The Tree Interchange

สวัสดีครับ รีวิวฉบับที่ 137 The Tree Interchange  เป็นรีวิวเพิ่มเติมส่วนต่อขยายมาจาก “The Tree Interchange รีวิวแบบบางๆ” ที่คุณบีมได้ทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ นานแล้ว รีวิวตัวเต็มฉบับนี้ ผมก็ขอถือโอกาส Update ตัวเดิม และขยายความต่อ เพื่อความสมบูรณ์นะครับ วันที่ 31/03/55 มีเปิดตัวตึก B สำหรับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่สนใจโครงการในย่านนี้ ผมทำการบ้านไว้ให้แล้ว จะได้เลือกซื้อกันง่ายๆและเหมาะกับตัวเอง 😀 ไปดูรายละเอียดโครงการนี้ก่อนจะเลือกห้อง กับ Mr.Oe  กันนะครับ 🙂

Fact @ 30 March 2012

  • The Tree Interchange (เดอะทรี อินเตอร์เชนจ์)
  • พฤกษา
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด ตึกคู่ A 40 ชั้น 1,085+3 units (เฟส1)  B 39 ชั้น (เฟส2)  639 units
  • จอดรถในช่องจอด ตึก A 548 คัน ตึก B 380 คัน (50% และ 60%)
  • ที่ดินตึก A 7-1-97 ไร่ ตึก B 4-1-98 ไร่
  • Studio, 1 Bedroom – 2 Bedrooms
  • พื้นที่ใช้สอย 22 – 63 ตารางเมตร
  • ราคาเริ่มต้น 1.47 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตร 60,000 – 72,000 บาท
  • www.thetreecondo.com

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

แผนที่โครงการ จุดเด่นของโครงการนี้คือ ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา และรัฐสภาใหม่ อยู่ไกล้สถานีรถไฟฟ้า บางโพ และเตาปูน(สายสีน้ำเงิน) เดินทางเข้าออกเมืองได้หลากหลายเส้นทางและหลายรูปแบบ

ตัวโครงการตั้งอยู่ติดๆกับ Big C Market ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาแค่  600 เมตร  ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบางโพประมาณ 300 เมตร และห่างจากสถานีเตาปูนประมาณ 500 เมตร

การเดินทางสะดวกทั้งการใช้รถส่วนตัว และถ้าไม่ใช้รถ มีทางเลือกทั้งเครือข่ายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) ที่จะกลายเป็นมุดลงใต้ดินตรงบางซื่อวิ่งเข้าลาดพร้าว รัชดา เส้นทางที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน ส่วนรถเมล์ แทกซี่ พี่วิน มีให้เรียกมากมาย นอกจากนี้ยังมีท่าเรือระยะพอเดินได้ 600 เมตร ให้เลือกใช้งานอีกต่างหาก

ดูตำแหน่งที่ตั้งกันชัดๆ

อีกภาพ

เครือข่ายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เมื่อเชื่อมกับ MRT รถไฟใต้ดินแล้ว จะกลายเป็นเครือข่ายรถไฟฟ้าวงแหวน วงเดียวของประเทศไทย โดยเชื่อมหัวกับบางซื่อ ท้ายกับหัวลำโพง วิ่งวนเป็นวงกลม สีน้ำเงินอ่อนวิ่งบนฟ้า(ช่วงระยะ 5 กม จากเจริญกรุง-ถนนอิสรภาพเป็นใต้ดิน) สีน้ำเงินเข้มมุดลงใต้ดิน โดยตรงสถานีเตาปูน (ห่างโครงการ 500 เมตร) จะเป็นสถานี InterChange คล้ายๆสยาม เป็นสถานีใหญ่ เพราะจะเป็นตัวเชื่อมกับ รถไฟฟ้าที่วิ่งมาจากบางใหญ่ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้สถานีบางโพระยะประมาณ  300 เมตร และเตาปูน 500 เมตร

สังเกตุตรงแทกซี่สีชมพู จะเห็นรางรถไฟฟ้าค่อยๆลดระดับลง ไปมุดลงดินตรง Lotus – ซีเมนต์ไทย แล้วแปลงร่างเป็นรถไฟใต้ดินตรงสถานีบางซื่อครับ 🙂

อันนี้โครงการเค้าว่ามา “สุดยอดทำเลแห่งอนาคต”  กันเลยทีเดียว 🙂 อนาคตน่ะดีแน่ แต่คุ้มค่า และเหมาะกับเราไหม ต้องค่อยๆดูกันต่อไปนะครับ

ผมเดินทางมาจากประชาชื่น เลียบคลองประปามา วิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนมาเจอ 3 แยกนี้ ซ้ายมือจะเป็นโลตัสนะครับ เลี้ยวซ้ายไปจตุจักร อตก เลี้ยวขวาไปเตาปูน ที่แยกนี้เราเลี้ยวขวาครับ

