รีวิวฉบับที่ 1443 …  The Preston พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา(เฟส 2) เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ดีไซน์สไตล์ Modern English ใน ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 ซึ่งซอยนี้เป็นซอยที่สามารถลัดไปออก รามคำแหง 60(สวนสน) บริเวณแยกบางกะปิได้ด้วย โครงการนี้เราเคยพาไปดูในส่วนของเฟส 1 กันไปแล้ว ในคราวนี้ก็มีอัพเดตทั้งเรื่องของการคมนาคมที่สะดวกขึ้น และก็แบบบ้านที่มีการปรับฟังก์ชั่น บวกกับเพิ่มเพดานสูงเป็น Sky Loft ที่ชั้น 3 ขึ้นมา จะทำออกมาหน้าตาเป็นแบบไหน เดี๋ยวลองไปดูกัน

Fact @ 26 September 2017

  • The Preston พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา
  • J Group Real Estate Development Co.,Ltd
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ
  • เนื้อที่โครงการประมาณ 5 ไร่ครึ่ง จำนวน 58 ยูนิต
  • PRESTON 2 ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 19.90 ตารางวา และพื้นที่ใช้สอย 175 ตารางเมตร
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ชั้น 1 สูง 2.85 เมตร, ชั้น 2 สูง 2.55 เมตร
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ชั้น 3 (Sky Loft) สูง 4.45 เมตรและด้านหลังลดลงเหลือ 3.34 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 6.59 ล้านบาท (แบบ Preston 2)
  • โครงการเริ่มก่อสร้างเฟส 2 : ปี 2559
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปี 2561
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • สำนักงานขาย : 083-026-1666, 02-7317555

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.753079, 100.657362

เริ่มจากแผนที่โครงการ The Preston Townhome นี้ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑา ในซอยกรุงเทพกรีฑา 7  อยู่ลึกจากปากซอยฝั่งถนนกรุงเทพกรีฑาเข้าไปประมาณ 600 เมตร ซอยนี้เป็นซอยที่สามารถใช้เป็นทางลัดไปออก ซอยรามคำแหง 60 บริเวณแยกบางกะปิได้ จึงเป็นซอยที่มีความคึกคักพอสมควร มีรถวิ่งผ่านตลอดเวลา การไปโครงการก็สามารถทำได้หลายวิธี เช่น (1) มาจากทางด่วนมอเตอร์เวย์ (2) มาจากถนนศรีนครินทร์ (3) มาจากถนนรามคำแหง และ (4) มาจากทางวงแหวนกาญจนาภิเษก ประกอบกับอนาคตมีเส้นตัดใหม่อย่าง “ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า” เข้ามาเสริมอีก

The Preston พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา ตั้งอยู่ในซอยกรุงเทพกรีฑา 7 ใกล้ๆกับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ในโซนนั้นคือ กรุงเทพกรีฑาสปอร์ตคลับ และ ยูนิโก้ แกรนด์ กอล์ฟ ทำเลถึงแม้ว่าจะอยู่ขยับจากเมืองออกมาหน่อย แต่ก็สามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆได้สะดวก ไม่ไกลจากทางด่วนมากนัก ถ้ามาดูกันในเรื่องของเส้นทางการเข้าถึงโครงการ ซึ่งถนนหลักด้านหน้าคือ ถนนกรุงเทพกรีฑา และถนนหลักด้านหลังคือ ถนนรามคำแหง

ถนนกรุงเทพกรีฑา สามารถวิ่งไปถนนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นถนนหลักที่ตัดกับถนนเส้นสำคัญหลายสาย ทั้ง ถนนอ่อนนุช , ถนนพัฒนาการ , ถนนพระราม 9 , มอเตอร์เวย์ ,  ถนนหัวหมาก และ ถนนรามคำแหง การจราจรจะค่อนข้างติดขัดบริเวณถนนศรีนครินทร์, ถนนพระราม 9 ตามแยก และบริเวณรอบๆห้างใหญ่ๆ / นอกจากนั้นจุดเด่นของซอยกรุงเทพกรีฑา 7 สามารถลัดเอาไว้หนีรถติดใช้ไปออกถนนรามคำแหงได้ , ซอยกรุงเทพกรีฑา 8 และ 20 สามารถใช้ลัดไปออกมอเตอร์เวย์ได้ สำหรับการเดินทางไปยังที่ต่างๆถ้ามีรถยนต์จะสะดวกกว่า ถ้าเป็นคนที่ทำงานหรือคุ้นชินกับละแวกนี้ ใช้ถนนศรีนครินทร์, พระราม 9 เข้าเมือง หรือ ใช้มอเตอร์เวย์ออกไปยังย่านบางนา ,สุวรรณภูมิ และไปชลบุรีได้เลย

บริเวณรอบๆที่ตั้งของโครงการ ถือว่ามีความเจริญอยู่พอสมควรเป็นทำเลที่มีหมู่บ้านน้อยใหญ่ขึ้นค่อนข้างเยอะ ในซอยกรุงเทพกรีฑา 7 มีรถวิ่งเข้า-ออกตลอดเพราะสามารถใช้เป็นทางลัดได้ การจราจรมีติดขัดบ้างแต่ก็ไม่เท่ากลับถนนเส้นหลักๆที่ใช้เข้าเมือง เรื่องอาหารการกิน จะมีทั้งร้านอาหารเล็กๆและที่เป็นร้านนั่งรับประทาน และมี Market Today Community mall ที่รวมร้านอาหาร ตลาดสด, มี “Kurve 7” ที่เป็น Community Mall ในระยะใกล้ๆ ถัดไปเป็น MaxValu ทันใจซึ่งสามารถเดินไปได้เลย

กดคลิกที่รูปเพื่อดูรายละเอียดขนาดใหญ่

ณ ปัจจุบัน ด้วยทำเลของโครงการ มีการอัพเดต 2 สิ่งใหญ่เพิ่มเติมขึ้นมา อย่างแรกก็คือเรื่องของ รถไฟฟ้าสายสีส้ม(ในช่วงที่ 2) โดยที่เริ่มมีการก่อสร้างกันบ้างแล้ว ถ้าจุดที่ใกล้คือออกจากโครงการ ไปทางซอยรามคำแหง 60 (ซอยสวนสน) บริเวณนี้จะใกล้กับแยกลำสาลี ซึ่งสถานี แยกลำสาลี ก็จะอยู่แถวๆนี้ด้วยเช่นกัน (แต่ยังไม่ระบุตำแหน่งที่ตั้งชานชาลาโดยชัดเจนนะครับ)

