The Kris Ratchada 17 รีวิว ตึก 6 และ 7 สองตึกสุดท้าย ของหมู่ตึก 7 อาคาร จาก กฤษดามหานคร [รีวิวฉบับที่ 553]

รีวิวฉบับที่ 553 … เราจะแวะไปชม The Kris Ratchada 17 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 7 อาคารโดยตอนนี้ได้เริ่มก่อสร้างกลุ่มอาคารสุดท้ายเล้วค่ะนั่นคืออาคาร 6-7  โดยอาคารเเรกนั้นเริ่มมาตั้งแต่ 7  ปีก่อน ซึ่งเมื่อกลางปี 2012 Mr.Oe เคยได้พาไปชมมาแล้วตอนที่โครงการกำลังก่อสร้างอาคาร 5 ค่ะ (สามารถเข้าไปอ่านรีวิวอาคาร 5 ได้ที่ The Kris อาคาร 5 รีวิวฉบับที่ 174

Fact @ 21 March 2014

• The Kris Ratchada 17 (เดอะ คริส รัชดา 17) – อาคาร 6 และ 7
• AQ Estate
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• คอนโด  Low Rise 8 ชั้น 7 อาคาร
• ที่ดินรวมประมาณ 7ไร่ (รวมทั้ง 7 อาคาร)
• อาคาร 6 จำนวนยูนิต 170 ยูนิต พื้นที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 41%
• อาคาร 7 จำนวนยูนิต 178 ยูนิต พื้นที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 41%
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 25 ยูนิตที่อาคาร 7
• 1 Bedroom , 1 Bedroom Extra, 2 Bedroom
• พื้นที่ใช้สอย 22.5 – 40.0 ตารางเมตร
• ฝ้าเพดานสูง 2.35 เมตร
• ราคาต่อห้องเริ่มต้น 1.67ล้านบาท (เฉพาะยูนิตที่เหลืออยู่)
• ราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้น 75,800 บาท
• 1 Bedroom  Extra ขนาด 22 – 24 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.67 ล้านบาท
• 1 Bedrooms ขนาด 28 – 34 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.54 ล้านบาท
• 2 Bedrooms ขนาด 39 – 40 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.96 ล้านบาท
• ขายแบบ Fully Furnished
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ กลางปี 2558
• http://thekriscondos.com/ratchada17/index.php
• โทร 02-648 5555

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะค่ะ

 

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.786576,100.571624

แผนที่จากทางโครงการค่ะ โครงการหาไม่ยากนะคะ อยู่ในซอยรัชดา 17 สังเกตง่ายๆปากซอยมี โพไซดอนค่ะ เข้าซอยมาราวๆ 200 เมตรก็จะเจอกลุ่มอาคารของโครงการอยู่ขวามือค่ะ

ดูแผนที่ Google อีกทีเพื่อจะได้เห็นระยะชัดเจนขึ้น จะเห็นว่าโครงการเข้ามาจากปากซอยรัชดา 17 ไม่ไกลนักค่ะ

แนวทางเดินไปรถไฟฟ้าใต้ดิน วัดได้ประมาณ 600 เมตร จาก Mark เขียว เพราะ Kris ตึก6-7 มีทางเข้าออกตรงนั้นพอดี จะเดินใกล้กว่าตึก 1-4 ค่ะซึ่งจากเเผนที่จะเห็นตำเเหน่งอาคารที่บอกไว้ ศูนย์อาหารตลาดเมืองไทยภัทร-รัชดาจะอยู่ติดกับทางออกรถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ

Zoom ดูโครงการ ทำเลแถวนี้ต้องมาดูพื้นที่จริงนะคะ ว่าอยู่ได้ไหม ขึ้นชื่อว่าถนนรัชดา ก็จริง แต่รัชดาแต่ละที่แต่ละโซนนี่ต่างกันมาก บางที่น่าอยู่ สงบๆ บางที่คึกคักวุ่นวาย บางที่ไม่เหมาะกับคุณสุภาพสตรีพักอาศัย … ต้องมาดูพื้นที่จริงนะคะ… ตัวโครงการปากซอยรัชดา 17 มี โพไซดอนเป็น Landmark เพราะเป็นที่รู้จักมานาน แต่ต่อมาจะมีตึกของ Quinn Condo มาให้เห็นเด่นแต่ไกลเนื่องจากเป็นคอนโด Hight Rise พอเข้าซอยจะผ่าน CopaCabana และจะเป็นทางเข้าของ อาคาร 6-7 ที่ใช้ทางเข้าเดียวกันกับอาคาร 1-4 ดังนั้นจะเดินไกลกว่าอาคาร 5 เล็กน้อยค่ะ

Kris อาคาร  6 จะโดนประกบหมด โดยทิศเหนือ มีตึก 3 บังตลอดแนว และสูง 8 ชั้นเท่ากันพอดี ทิศใต้เจอกับโคปาคาบานา  ทิศตะวันตกเดี๋ยวจะมีอาคาร 7 ขึ้นมาบัง ส่วนทิศตะวันออกเป็นอาคาร 5 สำหรับ Kris อาคาร 7 ก็เรียกว่าโดนรายล้อมเช่นกันค่ะทิศตะวันออกติดกับอาคาร 5 ทิศเหนือติดถนนจะเห็นร้านรับล้างรถด้านหน้าค่ะ

ทำเลตรงนี้เข้าซอยมาแค่ 200 เมตร เป็นซอยที่เค้าใช้เป็นทางลัดไปออกสุทธิสาร วิภาวดี ดินแดงกัน ดังนั้นระวังมอไซค์หน่อย โชคดีที่เดินไม่ไกล และทางด้านซ้าย ตอนกลางคืนเห็นเค้าว่ากันว่าคึกคักตลอดไม่เปลี่ยว ไม่น่ากังวลเท่าไร หน้าโครงการมีพี่วินตั้งอยู่ ช่วยกันดูแลอีกแรงหนึ่ง

ความอุดมสมบูรณ์ระยะเดินเท้าใกล้ๆไม่ค่อยมีอะไร มีตู้ เอทีเอ็มกะมินิมาร์ท ใกล้ๆ ส่วนร้านอาหาร ก็พอมี แต่น้อย.. ส่วนถ้าใช้รถส่วนตัว พี่วิน หรือเดินไปใช้ MRT ก็จะมีทางเลือกเยอะมากค่ะ

การเดินทางสามารถไปด้วยรถยนต์ ซึ่ง Mr. Oe เคยพาไปแล้ว เลยขอยกมาให้ดูอีกครั้งนะคะ เผื่อใครยังไม่เคยอ่าน  (ข้อมูลและรูปของรีวิวฉบับที่ 174 @ 02 June 2012)

การเดินทางถ้ามาจากวิภาวดี หรือทางด้าน เกษตร หรือรัชโยธิน ตรงเกาะเส้นรัชดามุ่งหน้าเข้าเมืองมาเรื่อย จนข้ามสะพานข้ามแยกลาดพร้าวมา ลงสะพานมาก็เจอตึกโอลิมเปีย สีดำๆทางซ้าย

ขับไปเรื่อย ชิดขวาไว้ เตรียมลงอุโมงค์ลอดผ่านแยกรัชดา-สุทธิสาร

ลงอุโมงค์แล้วโผล่ขึ้นมาจะเห็นตึกธนชาต ผอมๆ ทางขวามือ ถัดจากตึกธนชาติไป ตึกสีน้ำตาลๆนั่นแหละ โพไซดอน

ขับตรงต่อไป เพื่อยูเทิร์น อยู่เลนที่สองจากซ้ายไว้นะคะ อย่าลงอุโมงค์ล่ะ

ยูเทิร์นตรงนี้แหละ แยกห้วยขวาง

ยูเทิร์นเสร็จแล้ววิ่งย้อนกลับมา 800 เมตร จะถึง โพไซดอนนะคะ เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย เข้าซอยรัชดา 17 นะค่ะ อย่าเนียนเลี้ยวผิดล่ะ

เห็นป้ายซอย รัชดา 17 ซ้ายมือ อยู่ระหว่างโพไซดอนกับ ธนชาตค่ะ

เวลาออกจากซอยมาระยะกระชั้นเกินกว่าจะมุดลงอุโมงค์ ขอร้องอย่าปาดนะคะอันตราย ไม่คุ้มเสียง เลนตรงเขามาเร็วค่ะ แนะนำให้ขับตรงไปติดไฟแดงถ้าจะไปลาดพร้าว หรือวิภาวดีขาออก ส่วนถ้าจะเข้าเมือง ก็ต้องยูเทิร์นตรง Taxi สีชมพูข้างหน้า

ยูเทิร์นแยกนี้แหละ แยกสุทธิสารค่ะ

 

คราวนี้ลองมาเดินทางจาก Mrt ไปโครงการกันบ้างค่ะว่าทางเดินเดินสะดวกรึเปล่า เก็บข้อมูลใหม่เมื่อ @21 Mar 2014

ออกมาจาก Mrt ให้ออกทางประตู 4 ค่ะ ทางออกนี้มีข้อเสียอย่างเดียวค่ะ คือมีแต่บันไดเลื่อนขึ้น ขาลงต้องเดินลงซึ่งเป็นบันไดยาวทีเดียว วันไหนรีบ ๆ คงได้บริหารกล้ามเนื้อขากันแน่เลย 🙂

ลักษณะฟุตบาทและตึกเเถวนี้จะเป็นร้านค้าและเเหล่งพักผ่อนที่มีสาวสวย 🙂 (รึเปล่าน้าาา) ตอนกลางวันดูไม่ค่อยมีอะไรค่ะ แต่กลางคืนจะเป็นอีกอารมณ์หนึ่งเลยดังนั้นที่นี่ถึงเป็นทำเลที่ต้องพิจารณากันเองให้ดี ๆ

เนื่องจากฝั่งธนาคารธนชาตไม่ค่อยมีร้านค้าร้านอาหารเท่าไหร่นัก ไม่ต้องห่วงค่ะ ช่วงกลางวันถ้าออกทางออกตรงข้ามกับที่เราออกมาจะเป็นศูนย์อาหารตลาดเมืองไทยภัทร-รัชดา กลางวันก็มีหนุ่ม ๆสาว ๆ ออฟฟิศเยอะทีเดียว ร้านค้ามีให้เลือกซื้อเลือกทานกันเยอะทีเดียวค่ะ

เดินตรงไปฟุตบาทเหมือนจะเดินสะดวก ติดแค่ตรงจุดใต้สะพานลอยที่ตีนสะพานวางเต็มฟุตบาททีเดียว จะเดินผ่านมีให้เลือก 2 ทางค่ะ ซ้ายคือเดินลงถนน(อันตรายค่ะ) งั้นมาเลือกทางขวาดีกว่า เห็นซุ้มทางเข้าที่เขียนว่า Quinn Condo รึเปล่าคะ เข้าทางนั้นค่ะจะอ้อมหน่อยแต่ปลอดภัยกว่าเยอะเลย ตึกกระจกฟ้า ๆ ที่เห็นคือตึกของธนชาตค่ะ

ห่างจากสะพานลอยมาจะเป็นป้ายรถเมล์ค่ะ ถ้าอยู่ Kris ป้ายนี้ก็เป็นป้ายที่ใกล้ที่สุดแล้วค่ะ

ถึงปากซอยรัชดา 17 แล้วค่ะ เห็นโพโซดอนไหมคะ อาคารเด่นชัดทีเดียวหนุ่ม ๆ อาจได้ยินชื่อเสียงเรียงนามที่นี้มาบ้างแล้ว

ข้ามมาฝั่งโพโซดอนถ่ายให้เห็นปากซอยอีกด้าน จะเห็นป้าย The Kris อยู่ 2 จุด  จุดนี้จะเห็น Quinn Condo ที่กำลังก่อสร้างอยู่ เมื่อก่อนตอน Mr.Oe พามาชมยังเป็นพื้นที่รกร้างอยู่เลย

เดินเข้ามาในซอยจะเป็นเเบบนี้ค่ะ เมือเข้ามาอีกหน่อยก็จะมีโคปาคาบานาอยู่ทางด้านซ้ายมือ ขวามืออาคารสูง ๆ ที่เห็นคือวัฒนาแมนชั่น ซึ่งมีแฟมิลี่มาร์ทอยู่ล่างตึกค่ะ

ตรงเข้าซอยมาอีกนิด จะเจอวัฒนาแมนชั่นด้านขวามือ เห็นป้ายซึ่งติดกับทางเข้าออกของ Kris อาคาร 5

ส่วนทางเข้าตึก 1-4 และ 6-7 ตรงไปอีกหน่อยค่ะ จะอยู่ทางขวามือ

ทางเข้า 1-4 และ 6-7 ค่ะที่เห็นมีสังกะสีล้อมอยู่คือส่วนที่กำลังก่อสร้างอาคาร 6-7 ค่ะ อาคารที่สร้างเสร็จแล้วที่เห็นในภาพคืออาคาร 2

สำหรับหน้าปากทางเข้าจะมีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างตั้งอยู่ค่ะ และมีร้านรับล้างรถอยู่ข้างๆ  กันนั้นเอง

ค่าบริการพี่วินค่ะ ถ้าจะไป MRT และไม่รีบมากเดินไปไม่ทันเหนื่อยก็ถึงเเล้วค่ะ

 

เจาะลึกตัวโครงการ

 

ผังโครงการรวม จัดวางตึกเรียงกันแบบนี้ ปัจจุบันอาคาร  6, 7 กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ Facility หลักคือสระว่ายน้ำ Fitness และ ซาวน่า เอาไปไว้ที่อาคาร Club House ซึ่งเล็กและเดินมาใช้งานไม่สะดวกในชีวิตจริง แนะนำให่้แวะดูด้วยตัวเอง ว่าจะได้ใช้ไหม ซีเรียสไหม เพราะหลายๆคนอยู่โครงการมีสระมี Fitness แต่ไม่เคยแม้แต่เดินผ่านก็มี สำหรับพื้นที่สีเขียวที่เห็นในโครงการจริงจะเทปูนเป็นทางเดินรถและพื้นที่จอดรถของอาคารนั้น ๆ ค่ะ

คราวนี้มาดูแบบอาคาร 6-7 กันบ้างค่ะว่าหน้าตาจะเป็นยังไง การวางผังอาคารเป็นเเบบไหน

 

โมเดลจำลองอาคาร 6 ค่ะหน้าตาอาคารจะเป็นแบบนี้ ด้านหน้า(รูปซ้ายมือบน)จะเห็นว่าชั้น 2 มีพื่นที่สีเขียวอยู่ ตรงนั้นต้องรอดูตอนสร้างเสร็จค่ะว่าของจริงจะเป็นอย่างไร ห้องที่อยู่ติดกับตรงนี้ก็จะได้มุมก้มเป็นสวนค่ะ ด้านบนเป็นดาดฟ้าเห็นว่าจะมีสวนด้วยค่ะ

 

แบบอาคาร 6 ชั้น 2 ดูจะเป็นสี่เหลี่ยมทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ หรือฟังชั่นต่างๆ  ง่ายขึ้น สีส้มที่เห็นในเเปลนคือห้องแบบ 1 ห้องนอนแบบเดียวกับห้องตัวอย่างนั่นเองค่ะ ส่วนสีฟ้าจะเป็น 1 ห้อนนอนเอ็กตร้า ซึ่งคล้ายกับแบบสตูดิโอของอาคาร 5 มากเพียงเเค่เพิ่มฉากกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นออกจากกัน สุดท้ายคือสีชมพูจะเป็นแบบ 2 ห้องนอนค่ะ ส่วนชั้น 2 ของอาคารจะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดนะคะ ส่วนสีเขียวที่เห็นในโมเดลบอกว่าเป็นพื้นที่สีเขียว ตรงจุดนี้คงต้องรอดูตอนโครงการสร้างเสร็จอีกทีนะคะ ตึก 6 มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัวนะคะ

อาคาร 6 ชั้น 3-8 ซึ่งเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดและเหมือนกันค่ะ ดังนั้นจะเห็นว่าแต่ละชั้นห้องส่วนใหญ่คือแบบ 1 ห้องนอน ค่ะ สำหรับ2 ห้องนอนมีเพียง 3 ห้องต่อชั้นและ 1 ห้อนนอนเอ็กตร้าจะมีเพียง 4 ห้องต่อชั้น … ห้องของตึก 6 ทั้งหมด ถ้าเปิดหน้าต่างหรือ ระเบียงแทบจะเรียกว่า เห็นเพื่อนบ้านตรงข้ามแบบใกล้ๆเกือบทั้งหมด จะยกเว้นเพียงแค่ห้องที่อยู่ทางด้านทิศใต้ 3 ห้องเท่านั้นค่ะ เพราะรายรอบตึก 6 เป็นตึก 7 ทางตะวันตก ตึก 3 ทางทิศเหนือ และตึก 5 ทางทิศตะวันออก ส่วนทิศใต้ ความที่เป็นตัว U เลยเห็น เพื่อนบ้านตึก 6 ด้วยกันเองนี่แหละค่ะ

 

โมเดลจำลองอาคาร 7 ค่ะหน้าตาอาคารค่ะ ด้านหน้า(รูปซ้ายมือบน)จะเห็นว่าชั้น 2 มีพื่นที่สีเขียวอยู่จะเห็นว่าด้านในของอาคารนี้จะอยู่ใกล้กันมากว่าอาคาร 6 นะคะ ดังนั้นห้องด้านในอาจจะรู้สึกใกล้ชิดกับฝั่งตรงข้ามมากไปหน่อย ส่วนด้านนอกอย่าน้อยใจนะคะ ด้านที่อยู่ฝั่งทิศเหนือ(รูปซ้ายล่าง)จะใกล้กับอาคาร 2 และทิศตะวันออก(ขวาบน) ก็ได้ใกล้ชิดกับอาคาร 6 ค่ะ 🙂

แบบอาคาร 7 ชั้น 2 เเปลนห้องใช้เเบบเดียวกับอาคาร 6 ดังนั้นความเเตกต่างจะน้อยมากค่ะ  จากเเปลนสีส้มที่เห็นในเเปลนคือห้องแบบ 1 ห้องนอนแบบเดียวกับห้องตัวอย่างนั่นเองค่ะ ส่วนสีฟ้าจะเป็น 1 ห้อนนอนเอ็กตร้า ซึ่งคล้ายกับแบบสตูดิโอของอาคาร 5 มากเพียงเเค่เพิ่มฉากกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นออกจากกัน สุดท้ายคือสีชมพูจะเป็นแบบ 2 ห้องนอนค่ะ ส่วนชั้น 2 ของอาคารจะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดนะคะ ลิฟท์โดยสารมี 2 ตัวเช่นกัน

 

อาคาร 7 ชั้น 3-8 ซึ่งเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดและเหมือนกันค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ค่ะ สำหรับ2 ห้องนอนมีมากกว่าอาคาร 6 นั่นคือมี 6 ห้องต่อชั้นและ 1 ห้อนนอนเอ็กตร้าจะมีเพียง 4 ห้องต่อชั้นเท่ากับอาคาร 6 ค่ะ ส่วนวิวจะดีกว่าอาคาร 6 คือมีด้านทิศตะวันตกที่ยังเปิดโล่งแบบมี Privacy อยู่ค่ะ ไม่ได้เปิดหน้าต่างมาเจอเพื่อนบ้านระยะใกล้ๆ แบบด้านอื่นๆ

ทางเข้าหลักของอาคาร 1-4 และ 6-7 ค่ะที่เห็นมีสังกะสีล้อมอยู่คือส่วนที่กำลังก่อสร้างอาคาร 6-7 ค่ะ อาคารที่สร้างเสร็จแล้วที่เห็นในภาพคืออาคาร 2

อาคาร 6-7 @21-03-2014 ค่ะ

อาคาร 1 ค่ะ เป็นพี่ใหญ่อยู่มาก่อนใครเพื่อน

ตรงข้ามกันจะเป็นอาคาร 2 ซึ่งอาคารนี้จะอยู่ติดกับอาคาร 7

เดินตรงไปอีกนิดจะเป็น Club House ค่ะ เลี้ยวขวาไปก็จะเป็นทางไปอาคาร 3-4

เมื่อเลี้ยวขวาเข้ามาก็จะเป็นทางเเบบนี้ค่ะ จะเห็นตึกของ The Kris เรียงกันแบบนี้ค่ะ

ภาพนี้ลองเข้ามาดูด้านในส่วนที่จอดรถของอาคาร 5 ซึ่งจะอยู่ติดกับอาคาร 6 อย่างงี้ค่ะ ในภาพจะเห็นระยะห่างระหว่างอาคาร 6 กับอาคารอื่น ๆ

คราวนี้มาดู Club House กันนะคะว่าสภาพปัจจุบันเป็นอย่างไรกันบ้าง

สระเเละส่วนนั่งเล่น ที่นั่งเล่นน้อยไปหน่อย มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นเอง สระเป็นระบบเกลือ ขนาด 6×15 ม.ค่ะ

ขึ้นมาชั้นบนจะเป็นห้องออกกำลังกายเครื่องออกกำลังกายดูมีเยอะขึ้นกว่าเดิมค่ะ

ห้องน้ำยังมีการดูเเลรักษาที่ดีอยู่ค่ะ

ซาวน่า

ค่าบริการถ้าจะใช้งาน Club House ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• ห้องออกกำลังกาย ที่ Club House  มีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 11 ตัว
• สระว่ายน้ำ ที่ Club House ระบบเกลือขนาด 6×15 ม.
• Club House เสียค่าเข้ารับบริกายรายปีถ้าจะใช้งาน (ไม่เกี่ยวกับค่าส่วนกลางที่เสียต่างหากเดือนละ 35 บ./ตร.ม.)
• ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟท์ตึก 6 อยู่ที่ 85:1
• อัตราส่วนลิฟท์ตึก 7 อยู่ที่ 89:1
• Lobby
• ที่จอดรถรวม 41 % / อาคาร
• ระบบ CCTV / Access Card

 

 

Product Walkthrough

สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการจะมีให้ชมเเบบเดียวนะคะคือเเบบ 1 ห้องนอน ดั้งนั้นจะขออธิบายและนำเเปลนของ 1 Bedroom Extra และ 2 Bedroom มาให้ชมกันค่ะ

ถ้าใครเคยเข้าชมห้องแบบ Studio ของอาคาร 5 คงจะพอคุ้นตากันบ้างแล้ว เพราะแบบเเทบจะไม่ต่างกันค่ะ แต่จะปรับให้มีฉากกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น โดยฉากกั้นทำเป็นบานเลื่อน เท่าที่ดูน่าจะเปิดได้กว้างทีเดียวค่ะห้องแบบนี้ก็เเล้วแต่คนชอบเลย บางคนอาจชอบแบบเก่าเพราะห้องจะดูกว้างกว่า แต่บางคนอาจชอบแบบนี้เพราะเวลาทำกับข้าวก็กั้นห้องนอนซะ ที่นอนจะได้ไม่หอมกรุ่นอาหาร 🙂 และห้องนี้ปรับตรงระเบียงค่ะ ระเบียงได้หน้ากว้างกว่าเดิมเยอะทีเดียว สำหรับคนที่ยังไม่เคยเห็นแปลนแบบ Studio ของอาคาร 5 ไปอ่านรีวิวของ Mr.Oe  ได้ที่นี่เลยค่ะ  The Kris อาคาร 5 รีวิวฉบับที่ 174

 

ต่อไปเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนกันบ้าง ห้องนี้อาคาร 5 ไม่ได้มีค่ะเพราะอาคาร 5 จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนโดยมีส่วนนั่งเล่นกว้างกว่า แต่สำหรับอาคาร 6-7 ที่กั้นให้เป็นห้องนอนอีกห้อง ก็ต้องยอมที่จะให้ห้องนั่งเล่นเล็กลงนะคะ ห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่ 2 คนค่ะถ้า 3 คนอาจจะพออยู่ได้ค่ะ เนื่องจากห้องนั่งเล่น ส่วนทานอาหาร และครัวดูจะเบียดกันไปหน่อย คงต้องดูระยะห้องจริงค่ะว่าถ้าวางเก้าอี้ทานอาหารแล้วจะเกะกะทางเดินรึเปล่า

ห้องตัวอย่างที่โครงการมีให้เข้าชมกันเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนนะคะ ขนาด 30 ตร.ม. พื้นที่ภายในจะจัดเเบ่งฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วนค่ะ ห้องครัวได้เป็นครัวปิดติดระเบียง  แต่ห้องนอนเมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วส่วนด้านข้างดูมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะทำงานก็จริง แต่ส่วนของตู้เสื้อผ้าถือว่าเล็กทีเดียวค่ะ พื้นที่เก็บของน้อยค่ะ คงต้องหาตู้หรือมาวางเพิ่มไม่งั้นจะไม่มีพื้นที่เก็บของ

เข้ามาในห้องพื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มม.

ภาพเเรกเมื่อเปิดเข้ามาในห้องค่ะ ส่วนแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่น ที่มีโต๊ะทานอาหารอยู่ติดกับโซฟา และใกล้กับห้องครัวที่ติดกับระเบียง ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำและประตูที่เห็นคือห้องนอนค่ะ ห้องนี้ครัวกับห้องนอนจะติดกับภายนอกนะคะ ไฟดาวไลท์ทั้งหมด ฝ้าก็ทำเป็นหลุมเเบบนี้ให้ค่ะ เนื่องจากทางโครงการขายแบบ Fully Furnished ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่เห็นเเทบจะได้ทั้งหมดนะคะ มีเพียงพวกของตกแต่งที่จะไม่ได้

มองกลับไปยังประตูเข้าห้องค่ะ ส่วนนั่งเล่น จะเห็นระยะดูทีวี อยู่ในระยะที่กำลังพอดีค่ะ และตำเเหน่งของทีวีก็ตรงกับโซฟา ประตูเป็นประตู HDF สีดำตัวจับเขาควาย

โครงการจัดโซฟาตัวเล็กไว้ให้ พื้นสามารถวางตัวเล็กสำหรับ 1-2 คนได้ค่ะ ถ้าอยากวางตัวใหญ่กว่านี้จะต้องไปเบียดกับโต๊ะทานอาหารค่ะ

ตรงจุดนี้อาจต้องดูตำเเหน่งการวางโต๊ะเตี้ยหน้าทีวีนะคะ เพราะเปิดประตูมาได้เเบบเบียด ๆ และโต๊ะก็วางชิดกับโซฟามากไปหน่อย ถ้าจะให้นั่งโซฟาสบายต้องวางห่างกว่านี้อีกนิด และก็ต้องเยื้อง ๆ ออกไปทางโต๊ะทานอาหารค่ะเพราะไม่งั้นจะติดประตูห้อง… หรือยกออกไปเลยก็ดีนะคะ สำหรับคนซุ่มซ่ามที่กลัวเดินเตะน่ะค่ะ

ด้านตรงข้ามจะเป็นตำเเหน่งวางทีวีที่ติดกับประตูห้องน้ำค่ะ ตำเเหน่งเเอร์จะติดตั้งให้ตรงนี้นะคะ

ข้่างโซฟาจะเป็นโต๊ะทานอาหารที่ให้มาได้ขนาดเท่าที่เห็นค่ะ พอดีห้อง แต่ตำแหน่งการวาง จะถอยเก้าอี้ลำบากทั้งสองตัว ตัวขวาติดโซฟา ตัวซ้ายติดประตูครัวค่ะ

โต๊ะทานอาหารที่ให้จะเป็นกระจกแบบนี้นะคะ แอบเปิดผ้าปูโต๊ะให้ดูซะหน่อย

คราวนี้มาดูห้องครัวกันบ้างค่ะ ห้องครัวเป็นครัวปิดมีบานเลื่อนกระจกปิดให้แบบนี้ โดยเป็นบานเลื่อนกระจกทั้งบานแต่เเบ่งเป็น 4 ส่วนทำให้เปิดได้แบบนี้

ประตูบานเลื่อนเป็นอะลูมิเนียม พื้นเป็นแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม.

ตัวจับและปิด-เปิดประตูครัวค่ะ

เมื่อเข้าไปในครัวจะเเบ่งเป็นสองด้านแบบนี้ ด้านขวาเป็นครัวเเละเคาน์เตอร์ ด้านซ้ายวางตู้เย็น ส่วนผนังที่เห็นยื่นออกมาเสมอตู้เย็นนั้นคือส่วนของตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องนอนค่ะ ระยะห่างระหว่างเคาน์เตอร์กับผนัง มีให้เดินและก้มหยิบของด้านล่างได้สะดวกค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวจะวางตลอดแนวผนังเคาน์เตอร์ให้มาทั้งชุดแบบนี้นะคะ ได้ทั้งเตาและเครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน ที่ไม่ได้ก็มีของตกแต่งกับเครื่องซักผ้าและไมโครเวฟค่ะ(ช่วงนี้มีโปรเเถมไมโครเวฟค่ะระยะเวลาโปร สอบถามโครงการได้ค่ะ) เฟอร์นิเจอร์เป็นของ Modern Form นะคะ ส่วนตำแหน่งวางเครื่องซักผ้า ก็มีที่ทางเรียบร้อยอยู่ใต้ counter และวางใกล้ระเบียงให้หยิบผ้าตากง่ายๆ

เปิดตู้ออกมาได้ประมาณนี้ ถือว่าเก็บของได้มากทีเดียวค่ะ ช่องด้านล่างวางไมโครเวฟ

เคาน์เตอร์ Top เป็นหินเทียมสีขาว พื้นที่ใช้สอยกำลังดีทีเดียวค่ะ วางเตากับอ่างล้านจานไปก็มีที่เหลือให้เตรียมอาหาร

ด้านตรงข้ามเป็นตำเเหน่งวางตู้เย็นที่เเบ่งครึ่งกับตู้เสื้อผ้าค่ะ ผนังจะไม่ใช่สีนี้นะคะ ห้องจริงที่ได้จะเป็นผนังทาสีขาว

คราวนี้มาดูระเบียงกันค่ะ ประตูเป็นอะลูมิเนียมบานเป็นกระจก อยู่ติดกับห้องครัวค่ะ ทำให้ห้องครัวได้เเสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดีค่ะ จะเห็นว่าคอมเพลสเซอร์แอร์เเขวนอยู่ด้านบนนะคะ

ระดับระเบียงจะลดต่ำลงไปจากพื้นห้องเล็กน้อย แต่ธรณีประตูจะยกระดับขึ้นมาเยอะทีเดียวค่ะ

ระเบียงห้องขนาดประมาณ 1.5 x 0.65 ม.  คอมเพรสเซอร์ห้องจริงจะเเขวนทั้ง 2 ตัวนะคะ ราวตากผ้าถ้าซื้อมาดูความสูงกันดี ๆ ว่าชนกับคอมเพรสเซอร์รึเปล่าเพราะเพดานสูงแค่ 2.35 ถ้าเเขวนคอมเพรสเซอร์น่าจะเหลือเมตรกว่าๆค่ะ

มาดูอีกด้านของห้องกันดีกว่าค่ะด้านนี้ มีห้องน้ำและห้องนอน หน้าห้องน้ำเป็นพื้นที่วางทีวี

พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปเล็กน้อยค่ะ มีธรณีประตูหินกั้นแบบนี้ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเรื่องการบวมของพื้นเพราะน้ำจากห้องน้ำได้ค่ะ ห้องแบบเก่าจะไม่มีธรณีประตูแบบนี้ให้ พื้นเป็นกระเบื้องขนาด 60×60 ซม.

ภายในห้องน้ำ ผนังเป็นกระเบื้องสีขาว โดยผนังส่วนเเห้งจะต่างกับส่วนเปียกส่วนเเห้งจะเป็นผนังเรียบ แต่ส่วนเปียกจะมีพื้นผิวนูนขึ้นมาเป็นลายค่ะ กระจกห้องน้ำจะให้เต็มผนังเเบบนี้เลย เเละใหญ่จนถึงฝ้าเพดาน

ห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์ของ Mogen หรือเทียบเท่าค่ะ top เคาเตอร์อ่างเป็นหินจริงสีดำลายตามนี้เลยค่ะ

ตำเเหน่งโถสุขภัณฑ์ได้ของ Mogen

ส่วนอาบน้ำให้มาเป็น Shower Box กระจกเป็นกระจกนิรภัยค่ะ ซึ่งจะปลอดภัยเวลากระจกแตกมันจะแตกเเล้วเป็นเม็ดเล็ก ๆ ค่ะ รูปนี้จะเห็นชัดเจนว่าผนังส่วนเปียกจะมีลวดลายเล็กน้อยนะคะ

พื้นส่วนอาบน้ำจะลดระดับลงมาเล็กน้อย

ฝักบัวค่ะ มีแค่ที่วางสบู่ให้ ยังไงคงต้องหาชั้นวางของมาติดตั้งอีกที และต้องติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มด้วยนะคะ

ส่วนสุดท้ายของห้องที่จะพามาชมกันค่ะ ห้องนอนพื้นห้องเป็นลามิเนตโนสีน้ำตาลอ่อนเช่นเดียวกับห้องนั่งเล่น

ประตูห้องนอนเปิดไปจะตรงกับปลายเตียงค่ะ ด้านขวาผนังจะเห็นว่ามีตำเเหน่งให้ติดตั้งทีวีได้ ระยะปลายเตียงพอมีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านค่ะ

เตียงเค้าให้ขนาด 5 ฟุตมาค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงมีเหลือให้วางโต๊ะทำงานหรือจะเป็นโต๊ะเครื่องเเป้งเล็ก ๆ ได้ค่ะ

อีกด้านก็เหลือพื้นที่เล็กน้อย สามารถวางโคมไฟหรือโต๊ะข้างเตียงได้

ปลายเตียงจะเป็นตำเเหน่งทีวีเเละตู้เสื้อผ้าค่ะ ตู้บานปิดจะเป็นกระจกให้ ปลายเตียง ติดทีวีแขวนผนังได้

ตู้เสื้อผ้ามีขนาดไม่ใหญ่นัก สาว ๆ ที่มีเสื้อผ้าเยอะคงต้องหาที่เก็บเพิ่มค่ะ หรือถ้าอยู่กัน 2 คนตู้นี้คงไม่พอเเน่ ๆ

ห้องนอนด้านนี้จะเป็นกระจกเกือบเต็มบาน เป็นบานเลื่อนเปิดได้เฉพาะด้านบนค่ะ กระจกเป็นกระจกใสธรรมดา

ไฟในห้องทุกดวง ทั้งส่วนนั่งเล่น ครัว ห้องน้ำ ห้องนอน จะเป็นดาวไลท์เเบบนี้ทั้งหมด

คราวนี้มาถ่ายด้านนอกให้เห็นกันชัดขึ้นค่ะว่าหน้าต่างกว้างขนาดไหน และระเบียงจะมีระเเนงเหล็กบังคอมเพรสเซอร์เเอร์เพื่อความสวยงามแบบนี้ค่ะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย อาคาร 6-7 ณ วันที่ 21/03/2014

• อาคาร 6 แบบ 1 Bedroom Extra ขนาด 22-25  ตร.ม. ราคา 1.67 – 2.02 ล้านบาท หรือ  75,900-81,000บาท/ตร.ม.
• อาคาร 6 แบบ 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. ราคา 2.54 ล้านบาท หรือ  87,000 บาท/ตร.ม. (ตอนนี้เหลือ 1 ยูนิต)
• อาคาร 6 แบบ 2 Bedroom ขนาด 39-40  ตร.ม. ราคา 2.96 – 3.29 ล้านบาท หรือ 75,800-82,200 บาท/ตร.ม.

• อาคาร 7 แบบ 1 Bedroom Extra ขนาด 22  ตร.ม. ราคา 1.67 –  1.77 ล้านบาท หรือ 75,900-80,400 บาท/ตร.ม.
• อาคาร 7 แบบ 1 Bedroom – Sold Out
• อาคาร 7 แบบ 2 Bedroom ขนาด 39 ตร.ม. ราคา 2.96 – 3.2 ล้านบาท หรือ 75,800- 82,000 บาท/ตร.ม.

• ขายแบบ Fully Furnished เครื่องปรับอากาศห้องละ 2 ตัว
• โปรโมชั่นเเถมเครืองใช้ไฟฟ้า ทีวี Sony ขนาด 32-42 นิ้ว ,ตู้เย็น Mitsubishi,ไมโครเวฟ Electrolux
• เพดานสูง 2.35 ม.
• จอง 15,000 บาท
• ทำสัญญา 35,000 บาท
• ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

ในที่สุดโครงการ The Kris Ratchada 17 ก็สร้างมาถึงอาคาร 6 และ 7  ซึ่งเป็น 2 อาคารสุดท้ายสำหรับโปรเจค The Kris Ratchada 17 ที่เป็นโปรเจคที่ค่อย ๆ เริ่มสร้างจากอาคาร 1 แม้ในสัญญาจะเป็นในนามของกฤษดามหานครแต่ปัจจุบันกฤษดามหานครได้ร่วมมือกับ AQ Estate พัฒนาโครงการนี้ต่อจนครบทุกอาคารตามที่วางเเผนไว้ และเนื่องจาก Mr.Oe ได้เคยรีวิวตอนสร้างอาคาร 5 ไปแล้ว จะขอยกบางส่วนมาไว้ในบทสรุปนี้ละกันนะคะ 🙂

ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเล รัชดา ซอย 17 ทำเลเฉพาะตัว กล่าวคือสะดวกต่อการเดินทางทั้งรถส่วนตัว และ ระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือรถเมล์ แต่ทำเลตรงนี้ ด้านหน้ามันคือ โพไซดอน และ โคปาคาบานา ซึ่งคงต้องพูดแบบตรงๆว่ามันไม่เหมาะกับหลายๆคนค่ะ เป็นทำเลที่แม้ว่าเราจะสนใจมากแต่ก็ต้องขอให้มาดูด้วยตัวเอง ทั้งกลางวันและกลางคืนว่าเหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ แต่ในอนาคตตรงนี้จะดีขึ้นเนื่องจากเมื่อตอน Mr.Oe ไปด้านหน้าข้างโพไซดอนจะเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า แต่ปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้าง Quinn Condo ดังนั้นในอนาคตเมื่อมีเพื่อนบ้านก็คงจะคึกคักกว่านี้ และ รปภ หน้าโครงการ ก็คงจะช่วยให้การเดินผ่านเข้าออก ดูปลอดภัยมากขึ้นด้วยค่ะ

การเดินทางโดยรถส่วนตัวสะดวก ลัดออกวิภาวดี ดินแดง ได้ เข้าเมือง ออกนอกเมืองง่าย แต่มีปัญหารัชดาติดมากตอนเช้าเย็น และที่จอดรถที่ค่อนข้างจะน้อยไปนิด อาจจะไม่เพียงพอในบางวัน ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถส่วนตัว ก็สะดวกมาก มีพี่วินอยู่หน้าโครงการ แท็กซี่มีตลอด เดินไป MRT รถไฟใต้ดินสถานีสุทธิสาร 600 เมตร มีป้ายรถเมล์ใกล้ๆหน้าปากซอย ก็ค่อนข้างสะดวกนะทีเดียวค่ะ ถ้าช่วงรถติดก็หลบขึ้น MRT เลี่ยงรัชดาไปเลยได้ ทำเลที่ตั้งของโครงการ คนไม่มีรถใช้หรือเลือกที่จะไม่ใช้รถ สามารถอยู่ได้สบายโดยไม่ต้องพึ่งรถส่วนตัวค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ยังน้อย ซอยค่อนข้างเงียบ เป็นโซนพักอาศัยไม่ได้พลุกพล่าน(แต่ในอนาคตอาจจะพลุกพล่านกว่านี้ถ้า Quinn Condo สร้างเสร็จค่ะ) ถ้าจะหาของกินอาจต้องเดินออกมาหรือนั่งวินมาที่ใกล้สุดน่าจะเป็นศูนย์อาหารเมืองไทยภัทร-รัชดาที่อยู่ตรงข้ามMRT แต่ถ้าจะไปชอปปิ้งคงต้องอาศัยนั่งรถออกไป ซึ่งย่านรัชดามีที่ให้ซื้อของเยอะแยะมากมาย ตั้งแต่ตลาด แบกะดิน ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าค่ะ… อ้อ เมื่อ Quinn สร้างเสร็จ จะมี Mcdonald และร้านกาแฟอยู่ด้วยนะคะ แอบเนียนๆ ไปใช้ ก็คงจะได้อยู่ค่ะ 🙂

การออกแบบอาคารค่อนข้างแน่น เน้นให้ได้พื้นที่ขายมาก เพื่อทำราคาให้หยิบง่าย เป็นเจ้าของง่าย เรื่องความสวยงามอาจแล้วแต่คนชอบตรงนี้เลยขอข้ามไปนะคะ ส่วนวิวแน่นอนการเป็นกลุ่มอาคารและเป็น Low Rise ตรงจุดนี้คงไม่ได้เน้นวิวอะไรนัก เรื่องความสะดวกและพื้นที่ใช้สอยภายในออกแบบมาสามารถอยู่ได้จริงค่ะ การจัดห้องก็ไม่มีเหลี่ยมมุมเเปลก ๆ เหมือนตึก 5 โดยออกแบบให้ห้องเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมซึ่งจะจัดฟังก์ชั่นการใช้งานง่ายค่ะ แต่ก็มีบางจุดเช่นระเบียงเล็กไปหน่อยตากของลำบากและตู้เสื้อผ้าที่มีช่องให้พอดีแต่เล็กไปหน่อยค่ะ

สาธารณูปโภคส่วนกลางใช้ยาก เพราะไปกองอยู่ที่ Club House ซึ่งฝนตกแดดออก อากาศเย็น ท้องฟ้ามืด ล้วนแล้วแต่เป็นข้ออ้างให้ขี้เกียจเดินไป ไม่เหมือนอยู่ในตึกเดียวกัน แต่ก็เป็นธรรมชาติของโครงการ Low Rise นะคะ ราคาขนาดนี้ คงจะจัดไว้ตึกเดียวกันลำบากอยู่ แต่เรื่องการใช้งาน Club House อย่าลืมถามทางโครงการให้เข้าใจนะคะว่า ถ้าจะใช้งานต้องจ่ายรายปีละ และจ่ายค่าส่วนกลางอีกต่างหาก ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างดี ที่จอดรถน้อย แต่ยอมรับได้แลกกับ 500 เมตรถึงรถไฟใต้ดิน ซึ่งก็อาจจะมีหลายคนที่ไม่ใช้รถค่ะ

 

Judgement

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 79,000 บาทต่อตารางเมตร, 21/03/2014

• ทำเล 8.25/10 – ทำเลโอเคขึ้นมาก เมื่อเทียบกับราคา และเมื่อมี Quinn มาอยู่เป็นเพื่อนบ้าน ไม่มีที่เปลี่ยวติดโครงการอีกต่อไป… แต่เป็นทำเลที่ต้องพิจารณาด้วยตัวเองว่าเหมาะสมกับตัวเราหรือไม่
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวก ทางเลี่ยงทางลัดเยอะ แต่เวลาเร่งด่วนจะมีรถติดเยอะทีเดียว และที่จอดรถที่น้อยไปนิด
• ไม่ใช้รถ 8.25/10 – สะดวก เดินไปรถไฟฟ้าได้ แท็กซี่มีตลอด แต่ในซอยตอนกลางคืนอาจไม่น่าเดินเท่าไหร่
• วัสดุ 8/10 – คุณภาพมาตรฐาน  มีดีที่จัดมาให้เต็มแบบ Fully Furnished
• แบบ 7.5/10 -มีทั้งส่วนที่ออกแบบลงตัวและติดขัด การวางอาคารที่ติดๆกันมากไป ไม่ได้ Privacy เท่าไหร่
• สาธารณูปโภค 6.0/10 – มีให้ใช้แต่น้อยมากและไม่ค่อยสะดวก ระบบรักษาความปลอดภัยโอเค

• MAIN CLASS
• 7.88 / 10.00

BOTTOM LINE

The Kris Ratchada 17 เหมาะกับคนทำงานแถวนี้ หรือไม่มีปัญหากับการอยู่ทำเลนี้ และเหมาะกับคนไม่ใช้รถส่วนตัว นิยมเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน หรือรถสาธารณะอื่น ๆ ไม่สนใจเรื่องวิว ไม่ชอบตึกสูง หรือไม่ได้สนใจสาธารณูปโภคในโครงการมากนัก ไม่เหมาะกับการซื้อให้บุตรหลานผู้หญิง  งบประมาณ 1.67 – 3.3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 11,000 – 23,000 บาท

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