เลี้ยวมาแล้ว เจอศูนย์ Isuzu ตรงแยกนี้ และจะเริ่มเห็นการก่อสร้างรถไฟฟ้าละ

หลังจากเลี้ยวขวามาแล้วก็ตรงอย่างเดียวเลย

พอผ่านแยกกรุงเทพ-นนท์ ก็จะเจอถนนสภาพแบบนี้ คือกั้นพื้นที่ไว้ ยังไม่ลงมือจริงจัง

ทางเข้าโครงการ ประมาณ 900 เมตรนับจาก 3 แยกที่เราเลี้ยวขวามา (โลตัส)

ทางเข้าไปในโครงการ ตัวสำนักงานขายก็อยู่ในนี้

ตรงข้ามโครงการคือ ภัทร เพลส

สภาพถนนหน้าโครงการ ตรงเชิงสะพานลอยฝั่งตรงข้ามคือธนาคารไทยพาณิชย์นะครับ ส่วนร้านที่มีป้ายแดงๆ ตรงรถเก๋ง ล้างรถ ขัดเคลือบสี และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องดีนะครับ เมื่อก่อนมาใช้บ่อย 🙂

อาคารพาณิชย์หน้าโครงการ ตรงทางเดินไป Big C สะอาด เดินสบาย ร่มด้วย

Big C Market มีร้านอาหาร ของกิน ของใช้ สะดวก เดินมาได้ อยู่หน้าโครงการเลย

ตรงข้าม Big C ก็มีโรงพยาบาลบางโพนะครับ เบื่อๆ ก็ไปนอนเล่น เปลี่ยนบรรยากาศได้ 🙂

เมื่อไหร่ที่ระบบรถไฟฟ้า, รัฐสภา, สะพานข้ามแม่น้ำแห่งใหม่ตรงแยกเกียกกาย, และการขยายถนน แล้วเสร็จ ประมาณปี 2558-2559 ตรงนี้จะไม่เหมือนเดิมแน่ๆ เพราะมันจะเอื้อต่อการเดินทางเข้าออกเมืองมากๆ สะดวกทั้งใช้รถ และสะดวกทั้งใช้ระบบขนส่งมวลชน แต่ก่อนที่โครงการทั้งหลายจะเสร็จ ก็ต้องอดทนกับรถติดและมลภาวะกันไปก่อน โชคดีที่โครงการกว่าจะเสร็จก็ปี 2558 จึงไม่ต้องลำบากอะไร ย้ายมาอยู่ตอนสมบูรณ์พร้อมพอดี

รอบๆโครงการมีของกินของใช้ สะดวกใช้ได้แต่ไม่ไฮโซนะ มีแต่ Lotus + Big C ถ้าจะช็อปปิ้ง ก็ต้องเข้าเมืองสถานเดียว โดยมีระบบทางด่วนให้ขึ้นลงง่ายๆตรงกำแพงเพชร และ อตก ถ้าไม่ใช้รถก็นั่งรถไฟฟ้าไปก็ได้ น่าจะพร้อมใช้งานพอดีกันกับตึกเสร็จ

สัปปายะสภาสถาน

จุดขายด้านทำเลของโครงการนอกจากจะสะดวกด้านคมนาคม และใกล้รถไฟฟ้าแล้ว ที่เป็น Uniqueness มากๆคือ วิวแม่น้ำที่มี ฉากเป็น “สัปปายะสภาสถาน” อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ของประเทศ ไม่ใช่วิวบ้านๆ และไม่ใช่วิวที่ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีโครงการไหนมาสร้างบังวิว เพราะ รอบๆรัฐสภาตามรัศมีที่กำหนด ห้ามสร้างอาคาร และติดป้ายต่างๆ (รายละเอียดประเภทอาคารและความสูงแต่ละแบบ ค้นได้ใน กูเกิ้ลจ้ะ) แต่ The Tree Interchange อยู่เลยแนวห้ามสร้างมาพอดี

The Tree Interchange

สีชมพูคือแนวห้ามสร้างและจำกัดความสูงของอาคาร และป้าย จะเห็นว่า โครงการค่อนข้างจะปลอดภัยจากการถูกบังวิว

สัปปายะสภาสถาน

แน่นอนว่า นี่จะเป็น Land mark ที่สวย งดงามที่สุดในย่านคุ้งน้ำนี้ และเรามีโอกาสที่จะได้ดูงานพิธีและการเฉลิมฉลองต่างๆ ริมแม่น้ำ จาก “ที่นอน” และ “ระเบียง” บ้านเราเอง… แต่ ไม่ใช่ทุกห้องของ The Tree Interchange ที่จะได้วิวนี้นะครับ ทำเลห้องดีๆในทิศทางที่เหมาะสมเท่านั้นที่จะได้วิวนี้ ซึ่งผมจะพาไปดูต่อไปใน เจาะลึกตัวโครงการนะครับ 🙂

