รีวิวฉบับที่ 1594 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชม The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย คอนโด High Rise สไตล์ Luxury Modern Japanese จากการร่วมมือกันของ 2 บริษัทจากประเทศญี่ปุ่นกับ Sankyo Home (Thailand) และ  Keihan Real Estateตั้งอยู่ใจกลางย่าน All day-All Night ในซอยเอกมัย 12 มีระบบ Auto Parking จอดได้ 70% มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ครบครัน รวมถึงมีระบบการสั่งซื้อของและจัดการธุรกรรมต่างๆ ผ่าน Application ติดตั้งให้ทุกห้องอีกด้วย ตามไปชมกันค่ะ

Fact @ 24 May 2018

  • The FINE Bangkok Thonglor-Ekamai (เดอะ ฟายน์ แบงค็อค ทองหล่อ-เอกมัย)
  • Sankyo Home (Thailand) Co., Ltd , Keihan Real Estate Co., Ltd
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : วัฒนา
  • คอนโด High Rise 31 ชั้น 1 อาคาร 220 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 154 คันคิดเป็น 70 %
  • ที่ดินประมาณ 1-1-5 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : .ค. 2561
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ก.ย. 2563
  • 1 Bedroom 34-35 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom 50-56 ตารางเมตร
  • Penthouse 76-92 ตารางเมตร
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 – 2.8 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ : 180,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : รออนุมัติ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 065-219-2727

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.730605, 100.587346

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ทำเลของโครงการ  The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย  ตั้งอยู่ในจุดที่อยู่ใจกลางย่านเอกมัย-ทองหล่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเล Top ของกรุงเทพมหานครที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในประเทศไทย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ธุรกิจร้านค้า แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารอร่อย Hi-end มากมายเปิดทั้งกลางวันกลางคืน ทองหล่อจึงเป็นย่านที่สะท้อนความเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง โดยพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยคอนโดฯ ในย่านนี้โดยส่วนใหญ่นิยมกินดื่มนอกบ้าน ดังนั้นย่านนี้จึงเป็นแหล่งรวมของร้านอาหารชิคๆ มี Community Mall อย่าง Arena 10,The Commons, J Avenue, เวิ้งโบราณ รวมทั้งมีร้านกินดื่มและแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์จำนวนมากในระยะเดินถึง และมีโรงเรียนนานาชาติ Ekkamai International School ที่อยู่ในซอยเอกมัย 12 อีกด้วย

การเดินทางโดยใช้รถ ซอยเอกมัย 12 เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนเอกมัย(สุขุมวิท 63) กับถนนปรีดี พนมยงค์(สุขุมวิท 71) และเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับทองหล่อซอย 10 ที่ใช้ไปทะลุถนนทองหล่อได้หรือจะใช้ไปถนนเพชรบุรี สุขุมวิท อโศก พร้อมพงษ์ พระราม 4 ก็สะดวก หากใครต้องการเข้าเมืองทางถนนพระราม 4 ก็จะมีซอยฝั่งตรงข้ามอย่างซอยสุขุมวิท 36 และ 40 สามารถใช้เป็นถนนเชื่อมไปออกพระราม 4 ได้ และซอยสุขุมวิท  42 ก็สามารถใช้เชื่อมจากถนนพระราม 4 เข้ามายังถนนสุขุมวิทได้

ทางลัดที่สามารถใช้เลี่ยงรถติดตรงปากซอยเอกมัยได้ คือซอยเอกมัย 10 (ซอย Health Land) วิ่งลัดๆลงมาออกถนนสุขุมวิทที่ซอย 65 ซึ่งต้องยอมรับจริงๆว่า ถนนตรงนี้ปริมาณรถเยอะ ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่มีสูตรตายตัวว่าต้องไปเส้นไหน ทางลัดตรงไหนรถจะไม่ติด แต่ทางที่ดีที่สุดคือต้องรู้จักให้ครบทุกทางแล้วช่างสังเกตเอาหน่อย เพื่อดูว่าช่วงเวลานี้ทางไหนจะติดน้อยติดมากค่ะ สำหรับใครที่ใช้ทางด่วนจะมีทางด่วนรามอินทราช่วงสุดถนนเอกมัย และทางด่วนอาจณรงค์ที่ต้องวิ่งทะลุซอยสุขุมวิท 40 ไปออกฝั่งกล้วยน้ำไทค่ะ

โครงการอยู่ในระยะที่ไม่ได้ใกล้ BTS คือมีระยะประมาณ 1.30 กิโลเมตรจาก BTS เอกมัย แต่เนื่องจากหน้าโครงการเรียกรถสาธารณะให้เรียกได้ง่าย ทั้งวินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ จึงสามารถใช้รถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทางได้ และจากสถานีเอกมัยถ้านั่งรถไปอีก 2 สถานี ก็จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ซึ่งมีห้าง  Emporium , Emquartier และในอนาคตก็จะมี Emsphere อยู่ฝั่งเดียวกับ Emporium ติดกับสวนเบญจสิริอีก ถัดจากสถานี พร้อมพงษ์ก็จะเป็นสถานี อโศก ซึ่งเป็นจุดเชื่อมกับ MRT สถานีนี้จะมีห้างใหญ่อย่าง Terminal 21 อยู่ด้วย ถัดจากอโศกข้าม นานา เพลินจิตไปก็จะเข้าสู่ชิดลม และสยาม ตามลำดับ ซึ่งความสะดวกจะอยู่ตรงที่การเดินทางเข้าเมืองอย่างสีสม-สาทร เพลินจิต-สยาม สามารถนั่ง BTS ไปได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีให้เสียเวลา

การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจาก BTS เอกมัย เพื่อดูสภาพแวดล้อมบนถนนเอกมัยที่มีทั้งอาคารสำนักงาน คอนโด ร้านอาหาร ห้าง และ Community Mall หลากหลาย ตรงไปเรื่อยๆจนถึงซอยเอกมัย 12 จากนั้นให้เลี้ยวขวาเข้าซอยไปประมาณ 100 เมตร ก็จะถึงโครงการค่ะ

เริ่มกันที่สถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัยที่อยู่บนถนนสุขุมวิท สถานีนี้คนจะไม่ได้ขึ้นลงเยอะเหมือนอย่างสถานีสำคัญ เช่น อโศก เวลารอรถก็พอจะมีที่เหลือให้เข้าไปได้ตลอด

E7_update (1)

จาก BTS เราเลือกใช้ทางออกหมายเลข 1 ที่ใกล้กับซอยเอกมัย (สุขุมวิท 63) มากที่สุด

ลงจากชานชาลามา 1 ชั้น ฝั่งซ้ายจะเห็น Gateway เอกมัย หากใครต้องการไปเดิน Shopping ก่อนก็สามารถเดินเชื่อมไปได้ แต่ต้องเลือกทางออก 4 นะ