ไฮไลท์การคมนาคมอีกอย่างก็คือโครงการถนนตัดใหม่ “ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า” ที่มีการดำเนินการก่อสร้างไปพอสมควรแล้ว รูปแบบเป็นการตัดถนนใหม่ 6-8 ช่องจราจร ระยะทางรวม 11.2 กิโลเมตร เริ่มจากบริเวณแยกถนนศรีนครินทร์ตัดกับถนนกรุงเทพกรีฑา ตรงผ่านแนวเดิมของถนนกรุงเทพกรีฑาจากปากซอยเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นมุ่งหน้าเข้าเขตสะพานสูงซึ่งจะเป็นช่วงที่ตัดถนนใหม่ทั้งหมด ทะลุไปชนกับถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก ยันไปถึงถนนร่มเกล้าตามชื่อเลย ซึ่งถ้าสร้างเสร็จเมื่อไรจะเป็นการช่วยระบายรถที่ติดพอสมควรบนเส้นกรุงเทพกรีฑาได้นั่นเองครับ

ขอบคุณภาพประกอบจาก Yotube คุณ ThaiBlogOnline ณ วันที่ 9 December 2016

ขอบคุณภาพประกอบจาก Yotube คุณ ThaiBlogOnline ณ วันที่ 9 December 2016

โครงการถนนตัดใหม่ “ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า” ช่วงที่ 1 การก่อสร้างทางแยกต่างระดับ 8 ช่องจราจร และสะพานข้ามคลอง ผลงานที่ทำได้ 74% คาดว่าจะเปิดใช้ได้ในวันที่ 5 ธ.ค.60 ช่วงที่ 2 การก่อสร้างทางลอดทางจราจร 4 ช่องจราจร พร้อมทั้งขยายถนนกรุงเทพกรีฑาเป็น 6 ช่องจราจร ซึ่งในช่วงที่ 2 นี้ จะดำเนินการก่อสร้างถนน ค.ส.ล. จำนวน 2 ช่องจราจรในฝั่งขาออก ให้เสร็จภายในวันที่ 5 ธ.ค.60 เพื่อให้รถสามารถสัญจรไปมาได้ หลังจากนั้นจะดำเนินการก่อสร้างในฝั่งขาเข้าอีก 2 ช่องจราจร ให้เสร็จในเดือนก.พ.61 ซึ่งทางเรียบทั้ง 2 ฝั่ง จะสามารถใช้งานได้สมบูรณ์ในเดือนก.พ.61 ส่วนทางลอดจะสามารถเปิดใช้งานได้ในเดือนธ.ค.61 ส่วนการขยายถนนกรุงเทพกรีฑาเป็น 6 ช่องจราจร คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในปี 61 ขณะนี้ผลงานที่ทำได้ 50%  [อ่านเพิ่มเติมและขอบคุณที่มา – https://www.dailynews.co.th/bangkok/590298]

การเข้าถึงโครงการสามารถเข้าถึงได้หลายเส้นทาง

  • เส้นทางที่ 1 – มาจากตัวเมือง ถนนพระราม 9 เลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวขวาเข้าถนนกรุงเทพกรีฑา ขับตรงมาประมาณ 1.3 กม. และเลี้ยวซ้ายเข้าซอยกรุงเทพกรีฑา 7 จนมาสุดที่สามแยกแล้วเลี้ยวขวาอีก 50 เมตร จะถึงที่ตั้งโครงการซ้ายมือ
  • เส้นทางที่ 2 – มาจากตัวเมือง ถนนพระราม 9 ตรงต่อไปเข้าทางมอเตอร์เวย์ ซึ่งทางนี้จะมีเส้นทางลัดเข้าโครงการได้จากซอย  กรุงเทพกรีฑา 8 เข้าสู่ถนนกรุงเทพกรีฑา และเลี้ยวเข้าซอยกรุงเทพกรีฑา 7 จนมาสุดที่สามแยกแล้วเลี้ยวขวาอีก 50 เมตร จะถึงที่ตั้งโครงการซ้ายมือ
  • เส้นทางที่ 3 – มาจากถนนรามคำแหง มาเข้าที่ซอยใหญ่อย่างซอยรามคำแหง 60(สวนสน) ตรงมาตามทางอย่างเดียวผ่าน Kurve 7 เลยมาอีก 240 เมตร จะถึงที่ตั้งโครงการซ้ายมือ

โดยการเดินทางในวันนี้ผมมาเข้าจากทางถนนศรีนครินทร์ จะอัพเดตภาพของถนนกรุงเทพกรีฑาที่กำลังก่อสร้างขยายทางตอนต้น

ถนนกรุงเทพกรีฑาช่วงตอนต้นหลังจากเข้ามาจากศรีนครินทร์ ณ วันนี้ ยังอยู่ในช่วงเร่งดำเนินการก่อสร้าง ขยายถนนจากเดิมเพียงแค่ 2 เลน ในอนาคตถ้าเสร็จจะกลายเป็น 6-8 เลน ซึ่งต้องอดทนกันหน่อยนะครับ พอเสร็จแล้วความเป็นอยู่ในการเดินทางจะดีขึ้นแน่

วิ่งมาจนถึงปากทางเข้าซอย 7 จะมีป้ายบอกทางเอาไว้

เข้ามาสู้กรุงเทพกรีฑาซอย 7 กันแล้ว ซอยนี้เป็นแหล่งรวมชุมชนที่อยู่อาศัยอย่างหนาแน่น มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ

ร้านสิ่งอำนวยความสะดวกมีให้เห็นข้างทางทั้งสองฝั่ง อย่างร้านอาหาร ร้านยา ร้านสะดวกซื้อ

วิ่งเข้ามาได้นิดเดียวจะเจอกับ Market Today Community mall ที่รวมร้านอาหาร ตลาดสด รวมถึง 7 Eleven ตั้งอยู่ด้านหน้า จริงๆจากตรงนี้เดินไปโครงการแค่ระยะประมาณ 280 เมตรเท่านั้นเอง

วิ่งมาจนเจอสามแยกที่มีบจก.อุตสาหกรรมนมไทยตั้งอยู่ให้เราเลี้ยวขวา

หลังจากเลี้ยวขวามาเพียง 50 เมตร ก็จะเจอกับซุ้มทางเข้าโครงการแล้วครับ

ดู Google Maps ซูมเข้ามาใกล้กันอีกนิดแถวบริเวณกรุงเทพกรีฑาซอย 7 ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยมีการพัฒนาไปหลายโครงการแล้ว ซึ่งทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่อย่างสูงแล้วนะครับ มีทั้งตลาด มินิมาร์ท คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหารและกินดื่มก็มี อย่างว่าเพราะมีตั้งหลายโครงการทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าก็มาลงทุนเปิดร้านต่างๆที่ริมถนนเส้นนี้เต็มไปหมด

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (นับระยะจากโครงการไปสถานที่)