 

เจาะลึกตัวโครงการ

 

โมเดลด้านหน้าโครงการ ขวามือ ตึก A เปิดขายก่อน เป็นเฟส1 และซ้ายมือคือตึก B เพิ่งจะเปิดขาย สองตึกนี้มีดีมีเสียที่ต่างกัน ตึก A ใหญ่ Unit เยอะ 1,085 ห้อง จอดรถเข้าซองได้  50% แถมเดินจากถนนเข้ามาไกลกว่า แต่มีทีเด็ดตรงทิศใต้ ตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไป จะได้วิวแม่น้ำ พร้อมฉากหลังเป็น อาคาร สัปปายะสภาสถาน ส่วนห้องด้านทิศเหนือ ได้แต่วิวแม่น้ำเอียงๆ ถ้าอยากจะชมวิวงามๆ ต้องขึ้นไปที่  Sky Lounge ชั้น41 จะเลือกนั่งชมวิว Outdoor หรือ Indoor ก็ได้ จุดขาย Sky Lounge บนชั้น 41 ของตึก A ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สร้าง Uniqueness ให้ตึก A มาก โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับคอนโดระดับราคา 60-70,000 บาทด้วยกันในย่านนี้ ไม่เว้นแม้แต่ตึก B และด้วยวิวและสิ่งที่ตึก A มี ทำให้ ตึก B กลายเป็นตึกที่ไม่เด่นไปเลย (ในสายตาของผมนะครับ เพราะแง่มุมนี้มันแล้วแต่คนชอบและ Life Style ของแต่ละคนจริงๆ)

ระหว่างตึก A และ B มีคลองคั่น ลมตีจากขวาไปซ้าย ก็จริง แต่อาคารรอบๆ คงบังลม ทำให้อาจจะมีกลิ่นบ้าง ในชั้นล่างๆนะครับ ตึก A ด้านทิศใต้ปลอดภัย ทิศเหนือชั้นล่างมีลุ้น ส่วนตึก B ได้ลุ้นทั้งสองด้านเลย เลือกชั้นบนๆหน่อยก็ดีนะครับ

ชัดมั้ย คลองเต็มๆ ของจริงไม่ใช่สวยใสเป็นสีฟ้าแบบนี้นะครับ 🙂 เนื่องจากตัวโครงการ A และ B แยกกันแทบจะเด็ดขาด ทั้งนิติ และ Facility อันนี้จึงไม่น่าจะเรียกว่าคลองผ่ากลางโครงการนะ น่าจะเป็นคลองหน้าตึก A มากกว่า เผื่อบางคนเค้าถือจะได้สบายใจไม่หนักไม่เมื่อย 🙂

ด้านนี้แหละครับ ทิศใต้ตึก A หรือเป็นด้านหลังของโครงการ โดดเด่นด้วยวิวที่ดี ปลอดภัยไร้คนมาบัง ควรเลือกชั้น 10 ขึ้นไป และยิ่งสูงยิ่งดีเพราะราคาอัพขึ้นเป็นช่วงๆ ไม่ใช่เป็นชั้นๆ ไหนๆจะเลือกด้านนี้เพราะวิวแล้ว ก็กัดฟันเอาให้มันแจ่มไปเลย ข้อดีของด้านนี้อีกข้อคือทิศใต้ได้ลมตลอดปีครับ

ทีเด็ดของตึก A (อีกแล้ว) คือสวนขนาดใหญ่ พร้อมเครื่องเล่นมากมายเป็นลานกิจกรรม “บนดิน” ที่โดดเด่นเพราะ สวนเค้าใส่ Design ครับ ไม่ใช่สวนที่มีแต่ต้นแคนา หรือปาล์มน้ำมัน แต่เค้าว่าจะเลือกเอาพรรณไม้ ขนาดใหญ่ ที่ผลิดอก ออกใบ คนละฤดู และหลากสีสันมาลง และตัวสวน จะจัดเป็นโซนที่มีเครื่องเล่น กิจกรรม และโซนสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนนอนจีบสาว อะไรประมาณนั้น 🙂 ส่วนตึก B มีสวนเหมือนกัน แต่เล็กกว่าตึก A เกือบเท่าตัว และไม่อลังเท่า

หน้าตาของสวน ที่มีใบไม้หลากสี ผลัดกันผลิดอกแตกใบคนละฤดู สีฟ้าๆ ขวามือไม่ใช่ลำธารไหลเย็นเห็นตัวปลานะครับ มันคือคลองที่บอกไปแล้ว

