รีวิวฉบับที่ 451 … Mr.Oe พามารับลมหนาวที่เขาใหญ่ แวะมาดูโครงการ The Pluris เขาใหญ่ ของ ภูธนรัตน์ กันครับ โครงการนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขา ริมถนนธนรัตน์ ทางขึ้นเขาใหญ่ ได้วิวภูเขาที่อิงขนาบอยู่ด้านข้าง ส่วนตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยวผสมคอนโดมิเนียม Low Rise ที่ออกแบบมาได้แปลกมากๆ จนคิดว่า ต้องหยิบยกมาวิเคราะห์กันเลยทีเดียว… โครงการนี้ ผมตั้งใจแวะมาดูบ้านนะครับ แต่เค้ายังทำบ้านตัวอย่างไม่เสร็จ เลยได้ดูแต่คอนโดมิเนียมไปก่อน ส่วนบ้านตัวอย่างและพื้นที่ส่วนกลาง เอาไว้ผมแวะไปเที่ยวเขาใหญ่อีกครั้ง จะเก็บข้อมูลมาฝากกันครับ 🙂

 

Fact @ 10 Oct 2013

  • The Pluris เขาใหญ่
  • Developer : ภูธนรัตน์
  • Condominium Class : MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • บ้านเดี่ยวตากอากาศ Segment 12-30 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยว 50 หลัง คอนโด Low Rise 4 ชั้น 1 อาคาร 5 ชั้น 5 อาคาร รวมคอนโด 314 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 14 ยูนิต
  • ที่จอดรถในช่องจอดประมาณ  50% (ไม่นับรวมจอดซ้อนและจอดริมถนนภายในโครงการ)
  • ที่ดินประมาณ 82 ไร่
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2557
  • Studio 34 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom 54 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms 86 ตารางเมตร
  • Duplex 3 Bedrooms 131 ตารางเมตร
  • คอนโดมิเนียม ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.5 ล้านบาท บ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท
  • คอนโดมิเนียมราคาต่อตารางเมตรประมาณ 67,000 – 85,000 บาท
  • ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า (Promotion ณ.วันที่ 10/10/56)
  • http://www.thepluriskhaoyai.com
  • โทร 084-426 4565, 084-262 4565

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

แผนที่โครงการ Pluris หาได้ไม่ยากเย็น สำหรับคนจะไปเขาใหญ่ต้องขับรถผ่านอยู่แล้ว ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนธนรัตน์ กม 4 ถ้าวิ่งไปเขาใหญ่ จะอยู่ด้านขวามือนะครับ ตัวทำเลโครงการจะอยู่บนเนินเขาที่มีแนวเขาเล็กๆ อยู่ด้านข้างโครงการ ไม่ได้ไปอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นะครับ เพราะมันเป็นเขตอุทยาน สร้างบ้านไม่ได้อยู่แล้ว

สภาพถนนธนรัตน์ ในช่วงวันธรรมดา ที่ไม่ใช่วันหยุดหรือเทศกาล จะโล่งกริบๆแบบนี้ แตกต่างจากช่วงเทศกาลหรือฤดูท่องเที่ยว ที่มักจะรถเยอะหนาแน่น รถมากครับโดยเฉพาะช่วงจุดสำคัญอย่างแหล่งกินเที่ยวหรือหน้าอุทยาน รถจะเยอะเป็นพิเศษ

เวลาเราขับรถเข้ามา วิ่งตรงไปเขาใหญ่ จะเป็นกิโลเมตรที่ 4 นะครับ จุดสังเกตก็ร้านรุ่งโรจน์ 1 ที่เป็นร้านอาหารชื่อดังแถวนี้

หรือถ้ากลัว งง ก็สังเกตป้ายนี้ก็ได้ “หมวดการทางปากช่องที่ 3” ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามโครงการพอดี … เจอป้ายนี้ให้เหยียบเบรคนุ่มๆ เปิดไฟเลี้ยวขวา ได้เลย

ผมยืนอยู่หน้า “หมวดการทางปากช่องที่ 3” มองไปฝั่งตรงข้าม นั่นแหละ ทางเข้าโครงการครับ

หน้าโครงการ จะต้องสังเกตกันดีๆหน่อย แม้ป้ายจะใหญ่ แต่ก็โดนต้นไม้บัง มองไม่ค่อยเห็นเวลาขับรถมา …ต้องเลยไปนั่นแหละถึงจะเห็นป้ายชัดๆ

ป้ายทางเข้าโครงการ …ตัวโครงการอยู่ติดถนนธนรัตน์เลยนะครับ แต่เค้าไม่สร้างบ้านหรือคอนโดติดถนน ซึ่งมันไม่สวยและวุ่นวาย เค้าจะร่นเข้าไปสร้างด้านใน ดังนั้น เราต้องขับรถเข้าไปในโครงการอีกครับ

 

 

เจาะลึกตัวโครงการ

Master Plan ของโครงการ ซึ่งมีทางเข้าออก 2 ด้านนะครับ ด้านหลักจะอยู่ทางถนนธนรัตน์ ส่วนทางเข้าออกรอง จะอยู่ด้านหลังโครงการ … ถามว่าทำไมต้องมีทางเข้าออก 2 ด้าน? เพราะมันสะดวกและ Private กว่าครับ ทางออกรองนี่ จะเชื่อมออกถนนรอง ซึ่งในอนาคตจะมีถนนมอเตอร์เวย์ตัดผ่านไม่ไกลนัก จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวกับรถติดบนถนนธนรัตน์ในช่วงเทศกาล (โครงการขยายถนนขึ้นเขาใหญ่ ทำได้ยากยิ่งครับ อย่าไปหวังอะไรมาก) … อ้อ ยังมีข้อดีอีกข้อครับ สำหรับคนรถโหลดเตี้ยหรือรถสปอร์ต เพราะถนนหลังทางเข้าด้านหน้า ทางโครงการปูหิน สวย คลาสสิคดี แต่มันทรมานช่วงล่างรถ และทำร้ายจิตใจเจ้าของรถ … ดังนั้นสามารถเลี่ยงไปใช้ถนนเรียบๆเนียนๆที่ด้านหลังจะสบายใจกว่า

ตัวโครงการ จัดมาเป็นบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมนะครับ เนื้อที่ดิน 80  ไร่ กับจำนวนผู้พักอาศัย (บ้าน 50 หลัง คอนโด 314 Units) ถือว่าหลวมๆสบายๆ ด้วยมีเนื้อที่ส่วนกลางมาก โครงการขุดดินทำเป็น Lake แต่น้ำหมุนวน อยู่กลางโครงการ มีสวนและทางเดินล้อมรอบ และมีเกาะกลาง Lake ซึ่งแบ่งเป็นที่ดิน 6 แปลง ซึ่งยังไม่เปิดขายนะครับ ดังนั้นเห็นเขียวๆ อยู่เป็นเกาะกลาง Lake นี่ไม่ใช่สวนส่วนกลางนะจ๊ะ 🙂

โครงการมี Club House ที่อยู่ใกล้กับทางออกรองด้านหลัง ซึ่งมีสระว่ายน้ำ Fitness มี Jogging Track และมีหอพระอยู่ใกล้ๆกับ Club House ด้วย … ส่วนด้านหน้าที่เป็น Sales Office ในตอนนี้ เมื่อขายหมดแล้ว ก็จะปรับเปลี่ยนเป็น อย่างอื่นต่อไปครับ ซึ่งยังไม่ได้แจ้งว่าเป็นอะไร

รูปทางเข้าด้านหน้าโครงการ ประตูทางเข้า ขนาดใหญ่เน้นงานไม้และหิน ส่วนอาคารที่เห็นนี้คือ Sales Office สำนักงานขาย ส่วนพื้นถนน เค้าปูหินก้อนใหญ่สลับกับหญ้า แบบนี้เลยครับ

รูป ภาพรวมโครงการทั้งหมด จะเห็นแนวเขาที่โอบโครงการทางซ้าย ซึ่งของจริงไม่ได้ใกล้ขนาดนี้ และไม่ได้ดูเยอะขนาดนี้ …ตัวโครงการอยู่บนเนิน และมีทิวเขาระยะใกล้ๆ ซึ่งทำเลคอนโดแต่ละห้อง และแต่ละตึก จะได้วิวไม่เหมือนกันนะครับ แนะนำให้ไปยืนเล็งจากสถานที่จริง … อย่าดูจากรูป หรือโมเดลครับ ของจริงแน่นอนกว่า

รูปภาพ ภายในโครงการ จากมุมมองทางด้าน Club House

รูปภาพการจัด Land Scape ภายในโครงการ ซึ่งของจริง จะมีความลาดเท เนิน และ Slope ที่ดูน่าสนใจเป็นธรรมชาติแต่เดิมอยู่แล้ว เพราะโครงการตั้งอยู่บนเนินเขาไม่ใช่ที่ราบ

ตัวคอนโด จะไม่สูงนะครับ อยู่แค่ระดับ 4 ชั้น (ตึก A) และ 5 ชั้น (B-C-D-F-G) ส่วนนี่คือ ห้องที่หันสู่ Lake View

รูปภาพมุมมองจากระเบียงคอนโด

รูปแบบของบ้านเดี่ยวที่นี่หลายๆหลัง จะหันหลังพิงเขา หันหน้าเข้า Lake นะครับ

หน้าตาบ้านเดี่ยวของ Pluris

บ้านหน้าตาทันสมัยแนว Modern นะครับ ไม่ได้มีธีมฝรั่งเศส หรืออิตาลี แบบที่คนนิยมไปถ่ายรูปกัน

ถนนเข้าโครงการทางด้านหน้า นี่เพิ่งปูหินเสร็จ หญ่้ายังไม่ติดดีเลย

สองข้างทางปลูกดอกไม้ และลงต้นไม้ใหญ่ แปลกตาไว้หลายต้นแล้ว… บางต้นในนี้ราคาเกินต้นละแสนครับ เป็นไม้หายากที่มีขนาดใหญ่มาก อย่างพวก เรนโบว์ ยูคาลิปตัส ก็มีอยู่หลายต้น

Screen Shot 2556-10-18 at 3.42.32 AM

หน้าตา Rainbow Eucalyptus ที่มีอยู่หลายต้นในโครงการ .. นี่สีต้นไม้จริงนะครับ ไม่ได้มีใครไปป้ายสีเล่น แต่กว่าจะได้แบบนี้ ต้องรอจนต้นใหญ่พอสมควร (หมายเหตุ รูปนี้เอามาจากในเน็ตนะครับ ไม่ได้ถ่ายเองจากโครงการ)

สำนักงานขาย อยู่หน้าประตูทางเข้าโครงการครับ เห็นต้นไม้ที่ลำต้นตรงๆยังกะเสา สองสามต้น ที่อยู่ติดๆอาคารสำนักงานขายไหม … นั่นแหละครับ เรนโบว์ ยูคา แต่นี่เพิ่งเอามาลงไม่นาน คงต้องทิ้งไว้อีกนาน กว่าจะสวยหลากสี

Counter ต้อนรับ ในสำนักงานขาย ซึ่งเน้นไม้จริงมาก เพราะเจ้าของเขาชอบไม้เป็นชีวิตจิตใจ

ภายในสำนักงานขาย ที่ต่อไป จะปรับเป็นร้านอาหาร หรือ Gallery ก็ต้องรอดูต่อไป

ป้ายชื่อโครงการ

โมเดลโครงการ ให้ดูภาพรวมและสเกลที่ดูง่ายขึ้น … แต่ตัวโมเดลขาดของสำคัญไปอย่างหนึ่งคือ ดันทำมาเป็นแนวราบ ไม่ได้ใส่ Slope ของพื้นที่ดินลงไป ทำให้ไม่ได้ภาพที่แท้จริง ซึ่งถ้าเป็นโครงการทั่วไป ก็คงไม่กระไรนักหรอก แต่นี่เป็นโครงการบนเนินอิงเขา Slope และเนิน จึงสำคัญ ผมแนะนำให้นั่งรถกอล์ฟดูพื้นที่จริงครับ

ถ่ายให้ดูพื้นที่ส่วนกลาง ที่อิง Lake ด้านในเป็นหลัก

กลุ่มบ้านเดี่ยว

ทางเข้าออกรองที่ด้านหลังโครงการ

รูปแบบอาคารคอนโด ซึ่งแปลกตามาก เพราะจะบิดตึกเป็นทรงโค้ง (ตึก B-C-D-F-G) และแยกผนังกัน ให้ทุกห้องรับวิวและรับลมได้เต็มที่ เพราะมีช่องเปิดสอง-สามด้าน

ส่วนคอนโดตึก A จะประหลาดออกไปอีก เพราะออกแบบตึกเป็นตัว S และแยกผนังห้องออกจากกันเช่นเดียวกัน… อาคารลักษณะนี้ สิ้นเปลืองค่าก่อสร้าง เสียพื้นที่ขาย และทำยากกว่า แบบผนังติดๆกัน แต่ได้ Privacy และได้รับวิวเต็มๆ รวมถึงสายลมเย็นสามารถพัดผ่านเข้าห้องได้สะดวก ด้วยมีช่องเปิดให้ลมเข้าออกอย่างน้อย 2 ด้านโดยไม่ต้องเปิดประตูห้อง

อาคาร A อีกมุม

 

เดี๋ยวผมพาไปเดินดูด้านในโครงการครับ ซึ่งตอนนี้กำลังปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลางกันอยู่ ก่อนปีใหม่คงสวยพร้อมกว่านี้…

ประตูทางเข้าด้านหน้าโครงการ เน้น ไม้จริงและหินแท้

ประตูด้านนี้ จะมีป้อมรปภ คอยดูแลอยู่

ประตูอีกด้าน ยังทำไม่เสร็จนะ

จะเห็นว่า โครงการเขายังมีรถใหญ่ รถปรับดินอะไรวิ่งอยู่ ดังนั้น พื้นถนนที่เป็นพื้นหิน เขาจะยังไม่ทำให้มันเรียบร้อยสมบูรณ์นะ ต้องให้พวกพี่ๆรถตีนตะขาบพวกนี้ออกไปจาก site ให้หมดก่อน ค่อยมาทำถนนใหม่ .. ไม่งั้นหินพังหมดครับ

ภาพจากมุมบน ให้ดูพื้นที่ส่วนกลางที่เค้ากำลังขุดเป็น Lake และทำ Jogging Track รอบ Lake จะมีการปรับ Land Scape ของพื้นที่ให้มีเนิน มีทางลาด ที่ได้บรรยากาศของบ้านเชิงเขา ซึ่งถ้าเราไม่มาเดินดูของจริง ก็จะไม่ทราบ เพราะในรูปหรือในโมเดล มันไม่มี Slope ครับ

ภูเขาลูกเล็กๆ ที่โอบอยู่ด้านข้างของโครงการ มองเห็นได้สบายๆโดยเฉพาะพวกคอนโด ห้อง Mountain View ได้วิวเขาเต็มๆ

แนวทิวเขาอีกมุม

ทิวเขา ที่ต่อเนื่องไปเชื่อมกันเป็นเขาใหญ่.. ซึ่งจะค่อยๆสูงขึ้นๆ ไปจนถึงแนวเทือกเขาสูงในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ครับ

ภายในโครงการ ส่วนไหนๆ ก็จะมองเห็นภูเขาแบบนี้

พื้นที่ก่อสร้างคอนโด ที่จะค่อยๆลาดชันตามแนวเขาขึ้นไปเรื่อยๆดูเหมือนเป็นแนวราบ แต่จริงๆแล้วลาดชันนะครับ อย่างอันนี้จะชันขึ้นเขา (คนเล่นกอล์ฟ จะพอเข้าใจ) ดูรูปข้างล่างจะเข้าใจง่ายขึ้น

ผมยืนอยู่จุดเดียวกับรูปข้างบน แต่ถ่ายไปด้านตรงข้าม ซึ่งเป็นแนวลาดชันลงเนินไป … ดังนั้น การซื้อโครงการที่อยู่บนเนินแบบนี้ มีความจำเป็นอย่างมากนะครับ ที่เราต้องมายืนดูพื้นที่จริง เพราะทั้งวิว และความลาดชัน มันมีผลต่อความสวยงามของบ้าน และห้อง ที่แตกต่างกันครับ

พื้นที่ก่อสร้างโครงการ ที่กำลังลงมือปรับกันอยู่ ซึ่งมีการขุดปั้น Land Scape กันใหม่ครับ

คนงานกำลังก่อสร้าง “หอพระ” ซึ่งจะอยู่ติดกับ Club House …

ให้ดู เสาไม้เก่าโบราณ ที่เจ้าของโครงการ ลงทุนเอามาหั่นทำ “หอพระ” ซึ่งเน้นวัสดุไม้จริง และเราจะเจอวัสดุไม้จริง ไม้แท้ ในแทบจะทุกที่ของโครงการ เพราะเจ้าของเค้าเป็นคนที่ชอบไม้จริงครับ… เอ่อ เสาต้นขนาดนั้นนี่ ไม่ใช่แค่แพงนะครับ แต่หายากด้วย ไม่ค่อยจะมีใครเขาเอามาทำพื้นที่ส่วนกลางกันครับ นอกจากพวกโรงแรมหรือรีสอร์ท

Pluris เขาใหญ่ 77

งานก่อสร้าง และงานไม้พวกนี้ จะกระจายอยู่รอบๆโครงการ อย่างเช่นทางเดินรอบ Lake นี้ ก็จะมี Deck ไม้จริง พร้อมเก้าอี้นั่งเล่นพักเหนื่อย กระจายอยู่ตลอดเส้นทาง

พื้นไม้ นี่ปูเป็นทางเดินเล่นริม Lake นะครับ … ไม้จริงล้วนๆ

ตัว Lake และ Land Scape ที่ยังไม่ได้เสร็จสมบูรณ์ และยังไม่ใส่ระบบการหมุนเวียนน้ำ รออีกสักระยะครับ กว่าจะใส

 

Floor Plan ของคอนโด จะมีแค่สองแบบนะครับ คือแบบตึก A ที่เป็นรูปตัว S กับแบบตึก B-C-D-E-F-G ที่เป็นรูปตัว C  เราไปดูแบบตึก A กันก่อน

Floor Plan ตึก A ชั้น G  ซึ่งก็มีห้องพักอาศัยแล้ว.. ชั้นนี้ จะเห็นวิวน้อยแต่อยู่ติดสวน ผังอาคารนี้ออกแบบมาโดยต้องการให้แต่ละห้องได้วิวเต็มที่ เลยเอียงรับวิวตามแนวเขาและพื้นที่แบบนี้ เป็นการออกแบบอาคารให้อิงกับพื้นที่ และพยายามแยกผนังกัน ซึ่งห้องสีเขียวผนังจะไม่ติดใครเลย ส่วนห้องอื่นๆก็จับคู่กัน ผนังติดกันด้านหนึ่ง ทำให้ได้ช่องเปิดสองด้าน (คล้ายห้องมุมในคอนโดทั่วไป) ได้ลม วิว และ Privacy ที่ดีกว่าห้องติดๆกันเป็นพืดแน่ๆ

ห้องด้านบน จะเป็นวิวภูเขา ห้องด้านล่างจะเป็นวิวด้านในโครงการนะครับ การจอดรถ จอดที่ลานจอดด้านข้างอาคาร แล้วเดินเข้ามาทางส่วน Lobby  ซึ่งสามารถเปิดผนังรับลมธรรมชาติได้ ทั้งตึกมี 54 ห้อง มีแค่ 4 ชั้น ชั้นละ 12-14 ห้อง มีลิฟท์โดยสาร 1 ตัวครับ

Floor Plan ชั้น 2และชั้น 3 จะคล้ายชั้น 1 เพียงแต่มีห้องเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ห้อง รวมเป็น 14 ห้องต่อชั้น

Floor Plan ชั้น 4 ก็คล้ายชั้น 3 แตกต่างกันตรงที่ ปรับห้อง 2 Bedroom ให้เป็นห้อง Duplex 3 Bedrooms ที่เห็นเป็นสีเขียวนั่นแหละครับ

ตึก B-C-D-E-F หน้าตาเหมือนกันนะครับ เลยยกเอา Floor Plan ของตึก D มาให้ดู ซึ่งมีห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น G ตึกนี้มี 5 ชั้น 52 Units ชั้น G มี 10 Units มี Lobby สีเหลืองๆ อยู่ตรงกลางด้านหน้าตึก รูปแบบห้องยังคง Concept แยกผนังเหมือนเดิม แต่ห้องที่ผนังไม่ติดใครเลยอย่างแท้จริงมีแค่ห้อง 2 Bedroom นะ ที่เหลือจะจับคู่กัน… ลิฟท์โดยสารมี 1 ตัวต่ออาคาร

ชั้น 2 คล้าย ชั้น 1 เพียงแต่ตัด Lobby ออกไป

ชั้น  3 คล้าย ชั้น 2 แต่มีห้องเพิ่มมาหนึ่งห้องตรงตำแหน่ง Lobby ชั้นนี้เลยมี 11 units

ชั้น 4 เหมือนชั้น 3 แต่ว่า ตรงตำแหน่งห้องที่ตรงกับ Lobby จะกลายเป็นห้อง Duplex ครับ

ชั้น 5 ตำแหน่งห้อง 2 Bedrooms จะกลายเป็นห้อง Duplex 3 Bedrooms แทน

 

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Club House ที่มีสระว่ายน้ำ และ Fitness
  • หอพระ
  • Lobby
  • Lake และสวนหย่อม พร้อม Jogging Track และ Bike lane รอบ Lake
  • ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ ตึก A 54:1 ตึก B, C, D, E, F, G  52:1
  • ที่จอดรถในช่องจอด ประมาณ 50% (จอดซ้อนคันและถนนภายในโครงการได้ เยอะมาก)
  • ระบบ CCTV / Access Card

 

 

Product Walkthrough

ห้องตัวอย่างมีให้ดู 3 ห้อง คือห้อง Studio 34 ตารางเมตร, ห้อง 1 Bedroom 54 ตารางเมตร และห้อง 2 Bedrooms 86 ตารางเมตร ผมจะพาไปดู 2 ห้องนะครับ เพราะห้อง 2 Bed ยังจัดไม่เสร็จเลย

ผังห้อง Studio 34 ตารางเมตร ที่ได้ระเบียงและห้องน้ำค่อนข้างใหญ่ อารมณ์ประมาณห้องพักในโรงแรมหรือรีสอร์ท ส่วนห้องครัวเป็นครัวเปิด ได้ Pantry ตัว L ส่วนห้องน้ำเป็นประตูบานเลื่อน และมีช่องเปิดระบายอากาศ

ระยะพื้นถึงฝ้าของห้องคือ 2.8 เมตร พื้น Engineering wood และในตอนนี้โครงการขายแบบ แถมเฟอร์และชุดครัว รวมถึงเครื่องไฟฟ้านะครับ

ประตูห้องบานไม้ พร้อมซับวงกบ อย่างหนา…

พื้นห้องจะยกระดับขึ้นมาจากโถงทางเดินเล็กน้อย

ได้ตัว Digital Door Lock ซึ่งจะแถมมาเป็นของ Hafele

ความที่เป็นห้อง Studio พอเปิดประตูเข้ามาก็อารมณ์ประมาณนี้ครับ คือเจอเตียงและอาร์มแชร์นั่งเล่น

มองย้อนกลับไปที่ประตู จะเจอตู้เสื้อผ้าอันใหญ่มาก ซึ่งในความเป็นจริงบ้านตากอากาศแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องใหญ่ขนาดนี้ก็ได้ แต่เนื่องจากห้องนี้ ไม่มีตู้เก็บของอย่างอื่นแล้ว เราก็สามารถ เก็บของต่างๆ ในตู้นี้ได้

พื้นที่ ที่เว้าเข้าไปจัดเห็นครัว ถ้าอยากจะได้เป็นครัวปิด ก็กั้นได้ แต่เปิดโล่งไว้ดีกว่า ถ้าไม่ได้เน้นทำอาหารจริงจัง

Top Counter  เป็นแกรนิตดำ มีเตาและที่ดูดควันพร้อมตู้เย็นและไมโครเวฟให้เสร็จสรรพ

ตู้เสื้อผ้า และตำแหน่งการติดตั้งแอร์ ซึ่งห้องจริงจะได้ แอร์ SAMSUNG ครับ

เตียงนอนของจริงเค้าจะแถมขนาด 6 ฟุตมาให้นะครับ ไม่ได้เล็กแบบในห้องตัวอย่างนี้

ปลายเตียงติดทีวีแขวนผนังได้

ระเบียงด้านนอก ให้พื้นที่มาใหญ่ขนาดปูเสื่อนั่งล้อมวงนับเลข และดูดาว สี่ห้าคนสบายๆ

ชุดประตูหน้าต่างจะเป็นกระจก กรอบอลูมิเนียม power coating

พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องกันลื่น เรียบๆ ลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อย ต้องคอยระวังไม่ให้มีอะไรอุดตันท่อที่ระเบียง เพราะถ้าน้ำขังสาดเข้าห้องได้นะ เพราะระดับพื้นต่างกันไม่มาก

พื้นที่ระเบียง ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ไม่มีคอมแอร์เกะกะ

ความแตกต่างของวัสดุระหว่างพื้นห้องนอนและห้องน้ำ เขาคั่นด้วยไม้แผ่นนะครับ และตัวพื้นห้องน้ำแทบจะระดับเท่าห้องนอนเลย

ประตูห้องน้ำเป็นบานเลื่อนนะ

ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ ซึ่งได้สุขภัณฑ์ของ KOHLER ครบ set

ระยะยืน และทำธุระในห้องน้ำ ตามมาตรฐาน

อ่างล้างหน้า วางบนเคาน์เตอร์หิน มีที่เก็บของพอประมาณ… ตำแหน่งปลั๊กไฟน่าหวาดเสียว ติดให้สูงกว่านี้หรือเป็นปลั๊กกันน้ำก็ดีนะครับ

หน้าต่างรับแสง และระบายอากาศ อยู่ติดกับอ่างล้างหน้า

Shower Box ติดฉากกั้นอาบน้ำและประตูเป็นกระจกนิรภัยเรียบร้อย

พื้นที่ยืนอาบน้ำ พื้นลดระดับและขนาดพื้นที่ยืนอาบคนเดียวสบายๆ

ชุดฝักบัวที่ใช้กับเครื่องทำน้ำร้อน ซึ่งโครงการแถมเครื่องทำน้ำร้อนของ Stiebel ขนาด 6,000 วัตต์มาให้

 

 

ผังห้อง 1 Bedroom 54 ตารางเมตร ที่มีอะไรๆ ให้ดูเยอะขึ้นหน่อย ตัวห้องออกแบบมาเป็นบ้านตากอากาศแท้ๆ ไม่ใช่ไปเอาผังห้องโครงการในเมืองมาตั้งที่นี่ ดังนั้น จึงเน้นเรื่องการรับวิว แสง และสายลม เต็มที่ ขนาดห้องน้ำยังพยายามเอียงผนังเอาวิวและลม  ตัวระเบียงออกแบบให้ได้วิวจากทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอน และยอมเสียพื้นที่วางทีวีไปอยู่เอียงๆ และทำผนังเลื่อนเปิดปิดได้กั้นส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนแทน … ห้องนี้ไม่เน้นการใช้ประโยชน์พื้นที่ทุกตารางนิ้ว แต่ทำออกมาให้มันดูโล่งๆสบายๆมากกว่า

ระยะพื้นถึงฝ้า 2.8 เมตร พื้น Engineering wood โครงการขายแบบ แถมเฟอร์และชุดครัว รวมถึงเครื่องไฟฟ้า

ประตูห้องเหมือนห้อง Studio

เปิดเข้ามาในห้องจะเจอส่วน Living Area โล่งๆแบบนี้

มองย้อนกลับไปที่ประตู … ห้องนี้อย่าเพิ่งตกใจนะครับ นี่เขาแต่งห้อง Built ห้องให้ดูตามประสาคนชอบงานไม้ .. เพราะตัวห้องจริงที่ขายจะเรียบๆ ผนังฉาบเรียบทาสีธรรมดา ฝ้าเรียบธรรมดา ไม่ได้กรุไม้มาเต็มห้องแบบนี้ .. อ้อ เฟอร์ห้องนี้ ไม่ได้แถมแบบนี้ ไม่ตรงกับที่โครงการจะให้นะครับ เพราะอย่างที่บอก เป็นห้องแต่งโชว์… ก่อนจะซื้อขอดู List เฟอร์ที่แถมก่อนให้เข้าใจตรงกันนะครับ จะได้ไม่ทะเลาะกันทีหลัง

Counter Pantry ได้เป็นตัว L ขนาดค่อนข้างใหญ่ ใหญ่กว่าบางบ้านที่ทำครัวประจำด้วยซ้ำไป ซึ่งบางคนมาเที่ยวไม่ได้ทำครัว ก็เสียพื้นที่เหมือนกัน

โต๊ะนั่งทานข้าว

ตำแหน่งตู้วางรองเท้า

ระยะนั่งดูทีวี ระดับสามเมตรนิดๆ จัดทีวีติดผนังใหญ่ๆ 55-60 นิ้วไปเลยครับ จะได้นอนดูบนเตียงได้ด้วย (เตียงอยู่หลังโซฟา สามารถมองผ่านโซฟาได้)

ผนังส่วนวางทีวี Built ได้เต็มที่ พื้นที่และระยะสบายๆ

ระเบียง ใหญ่ นั่งได้หลายคนครับ

ผนังกรุไม้ที่ระเบียงนั่น เขาทำมาให้แบบนี้เลยนะ

ระเบียงอีกด้าน

ห้องนอน และ Living Area เวลาเปิดผนังออก จะเชื่อมต่อกันแบบนี้ นอนดูทีวีจากเตียงได้ ถ้าทีวีใหญ่พอ

ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว ก็เลื่อนผนังปิดกั้นห้องได้

ปิดแล้วจ้ะ 🙂 … อ่อ โซฟาไม้จริงอันนี้ ไม่แถมนะครับ ตัวนี้ แพงแน่ๆ …

ชุดผนังบานเลื่อน

ห้องนอน ได้เตียง 6 ฟุตนะครับ

พื้นที่รับวิวของห้องนอน ก็เยอะเช่นกัน ได้กระจกตั้งแต่พื้น เกือบชนเพดาน

เวลาอยู่บนเตียง สามารถนอนดูทีวีได้นะ แต่อย่างที่บอก ต้องจอใหญ่ 55-60 นิ้วนี่โอเคล่ะ

นี่อารมณ์ เวลาเลื่อนผนังปิด … สามารถติดทีวีแขวนผนังเพิ่ม ตรงส่วนที่เอียงๆด้านขวานั่นได้ เขาเดินปลั๊กและเคเบิ้ลให้แล้ว

ห้องน้ำ จะเป้นส่วนแห้ง พื้นระดับเดียวกะห้องนอนเลย

ประตูห้องน้ำนี่ก็บานเลื่อน

ตู้เสื้อผ้าเอามาไว้ในห้องน้ำส่วนแห้ง

ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าฝัง Counter ติดหินแม่น้ำ ให้มันดูอารมณ์รีสอร์ทเข้าไป

พื้นที่ยืนอาบน้ำ และพื้นที่ของโถสุขภัณฑ์ ปรองดองกันได้ลงตัวดีแล้ว … โถสุขภัณฑ์ได้อยู่ติดกับหน้าต่างรับวิวและลม แลกมากับตำแหน่งที่แขวนกระดาษทิชชู่ที่จะติดด้านซ้ายมือของคนนั่งไม่ได้ ทำให้หยิบลำบากขึ้นเล็กน้อย

ฝักบัวและชุด Rain Shower

พื้นที่นั่งทำธุระส่วนตัว … เห็นที่แขวนทิชชู่ไหมครับ เขาย้ายมาอยู่ด้านซ้ายของรูป หยิบยากขึ้นอีกนิด แต่ดีที่สุดเท่าที่จะหาที่วางได้แล้ว บางโครงการเอาไปแขวนด้านผนังด้านหลังเรา เอื้อมไปหยิบทีเอวแทบเคล็ด…ดีนะผมยังอายุไม่มาก

หน้าต่างส่วนรับแสง และลม ที่อยู่ในห้องน้ำ

 

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10/10/2013

  • Studio เนื้อที่ 34 ตารางเมตร อาคาร A ชั้น 2 Lake View  ราคา 2.55 ล้านบาท หรือ 75,000 บาทต่อตารางเมตร
  • Studio เนื้อที่ 34 ตารางเมตร อาคาร A ชั้น 3 Mountain View  ราคา 2.62 ล้านบาท หรือ 77,000 บาทต่อตารางเมตร
  • 1 Bedroom เนื้อที่ 59 ตารางเมตร อาคาร A ชั้น 2 Lake View  ราคา 4.00 ล้านบาท หรือ 67,800 บาทต่อตารางเมตร
  • 1 Bedroom เนื้อที่ 54 ตารางเมตร อาคาร A ชั้น 3 Mountain View  ราคา 4.15 ล้านบาท หรือ 76,850 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedrooms เนื้อที่ 80 ตารางเมตร อาคาร A ชั้น 2 Lake View  ราคา 5.93 ล้านบาท หรือ 74,125 บาทต่อตารางเมตร
  • Duplex 3 Bedrooms เนื้อที่ 131 ตารางเมตร อาคาร A ชั้น 4 Lake View  ราคา 10.83 ล้านบาท หรือ 82,600 บาทต่อตารางเมตร

  •  Fully Furnished ให้เฟอร์ตามรายการ (แต่ละห้องไม่เหมือนกัน) พร้อมเครื่องไฟฟ้า
  • เพดานสูง 2.8 เมตร
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 5% ดาวน์ 15% ผ่อนดาวน์ 12 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

 

เจาะลึกรวบยอด

The Plusris เขาใหญ่ เป็นโครงการบ้านตากอากาศ บ้านหลังที่สอง ที่อยู่ในทำเลเขาใหญ่ ระยะขับรถจากกรุงเทพประมาณ 160 กิโลเมตร ใช้เวลาขับราวๆ 2 ชั่วโมงแบบสบายๆไม่เร่งรีบ เพราะเชื่อว่า ชั่วโมงนิดๆนี่มีคนทำได้กันไม่ยากนัก ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนธนรัตน์ ช่วงกิโลเมตรที่ 4 ถือว่ายังต้นๆ ไม่ได้เข้าไปลึกมากนักจากถนนมิตรภาพ ซึ่งถ้าจะไปถึงตัวอุทยาน ต้องมีอีก 20 กิโลเมตร… ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อด้อย ข้อดีคือสะดวก เข้าออกง่าย ไม่ต้องไปรถติดกับชาวบ้านเขาในช่วงเทศกาล เวลาอากาศเย็น แถวนี้ก็เย็นใช้ได้เช่นกัน… ข้อด้อยคืออารมณ์ ที่มันไม่ได้ไปสัมผัสเขาใหญ่ถึงตีนเขา.. เรียกว่าขาดอารมณ์ร่วมในความเป็นอุทยานเขาใหญ่นั่นเอง

ตัวทำเลที่ตั้งของโครงการ วางอยู่บนเนิน ที่โอบล้อมด้วยทิวเขาเล็กๆ มองเห็นภูเขาในระยะไม่ไกล และ ถอยร่นจากถนนธนรัตน์ไปไกลพอสมควร ซึ่งเมื่อปรับ Land Scape ของโครงการหมดแล้ว ก็คงจะได้อารมณ์บ้านบนเนินเขาเช่นกัน ซึ่งการเลือกบ้านตากอากาศในทำเลแบบนี้ สิ่งสำคัญสุดๆ ที่ควรพิจารณาคือเรื่อง วิว และสายลม … ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่ต้องไปเล็งเหลี่ยมเล็งมุมห้องด้วยตัวเอง เพราะแต่ละคนชอบวิวไม่เหมือนกันนะครับ บางคนชอบทิวเขาสูงตระหง่าน บางคนชอบมองลงเนินโล่งๆ บางคนชอบวิวด้านในที่มี Lake มีสวน มีทางวิ่ง ทางจักรยาน เพื่อจะได้เฝ้ามองดูลูกหลานกันไป… เรื่องพวกนี้เป็นความแตกต่างจากการเลือกบ้านในเมือง เพราะบ้านตากอากาศ เราใช้ “อารมณ์และความพอใจ” หาใช่ ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป

ความอุดมสมบูรณ์และแหล่งกินเที่ยว รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆโครงการ จัดว่า มีเยอะพอควร และอยู่ในระยะขับรถไปไม่ลำบาก ร้านอาหารนี่เยอะมากบนถนนธนรัตน์ ส่วนร้านค้า และ Super Market ก็อยู่ไม่ไกลขับรถในระยะไม่เกิน  10 นาที… สถานที่ท่องเที่ยว ก็คงเน้นกิจกรรมที่เขาใหญ่ และรายรอบ ซึ่งมีให้เลือกทั้งฝั่งเขาใหญ่และปากช่องนะครับ

การออกแบบโครงการ ถือว่าตั้งใจออกแบบให้ ได้วิว และสัมผัสธรรมชาติเต็มที่ รวมถึงไม่ให้หนาแน่นและเสีย Privacy จนเกินไป โครงการเนื้อที่ระดับ 80 ไร่ แต่เลือกออกแบบตึกเล็กๆ 52-54 Unit แค่ 7 ตึก กระจายๆกันไป และเมื่อลองดูผังอาคาร ที่พยายามบิดตึก ให้รับวิว และแยกผนังแต่ละห้อง ถือว่า โครงการเลือกทางยากและเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าตึกทั่วไป… แต่แน่นอนว่าการออกแบบลักษณะนี้ ประโยชน์จะตกอยู่ที่ผู้พักอาศัยเป็นสำคัญครับ

วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ถือว่าให้ของมาครบ และดีเหมาะสมกับระดับราคา เมื่อพิจารณาถึงเงื่อนไขการขาย ในเดือนตุลาคม 2556 นี่้นะครับ ที่ได้ Full Fur + เครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด ซึ่งหากเงื่อนไขนี้เปลี่ยนไป หรือมีการปรับระดับราคาขึ้น ก็ต้องพิจารณากันใหม่อีกครั้ง

Facility ที่จัดมาบนเนื้อที่ดิน 80 ไร่ นอกจากของที่ได้ และเรื่อง Land Scape แล้ว ผมอดที่จะพูดถึงสิ่งเล็กๆน้อยๆที่สำหรับผม ถือว่าเป็นของมีค่า แต่คนมักจะมองข้ามไปไม่ได้… คือการเลือกวัสดุที่มีคุณค่า และให้ของดีแค่ไหน ใช้งานได้จริงไหม สำหรับ Facility ส่วนกลาง ซึ่งเป็นสมบัติร่วมกันของลูกบ้านตลอดไป The Pluris นี่จัดว่าให้มาเยอะมาก เพราะของที่ได้นี่ไม้จริง หินจริง Size ขนาดที่หาได้ยาก แต่เขายังกล้าจัดมาให้ ทั้งๆที่สามารถใช้วัสดุอื่น ก็ดูดีได้ แต่อาจไม่ทนทานและมีคุณค่าเท่า นี่ไม่นับพวกต้นไม้ใหญ่ ไม้หายาก ที่จัดมาให้ แทบจะเต็มพื้นที่ครับ

 

 

Judgement

โครงการบ้านตากอากาศ ใช้ความคุ้มค่าทางอารมณ์ เป็นตัวตัดสินมากกว่า ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป ทางเราจึงยังไม่มีเกณฑ์การให้คะแนนที่เหมาะสมนะครับ แนะนำให้ไปดูและใช้ใจตัวเองเป้นตัวตัดสิน (หลังจากคนที่บ้านอนุมัตินะครับ เพื่อความปลอดภัย)

  • MAIN  CLASS 

BOTTOM LINE

The Pluris เขาใหญ่ เป็นบ้านตากอากาศ ที่เหมาะกับคนชอบภูเขา อากาศเย็นๆ และมีระยะขับรถจากกรุงเทพประมาณ 2 ชั่วโมง มองหาบ้านตากอากาศที่มีวิวภูเขาจริงๆ และมี Facility รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางมาก ชอบความ Private มีงบประมาณเย็นๆในระดับ 2.5 – 30 ล้าน ไม่แนะนำให้กู้เยอะนะครับสำหรับบ้านตากอากาศ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