  • Community Mall Kurve 7 + MaxValu Tanjai ~ 250 เมตร
  • Market Today + 7 Eleven  ~ 270 เมตร
  • กรุงเทพกรีฑา สปอร์ตคลับ ~ 1.4 กิโลเมตร
  • ยูนิโก้ แกรนด์ กอล์ฟ คอร์ส ~ 2.2 กิโลเมตร
  • สวนปิยะภิรมย์ ~  3.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ~ 3.3 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติ Brighton College ~ 3.4 กิโลเมตร
  • Max Value พัฒนาการ ~  3.9 กิโลเมตร 
  • สถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link หัวหมาก ~ 3.9 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติ Stamford ~ 4.1 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 4.4 กิโลเมตร
  • ราชมังคลากีฬาสถาน ~  4.9 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัย ABAC  ~ 5 กิโลเมตร
  • สวนสาธารณะหมู่บ้านนักกีฬา ~ 5.2 กิโลเมตร
  • London Street จาก Mk Group ~  5.2 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus พัฒนาการ ~  5.4 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

ตัวที่ดินของโครงการ จะเป็นลักษณะรูปตัว L แบบนี้ มีด้านหน้าติดถนนซอยกรุงเทพกรีฑา 7 โดยที่จะวางเฟส 1 ของโครงการไว้ด้านใน และเฟส 2 เอาไว้ด้านนอก การแบ่งเฟสอันนี้ไม่ได้แยกนิติบุคคลของโครงการนะครับ เป็นการแบ่งเฟสการก่อสร้างเฉยๆ เพื่อให้เข้าใจว่าส่วนไหนจะสร้างเสร็จก่อน เพราะเค้าใช้วิธีสร้างจากหลังด้านในสุดแล้วก็ไล่ออกมาเรื่อยๆถึงด้านหน้า โดยแต่ละเฟสมีทั้งสิ้น 29 หลัง จุดเด่นของโครงการนี้ที่เห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านแถวนี้ก็คือเป็นรูปแบบโครงการจัดสรร “ขนาดเล็ก” ที่ทำยูนิตรวมออกมาถือว่าน้อยมาก ทำให้ไม่วุ่นวายได้ความเป็นส่วนตัว ประกอบกับยอมเสียพื้นที่บางส่วน ให้ส่วนกลางอย่างสวนหย่อมเพิ่ม เพราะจริงๆโครงการขนาดเล็กแบบนี้ทำแต่บ้านขายอย่างเดียวก็ได้

เริ่มที่ซุ้มด้านหน้าทางเข้าโครงการ ประตูเป็นประตูไม้กระดกและมีป้อมยามอยู่หน้าโครงการ ตัวประตูกั้นไม้กระดกนี้จะไม่ใช่แบบแตะบัตร Access Card ธรรมดา แต่จะเป็นระบบ RFID คล้ายๆกับ บัตรทางด่วน Easy Pass ซึ่งจะสามารถตรวจจับรถของลูกบ้านได้จากระยะไกล และเซ็นเซอร์จะสั่งให้ประตูเปิดโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเปิดกระจกและยื่นบัตรออกมาแตะด้านนอก ซึ่งจะสะดวกกว่า ไม่ต้องควานหาบัตรในกระเป๋า หรือเปิดกระจกรถเวลาฝนตก)

โครงการนี้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ไว้ที่หน้า Main Gate และพื้นที่ส่วนอื่นๆรอบโครงการ รวม 25 จุดด้วยกัน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะทีเดียว เทียบกับในหมู่บ้านทั่วๆไป หรือบ้านเดี่ยวหลายๆโครงการ ที่มักจะมีแค่บริเวณทางเข้าและพื้นที่ส่วนกลางบางจุด ซึ่งจะทำให้ลูกบ้านมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยได้มากขึ้น

พ้นรั้วกั้นไม้กระดกเข้ามาแล้วยังเป็นพื้นสแตมป์คอนกรีตอีกเล็กน้อย หลังจากนั้นถึงจะเปลี่ยนเป็นถนนคอนกรีตธรรมดา

โดยถนนเมนของโครงการนี้คือกว้าง 9 เมตร และถนนรองกว้าง 7 เมตร

มีป้ายชี้บอกทางตำแหน่งต่างๆ

ส่วนขของกำแพงรั้วโครงการ ที่มีการตกแต่งด้วยอิฐมอญแดงที่มีการเก็บงานรายละเอียด พร้อมทั้งตกแต่งโคมไฟสลับกับพุ่มต้นไม้สีเขียวให้ดูตัดกัน คุมเป็นโทนสไตล์ของโครงการคือ English หน่อยๆ

เมื่อเข้ามาถึงในใจโครงการจะเจอกับสวนสาธารณะของโครงการและอาคารสำนักงานนิติบุคคล เป็นอาคารที่มีลักษณะคล้ายๆกับ Old English Cottage สีเนื้อ ซึ่งที่เขาออกแบบมาเป็นแบบนี้ เพื่อให้เป็นไปตามลักษณะของ Conceptโครงการที่เป็นสไตล์ Modern English

ปัจจุบันการเดินรถภายในโครงการทำให้เป็นแบบวันเวย์ เพื่อควบคุมได้ง่ายต่อการสัญจรภายในโครงการ

บริเวณนี้จะเป็นส่วนของบ้านในโครงการ (เฟส 1) ที่สร้างเสร็จและส่งมอบโอนให้ลูกบ้านไปเกือบหมดแล้ว จะเห็นรถที่จอดอยู่ริมถนนส่วนใหญ่เป็นพวกช่างของแต่ละเจ้าของบ้านจ้างมาตกแต่ง Built-In เฟอร์นิเจอร์ของแต่ละหลัง

สวนในโครงการจะอยู่ใน Concept แบบ Modern English Country  จะประตูจะเล็กๆ เป็นประตูเหล็กติดกับกำเเพงหิน มีโคมไฟที่ออกแนวคลาสสิคประดับอยู่ทั้งบริเวณประตูสวนและประตูบ้านแต่ละหลัง

เข้ามาในสวนขนาดหย่อม จัดวางแนว Formal Garden เป็นสวนที่ดูสะอาดตา เเละจะเห็นความสมมาตรกันระหว่างสองด้าน ปลายสุดเป็นอาคารนิติบุคคลที่ถ่ายรูปให้เห็นเมื่อครู่นี้

ภายในสวนที่มีขนาดเนื้อที่ประมาณ 77 ตารางวา มีทางเดินปูด้วยอิฐมอญเช่นกัน

ถ้าใครเคยอ่านรีวิวฉบับเฟส 1 ในพื้นที่สวนหย่อม ณ ตอนนั้น ต้นไม้ยังไม่ออกดอกใบเลย ซึ่งปัจจุบันต้นจามจุรี(ก้ามปู)กลายเป็นจุดเด่นของที่นี่ไปแล้ว มีการออกดอกใบผลิผลโตเต็มที่มากๆ ถึงขนาดโอบล้อมปกคลุมพื้นที่สวนเกือบทั้งหมด ณ เวลาเที่ยงตรงมาเดินที่สวนยังไม่ร้อนเลย

ในสวนมีเก้าอี้ให้นั่งเล่นแบบนี้ 2 จุด พร้อมรูปปั้นหินตกแต่ง มีเปิดเพลงความสสิคคลอๆด้วยนะ 😀

