รีวิวฉบับที่ 1603 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ The Matt Condo คอนโด Low Rise ในซอยเทอดไท 33 ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีตลาดพลู มาใน Concept “Let’s match your life” ที่สามารถ Match ชีวิตของคุณได้ด้วยตัวเอง กับพื้นที่ส่วนกลางที่จัดมาให้หลากหลาย มีแบบห้องให้เลือกหลายฟังก์ชัน รวมถึงสามารถเลือกโทนสีวัสดุในห้องได้ด้วย ในราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท เราไปชมกันเลยค่ะ 

Fact @ 5 June 2018 

  • The Matt Condo (เดอะ แมทท์ คอนโด)
  • บริษัท วีไอพี คอนโดมิเนียม จำกัด 
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ธนบุรี
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 178 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 26 ยูนิตที่ชั้น 2-7
  • ที่จอดรถประมาณ 48% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 1-1-37.2 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  ไตรมาสที่ 4 ปี 2561
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ไตรมาสที่ 2 ปี 2563
  • 1 Bedroom 30 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 31-45 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Extra 34 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 58-60 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรเริ่มต้น 56,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการประมาณ 6x,xxx บาท/ตร.ม
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 061-445-5596
  • LINE @themattcondo

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ 

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.716881, 100.475957

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ The Matt Condo ตั้งอยู่ในซอยเทอดไท 33 โดยซอยนี้เป็นซอยที่สามารถใช้ทะลุไปได้หลายที่ เช่น ถนนเทอดไท ถนนวุฒากาศ ถนนรัชดาภิเษก เป็นต้น และภายในซอยยังเป็นที่ตั้งของวัด , โรงเรียน , ชุมชน กระจายกันอย่างหนาแน่น นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์ในแง่การอยู่อาศัยสูงมากเป็นทุนเดิม สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ของโครงการนี้ก็สามารถใช้ถนนหลักได้หลายเส้นทางทั้งถนนราชพฤกษ์ ในช่วงทางกลับรถใต้ทางยกระดับถนนราชพฤกษ์ โดยถนนนี้มีความสำคัญคือเป็นถนนที่เชื่อมเข้าถนนกรุงธนบุรี และขึ้นสะพานตากสินข้ามไปยังฝั่งพระนคร ย่านสาทรได้ง่าย หรือจะวิ่งเข้าถนนรัชดาภิเษกนั้นก็เชื่อมต่อไปตลาดพลู ไปก็จะถึงแยกท่าพระได้ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่ หรือถ้าวิ่งไปทางฝั่ง The Mall ท่าพระ  แล้วตรงไปเรื่อยๆ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปก็เป็นถนนพระราม 3 แล้วค่ะ

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถือว่าสะดวกทีเดียว สามารถเดินไปรถไฟฟ้าหรือจะเรียกพี่วินไปก็ได้ค่ะ ในซอยมีวินมอเตอร์ไซค์และรถวิ่งผ่านตลอด ด้วยความที่ซอยสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดได้ แถมยังใกล้รถไฟฟ้าอีก ด้วยการเข้ามาของรถไฟฟ้าทำให้ย่านนี้มีการพัฒนาความเจริญมากขึ้น และรูปแบบการอยู่อาศัยก็เปลี่ยนหน้าตาจากโครงการแนวราบเป็นคอนโดมิเนียม High Rise ติดถนนใหญ่กันเยอะมากๆ หลายโครงการทีเดียวค่ะและทุกโครงการมีราคาขายปัจจุบันไม่ถูกแล้ว สำหรับโครงการของเราเป็น Low Rise ที่ทำเลอาจจะไม่ได้ติดถนนใหญ่แต่ก็ได้ความสะดวกสบายในการเดินทาง และเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงพอสมควรทีเดียวค่ะ

อย่างที่บอกว่าการเดินทางด้วยรถสาธารณะต่างๆนั้นก็สะดวกสบายมากๆค่ะ ตัวโครงการนั้นอยู่ห่างจากBTS สถานีตลาดพลู 330 เมตร และด้วยสถานีนี้จัดเป็นส่วนหนึ่งของรถไฟฟ้าสายหลักในการเข้าเมืองไปยังย่านสาทร เลยไปถึงสยามได้ง่ายเลยค่ะ ส่วนในอนาคตบริเวณ BTS บางหว้านั้นจะ Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ให้สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้หลากหลายมากขึ้นด้วยนะคะ และอีกตัวเลือกนึงสำหรับใครที่เรียนหรือทำงานในย่านพระราม 3 หรือจะไปสีลมและสาทรนั้นก็มี BRT รองรับเช่นเดียวกัน

จากสถานี BTS ตลาดพลูไปโครงการนั้น เราสามารถใช้ทางลงได้ทั้งทางออก1 และทางออก2 ซึ่งเป็นทางออกที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด โดยทางออกของสถานีนี้นั้นจะอยู่ฝั่งเดียวกันทั้งหมด ซึ่งเป็นฝั่งที่ตรงข้ามกับซอยเทอดไท 33 ที่เป็นที่ตั้งของโครงการค่ะ ซึ่งการเดินไปยังโครงการก็มีทำทางเท้าเดินได้สะดวก อาจต้องมีข้ามถนนบ้าง มีวินมอเตอร์ไซค์รับ-ส่งอยู่หน้าสถานีค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์หลักๆ นั้นอยู่ในละแวกโครงการเลยค่ะ โดยใกล้ที่สุดนั้นจะเป็นห้างเดอะมอลล์ท่าพระ สำหรับห้างนี้จัดเป็นห้างเก่าแก่ที่อยู่กับคนย่านนี้มานาน ต่อมามีการปรับปรุงภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยขึ้น นอกจากนั้นบริเวณรอบๆโครงการก็จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า ของกินแผงลอยตั้งอยู่ค่อนข้างเยอะ ในช่วงเช้าจะคึกคักกว่าหน่อยตามข้างทางจะมีของขายทั้ง หมูปิ้ง หมูทอด ข้าวไข่เจียว ไปจนถึงอาหารตามสั่ง แต่ช่วงเย็นบรรยากาศจะเงียบๆกว่าหน่อย แต่ก็ยังมีร้านอาหารเปิดเยอะอยู่  นอกจากเดอะมอลล์ใกล้ๆโครงการยังมีไทยช่วยไทยพลาซ่า , ตลาดซอย13 , MaxValu และ ตลาดพลู ตลาดเก่าแก่ที่มีทั้งร้านอาหาร และ ขนมขึ้นชื่อมากมาย โดยเฉพาะร้านขายกุยช่ายเจ้าดัง ที่คนซื้อต้องมายืนรอต่อแถว ก็อยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟนี่เอง  นอกนั้นสถานที่สำคัญก็จะเป็นพวกวัด โรงพยาบาล และ โรงเรียน เป็นต้นค่ะ โดยรวมแล้วเป็นทำเลที่เหมาะกับคนใช้ชีวิตในคอนโดนะคะ เพราะหาของกินได้ง่าย เน้นซื้อกิน ไม่ก็ห่อเข้ามาแกะถุงกินที่ห้องได้เลยไม่ต้องทำอาหาร

การเดินทางในวันนี้ เริ่มจาก BTS ตลาดพลู ใช้ทางออกที่ 2 เดินมุ่งหน้ามายังซอยเทอดไท33 ฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังถนนเทอดไท เข้าซอยมาหน่อยก็จะเจอกับโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ

การเดินทางไปยังโครงการ The Matt Condo วันนี้เราเริ่มจาก BTS ตลาดพลูทางออกที่ 2

ลงมาก็จะเจอกับวินมอเตอร์ไซค์คอยรับ-ส่งเลยค่ะ ถ้าใครไม่อยากเดินหรือเลิกงานกลับมาเหนื่อยๆอยากให้บริการก็เรียกพี่ๆเค้าได้

เอาอัตราค่าบริการมาฝากกันค่ะ วิ่งไปโครงการก็ประมาณ 10 บาทเท่านั้น

จากนั้นเราเดินตรงตามทางต่อไปเรื่อยๆเลย ทางเดินค่อนข้างกว้างขวางเดินสบายๆ

ข้างๆสถานีจะมีที่จอดจักรยานมาให้ สำหรับคนที่ต้องนั่งรถไฟฟ้าต่อเข้าไปในเมืองก็เอามาจอดไว้ ตอนเย็นก็กลับมาเอาแล้วปั่นกลับบ้าน

ตรงต่อมาค่ะ โซนนี้สังเกตว่าจะมีทั้งชุมชนเก่าและคอนโดทั้ง Low Rise และ High Rise

เดินมาจนถึงทางแล้วก็เลี้ยวขวาเข้าซอยเทอดไท33 ฝั่งมุ่งหน้าไปยังถนนเทอดไท

ข้ามทางม้าลายนี้ไปกันเลยค่ะ สังเกตว่ารอบๆสถานีนี้จะมีรถมาจอดค่อนข้างเยอะ

ตรงตามป้ายถนนเทอดไทก็จะเจอกับซอยที่เป็นที่ตั้งของโครงการ

ซอยเทอดไท 33 เป็นซอยที่สามารถใช้ทะลุไปได้หลายที่ เช่น ถนนเทอดไท ถนนวุฒากาศ ถนนรัชดาภิเษก บรรยากาศช่วงต้นซอยจะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ ตึกแถว ชั้นล่างมักนิยมเปิดเป็นร้านค้า

เดินเข้าซอยมาเรื่อยๆ พอเห็นซุ้มประตูวัดบางสะแกนอกนี้ก็ตรงต่อไปค่ะ

จากซุ้มประตูแรกเข้ามาก็จะเป็นเขตของวัด ทางฝั่งซ้ายคือโรงเรียนวัดบางสะแกนอก เราต้องเดินผ่านซุ้มประตูที่ 2 ไปจึงจะถึงโครงการ ซอยนี้มีรถวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะวินมอเตอร์ไซค์จะเห็นบ่อยมากๆ เนื่องจากเป็นซอยที่ใช้เป็นเส้นทางลัดได้หลายทางนั่นเอง

โรงเรียนวัดบางสะแกนอกอยู่ในเขตของวัดเลย

เราจะตรงผ่านซุ้มประตูที่ 2 ไปค่ะ ซึ่งถ้าใครอยากไปถนนรัชดาภิเษกสามารถเลี้ยวไปทางขวาได้

เดินมาตามทางอีกหน่อยทางฝั่งขวาจะเจอกับคอนโด Regent Orchid ตลาดพลูเป็น Low Rise เหมือนกัน จากตรงนี้จะเห็นโครงการอยู่นิดๆแล้ว

เดินตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับที่ตั้งของโครงการ The Matt Condo อยู่ทางซ้ายมือค่ะ มีการล้อมรั้วเอาไว้เรียบร้อย ในส่วนของสำนักงานขายนั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการค่ะ

บรรยากาศของสำนักงานขายค่ะ เดี๋ยวเราค่อยพาไปชมกัน

ตัวโครงการมีการล้อมรั้วและเคลียร์ที่ดินเพื่อเตรียมสำหรับพัฒนาเอาไว้เรียบร้อย

ถัดจากโครงการทางฝั่งขวาจะมีทางเดินข้างคลองสามารถใช้ไปออกถนนรัชดาภิเษกได้

ชาวบ้านแถวนี้เค้าเดินกันแบบนี้ค่ะ เวลาใช้งานจริงๆถือว่าสะดวกนะ เดินแปปเดียวก็ออกถนนรัชดาภิเษกได้แล้ว แต่ทางเดินแคบไปหน่อย

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่า บ้านพักอาศัยและตึกแถวค่ะ จะมีคอนโด Regent Orchid ตลาดพลู ซึ่งเป็น Low Rise อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับโครงการ มีระยะห่างจากโครงการเราพอสมควรจึงไม่ได้มีผลกระทบเรื่องมุมมอง ส่วนสำนักงานขายจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการค่ะ โดยมีที่ดินแต่ละด้านติดกับสถานที่ต่างๆดังนี้

  • ทิศเหนือ – ติดกับแนวตึกแถวและบ้านพักอาศัย
  • ทิศตะวันออก – ติดกับซอยเทอดไท33 และ สำนักงานขาย(ปัจจุบัน)
  • ทิศใต้ – ติดกับที่ดินเปล่า (สำนักงานขายโครงการ Regent Orchid) และวัดบางสะแกนอก
  • ทิศตะวันตก – ติดกับบ้านพักอาศัย

ทิศเหนือ ติดกับแนวตึกแถว บ้านพักอาศัย และคลองบางสะแก

ทิศตะวันออก ติดกับซอยเทอดไท33 และ สำนักงานขาย(ปัจจุบัน)

ทิศใต้ ติดกับที่ดินเปล่า (สำนักงานขายโครงการ Regent Orchid) และวัดบางสะแกนอก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (รวมระยะกลับรถ)

  • วัดบางสะแกนอก ~ 110 ม.
  • วัดบางสะแกใน ~ 1 กม.
  • ตลาดพลู ~ 1.2 กม.
  • เดอะมอลล์ ท่าพระ ~ 1.5 กม.
  • โรงเรียน สตรีวัดอัปสรสวรรค์ ~ 1.8 กม.
  • ไทยช่วยไทยพลาซ่า ~ 1.9 กม.
  •  ธนาคารกสิกรไทย ~ 1.9 กม.
  • วงเวียนใหญ่  ~ 3.2 กม.
  • วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ~ 3.2 กม.
  • บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ~ 3.8 กม.
  • โรงพยาบาล พญาไท 3 ~ 4.8 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

The Matt Condo เป็นคอนโด High Rise 8 ชั้น จำนวน 178 ยูนิต ที่ออกแบบมาใน Concept “Let’s match your life” ที่สามารถ Match ชีวิตของคุณได้ด้วยตัวเอง ทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่จัดมาให้หลากหลายทั้ง Lobby Space , สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส , Co-Working Space และมีแบบห้องให้เลือกหลายฟังก์ชัน เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อม Bluetooth Sound System , ไฟ LED และ ปลั๊กแบบ USB รวมถึงสามารถเลือกโทนสีวัสดุในห้องได้ด้วย

ตัวอาคารภายนอกตกแต่งตัวโทนสี Earth Tone ดูทันสมัยเหมาะกับคนรุ่นใหม่ มีการจัด Facilities เอาไว้ที่ชั้นบนด้วยซึ่งมีข้อดีตรงที่ได้ความเป็นส่วนตัวและได้วิวที่ดีกว่าวางเอาไว้ชั้นล่าง

เรามาดูภาพรวมของโครงการกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจากทางเข้า-ออกจะอยู่บนถนนซอยเทอดไท 33 ด้านหน้าโครงการจัดเป็นสวนหย่อมเพื่อเพิ่มความร่มรื่น ช่วยกรองเสียงและมลพิษจากถนน และช่วยบังสายตาจากคนภายนอกทำให้คนที่อยู่ในโครงการมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น สวนออกแบบมาเป็นสวนเล่นระดับสามารถมาใช้นั่งเล่นพักผ่อนได้ และมีมุมจอดจักรยานมาให้ สำหรับใครที่ใช้ปั่นไปทำงานหรือหาอะไรทานที่ตลาดพลู พื้นที่ส่วนกลางชั้นล่างจะมี Lobby , Co-Working Space , Mail Box , ห้องซักรีด และ โถงลิฟต์ ที่จอดรถอยู่ชั้นล่างและชั้นใต้ดินค่ะ โดยจอดได้ประมาณ 48% ชั้นพักอาศัยจะอยู่ในชั้น 2-8  มี Facilities อยู่ที่ชั้นบนอีกจุดหนึ่งคือ ฟิตเนสอยู่ที่ชั้น 8 และ สระว่ายน้ำอยู่ในชั้นดาดฟ้าค่ะ

พื้นที่สวนบริเวณด้านหน้าโครงการ เป็นสวนเล่นระดับสามารถใช้นั่งเล่นพักผ่อนได้ และพื้นที่สีเขียวนี้อย่างที่บอกว่าสามารถช่วยกรองฝุ่น ควัน เสียงจากถนนได้ และยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวอีกด้วย

การออกแบบตัวอาคารมาในสไตล์โมเดิร์นเลยค่ะ ใช้โทนสีเทาๆดูสวยดี ต้องรอดูตอนตึกเสร็จนะว่าเค้าจะเลือกใช้วัสดุออกมาเป็นแบบไหน

ชั้นบนจัดเป็น Facilities มาให้มีฟิตเนสและสระว่ายน้ำ ที่สามารถใช้ชมวิวและสัมผัสบรรยากาศในมุมสูงได้ สระว่ายน้ำมีทำ Partition ด้านข้างขึ้นมาบังสายตาเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว มีมุมนั่งเล่นพักผ่อนอยู่รอบๆสระ ถ้าไม่ได้มาว่ายน้ำก็มาใช้พื้นที่นั่งชมวิวได้

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ เค้าจัดมาให้ครบครันเพื่อให้ Match กับ Lifestyle ลูกค้าแต่ละกลุ่มให้มากที่สุด ถ้าอยากออกกำลังกายก็มีสระว่ายน้ำ , ฟิตเนสมาให้ใช้ มีพื้นที่นั่งเล่นชมสวนสำหรับสายชิลล์ มี Creative Co-Working Space พร้อม High Speed Wi-Fi รองรับการทำงานของเหล่ามนุษย์เงินเดือนและFreelance ทั้งหลาย และเพิ่มความสะดวกสบายด้วย Grab & Go เครื่องจำหน่ายอาหาร+เครื่องดื่มตลอด 24 ชั่วโมงเผื่อให้หิวตอนดึกแล้วไม่อยากเดินออกไปข้างนอก และ Washer & Dryer Zone ห้องซักผ้าแยกส่วนค่ะ

เรามาดูภาพจำลองบรรยากาศกันก่อน รูปแรกเป็นสวนหย่อมหน้าโครงการ มาใช้นั่งเล่นพักผ่อนได้ และที่จอดจักรยาน มีที่นั่งสำหรับนั่งพักคอยมาให้ด้วย

ถัดมาคือ Greenery Lobby ที่เชื่อมต่อกับสวนหย่อมหน้าโครงการ นั่งพักไปชมวิวไปด้วยได้ ด้านหลังเป็นพื้นที่ High Speed Wi-Fi Bar และ Co-Working Space สำหรับใช้นั่งทำงานกัน

ฟิตเนสของโครงการที่อยู่ที่ชั้น 8 ค่ะ ดังนั้นเวลาใช้งานจึงเห็นวิวในมุมสูงและเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยมีผนังเป็นเป็นกระจกเปิดรับวิวทั้งแผง วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 6 เครื่องค่ะ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือขนาด 4 x 12 เมตร ลึก 1.20 เมตร ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้า มีการจัด Lighting ตอนกลางคืนด้วยบรรยากาศดูชิลล์ดี ด้านหน้าอาคารสามารถชมวิวในมุมสูงได้ ส่วนด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งมีผนังกั้นเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว รอบๆจัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนและสวนหย่อมค่ะ

ชั้นล่างบริเวณหน้าโครงการจะมีสวนหย่อมและที่จอดรถจักรยาน ถัดเข้ามาด้านในที่จอดรถจะสามารถจอดได้ประมาณ 48% ภายในอาคารประกอบด้วย Lobby ที่สามารถนั่งชมวิวสวนหย่อมด้านนอกได้ บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับ High Speed Wi-Fi Bar , Co-Working Space พื้นที่สำหรับนั่งทำงาน ด้านในสุดมี Washer & Dryer Zone ห้องซักรีดกั้นแยกเป็นสัดส่วน ใครไม่มีเครื่องซักผ้าในห้องก็ลงมาใช้ได้ นอกจากนั้นก็มีห้องจดหมายและโถงลิฟต์ค่ะ

ห้องพักอาศัยมีตั้งแต่ชั้น 2-7 แปลนเหมือนๆกันหมด มีจำนวนห้องพัก 26 ห้องต่อชั้น พอเปิดลิฟต์ออกมาจะมีพื้นที่ Co-Working Space มาให้ทุกชั้น ให้ลูกบ้านมาใช้ทำงานหรือนั่งเล่นกันได้ สำหรับการวางผัง ทิศเหนือวางห้องพักแบบ 1 Bedroom 31 ตารางเมตร ส่วนทิศใต้เป็นห้อง 1 Bedroom 30 ตารางเมตร ส่วนห้องมุมจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนค่ะ ลิฟต์โดยสารมีอยู่ 2 ตัว เป็นแบบไม่ล็อคชั้นนะ แต่จะมีประตูกั้นซึ่งต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านไปยังห้องพักอาศัย โดยมีอัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 89 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นเท่าไหร่ค่ะ จากในรูปตำแหน่งของลิฟต์จะวางค่อนมาฝั่งขวา ทำให้มีฝั่งหนึ่งใกล้ลิฟต์ อีกฝั่งเดินไกลหน่อยแต่ได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ

ชั้น 8 การวางผังคล้ายๆแบบเดิมแต่จำนวนห้องลดน้อยลงเป็น 22 ห้องต่อชั้น เพราะมีบางส่วนปรับเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ประกอบด้วย ฟิตเนส และ สระว่ายน้ำที่ชมวิวมุมสูงได้ค่ะ เนื่องจากชั้นนี้เป็นชั้น Facilities ข้อดีคือใครชอบใช้ส่วนกลางจะสามารถเดินมาใช้งานได้สะดวกมากๆ แลกกับความคึกคักหน่อยเพราะลูกบ้านทุกชั้นก็จะต้องขึ้นมาใช้บริเวณนี้ แต่การจะเข้าไปใช้ส่วนกลางนั้นทางโครงการมีกั้นประตูเอาไว้ให้อีกชั้นหนึ่งค่ะ ถ้าใครไม่ใช้ลูกบ้านก็เนียนๆมาใช้ไม่ได้นะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby space
  • Greenery lobby
  • Creative co-working space
  • High speed WiFi bar
  • Hideaway garden
  • Bicycle parking rack
  • Grab & Go facility
  • Washer & Dryer zone
  • Infinity Sky Pool ขนาด 4 x 12 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่
  • Active Gym & Boxing corner
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 89 :  1
  • Service Lift : ไม่มี
  • ที่จอดรถประมาณ 48% ไม่รวมจอดซ้อนคัน (จอดรอบๆอาคารและชั้นใต้ดิน)
  • 24 hrs security system, CCTV


Product Walkthrough

จากแนวคิดในการออกแบบที่ต้องการให้ลูกบ้าน Match การใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง ทางโครงการจึงทำ Material มาให้เลือก 3 โทนสีด้วยกัน คือ Sweet Escape หวานๆ อบอุ่นๆหน่อย อีกอันคือ Marble Delight โทนสีขาวๆ คลีนๆ หินอ่อนๆ และสุดท้ายคือ Tropical Vibes เป็นโทนสีที่ดูเข้มขรึม ขึ้นมาหน่อย

ทางโครงการมี Material Board โทนสีต่างๆมาให้ชมกันค่ะ ใครไปที่สำนักงานขายก็ไปขอดูได้ว่า ของจริงเราจะได้วัสดุเป็นอะไร หน้าตาเป็นแบบไหน หรือถ้านึกไม่ออกทางโครงการก็จัดห้องตัวอย่างมาให้ดู 3 ห้อง 3 โทนสีเลย โดยเฟอร์นิเจอร์ได้แบบ Fully – Furnished ค่ะ สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมจะมี 2 Type นะคะ ได้แก่ 1 Bedroom 30 ตารางเมตร และ 2 Bedroom 60 ตารางเมตร

ห้องแรกที่จะพาไปชมคือ 1 Bedroom 30 ตารางเมตร เป็นห้องที่วางผังในแนวลึก แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน เข้ามาจะเจอกับครัวและพื้นที่รับประทานอาหารก่อน ครัวเป็นครัวเปิดจึงเหมาะกับการซื้ออาหารเข้ามาทานในห้องมากกว่า ซึ่งรอบๆโครงการก็เป็นย่านตลาดพลู หาของกินง่ายอยู่แล้วค่ะ บริเวณหน้าห้องมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เก็บของได้ ถัดไปเป็นพื้นที่นั่งเล่น วางโซฟาที่นั่งได้ประมาณ 2 ที่นั่ง บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนอนเลย กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ปลายเตียงเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ทั้งแนวผนังเลย ห้องนี้มีระเบียงด้วยค่ะ สามารถออกไปยืดสูดอากาศได้ ส่วนพื้นที่วาง Condensing Unit ของแอร์ก็กั้นเป็นสัดส่วนค่ะ สำหรับห้องน้ำจะอยู่ฝั่งหน้าห้อง แยกส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน ถ้ามีแขกก็สามารถใช้งานได้สะดวก แต่ถ้าเราอยู่ในห้องนอนจะออกมาใช้งานอาจจะเดินไกลนิดนึงค่ะ 

ประตูทางเข้าห้องเป็นไม้ลามิเนตพร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้

Digital Door Lock ได้เป็นของ Samsung ด้านล่างมีมือจับแบบก้านโยกพร้อมตัวล็อคมาให้ด้วย

เข้ามาข้างในห้องจะเจอกับครัว พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่รับแขก ถัดไปเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ห้องน้ำจะอยู่ทางฝั่งขวา บรรยากาศในห้องนี้ค่อนข้างโปร่งเพราะได้รับแสงธรรมชาติจากช่องแสงขนาดใหญ่ ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.60 เมตร ส่วนพื้นเป็นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ซึ่งมีคุณสมบัติคือทนทานต่อการขีดข่วน ทนน้ำได้ จึงใช้ได้ทั้งห้องครัว-ห้องนั่งเล่นและห้องนอน โดยโทนสีของห้องนี้จะเป็นแบบ Marble Delight

หน้าห้องจะเป็นโซนทำอาหาร-ทานข้าวเลย ข้างๆประตูมีพื้นที่ที่สามารถ Built-in ทำเป็นตู้เก็บของได้ ตู้นี้ทางโครงการไม่ได้มีให้นะคะ จะมีให้ครัวและโต๊ะทานข้าวค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวชุดนี้ทางโครงการแถมให้ วัสดุเป็นโครงไม้ Particle ปิดผิวด้วยเมลามีน Top เป็นหินสังเคราะห์สีขาว

ทั้งตู้บนและตู้ล่างเปิดออกมาเก็บของได้ตามนี้เลย มีถาดสำหรับวางช้อนส้อมมาให้ และตู้เป็นแบบ Soft Close ทั้งหมดค่ะ

สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอนของโครงการนี้ จะได้เฉพาะอ่างล้างจานนะคะ ของ Mex เป็นแบบหลุมเดียวมีถาดพักจานอยู่ด้านข้าง

ข้างๆเคาน์เตอร์มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นค่ะ สังเกตว่าด้านบนของตู้เย็นมีพื้นที่ว่างเหลือ สามารถทำตู้เพื่อเพิ่มหรือวางชั้นวางของด้านบนตู้เย็นได้

พื้นที่รับประทานอาหารนั่งได้ประมาณ 2 คน โต๊ะนี้โครงการมีแถมให้ขนาดประมาณ 60 x 60 cm. วางจานข้าวและกับข้าวได้ 3-4 อย่าง ถ้าอยากเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้หาโต๊ะเล็กๆมาเสริมด้านข้าง ส่วนการเลือกเก้าอี้ให้เหมาะคือเลือกตัวที่ไม่ใหญ่เท่าไหร่ เพราะจะได้มีพื้นที่รอบๆเหลือเยอะหน่อย

ทางโครงการมีการติดตั้งระบบ Bluetooth Sound System มาให้ ใช้เชื่อมต่อกับมือถือของเราไปยังลำโพงได้

โดยลำโพงจะติดตั้งอยู่บริเวณนี้หนึ่งจุด

ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่นั่งเล่น วางโซฟาได้ประมาณ 2 ที่นั่ง มีระยะวางทีวีประมาณ 3.30 เมตร กว้างพอสมควร ห้องนอนอยู่ด้านในกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน การกั้นห้องด้วยประตูกระจก ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้เยอะ ห้องจึงไม่มืดทึบค่ะ

โซฟาได้แบบนี้ค่ะ 2 ที่นั่ง ถ้าเราหาหมอนอิงสวยๆมาตกแต่งก็ทำให้ห้องดูมีลูกเล่นมากขึ้น

ฝั่งตรงข้าม Built-in ชั้นวางทีวีเต็มแผงตั้งแต่พื้นจรดฝ้าได้เลย แต่ชุดนี้ทางโครงการไม่ได้ให้ค่ะ  ส่วนทางฝั่งขวาเห็นประตูนั่นมั้ย มันคือทางเข้าห้องน้ำนั่นเองค่ะ

ห้องน้ำเป็นพื้นที่เป็นส่วนแห้ง ส่วนเปียกเป็นสัดส่วน จัดฟังก์ชันการใช้งานต่างๆมาให้ครบ ทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และ พื้นที่อาบน้ำ พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้

พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมาประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำไหลไปโดนส่วนอื่นๆ

อ่างล้างหน้าได้แบบนี้เลยค่ะ ทั้งกระจกเงาส่องหน้าและตู้เก็บของด้านล่าง

อ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard ค่ะ เปิดออกมาเก็บของได้

โถสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard เช่นเดียวกัน มีติดตั้งอุปกรณ์สายฉีดชำระและที่วางทิชชู่มาให้เรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ทำให้เวลาเปิดแล้วเราได้ช่องเปิดขนาดใหญ่ เดินผ่านได้สะดวก

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.73 x 1.00 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคมาให้เรียบร้อย ใช้งานอาบน้ำซักล้างได้สะดวก

พื้นห้องน้ำก็มีลดระดับลงมาอีกเพื่อรองรับการใช้งานอาบน้ำหรือซักล้าง น้ำจะได้ไม่ไหลไปโดนส่วนแห้ง

พื้นที่อาบน้ำมีติดตั้งฝักบัวและอุปกรณ์ต่างๆมาให้ครบ ผนังด้านหลังทำเป็นช่องเอาไว้วางของใช้เล็กๆน้อยๆพวกสบู่ แชมพูได้

หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้มาของ  American Standard

ถัดไปเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ทำให้ห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้นแต่ยังได้ความโปร่งและแสงสว่างจากภายนอก ถ้าเราอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็หาม่านมาปิดหรือติดฟิล์มเอาได้ค่ะ

ห้องนอนวางเตียงนอนได้แบบนี้ค่ะ โครงการมีแถมให้ ข้างเตียงเป็นประตูทางออกไปที่ระเบียง ส่วนปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งมีพื้นที่เหลือพอสมควรนะ สามารถวางโต๊ะข้างเตียงก็ได้หรือวางโคมไฟก็ได้

ปลายเตียงนี่มีพื้นที่เหลือเยอะหน่อย มีระยะห่างจากตู้เสื้อผ้าประมาณ 1.10 เมตร

ฐานเตียงฝั่งปลายเตียงสามารถเปิดออกมาเป็นตู้เก็บของแบบนี้ได้

ฝั่งปลายเตียงทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้สูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานเลย ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งนี่เราไม่ได้นะคะ แต่ก็สามารถทำเพิ่มเองได้ไม่ยาก ถ้าใครไม่เน้นแต่งหน้าแต่อยากได้ตู้เสื้อผ้าเพิ่มก็ทำเป็นตู้เสื้อผ้าเต็มทั้งผนังเลยก็ได้

บนเพดานบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งมีติดตั้งลำโพงของระบบ Bluetooth Sound System มาให้แบบนี้ค่ะ

ตู้เสื้อผ้ามีฟังก์ชันการใช้งานทั้งแขวนผ้า ชั้นวางของและลิ้นชัก ชั้นด้านบนสามารถใช้เก็บของชิ้นใหญ่หรือของที่ไม่ค่อยได้ใช้ได้ ถ้าอยากให้ดูเป็นระเบียบก็หากล่องมาจัดเก็บของให้เป็นหมวดหมู่ได้ค่ะ

มีลิ้นชักสำหรับเก็บของใช้ส่วนตัวหรือเสื้อผ้าแบบพับ และที่บานตู้ด้านในเปิดออกมามีกระจกเงาสำหรับเอาไว้ส่องตอนแต่งตัวด้วย

ฝั่งข้างเตียงเป็นประตูทางออกไปที่ระเบียงค่ะ ถือเป็นช่องแสงที่สูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานเลย

มีแอร์ติดตั้งให้บริเวณนี้ค่ะของ Panasonic

ระเบียงมีพื้นที่กว้างพอสมควร สามารถออกไปยืนสูดอากาศหรือใช้พื้นที่ได้เต็มที่ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

ฝั่งหนึ่งของระเบียงเป็นพื้นที่สำหรับแขวน Condensing Unit ของแอร์ ซึ่งในห้องจริงจะแขวนให้นะคะ ในห้องตัวอย่างนี้ยังทำไม่เสร็จเรียบร้อยดี

ต่อมาคือห้อง 2 Bedroom ขนาด 60 ตารางเมตร เข้ามาในห้องจะเจอโถงก่อน ซึ่งบริเวณนี้สามารถ Built-in ตู้เก็บของหรือตู้เก็บรองเท้าเพิ่มเติมได้ ถัดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร บริเวณนี้บรรยากาศจะโปร่ง โล่งเพราะผนังเป็นช่องแสง และมีประตูบานเลื่อนกระจกเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอก พื้นที่รับแขกนอกจากโซฟาแล้วยังมีมุมที่วาง Daybed ได้อีกด้วย มุมนี้สามารถปรับเป็นวางโต๊ะทำงานได้นะคะ ครัวห้องนี้เป็นแบบปิด กั้นเป็นสัดส่วนทำให้เวลาทำอาหารสามารถกันกลิ่นและควันได้บางส่วน เนื่องจากไม่มีพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับภายนอกการหมุนเวียนอากาศจะใช้จากเครื่องดูดควันแทนค่ะ ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องน้ำและห้องนอนเล็ก โดยฝั่งตรงข้ามห้องน้ำจะมีพื้นที่ที่สามารถทำเป็นตู้เก็บของหรือโซนซักรีดได้ ด้านในสุดเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวค่ะ ห้องนอนทั้ง 2 ห้องมีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศค่ะ

เข้ามาในห้องจะเจอกับโถงก่อน ทางฝั่งซ้ายเราสามารถ Built-in เป็นตู้เก็บของหรือตู้วางรองเท้าได้นะคะ การมีโถงอยู่หน้าห้องทำให้ภายในห้องเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ เพราะเข้าห้องมาจะไม่เห็นพื้นที่พักผ่อนโดยตรง โทนสีของห้องนี้คือ Tropical Vibes ค่ะ

จากโถงหน้าห้องพอเดินเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหาร บรรยากาศโปร่งโล่งแบบนี้เลย เพราะผนังด้านหลังเป็นช่องแสงทั้งแถบ วัสดุต่างๆของห้องนี้ก็เหมือนกับห้องก่อนหน้าค่ะ

ระยะดูทีวีของห้องนี้ประมาณ 1.80 เมตร โซฟากับชั้นวางทีวีนี้โครงการแถมให้ค่ะ

ตู้วางทีวีอันนี้ทางโครงการแถมให้ค่ะ มีทั้งลิ้นชักเก็บของและชั้นวางของ

ด้านข้างโซฟาจะมีพื้นที่ที่ยื่นออกไปสามารถวางโซฟาแบบ Daybed ได้ หรือไม่ก็จัดเป็นมุมทำงานได้ค่ะ ด้านหลังเป็นหน้าต่างบานใหญ่เลยสามารถดูวิวไปได้ด้วย

ถัดจากโซนนี้ไปทางฝั่งซ้ายเป็นครัวนะคะ ด้านหลังเป็นห้องน้ำและห้องนอน ถือว่าเป็นการจัดวางผังห้องแยกพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่ทำกิจกรรมได้ดี

ได้ Bluetooth Sound System และสวิทซ์ไฟของ Panasonic แบบเดียวกับห้องก่อนหน้า

โต๊ะทานข้าวนี่จัดได้ประมาณ 4 ที่นั่ง ข้างๆเป็นทางออกไปที่ระเบียงดังนั้นจึงนั่งทานข้าวไปด้วย ชมวิวไปด้วยได้ ด้านหลังมีพื้นที่สำหรับวางตู้โชว์

ตำแหน่งด้านบนตู้โชว์จะเป็นลำโพงของระบบ Bluetooth Sound System ค่ะ

โต๊ะรับประทานอาหารนี้ทางโครงการแถมแต่โต๊ะมาให้ เราต้องเลือกเก้าอี้มาวางเพิ่มเองค่ะ

พอถึงเก้าอี้ออกมาแล้วมีระยะเหลือให้เดินผ่านค่ะ ไม่กระชั้นติดโซฟาจนเกินไป

ด้านข้างโต๊ะอาหารเป็นประตูทางออกไปที่ระเบียง เป็นประตูบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียม

ระเบียงมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ปูด้วยกระเบื้องมาให้เรียบร้อย เหมาะสมต่อการใช้งานซักล้าง

มีพื้นที่แยกออกมาสำหรับวาง Condensing Unit ของแอร์ พร้อมมีระแนงกั้นบังตามาให้เรียบร้อย

ครัวมีประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอนกั้นเป็นครัวปิด เป็นสัดส่วนดี สามารถทำอาหารต้ม ผัด แกง ทอดที่มีกลิ่นได้ เนื่องจากไม่มีพื้นที่เปิดออกสู่ภายนอกอาคาร กลิ่นและควันจึงจะถูกดูดด้วยพัดลมดูดอากาศเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวเราได้มาหน้าตาเป็นแบบนี้เลย วัสดุเหมือนกับห้องก่อนหน้า แต่ห้องแบบ 2 ห้องนอนนอกจากอ่างล้างจานแล้ว ยังจะได้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาด้วย

ทั้งตู้บนและตู้ล่างมีการแบ่งช่องต่างๆเอาไว้ให้เก็บของ และมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟด้วยค่ะ

เตาไฟฟ้าได้แบบ 2 หัวของ Mex

เครื่องดูดควันได้ของ Mex เช่นเดียวกัน

อ่างล้างจานแบบหลุมเดียวของ Mex ค่ะ

ถัดมาจะเป็นโซนพักผ่อนประกอบด้วยห้องน้ำที่มีตู้เก็บของและพื้นที่ซักล้างอยู่ตรงข้าม ถัดไปเป็นห้องนอน 2 ห้อง การแบ่งพื้นที่พักผ่อนออกจากพื้นที่ทำกิจกรรม มีข้อดีคือเป็นสัดส่วน เราสามารถเข้ามานอนได้โดยที่สมาชิกคนอื่นๆยังนั่งดูทีวีกันอยู่

ห้องน้ำที่เราเจอห้องแรกนั้นเป็นห้องน้ำที่ต้องใช้แชร์กับส่วนอื่นๆค่ะ แบ่งเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน

สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard แบบเดียวกับห้องก่อนหน้า

พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอนค่ะ เป็นสัดส่วนดี เวลาอาบน้ำน้ำไม่กระเด็นมาโดนส่วนแห้งนะ

พื้นที่อาบน้ำของห้องนี้มีขนาด 0.80 x 1.00 เมตร กว้างกว่ามาตรฐานใช้งานได้สะดวกค่ะ

ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำจะมีช่องโล่งๆซึ่งสามารถ Built-in เป็นตู้เก็บของและพื้นที่สำหรับซักรีดได้แบบนี้ค่ะ

ถัดมาเป็นห้องนอนเล็กวางเตียงได้ขนาด 5 ฟุต ข้างเตียงมีหน้าต่างบานใหญ่เอาไว้นอนชมวิวได้ อีกทั้งยังช่วยให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องเยอะอีกด้วย

พื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งมีระยะพอๆกัน ทางฝั่งซ้ายไม่ได้วางโต๊ะข้างเตียงเนื่องจากจะติดกับระยะการเปิดบานตู้เสื้อผ้า

ปลายเตียงมีระยะเหลือประมาณ 60 cm. เราสามารถเดินผ่านได้สบายๆ แต่ไม่แนะนำให้วางชั้นวางทีวีนะคะ ถ้าอยากนอนไปดูทีวีไป แนะนำให้แขวนทีวีติดผนังไปเลยจะประหยัดพื้นที่กว่า

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิดแบบ 3 ตอนเก็บของได้ประมาณนี้ค่ะ

ห้องนอนใหญ่พื้นที่ค่อนข้างกว้าง สังเกตจากพื้นที่ที่เหลือรอบๆเตียง ในห้องตัวอย่างวางเตียงแบบ Queen Size ห้องนี้มีหน้าต่างเอาไว้รับแสงธรรมชาติและเปิดระบายอากาศด้วยค่ะ เป็นบานสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลย ดังนั้นบรรยากาศภายในห้องจึงดูโปร่ง

ข้างเตียงทางฝั่งซ้ายมีพื้นที่เหลือประมาณ 40 cm. ส่วนทางฝั่งขวามีพื้นที่เหลือ 67 cm.

ปลายเตียงมีระยะเหลือประมาณ 100 cm. สามารถวางตู้วางทีวีได้สบายๆ

บริเวณปลายเตียงสามารถดึงออกมาเป็นลิ้นชักได้ เอาไว้สำหรับเก็บของเล็กๆน้อยๆที่ต้องใช้ในห้องนอนเช่น หนังสือ หรือ รองเท้าสลิปเปอร์

อีกฝั่งของห้องเป็นห้องน้ำ โดยห้องนอนใหญ่นี้จะมีห้องน้ำในตัวค่ะ หน้าห้องมีตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วย อาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวตรงนี้ได้สะดวกดี ภายในตู้เสื้อผ้าก็ดีไซน์ออกมาเหมือนกับห้องก่อนหน้าค่ะ

ด้านบนตู้เสื้อผ้าเป็นตำแหน่งที่ติดตั้ง Bluetooth Sound System มาให้

ปลั๊กไฟของโครงการมีที่เป็นหัว USB ด้วยค่ะ สามารถชาร์จมือถือต่อได้เลยค่ะ

บรรยากาศภายในห้องน้ำคล้ายๆห้องก่อนหน้า สุขภัณฑ์ก็ตามเดิมค่ะ

พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 2 ตอน แยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจนค่ะ

ห้องสุดท้ายคือห้องแบบ 2 Bedroom 31 ตารางเมตร เป็นห้อง 1 ห้องนอน + ห้องอเนกประสงค์ พื้นที่ใช้สอยถูกจัดเป็นสัดส่วน เข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีก่อนเลย ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำและห้องครัว แบบครัวปิดกั้นเป็นสัดส่วน ด้านหลังพื้นที่นั่งเล่นสามารถทำได้ทั้งโต๊ะทำงานและโต๊ะทานข้าว แล้วแต่ Lifestyle ของเรา ด้านในเป็นห้องนอน 2 ห้อง ห้องนอนเล็กจะมีระเบียง ส่วนห้องนอนใหญ่มีกระจกเข้ามุมแบบ Bay Window ค่ะ

สำหรับใครที่สนใจโครงการ  The Matt Condo ตอนนี้เปิดให้ชมห้องตัวอย่างแล้ว สามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด 100,000 บาทได้ที่นี่ค่ะ คลิก

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 5 June 2018 

  • 1 Bedroom 30 ตร.ม. ราคา 1.81-2.14 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 31 ตร.ม. ราคา 1.90-2.20  ล้านบาท
  • 1 Bedroom Extra 34 ตร.ม. ราคา 2.04-2.28  ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 42-43 ตร.ม. ราคา 2.74-3.34  ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 58-60 ตร.ม. ราคา 3.44-4.24  ล้านบาท

  • Fully Furnished 
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 10,000-20,000 บาท
  • ทำสัญญา 20,000-30,000 บาท
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 18 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ 


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล The Matt Condo ตั้งอยู่ในซอยเทอดไท 33 โดยซอยนี้เป็นซอยที่สามารถใช้ทะลุไปได้หลายที่ เช่น ถนนเทอดไท ถนนวุฒากาศ ถนนรัชดาภิเษก เป็นต้น และภายในซอยยังเป็นที่ตั้งของวัด , โรงเรียน , ชุมชน กระจายกันอย่างหนาแน่น นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์ในแง่การอยู่อาศัยสูงมากเป็นทุนเดิม ความอุดมสมบูรณ์หลักๆ นั้นอยู่ในละแวกโครงการเลยค่ะ โดยใกล้ที่สุดนั้นจะเป็นห้างเดอะมอลล์ท่าพระ ที่สามารถเดินไปใช้บริการได้เลย สำหรับห้างเดอะมอลล์ท่าพระนี้จัดเป็นห้างเก่าแก่ที่อยู่กับคนย่านนี้มานาน ต่อมามีการปรับปรุงภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยขึ้น นอกจากนั้นบริเวณรอบๆโครงการก็จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า ของกินแผงลอยตั้งอยู่ค่อนข้างเยอะ ในช่วงเช้าจะคึกคักกว่าหน่อยตามข้างทางจะมีของขายทั้ง หมูปิ้ง หมูทอด ข้าวไข่เจียว ไปจนถึงอาหารตามสั่ง แต่ช่วงเย็นบรรยากาศจะเงียบๆกว่าหน่อย แต่ก็ยังมีร้านอาหารเปิดเยอะอยู่  นอกจากเดอะมอลล์ใกล้ๆโครงการยังมีไทยช่วยไทยพลาซ่า , ตลาดซอย13 , MaxValu และ ตลาดพลู ตลาดเก่าแก่ที่มีทั้งร้านอาหาร และ ขนมขึ้นชื่อมากมาย

การเดินทางโดยใช้รถ โครงการนี้ก็สามารถใช้ถนนหลักได้หลายเส้นทางทั้งถนนราชพฤกษ์ ในช่วงทางกลับรถใต้ทางยกระดับถนนราชพฤกษ์ โดยถนนนี้มีความสำคัญคือเป็นถนนที่เชื่อมเข้าถนนกรุงธนบุรี และขึ้นสะพานตากสินข้ามไปยังฝั่งพระนคร ย่านสาทรได้ง่าย หรือจะวิ่งเข้าถนนรัชดาภิเษกนั้นก็เชื่อมต่อไปตลาดพลู ไปก็จะถึงแยกท่าพระได้ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่ หรือถ้าวิ่งไปทางฝั่ง The Mall ท่าพระ  แล้วตรงไปเรื่อยๆ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปก็เป็นถนนพระราม 3 แล้วค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถือว่าสะดวกทีเดียว สามารถเดินไปรถไฟฟ้าหรือจะเรียกพี่วินไปก็ได้ค่ะ ในซอยมีวินมอเตอร์ไซค์และรถวิ่งผ่านตลอด ด้วยความที่ซอยสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดได้ แถมยังใกล้รถไฟฟ้าอีก ตัวโครงการนั้นอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีตลาดพลู และด้วยสถานีนี้จัดเป็นส่วนหนึ่งของรถไฟฟ้าสายหลักในการเข้าเมืองไปยังย่านสาทร เลยไปถึงสยามได้ง่ายเลยค่ะ ส่วนในอนาคตบริเวณ BTS บางหว้านั้นจะ Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ให้สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้หลากหลายมากขึ้นด้วยนะคะ และอีกตัวเลือกนึงสำหรับใครที่เรียนหรือทำงานในย่านพระราม 3 หรือจะไปสีลมและสาทรนั้นก็มี BRT รองรับเช่นเดียวกัน

วัสดุ ให้มาดีเลย ทั้งเฟอร์นิเจอร์ครบขายแบบ Fully-Furnished พร้อม Bluetooth Sound System , ไฟ LED และ ปลั๊กแบบ USB รวมถึงสามารถเลือกโทนสีวัสดุในห้องได้ด้วย โดยแบ่งออกเป็น 3 โทนสีด้วยกัน คือ Sweet Escape หวานๆ อบอุ่นๆหน่อย อีกอันคือ Marble Delight โทนสีขาวๆ คลีนๆ หินอ่อนๆ และสุดท้ายคือ Tropical Vibes เป็นโทนสีที่ดูเข้มขรึม ขึ้นมาหน่อย

การออกแบบ ทำออกมาได้ดี Concept ของโครงการคือ “Let’s match your life” ที่สามารถ Match ชีวิตของคุณได้ด้วยตัวเอง ทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่จัดมาให้หลากหลายทั้ง Lobby Space , สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส , Co-Working Space และมีแบบห้องให้เลือกหลายฟังก์ชัน การจัดวางฟังก์ชันในห้องต่างๆลงตัว มีการวางผังยก Facilities เอาไว้ที่ชั้นบนซึ่งทำให้มีความเป็นส่วนตัว น่าใช้งานต่างจากคอนโด Low Rise ทั่วๆไป

สาธารณูปโภค จัดมาให้ครบครัน รองรับทุกการใช้งานของลูกบ้าน ด้านหน้าโครงการจัดเป็นสวนหย่อมเพื่อเพิ่มความร่มรื่น ช่วยกรองเสียงและมลพิษจากถนน และช่วยบังสายตาจากคนภายนอกทำให้คนที่อยู่ในโครงการมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น สวนออกแบบมาเป็นสวนเล่นระดับสามารถมาใช้นั่งเล่นพักผ่อนได้ และมีมุมจอดจักรยานมาให้ ชั้นล่างจะมี Lobby , Co-Working Space , Mail Box , ห้องซักรีด และ โถงลิฟต์ อีกจุดหนึ่งคือ ฟิตเนสอยู่ที่ชั้น 8 และ สระว่ายน้ำอยู่ในชั้นดาดฟ้าค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาประมาณ 60,000-70,000 บาท/ตร.ม.,  5 June 2018 

  • ทำเล 7.75/10 – ตั้งอยู่ในซอยเทอดไท 33 ใกล้รถไฟฟ้าตลาดพลู 
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – มีเส้นทางลัดเลือกใช้ได้หลายเส้นทาง
  • ไม่ใช้รถ 8.25/10 – สะดวกมีให้เลือกทั้ง BTS – BRT พี่วิน ส่วนแท็กซี่และรถเมล์
  • วัสดุ 8/10 – ให้มาดีเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย มี Bluetooth Sound System 
  • แบบ 8.5/10 – โดยรวมออกแบบได้ลงตัว ดูทันสมัย วางผังห้องดี 
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – ให้มาครบครัน หลากหลาย มีการยก Facilities เอาไว้ชั้นบน

  • ECONOMY CLASS
  • 8.05 / 10.00

BOTTOM LINE 

The Matt Condo เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านตลาดพลู ที่ราคาไม่แรง ชอบทำเลมีความอุดมสมบูรณ์รายรอบเยอะ หาของกินง่ายแต่ก็ยังชอบความเป็นส่วนตัว ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง มีเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเลือกโทนสีได้ มีงบประมาณ 1.69 – 4.20 ล้านบาท หรือ มีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 30,000 บาท/เดือน