รีวิวฉบับที่ 1345 … สวัสดีค่ะ วันนี้พาไปรีวิวคอนโด The Parkland ศรีนครินทร์ จาก นารายณ์ โครงการตั้งอยู่ใกล้แยกศรีลาซาล ในแปลงที่ดินขนาดใหญ่ที่ทางนารายณ์ซื้อไว้ แล้วค่อยๆ ทำโครงการบ้านและคอนโดฯ มาขาย ภายในพื้นที่ของนารายณ์มีคอมมูนิตี้มอลล์ที่โครงการทำไว้เพื่อความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยของลูกบ้าน ตัวโครงการเป็นหมู่ตึกคอนโด High Rise 5 อาคาร เน้นพื้นที่เปิดโล่งเป็นสระและสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ มีห้องให้เลือกทั้งแบบ 1-2 ห้องนอน จะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ

Fact @ 10 May 2017

  • Parkland Srinakarin (เดอะ พาร์คแลนด์ ศรีนครินทร์)
  • บริษัท นารายณ์พร็อพเพอตี้ จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางพลี สมุทรปราการ
  • คอนโด High Rise 16 ชั้น 4 อาคาร และ 18 ชั้น 1 อาคาร ทั้งหมด 1,210 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 60 % (จากการสอบถาม Agency)
  • ที่ดินประมาณ 17-0-30 ไร่
  • แล้วเสร็จ : ปี 2008
  • 1 Bedroom 34.09 – 69.97 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 57 – 101.36 ตร.ม.
  • ราคาห้องมือสองในปัจจุบันประมาณ 46,000 – 55,000 บาท/ตร.ม. แล้วแต่ชั้นและทำเล

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.653903, 100.644404

แผนที่จากทางโครงการ The Parkland ศรีนครินทร์ อยู่ในซอยลาซาลก่อนถึงโรงพยาบาลศิครินทร์ ในอนาคตถนนศรีนครินทร์ เป็นเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือสถานีศรีลาซาลค่ะ

โครงการ The Parkland ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ในซอยลาซาลฝั่งขวา จากแยกศรีลาซาลเข้ามาประมาณ 200 เมตร อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลศิครินทร์ ในอดีตซอยลาซาลเป็นซอยตันที่เชื่อมกันเป็นเส้นเดียว ก่อนที่จะถูกถนนศรีนครินทร์มาตัดแยก (ที่แยกศรีลาซาล) ทำให้ซอยลาซาลถูกแยกออกเป็น 2 ฝั่ง มีความแตกต่างกันคือ ซอยลาซาลฝั่งซ้ายจะเป็นซอยทะลุเชื่อมถนนสุขุมวิทกับถนนศรีนครินทร์ มี ร.ร. นานาชาติบางกอกพัฒนากับร.ร.ลาซาล และหมู่บ้าน คอนโด หลายแห่งตั้งอยู่ในซอย ก็จะมีการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นมากกว่าซอยลาซาลฝั่งขวาที่เป็นซอยตันสั้นๆ ที่แม้ว่าจะมีคอนโด หมู่บ้าน และโรงพยาบาลตั้งอยู่เช่นกัน แต่มีจำนวนน้อยกว่า ทำให้ซอยฝั่งขวานี้การจราจรมีความหนาแน่นน้อยกว่า รถไม่ค่อยติด

ข้อดีของทำเลที่ตั้งโครงการอีกอย่างหนึ่งคือ การที่อยู่ในซอยลาซาลอิงกับถนนศรีนครินทร์ จึงอยู่ในช่วงต้นของถนนศรีนครินทร์ที่แยกออกมาจากถนนบางนา – ตราด จะได้เปรียบในเรื่องของการเดินทางที่สามารถเข้าออกถนนบางนา – ตราด ได้ง่าย ไม่ต้องใช้เวลารถติดบนเส้นศรีนครินทร์นานๆ ซึ่งเส้นศรีนครินทร์นี้ขึ้นชื่อว่ารถติดมากทีเดียวในช่วงเวลาเร่งด่วนนะคะ

สำหรับคนไม่ใช้รถ ก็เดินทางไม่ยากเพราะหน้าโครงการบนถนนลาซาลก็มีพี่วินมาจอดรอรับอยู่แล้ว ถ้าใครนั่ง BTS มาลงแบริ่งก็เดินมาขึ้นรถ 2 แถวในซอยลาซาล จะมีอู่รถสองแถวอยู่ฝั่งขวามือค่ะ เป็นวินรถแดงที่ใหญ่กว่ารถสองแถวทั่วไป เป็นรถ 6 ล้อ และ บ้างทีก็เป็นรถ mini bus สีแดงค่ะ วิ่งสุดซอยลาซาล 7 บาทตลอดสาย (นี่ก็ส่งถึงหน้าโครงการเลยค่ะ ประหยัดดี) 

ความอุดมสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินสำหรับโครงการ The Parkland ศรีนครินทร์ จะมีความพิเศษที่มีคอมมูนิตี้มอลล์ของนารายณ์อยู่ในที่ดินเดียวกันกับโครงการเลย ทำให้ลูกบ้านสามารถเดินออกมาทานข้าวที่คอมมูนิตี้ได้ โดยไม่ต้องเดินออกมาหน้าซอยลาซาลด้วยซ้ำ เป็นจุดเด่นของโครงการที่ทำให้ลูกบ้านอยู่ในโครงการได้อย่างสบายๆ แต่ถ้าอยากจะออกมาทานข้างนอกโครงการหน่อยก็มีให้เลือกเยอะเช่นกันค่ะ ในซอยลาซาลบริเวณใกล้ๆโครงการก็จะมีให้เห็นอยู่หลายร้านมากเลยนะคะ ส่วนใหญ่เป็นร้านเล็กๆ ริมทางที่ตกแต่งไว้น่านั่ง แต่ถ้าจะหาแบบที่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์บนถนนศรีนครินทร์ก็มีให้เลือกอยู่เยอะเช่นกัน เช่น Premier Place ศรีนครินทร์, Jas Urban ที่พึ่งเปิดใหม่ ถ้าจะช้อปปิ้งของใช้เข้าบ้านก็จะมี Makro ศรีนครินทร์, Big C สำโรง, Foodland ศรีนครินทร์ ให้เลือก สำหรับศูนย์การค้าใหญ่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ฝั่งสวนหลวง ร.9 ก็จะมี Central บางนา, Mega Bangna, Paradise Park, Seacon Square ศรีนครินทร์

นอกจากนี้ในอนาคตถนนศรีนครินทร์ยังมีแผนของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคตจาก MRTA ซึ่งคาดว่าสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือสถานีศรีลาซาล

การเดินทางมาโครงการสามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทาง ถ้ามาจากเส้นทางหลักอย่างถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ก็มีเส้นทาง ดังนี้ค่ะ

  • เส้นทางที่ 1 ถ้ามาจากทางด่วนลงบางนา วิ่งบางนาตราดแล้ววนเกือกม้ามุ่งหน้าเทพารักษ์จะวนมาเข้าศรีนครินทร์ขับมานิดเดียวก็จะเจอแยกลาซาล มีป้ายบอกไปโรงพยบาลศิครินทร์อยู่ เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย โครงการอยู่ขวามือ
  • เส้นทางที่ 2 วิ่งจาก Mega Bangna มายังโครงการ ก็วิ่งทางขู่ขนานถนนบางนา – ตราดมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีนครินทร์ จะมีป้ายบอกทางไปโครงการนาราโบทานิคเลย
  • เส้นทางที่ 3 วิ่งมาจากถนนศรีนครินทร์ฝั่งเข้าเมืองก็มาเลี้ยวขวาเข้าถนนลาซาลที่แยกศรีลาซาล เลี้ยวเข้าซอยลาซาลประมาณ 200 ม. โครงการจะอยู่ทางขวาค่ะ

สำหรับการเดินทางในวันนี้จะใช้เส้นทางที่ 2 วิ่งตามถนนบางนา – ตราดไปเรื่อยๆ จาก Mega Bangna ไปยังโครงการ ถ้าวันหยุดมาเดินเล่น Mega Bangna ก็เดินกลับเส้นทางนี้ได้สะดวกเลยค่ะ

เริ่มเดินทางบนถนนคู่ขนานบางนา – ตราด บริเวณหน้า Mega Bangna ซึ่งจัดเป็นศูนย์การค้าใหญ่ ที่มีความครบครันมากแห่งหนึ่งในย่านนี้ ภายในมีทั้ง IKEA, โรงหนัง, Homepro, Big C, Sephora, Eve and Boy พร้อมร้านอาหารและร้านค้าชั้นนำก็มีให้เลือกมากมาย

ตรงมาเรื่อยๆ จะผ่านอาคารสำนักงาน Interlink Tower เป็นแหล่งงานอีกแห่งหนึ่งของคนทำงานในย่านนี้ ซึ่งด้านข้างอาคารก็จะมีตลาดขายอาหาร เพื่อรองรับพนักงานค่ะ

ตรงมาอีกไม่ไกลก็มีป้ายให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีนครินทร์

ตามทางมาเรื่อยๆ ถนนช่วงนี้เป็นทางวนใต้สะพานข้ามแยกถนนศรีนครินทร์ บรรยากาศก็จะเงียบๆหน่อย ไม่เหมือนบนถนนศรีนครินทร์ที่มีความคึกคักมากทีเดียวนะคะ

ตามทางมาเรื่อยๆก็ถึงทางบังคับให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีนครินทร์แล้ว บรรยากาศของถนนก็เปลี่ยนไปจะเริ่มเห็นอาคารใหญ่

เข้ามาบนถนนศรีนครินทร์จะเห็นป้ายบอกทางไปโครงการ นารา โบทานิค ซึ่งโครงการนี้เป็นของนารายณ์เช่นเดียวกัน และแปลงที่ดินของ นารา โบทานิค ก็จะอยู่ในเวิ้งที่ดินเดียวกันกับ The Parkland ศรีนครินทร์ ด้วย ดังนั้น ตามป้ายไปก็ได้ค่ะ

ผ่านปั๊ม ปตท. ก็สามารถแวะเติมน้ำมันก่อนกลับบ้านที่นี่ได้เลย สะดวกดีค่ะ

ผ่านปั๊มมาไม่ไกลก็จะถึงแยกศรีลาซาล เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยลาซาล (ซ.สุขุมวิท 105) ไปนะคะ ซึ่งบริเวณหัวมุมมีจุดสังเกตุคือป้ายร้านหัวปลาช่องนนทรี สาขา ศรีนครินทร์