โถง Lobby หรูหราไม่อายใคร Double Volumn ที่เห็นไกลๆนั่น บันไดเดินขึ้นไป Fitness

Fitness แบบ Duplex 2 ชั้น ได้วิว…. สระ และสวนต้นไม้หลากสี

หน้าตาสระว่ายน้ำ ห้องกระจกที่เห็นนั่นแหละ Fitness

Sky Lounge มืดไปหน่อย ไม่ค่อยชัด มีส่วน Outdoor ที่เห็นทางขวา ตรงกลางเป็กห้องกระจก Indoor ออกแนว Bar นั่งเล่น สบายๆ ชมวิว ในวันที่อยากจะชิลกะเพื่อนๆ

ต่อไปเราจะไปดูผังอาคารเพื่อดูห้องกันนะครับ 🙂

วิวของจริงจากระดับความสูงที่ชั้น 25 แต่เป็นวิวทิศตะวันตกนะครับ

ดูระยะและทิศครับ แท่งเขียวตึก A แท่งแดงตึก B จะเห็นว่า มีแต่ตึก A ทิศใต้เท่านั้นที่ได้วิวตามแนวลูกศรสีเหลือง ทำให้ห้องด้านนี้ค่อนข้างเด่นมาก แต่ถ้าใครที่กลับบ้านไม่เคยเปิดม่านดูวิวเลย เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ประเด็นแล้วครับ เลือกฝั่งทิศเหนือก็ได้

ผังตึก A ห้องสีเขียวๆ คือ 1 Bedroom 35 ตรม ทั้งหมด ลิฟท์ Hispeed 6 ตัวต่อ 1,085 unit ถือว่าน้อยไปนิด เพราะชั้นมันเยอะ ช่วง Rush Hour มีน้ำใจให้กันหน่อยก็ดี ผังโถงแบบนี้ Privacy ต่ำ ใครเดินเข้าออกห้อง ใครพาใครมาบ้าน เป็นอัน เห็นกันหมดไม่มีที่ให้หลบ 🙂

*** ห้องที่น่าสนใจ แน่นอน ว่าต้องเป็นฝั่ง South แต่ห้องมีเลขคี่เลขคู่ จะเลือกยังไง เพราะเพียงแค่ห้องน้ำและระเบียงสลับด้านกัน จะสร้างความแตกต่างในการอยู่อาศัย อย่างมาก

การ  Set ห้องของที่นี่ ให้จำไว้ว่า ตำแหน่งเตียงนอน เท้าจะหันไปหาห้องครัวเสมอ ดังนั้น ห้องเลขคู่ หัวเตียงจะหันไปทิศตะวันออก เท้าหันไปทางครัวทิศตะวันตก อันนี้ ได้ 3  เด้ง 1.สำหรับคนที่ “ถือ” หัวหันตะวันออกก็โอใช่มะ 2.แดดไม่แยงตาตอนเช้า 3.สำคัญที่สุด คือเวลานอนดูวิวแม่น้ำ หัวอยู่ด้านนี้ตาเราก็มองลงไปที่แม่น้ำได้เลย ลงตัว ได้วิวแบบดูสะดวกสบายพอดี ของแถมอีกข้อคือ ระเบียงเล็กของครัว มันจะอยู่คนละระดับกับห้องนอน ไม่บังกันด้วย

ผังตึก B ชั้น 8 ชั้นนี้มีสระว่ายน้ำและ Fitness และ Terrace รวมถึงห้องอเนกประสงค์ ชั้นนี้โถงทางเดินเกือบจะเป็น Single Corridoor ยกเว้นห้องมุมซ้ายขวา สะดวกสำหรับคนชอบออกกำลัง เดินออกจากห้องก็ลงสระหรือเข้า Fitness ได้เลย ข้อเสียเรื่องวุ่นว่ายคงไม่มี เพราะเป็นประตู 2 ชั้น จุดเดียวที่โถงลิฟท์ คนไม่มี Key Card ชั้นนี้ก็เข้ามาไม่ได้ ชั้นนี้ อาจจะไม่ปลอดภัยจากกลิ่นคลอง แต่ห้อง มุม เลขที่ 04 น่าสนใจ ได้วิวสระสวนที่สวย แต่จะไม่เห็นวิวแม่น้ำ

ผังตึก B ชั้น 9 ไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่น ห้องฝั่งสระ (บน)ได้วิวสวน ส่วนอีกฝั่ง (ล่าง) ไม่น่าจะมองเห็นวิวแม่น้ำสวยๆ

ผังตึก B ชั้น 15-27 แนะนำให้เลือกฝั่งล่าง วิวแม่น้ำจะดีกว่า ส่วนการเลือกห้องเลขคี่จะนอนดูวิวแม่น้ำได้ดีและสบายกว่า และหันหัวนอนไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้วย

ผังตึก B ชั้น 29-38 เหมือนด้านบน 😀 😀

สำนักงานขาย กำลังคึกคัก คนเยอะครับ ห้องตึก A เหลือไม่มาก ฝั่ง South ยังมี แต่น้อยละ

เบื้องหลังของความสะดวกสบายของลูกค้า ต้องขอบคุณคุณแม่บ้านที่บริการลูกค้าทุกคนอย่างดีเยี่ยมนะครับ 🙂

