ง Gland ก็เก่งเรื่อง Office Building อยู่แล้ว ที่แปลงนี้กว่า 46 ไร่และตัดแบ่งที่ดินกว่า 2 ไร่ ทำเป็นถนนเส้นใหม่ที่เชื่อมระหว่างพหลฯและวิภาวดีรังสิตครับ

ทำให้ ศุภาลัยพาร์ค พหลโยธิน (ที่ปากซอยพหลฯ21) ข้างๆได้อานิสงค์เพิ่มไปด้วยเลย โครงการนี้นานมากแล้วนะครับ 10 ปีได้ แต่ด้านในถือว่าเป็นชุมชนน่าอยู่ทีเดียว มีที่จอดรถอยู่ในโฉนดให้ด้วยนะ ในสมัยก่อนราคาตร.ม.ละประมาณ 5 หมื่น เดี๋ยวนี้ขึ้นมาตร.ม.ละ 8-9 หมื่นแล้ว และด้านหน้าใกล้ๆมีรถไฟฟ้า สถานีพหล 24 มาลงครับ

ส่วนถัดมาก็คือ “แยกรัชโยธิน” ซึ่งจะอยู่กึ่งกลางระหว่าง สถานี “พหลฯ24 – รัชโยธิน” ซึ่งใกล้ๆบริเวณนี้จะมีแหล่งงานขนาดใหญ่อยู่สองส่วน ส่วนแรกคือ SCB PARK หรือสนง.ใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ และอีกส่วนจะเป็นทางฝั่งศาลอาญาทั้งหลายตรงนั้นครับ แถวๆนี้มีห้างหลักให้พึ่งพิงอย่าง Major รัชโยธิน นั่นเอง แล้วปัจจุบันอุโมงค์ทางลอดใต้แยกรัชโยธินบนเส้นรัชดาภิเษกก็สร้างเสร็จแล้วด้วยนะ ทำให้การสัญจรไปมาดีขึ้นกว่าช่วงสองปีที่ผ่านมาแน่ๆ

ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนยังไม่มีการสร้างรถไฟฟ้า คอนโดยุคสัก 5-7 ปีทีแล้วมักจะมาสร้างกันติดบนเส้นรัชดากันเป็นหลัก เพราะ Dev เล็งเห็นกลุ่ม Real Demand จากแหล่งพนง.จาก SCB หรือคนในย่านนี้ที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลักกันมากกว่า ในสมัยนั้นคอนโดในย่านนี้ก็ราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท หรือตกราวๆ 6-8 หมื่นบาท/ตร.ม.

แต่การมาของรถไฟฟ้า กับ เมกะโปรเจคของ BTS+GLAND ทำให้ Big Developer ลงทุนเข้ามาซื้อที่ดินราคาแพงติดกับถนนพหลโยธิน ใกล้ๆกับรถไฟฟ้าสองสถานีนี้ ทำให้มีโครงการเกิดใหม่ 5 ตัวด้านบน ซึ่งเรียกว่ามารีเซ็ตราคาคอนโดนในย่านนี้ใหม่ทั้งหมดครับ ราคาต่อตร.ม.ส่วนใหญ่ก็ปาไปประมาณ 160,000 บาท/ตร.ม.ขึ้นไป จะยกเว้นของ LPN PARK พหลฯ32 ซึ่งราคาถูกกว่าคู่แข่ง แต่ดีไซน์กับส่วนกลางก็อาจจะไม่เด่นเท่าครับ

ซึ่งโครงการเหล่านี้นับว่าเป็น คอนโดสมัยใหม่ที่เป็นแบบห้องใหม่ที่นิยมในตลาด ส่วนกลางฟังก์ชั่นใหม่ๆเก๋ๆ สระว่ายน้ำยกเอามาไว้ด้านบน Triple Facility ฯลฯเป็นต้น บวกกันเข้าไปเลยทำให้ราคาแพงขึ้นมาอีกแบบนี้ ไม่ใช่แค่ต้นทุนที่ดินอย่างเดียว ต้องบอกว่าคนที่ซื้อคอนโดซีรีย์ใหม่เซตด้านบนได้เนี่ย ส่วนใหญ่ราคาจะเริ่มต้นที่ราว 3.8 ล้านบาท หรือคุณต้องมีกำลังผ่อนชำระต่อเดือน 26,000 บาท++ขึ้นไปนะครับ

และจากแผนที่ด้านบน ก็มาดูสถานีต่อไปกันอย่างเสนานิคมครับ ซึ่งถ้าคนแถวนี้เคยผ่านไปมา จะค่อนข้างคุ้นชินว่าที่ดินส่วนใหญ่ติดถนนบริเวณนี้ มักจะเป็นพวกกลุ่มอาคารพาณชิย์ ตึกแถวยาวติดกัน มีตลาด ร้านค้า อยู่มากมายพอสมควร ซึ่งคอนโดตัวใหม่ๆในพื้นที่บริเวณนี้ที่ติดถนนก็จะไม่ได้ราคาพุ่งแรงเหมือนกับโซน พหลฯ24-รัชโยธินแล้วครับ โดยหลักๆก็จะอยู่ประมาณ 110,000 – 140,000 บาท/ตร.ม. (อาทิเช่น Premio Quinto, Knightsbridge Kaset และก็ Chapter One Kampus แบบซื้อต่อมือสอง) ซึ่งราคาแพ็คเกจรวมจะอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านต้นๆถึงปลายๆ

แต่ไม่ใช่ว่าจะมีใครสนใจอยากซื้อคอนโดแถว เสนานิคม-ม.เกษตร แล้วแบบว่า อื้อหือ นี่เราต้องมีเงิน 3-4 ล้านบาทเลยเหรอเนี่ย ใจเย็นๆครับ มันมีตัวเลือกอีกอย่างนึงก็คือ ในซอยของเสนานิคม 1 (พหลฯ32) กับ เสนานิคม 2 (พหลฯ34) ทั้งสองซอยนี้ครับ ยังมีโปรดักส์โครงการราคาไม่แพงให้หยิบจับง่าย เพราะไม่ได้ไปเล่นกับราคาที่ดินแพงๆติดถนนใหญ่ ซึ่งทำให้ราคาที่ดินถูกลงมากๆกว่า 2-3 เท่าตัวเลย

ทำให้ราคาโครงการบริเวณนี้จะมีพวกช่วงราคาเริ่มต้นอยู่ตั้งแต่ 1.6 ล้านบาทไปจนถึงแค่ราวๆ 3 ล้านบาทครับ หรือพอคิดเป็นต่อตร.ม.ก็ประมาณ 65,000-78,000 บาท/ตร.ม. ประมาณนี้ครับ และบางตัวยังมีส่วนกลายที่ทำมาพิเศษอลังการเอาใจเด็กนักศึกษามาให้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าใครที่เลือกโครงการเหล่านี้ อาจจะต้องมีรถส่วนตัว หรือต่อรถสาธารณฯอย่างพี่วิน, Taxi ไปขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ หรือม.เกษตรนั่นเองครับ

หรือถ้ใครมีงบประมาณสูงหน่อย อยากมาหาคอนโดแถวม.เกษตรที่ติดถนนใหญ่ ก็จะมี 4 โครงการนี้ครับ ที่เป็นคอนโดมือหนึ่ง และจะมีมือสองอีกประมาณ 2 โครงการคือ Premio Vetro กับ Chapter One Kampus เกษตร ซึ่งแน่นอนว่าพวกนี้ราคาไม่ธรรมดาขยับขึ้นมารอตามแนวรถไฟฟ้าแล้ว เตรียมเงินไว้เลยครับ 3.5 ลบ.ขึ้นไป

และตั้งแต่สถานีม.เกษตรขึ้นไป พวกโครงการคอนโดต่างๆ ก็จะซาเบาตัวลง เพราะว่าสถานที่รอบๆ ส่วนใหญ่จะเป็นของราชการครับ ไม่ค่อยมีที่ดินให้พัฒนาเท่าไร จะมีที่หลุดมาโครงการนึงก็คือ Ciela ศรีปทุม ของ Grand Unity ซึ่งอยู่ติดกับรร.บางบัว ตรงข้ามกับม.ศรีปทุมเลย เป็นโครงการเดียวโดดๆ ที่ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2.6 ล้านบาท (เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.5 ตร.ม.) หรือช่วงราคาต่อตร.ม.ประมาณ 110,000 – 130,000 บาท/ตร.ม.ครับ

ทีนี้พอเราเลยสถานีราบ 11 มา ก็จะมาถึง สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ซึ่งอยู่บริเวณแยกวงเวียนหลักสี่รามอินทรา ที่มีความเจริญคึกคักกลับมาอีกครั้งนึงสำหรับคนในพื้นที่นี้ ก็มีทั้งเซ็นทรัล, Tesco Lotus, Max Valu, กปน., มหาวิทยาลัย และสถานที่ราชการต่างๆ ฯลฯ ครับ

ถึงแม้บริเวณสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ จะเป็นเครือข่าย Interchage (กับสายสีชมพู) ก็จริงๆ แต่ก็จะไม่ได้ฮอตมากเท่าไร เพราะว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพูนั้นวิ่งเป็นเส้นแนวนอนบนรามอินทราไปยังแจ้งวัฒนะครับ ทำหน้าที่พาคนจากชานเมืองมาเจอ Interchage สีหลักต่างๆที่พาคนเข้าเมืองเปลี่ยนสายอีกที

เรามาดูในแผนที่กันโดยเริ่มจาก “สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ” สมัยก่อนที่จะมีรถไฟฟ้ามา มีผู้ประกอบการเจ้านึงอย่างแบรนด์ Regent มาบุกเบิกทำคอนโดราคาประหยัดขายครับ โดยมีแพคเกจอยู่ที่ราวๆ 8 แสนบาท – 1 ล้านต้นๆ เท่านั้นเอง (สัก 4-5 ปีที่แล้ว) แต่ปัจจุบันพอการมาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือมา ก็จะมี Developer เจ้าอื่นสนใจมาบ้าง อย่างเช่น AssetWise ในแบรนด์ของ MODIZ และก็ Origin Property ที่มาในแบรนด์พวก Kensington ครับ

ซึ่งหลักๆก็จะมีโครงการไม่มากนัก ในปัจจุบัน เรียกว่าพอนับกันได้ง่ายๆเลยละครับ ราคาต่อตร.ม.ของโครงการเหล่านี้ก็จะเกาะๆกลุ่มกันหน่อยอยู่ที่ช่วง 70,000 – 92,000 บาท/ตร.ม. หรือมีแพ็คเกจราคารวมเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านกลางๆครับ ถ้าใครสนใจรายละเอียดตัวไหนก็เอาชื่อโครงการไปเซิร์จหารีวิวเจาะลึกในเว็ปของเราได้เลย

ถัดมาเป็นส่วนของ สถานีสายหยุด ซึ่งโครงการแถวนี้ถึงแม้รถไฟฟ้าจะมาแต่ก็ไม่ได้มีคอนโดขึ้นเยอะเท่าไร นับได้ประมาณ 5 โครงการนี้เท่านั้น ซึ่งจะมีตัวเด่นๆที่ใกล้กับรถไฟฟ้าเลย 2 ตัว อย่าง Knightsbridge Sky City ตัวนี้สร้างเสร็จแล้วด้วยนะครับ ในข้อมูลที่แปะมาเป็นราคาสมัยปี 2015 ซึ่งตอนนี้โครงการก็ขายหมดไปแล้ว ผมแอบเช็ค Resale มาเค้าขายกันอยู่ประมาณ 100,000 บาท/ตร.ม.แหน่ะ หรือราวๆ 2.3-2.5 ล้านบาทเลยครับ ทำให้พี่แสน ไม่ยอมน้อยหน้าเอาแบรนด์ The Base มาใกล้ๆกันเป็นเพื่อนบ้าน ราคาขายก็อยู่ราว 2.29-3.5 ล้านบาท หรือเฉลี่ยทั้งโครงการ Average 110,000 บาท/ตร.ม.

ส่วนอีก 3 ตัวที่เหลือราคาจะถูกลงมาหน่อยครับ เพราะไปสร้างอยู่ติดถนนเส้นตัดใหม่อย่าง “เทพรักษ์” ซึ่งถึงแม้จะอยู่ไกลจากรถไฟฟ้า แต่ใกล้กับ Big C แทนเดินไปได้ด้วย ก็ต้องลองเลือกดูครับว่าชอบแพงใหม่ติเรถไฟฟ้า หรือ ถูกมือสอง ไกลออกมาหน่อย

สถานีต่อไป “สะพานใหม่” แถวนี้คอนโดมิเนียมยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ครับ เพราะว่า กลุ่มคนในย่านนี้ดั้งเดิม ยังคุ้นชินการกับการอยู่ “บ้านแนวราบ” ซึ่งมีรถยนต์ส่วนตัวใช้ หรือนั่งรถวิน ต่อรถเมล์ กันมานาน อีกทั้ง ถ้าเราเข้าไปตามซอกซอยพหลโยธิน แต่ว่าทาง Deveolper ก็เลือกมาสร้างโครงการแบบ “ซอยทำเลเฉพาะ” อย่างซอยพหลโยธิน 52 ไปเลย เพราะว่าซอยนี้มีอัตราการอยู่อาศัยหนาแน่นสูงมาก มีมหาวิทยาลัยนอ์ทกรุงเทพอยู่ในซอย ตึกแถวร้านค้าเพียบ อีกทั้งยังเป็นซอยที่สามารถลัดเลาะไปซ.พหลฯ 50 หรือออกถนนเทพรักษ์ตัดใหม่ก็ได้

โครงการที่มาสร้างในซอย พหลโยธิน 52 หรืออิงสถานีสะพานใหม่นั้นมีเพียง 3 โครงการเท่านั้น ซึ่งตอนนี้มีสร้างเสร็จพร้อมอยู่ไปหมาดๆแล้วคึอ WYNN อีกสองโครงการอย่าง REACH และก็ PLUM ก็มีความต่างในทั้งรูปแบบโครงการ ส่วนกลาง และราคา ก็สามารถไปอ่านแบบละเอียดในรีวิวได้

และอีก 3 สถานีต่อมาอย่าง [สถานี] : รพ.ภูมิพลอดุลยเดช , พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ, ก.ม.25 ทั้งหมดนั้นจะไม่มีโครงการใดๆเกิดขึ้นเลย เพราะดูจากแผนที่ที่ผมทำแปะเอาไว้ให้ ผืนที่ดินเกือบทั้งหมดเป็นทั้งส่วนของท่าอากาศยานดอนเมือง และก็สถานที่ราชการ สถานที่ของทหาร เลยไม่ได้มีที่ดินที่จะขึ้นโครงการแถวนี้ได้ครับ

และก็มาถึงสถานีปลายทางของบทนี้กันแล้วอย่าง “สถานีคูคต” ซึ่งในพื้นที่นี้จะมีความอุดมสมบูรณ์ บนถนนลำลูกกาด้านหน้า อย่าง MT arena sport & liftstyle mall และก็จะมีซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ใกล้ๆอยู่ 2 เจ้าระยะทางก็พอๆกันคือ Tesco Lotus (แถวปากซอยลำลูกกา 19) และก็ Big C Supermarket ลำลูกกา คลอง 4 แน่นอนครับว่าพอพูดถึงย่านนี้แล้ว คนส่วนใหญ่มักจะตัดชอยส์คำว่าคอนโดออกไปจากหัวเลย

เพราะในแถบย่านนี้มีบ้าน ทาวน์เฮาส์ อยู่ตามซอยริมถนนเยอะเยอะมากมาย แถมคนแถวนี้ส่วนใหญ่คุ้นชินกับการมีรถส่วนตัว(กระทั่งจักรยานยนต์) การใช้รถเมล์รถสองแถวพื้นที่อย่างเช่นในซอยเปียร์นนท์ อะไรอย่างนี้ ทางผู้ประกอบการก็เลยต้องหั่นราคาห้องให้ถูกมากๆ ประมาณ 780,000 – 990,000 บาท เท่านั้น ซึ่งก็จะทำให้เกิดกลุ่ม Demand ของคนรุ่นใหม่บางส่วน ที่เงินเดือนไม่สูงมาก แต่อยากมี “บ้านของตัวเองสักที่” เลยมาเลือกโครงการเหล่านี้ได้ ซึ่งทั้ง 3 โครงการก็มาสร้างเกาะกลุ่มกันแบบใกล้ชิดกันเลย (เพราะตรงนั้นใกล้เทสโก้โลตัสนั้นแหละ)

ก็จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับการวิเคราะห์ภาพรวมโครงการคอนโด ที่เปิดตัวมารองรับรถไฟฟ้าสายใหม่สำหรับชาวกรุงเทพตอนเหนือ “หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต” ซึ่งอีกแค่ปีกว่าๆ เราก็จะได้ใช้งานกันแล้ว ซึ่งถ้าใครกำลังหาบ้านของตัวเองในย่านนี้ก็ลองเปรียบเทียบ ความคุ้มค่า อย่าลืมพวกคอนโดมือสอง หรือ Resale เอามาหาเสริมด้วยก็ได้นะครับ เพราะคอนโดมือหนึ่งที่เปิดใหม่ช่วง 2017-2018 ในย่านนี้ราคาแรงใช้ได้เลยครับ สุดท้ายก็ขอให้แฟนๆ Thinkofliving ได้คอนโดที่ถูกใจ และเหมาะสมกับตัวเองที่สุดนะครับ 😀