ตรงใจกลางสวนเป็นที่ตั้งของน้ำพุตกแต่ง

ถัดมาจากน้ำพุหน่อยเป็นที่ตั้งของศาลพระพหรมครับ

และส่วนสุดท้ายจะมีศาลาตั้งอยู่สามารถมานั่งพักผ่อนได้

ออกมาที่ถนนภายในโครงการอีกครั้งนึงเราจะเห็นว่ามีทำฟุตบาททางเดินก่อขึ้นมาให้ด้วย สำหรับลูกบ้านเดินไปมาในโครงการ

ที่ช่องเว้นระหว่างอาคารทีละแนวชุด โครงการทำให้เป็นเหมือนสวนเล็กๆ ซึ่งตามกฎหมายนั้นตรงนี้ไม่ต้องทำเป็นสวนก็ได้ เพราะเป็นจุดกลับรถ การที่โครงการ Treat ให้ดูดี

เดินเข้ามาดูด้านในกันนิดนึง การจัดพื้นที่บริเวณนี้ก็ถูกคุมให้อยู่ในสไตล์รูปแบบให้เข้ากับบ้าน และรั้วกำแพงส่วนอื่นๆ สามารถมานั่งเล่นหรือเป็นจุดนัดพบยามเย็นได้

ปิดท้ายกับด้วยเรายืนจากที่ถนนโครงการ มองไปยังสวนหย่อมกลางโครงการ จะเห็นถึงความสมบูรณ์ของต้นจามจุรี(ก้ามปู) ที่ออกดอก ออกใบโตจนโอบล้อมพื้นที่สวนทั้งหมด แม้กลางวันมาเดินยังร่มๆครับ

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนหย่อมใจกลางโครงการ ขนาดประมาณ 77 ตารางวา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการรวม 25 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร (และ 3.5 เมตร บางช่วงสลับกันไป)
  • Key Card Access ระยะไกล (แบบ Easypass)
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • ถนนหลักกว้าง 9 ม. และถนนภายในกว้าง 7 ม.

โครงสร้าง


Product Walkthrough

ในพื้นที่เฟส 2 คราวนี้ ตัวโครงการได้พัฒนาบ้านแบบ “Preston 2” มาขายเฉพาะอย่างเดียว โดยมีการปรับฟังก์ชั่น และเพิ่มความสูงที่ชั้นที่ 3 ทำเป็น Loft ได้ รูปแบบตัวบ้านเป็น Townhome 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ ขนาด 175  ตารางเมตร บนที่ดินเริ่มต้น 19.9 ตารางวา

การออกแบบเป็นสไตล์ Modern English ซึ่งจะเห็นว่า Theme ชัด Concept ชัด โดยเป็นบ้านที่มีบริเวณหน้าบ้าน กว้าง 5.7 เมตร  แปลนชั้น 1 เปิดประตูเข้าบ้านมา เจอกับส่วนรับแขก ที่ทำเป็นพื้นที่ยาวติดกับส่วนหน้าบ้านทีวีจะวางติดผนังหน้าบ้านเนื่องจากหน้าต่างบ้านบานจะไม่ใหญ่ ถัดไปด้านในเป็นส่วนรับประทานอาหารที่อยู่ด้านหลังบ้าน ส่วนครัวจะอยู่ด้านหลังเช่นเดียวกันติดกับส่วนซักล้างหลังบ้าน พื้นที่ครัวกั้นประตูแยกส่วนได้ แต่ไม่ค่อยเหมาะเพราะจะทำให้ห้องครัวดูเเคบ แนะนำว่าถ้าอยากได้ครัวไทยแยกส่วนให้ต่อเติมหลังบ้านน่าจะดีกว่า ส่วนห้องน้ำชั้นล่างจะเข้าจากทางห้องครัวอีกที ห้องน้ำห้องนี้จะไม่มีส่วนอาบน้ำเป็นแบบ Powder Room

ขึ้นมาชั้น 2 จะมีทางเดินที่เป็นตัว Access แจกจ่ายไปยังห้องต่าง ๆ นั่นคือ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และไปยังประตูชั้น 3 ห้องน้ำชั้นนี้จะแชร์กันระหว่าง 2 ห้อง มีประตูเปิดเข้าออกสองด้าน ส่วนห้องนอนมีห้องนอนเล็กกับกลางที่มีขนาดใกล้เคียงกันทีเดียว ต่างกันตรงให้เลือกว่าจะอยู่หน้าบ้าน กับ หลังบ้าน ห้องที่อยู่หน้าบ้าน จะได้หน้าต่าง Bay Window สวยๆ ส่วนห้องหลังบ้านจะมีห้องน้ำในตัวซึ่งมีอีกประตูที่เข้าจากทางเดิน

ส่วนขึ้นมาชั้น 3 ห้องนี้จะเป็นห้องนอนใหญ่ Master Bedroom โดยห้องนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ว่าพื้นที่ฝั่งด้านหน้าโครงการ จะมีความสูงพิเศษ 4.45 เมตร สามารถทำเป็นมุม Sky Loft จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็น Penthouse นิดนึง โดยส่วนของห้องนอนจะไปอยู่ครึ่งด้านหลัง ความสูงจะลดลงเหลือ 3.34 เมตร ฟังก์ชั่นห้องนี้ เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัว มีพื้นที่ไว้ให้กั้น Walk-in Closet วางโต๊ะทำงานอีกตัวยังได้ ถ้าจัด Interior วางเฟอร์นิเจอร์ดีๆเป็นห้องที่สวยที่สุดในบ้านและพื้นที่ใช้สอยเยอะเพราะพื้นที่ทั้งชั้นใช้เป็นห้องนอนหมดเลย

เราไปดูบ้านตัวอย่างกัน หน้าตาด้านหน้าภายนอกบ้านด้วยสไตล์ Modern English จะเห็นได้จากหน้าตาภายนอกและฟังก์ชั่นการใช้งานด้านใน โดยหน้าตาอาคารและสีที่ใช้จะดูเรียบ ไม่เน้นสีสันที่มากเกินไป ทั้งชั้น 2 และชั้น 3 … ภายในจะมีฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Bay Window  ที่เราเห็นเป็นดีไซน์ของหน้าต่างที่ยื่นออกมาที่ชั้น 2-3 นั่นแหละครับ และบนหลังคามีหน้าต่าง Sky Light ที่เพิ่มขึ้นมาใช้งานได้จริงในเฟส 2 นี้ ทำให้แสงธรรมชาตส่องผ่านไปยังพื้นที่ Loft ชั้นบน

ตัวบ้านที่นี่ก่อสร้างผนัง ก่ออิฐมวลเบา ฉาบปูนเรียบ ซึ่งสามารถต่อเติม ดัดแปลงฟังก์ชั่นต่างๆในบ้านได้ง่ายไม่ต้องกังวลเหมือนบ้านแบบ precast ตัวหลังคา Shingle Roof และกระเบื้องลอนคู่ บ้านเป็นบ้านเปล่านะครับ แต่มีการก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้ อีกทั้งยังมีการลงพื้นคอนกรีตวางบนคาน (Slabs on Beam) ทั้งพื้นที่จอดรถและลานซักล้างด้านหลัง

พื้นที่จอดรถ ด้วยความกว้างหน้าบ้านถึง 5.7 เมตร ทำให้สามารถจอดรถ 2 คันได้อยู่

ในส่วนของบริเวณเฉลียงด้านหน้าบ้านมีการยกสเต็ปขึ้นเล็กน้อย มีระยะห่างออกมาประมาณ 60 ซม. ซึ่งพอยกสูงมาแบบนี้ด้านล่างทำเป็นรางน้ำที่ตกแต่งโรยหินกรวดเอาไว้ (มีตั้งตั้งก๊อกน้ำและปลั๊กไฟพร้อมครอบกันน้ำ เผื่อล้างรถทำสวนกระถางเล็กๆได้)

ส่วนของบริเณประตูทางเข้า เราะจะเห็นถึงสเต็ปก่อนจะเข้าบ้านยกสูงขึ้นอีกชั้นนึง

ตัวประตูหน้าบ้านหน้าตาดูดีทีเดียว เป็นบานไม้เนื้อแข็งสีดำมีการเซาะร่องเป็นลวดลาย

อีกทั้งหน้าตามือจับเป็นแบบก้านโยกโค้งงอเล็กน้อย สีทองนั้นดูตัดกับสีดำของบานประตู ทำให้ดูเด่นมาก

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนของรับแขกติดกับบริเวณหน้าบ้านใกล้ช่องแสง ถัดไปเชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหารและครัว โดยที่ชั้นนี้ความสูงจากพื้นถึงผ้าเพดาน 2.85 เมตร (บ้านมาตรฐานไม่ได้ดรอฟฝ้าเล่นระดับ นี่เป็นไอเดียตกแต่งให้ดู)

หันไปทางขวามือประต฿ทางเข้าจะเป็นส่วนผนัง ที่อยู่ใกล้กับบันไดทางขึ้น ตรงส่วนนี้สามารถเอาทีวีมาแขวนผนัง และติดชั้นวางแขวนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ ทางขวามือสุดจมีบานประตูเล็กๆเป็นส่วนของห้องเก็บของตำแหน่งอยู่ใต้บันได

นี่ครับห้องเก็บของสามารถเก็บของใช้งานในบ้านชิ้นขนาดกลางได้ มีติดไฟส่องสว่างภายในเอาไว้

ตำแหน่งของโซฟาที่สามารถเลือกแบบ 2-4 ที่นั่งหรือจะเป็นรูปตัว L ก็ได้ เอามาไว้ใกล้หน้าบ้านหน่อย ช่องแสงจะไม่ได้ใหญ่มาก

ให้ดูระยะดูทีวีอยู่ประมาณ  4 เมตร ต้องเลือกไซส์ใหญ่หนอ่ยขนาด 50 นิ้วขึ้นไปนะครับ ไม่งั้นอาจจะต้องเพ่งทีวีเวลาดู

ถัดไปเป็นส่วนของโซนรับประทานอาหารที่อยู่ด้านหลัง

ด้วยการที่มีบริเวณระดับนึง มุมนี้สามารถเลือกรูปแบบของโต๊ะได้หลายแบบ 4-6 ที่นั่ง ทรงกลมหรือสี่เหลี่ยมก็ได้ จากมุมนี้เราจะเห็นตัวพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 24″ x 24″

หันไปมองทางขวากันนิดนึงจะเป็นส่วนของครัว ซึ่งในตัวบ้านมาตรฐาน(รูปล่าง) ก็มีการก่อเคาน์เตอร์มาให้ด้วยและที่ผนังมีการเจาะช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเล็กๆเอาไว้ให้แสงทะลุผ่านพร้อมระบายอากาศในตัว ถ้าใครไม่ได้ทำอาหารทานเองบ่อยมากพื้นที่ครัวแค่นี้ก็น่าจะพอ ไม่ต้องไปต่อเติมอไรเพิ่ม เก็บลานซักล้างด้านหลังไว้ทำฟังก์ชั่นที่เราต้องการอย่างอื่น / ส่วนของทางเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่างก็อยู่ตรงข้ามกับครัว

ภายในห้องน้ำชั้นล่างจะขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก เนื่องจากเป็นแบบ Powder Room ไม่มีฟังก์ชั่นอาบน้ำครับ

ในฝั่งขวามือจะเป็นที่ตั้งชุดอ่างล้างมือ โดยในห้องน้ำสุขภัณฑ์ และ อุปกรณ์ในห้องน้ำ จะได้เป็นของ Kohler ทั้งหมด

มีการก่อผนังชนผนังเป็นพื้นที่เคาน์เตอร์รอบอ่าง เอาไว้ใช้วางของใช้จำเป็นในห้องน้ำ

ทางซ้ายมือเป็นส่วนของสุขภัณฑ์ มองจากมุมนี้จะเห็นว่าระยะความกว้างก็โอเคนะ ไม่ได้แคบหรือหยิบจับอุปกรณ์อย่างสายฉีดหรือกระดาษชำระลำบากใดๆ ที่ผนังด้านหลังกรุเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว

ตำแหน่งพัดลมดูดอากาศอยู่ด้านบนเหนือหัวพอดี

จริงๆตัวบ้าน(อาคาร)สุดที่ตรงนี้นะครับ บ้านของจริงจะมีประตูทางออกไปสู่ส่วนลานซักล้างด้านหลังบ้าน

ประตูของจริงเป็นเช่นนี้ วงกลอลูมิเนียมสีขาว เป็นบานเลื่อนกระจก 2 ตอนซ้ายขวา เลื่อนได้ทั้งสองฝั่ง พื้นด้านนอกจะลดระดับลงพอสมควรกันในเรื่องของน้ำสาดเข้ามาในตัวบ้าน(กรณียังไม่ได้ต่อเติมทำอะไร)

พื้นที่ลานซักล้างด้านหลัง แตกต่างจากบ้านเฟส 1 คือทำเป็นพื้นคอนกรีตวางบนคาน (Slabs on Beam) จะสามารถรองรับการถ่ายเทน้ำหนักได้ดีกว่า (ถ่ายทอดสู่คาน) ในส่วนของบ้านตัวอย่างนั้นแต่งเป็นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเป็นพื้นที่นั่งเล่นอีกส่วนแบบ Private Terrace ให้ดู

ติดกันในส่วนต่อเติมด้านหลังแสดงให้เห็นถึงการต่อเติมครัวไทย(ปิด) แยกออกมาบริเวณ

รวมถึงไอเดียที่เจาะช่องแสงด้านบนทำให้แสงธรรมชาติส่องมายังพื้นที่นี้ทำให้ดูโปร่งและไม่อึดอัด

กลับเข้ามาในบ้าน เดี๋ยวจะขึ้นไปดูชั้นบนกันต่อ ชานพักส่วนแรกเป็สี่เหลี่ยมจตุรัส ทำแบบนี้ดีนะ เดินได้เต็มเท้า ไม่อันตราย

โดยพื้นของบันไดจะเป็นไม้ยางประสานสำเร็จสีดำ ให้ดูเข้ากับเหล็กราวมือจับต่างๆ

ชานพักสุดท้ายก่อนขึ้นมาชั้น 2 ยังเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า และพื้นชั้น 2 และ 3 จะกลายเป็นพื้นไม้ามิเนต หนา 8 มม.

ส่วนของโถงทางเดินรูปบนเป็นบ้านตัวอย่าง มีการทำให้ดูเป็นไอเดียในเรื่องของการยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นตามการใช้งานของเจ้าของบ้าน ถ้าลดห้องนอนลงสามารถทุบเอาผนังออกและเชื่อมกันได้

นี่ครับต้องบอกว่าบ้านตัวอย่างตกแต่ง Interior ได้สวยมาก และปรับฟังก์ชั่นให้ห้องนี้เป็น Working Area แบบเปิด Space เชื่อมมาโถงทางเดิน โดยที่ด้านหลังยังเป็นห้องนอนให้แสงส่องผ่านถึงกันได้

ที่ชั้นนี้ความสูงจะเหลือ 2.55 เมตร โดยมุมฝั่งด้านหนเาบ้านจะใกล้กับช่องแสงหน้าบ้าน ด้วยขนาดพื้นที่กว้างพอสมควรสามารถวางได้ทั้งโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ มุมนั่งพักผ่อนอยู่ในห้องเดียวกัน

การ Built-In ชั้นวางเพิ่มติดผนังเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยแนวตั้งอย่างคุ้มค่าที่สุด ใครจะทำมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความชอบ ถ้าติดมากเกินไปก็ดูอึดอัดแต่เก็บของได้เยอะ

มุมพื้นที่นั่งเล่นที่จัดเอามาอยู่ใกล้กับหน้าต่าง Bay Window ทำให้ดูเข้ากับการใช้งานมาก ตัวบานหน้าต่าง วงกบอลูมิเนียม กระจกใสสีเขียว หนา 6 มม.

ในส่วนของห้องน้ำเข้าได้จากบริเวณโถงทางเดิน และเข้าจากในห้องนอนด้านหลังบ้านนี้ได้เลย

ห้องด้านหลังจริงๆแล้วขนาดพอๆกับห้องด้านหน้าเลยนะครับ แค่ไม่มีมุม Bay Window เท่านั้นเอง ห้องนี้สามารถจัดเป็นห้องนอนเหมือนปกติก็ได้ มี Space สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ของห้องนอนได้ครบ

ด้วยห้องตัวอย่างวางเตียงแบบ 3 ฟุตมาให้ดู เลยทำให้ดูมีพื้นที่เดินเหลือกว้างเป็นพิเศษหน่อยนะครับ

ช่องแสงผนังด้านหลังบ้านในส่วนของบ้านมาตรฐาน ของจริงจะหน้าตาเป็นแบบนี้ ประตูกระจกบานเลื่อนอันนี้ เปิดได้ แต่ออกไปไม่ได้นะครับ ที่เห็นราวเหล็กสีดำไม่ใช่พื้นที่ระเบียง แต่เป็นตัวเซฟตี้กันตก ที่เค้าทำแบบนี้เพราะออกแบบมาให้แสงธรรมชาติส่องผ่านมาได้เยอะๆ

เดี๋ยวเข้าไปดูในส่วนของห้องน้ำกันบ้าง มุมนี้จะเห็นได้ว่าเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ตัวพื้นของห้องน้ำลดระดับลงช่วนในเรื่องของเวลาทำความสะอาดน้ำจะไม่กระเซ็นขึ้นมาโดนพื้นลามิเนตที่กลัวน้ำ (มุมนี้จะเห็น Texture ของพื้นกระเบื้องห้องน้ำเป็นสีดำมีลวดลาย)

พื้นที่ของห้องน้ำค่อนข้างกว้างนะครับ มีการแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกไว้เลย แต่จะไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำใดๆมาต้องหาติดเพิ่มเอาเอง จะเห็นอีกอย่างว่าพื้นที่อาบ มีเหลี่ยมมุมเยอะ เพราะถ้าทำเป็นสี่เหลี่ยมกลัวจะเปิดประตูฉากกั้นอาบน้ำลำบากกว่า แก้ปัญหาโดยเป็นทรง 5 เหลี่ยมแบบนี้โอเค / พวกอุปกรณ์ต่างๆเหมือนชั้นล่างไม่อธิบายซ้ำนะครับ

ที่ผนังพื้นที่อาบน้ำมีการเซาะร่องชั้นวางของไว้ให้แล้ว ด้านหลังมีเจาะหน้าต่างบานกระทุ้งให้แสงผ่านและระบายอากาศได้ / ตัวหัวฝักบัวขนาดใหญ่ทีเดียวแต่ปรับรูปแบบน้ำไม่ได้

ไปต่อกันที่ชั้น 3 บันไดเหมือนกัน

สิ่งที่ต่างไปคือชั้นนี้มือจับจะไม่มีนะ

ขึ้นมาที่ชั้นบน ฝั่งด้านหน้าบานมีจำนวนหน้าต่างช่องแสงที่เยอะอยู่ กลางวันสว่างทีเดียว

ไฮไลท์ของบ้านอยู่ที่ชั้นนี้แหละครับ ห้องนี้จะเป็นห้องนอนใหญ่ Master Bedroom โดยห้องนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ว่าพื้นที่ฝั่งด้านหน้าโครงการ จะมีความสูงพิเศษ 4.45 เมตร สามารถทำเป็นมุม Sky Loft จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็น Penthouse นิดนึง โดยส่วนของห้องนอนจะไปอยู่ครึ่งด้านหลัง ความสูงจะลดลงเหลือ 3.34 เมตร

มุมนั่งทำงานกลางห้องที่ใกล้หน้าต่างช่องแสง Bay Window บวกกับฝ้าเพดานสูงโปร่งทำให้ดูน่ามานั่งยิ่งนัก

ไอเดียจากบ้านตัวอย่างที่ต่อบันไดขึ้นไปยังพื้นที่ Loft

พื้นที่ Loft ด้านบนถึงแม้จะจำกัดไม่มากนัก แต่ก็สามารถทำเป็นมุมชั้นเก็ของสำคัญ หนังสือ ฯลฯ ได้

หรือถ้าใครอยากได้พื้นที่ใช้สอยกว่านี้อีกหน่อย ก็ขยาย “พื้น” ให้กว้างกว่าเดิมหน่อยได้นะ ขึ้นอยู่กับตอนเราออกแบบก่อนให้ช่างทำ

มุมช่องแสง Sky Loft ที่ตรงกับตำแหน่งต่อเติมพอดี ดูสวยและมีประโยชน์ส่องมายังพื้นที่ด้านบน