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • Sky Lounge ชั้นดาดฟ้า ทั้ง 2 ตึก
  • ห้องออกกำลังกาย
  • สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ระบบเกลือ ตึกละสระ
  • ลิฟท์โดยสารตึก A 6 ตัว B 5 ตัว, Service Lift 1 ตัว
  • สวนขนาดใหญ่ที่ชั้นล่าง
  • Lobby
  • ห้องอเนกประสงค์
  • ที่จอดรถตึก A 50% B 60% ในช่องจอด
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

ไปดูห้อง  35 ตารางเมตรกันก่อนเลยครับ เพราะห้องนี้ฝั่ง South จะ Hot มากแน่นอน  ห้องทั้งหมดขายแบบ Fully Fitted ห้องเปล่ามีชุดสุขภัณฑ์ Pantry และแอร์ให้ นอกนั้นคือพื้นและผนัง ไฟดาวน์ไลท์

เค้าห้ามกล้องถ่ายรูปนะครับ ผมใช้ iPhone ถ่าย คงไม่เป็นไรเนอะ 😀

อธิบายผังห้องคร่าวๆกันก่อนนะครับ ห้องนี้เปิดประตูเข้ามาเป็น Living Room มีโต๊ะทานข้าวขนาด 2 คน โซฟาวางเอียงๆ ไม่ Center กับ TV ไม่ค่อยลงตัว ห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบาน Slide ผมไม่ค่อยชอบ เพราะมันอันตราย ใครทะเลาะกะแฟนอย่าเผลอขว้างอะไรกันล่ะ มีแตก ระเบียงห้องนอนสวย แต่แคบ ไม่มีคอมแอร์ เพราะเอาไปไว้ที่ระเบียงห้องครัว ห้องนี้เด่นตรงแยกส่วนที่ควรจะเปียกและมีกลิ่นไว้ด้วยกัน และประตูปิดธรรมดาที่ไม่ใช่ประตู Slide ซึ่งดีมาก มันปิดสนิท มิดชิดกว่า ห้องน้ำไม่มีพัดลมดูดอากาศ ใช้เปิดประตูเอา ครัวแคบไปนิด คนตัวใหญ่ลำบาก ระเบียงเล็กแขวนคอมแอร์ และเครื่องซักผ้าจะวางระเบียงหรือในบ้านก็ได้

ห้อง Living Room

Living Room ระยะห่างระหว่างโซฟากะทีวีโอเค แต่มันเอียงๆนะ

ชั้นวางทีวี

ประตูกระจก Slide กั้นห้องนอน… ห้องนี้ห้ามทะเลาะกะแฟนนะ เตือนไว้ก่อน 🙂

ห้องนอน

ที่วางทีวีอีกมุม

ชุดโซฟา และโต๊ะทานข้าว

ระเบียงห้องนอน เป็นธรณีก่อสูงเลย จะเข้าจะออกระวังสะดุดนะครับ เวลารีบๆอันตรายมาก

กรอบประตูกระจก Slide  กั้นห้องนอน

ของจริงวางบน ลามิเนตนะครับ ไม่ได้ฝังจมลงไปแบบนี้

ห้องครัว ระยะยืนไม่ถึงเมตร อึดอัดหน่อยนะ มองเห็นระเบียง ที่มีธรณีก่อสูงเหมือนเดิม

Pantry ให้ตัวล่างนะครับ ไม่ใช่ทั้งหมด

วางเครื่องซักผ้าในบ้าน

ระเบียง

คอมแอร์ แขวนผนัง

ไฟระเบียงติดด้านข้าง

ห้องน้ำสวยครับ สุขภัณฑ์ของ American Standard

พื้นห้องน้ำลดระดับแล้ว แต่ก็ยังสร้างธรณีก่อ

Shower Box  พื้นลดระดับ

ฝักบัวธรรมดา

ชุดอ่างล้างหน้า

ต่อด้วยห้อง  2 Bedroom 63 ตารางเมตร

The Tree Interchange (15) ห้องนี้น่าจะจัดเป็น 1+1 มากกว่า เพราะห้องนอนเล็กเจอเสาเข้าไป ไปไม่เป็นเลยวางเตียงเล็กๆแล้วหัวเตียงกับปลายเตียงยังชนผนัง สวนห้องครัวและห้องน้ำอีก 1 ห้องก็แยกไปต่างหาก เจอเสาทำให้ Pantry ต้องปรับหน่อย ระเบียงห้องนอนไม่มี จะได้เป็นระเบียงห้องนั่งเล่นแทน ห้องนอนใหญ่มีส่วน Walk-in Closet และมีห้องน้ำในตัว

เข้าห้องมาก็จะเจอ ห้องนั่งเล่น

มีโต๊ะทานอาหาร และผนังอีกด้านที่ Built เป็นตู้เก็บของ ทำมาสวยดี

ชั้นวางทีวี

ส่วนออกระเบียงของห้องนั่งเล่น

Pantry

ระยะยืน 80 ซม

ระเบียง ส่วนห้องนั่งเล่น

มองมาอีกด้าน จะเห็นที่แขวนคอมตรงระเบียงครัว

พื้น เป็นกระเบื้องกันลื่น

ครัว และห้องน้ำเป็นส่วนแยกออกมาจากห้องทั้งหมด

ห้องน้ำ กระเบื้องแม้จะขาว แต่ก็แอบมีลายนะ

ส่วนแยกไปห้องนอนอีกสองห้อง

หัวเตียงห้องนอนเล็ก

ปลายเตียง ผนังกระจก Built มาปิด เสาขนาดใหญ่  ห้องนี้น่าจัดเป็นห้องทำงานมากกว่า

ห้องนอนใหญ่

ปลายเตียงติด TV แขวนได้

ส่วนแยกของ Walk-in Closet

ห้องน้ำ แม้จะลดระดับ แล้วก็ยังจะมีธรณีประตูหนาๆอีก

เนี่ย ดูชัดๆ ไม่รู้จะมีไปทำไม พื้นมันลดระดับแล้ว มีไปก็สะดุดเปล่าๆ

ห้องน้ำ กระจกใหญ่ดี Shower Box พื้นลดระดับ และมีฉากกั้นเรียบร้อย

Walk-in Closet

Walk-in Closet

ก่อนออกจากห้องดูผนังอีกที

จบด้วยห้องเล็ก Studio 29.5 ตารางเมตร

ห้องนี้ดูง่ายๆ จริงๆแล้ว จะกั้นเป็น 1 Bedroom ก็ได้นะ แต่ต้องเอาประตูห้องครัวออก เปลี่ยนเป็น บาน Slide แล้วก็ใส่บาน Slide กั้นห้องนั่งเล่นกะห้องนอนได้เลย

เปิดประตูมาก็จะเป็นห้องนั่งเล่น

ผนังฝั่งทีวี

ภาพรวมห้อง

ห้องนอน

ปลายเตียง พื้นที่น้อยเลยต้องวางตู้เสื้อผ้า

ครัว

ระยะ และระเบียง

ระเบียงเล็ก วางเครื่องซักผ้า และแขวนคอมแอร์ เหลือพื้นที่นิดเดียว ห้องนี้มีระเบียงเล็กๆอันนี้อันเดียว

ห้องน้ำ

 

Price @ 30 Mar 2012

 

ตึก A (ราคาเท่าที่เหลือห้องขาย)

  • Cooper Type 22 ตรม ชั้น 22-25 / 31-35  ราคา 1.482 / 1.582 ล้าน จอง 5,000 ทำสัญญา 10,000 ผ่อน 37 งวด งวดละ 2,999 บาท งวดพิเศษ 3 งวดงวดละ  10,000 (รวมผ่อน 40 งวดนะ)
  • Studio Type 29.5 ตรม ชั้น 22-25 / 31-35 / 36-40 ราคา 1.94 / 2.04 / 2.09 ล้าน จอง 5,000 ทำสัญญา 15,000 ผ่อน 37 งวด งวดละ 3,500 บาท งวดพิเศษ 3 งวดงวดละ  15,000 (รวมผ่อน 40 งวดนะ)
  • 1 Bedroom Type 35 ตรม ชั้น 9 – 40 ราคา 2.115 – 2.487  ล้าน จอง 10,000 ทำสัญญา 20,000 ผ่อน 37 งวด งวดละ 4,000 บาท งวดพิเศษ 3 งวดงวดละ  20,000 (รวมผ่อน 40 งวดนะ)
  • 2 Bedroom Type 63 ตรม ชั้น 9 – 40 ราคา 3.902 – 4.342  ล้าน จอง 20,000 ทำสัญญา 30,000 ผ่อน 37 งวด งวดละ 10,000 บาท งวดพิเศษ 3 งวดงวดละ  30,000 (รวมผ่อน 40 งวดนะ)

ตึก B

  • Studio Type 29.5 ตรม ชั้น 8 – 39  ราคา 1.89 – 2.35 ล้าน จอง 5,000 ทำสัญญา 15,000 ผ่อน 37 งวด งวดละ 3,500 บาท งวดพิเศษ 3 งวดงวดละ  15,000 (รวมผ่อน 40 งวดนะ)
  • 1 Bedroom Type 35 ตรม ชั้น 8 – 39 ราคา 2.255 – 2.715 ล้าน จอง 10,000 ทำสัญญา 20,000 ผ่อน 37 งวด งวดละ 5,000 บาท งวดพิเศษ 3 งวดงวดละ  20,000 (รวมผ่อน 40 งวดนะ)
  • 2 Bedroom Corner Type 58 ตรม ชั้น 9 – 39 ราคา 4.039 – 4.683  ล้าน จอง 20,000 ทำสัญญา 30,000 ผ่อน 37 งวด งวดละ 10,000 บาท งวดพิเศษ 3 งวดงวดละ  30,000 (ห้องฝั่ง River แพงกว่าฝั่ง City)
  • 2 Bedroom Special Type 63 ตรม ชั้น 14 – 39 ราคา 4.312 – 4.712  ล้าน จอง 20,000 ทำสัญญา 30,000 ผ่อน 37 งวด งวดละ 10,000 บาท งวดพิเศษ 3 งวดงวดละ  30,000

  • เงินกองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 32 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

Promotion แถม Gift Voucher IKEA มูลค่า 60,000 – 100,000 ตามแต่ขนาดห้อง ถ้าไม่เอา เปลี่ยนเป็นส่วนลดวันโอน 40,000 – 80,000 บาท

เจาะลึกรวบยอด

The Tree Interchange ของพฤกษาโครงการนี้ จัดอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดูดีมีอนาคต เราต้องมองไปอีก 40 เดือนนับจากนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จพร้อมๆ หรือใกล้เคียงกับระบบคมนาคมเสร็จครบถ้วน รวมถึงอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ด้วย น่าจะเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีการคมนาคมที่สะดวกและหลากหลายมากที่สุดทั้ง สะดวกทั้งรถส่วนตัว รถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อสมบูรณ์กับ MRT ใต้ดิน รถเมล์ พี่วิน แถมด้วยเรืออีกต่างหาก ข้อเสียคือที่จอดรถมีน้อยไปหน่อย 50% ในช่องจอด อย่าลืมว่าตึกมันเรียวแคบ คงจอดขวางได้ไม่เท่าไร แต่เมื่อพิจารณาดูห้องเล็กๆที่มีมากมายและความสะดวกที่ไม่ต้องใช้รถแล้ว อาจจะเพียงพอก็ได้

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆโครงการในระยะเดินได้ ก็มี Big C มินิมาร์ท และร้านค้าย่านนั้นเป็นที่พึ่ง ตัวโครงการตึก A มี ร้านค้า 3 ห้อง น่าจะพอพึ่งพาได้อีกแรง ส่วนเมื่อรถไฟฟ้าเสร็จ การเดินทางไปห้างใกล้ๆอย่าง Central ลาดพร้าว, Union Mall ก็ใกล้และสะดวกมาก ไม่ต้องพูดถึง ห้างและอื่นๆที่เกาะแนวรถไฟฟ้าใต้ดิน

สภาพแวดล้อมและวิวแม่น้ำด้านอาคารรัฐสภาใหม่ ได้รับการการันตีอีกนาน ว่าจะคงสภาพสวยงามไม่มีอะไรบัง ไม่มีป้ายรกสายตา ซึ่งการการันตีไม่มี Block View หาได้ยากสำหรับโครงการใหม่ๆ เพราะทำเลดีๆ ใครก็จะแข่งกันสร้างสูงๆ ที่มันแพงขึ้นทุกวัน แต่ว่าข้อดีนี้ ใช้ได้กับ ตึก A ฝั่ง South เท่านั้น ฝั่งอื่นไม่มีข้อจำกัดแบบนี้

วัสดุอุปกรณ์ที่ให้มาเด่นแค่ห้องน้ำ นอกนั้นถือว่าธรรมดามาก เนื่องจากขายแบบห้องเปล่า Fully Fitted ส่วนวัสดุเลยไม่ค่อยจะแตกต่างเท่าไร ข้อดีคือมีแถม Gift Voucher IKEA ถ้าห้อง 1 Bed จะได้ 80,000 บาท คนจัดเก่งๆ ก็น่าจะได้ของครบนะครับ ขาดเหลือเล็กน้อย แต่ไม่พอค่าเครื่องไฟฟ้าแน่ๆ

การออกแบบใช้ Hassell เป็นผู้ออกแบบ ภายนอกและสาธารณุปโภคส่วนกลางทำมาได้ดี เกินราคา เทใจให้ Sky Lounge ชั้น 41 ที่สร้างขึ้นมาพิเศษอีก 1 ชั้น หาได้ยากครับ สำหรับ Project ราคาเท่านี้ ที่สำคัญ วิวที่นี่น่าจะสวยมาก เห็นทั้งเมืองใหม่ ชุมชนเก่า พื้นที่สีเขียว และอาคารรัฐสภา และแม่น้ำเจ้าพระยา ครบเครื่อง แบบไม่ต้องกังวลว่าจะมีตึกอื่นขึ้นมาบัง

สวนหลากสี ขนาดใหญ่ พร้อมเครื่องเล่น ก็ถือเป็นจุดขายด้านการออกแบบ ที่เพิ่มมูลค่าให้กับโครงการนี้ แต่การจัดในห้อง รวมถึงรายละเอียดต่างๆ เล็กๆน้อยๆ ยังต้องปรับครับ เช่น พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำผมว่าก็น่ามี ไม่ใช่แค่ดูดความชื้น แต่ดูดกลิ่นด้วย ใครจะอยากให้อากาศในห้องน้ำ มันไหลผ่านครัวไปออกที่ระเบียง? ติดกันเองก็ได้นะครับ พัดลมอันไม่กี่ตังค์ ส่วนอื่นๆเช่นธรณีประตูห้องน้ำ ธรณีขนาดสูงเวอร์ของระเบียง เสาห้องนอนเล็ก บานประตูกระจก Slide กั้นห้องนอน มันน่าจะทำให้ดีกว่านี้ได้นะครับ

*** ข้อสังเกตุ เรื่องระยะเวลาผ่อนที่นานกว่า 40 งวด กับเงินผ่อนต่อเดือนที่น้อย โครงการนี้น่าจะดึงดูดนักเก็งกำไรพอสมควร อย่างไรก็ตามด้วย Unit ที่เยอะมาก และโครงการน่าจะตอบโจทย์คนพื้นที่ ที่คุ้นเคยย่านเตาปูนมากกว่า ก็อาจจะทำให้โครงการเหมาะกับการซื้ออยู่เองมากกว่านะครับ

ขอสรุปและย้ำอีกทีว่า โครงการนี้ ก็คุ้มค่าน่าอยู่โดยเฉพาะสำหรับคนย่านนี้ ที่คุ้นเคยกับการอยู่ตึกแถว แต่อยากขยับขยายออกมาอยู่ข้างนอก และยังอยากอยู่ในโซนเดิมที่คุ้นเคย ได้ทั้งเข้าไปทำงานในเมืองสะดวก และอยู่ใกล้พ่อแม่บ้านเดิมชุมชนเดิม แต่การอยู่คอนโดที่นี่จะดีตรงที่ สวน วิว และ Facility ส่วนกลาง ซึ่งแม้ว่าโครงการโดยรวมจะดี น้ำหนักและความโดดเด่นมีคุณค่าและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผมยกให้เฉพาะ ตึก A ฝั่ง South ชั้น 15 – 39 เท่านั้นครับ โดดเด่นคุ้มค่ากว่าใครเพื่อน แบบเหมือนกับคนละโครงการ สำหรับคนรักน้อง วิว แบบผมนะครับ 😀

 

Judgement

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาเฉลี่ย 65,000 – 70,000 บาทต่อตารางเมตร  30 มีนา 55

  • ทำเล 8.5/10 – ทำเลดีมีอนาคต ภายใต้เงื่อนไขเครื่อข่ายคมนาคมทั้งถนน และระบบราง เสร็จสมบูรณ์จริงตามแผนที่วางไว้ ทำเลตั้งอยู่ในตำแหน่งที่หาแบบนี้ทำราคาแบบนี้ยาก (คะแนนตึก B และ ตึก A ทิศเหนือ ผมให้ 8 นะครับ)
  • เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – สะดวกแต่ เสียคะแนนตรงที่จอด
  • ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ได้มาครบเครื่อง สำหรับคอนโดราคานี้
  • วัสดุ 8/10 – ตามมาตรฐาน เด่นที่ห้องน้ำ ถ้ารวมของแถม IKEA ก็เกือบจะ Fully Furnished แล้ว แถมได้จัดเองของ IKEA ด้วย
  • แบบ 8/10 – แบบภายนอกดี Layout ตึก A  สมบูรณ์แบบไม่มีโดนแดดจังๆ แต่แบบในห้องยังไม่เด็ดขาด ต้องมีแก้มีปรับ
  • สาธารณูปโภค 10/10 – ให้มาเยอะ ใหญ่ ครบ ดี มีทีเด็ดและจัดเต็มขนาดนี้เอาคะแนนเต็มไปเลยเหอะ แม้จะมีจุดตำหนิอยู่บ้างเล็กๆน้อยๆ แต่เมื่อดูจากสิ่งที่เค้าพยายามจะให้ กับระดับราคานี้แล้ว รับได้ครับ

  • MAIN CLASS
  • 8.51 / 10.00 สำหรับตึก A ฝั่ง South
  • 8.34 / 10.00 สำหรับตึก B และ A ฝั่ง North

BOTTOM LINE

The Tree Interchange เหมาะสำหรับคนย่านนี้ หรือชอบทำเลนี้ ต้องการอยู่คอนโดสูงวิวสวย เห็นแม่น้ำ แต่ก็ยังอยากได้ความสะดวกในการเดินทางด้วย หวังพึ่งพารถไฟฟ้า และไม่มีแผนจะย้ายเข้าอยู่ภายใน 3 ปีครึ่ง วางแผนเพื่ออนาคต และมีงบ 2-4 ล้านบาท

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