เข้ามาในซอยลาซาลเป็นถนน 4 เลน ซึ่งขอบทางทั้ง 2 ฝั่ง มักจะมีรถจอดอยู่เสมอ ทำให้เหลือถนนวิ่งฝั่งละเลน แต่ในซอยนี้รถก็ไม่ค่อยติดเท่าไหร่ พอวิ่งกันไปได้เรื่อยๆนะคะ จากแยกศรีลาซาลเข้ามาประมาณ 200 ม.ก็จะถึงโครงการแล้ว ด้านข้างโครงการติดกับ Collection House รวมร้านอาหาร 4 ภาค ที่ภายในเปิดเป็นร้านขายอาหาร มีหลายร้านให้เลือก

ถึงหน้าโครงการแล้วก็เลี้ยวขวาเข้าโครงการได้เลย

มาดูรอบๆ ที่ดินของนารายณ์กันก่อนนะ ทางเข้าออกที่ติดกับซอยลาซาลเป็นถนนที่เข้าออกได้ทางเดียว บริบทโดยรอบของตัวโครงการทางส่วนใหญ่จะติดกับโครงการอื่นๆ ภายในที่ดินของนารายณ์ และบางส่วนจะติดกับแปลงที่ดินภายนอกของบุคคลอื่น ซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้

  • ด้านทิศเหนือ จะติดกับ Collection House ที่รวมร้านอาหาร 4 ภาค ภายในมีร้านค้า ขายอาหาร ขายกาแฟ อยู่หลายร้าน
  • ด้านทิศใต้ ติดกับโครงการบ้านกลางเมือง
  • ด้านทิศตะวันออก ติดกับถนนส่วนกลางภายในที่ดินของนารายณ์
  • ด้านทิศตะวันตก ติดกับแปลงที่ดินเปล่าของบุคคลอื่น

เรามาดูสภาพแวดล้อมที่ติดกับที่ดินของนารายณ์ตั้งแต่ทางเข้ากันนะคะ ภายในเส้นประสีเหลืองเป็นพื้นที่ของนารายณ์ค่ะ ถัดไปคือคอนโดบ้านสวนลาซาล 8 ชั้น

อีกฝั่งหนึ่งขอบเขตของโครงการคือเส้นประสีเหลืองด้านซ้าย ส่วนแปลงที่ดินที่ติดกันฝั่งขวาของโครงการเป็น Collection House

ภายในพื้นที่ของ Collection House ร้านอาหาร 4 ภาค เปิดเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้าขายของต่างๆ ซึ่งตรงนี้ก็ที่ฝากท้องในยามหิวได้อีกที่หนึ่ง ซึ่งอยู่ติดกับรั้วของนารายณ์เลย

ภายในพื้นที่ของ Collection House มีลานจอดรถไว้ให้เรียบร้อย

ฝั่งตรงข้ามทางเข้าหลักโครงการที่ติดกับซอยลาซาลเป็นหมู่บ้านพิชญาค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงพยาบาลศิครินทร์ 450 ม.
  • Premier Place 1 กม.
  • Makro 1.1 กม.
  • Big C ศรีนครินทร์ 1.3 กม.
  • โรงเรียนบางกอกพัฒนา 2.7 กม.
  • JAS Urban ศรีนครินทร์ 3.1 กม.
  • Paradise Park 3.9 กม.
  • เซ็นทรัลบางนา 4.8 กม.
  • Big C บางนา 4.8 กม.
  • Seacon Square 4.8 กม.
  • โรงพยาบาลไทยนครินทร์ 4.9 กม.
  • Mega Bangna 7.5 กม.
  • สนามบินสุวรรณภูมิ 25 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Parkland ศรีนครินทร์ เป็นหนึ่งในโครงการบนแปลงที่ดินใหญ่ของนารายณ์ ตามเส้นประสีเหลืองจะลากเนื้อที่โครงการทั้งหมดให้ดูคร่าวๆ นะคะ ไม่เป๊ะ โครงการทั้งหมดใช้ทางเข้าออกด้านหน้าร่วมกัน ข้างในโครงการมีคอมมูนิตี้มอลล์ 2 ชั้น เพื่อสร้างความสะดวกให้กับลูกบ้าน ตรงนี้มีร้านค้า 7-11 ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ชาบู ร้านโยคะ ร้านขายยา ก็พอจะให้พึ่งพิงได้ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโครงการแรกที่ถึงก่อนเลย และเป็นโครงการที่อยู่ใกล้กับคอมมูนิตี้มอลล์ที่สุด สามารถเดินผ่านคอมมูนิตี้มอลล์แวะซื้อของ แล้วเดินเข้าโครงการได้สะดวก

สำหรับพื้นที่ดินของนารายณ์ในตอนนี้จะมีโครงการขึ้นอยู่ 3 โครงการคือ คอนโด Parkland ศรีนครินทร์, คอนโด Parkland Lakeside และหมู่บ้าน Nara Botanic นอกจากนี้ยังมีที่ดินเปล่ารอการพัฒนาในอนาคตอยู่อีกผืนหนึ่ง ซึ่งก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าจะถูกพัฒนาเป็นอะไรกันต่อไป

ทางเข้าโครงการที่ติดกับถนนซอยลาซาล เป็นทางเข้าที่ไม่ได้มีไม้กระดกกั้น สามารถผ่านเข้าไปได้เลย ซึ่งก็จะเข้าไปถึงได้แค่ส่วนของคอมมูนิตี้มอลล์นะคะ สำหรับโครงการคอนโดและหมู่บ้านด้านในจะมีไม้กระดกกั้นแยกแต่ละโครงการไว้อีกทีหนึ่ง เข้าไปดูด้านในกันเลย

จากทางเข้าโครงการเข้ามาจะเป็นถนน 4 เลนไปกลับ มีเกาะกลางกั้นตรงกลาง ซึ่งทางโครงการลงต้นไม้ใหญ่ไว้ค่อนข้างแน่นมาก ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น ฝั่งซ้ายมือเป็นที่ตั้งของคอมมูนิตี้มอลล์ของนารายณ์ ส่วนตึกสูงทางขวาคือคอนโด Parkland ศรีนครินทร์ ที่เปิดมานานประมาณ 9- 10 ปีแล้ว ลูกบ้านเข้าอยู่กันเรียบร้อย ทำให้พื้นที่ส่วนกลางบริเวณหน้าทางเข้านี้จะมีความคึกคักของผู้อยู่อาศัยที่เห็นได้อยู่สม่ำเสมอ

คอมมูนิตี้มอลล์ของนารายณ์ที่ทำไว้รองรับลูกบ้าน จะมีรถจอดข้างทางบริเวณหน้าคอมมูนิตี้มอลล์ตลอด ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกบ้านมาจอดทานข้าว ซื้อของกันนี่แหละค่ะ

ภายในคอมมูนิตี้มอลล์ก็จะมีทั้งร้านอาหาร, 7-11, ซัก อบ รีด, ร้านขายยา, ที่เล่นโยคะ, ร้านตัดผม, ร้านชาบู มากมายไว้อำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้าน

คอมมูนิตี้มอลล์นี้มี 2 ชั้นนะคะ ชั้นบนก็แบ่งเป็นร้านต่างๆ เช่นกัน

สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดอยู่ ก็สามารถมาติดต่อที่สำนักงานขายได้

นอกจากนี้ในช่วงวันหยุดยังมีแม่ค้าแผงลอยยกขบวนของกินต่างๆ มาตั้งแผงขายเพิ่มเติมอีกด้วย จากตรงนี้เลี้ยวขวาไปนิดเดียวก็จะถึงโครงการ The Parkland ศรีนครินทร์ กันแล้วนะคะ

โครงการเป็นคอนโด High Rise 16 ชั้น 4 อาคาร และ 18 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการประมาณ 17-0-30 ไร่, ที่จอดรถประมาณ 60 % การแบ่งห้องที่นี่จัดมาค่อนข้างใหญ่ จึงมียูนิตทั้งโครงการเพียง 1,210 ยูนิต โดยขนาดห้องเริ่มต้นที่ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.09 – 69.97 ตร.ม. และแบบ 2 Bedrooms ขนาด 57 – 101.36 ตร.ม. ถือว่าโครงการจัดห้องออกมาให้มีขนาดใหญ่กว่าโครงการโดยรอบในทำเลนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าโครงการนี้สร้างมาหลายปีแล้ว ทำให้เป็นอาคารจึงสามารถอยู่อาศัยได้สบาย 

จากแปลงที่ดินของโครงการมีทางเข้า-ออก 2 ทาง คือมีทางเข้าทางฝั่งอาคาร D, E และทางฝั่งอาคาร A, B จากทางเข้าออกโครงการจะต้องใช้ Keycard Access เข้ามาจะมีที่จอดรถสำหรับผู้ติดต่อ หรือแขกของลูกบ้านอยู่ทางด้านหน้าโครงการ ส่วนลูกบ้านต้องขับวนเข้ามาตามลูกศร ซึ่งสัดส่วนที่จอดรถ 60% มีที่จอดรถทั้งในชั้นใต้ดินและบนชั้น 1 เข้ามาด้านใน Lobby ก็จะแยกกันของแต่ละอาคารเลย ส่วนลิฟท์ที่นี่มีอาคารละ 2 ตัว และ Service Lift อีกอาคารละ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์จะอยู่ที่ 242 : 1 ค่ะ ถือว่ามากหน่อย ถ้าช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็นคงต้องยืนรอกันหน่อย

จากหน้าโครงการก็จะมีทางเท้ากว้างให้เดินได้สบาย และมีพี่รปภ. คอยดูแลอยู่หน้าโครงการเลย ประตูทางเข้าจะแยกกันชัดเจนระหว่างทางเข้ารถยนต์ และทางเข้าของคนเดิน ซึ่งในส่วนของรถยนต์จะต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้าไปนะคะ

เข้ามาในโครงการแล้วจะมีทางวนรถด้านหน้า วนมาเรื่อยๆ ผ่าน Drop-Off อาคาร ที่เป็นจุดจอดรถรับ – ส่งลูกบ้าน ทางวนค่อนข้างกว้างขวางสามารถวนรถได้สะดวกสบาย จากมุมนี้จะเห็นทางขึ้นที่จอดรถบนอาคาร ซึ่งอยู่ติดกับทางเข้า Lobby อาคาร E

จากทางวนรถตรงไปจะเข้าสู่ Lobby อาคาร E ที่อยู่ใต้ตึกชั้น 1

บริเวณ Lobby ก็จะเป็นโถงเปิดโล่ง มี Reception นั่งอยู่ด้านหน้า ส่วนด้านข้างเป็นส่วนของ Mail Box ทั้งแถบเลย

ข้างๆ Lobby เป็นทางเข้า – ออกที่จอดรถ ก็จะมีทางลงที่จอดรถชั้นใต้ดินและทางขึ้นที่จอดรถบนชั้น 1 ต่อไปก็จะพาวนขวาไปตามทางวนรถรอบโครงการนะคะ

ตลอดแนว 2 ฝั่งของทางเดินรถรอบโครงการ ก็จะมีช่องจอดรถเรียงไปตลอดแนวแบบนี้ ใครหาที่จอดรถในอาคารไม่เจอ ก็สามารถออกมาจอดตามแนวนี้ได้

ตรงมาอีกหน่อยก็จะถึงอาคาร D แล้ว แต่ละอาคารก็จะมีที่จอดรถในอาคารเป็นของตัวเองเลย

ตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะถึงในส่วนของอาคาร C บรรยากาศ 2 ข้างทางค่อนข้างร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม

ด้านข้างอาคารมีทางเข้าออกสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังอาคารค่ะ

ตรงไปจนสุดก็จะถึงอาคาร B กันแล้ว

ไปตามทางวนรถเรื่อยๆ

ก็จะถึงอีกด้านหนึ่งของโครงการ เป็นโซนของอาคาร A, B

แต่ละตึกก็จะมีที่จอดรถในอาคารอยู่ทุกตึก ใครอยู่ตึกไหนก็เข้าไปจอดตึกนั้น แต่ถ้าช่องจอดไม่พอก็สามารถออกมาจอดกลางแจ้งได้อีกนะ

ตรงไปอีกนิดก็จะถึงจุดแสกนบัตร เข้า – ออก โครงการ อีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งจะอยู่ใกล้อาคาร A,B ทำให้คนที่อยู่อาศัยที่ 2 อาคารนี้ ไม่ต้องเข้าตรงทางเข้าหลักก็ได้ มาใช้ทางเข้าตรงนี้จะใกล้กว่าค่ะะ

พาเดินตามที่จอดรถครบแล้วก็จะพามาดูส่วนของอาคารกันบ้าง แต่ละอาคารจะมีแปลนคล้ายๆ กัน จึงขอยกผังเพียงอาคาร A,B มาอธิบายนะคะแต่ละอาคารจะมีห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 1 สำหรับพื้นที่ส่วนกลางในชั้น 1 นี้ก็จะมีส่วนของที่จอดรถ และตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปก็จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้น วางผังอาคารแบบ Double Corridor คือเป็นห้องพักอยู่ 2 ฝั่งทางเดิน ส่วนโถงลิฟต์ของอาคาร A  จะอยู่ตรงกลางช่วยให้ระยะทางเดินถึงห้องที่อยู่ปลายสุดไม่ไกลนัก สำหรับโถงลิฟต์ของอาคาร B ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ตรงกลาง แต่ด้วยความที่อาคารไม่ได้ใหญ่ทำให้ทางเดินจากลิฟต์มาถึงห้องที่ไกลสุด อยู่ไม่ไกลนัก แบบห้องของที่นี่มีทั้งแบบ 1-2 Bedroom โดยห้องไซส์ใหญ่ขนาด 2 ห้องนอนจะถูกวางเอาไว้ตรงมุมอาคารค่ะ ต่อไปจะพาไปชมบรรยากาศจริงๆ ของอาคาร A กันนะคะ

ทางเข้า Lobby อาคาร จะต้องใช้ Keycard ผ่านเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง หน้าประตูมีป้ายบอกชื่ออาคาร A ไว้เรียบร้อย

ทางขึ้นลงที่จอดรถในอาคาร ก็จะมีทั้งชั้นใต้ดินและชั้น 1 ..เดี๋ยวจะพาไปชมที่จอดรถชั้นใต้ดินกันก่อนนะคะ

ที่จอดรถชั้นใต้ดินติดไฟไว้สว่างพอสมควรเลย ทางเดินรถเป็นแบบ One-Way นะคะ

สำหรับมอเตอร์ไซค์ก็จะมีช่องจอดแยกเอาไว้

จากที่จอดรถชั้นใต้ดินก็จะมีทางเข้าอาคารจากชั้นนี้ได้เลย ตรงนี้ต้องใช้ Keycard ในการผ่านเข้าออก

ขึ้นมาดูที่จอดรถในอาคารชั้น 1 กันต่อ ก็จะมีพี่ รปภ. นั่งรักษาความปลอดภัยอยู่ด้วย

บรรยากาศที่จอดรถในชั้น 1 จะสว่างมากทีเดียวด้วยแสงธรมชาติ เพราะตัวอาคารเปิดโล่งทั้ง 2 ฝั่งซ้ายขวาเลย

เดินมาเรื่อยๆ ก็จะถึงทางเข้าอาคารอีกตำแหน่งหนึ่งคือทางเข้าจากที่จอดรถชั้น 1 ทางซ้ายเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ และจะมีทางเดินเชื่อมลงไปที่สวนส่วนกลางอยู่ทางซ้ายมือเช่นกันค่ะ

เป็นทางลาดยาวๆ แบบนี้ ไปเชื่อมกับทางเดินรอบสวนส่วนกลาง การออกแบบแบบนี้ก็มีข้อดีที่ทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้รถเข็นเข้ามาใช้สวนส่วนกลางได้

อย่างที่บอกไปว่าสวนส่วนกลางที่นี่เป็นสวนขนาดใหญ่ ขอบอกเลยว่าใหญ่จริงๆ และยังร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาแบบเต็มที่

ทางเดินดูสะอาดเรียบร้อยดีทีเดียว

ด้านขวามีทางแยกไปยังห้องน้ำส่วนกลาง

ห้องน้ำแยกชายหญิงไว้เรียบร้อย ถึงแม้ว่าขนาดจะไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก แต่ก็มีพอให้ใช้งานได้

บรรยากาศภายในห้องน้ำก็ดูสะอาดดี เห็นแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดอยู่ตลอด

เดินตามทางในสวนมาเรื่อยๆ ก็จะผ่านโซนสนามเด็กเล่น มีเครื่องเล่นนิดหน่อย ซึ่งตรงนี้ดูของเล่นจะเก่าๆ ไปนิด ><

เดินมาอีกนิดเดียวก็จะเจอกับทางขึ้นสระว่ายน้ำส่วนกลางแล้วค่ะ

สังเกตได้ว่าพื้นที่ส่วนกลางที่พาเดินมาตลอดจะถูกล้อมด้วยอาคาร ทำให้ห้องพักที่หันหน้าเข้าทางสวนได้วิวสวนสีเขียวดูร่มรื่นเลย แล้วด้วยขนาดสวนที่ใหญ่แบบนี้ ทำให้แต่ละอาคารมีระยะห่างจากตึกฝั่งตรงข้ามค่อนข้างมาก ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวในแต่ละห้องพักได้เป็นอย่างดีค่ะ

ข้างๆ สระว่ายน้ำมีทางเดินขึ้นไปยังมุมพักผ่อนริมสระ

บนนี้ก็จะมีโต๊ะเก้าอี้เตรียมไว้ให้ ก็จะได้บรรยากาศของสระในมุมสูงหน่อย

มาดูในส่วนของสระว่ายน้ำกันต่อ สระว่ายน้ำเป็นทรง Free Form ขนาดใหญ่ ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ตามรีสอร์ทเหมือนกันนะ

มีส่วนของพื้นที่น้ำตื้นหน่อย ให้เด็กๆ มาเล่นน้ำได้

ส่วนใครที่ต้องการว่ายแบบจริงจัง ก็มีส่วนของสระที่เป็นทางยาวๆ ให้ว่ายเช่นกัน

 

ส่วนใครที่ไม่ได้ชอบว่ายน้ำหนักๆ ก็อาจจะมานั่งเล่นตรง Day Bed ที่ทางโครงการจัดไว้ให้รอบๆ สระว่ายน้ำค่ะ

มาเดินตามทางเดินในสวนกันต่อ ตามทางมาเรื่อยๆ ก็จะมีทางเข้าสวนส่วนกลางจากด้านข้างอาคาร C จริงๆแล้ว ผู้ออกแบบทำไว้ให้สวนนี้มีทางเข้าจากทุกอาคารเลยนะคะ

ในสวนก็จะมีส่วนของเครื่องออกกำลังกายเช่นกัน

มีเครื่องออกกำลังกายอยู่ประมาณ 5-6 เครื่อง

และก็มีโซนเครื่องเล่นเด็กอีกโซนหนึ่ง

 

ตามทางเดินมาเรื่อยๆ ก็จะเข้าสู่อีกบรรยากาศหนึ่ง คือจะเป็นบรรยากาศที่โล่งๆ ขึ้นกว่าทางเดินที่ผ่านมา และก็จะมีม้านั่ง ให้นั่งเล่นในสวนได้

บรรยากาศดูร่มรื่นจริงๆ เลยนะคะ

เดินมาเรื่อยๆ ก็จะมาบรรจบกับทางเดินขึ้นอาคาร A ที่พาเดินลงมาในตอนแรก

ต่อไปมาดูในส่วนของวิว จากภาพเป็นวิวทางทิศเหนือเป็นทิศที่หันออกหน้าโครงการ ก็จะได้วิวโล่งๆ ดี แต่ถ้าเลือกห้องให้สูงกว่าชั้น 8 ก็จะได้วิวที่โล่งขึ้นอีก เพราะจะพ้นจากคอนโดบ้านสวนลาซาล 8 ชั้นไปด้วยค่ะ

อีกมุมหนึ่งคือวิวทางทิศตะวันตกก็ดูโล่งๆ เช่นกัน เพราะติดกับสนาม Premier Football Club ด้านนี้เป็นฝั่งที่หันเข้าทางในเมือง ก็จะได้วิวของตึกสูงในระยะไกลด้วยค่ะ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ
  • ห้องออกกำลังกายอยู่ในอาคาร B
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 242 : 1
  • Service Lift 1 ตัว/อาคาร
  • ที่จอดรถประมาณ 60 % (จากการสอบถามจาก Agency)
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

**เนื่องจากโครงการนี้ขายหมดไปนานมาก น่าจะเกิน 6 ปีขึ้นไปแล้วนะครับ เพราะเป็นห้องมือ 2 จึงไม่มีห้องตัวอย่างให้ชมซึ่งรายละเอียดของแต่ละห้องจะแตกต่างตามการตกแต่งของเจ้าของห้อง ถ้าสนใจหรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในโครงการนี้แนะนำนัดเจ้าของห้องหรือเอเจนซี่ที่เปิดขาย เข้าไปดูสภาพและบรรยากาศภายในห้องด้วยตัวเองเพราะมีหลายปัจจัยในการตัดสินใจ เช่น

  • เป็นห้องที่ตำแหน่งดี ได้วิวสวยหรือไม่
  • ของที่ตกแต่งในห้อง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ Built-In อาจไม่ตรงตามความชอบ
  • สภาพปัจจุบันและการดูแลรักษาห้อง ยังใหม่หรือดูทรุดโทรมหรือไม่อาจจะต้องเผื่องบประมาณค่าตกแต่งหรือซ่อมแซมหลังจากซื้อขายกันแล้ว

ส่วน Spec วัสดุมาตรฐานจากโครงการ (ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับเจ้าของห้องมือ 1 รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ด้วยนะคะ)

  • พื้นลามิเนต
  • Pantry ครัว
  • ตู้เสื้อผ้า Built-in  (เฉพาะในห้องนอนใหญ่)

แบบห้องมีให้เลือกหลากหลาย จะแบ่งไว้เป็น 3 กลุ่ม หลักๆ ดังนี้

  • แบบ 1 Bedroom 35-39 ตร.ม.

  • แบบ 1 Bedroom 40-50 ตร.ม.

  • แบบ 2 Bedrooms 50-77 ตร.ม.

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10 May 2017

เนื่องจากเป็นโครงการที่ขายหมดและโอนกันหมดแล้ว ดังนั้นต้องซื้อต่อจากเจ้าของเดิม ทำให้ราคาก็จะค่อนข้างหลากหลายขึ้นอยู่กับทำเลห้องได้อยู่ชั้นสูงหรือชั้นล่าง ตกแต่งมากหรือน้อยครบแค่ไหน ความพอใจราคาจากการตกลงกันระหว่างคนซื้อและคนขาย โดยราคาต่อตารางเมตรในปัจจุบัน ปี 2017 จะอยู่ที่ประมาณ 46,000 – 55,000 บาท/ตร.ม. (เป็นการเก็บข้อมูลโดยส่วนตัวเองเท่านั้น)

 

เจาะลึกรวบยอด

ทำเล  Parkland ศรีนครินทร์ เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยลาซาล(สุขุมวิท 105) ในช่วงท้ายซอยที่เลยจากแยกศรีลาซาลมาประมาณ 200 ม. เรื่องอาหารการกินโดยรอบโครงกาก็จะมีกระจายอยู่ทั่วซอย ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดก็คือคอมมูนิตี้มอลล์ของนารายณ์เองที่ทำไว้ในพื้นที่ส่วนกลางดด้านหน้าก่อนถึงทางเข้าโครงการเลย ถัดมาที่ริมถนนซอยก็จะมี Collection House ศูนย์รวมอาาร 4 ภาค และมีร้านอาหารอยู่หลายร้าน ส่วนตรงหัวมุมสี่แยกศรีลาซาลก็จะมีร้านหัวปลาช่องนนทรี ถ้าบนเส้นศรีนครินทร์ก็จะมีพวกคอมมูนิตี้มอลล์, Hypermarketและศูนย์การค้าใหญ่ให้เลือกอยู่หลายแห่ง หรือถ้าออกไปทางบางนา – ตราดก็จะมีศูนย์การค้าอีกเช่นกันทั้ง Central, Seacon Square, Paradise Park ซึ่งทั้งหมดอยู่ในระยะที่ห่างจากโครงการไม่เกิน 5 กม.

การเดินทางโดยใช้รถ – มีข้อดีของการอยู่ใกล้แยศรีลาซาล คือ จะได้เปรียบในเรื่องของการเดินทางที่สามารถเข้าออกถนนบางนา – ตราด ได้ง่าย ไม่ต้องใช้เวลารถติดบนเส้นศรีนครินทร์หรือในซอยลาซาลนานๆ สามารถตัดออกไปบางนา-ตราด ขึ้นทางด่วนได้เลย ประหยัดเวลาไปได้เยอะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ก็เดินทางไม่ยากเพราะหน้าโครงการบนถนนลาซาลก็มีพี่วินมาจอดรอรับอยู่แล้ว ถ้าใครนั่ง BTS มาลงแบริ่งก็เดินมาขึ้นรถ 2 แถวในซอยลาซาล จะมีอู่รถสองแถวอยู่ฝั่งขวามือค่ะ เป็นวินรถแดงที่ใหญ่กว่ารถสองแถวทั่วไป เป็นรถ 6 ล้อ และ บ้างทีก็เป็นรถ mini bus สีแดงค่ะ วิ่งสุดซอยลาซาล 7 บาทตลอดสาย (นี่ก็ส่งถึงหน้าโครงการเลยค่ะ ประหยัดดี)

วิวโดยรอบโครงการ – ไม่มีอาคารสูงในระยะประชิด ทำให้โครงการนี้เปิดมุมมองโล่งๆ เกือบทุกทิศทาง ก็ขึ้นอยู่กับคนเลือกซื้อนะคะว่าชอบบรรยากาศแบบใด

การออกแบบโครงการ – ภาพรวมของโครงการเป็นโครงการที่มียูนิตเยอะขึ้นหลักพัน แต่โครงการก็สามารถแบ่งออกเป็นตึกย่อยๆ ได้ดี ส่วนที่คิดว่าเป็นจุดเด่นของโครงการเลยคือสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ทำให้โครงการดูน่าอยู่ขึ้นมาก ซึ่งปัจจุบันต้นไม้ ขยายกิ่งก้านมีร่มเงามากขึ้น บรรยากาศภายในจึงมีความร่มรื่นพอสมควร การจอดรถสามารถจอดรถรอบ ๆ และในอาคารได้ ส่วนรูปแบบการจัดห้องพักของตัวอาคารทำมาเป็นแบบ Double Corridor ทำให้ทางเดินในแต่ละชั้นพักอาศัย จะดูมืดๆ ไปหน่อย ต้องพึ่งแสงจากดวงไฟแทนแสงธรรมชาติ วางตำแหน่งโถงลิฟท์อยู่ในระยะที่สามารถเดินไปห้องพักอาศัยได้สะดวก

การออกแบบในห้องพัก มีมาให้เลือกหลายแบบ แยกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ คือแบบ 1  Bedroom 35-39 ตร.ม. แบบห้องจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบแต่ลึกเข้าไปด้านใน, แบบ 1 Bedroom 40-50 ตร.ม. กลุ่มนี้จะได้ห้องหน้ากว้าง ทำให้ได้ช่องหน้าต่างค่อนข้างเยอะ และแบบ 2 Bedroom 50-77 ตร.ม. ทำให้โครงการนี้มีตัวเลือกห้องพักอาศัยที่หลากหลาย มีแบบที่เหมาะสมกับการพักอาศัยทั้งครอบครัวขนาดเล็ก – กลาง ซึ่งในการออกแบบนั้นทำออกมาได้ดี คือทำให้ทั้งในห้องนอนและพื้นที่ส่วนกลาง มีช่องแสงเป็นแสงตัวเอง ระเบียงแต่ละห้องก็ค่อนข้างกว้าง สามารถใช้งานได้จริง

วัสดุ – เนื่องจากเป็นห้องมือ 2 ทำให้ในปัจจุบันการตกแต่งภายในห้องไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือวัสดุปูพื้นและผนังต่าง ๆ มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมตามการตกแต่งของเจ้าของเดิม ดังนั้นรูปแบบการขาย บางห้องอาจขายพร้อมอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด หรือเป็นห้องเปล่าไปเลย แนะนำว่าควรดูราคาขายเทียบกับของในห้องปัจจุบันว่ายังมีสภาพดีอยู่หรือไม่ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปในการเลือกซื้อห้องค่ะ

สาธารณูปโภคภายในโครงการ – มีจุดเด่น คือ สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ มีทำออกมาได้ร่มรื่นน่าใช้งานจริงๆ มาพร้อมกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ทรง Free Form ทำให้บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำเหมือนอยู่รีสอร์ทเลยทีเดียว แม้ว่าภายในโครงการจะไม่มีร้านค้าภายใน แต่ทางนารายณ์ก็ได้จัดวางคอมมูนิตี้ มอลล์ ไว้หน้าโครงการเลย ทำให้สามารถหาซื้อของกิน ของใช้ ได้สะดวก ถึงแม้โครงการนี้จะผ่านมาประมาณ 8 ปีแล้ว พื้นที่ส่วนกลางของโครงการก็สามารถดูแลได้เป็นอย่างดี มีความสะอาดและน่าใช้งานดีค่ะ แต่อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการอยู่ที่ 242 : 1 ถือว่าหนาแน่นมากในช่วงเวลาเร่งด่วนอยู่สักหน่อย แต่ก็เป็นไปตามราคาของคอนโดระดับนี้นะคะ

 

Judgement

เนื่องจากเป็นโครงการที่ขายหมดแล้ว ซึ่งปัจจุบันรูปแบบการขายเปลี่ยนแปลงเป็นแบบซื้อต่อกันเอง(มือสอง) ซึ่งค่อนข้างมีความแตกต่างกันไปทั้งเรื่องของวัสดุ การตกแต่งภายในห้อง รวมทั้งเรื่องของราคาที่ค่อนข้างหลากหลายขึ้นอยู่กับทำเลห้องได้อยู่ชั้นสูงหรือชั้นล่าง ตกแต่งครบ ความพอใจราคาจากการตกลงกันระหว่างคนซื้อและคนขาย ดังนั้นจึงไม่สามารถให้คะแนนในรีวิวนี้ได้ค่ะ

 

BOTTOM LINE

Parkland ศรีนครินทร์ เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ สถานะมือ 2 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคาย่อมเยาว์ในย่านลาซาล ศรีนครินทร์ ที่ยังสามารถต่อรถไป BTS ได้ไม่ยากและมีรถสาธารณะผ่านหน้าโครงการ มีความสงบ และสะดวกสบายด้วยคอมมูนิตี้ มอลล์ใกล้ๆ ชอบพื้นที่ส่วนกลางของโครงการและต้องการห้องพักอาศัยที่มีขนาดใหญ่หน่อย เพราะที่นี่เริ่มต้นก็ 35 ตร.ม. แล้ว มีงบประมาณ 1.8-3.5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 13,000 – 25,000 บาท/เดือน

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )