รีวิวฉบับที่ 1565 สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปชมวิลล่าหรูระดับ Super Luxury ในย่านพระราม 9 – รามคำแหง กับโครงการ The Gentry Rama 9 จาก SC Asset เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ในซอยรามคำแหง 9 โดยใช้แนวคิด Urban Sanctury เป็นส่วนตัวเพียง 13 ยูนิต และเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในพร้อมพื้นที่ Private Courtyard และ Private Pool ในราคาเริ่มต้น 30 – 50 ล้านบาท โครงการเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่

Fact @ 9 April 2018

  • The Gentry Rama 9 (เดอะ เจนทริ พระราม 9 )
  • บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
  • SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยรามคำแหง 9 ถนนรามคำแหง เขตบางกะปิ
  • เนื้อที่โครงการ 3-0-3.6 ไร่ จำนวน 13 ยูนิต
  • แบบบ้าน Type M ที่ดินเริ่มต้น 60.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 433 – 449 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอด พร้อม Private Pool & Courtyard  ราคาเริ่มต้น 29.9 ล้านบาท
  • แบบบ้าน Type L ที่ดินเริ่มต้น 93.7 – 120.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 593 – 629 ตร.ม. 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 4 ที่จอด พร้อม Private Pool & Courtyard , Private Lift ราคาเริ่มต้น 44.9 ล้านบาท
  • ราคาเริ่มต้น 30 – 50 ล้านบาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : Q1/2017
  • แล้วเสร็จทั้งโครงการ : Q3/2018
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1749

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.750635, 100.607141

ที่ตั้งของโครงการ The Gentry พระราม 9 ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 9 เข้าจากถนนรามคำแหง ไปเพียง 120 m.

ทำเลที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 9 ถือเป็นทำเลที่อยู่ระหว่างถนนพระราม 9 กับถนนรามคำแหง และอยู่ใกล้แยกรามคำแหง เป็นทำเลที่เขยิบออกมาจากโซนใจกลางพระราม 9 ช่วงแยกอ.ส.ม.ท มาจนถึงแยกพระราม 9 ออกมาหน่อย ทำเลนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ทำงานในย่านนี้หรือใกล้เคียงอย่างพระราม 9, เพชรบุรี และรามคำแหง แต่ยังคงเน้นการเดินทางเข้า-ออกเมืองที่สะดวก เป็นทำเลอยู่อาศัยที่มีความอุดมสมบูรณ์ย่านหนึ่ง สำหรับบ้านในระดับราคา Super Luxury เรียกว่าแทบจะไม่มีในย่านนี้ โครงการนี้จึงถือเป็นตัวเลือกสำหรับกลุ่มผู้ซื้อในระดับ Premium Segment ที่มองหาบ้านที่เน้นพื้นที่ใช้สอย ความเป็นส่วนตัว และตอบโจทย์แตกต่างไม่เหมือนใคร ภาพรวมในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นผู้คนในท้องที่อยู่อาศัยกันเป็นแหล่งชุมชน บ้านพักอาศัยส่วนบุคคล และยังพอเห็นอาคารพาณิชย์ตึกแถวหรืออพาร์ทเม้นท์ต่างๆ เรียงรายอยู่ตลอดเส้นทาง

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ จัดว่าเดินทางได้สะดวก เนื่องจากตัวโครงการอยู่ติดกับถนนรามคำแหง ซึ่งสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่าย อย่างถนนพระราม 9 ที่มุ่งหน้าไปยังดินแดงและอนุสาวรีย์ได้ ถนนรามคำแหงที่ไปยังหัวหมาก บางกะปิ ถนนเพชรบุรี วิ่งเข้าเมืองไปยังเอกมัย ทองหล่อได้สบายๆ ถนนพัฒนาการ ออกไปยังนอกเมืองมุ่งหน้าไปทางถนนศรีนครินทร์หรือสนามบินสุวรรณภูมิได้ และเข้าถนนสุขุมวิท 71 ออกไปยังพระโขนงอ่อนนุชได้เช่นกันค่ะรวมไปถึงไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนทั้ง 2 สาย คือทางด่วนศรีรัชและทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ แต่ที่ตั้งโครงการใกล้สี่แยกแบบนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องรถติด ทั้งเช้า-เย็น ซึ่งก็ควรจะเผื่อเวลาในการเดินทางพอสมควรทีเดียว

การเดินทางด้วยทางด่วน จากโครงการไปจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (มุ่งหน้าขาออกไปยังแยกท่าเรือ ซึ่งสามารถไปได้ทั้งบางนา และเข้าเมืองทางพระราม 3 หรือ 4 ก็ได้) ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหง แล้วไปกลับรถไปถนนรามคำแหงอีกฝั่ง วิ่งตรงผ่านแยกรามคำแหง หลังจากนั้นตรงไปถึงแยกคลองตัน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพัฒนาการ จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกใต้ด่วนพัฒนาการ รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 3.6 กม.

การเดินทางด้วยทางด่วน  จากโครงการไปจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช (มุ่งหน้าเข้าเมือง จตุรทิศ ราชปรารภ ดินแดง พระราม 6) โดยเริ่มจาก ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหง แล้วไปกลับรถไปถนนรามคำแหงอีกฝั่ง แล้วพอถึงแยกรามคำแหงก็เลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 9 แล้วมุ่งหน้าตรงอย่างเดียวทางขึ้นทางด่วนจะอยู่ทางซ้ายมือ รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 2.9 กม.

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในรัศมีไม่เกิน 1 กม. ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงพอตัว ส่วนใหญ่จะอยู่บนเส้นรามคำแหงทั้งหมด อย่างที่ใกล้ๆ และเดินไปได้สบายๆ เลย ก็คือ FoodLand และเดอะมอลล์ รามฯ ที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 150 ม. และ 400 ม.ตามลำดับ เลยไปอีกหน่อยแถวหน้าม.รามคำแหง นอกจากนี้ก็จะมีห้างอย่าง Major Cineplex , Big C แล้วบริเวณหน้ารามทั้งเช้าไปจนถึงเย็นก็มีตลาดขายของ ร้านขายเสื้อผ้า อาหาร ให้เดินได้ตลอดทั้งวัน ในช่วงเย็นๆ หน่อยหน้าสนามกีฬา (กกท.) มีตลาดกางเต้นท์ขายอาหารกันคึกคักทีเดียวค่ะ โดยระยะทางจากโครงการไปแถวหน้าม.รามคำแหงจะห่างประมาณ 1.2 กม. ซึ่งไม่ได้อยู่ในระยะเดินแต่ก็สามารถขับรถหรือนั่งรถสองแถว/รถเมลล์ไปได้สบายๆ เลยค่ะ หรือจะเลยมาหน่อยทางถนนพระราม 9 ก็จะมี HomePro , ตลาดเสรีมาร์เก็ต และ The Nine ด้านหลังก่อนถึง The Nine ก็จะมีร้านอาหารต่างๆให้เลือกหลากหลาย รวมไปถึงคาเฟ่ร้านกาแฟบรรยกาศน่านั่งให้เลือก

เริ่มเส้นทางไปสำนักงานโครงการกัน เริ่มจากทางด่วนศรีรัช ฝั่งมุ่งหน้าวิ่งไปทางมอเตอร์เวย์ ถนนด้านล่างเป็นถนนพระราม 9 ลงป้ายรามคำแหง วิ่งตามเส้นทางถนนพระราม 9 ถึงสี่แยกรามคำแหง แล้วชิดซ้ายแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหง วิ่งตรงไปตรามเส้นทางประมาณ 300 ม. ให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยรามคำแหง 9 วิ่งตรงเข้าซอยมาประมาณ 120 ม. ที่ตั้งโครงการอยู่ทางขวามือ

เริ่มเส้นทางไปโครงการกันที่ทางด่วนศรีรัช ฝั่งมุ่งหน้าวิ่งไปทางมอเตอร์เวย์ ถนนด้านล่างเป็นถนนพระราม 9

ให้ลงทางด่วนที่ป้าย ถนนรามคำแหง ซึ่งจะอยู่ตรงกลางป้ายระหว่างทางแยกไป รามอินทรา-บางนา และศรีนครินทร์

เมื่อลงมาก็จะเป็นถนนพระราม 9 ให้วิ่งตรงไปตามเส้นทางถนนมุ่งหน้าไปทางสี่แยกรามคำแหง

วิ่งตรงมาถึงสี่แยกรามคำแหงให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนรามคำแหงค่ะ

มาถึงสี่แยกรามคำแหงให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนรามคำแหงเลยค่ะ

เข้าสู่ถนนรามคำแหง ให้วิ่งตรงไปตามเส้นทางถนน ตรงไปประมาณ 300 m. ก็จะเจอกับซอยรามคำแหง 9 อยู่ทางซ้ายมือ

ตรงมาเรื่อยๆเห็นสะพานคนข้ามให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยรามคำแหง 9

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามคำแหง 9  จุดสังเกตคือใกล้กับปากซอยจะมี Foodland อยู่

เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามคำแหง 9 วิ่งตรงมาตามเส้นทางประมาณ 120 m. จะเห็นนพื้นที่โครงการอยู่ทางขวามือ

ตรงมาทางขวามือจะเป็นด้านหน้าบ้านของโครงการ The Gentry พระราม 9 โดยทุกหลังจะหันออกมาทางถนนซอยรามคำแหง 9 เรียงต่อเนื่องกัน 13 ยูนิต 

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บริเวณโดยรอบโครงการ The Gentry พระราม 9 พื้นที่โครงการจะวางเป็นแนวยาวตัวบ้านจะเรียงต่อเนื่องกัน 13 ยูนิต ด้านหน้าบ้านจะหันออกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ทั้งหมด โดยจะติดกับถนนซอยรามคำแหง 9 ฝั่งตรงข้ามจะเป็นคอนโดมิเเนียมสูง 8 ชั้น ส่วนทางทิศเหนือจะติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้น ทางทิศตะวันออกของโครงการ จะติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้นเช่นกัน ทางทิศใต้ของโครงการจะติดกับซอยรามคำแหง 9  โดยภาพรวมสิ่งปลูกสร้างรอบๆโครงการจะเป็นบ้านจัดสรรแนบราบมีความสูงไม่มาก มีคอนโดสูง 8 ชั้น อยู่ด้านหน้าตัวบ้านแต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะที่ประชิดเพราะมีแนวถนนและต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกเป็นแนวยาวริมถนนซอยบังสายตาให้อยู่ ไม่มีแหล่งเสื่อมโทรม โรงงานหรือแหล่งที่ก่อให้เกิดมลภาวะเหมาะกับการอยู่อาศัย

 ด้านหน้าบ้านทุกหลังจะหันออกมาทางถนนซอยรามคำแหง 9 ที่ถนนจะมีต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกเป็นแนวยาวไว้ตลอดเส้นทาง ช่วยบังสายตาจากคอนโดมิเนียมฝั่งตรงข้ามและช่วยเพิ่มความร่มรื่น

ถนนซอยรามคำแหง 9 โดยปกติจะไม่พลุกพล่านเนื่องจาก สุดทางถนนจะเป็นหมู่บ้านด้านใน จึงเป็นซอยปิดไม่สามารถเชื่อมต่อไปทะลุกับซอยหรือถนนอื่นๆ จึงค่อนข้างเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย รถที่ผ่านไปมาจะมีเฉพาะลูกบ้านในหมู่บ้านในซอยนี้เท่านั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ

  • Foodland ~ 150 ม.
  • A Link  ~ 350 ม.
  • สภาสถาปนิก ~ 350 ม.
  • UM Tower ~ 400 ม.
  • The Mall รามฯ ~ 500 ม.
  • โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา ~ 700 ม.
  • Major Cineplex ~ 700 ม.
  • Big C ~ 1 กม.
  • Major Hollywood ~1.3 กม.
  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 1.3 กม.
  • โรงเรียนสาธิตรามคำแหง ~ 1.7 กม.
  • สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ~ 2.4 กม.
  • โรงพยาบาลปิยะเวท ~ 2.8 กม.
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 3 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Gentry Rama 9 ออกแบบโดยใช้แนวคิด Urban Sanctuary ให้เป็นที่พักอาศัยที่อยู่กลางใจเมือง ในทำเลที่เดินทางสะดวกตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตและการทำงานของคนรุ่นใหม่ แต่ตัวบ้านยังคงให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด เป็นสถานที่พักผ่อนที่เงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ระดับ Super Luxury มีเพียง 13 ยูนิตเท่านั้น บนที่ดินเริ่ม 60-120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 433 – 629 ตร.ม. ตัวบ้านสไตล์ Modern เรียบเท่ พร้อม Private Courtyard เป็นพื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำพร้อมจากุชชี่แบบส่วนตัวภายในบ้าน มีลิฟต์ส่วนตัวเหมาะกับผู้อยู่อาศัยโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการความสะดวกและปลอดภัยภายในบ้าน จัดพื้นที่ภายในเน้นพื้นที่ใช้สอยทั้งในแนวราบและแนวตั้ง เปิดโถงสูงภายในตัวบ้านแบบ Double Volume สูงถึง 7.2 เมตร สร้างช่องแสงและมุมมองต่างๆรอบตัวบ้าน และพื้นที่ส่วนระเบียงที่กว้างสามารถใช้งานได้จริง เน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว และมีพื้นที่พักผ่อนหลากหลายให้เลือกใช้งานได้เต็มที่  ปัจจุบันสถานะโครงการ Sold Out แล้วภายในเวลาเพียงไม่ถึงเดือนเท่านั้น

นอกจากนี้ SC Asset เจ้าของโครงการยังคงพัฒนาต่อยอดแบรนด์ The Gentry ในอีก 2 ทำเล ได้แก่

  • The Gentry Sukhumvit ทำเลใกล้ BTS และทางด่วน 2 สายบริเวณสุขุมวิท 62 และสุขุมวิท 50 ใกล้ทองหล่อ เดินทางเพียง 15 นาทีเท่านั้น มีแนวคิดโครงการ New York Loft เป็นวิลล่าหรูสไตล์ Modern Brooklyn ที่สามารถปรับตามฟังก์ชั่นความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้สูงสุดและเน้นความปลอดภัยในการอยู่อาศัย ในราคาเริ่มต้น 18.9 ล้านบาท
  • The Gentry Ekamai – Ladprao บนทำเลในย่านธุรกิจ ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ โดยจะเปิดตัวในช่วง Q2/2018 นี้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Digital Door Lock ที่ประตูทางเข้าภายในบ้าน
  • ระบบ Home Automation
  • ระบบ CCTV รอบบ้าน
  • EV Charging ที่ชาร์จรถไฟฟ้า
  • รั้วรอบหน้าบ้านสูง 2.2 เมตร และหลังบ้านสูง 2 เมตร
  • ประตูรั้วบ้านแบบรางเลื่อน (สามารถติดอุปกรณ์เลื่อนอัตโนมัติเพิ่มได้)
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง

Product Walkthrough

โครงการ The Gentry พระราม 9 มีแบบบ้านทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่

  • แบบบ้าน Type M ที่ดินเริ่มต้น 60.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 433 – 449 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอด พร้อม Private Pool & Courtyard
  • แบบบ้าน Type L ที่ดินเริ่มต้น 93.7 – 120.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 593 – 629 ตร.ม. 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 4 ที่จอด พร้อม Private Pool & Courtyard , Private Lift

แบบบ้าน Type L ที่ดินเริ่มต้น 93.7 – 120.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 593 – 629 ตร.ม. 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 4 ที่จอด พร้อม Private Pool & Courtyard , Private Lift

เริ่มจากชั้น 1 ของตัวบ้าน เมื่อเข้ามาในพื้นที่บริเวณบ้านแล้วด้านหน้าจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถทั้งหมด 4 คัน ประตูทางเข้าหน้าบ้านจะมีทางเข้าหลักจากทางด้านหน้าสุดของตัวบ้าน เมื่อเข้ามาจะเจอกับพื้นที่โถงทางเข้าหลัก ถัดมาเป็นส่วนรับแขกหรือห้องนั่งเล่นชั้นล่าง โดยพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นและรับแขกจะเชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร ที่เปิดออกสู่ระเบียง สระว่ายน้ำ และพื้นที่สวนทางด้านข้างตัวบ้านได้ เข้ามาด้านในตัวบ้านอีกฝั่งทางด้านหน้าจัดเป็นห้องนอนชั้นล่าง โดยจะมีห้องน้ำในตัวช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ถัดเข้ามาเป็นตำแหน่งบันไดเพื่อขึ้นไปชั้น 2 ของตัวบ้าน และห้องน้ำแบบ Powder room ไม่มีส่วนอาบน้ำ ด้านในสุดเป็นครัวปิด จากส่วนครัวจะเปิดออกมาเชื่อมต่อกับส่วนซักล่างด้านหลังของตัวบ้าน และมีส่วนของแม่บ้านจัดเป็นห้องนอนและห้องน้ำแบ่งพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนพื้นที่ภายในตัวบ้าน และมีลิฟต์โดยสารภายในบ้านเพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งาน ช่วยให้ผู้สูงอายุหรือผู้นั่งรถเข็นสามารถไปในชั้นอื่นๆของบ้านได้เช่นกัน

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของบ้านจะเป็นส่วนของห้องนอน 2 ห้องนอน , ห้อง Living room ที่เชื่อมต่อไประเบียง และ Laudry สำหรับห้องนอนในชั้นนี้ทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง เมื่อขึ้นบันไดมาจะเป็นส่วนของพื้นที่โถงชั้น 2 เชื่อมต่อกับ พื้นที่ ห้อง Living roomใช้เป็นพื้นที่มุมพักผ่อนในชั้นนี้ สามารถเปิดออกไปพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ทางด้านหน้าของตัวบ้านได้ ฝั่งซ้ายทางด้านหน้าของตัวบ้านจัดเป็นห้องนอนออกแบบให้มีส่วน walk in closet ที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำทางด้านในช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ถัดมาเข้ามาด้านในของตัวบ้านจะเป็นห้องนอนอีกห้อง มีระเบียงที่หันออกไปทางพื้นที่สวนด้านข้างของตัวบ้านได้ ภายในห้องจะมีส่วน walk in closet และห้องน้ำในตัวเช่นกัน โดยจะเน้นความเป็นส่วนตัวและความต่อเนื่องในการใช้งานในส่วนต่างๆภายในห้องแต่ละห้องไว้ครบ ถัดไปเป็นห้องน้ำแบบ Powder room สำหรับแยกการใช้งานไม่ต้องรบกวนห้องน้ำในห้องนอนในชั้นนี้ และถัดมาเป็นห้อง Laudry ออกแบบมาเพื่อให้สามารถซักผ้าโดยไม่ต้องลงไปชั้น 1 ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานกรณีต้องการซักผ้าเล็กๆน้อยๆด้วยตนเอง

ขึ้นมาที่ชั้น 3 ของบ้านจะเป็นส่วนของห้องนอน 2 ห้องนอน , ส่วน Mini Bar และห้องพระ สำหรับห้องนอนในชั้นนี้ทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทุกห้องเช่นกัน เมื่อขึ้นบันไดมาจะเป็นส่วนของพื้นที่โถงชั้น 3 เชื่อมต่อกับ พื้นที่ ห้อง Master Bedroom จากห้องนอนจะมีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนภายในห้อง และสามารถเปิดออกไปพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ทางด้านหน้าของตัวบ้านได้ ภายในห้องมีส่วน walk in closet ที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำทางด้านในช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ถัดมาเข้ามาด้านในของตัวบ้านจะเป็นห้องนอนอีกห้อง โดยจะมีส่วน walk in closet และห้องน้ำในตัวเช่นกัน เน้นความเป็นส่วนตัวและความต่อเนื่องในการใช้งาน และมีระเบียงที่หันออกไปทางพื้นที่สวนด้านข้างของตัวบ้านได้  ถัดมาอีกฝั่งของตัวบ้านจะแบ่งพื้นที่ไว้สำหรับจัดเป็นพื้นที่ Mini Bar ไว้สำหรับจัดเตรียมอาหารเบา หรือเครื่องดื่มในชั้นนี้ได้โดยไม่ต้องลงไปส่วนครัวในชั้นล่าง ติดกันจะเป็นพื้นที่เว้นไว้เป็นส่วนอเนกประสงค์ สามารถจัดเป็นมุมห้องพระเล็กๆ ตรงส่วนนี้ได้ค่ะ

เริ่มจากหน้าบ้านจะมีแนวรั้วทึบสีเทาให้ ติดตั้งประตูบานเลื่อนเหล็ก 3 ตอน และมีประตูเล็กสำหรับเปิดเข้าออกกรณี ไม่ต้องการใช้รถยนต์ พร้อมกริ่ง ป้ายบ้านเลขที่ กล่องจหมายที่ผนังด้านข้าง

พื้นที่สำหรับจอดรถ ออกแบบจัดพื้นที่ให้สามารถจอดรถได้ 4 คัน เป็นที่จอดรถแบบ Semi outdoor มีหลังคาบางส่วนให้จอดรถแบบในร่มได้

บริเวณที่จอดรถที่กำแพงทางด้านหน้าบริเวณที่จอดรถจะทำเป็นช่องเก็บของมีบานเลื่อนสองฝั่ง ใช้สำหรับเก็บของใช้ต่างๆได้ และติดตั้งตำแหน่ง EV Charger Support ไว้รองรับการใช้งานของรถยนต์ที่ต้องชาร์ตไฟฟ้าไว้ให้

อีกฝั่งของตัวบ้านจัดแบ่งเป็นพื้นที่สีเขียวเล็กๆและปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ให้และจะมีแนวทางเดิน สามารถเดินอ้อมไปทางพื้นที่ด้านข้างและด้านหลังของตัวบ้านได้

กลับมาที่ด้านหน้าทางเข้าหลักของตัวบ้าน เป็นประตูไม้สักบานคู่ขนาดใหญ่ สูง 2.8 m. สามารถเลือกติดตั้งระบบ Digital Door Lock ของ Samsung เพิ่มได้ หรือจะเป็นมือจับพร็อมตัวล็อกแบบปกติก็ได้ค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับส่วน Foyer เป็นโถงด้านหน้า สามารถตั้งเก้าอี้นั่งเล็กๆไว้สำหรับให้นั่งใส่รองเท้าได้ ผนังฝั่งตรงข้ามทำเป็นชุดตู้สำหรับเก็บของและร้องเท้าให้หยิบใช้งานเวลาเข้า-ออกไปได้สะดวก

ชุดตู้สำหรับเก็บของและร้องเท้าในบ้านตัวอย่าง ทางโครงการได้จัดเป็นไอเดียในการใช้งานใช้ชั้นวางรองเท้าที่สามารถหมุนเก็บรองเท้าได้ 2 ฝั่ง สามารถหยิบใช้งานและเก็บรองเท้าได้มากกว่าชั้นวางในตู้แบบปกติ ซึ่งเราดูเป็นไอเดียในการเลือกใช้งานจริงได้ค่ะ

นอกจากนี้ภายในบ้านจะติดตั้งอุปกรณ์ Home Autiomation ให้ภายในบ้านทุกหลัง สามารถควบคุมการใช้งานต่างๆ เช่น ระบบไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ ภายในบ้านผ่าน Application บนมือถือได้

ตัวอย่างของอุปกรณ์ Digital Door Lock ของ Samsung  ที่โครงการจะมีให้เลือกติดตั้งบริเวณประตูทางเข้าหน้าบ้านค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในจะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร ห้องนี้จะอยู่ด้านหน้าสุดของตัวบ้าน สามารถวางชุดโซฟาชุดใหญ่ เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร และสามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และสวนแบบส่วนตัวทางด้านข้างของตัวบ้านได้แบบมุมกว้าง

ห้องนั่งเล่น และส่วนรับประทายอาหารจะปูพื้นด้วยกระเบื้อง Cotto Italia และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าแบบ Double Volume 7.2 m. ห้องจึงดูโปร่งโล่ง และมีหน้าต่างสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดานเปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอกและมุมมองแบบเปิดกว้างได้ดี บานหน้าต่างเป็นกรอบอลูมิเนียมพร้อมกระจกเขียวใสตัดแสง ช่วยสะท้อนและกรองแสงเข้ามาด้านในบ้าน

จัดพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่นสำหรับพักผ่อนดูทีวี มีชั้นวางของและตกแต่งผนังแบบ Built in สำหรับวางของและแขวนทีวี

ถัดมาเป็นส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารขนาด 6-8 ที่นั้งได้ไม่อึดอัด มีพื้นเหลือโดยรอบใช้งานได้สะดวก

มุมมองจากห้องนั่งเล่น รับแขก และส่วนรับประทานอาหาร สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และสวนแบบส่วนตัวทางด้านข้างของตัวบ้านได้แบบมุมกว้างได้ต่อเนื่องกัน

ออกมาทางด้านข้างของตัวบ้านจะเป็นสระว่ายน้ำและสวนแบบส่วนตัว ทางซ้ายมือจะมีแนวระแนวบังสายตาจากบริเวณที่จอดรถทางด้านหน้าบ้านไว้

Private Pool & Courtyard เป็นพื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำแบบส่วนตัว ออกแบบมาให้เชื่อมต่อมาจากห้องนั่งเล่น รับแขกและส่วนรับประทานอาหาร ได้วิวมุมมองธรรมชาติแบบส่วนตัวภายในรั้วบ้านของตนเอง

สระว่ายน้ำระบบกลือ ขนาด 7.45 x 3.7 m. ลึก 1.4 m. ด้านข้างเป็น Jacuzzi ให้เลือกใช้งานได้ ปูด้วยพื้นกระเบื้องลายหินอ่อนต่อเนื่องจากระเบียงมาถึงสระว่ายน้ำด้านข้าง

มองกลับเข้ามาภายใบ้านบริเวณห้องนั่งเล่นรับแขก อีกฝั่งของตัวบ้านจะเป็นส่วนของบันได และลิฟต์ ห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์ทางด้านหน้าของตัวบ้าน ห้องน้ำชั้นล่าง และส่วนของห้องครัวทางด้านหลัง

เริ่มจากทางฝั่งหน้าบ้านจะเป็นโถงทางเดินเชื่อมต่อไป ห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์ทางด้านหน้าของตัวบ้าน

ภายในบ้านจะมีลิฟต์โดยสารภายในบ้านเพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งาน ช่วยให้ผู้สูงอายุหรือผู้นั่งรถเข็นสามารถไปในชั้นอื่นๆของบ้านได้เช่นกัน

สำหรับห้องในชั้นล่างสาารถจัดการใช้งานเป็นห้องอเนกประสงค์ หรือจะจัดเป็นห้องนอน 1 ในชั้นล่างก็ได้ เพราะออกแบบมาให้มีห้องน้ำในตัวห้อง ช่วยเพิ่มความสะดวกและเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ขนาดพื้นที่ภายในห้องกว้างเพียงพอให้ตั้งเตียงขนาด 5 ฟุตได้ค่ะ พื้นภายในห้องจะปูด้วยพื้นไม้ Engineer wood ทั้งหมด มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3.2 m.

เข้ามาที่พื้นที่ด้านในของตัวห้อง จะแบ่งพื้นที่ทำเป็นส่วน Walk in closet เชื่อมต่อเนื่องไปห้องน้ำของห้องนอนที่อยู่ด้านในสุด

มาที่ห้องน้ำในห้องนอน ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน ในส่วนของผนังและพื้นเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนต่อเนื่องกันทั้งหมด มีอ่างล้างหน้า พร้อมชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ ภายในห้องน้ำให้ครบพร้อมใช้งาน

พื้นห้องน้ำลดระดับ 7 cm. พื้นที่ภายในห้องน้ำค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก

ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก็อกน้ำของ Kohler ด้านล่างใต้อ่างล้างหน้าทำเป็นชุดตู้บานเปิดสำหรับใช้เก็บของใช้ต่างๆได้

ถัดมาชุดโถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระ ของ Grohe ติดไว้ที่ผนังด้านหลังหยิบใช้งานได้สะดวก

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.3 x 0.9 m. โดยจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยลดระดับลงมาประมาณ 5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำของ Grohe แต่จะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ต้องติดตั้งเองภายหลัง โดยทางโครงการจะทำ Junction box เตรียมไว้ให้ ผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ

ให้อุปกรณ์ชุดอาบน้ำครบพร้อมใช้งานของ Grohe สามารถปรับระดับความแรงของสายน้ำได้ ติดตั้งให้เหมือนกับในบ้านตัวอย่างค่ะ

ฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสี พร้อมติดพัดลมดูดอากาศ  และหน้าต่างบานเลื่อนเพื่อใช้เปิดระบายอากาศและให้ไฟแบบ downlight ให้

ออกมาที่ฝั่งของตัวบ้านใกล้กับบันไดจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง ถัดไปเป็นทางไปส่วนครัว ลานซักล้างและส่วนแม่บ้านทางด้านหลัง

ห้องชั้นล่างจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำจะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้าค่ะ ภายในห้องน้ำจะในส่วนของพื้นและผนังจะเป็นกระเบื้อง Porcelain ทั้งหมด

ที่ทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่างจะออกแบบมห้ระดับพื้นห้องและระดับของพื้นห้องน้ำจะอยู่ในระดับเดียวกันไม่มีการลดระดับ แต่จะใช้วิธีการซ่อนรางระบายน้ำไว้ใต้พื้นแทนเพื่อให้ใช้งานได้ปลอดภัยไม่เดินสะดุด พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด

ถัดมาชุดโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติของ American Standard พร้อมที่ใส่กระดาษชำระติดไว้ที่ผนังด้านหลัง

ฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสี พร้อมติดหน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อใช้เปิดระบายอากาศและให้ไฟแบบ downlight ให้

มาที่ส่วนครัวของโครงการ พื้นห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานสามารถเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย จัดชุดครัวแบบชิดผนังทั้งสองฝั่งภายในครัว เหลือพื้นที่ตรงกลางสามารถใช้งานได้สะดวก

เลยถัดมาจะเป็นส่วน Back of house ที่เชื่อมต่อมาจากส่วนครัวทางด้านในตัวบ้าน โดยจะยกพื้นปูกระเบื้องภายนอกเหมาะกับการใช้งาน สามารถใช้เป็นที่ตั้งเครื่องซักผ้า มีปลั๊กกันน้ำและก็อกน้ำติดตั้งให้และแยกส่วนลานซักล้างไว้ทางด้านข้างให้พร้อมใช้งาน จัดแบ่งเป็นส่วนของ Maid มีห้องนอนแม่บ้าน 1 ห้องและห้องน้ำแม่บ้าน 1 ห้อง

มากันที่บันไดของบ้านกันค่ะ บันไดมีความกว้าง 1.3 m. เป็นโครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวลูกตั้งและลูกนอนด้วยไม้มะค่าทั้งหมด และมีราวจับเป็นกระจกเทมเปอร์ให้ตลอดแนวทางของบันไดไปจนถึงชั้น 2 และ 3 ของตัวบ้าน

โถงบันไดจะมีหน้าต่างที่ผนังด้านบน ทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาบริเวณบันได ช่วยให้ไม่มืดทึบโถงบันไดดูโปร่งมากขึ้น

ขึ้นมาบนชั้น 2 ของตัวบ้าน จะมีแนวทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องต่างๆในชั้นนี้ สามารถมองลงมาเห็นพื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่น รับแขกในชั้นล่างได้

บริเวณด้านหน้าลิฟต์โดยสารและบันไดที่เชื่อมต่อมาจากชั้นล่าง พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถใช้งานได้สะดวก

มาที่ห้องนอน 2 ในพื้นที่ชั้น 2 ที่เข้ามาจากทางฝั่งทางด้านหน้าของตัวบ้าน จัดพื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก  มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 3 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด ในชั้นนี้พื้นภายในห้องจะปูด้วยพื้นไม้ Engineer wood ทั้งหมด

เข้ามาที่พื้นที่ด้านในของตัวห้องนอน แบ่งพื้นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าได้ เชื่อมต่อเนื่องไปห้องน้ำของห้องนอนที่อยู่ด้านในสุด

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน ในส่วนของผนังและพื้นเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนต่อเนื่องกันทั้งหมด มีอ่างล้างหน้า พร้อมชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ ภายในห้องน้ำให้ครบพร้อมใช้งาน

ทางเข้าพื้นห้องน้ำลดระดับ 7 cm. แยกส่วนการใช้งาน พื้นที่ภายในห้องน้ำค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก

ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าของ Kohler และอุปกรณ์ก็อกน้ำของ Grohe ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระ ของ Grohe ติดไว้ที่ผนังด้านหลังหยิบใช้งานได้สะดวก

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.5 x 0.9 m. โดยจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยลดระดับลงมาประมาณ 5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำของ Groheสามารถปรับระดับความแรงของสายน้ำได้ แต่จะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ต้องติดตั้งเองภายหลัง โดยทางโครงการจะทำ Junction box เตรียมไว้ให้ ผนังด้านข้างทำเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ

ฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสี พร้อมติดพัดลมดูดอากาศ หน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อใช้เปิดระบายอากาศและให้ไฟแบบ downlight ให้

ถัดมาอีกฝั่งของตัวบ้านจะมีแนวทางเดินเชื่อมต่อไปห้อง Living Room ในชั้นนี้ จากแนวทางเดินสามารถมองลงมาเห็นพื้นที่โถงทางประตูทางเข้าบ้านในชั้น 1 ได้

มาที่ส่วน Living room ที่จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนในชั้น 2 ช่วยเพิ่มความสะดวกและความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน กรณีมีแขกมาบ้านใช้พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ชั้น 1 แล้ว เราสามารถมีพื้นที่นั่งพักผ่อนให้ใช้อีกในบริเวณนี้

จะออกแบบมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 3 m. ช่วยทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีความโปร่งโล่ง น่าใช้งานมากขึ้น  พร้อมหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ต่อเนื่องกัน สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติและมองเห็นวิวทางด้านหน้าของตัวบ้านได้แบบมุมกว้าง

จากห้อง Living room ในชั้น 2 จะเชื่อมต่อกับระเบียงแบบ Semi Outdoor Party Court ออกแบบพื้นที่แบบ Double Volume มีความสูงจากระดับพื้นชั้น 2 ถึงฝ้าเพดานในชั้น 3 ของตัวบ้าน เป็นที่นั่งพักผ่อนในร่มที่มีพื้นที่กว้างสามารถใช้งานได้จริง โปร่งโล่งและเพื่มมิติในแนวตั้งของระเบียงมากยิ่งขึ้น

ด้านข้างพื้นที่ระเบียงทำเป็น Aluminium Sliding Screen สามารถเลื่อนเปิด-ปิดอัตโนมัติได้ เพื่อความเป็นส่วนตัวบังสายตาจากภายนอก และที่บังแสงแดดเป็นตัวกรองให้พื้นที่ระเบียงไม่โดนแสงแดดมากเกินไป

มุมมองจากพื้นที่ระเบียง Semi Outdoor Party Court ที่ชั้น 2 ของตัวบ้านสามารถมองเห็นห้องนอนทางขวามือในชั้น 2 และ 3  ตังบ้านได้ และมองลงมาเห็น Private Pool & Courtyard ที่ชั้นล่างของตัวบ้านได้

มาที่อีกฝั่งด้านในของตัวบ้านในชั้น 2 จะมีแนวทางเดินเชื่อมจากบริเวณโถงบันได ทางขวามือเป็นห้องนอน ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder room และห้อง Laudry

ถัดมาเข้ามาด้านในของตัวบ้านจะเป็นห้องนอน 3  จะมีระเบียงที่หันออกไปทางพื้นที่สวนด้านข้างของตัวบ้านได้  จัดพื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก  มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 3 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด ในชั้นนี้พื้นภายในห้องจะปูด้วยพื้นไม้ Engineer wood ทั้งหมด

มีประตูบานเลื่อนเปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอกและมุมมองแบบเปิดกว้างได้ ตัวบานเป็นกรอบอลูมิเนียมพร้อมกระจกเขียวใสตัดแสง ช่วยสะท้อนและกรองแสงเข้ามาด้านในห้อง

สำหรับพื้นที่ระเบียงหันออกทางด้านข้างของตัวบ้าน ออกแบบเป็นระเบียงแบบ Semi outdoor มีหลังคาด้านบน จะช่วยป้องความร้อนจากแสงแดดและฝนที่สาดเข้ามาที่ตัวห้องนอนทางฝั่งนี้ได้ พื้นที่ระเบียงมีขนาด 3 x 2 m.

มุมมองจากพื้นที่ระเบียงภายของห้องนอน 3 ในชั้น 2 จะมองเห็นพื้นที่ระเบียง Semi Outdoor Party Court ที่ชั้น 2 ของตัวบ้านและมองลงมาเห็น Private Pool & Courtyard ที่ชั้นล่างของตัวบ้านได้เช่นกัน

พื้นที่ด้านในของตัวห้อง จะแบ่งพื้นที่ทำเป็นส่วน Walk in closet เชื่อมต่อเนื่องไปห้องน้ำของห้องนอนที่อยู่ด้านในสุด

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน ในส่วนของผนังและพื้นเป็นกระเบื้อง มีเคาร์เตอร์พร้อมอ่างล้างหน้า ชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ ภายในห้องน้ำให้ครบเช่นกัน

ทางเข้าพื้นห้องน้ำลดระดับ 7 cm. ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าของ Kohler และอุปกรณ์ก็อกน้ำของ Grohe ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระ ของ Grohe ติดไว้ที่ผนังด้านหลังหยิบใช้งานได้สะดวก

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.5 x 0.9 m. โดยจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยลดระดับลงมาประมาณ 5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำของ Groheสามารถปรับระดับความแรงของสายน้ำได้ แต่จะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ต้องติดตั้งเองภายหลัง โดยทางโครงการจะทำ Junction box เตรียมไว้ให้ ผนังด้านข้างทำเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆได้

ฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสี พร้อมติดพัดลมดูดอากาศ หน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อใช้เปิดระบายอากาศและให้ไฟแบบ downlight ให้

ถัดมาติดกับห้องนอนจะเป็นเป็นห้องน้ำแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำจะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้าค่ะ ภายในห้องน้ำจะในส่วนของพื้นและผนังจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ห้องน้ำนี้จะแยกส่วนการใช้งานออกมาทำคนที่มาใช้งาในชั้น 2 ไม่ต้องรบกวนห้องน้ำในห้องนอนในชั้นนี้

ถัดมาเป็นห้อง Laudry ออกแบบมาเพื่อให้สามารถซักผ้าโดยไม่ต้องลงไปชั้น 1 ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานกรณีต้องการซักผ้าเล็กๆน้อยๆด้วยตนเองได้ พื้นภายในห้องนี้จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด สามารถเช็กถูทำความสะอาดได้ง่าย ทนต่อความเปียกชื้นเหมาะกับการใช้งานเป็นห้องซักผ้า

มากันที่บันไดเพื่อขึ้นไปชั้น 3 ของบ้านกันค่ะ บันไดมีความกว้าง 1.3 m.มีราวจับแนวกระจกกระจกเทมเปอร์ตลอดแนวทางของบันไดไปจนถึงชั้น 3 ของตัวบ้าน

โถงบันไดจะมีหน้าต่างที่ผนังด้านบน ทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาบริเวณบันไดในช่วงเวลากลางวัย ช่วยให้ไม่มืดทึบโถงบันไดดูโปร่งมากขึ้น

ขึ้นมาบนชั้น 2 ของตัวบ้าน จะมีแนวทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องต่างๆในชั้นนี้ ติดกับบันไดจะเป็นลิฟต์โดยสารและบันไดที่เชื่อมต่อมาจากชั้นล่าง

มาที่ห้องนอนใหญ่ Master Bedroom เปิดห้องมาก็จะเจอกับส่วน Walk in closet ทางซ้ายมือและห้องน้ำทางขวามือ ด้านในสุดจะเป็นส่วนของพื้นที่ห้องนอน

Walk in closet แบ่งพื้นที่จัดวางตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของต่างๆเป็นลักษณะตัว U พื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวก กั้นพื้นที่ด้วยกระจกทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น แต่ตู้ชุดนี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ เราสามารถเลือกตู้และรูปแบบตามการใช้งานของเราเองได้ค่ะ

ภายในห้องน้ำในส่วนของผนังและพื้นเป็นกระเบื้อง Porcelain ทั้งหมด มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน มีอ่างล้างหน้า พร้อมชุดโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ พื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานได้พร้อมกัน 1-2 คน

ชุดอ่างล้างหน้ามีให้ 2 อ่างแบบ His & Her ชุดเคาน์เตอร์หิน พร้อมอ่างล้างหน้าของ Cotto และอุปกรณ์ก็อกน้ำของ Grohe ด้านล่างและบนทำเป็นลิ้นชักที่เก็บของได้ 2 ฝั่ง โดยชิ้นบนทำเป็นชุดตู้แบบ Built In ติดกระจกด้านหน้า สามารถเปิดออกเก็บของใช้ต่างๆได้เช่นกัน

ถัดมาเป็นอ่างอาบน้ำพร้อมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำของ Bathroom Design ตัวอ่างจะยกพื้นสูงจากพื้นประมาณ 50 ซม.

อีกฝั่งของห้องน้ำจัดพื้นที่เป็นเป็นส่วนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์มีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปิดเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส

ชุดโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติของ Villeroy & Boch พร้อมที่ใส่กระดาษชำระของ Grohe ติดไว้ที่ผนังด้านข้าง

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.2 x 0.9 m. โดยจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยลดระดับลงมาประมาณ 5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower Ceiling Hang ของ Grohe แบบ Smart Control Rain Shower System สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นและสามารถปรับระดับสายน้ำของฝักบัวได้ ผนังด้านข้างทำเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆได้

ฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสี พร้อมติดเครื่องดูดอากาศและมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจกเพื่อใช้เปิดระบายอากาศและให้ไฟแบบ downlight ติดตั้งให้พร้อมใช้งาน

เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่ จัดพื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก ตำแหน่งของห้องอยู่ด้านหน้าตัวบ้าน มีหน้าต่างและประตูกระจกตัดแสงบานใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติเห็นวิวจากภายนอกแบบมุมกว้างได้ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 3 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด

ภายในห้องนอนใหญ่ให้พื้นที่มาค่อนข้างกว้าง สามารถแบ่งโซนการใช้งานได้หลากหลาย จัดเป็นส่วนพักผ่อนภายในห้องนอนได้

อีกฝั่งของห้องนอนใหญ่ สามารถจัดเป็นที่นั่งพักผ่อนแบบส่วนตัวภายในห้องได้ ตั้งชุดโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ มีหน้าต่างบานเลื่อนเป็นกระจกตัดแสงบานใหญ่ สามารถหันออกไปทางด้านหน้าบ้าน ใช้เปิดรับแสงธรรมชาติและเปิดระบายอากาศได้ และได้วิวแบบมุมกว้าง

จากห้องนอนจะเชื่อมออมาส่วนระเบียง Portico แบบส่วนตัว สมารถมองเห็นวิวแบบ Triple Layer ได้

มุมมองจากพื้นที่ระเบียงภายของห้องนอนใหญ่ Master Bedroomในชั้น 3 จะมองเห็นพื้นที่ระเบียง Semi Outdoor Party Court ที่ชั้น 2 ของตัวบ้านและมองลงมาเห็น Private Pool & Courtyard ที่ชั้นล่างของตัวบ้านได้เช่นกัน

มาที่อีกฝั่งด้านในของตัวบ้านในชั้น 2 จะมีแนวทางเดินเชื่อมจากบริเวณโถงบันได ทางขวามือเป็นห้องนอน ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ Mini Bar และส่วนอเนกประสงค์ สามารถจัดเป็นมุมห้องพระเล็ก

ถัดมาเข้ามาด้านในของตัวบ้านจะเป็นห้องนอน จะมีระเบียงที่หันออกไปทางพื้นที่สวนด้านข้างของตัวบ้านได้  จัดพื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก  มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าประมาณ 3 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด ในชั้นนี้พื้นภายในห้องจะปูด้วยพื้นไม้ Engineer wood ทั้งหมด

สำหรับพื้นที่ระเบียงหันออกทางด้านข้างของตัวบ้าน ออกแบบเป็นระเบียงแบบ Semi outdoor มีหลังคาด้านบน จะช่วยป้องความร้อนจากแสงแดดและฝนที่สาดเข้ามาที่ตัวห้องนอนทางฝั่งนี้ได้ พื้นที่ระเบียงมีขนาด 3 x 0.8 m.

พื้นที่ด้านในของตัวห้อง จะแบ่งพื้นที่ทำเป็นส่วน Walk in closet เชื่อมต่อเนื่องไปห้องน้ำของห้องนอนที่อยู่ด้านในสุด

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเป็นสัดส่วนตามการใช้งาน ในส่วนของผนังและพื้นเป็นกระเบื้อ งติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าของ Kohler และอุปกรณ์ก็อกน้ำของ Grohe ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระ ของ Grohe

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.5 x 0.9 m. โดยจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยลดระดับลงมาประมาณ 5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

ถัดส่วนทางซ้ายมือของตัวบ้านจะเป็นพื้นที่ Mini Bar และส่วนอเนกประสงค์ สามารถจัดเป็นมุมห้องพระเล็ก

แบ่งพื้นที่ไว้สำหรับจัดเป็นพื้นที่ Mini Bar ไว้สำหรับจัดเตรียมอาหารเบา หรือเครื่องดื่มในชั้นนี้ได้โดยไม่ต้องลงไปส่วนครัวในชั้นล่าง

ติดกันจะเป็นพื้นที่เว้นไว้เป็นส่วนอเนกประสงค์ สามารถจัดเป็นมุมห้องพระเล็กๆ ตรงส่วนนี้ได้ค่ะ

ส่วนอุปกรณ์ปลั๊กไฟ และสวิทช์ไฟภายในห้องใช้ของ Siemens ทั้งหมด

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 9 April 2018

  • แบบบ้าน Type M ที่ดินเริ่มต้น 60.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 433 – 449 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 29.9 ล้านบาท
  • แบบบ้าน Type L ที่ดินเริ่มต้น 93.7 – 120.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 593 – 629 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 44.9 ล้านบาท

  • สถานะโครงการ : Sold out
  • ไม่มีค่าส่วนกลาง
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – โครงการตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 9 ถือเป็นทำเลที่อยู่ระหว่างถนนพระราม 9 กับถนนรามคำแหง ใกล้กับแยกรามคำแหง ทำเลนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ทำงานในย่านนี้หรือใกล้เคียงอย่างพระราม 9, เพชรบุรี และรามคำแหง แต่ยังคงเน้นการเดินทางเข้า-ออกเมืองที่สะดวก มีตัวเลือกในการเดินทาง เป็นทำเลอยู่อาศัยที่มีความอุดมสมบูรณ์ย่านหนึ่ง ซึ่งบ้านในระดับราคา Super Luxury เรียกว่าแทบจะไม่มีในย่านนี้ ส่วนมากจะเป็นคอนโดมิเนียม หรือบ้านจัดสรรทั่วไปโครงการนี้จึงถือเป็นตัวเลือกสำหรับกลุ่มผู้ซื้อในระดับ Premium Segment ที่มองหาบ้านหลังใหญ่ที่เน้นพื้นที่ใช้สอย ความเป็นส่วนตัว และตอบโจทย์แตกต่างไม่เหมือนใคร สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในรัศมีไม่เกิน 1 กม. ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงพอตัว ส่วนใหญ่จะอยู่บนเส้นรามคำแหงทั้งหมด อย่างที่ใกล้ๆ และเดินไปได้สบายๆ เลย ก็คือ FoodLand และเดอะมอลล์ ราม หรือออกมาหน่อยก็มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายทั้งร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โรงหนัง โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย มีครบหมด

การเดินทางโดยใช้รถ – สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ จัดว่าเดินทางได้สะดวก เนื่องจากตัวโครงการอยู่ติดกับถนนรามคำแหง ซึ่งสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่าย เชื่อมต่อถนนสายหลักหลายสายทั้งเข้าและออกเมือง รวมไปถึงไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนทั้ง 2 สาย คือทางด่วนศรีรัชและทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ แต่ที่ตั้งโครงการใกล้สี่แยกแบบนี้ก็จะหนีไม่พ้นเรื่องรถติดจึงควรจะเผื่อเวลาในการเดินทางไว้หน่อย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – เนื่องจากโครงการอยู่ในซอยไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ แต่ก็เข้าซอยมาเพียง 120 m. เท่านั้น จึงสามารถเดินออกมาเรียกรถสาธารณะต่างๆเช่น แท็กซี่ วินมอร์เตอร์ไซด์ ได้ง่าย ส่วนถ้าต้องการใช้รถไฟฟ้า ก็จะมี Airport Rail Link ที่ใกล้ที่สุดคือสถานีรามคำแหง ใกล้กับอาคาร UM Tower อยู่ห่างจากโครงการไปพอสมควร ต้องใช้วิธีต่อรถสาธารณะไปขึ้นรถไฟฟ้า เพราะไม่ได้อยู่ในระยะเดิน

การออกแบบ -โครงการวางผังโครงการมีผู้อยู่อาศัย จำนวน 13 หลัง จัดเป็นโครงการที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก ที่เน้นความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย จำนวนยูนิตไม่มาก โครงการจะไม่มีประตูกั้นถนนเข้า-ออกแต่ละซอยของโครงการ เน้นการดูแลความปลอดภัยไว้ที่ตัวบ้านโดยจะติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณบ้านแทน และติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic & Shock Sensor , Digital Door Lock ที่ประตูทางเข้าภายในบ้าน และระบบ Home Automation ให้บ้านทุกหลังแทน ภายในโครงการจะประกอบด้วยส่วนที่เป็นบ้านพักอาศัย และถนนซอยรามคำแหง 9 ที่อยู่ติดกับด้านหน้าของพื้นที่โครงการ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจึงไม่ต้องเสียค่าบริหารดูแลโครงการเหมือนกับโครงการอื่น

รูปแบบบ้านในโครงการ – มีบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ให้เลือก 2 แบบ พื้นที่ใช้สอย 433– 629 ตร.ม. ใช้แนวคิด Urban Sanctuary ให้เป็นที่พักอาศัยที่อยู่กลางใจเมืองเหมาะกับการพักผ่อน การออกแบบตัวบ้านชัดเจนมีเอกลักษ์ Modern Style เรียบเท่ ใช้วัสดุและรูปทรงอาคารที่ลงตัว ตัวบ้านทั้ง 2 แบบเน้นเรื่องพื้นที่ใช้สอยเป็นหลักทั้งในแนวราบและแนวตั้ง เปิดโถงสูงภายในตัวบ้านแบบ Double Volume สูงถึง 7.2 เมตร มีความโปร่งโล่ง น่าใช้งาน รวมไปถึงเพิ่มส่วน Open Space ในส่วนของระเบียง Semi Outdoor ทางด้านข้างและด้านหน้าของตัวบ้าน ใช้งานได้จริงไม่ร้อน การเพิ่มช่องแสงรอบตัวบ้านโดยใช้หน้าต่างขนาดใหญ่ตามจุดต่างๆ เพื่อดึงแสงธรรมชาติและสามารถเปิดรับลมเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างเต็มที่  มี Private Pool & Courtyard พื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำแบบส่วนตัวภายในบ้าน มีห้องนอนชั้นล่างมีลิฟต์ส่วนตัวเหมาะกับผู้อยู่อาศัยโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน เน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว และมีพื้นที่พักผ่อนหลากหลายให้เลือกใช้งานได้เต็มที่  บ้านตัวอย่างจัดพื้นที่ได้เห็นภาพของการใช้งานแต่ละจุดชัดเจน และสามารถปรับการใช้พื้นที่ในส่วนต่างๆได้ง่าย บ้านไม่มีมุมอับใช้งานได้ทุกส่วน ได้ครัวปิดแยกการใช้งานเป็นสัดส่วน  และทุกหลังจะมีการจัดส่วน Back of house ไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนพื้นที่การใช้งานของเจ้าของบ้าน

วัสดุ – ภายในบ้านเน้นเลือกใช้ของดีมีคุณภาพเหมาะสมกับระดับราคาและการใช้งานในแต่ละส่วน พื้นชั้น 1 ปูกระเบื้อง Cotto Italia ส่วนห้องนอนชั้นล่าง พื้นชั้น 2 , 3 เป็นพื้นไม้ Engineering wood  ที่โครงการมีให้คือ Wallpaper ในส่วนห้องน้ำให้เหมือนห้องตัวอย่างทั้งหมด ห้องน้ำอื่นๆใช้กระเบื้องลายหินทั้งผนังและพื้น ส่วนห้องน้ำ Master Bedroom ได้พื้นและผนังเป็นกระเบื้อง Porcelain มีระบบน้ำร้อน-เย็น อุปกรณ์ชุดอาบน้ำเน้นรูปแบบที่เรียบหรูใช้งานสะดวก อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ อ่างอาบน้ำ อุปกรณ์ต่างๆของ Cotto Kohler และ Grohe และในบางห้องให้สุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ American Standard และ Villeroy & Boch หน้าต่างภายในใช้กระจกใสเขียวตัดแสงบานใหญ่เหมาะกับห้องที่ต้องการเน้นเห็นวิวแบบมุมกว้าง ระเบียงใหญ่ใช้งานได้จริง ติดตั้งระบบ Digital Door Lock ของ Samsung ที่ประตูทางเข้าด้านหน้า ประตูรางเลื่อนสามารถติดเป็นแบบไฟฟ้าอัตโนมัติได้ และมีสัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor และ EV Charging ที่ชาร์จรถไฟฟ้าให้บ้านทุกหลัง ในส่วนของความเรียบร้อยอื่นๆถือว่าเก็บงานได้เรียบร้อยดี

สาธารณูปโภคและพื้นที่สีเขียว –โครงการนี้จัดเป็นโครงการที่อยู่อาศัยขนาดเล็กจึงไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ มีแค่ถนนซอยรามคำแหง 9 ซึ่งเป็นสาธารณะ โครงการนี้จึงไม่ต้องเสียค่าบริหารดูแลโครงการ

Judgement

โครงการ The Gentry พระราม 9 เป็นโครงการระดับ SUPER LUXURY CLASS ที่ขายราคาตั้งแต่30 – 50 ล้านบาท ทำให้ปัจจัยในการเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณาครับ แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครางการลักษณะนี้

BOTTOM LINE

โครงการ The Gentry พระราม 9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ในเมืองที่หาได้ค่อนข้างยากในทำเลนี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการบ้านที่เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก ไม่ไกลจากทางด่วน ชอบความเป็นส่วนตัวเน้นโครงการขนาดเล็ก ไม่ชอบความพลุกพล่านในโครงการใหญ่ เน้นพื้นที่ใช้สอย มีรายละเอียดดี วัสดุดี ได้ Double Volume และ Private Pool & Courtyard แบบส่วนตัวภายในบ้าน สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 30 – 50 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 210,000 – 350,000 บาท ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )