Tri Property ตั้งเป้ามูลค่ารวม 10,000 ล้าน ปรับโครงสร้าง รองรับแผน 3 ปี เตรียมตัวเข้าตลาด

Tri Property  เตรียมแผนขยายฐานธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกลับมารุกตลาดกรุงเทพฯ เผยปี 58 เปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ที่ 500 ล้านบาท พร้อมปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ และสร้างรูปแบบของการพัฒนาแบรนด์ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมเตรียมแผนสร้างมูลค่าโครงการขายรวมกว่าหมื่นล้าน รองรับแผนการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า

นายอดิศร วิเวกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯ เปิดดำเนินการมากว่า 7 ปี พัฒนารวมทั้งหมด 5 โครงการ รวมมูลค่า 2,370 แบ่งเป็น 

1. Proud แจ้งวัฒนะ ปี 2551 มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท
2. Proud X2 ปี 2552 มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท
3. ZCAPE ปี 2555 มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท
4. ZCAPE X2 ย่านบางเทา มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
5. ZCAPE 3  ใกล้กับเซ็นทรัลเฟสใหม่ มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

ในปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้อยู่ที่ 220 ล้านบาท  สำหรับในปี 2558 นี้ ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ 500 ล้านบาท พร้อมเตรียมแผนเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ มีมูลค่ารวม 900-1,000 ล้านบาท  และปี 2559 นั้น มียอดรอรับรู้รายได้ 800-1,000 ล้านบาท

นายอดิศร กล่าวเสริมว่า สำหรับแผนการขยายธุรกิจของกลุ่มไตร พร็อพเพอตี้ ในระยะยาวนั้น คงจะได้เห็นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างน้อยปีละ 1-2 โครงการ รวมมูลค่า 1,000 ล้านบาทโดยเร็วๆ นี้จะมีการเปิดตัว “Proud III” ซ.ปากเกร็ด 23 มูลค่า 400 ล้านบาท ส่วนโครงการที่ 2 คาดว่าจะเปิดปลายปี เป็นคอนโด Low Rise ใกล้รถไฟฟ้า มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท

ด้าน Land bank ตอนนี้มีสะสมอยู่ 2-3 แปลง และมีการดูทำเลสำหรับการขยายการลงทุนไว้เพิ่มเติมอีกหลายแห่ง คาดว่าในอนาคตอาจจะได้เห็นโครงการของไตร มีการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นเรียลดีมานด์  ส่วนแผนในระยะยาวคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าโครงการขายรวมทั้งหมด เป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และจะก้าวเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 3-5 ปีนี้ อีกด้วย

นายชัยวัฒน์   ตันติวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงินและการลงทุน และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัด กล่าวเสริมถึงภาพรวมของเศรษฐกิจและผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจากตัวเลขของสำนักวิจัยอสังหาริมทรัพย์หลายค่าย ที่แสดงต่อสาธารณชนในช่วงที่ครึ่งปีแรกพบว่า ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัวไปบ้าง  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เริ่มมีสัญญาณที่เป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจอสังหาฯ มากขึ้น อาทิ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย, การลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ จากภาครัฐที่มีความชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งผลักดันโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยเฉพาะการเร่งให้มีโครงการรถไฟฟ้าทุกสาย  ทำให้แนวโน้มธุรกิจอสังหาฯ ตามเส้นทางรถไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 มีแนวโน้มที่คึกคักขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ประกอบกับเป็นโครงการที่มีประวัติดี ประสบความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการ รวมถึงคัดเลือกลูกค้าเป้าหมายที่มีคุณภาพ สถาบันการเงินต่างๆ ก็พร้อมที่จะปล่อยสินเชื่อให้อย่างแน่นอน

นายชัยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากที่มีการสร้างแบรนด์แล้วไตร พร็อพเพอตี้ ก็มีการสร้างสโลแกนให้กับองค์กรภายใต้แนวคิดที่ว่า  “In Style Inspired” ซึ่งหมายถึง ไตร พร็อพเพอตี้ เป็นบริษัทที่ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ จากมุมมองที่สร้างสรรค์และใส่ใจกับรายละเอียดที่มากกว่า ส่วนภาพรวมของตลาดหลักจะโฟกัสอยู่ที่กรุงเทพฯ และภูเก็ตเท่านั้น

ส่วนตลาดภูเก็ต การท่องเที่ยวเริ่มปรับตัวดีขึ้น ช่วงปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นคิดเป็น 25%  คาดว่าจะส่งผลให้อสังหาฯ มีกระแสตอบรับที่ดี ซึ่งจากการสำรวจผลตอบแทนการเช่าอยู่ที่ 8% ราคาที่ดินปัจจุบันอยู่ที่ไร่ละ 20 ล้านบาท