ถ้าเวลาใครมองจากด้านนอกจะเห็นหน้าต่างเจ้า Sky Loft  แบบนี้ครับ

ถัดไปดูส่วนด้านหลังที่วางเตียงนอนกันบ้าง

ฝั่งด้านหลัง ความสูงจากพื้นถึฝ้าเพดานจะเปลี่ยนลดลงจาก 4.45 เหลือ 3.34 เมตร ก็ยังถือว่าเป็นเพดานที่สูงโปร่งมากอยู่ดีสำหรับห้องนอน โดยมีช่องแสงประตูทางออกไประเบียงอยู่ด้วย

ด้วความกว้างของห้องทำให้มีระยะสามารถวาโต๊ะข้างหัวเตียงนอนได้ทั้งสองฝั่งนะครับ

ระยะทางเดินปลายเตียงก็เหลือประมาณ 1 เมตร ซึ่งสามารถวางชั้นวางทีวีเผื่อเอาไว้นอนดูก็ได้

ประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ทางออกไปสู่ระเบียง(ฝั่งหลังบ้าน)

ธรณีที่ก่อขึ้นมาสูงพิเศษหน่อย เอาไว้กันในเวลาฝนตกหนักและน้ำจะได้ไม่สาดเข้ามาในห้อง แต่เดินเข้าออกก็ระวังกันนิดนึง

พื้นที่ระเบียงที่กว้างถึง 90 ซม. และยาวสุดผนังห้อง สามารถใช้งานจริงจังได้เลย จะทำเป็นมุมสวนกระถางก็ได้ จะได้เห็นสีเขียวจากห้องนอนได้

ส่วนของระเบียงมีการเชื่อมต่อไปพื้นที่แยกวางคอมแอร์ฯที่เป็นสัดส่วนระเบียบ และเดินไปซ่อมบำรุงได้ง่าย

มองย้อนกลับเข้าไปยังห้องนอน เดี๋ยวจะให้ดูไอเดียของบ้านตัวอย่างอีกอย่าง อานุภาพของ Interior คิดออกมาได้ดีทีเดียว ในส่วนของซุ้มประตูที่เราเดินเข้ามายังห้องนอน เค้ามีลูกเล่นนะ

มีการเบิ้ลผนังที่ค่อนข้างหนามาก แต่จริงๆแล้วมันสามารถเลื่อนซ้ายและเลื่อนขวาเป็นตู้เสื้อผ้าแบบนี้ได้ ใครสนใจเอาไว้เป็นไอเดียได้

ส่วนของทางเดินด้านหน้าห้องน้ำเป็นพื้นที่มุมสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งอยู่สุดทางเดิน

รูปแบบห้องน้ำก็เหมือนกันกับห้องชั้น 2 เลยนะครับ จะแตกต่างกันก็เพียงที่ผนังมีการกรุเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวเข้ามาแทน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 26 September 2017

  • แบบบ้าน PRESTON2 ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินแปลงมาตรฐาน 19.90 ตารางวา และพื้นที่ใช้สอย 175 ตารางเมตร [แปลงกลางมาตรฐาน] [ราคาเริ่มต้น 6.59 ล้านบาท]
  • แบบบ้าน PRESTON2 ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินแปลงมาตรฐาน 28.90 ตารางวา และพื้นที่ใช้สอย 175 ตารางเมตร [แปลงริมมีเนื้อที่ดินด้านข้าง] [ราคา 7.99 ล้านบาท]
  • “งาน Grand Opening 7-8 ตุลาคมนี้ สอบถามเพิ่มเติมโทร 083-026-1666 หรือ www.prestontownhome.com “

  • จองและทำสัญญา(สอบถามที่เซลล์หน้างาน)
  • ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลโครงการ The Preston นี้ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑา ในซอยกรุงเทพกรีฑา 7  อยู่ลึกจากปากซอยฝั่งถนนกรุงเทพกรีฑาเข้าไปประมาณ 600 เมตร เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทางจึงมีรถวิ่งผ่านตลอดเวลา โดยรอบมีโครงการบ้านพักอาศัยอยู่จึงเป็นซอยที่มีความคึกคักพอสมควรเลย และถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบในระยะที่เดินไปได้เลยอย่าง ทั้ง Community Mall Kurve 7, MaxValu Tanjai, Market Today, 7-Eleven ทั้งหมดที่กล่าวมาเดินในระยะไม่เกิน 300 เมตร แม้ว่าหน้าโครงการจะเป็นถนนที่พลุกพล่านแต่เมื่อเข้ามาภายในโครงการก็ยังไม่เสียความเป็นส่วนตัวและยังคงความเป็นเขตที่อยู่อาศัยไว้ได้  และเนื่องจากโครงการมีขนาดไม่ใหญ่นัก บ้านหลังที่อยู่ด้านในสุดก็ยังสามารถเดินออกมาตรงถนนได้แบบไม่เหนื่อยเท่าไหร่

การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นตัวเลือกหลักๆในถนนละแวกนี้ ซอยนี้เป็นซอยที่สามารถใช้เป็นทางลัดไปออก ซอยรามคำแหง 60(ซอยสวนสน) บริเวณแยกบางกะปิได้ การขึ้น-ลงทางด่วนค่อนข้างสะดวก เนื่องจากทางด่วนพระราม 9-มอเตอร์เวย์ มีทางออกถนนกรุงเทพกรีฑาด้วย (แถวๆซอยกรุงเทพกรีฑา 8)  ซึ่งถือเป็นจุดแข็งเพราะเป็นทางลงที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยใช้ และจะ by-pass รถติดได้ ไม่ต้องใช้ทางลงศรีนครินทร์ แต่ถ้าเป็นการขึ้นทางด่วน ก็ต้องวิ่งย้อนกลับไปขึ้นที่ด่านศรีนครินทร์-พัฒนาการ ตามปกติ อ้อ แล้วก็การขับรถไปสุวรรณภูมิก็ทำได้ไม่ยาก / จุดเด่นที่เพิ่มในเรื่องของการคมนาคมปัจจุบันมีอีกสองอย่างคือ รถไฟฟ้าสายสีส้มอนาคตที่แถวแยกลำสาลี และ ถนนตัดใหม่ศรีนครินทร์ร่มเกล้า ซึ่งอนาคตถ้าทั้งคู้เสร็จเมื่อไรก็จะเพิ่มศักยภาพการเดินทางมากกว่านี้อีก

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถจะลำบากหน่อย เพราะโครงการตั้งอยู่ในซอยลึกเหมือนกัน แต่เราสามารถเรียก Taxi ได้ ซึ่งแถวๆหมู่บ้าน Preston นั้น เรียกว่าเป็นดงหมู่บ้าน ทั้งมัณฑนา เศรษฐสิริ และ Town Plus ทำให้มีรถโดยสารแวะเวียนผ่านมาตลอดอยู่แล้ว และมีวินมอเตอร์ไซต์ตั้งอยู่หน้า Market Today ด้วยนะ

การออกเเบบและฟังก์ชั่นการใช้งาน Concept ของโครงการคือ Modern English สะท้อนออกมาให้เห็นตั้งแต่หน้าตาภายนอก สีสันและรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นโคมไฟหน้าบ้านหรือการตกแต่งที่ทำให้ดูเหมือนมีห้องใต้หลังคา เหล่านี้ทำออกมาได้ชัดเจน และเป็นไปในทางเดียวกันทั้งโครงการตั้งแต่ทางเข้า, พื้นที่ส่วนกลาง จนถึงตัวบ้าน ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคนแล้ว ว่าชอบการตกแต่งแนวนี้หรือเปล่า

สำหรับการเเบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานจัดเป็นแบบบ้านถือว่าลงตัวทีเดียว ให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้างหน่อย ส่วนโต๊ะอาหารก็วางโต๊ะใหญ่ได้ ขนาด 4-6 คนสบายๆ ห้องนอนก็แบ่งได้ค่อนข้างลงตัว คือ ขนาดห้องนอนที่มีพื้นที่น้อยสุดก็ไม่ได้เล็กมาก สามารถใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องทำเป็นห้องทำงานของเหมือนหลายๆโครงการ ห้องนอนใหญ่ก็ครอบคลุมพื้นที่ทั้งชั้น และก็ Sky Loft สำหรับคนที่ชอบลูกเล่นในการแต่งห้องสวยในห้องที่มีฝ้าเพดานสูง

ส่วนวัสดุโครงสร้างของโครงการที่ให้นี้ใช้ถือว่ามาตรฐาน เป็นการก่ออิฐฉาบปูนที่สามารถซื้อสองห้องติดกันแล้วทุบผนังตีทะลุได้ วัสดุปูพื้นที่เป็นลามิเนตและแกรนิตโตที่ชั้น 1 ก็จัดว่าโอเค โคมไฟก็มีทั้งซาลาเปาและดาวน์ไลท์ มีเรื่องของครัวที่เตรียมเอาไว้สำหรับคนที่ไม่ได้ทำอาหารหนักเป็นประจำทุกวัน เพราะพื้นที่ที่จำกัด หากต้องการพื้นที่ครัวที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวที่ชอบทำอาหาร ก็คงจะต้องต่อเติมครัวไทยด้านหลัง ดั่งเช่นทาวน์โฮมหลายๆแห่ง  ห้องน้ำและสุขภัณฑ์ของที่นี่จัดว่าทำออกมาได้ใหญ่กว่าทาวน์โฮมปกติทั่วๆไป ถ้าได้เดินเข้าไปดูจะทราบว่าค่อนข้างโล่งกว่า ในขณะที่ทำฟังก์ชั่นเท่ากัน ซึ่งตัวโครงการจะให้สุขภัณฑ์และก๊อกจะได้ของ Kohler

จุดเด่นของโครงการนี้ที่เห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านแถวนี้ก็คือเป็นรูปแบบโครงการจัดสรร “ขนาดเล็ก” ที่ทำยูนิตรวมออกมาถือว่าน้อยมาก ทำให้ไม่วุ่นวายได้ความเป็นส่วนตัว ประกอบกับยอมเสียพื้นที่บางส่วน ให้ส่วนกลางอย่างสวนหย่อมเพิ่ม เพราะจริงๆโครงการขนาดเล็กแบบนี้ทำแต่บ้านขายอย่างเดียวก็ได้

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการจัดว่าสะอาดสะอ้าน ดูไม่รกหูรกตา จากแนวความคิด  Modern English สวนจึงเป็นสวนสไตล์อังกฤษที่มีความสมมาตรกัน ส่วนต้นไม้ใหญ่ในโครงการตอนนี้ยังไม่เยอะนักและพื้นที่สวนก็มีขนาดไม่ใหญ่มากเนื่องจากเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก แต่ด้วยการที่ปลูกต้นไม้จามจุรี(ก้ามปู)มาได้พักนึงแล้ว ทำให้ปัจจุบันออกกอกใบแบบร่มรื่นสุดๆไปเลย ดูสวยงามอีกทั้งบังแดดได้ทั้งวันเลยล่ะ

สุดท้ายคือเรื่องสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ ที่ต้องบอกว่ามีน้อย เพราะโครงการเป็นโครงการขนาดเล็ก ไม่มีสโมสร สระว่ายน้ำหรือฟิตเนส แต่ส่วนที่เป็นข้อดีคือ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ให้มาเพิ่ม เช่น ประตูทางเข้าโครงการแบบ RFID และ CCTV 25 จุดรอบๆโครงการ ที่ติดตั้งมาให้

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ  6.59 – 7.9 ล้านบาท @ 26 September 2017

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง  8/10 – ทำเลอยู่ในซอยลึกจากถนนใหญ่ เเต่สะดวก เข้า-ออกได้หลายทาง อยู่ใกล้ทางด่วน มีทางลัดไปบางกะปิได้ (อนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม, ถนนตัดใหม่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า)
  • ความปลอดภัย 8/10 – รั้วกั้นไม้กระดกระบบ RFID แบบ Easy Pass, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, CCTV 25 จุดรอบโครงการ
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – ออกแบบเข้ากับ Concept และพื้นที่ใช้สอยลงตัวดี การเเบ่ง Space ในห้องนอนดี จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ไม่ยาก
  • วัสดุ 7.5/10 – วัสดุโดยรวมถือว่ามาตรฐาน เทียบกับราคา
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – โครงการดูสะอาดสะอ้าน หน้าตาบ้านบ่งบอกสไตล์และ Theme ที่สวยงาม แต่ด้วยความที่เป็นทาวน์โฮมจึงมีพื้นที่สีเขียวไม่มากเท่าไร
  • สาธารณูปโภค 6/10 – มีสวนสาธารณะ ซึ่งเป็น Formal Garden แต่ไม่มีสโมสรหรือสระว่ายน้ำ
  • UPPER CLASS
  • 7.66 / 10.00

 

BOTTOM LINE

The Preston Townhome เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาทาวน์โฮมมือหนึ่งในย่านกรุงเทพกรีฑาตอนต้น เพราะใกล้ถนนหลักอย่างศรีนครินทร์ รามคำแหง มอเตอร์เวย์ เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกเพราะมีทางลัดเลาะได้ ตัวโครงการมีความเป็นส่วนตัวสูง มียูนิตน้อยไม่วุ่นวาย มีสไตล์และ Concept ของโครงการชัดเจน อีกทั้งยังมีรูปแบบบ้านที่ไม่เหมือนใครได้เพดานสูงเป็นของเฉพาะ ครอบครัวขนาด 3-4 คน มีงบประมาณ 6.59 – 7.9 ล้านบาท หรือกำลังผ่อนชำระประมาณ 44,000 – 55,000 บาท/เดือน