เดินมาชมวิวมุมสูงกันหน่อย ด้านล่างคือถนนสุขุมวิท ไป 3 กลับ 3 เลน ส่วนทางลงจะมีทางแยก 2 ทาง คือฝั่งขวามือจะเป็นทางลงไปที่หน้าปากซอยเอกมัยเลย ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นทางเดินไปเชื่อมกับทางเข้า Major เอกมัย

เดินมาบน Sky Walk จะผ่านหน้าซอยเอกมัยพอดี จากมุมนี้จะเห็นบรรยากาศในซอยเอกมัยช่วงต้น ก็จะมีทั้งตึกสูงสลับกับอาคารพาณิชย์ ปนกันระหว่างอาคารสำนักงาน, คอนโดมิเนียม, ห้างสรรพสินค้า ทำให้บรรยากาศค่อนข้างคึกคักตลอดทั้งวัน

เดินลงมาจาก BTS เอกมัย เราจะเจอทางฟุตบาทค่อนข้างกว้างเดินสบายๆ

ร้านอาหารที่อยู่ฝั่งซ้ายคือร้านบ้านไร่กาแฟ จะเปิดตอนเย็นๆ บนฟุตบาทมีของกินขายอยู่ริมทางหลายร้านเลยช่วยให้บริเวณนี้คึกคักตลอดวันครับ

เดินไปอีกนิดนึงจะถึงแยกเอกมัย-สุขุมวิท หากตรงไปจะสามารถเข้าเมืองไปอโศก-สยามได้ ส่วนเราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนเอกมัยกัน

จากตรงนี้จะมีทางม้าลายสามารถข้ามไปยัง Gateway เอกมัยได้ด้วย หรือถ้าใครมาจาก BTS แล้วอยากแวะช้อปปิ้งก่อน ก็สามารถใช้ทางเชื่อมจาก BTS เข้า Gateway เอกมัยได้เลย

เดินเลี้ยวซ้ายเข้ามายังถนนเอกมัย ตรงนี้จะเป็นร้านอาหารที่จะเปิดให้บริการในช่วงเย็น บรรยากาศจะคึกคักกว่านี้มาก

มองไปฝั่งตรงข้ามจะมีวินมอเตอร์ไซค์รอให้บริการอยู่ ถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนจะเห็นคนมายืนต่อแถวใช้บริการกันเยอะอยู่นะคะ

ถัดไปจะเห็นโครงการ Horizon อยู่ทางขวามือ โดยเปิดพื้นที่ภายในอาคารให้เช่าเป็นร้านอาหาร, ออฟฟิศ และภายในโครงการเดียวกันยังมีคอนโดมิเนียม สูงประมาณ 15-16 ชั้นด้วย ส่วนทางขวามือคืออาคาร BPS เป็นอาคารสำนักงาน

ไม่ไกลกันจะเป็นที่ตั้งของ Park Lane ที่เป็น Community Mall ด้านในมีร้านค้า ร้านอาหารชิคๆหลายร้าน ด้านหน้ามี True Coffee ให้มานั่งจิบกาแฟ คุยงานกันได้

ถัดจาก Park Lane จะเป็นอาคารสำนักงานสรชัย เป็นอาคารสำนักงานสูง 31 ชั้น ที่มีธนาคารกรุงเทพอยู่ใต้อาคาร

ถัดมาเป็นอาคารสำนักงานอีกแห่ง คือ Bangkok Business Center

บนถนนเส้นนี้จะมีร้านค้า ร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์ อย่างร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านเบเกอรี่ บางร้านก็เปิด 24 ชั่วโมง อย่าง โชคดีติ่มซำ

เลยมาหน่อยจะเจอ Big C Super Center และ Index Livingmall ภายในมีร้านอาหารและ Supemarket ให้มาซื้อของเข้าห้องกันได้

เยื้องๆ Cubic 63 จะเป็น Health Land เอกมัย ที่มีทั้งบริการนวดไทย นวดเท้า นวดอายุรเวท และโปรแกรมอื่นๆ รวมทั้งเอกมัยช็อปปิ้งมอลล์หรือเรียกอีกชื่อว่าเวิ้งโบราณ ที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่น่ารักๆ เช่น ร้าน Perhaps Rabbits’ ที่เป็นร้านเค้ก และร้านบ้านเพื่อน เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มบรรยากศชิลๆที่หลายคนชอบมา Hang out กัน

ถัดมาอีกนิดหนึ่งก็จะถึงสี่แยก หากเลี้ยวซ้ายจะไปยังซอยทองหล่อ 10 (เอกมัย 5) ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมไปซอยทองหล่อได้ หรือถ้าตรงต่อไปตามซอยเอกมัยจะสามารถไปทะลุถนนเพชรบุรีได้ครับ ส่วนเราจะเลี้ยวขวาจะไปซอยเอกมัย 12 ซึ่งสามารถเชื่อมไปซอยปรีดี พนมยงค์ ได้และเป็นซอยที่เป็นที่ตั้งของโครงการ

เมื่อเลี้ยวเข้ามาภายในซอยเอกมัย 12 หน้าปากซอยทั้งสองฝั่งส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์  4 ชั้น โดยโครงการ The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย ของเราจะอยู่ระหว่าง โครงการ M ทองหล่อ และ Ceil by Sansiri ค่ะ

จากสี่แยกวิ่งเข้ามาประมาณ 100 เมตร ทางซ้ายมือเราจะเห็นโครงการ The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย ค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

โครงการตั้งอยู่บริเวณต้นซอยเอกมัย 12 สภาพแวดล้อมรอบๆส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้นและบ้านพักอาศัย โครงการมีการออกแบบให้ไม่ถูกบดบังวิวจากอาคารสูงด้านข้าง โดยทางฝั่งซ้ายของโครงการจะติดกับอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น และ โครงการ M ทองหล่อ คอนโดมิเนียมสูง 22 ชั้น แต่เนื่องจากมีอาคารพาณิชย์มาคั่นกลางจึงทำให้มีระยะห่าง ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดจนเกินไป ส่วนทางฝั่งขวาจะติดกับโครงการ Ceil by Sansiri ที่ด้านหน้าเป็นอาคารพาณิชย์และอาคารจอดรถสูง 7 ชั้น ซึ่งอยู่ในระยะเดียวกับชั้นจอดรถของโครงการ The FINE พอดี ส่วนถัดเข้าไปด้านหลังเป็นคอนโดมิเนียม 2 อาคารสูง 14 , 17 ชั้น ซึ่งระยะของอาคารที่สูง 14 ชั้นนั้น จะมีบางส่วนอยู่เหลื่อมกับอาคารของเรา แต่ทางโครงการก็จัดผังให้บริเวณนี้เป็นส่วนของโถงลิฟต์และบันไดหนีไฟ ไม่มีห้องพักบริเวณนี้ค่ะ เรามาดูว่าแต่ละด้านของที่ดินติดกับอะไรบ้าง

  • ทิศเหนือ – ติดกับ อาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น
  • ทิศตะวันออก – ติดกับ โครงการ Ceil by Sansiri ประกอบด้วย อาคารพาณิชย์สูง 7 ชั้น และคอนโดมิเนียม 2 อาคารสูง 14 , 17 ชั้น
  • ทิศใต้ – ติดกับ ถนนซอยเอกมัย 12 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย และ อพาร์ทเม้นท์
  • ทิศตะวันตก – ติดกับ อาคารพาณิชย์ 5 ชั้น และ คอนโด M ทองหล่อสูง 22 ชั้น

ทิศตะวันออก ติดกับ โครงการ Ceil by Sansiri ประกอบด้วย อาคารพาณิชย์สูง 7 ชั้น และคอนโดมิเนียม 2 อาคารสูง 14 , 17 ชั้น

ทิศใต้ ติดกับ ถนนซอยเอกมัย 12 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย และ อพาร์ทเม้นท์

ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารพาณิชย์ 5 ชั้น และ คอนโด M ทองหล่อสูง 22 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Health Land ~ 300 เมตร
  • Arena 10 ~ 400 เมตร
  • Big C เอกมัย ~ 550 เมตร
  • อาคารสำนักงานสรชัย ~ 900 เมตร
  • อาคารสำนักงาน  S.S.P. Tower ~1.10 กิโลเมตร
  • J Avenue ~ 1.6 กิโลเมตร
  • Major Cineplex เอกมัย ~ 1.6 กิโลเมตร
  • Charn Issara Tower 2 ~ 1.7 กิโลเมตร
  • Park Lane  ~ 1.9 กิโลเมตร
  • Gateway เอกมัย ~ 2.5 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย เป็นคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 220 ยูนิต ออกแบบโดย A49 พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Luxury Modern Japanese” มีความเรียบง่ายอบอุ่น แต่หรูหรา ตัวอาคารใช้โทนสีขาวผสมกับไม้เพื่อเพิ่มความอบอุ่น ภายในประกอบด้วยห้องชุด 1-2 ห้องนอน และ Penthouse สำหรับการจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในก็มีการออกแบบให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ทั้งมีระบบ Auto Parking อยู่ที่ชั้น 2-8 เพิ่มพื้นที่จอดรถและการจัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้ครบครัน โดย Facilities จะถูกแบ่งออกเป็น 4 โซนได้แก่

  • Fine Lounge อยู่บริเวณชั้น 1 ได้แก่ Lobby, Co-working room, Private meeting room, Mail room , Waiting Area ซึ่งทางโครงการตั้งใจที่จะสร้างโซนนี้ให้เป็นพื้นที่ใช้งานร่วมกัน โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว แต่มีพื้นที่กว้างเพียงพอรองรับการใช้งานแบบกลุ่มใหญ่ด้วย
  • Fine Greenery โครงการจัดให้มีพื้นที่สีเขียวทั้งรอบๆโครงการกับ Spring Garden และ พื้นที่สวนชั้น 23 และชั้น 27 ให้ลูกบ้านได้ออกมาใช้นั่งเล่นพักผ่อน
  • Fine Retreat ชั้น 30 จัดเป็นโซนเปียกทั้งหมด ประกอบด้วยพื้นที่พักผ่อนรับแดดหรือชมวิวเมืองยามค่ำคืน สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ยาว 20 เมตร , Pool Bar ล้อมรอบด้วยน้ำ + พื้นที่นั่งพักผ่อน , Sauna Room มีกระจกให้ชมวิว , Hot Pool และ The Edge View Point จุดชมวิว ซึ่งแนวคิดในการออกแบบโซนนี้คือต้องการให้สามารถชมวิวขอบฟ้าได้ใกล้ที่สุด
  • Fine Sky ที่ชั้น 31 เป็นพื้นที่ Roof Lounge ที่ทุกกิจกรรมสามารถชมวิวเมือง 360 องศาได้ ประกอบด้วย Fitness, Golf Club, Sky Seat, Karaoke room, Kids Room ,Wine Lounge และ  Co – Kitchen

ในย่านทองหล่อนี้จัดว่าเป็นย่าน All day-All Night ที่สามารถใช้ชีวิตได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ในภาพจำลองบรรยากาศของตัวอาคาร ทางโครงการจึงทำมาให้ดู 2 อารมณ์ค่ะ

เรามาดูแปลนชั้น 1 กัน ทางเข้าหลักของโครงการจะมีอยู่ทางเดียวคือเข้าจากทางซอยเอกมัย 12 ถ้าใครขับรถผ่านระบบรักษาความปลอดภัยด้านหน้าโครงการเข้ามาแล้ว จะต้องขับไปจอดที่ด้านหลังอาคาร ซึ่งที่จอดรถจะเป็นแบบ Auto Parking จอดได้ประมาณ 154 คันหรือคิดเป็น 70% รอบๆโครงการมีการจัดสวนหย่อมมาให้เดินเล่นพักผ่อน ด้านในอาคารเข้ามาจะเจอกับ Lobby และ Co-working room ที่จะเชื่อมต่อกับ Private meeting room ที่บริเวณชั้นลอย สามารถรองรับการใช้งานได้ประมาณ 10 คน ถัดเข้าไปด้านในจะเป็น Mail room , Waiting Area สำหรับนั่งรอรถ และ ห้องน้ำ สำหรับการเข้าอาคารและโซนที่เป็น Private ต่างๆนั้นจะต้องใช้ Keycard Access ในทุกๆทางเข้า-ออก ได้แก่บริเวณ Mail box , Lobby และทางเข้าที่จอดรถค่ะ

โซน Fine Greenery ด้านหน้าโครงการ ออกแบบโดยได้แนวคิดมาจากวังในญี่ปุ่นที่จะนิยมการมานั่งชมจันทร์ โดยลูกบ้านสามารถมานั่งเล่นจุ่มขาลงไปในสระได้ พร้อมกับชม Lighting ที่จะออกแบบมาให้คล้ายๆเงาจันทร์ในน้ำ ทางด้านข้างและด้านหลังเป็นมุมนั่งพักผ่อน ส่วนทางฝั่งขวาคือ Co-working room และ Private meeting room ที่จะอยู่บริเวณชั้นลอยต้องเดินขึ้นบันไดวนไปค่ะ

Lobby ออกแบบให้มีความเรียบหรู ได้อารมณ์ความเป็นญี่ปุ่นและเรียบหรูโดยการใช้โทนสีเข้มและใช้ Lighting ในการเพิ่มบรรยากาศ บริเวณนี้เป็นแบบ Double Space ฝ้าเพดานสูง ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับ Co-working room ค่ะ

ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 9 เป็นต้นไป โดยชั้นนี้จะเป็น Typical Floor Plan มีจำนวนยูนิตต่อชั้นไม่เยอะคือเท่ากับ 12 ยูนิตเท่านั้น จึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว การจัดวางผังห้องพักจะวางห้อง 2 ห้องนอนเอาไว้บริเวณมุม ส่วนห้อง 1 ห้องนอนอยู่ตรงกลาง โถงลิฟต์ถูกจัดวางให้อยู่บริเวณที่ตัวอาคารหันชนกับบางส่วนของโครงการ Ceil by Sansiri บริเวณนี้จึงไม่มีห้องพัก โดยมีลิฟต์สาร 2 ตัวแบบล็อคชั้น อัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ  110 :  1 และมีลิฟต์ Service 1 ตัวค่ะ

สำหรับวิวนั้นทิศที่โล่งๆไม่มีอะไรมาบังเลยคือทิศใต้ฝั่งถนนสุขุมวิท ส่วนทิศตะวันตกนั้นจะมีโครงการ M ทองหล่อและอาคารพาณิชย์อยู่ด้านข้าง อาคารสูงไม่ได้วางอยู่ในระยะประชิดมีระยะห่างอยู่พอสมควรและเนื่องจากโครงการเราสูง 31 ชั้น พอพ้นจากระยะความสูง 22 ชั้นจาก M ทองหล่อ แล้วก็จะได้วิวเปิดโล่งของทางฝั่งทองหล่อเลยค่ะ ส่วนทางทิศตะวันออกที่เป็นโครงการ Ceil by Sansiri  นั้นตัวโครงการนี้เค้าจะร่นระยะคอนโดทั้ง 2 อาคารอยู่ด้านหลัง ทำให้ไม่มาบดบังวิว จะมีแต่บางส่วนเท่านั้นซึ่งโครงการเราก็ออกแบบให้เป็นโถงลิฟต์ตามที่ได้บอกไป  ด้านหน้าของ Ceil by Sansiri  จะเป็นอาคารพาณิชย์และอาคารจอดรถสูง 7 ชั้นซึ่งอยู่ในระยะชั้นจอดรถของโครงการเราพอดีค่ะ

ชั้น 23 การวางผังคล้ายๆกับชั้น 9-22 นะคะ แต่จำนวนยูนิตลดลงมาเหลือ 10 ยูนิตต่อชั้น และมีพื้นที่ส่วนหย่อม เป็นสวนส่วนตัวที่ลูกบ้านมาใช้ได้ โดยจะมีห้องที่ได้วิวสวนอยู่ 2 ห้อง แต่ถ้าจะออกมาใช้เดินเล่นก็ต้องออกมาเข้าที่ด้านนอกนะคะ ไม่สามารถเดินจากห้องตัวเองลงสวนได้

ชั้น 24 วางผังเหมือนชั้น 23 ค่ะ จำนวนยูนิตต่อชั้นเท่ากันเลย ต่างกันแค่ไม่มีสวนหย่อม จะสังเกตเห็นว่าในชั้นบนๆจำนวนยูนิตจะเริ่มลดลงตามระยะร่นของอาคาร ทำให้ห้องพักที่อยู่ในชั้นนี้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย

ชั้น 27 มีสวนหย่อมอยู่อีกจุดหนึ่งค่ะ การใช้งานต้องออกมาที่โถงทางเดินทางแล้วจะมีประตูกั้นแยกต่างหากค่ะ ชั้นนี้จะมีแต่ห้องแบบ Penthouse จำนวน 4 ห้องขนาด 76.5 – 92 ตารางเมตร และมีห้องเดียวเท่านั้นที่ได้วิวสวนหย่อมคือห้อง PHB-1 ขนาด 76.5 ตารางเมตร ฝั่งด้านหน้าอาคาร

ที่ชั้น 30-31 เป็นชั้นของ Facilities อีกจุดหนึ่งซึ่งทางโครงการออกแบบมาเพื่อให้ได้ชมวิวไปพร้อมๆกับทำกิจกรรมด้วย อย่างชั้นนี้คือชั้น 30 เป็นพื้นที่ผ่อนและชมวิว ประกอบด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ยาว 20 เมตรพร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อน , Pool Bar ล้อมรอบด้วยน้ำ , ห้อง Sauna Room ที่สามารถชมวิวได้ , Hot Pool หรือบ่อน้ำร้อนเอาไว้แช่ตัว (ไม่ใช่ออนเซนนะคะ) และ The Edge View Point จุดชมวิว

และในชั้น 31 จะเป็นโซน Fine Sky ประกอบด้วย Roof Lounge , Fitness, Golf Club, Sky Seat, Karaoke room, Kids Room ,Wine Lounge และ Co – Kitchen

โครงการนี้มีการออกแบบให้มี Sky Facilities เพื่อให้เราได้ชมวิวในชั้นสูงสุดซึ่งจะอยู่ในชั้น 30 , 31 และดาดฟ้า โดยในชั้นดาดฟ้า (ถ้ามีรูปเพิ่มเติมจะเอามาเพิ่มให้นะคะ) จะมี Golf Club หรือ Golf Putting Space , พื้นที่เล่นโยคะ และ Sky Seat ที่นั่งชมวิว มาให้ ซึ่งถือว่าจัดวางพื้นที่ส่วนกลางมาให้ค่อนข้างเต็ม ไม่ปล่อยพื้นที่ว่างๆให้เสียประโยชน์ค่ะ

สระว่ายน้ำ , Pool Bar ,  Hot Pool และจุดชมวิวที่ชั้น 30 ออกแบบมาให้ชมวิวได้แบบพาโนรามา อีกทั้งยังเป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน โดยตำแหน่งของที่นั่งพักผ่อนริมสระก็ได้รับการคำนวณทิศทางแดด ไม่ว่าแดดจะแรงแค่ไหนก็จะมาแค่ปลายเก้าอี้เท่านั้น มานั่งเล่นพักผ่อนกันได้ยาวๆ อันนี้จะจริงมั้ยต้องมารอดูตอนโครงการเสร็จกันเนอะ

ภาพจำลองบรรยากาศอันสุดท้ายที่เราได้มาคือ Wine Lounge ตกแต่งได้เรียบหรู ถือเป็นมุมพักผ่อนที่ดี สามารถมาใช้นั่งชมวิวได้อีกด้วย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Fine Lounge

  • Lobby
  • Co-working room
  • Private meeting room
  • Mail room
  • Waiting Area

  • Fine Greenery

  • Spring Garden
  • Garden (23rd and 27th Floor)

  • Fine Retreat (ชั้น 30)
    • สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ยาว 20 เมตร
    • Pool Bar
    • Sauna Room แบบมีกระจกให้ชมวิว
    • Hot Pool
    • The Edge View Point (จุดชมวิว)

  • Fine Sky (ชั้น 31)
    • Fitness
    • Golf Club
    • Sky Seat
    • Karaoke room
    • Kids Room
    • Wine Lounge
    • Co – Kitchen

  • Shutter bus
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 110 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 154 คันคิดเป็น 70% ไม่รวมจอดซ้อนคัน (Auto Parking) 
  • ระบบ CCTV / Access Card

  • Product Walkthrough

    สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมคือ Type 1B – 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร และ Type 2A – 2 ห้องนอน 55.9 ตารางเมตร  โดยทางโครงการให้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ทุกชิ้น พร้อมสุขภัณฑ์ แอร์ และวัสดุมาตรฐาน

    เรามาดูกันที่ห้อง Type 1B – 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร แปลนจะเป็นแบบ Confidential ก่อนนะคะ การวางผังของโครงการนี้จะเน้นความ Private เปิดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่เปลี่ยนรองเท้าและตู้เก็บของก่อน ถัดเข้ามาด้านในจึงจะเป็นครัว พื้นที่อาหาร และพื้นที่นั่งเล่นต่อเนื่องกันไป ครัวเป็นแบบครัวเปิดจึงเหมาะกับซื้ออาหารมาทาน ทำกินเองง่ายๆ หรือจัดปาร์ตี้มากกว่า ผนังข้างชุดโซฟาทางโครงการออกแบบมาให้เป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่ เปิดรับแสงได้เต็มที่ และมีการออกแบบระเบียงที่เป็นสัดส่วน แยกพื้นที่วาง Condensing Unit และเครื่องซักผ้าพร้อมทำระแนงปิดมาให้ ทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกฝั่งของตัวห้องเป็นห้องนอน จัดฟังก์ชันวางเป็นเตียงนอน โต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง และโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ ห้องนี้ก็ได้กระจกบานใหญ่เช่นเดียวกัน ส่วนห้องน้ำจะเข้าได้ 2 ทางทั้งจากบริเวณหน้าห้องและในห้องนอน เวลาเพื่อนๆมาก็เข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องเดินมาเข้าที่ห้องนอนของเราให้เสียความเป็นส่วนตัวค่ะ (ในแปลนกับห้องตัวอย่าง Mirror กันนะคะ)

    ประตูทางเข้าห้องได้เป็นบานไม้กรุด้วยลามิเนตพร้อม Digital Door Lock

    Digital Door Lock ได้ของ Alpha

    พอเปิดประตูเข้ามาบริเวณหน้าห้องจะมีการลดระดับพื้น เพื่อทำเป็นพื้นที่เปลี่ยนรองเท้าและบริเวณนี้จะช่วยกันฝุ่นผงไม่ให้เข้าไปในตัวห้องได้

    บริเวณหน้าห้องทางโครงการให้ตู้เก็บของมาแบบนี้เลยค่ะ ใช้เก็บของ เก็บรองเท้า หรือวางของโชว์เล็กๆน้อยๆได้

    ถัดเข้าไปด้านในจะเจอตู้อีกใบหนึ่งที่ทางโครงการแถมมาให้ ทางฝั่งซ้ายเป็นทางไปครัว พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่น ส่วนทางฝั่งขวาเป็นห้องน้ำ การออกแบบห้องนี้จะเน้นความเป็นส่วนตัว คือเข้ามาในห้องจะเจอกับโถงก่อนที่จะเข้าไปยังส่วนอื่นๆ

    ตู้ใบนี้เปิดออกมาเก็บของได้ตามภาพค่ะ และยังมีช่องทางด้านขวาให้วางของตกแต่งได้ด้วย

    ข้างๆตู้เป็นทางเข้าไปห้องน้ำ ของจริงจะมีบานประตูกั้นมาให้ด้วยนะคะ

    พื้นบริเวณนี้จะปรับมาเป็นลามิเนตลายไม้หนา 12 มม.

    ห้องน้ำโดยรอบปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังด้านหลังบริเวณอ่างล้างหน้าที่เห็นเป็นกระจกเงาสีชา ของที่ได้จริงจะเป็นกระเบื้องนะคะ โดยจัดฟังก์ชันการใช้งานออกเป็นส่วนแห้งส่วนเปียก ซึ่งจะมีอ่างอาบน้ำแทนพื้นที่ยืนอาบน้ำ เนื่องจากเป็นสไตล์ญี่ปุ่นนั่นเอง

    ห้องน้ำห้องนี้สามารถเข้าได้ 2 ทางนะคะ ทั้งจากบริเวณหน้าห้องที่เราเข้ากันมาเมื่อซักครู่และจากห้องนอน

    บริเวณทางเข้ามีทำธรณีกั้นเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลไปโดนส่วนอื่นๆค่ะ

    อ่างล้างหน้าได้เป็นของ TOTO ทรงสี่เหลี่ยม วางอยู่ด้านบนเคาน์เตอร์ที่มีพื้นที่ใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้ ด้านล่างอ่างเป็นตู้

    โดยตู้มีการแบ่งช่องเอาไว้เก็บทั้งของเล็กๆเช่นผ้าเช็ดตัวและของชิ้นใหญ่ เปิดออกมาเก็บของได้แบบนี้ค่ะ

    โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ (WASHLET) ของ TOTO

    อีกฝั่งหนึ่งเป็นอ่างอาบน้ำที่มีฝักบัวเอาไว้ให้ครบ ในเวลาที่เร่งรีบก็ใช้ยืนอาบน้ำ มีที่แขวนผ้าเช็ดตัวติดตั้งเอาไว้ด้านข้าง

    อ่างเป็นแบบนั่งแช่ตัว ที่ทางโครงการเลือกใช้เป็นอ่างเนื่องจากกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นและสไตล์การออกแบบที่เป็นแบบญี่ปุ่นนั่นเอง ด้านข้างอ่างมีพื้นที่สำหรับวางของได้ เผื่อใครจะวางแก้วไวน์ตอนนอนแช่น้ำ^^

    ชุดฝักบัวได้ตามนี้เลยค่ะ

    ด้านบนทางโครงการทำเป็นช่องแสงซึ่งการดีไซน์ของญี่ปุ่นเรียกว่า “Ma” เป็นการเจาะช่องเพื่อนำแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องสว่างมากขึ้นและไม่มืดทึบ

    ถัดเข้ามาด้านในเป็นครัวเปิดที่เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร

    ตู้ด้านบนและด้านล่างเปิดออกมาเก็บของได้ค่อนข้างเยอะค่ะ พร้อมเป็น Soft Close ทั้งหมด วัสดุของเคาน์เตอร์ครัวเป็นลามิเนตลายไม้สีเข้ม และ Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว

    อ่างล้างจานแบบหลุมเดียวของ Teka

    เตาไฟฟ้าได้แบบ 2 หัวของ Teka เช่นกันค่ะ ขนาดเหมาะกับการใช้งาน

    เครื่องดูดควันก็ได้ของ Teka เป็นระบบที่ดูดควันออกไปนอกโครงการเลย

    โดยบริเวณครัวจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าค่ะ

    ถัดเข้ามาอีกจะเป็นพื้นที่นั่งรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น ส่วนทางฝั่งขวาเป็นทางไปห้องนอน

    พื้นที่รับประทานอาหารจัดที่นั่งได้ประมาณ 2 ที่นั่ง แนะนำว่าควรเลือกโต๊ะและเก้าอี้ให้มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไปนะคะ

    หันมาดูด้านข้างโต๊ะอาหารก็จะได้ตู้อีกใบหนึ่ง เป็นใบที่ต่อเนื่องมาจากตู้ด้านข้างทางเข้าห้องน้ำ

    พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ด้านในสุดติดกับประตูทางออกไปที่ระเบียง มีระยะดูทีวีประมาณ 1.8 เมตร และวางโซฟาได้ประมาณ 2 ที่นั่ง

    ประตูทางออกไปที่ระเบียงได้เป็นบานใหญ่เลยค่ะ ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องค่อนข้างเยอะ

    โดยพื้นระเบียงจะมีการลดระดับพื้นลงมาเพื่อความสะดวกในการซักล้างและช่วยกันน้ำฝนได้ด้วย

    ระเบียงขนาดค่อนข้างกว้างค่ะ งานระบบถูกจัดเก็บเป็นสัดส่วนอยู่ทางฝั่งซ้าย ออกไปใช้งานได้จริง

    ราวกันตกทางโครงการให้มาเป็นกระจก ทำให้เวลาเรามองออกไปด้านนอกจะไม่มีเส้นอะไรมาบดบังวิว

    พื้นที่ระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค สามารถใช้งานได้เต็มพื้นที่ เอาเก้าอี้ออกมาวางนั่งพักผ่อนหรือจัดสวนได้ค่ะ

    Condensing Unit ของแอร์ทางโครงการแขวนเก็บเป็นสัดส่วน มีระแนงกั้นบังตามาให้

    ห้องนอนนั้นเข้าได้จากทางห้องนั่งเล่น

    ในห้องนอนจัดพื้นที่ใช้สอยให้สามารถวางเตียงนอน โต๊ะข้างเตียง และ โต๊ะเครื่องแป้งได้ ซึ่งเตียงนอนและโต๊ะเครื่องแป้งนี้ทางโครงการแถมให้ค่ะ

    ปลายเตียงมีพื้นที่ประมาณ 45 cm. สามารถเดินผ่านได้ แต่ถ้าอยากติดทีวีแนะนำให้แขวนผนังจะสะดวกกว่าค่ะ

    ทั้ง 2 ฝั่งของเตียงสามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้นะ โดยทางฝั่งขวาจะมีระยะมากกว่า วางโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มได้ ซึ่งจะอยู่หน้าห้องน้ำพอดีใช้งานได้สะดวก

    เปิดออกมาเก็บของได้แบบนี้ค่ะ

    ผนังข้างเตียงได้หน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสงสว่างได้เต็มที่และมีบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศที่ด้านข้าง

    ฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้าห้องน้ำจากในห้องนอน และมีตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วย

    ตู้เสื้อผ้าเราได้แบบนี้เลยนะคะ หน้าบานเป็นบานเปิดสีชาสวยดี ภายในแบ่งออกเป็นชั้นวางของ ลิ้นชัก และ ราวแขวนผ้า

    สวิตช์และปลั๊กของ Panasonic ค่ะ

    ต่อมาคือห้อง Type 2A – 55.5 ตารางเมตร เข้ามาในห้องจะเจอกับโถงก่อนเช่นเดียวกัน เป็นพื้นที่สำหรับเก็บของและรองเท้า เข้าห้องมาจะเป็นห้องน้ำซึ่งใช้แชร์กับห้องนอนเล็ก ห้องนี้จะไม่มีอ่างแต่มีพื้นที่อาบน้ำให้ยืนอาบได้ และถัดมาจะเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่จะเป็นอ่างอาบน้ำค่ะ โดยห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะได้หน้าต่างบานใหญ่เปิดรับวิวได้เต็มที่ทั้งคู่ ด้านในสุดจึงจะเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว อย่างพื้นที่ นั่งเล่น ทานข้าว และครัว บริเวณนี้ได้กระจกแบบ Bay Window และ ระเบียงที่แยกส่วน Service ออกมาเป็นสัดส่วน

    เข้ามาในห้องจะเจอกับโถงเล็กๆก่อน เอาไว้สำหรับเก็บของและวางรองเท้า การวางผังจะเน้นความเป็นส่วนตัว เข้ามาในห้องจะไม่เห็นพื้นที่ทำกิจกรรม แต่จะเป็น Partition ก่อน เพื่อให้คนที่อยู่ในห้องมีความเป็นส่วนตัวค่ะ

    พื้นที่บริเวณโถงหน้าห้องมีการลดระดับลงเล็กน้อย เพื่อกันฝุ่นเข้าไปในห้อง เราจะได้มาถอดรองเท้าตรงนี้ได้สะดวก พื้นปูเป็นกระเบื้องเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย

    พอถอดรองเท้าเสร็จหันมาก็จะเจอตู้เก็บของและรองเท้าค่ะ สะดวกต่อการใช้งานนี้ ชุดนี้โครงการเค้าให้นะ

    มือจับสเตนเลสดูแข็งแรงดี

    ตู้เตี้ยเปิดออกมาเป็นชั้นเก็บของ ถ้าอยากให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก็หากล่องมาแยกหมวดหมู่ของที่จะเก็บแบบนี้ได้

    ส่วนตู้ใหญ่ข้างในทำเป็นชั้นเก็บรองเท้าและเก็บของ ให้มาเยอะดี น่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน

    ถัดมาเป็นโถงเล็กๆนำไปสู่ส่วนต่างๆของห้อง ทางฝั่งซ้ายนั้นเป็นห้องน้ำ

    ห้องน้ำห้องนี้แยกการใช้งานออกเป็นโซนๆชัดเจนไปเลย เข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่อาบน้ำแบบยืนอาบกั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยมาให้เรียบร้อย

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.95 x 0.9 m. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ มีธรณีกั้นกันน้ำไหลออกไปโดนส่วนแห้ง

    ฝักบัวมีทั้ง Rain Shower และแบบมือจับ ผนังด้านข้างก็มีช่องเอาไว้ให้ใส่สบู่ แชมพู

    มือจับที่ทางโครงการให้มาค่ะ

    ห้องน้ำห้องนี้เข้าได้ 2 ทางนะคะ ทั้งจากโถงทางเดินและในห้องนอนเล็กด้วย

    โถสุขภัณฑ์ในห้องนี้ไม่ใช่แบบอัตโนมัติแต่ของ TOTO เช่นเดียวกัน พร้อมกับติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบ

    อ่างล้างหน้าได้แบบนี้ทั้งชุด เว้นแต่ผนังที่เป็นกระจกเงาสีชา เราจะได้เป็นกระเบื้องนะ

    ทั้งชุดของ TOTO ด้านล่างเป็นตู้เปิดออกมาเก็บของได้

    ถ้าออกจากห้องน้ำนี้ไปก็จะเห็นห้องนอนใหญ่ค่ะ

    ภายในห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียง King Size ได้ ข้างเตียงเป็นหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงได้เต็มที่

    เตียงที่ทางโครงการให้จะมีลิ้นชักเปิดออกมาเก็บของได้ด้วย

    ด้านข้างเตียงทางฝั่งซ้ายจะมีระยะเหลือแค่ผ้าม่านผ่าน ส่วนทางฝั่งขวาจะมีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งที่โครงการแถมมาให้ค่ะ

    ปลายเตียงก็มีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านสบายๆ

    ผนังฝั่งปลายเตียงจะมีตู้วางทีวีและตู้เสื้อผ้าที่โครงการแถมให้ หน้าตาแบบนี้เลย

    ตู้เสื้อผ้าสามารถเปิดได้ทั้งจากทางด้านข้าง

    และเปิดได้จากทางด้านหน้า ข้างในแบ่งฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วน

    อีกฝั่งของห้องเป็นทางไปห้องน้ำ ซึ่งห้องจริงจะมีประตูกั้นมาให้ด้วยนะคะ

    ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่แบ่งเป็นส่วนแห้งส่วนเปียก โดยส่วนเปียกนั้นได้เป็นอ่างอาบน้ำค่ะ และที่ผนังด้านบนจะมี “Ma” หรือช่องแสงเพื่อดึงเอาแสงสว่างเข้ามาในห้อง

    ทางเข้าห้องน้ำมีธรณีกั้นกันน้ำไหลไปโดนส่วนอื่นๆของตัวห้อง

    ชุดนี้ได้คล้ายห้องอื่นๆ คือตามนี้ยกเว้นผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้

    อ่างอาบน้ำได้ตามนี้ค่ะ ของ TOTO มาแช่ตัวคลายความเหนื่อยล้าได้ พร้อมติดตั้งฝักบัวมาให้ครบ

    โถสุขภัณฑ์ห้องนี้ได้แบบอัตโนมัติของ TOTO

    พื้นที่อาบน้ำได้ทั้ง Rain Shower และ ฝักบัวแบบมือจับ

    ด้านในสุดของห้องนี้เป็นครัว พื้นที่รับประทานอาหาร และ พื้นที่นั่งเล่นค่ะ สามารถทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวได้อย่างเป็นส่วนตัวหรือจะใช้จัดปาร์ตี้ก็ได้

    ครัวได้แบบนี้ทั้งชุดค่ะ เป็นแบบครัวเปิดจึงเหมาะกับการทำอาหารทานง่ายๆที่บ้าน

    ได้เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน และ เตาไฟฟ้ามาให้ครบ

    เครื่องซักผ้าทางโครงการก็จัดพื้นที่มาให้อยู่บริเวณนี้ค่ะ จะได้ไม่ไปรบกวนพื้นที่ของระเบียง

    ถัดจากครัวไปก็เป็นพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น บริเวณนี้ค่อนข้างโปร่งโล่งทีเดียว

    เพราะได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่แบบเข้ามุม (Bay Window) ค่ะ

    ด้านหลังชุดโซฟาเป็นทางเดินออกไปที่ระเบียง บริเวณนี้เป็น Bay Window พอดีและเนื่องจากราวกันตกของระเบียงก็เป็นกระจกเวลามองออกไปจึงไม่มีอะไรมาบดบังวิวค่ะ

    เวลาเดินไปที่ระเบียงจะต้องอ้อมมาด้านหลังโซฟา อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่

    สำหรับระเบียงนั้นเราออกมาใช้พื้นที่ได้เต็มที่ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค เช็ดล้างทำความสะอาดง่ายค่ะ

    พื้นที่วาง Condensing Unit ของแอร์ทางโครงการมีที่เก็บมาให้เป็นสัดส่วนเหมือนกับห้องก่อนหน้าเลย พร้อมกับมีระแนงกั้นมาให้เรียบร้อย

    อีกฝั่งเป็นทางไปห้องนอนเล็ก

    ห้องนี้ก็ได้หน้าต่างบานใหญ่เช่นเดียวกันค่ะ วางฟังก์ชันต่างๆได้ครบทั้งเตียงนอน ตู้เสื้อผ้าแต่ขนาดห้องจะเล็กกว่าห้องนอนใหญ่

    ทางฝั่งซ้ายมีระยะวางโต๊ะข้างเตียงและตู้เสื้อผ้า ส่วนทางฝั่งขวามีพื้นที่เหลือให้ม่านผ่าน

    บริเวณหน้าห้องจะมี Walk-in Closet เล็กๆค่ะ พออาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้เลย สะดวกดี

    นอกจากนี้ในทุกๆห้อง ทางโครงการจะมีติดตั้ง Nasket  ระบบการสั่งซื้อของ และจัดการธุรกรรมต่างๆ ผ่าน Application บนอุปกรณ์อัจฉริยะมาให้ด้วยค่ะ หน้าตาเป็นแบบในรูป  แต่จะติดตรงไหนนั้นต้องรอทางโครงการสรุปอีกทีนะ

    ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก www.nasket.com , www.blognone.com

    โดย Nasket เป็นสตาร์ตอัพไทยรายล่าสุดที่แก้ปัญหาเรื่องประสบการณ์สั่งซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซที่ยังยุ่งยากและซับซ้อน ด้วยการสร้างฮาร์ดแวร์ที่มีหน้าจอและตัวสแกนบาร์โค้ด ช่วยให้กระบวนการสั่งซื้อง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ อยากได้อะไรก็เอาไปสแกนเพื่อสั่งซื้อได้ทันที โดยบริการของ Nasket จะมีทั้ง Grocery , Home Services , Food Ordering , Bill Payment , Video Door Bell และ Message Broadcasting ค่ะ

    สำหรับใครที่สนใจ The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย จะเปิดขาย Pre-sales วันที่ 2 -3 มิถุนายนนี้ ที่ Sales Gallery สามารถเข้าไปชมกันได้นะคะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 May 2018

    • 1 Bedroom ขนาด 34.5-35.0 Sq.m. ราคา 5.5 – 7.5 MB
    • 2 Bedroom ขนาด 50.5-56.5 Sq.m. ราคา 9.5 – 11.0 MB
    • Penthouse ขนาด 76.5-92.0 Sq.m. ราคา 14.0 – 19.0 MB

    • Fully Furnished (ให้เฉพาะเฟอร์นิเจอร์ Built-in)
    • ฝ้าเพดานสูง 2.6-2.8 เมตร
    • Kitchen & Sink
    • Hob & Hood
    • Shuttle Bus 
    • จอง 50,000 บาท
    • ทำสัญญา 150,000 บาท
    • ดาวน์ 15% ผ่อนดาวน์ 27 งวด
    • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเลของโครงการ  The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย  ตั้งอยู่ในจุดที่อยู่ใจกลางย่านเอกมัย-ทองหล่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเล Top ของกรุงเทพมหานครที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในประเทศไทย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ธุรกิจร้านค้า แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารอร่อย Hi-end มากมายเปิดทั้งกลางวันกลางคืน ในย่านนี้โดยส่วนใหญ่นิยมกินดื่มนอกบ้าน ดังนั้นย่านนี้จึงเป็นแหล่งรวมของร้านอาหารชิคๆ มี Community Mall อย่าง Arena 10,The Commons, J Avenue, เวิ้งโบราณ รวมทั้งมีร้านกินดื่มและแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์จำนวนมากในระยะเดินถึง และมีโรงเรียนนานาชาติ Ekkamai International School ที่อยู่ในซอยเอกมัย 12 อีกด้วย

    การเดินทางโดยใช้รถ ซอยเอกมัย 12 เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนเอกมัย(สุขุมวิท 63) กับถนนปรีดี พนมยงค์(สุขุมวิท 71) และเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับทองหล่อซอย 10 ที่ใช้ไปทะลุถนนทองหล่อได้หรือจะใช้ไปถนนเพชรบุรี สุขุมวิท อโศก พร้อมพงษ์ พระราม 4 ก็สะดวก หากใครต้องการเข้าเมืองทางถนนพระราม 4 ก็จะมีซอยฝั่งตรงข้ามอย่างซอยสุขุมวิท 36 และ 40 สามารถใช้เป็นถนนเชื่อมไปออกพระราม 4 ได้ และซอยสุขุมวิท  42 ก็สามารถใช้เชื่อมจากถนนพระราม 4 เข้ามายังถนนสุขุมวิทได้

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ โครงการอยู่ในระยะที่ไม่ได้ใกล้ BTS คือมีระยะประมาณ 1.30 กิโลเมตรจาก BTS เอกมัย แต่เนื่องจากหน้าโครงการเรียกรถสาธารณะให้เรียกได้ง่าย ทั้งวินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ จึงสามารถใช้รถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดินทางได้ และจากสถานีเอกมัยถ้านั่งรถไปอีก 2 สถานี ก็จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ซึ่งมีห้าง  Emporium , Emquartier และในอนาคตก็จะมี Emsphere อยู่ฝั่งเดียวกับ Emporium ติดกับสวนเบญจสิริอีก ถัดจากสถานี พร้อมพงษ์ก็จะเป็นสถานี อโศก ซึ่งเป็นจุดเชื่อมกับ MRT สถานีนี้จะมีห้างใหญ่อย่าง Terminal 21 อยู่ด้วย ถัดจากอโศกข้าม นานา เพลินจิตไปก็จะเข้าสู่ชิดลม และสยาม ตามลำดับ ซึ่งความสะดวกจะอยู่ตรงที่การเดินทางเข้าเมืองอย่างสีสม-สาทร เพลินจิต-สยาม สามารถนั่ง BTS ไปได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีให้เสียเวลา

    วัสดุ โครงการให้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ทุกชิ้น การดีไซน์และคุณภาพดี  แอร์  พร้อมสุขภัณฑ์จาก TOTO มีโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติและอ่างอาบน้ำมาให้ และวัสดุมาตรฐานต่างๆได้แก่ พื้นได้ลามิเนตลายไม้หนา 12 มม. และในห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ เคาน์เตอร์ครัวกรุด้วยไม้ลามิเนตและTop หินสังเคราะห์

    การออกแบบ ทำออกมาได้ดี โดยคอนเซ็ปต์ในการออกแบบคือ “Luxury Modern Japanese” มีความเรียบง่ายอบอุ่น แต่หรูหรา โดยมีการเอารายละเอียดต่างๆสอดแทรกในพื้นที่ส่วนกลางได้ดี การวางผังห้องลงตัวและมีความเป็นส่วนตัว มีการวางผังด้วยอาคารให้หลบตึกข้างๆซึ่งทำออกมาได้ดี

    สาธารณูปโภค ให้มาเยอะเลยทีเดียว ดีไซน์สวยน่าใช้ เพียงพอต่อการใช้งานแบ่งออกเป็น 4 โซน Fine Lounge อยู่บริเวณชั้น 1 ได้แก่ Lobby, Co-working room, Private meeting room, Mail room , Waiting Area  Fine Greenery  Spring Garden และ พื้นที่สวนชั้น 23 และชั้น 27 ให้ลูกบ้านได้ออกมาใช้นั่งเล่นพักผ่อน Fine Retreat ชั้น 30 จัดเป็นโซนเปียกทั้งหมด ประกอบด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ยาว 20 เมตร , Pool Bar ล้อมรอบด้วยน้ำ + พื้นที่นั่งพักผ่อน , Sauna Room ที่สามารถชมวิวได้ , Hot Pool และ The Edge View Point จุดชมวิว และ Fine Sky ที่ชั้น 31 เป็นพื้นที่ Roof Lounge , Fitness, Golf Club, Sky Seat, Karaoke room, Kids Room ,Wine Lounge และ  Co – Kitchen

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับราคา 180,000 บาท/ตร.ม., 24 May 2018

    • ทำเล 7.25/10 – ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 12 แต่เดินทางไปย่านเอกมัย-ทองหล่อได้สะดวก 
    • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ค่อนข้างสะดวก สามารถลัดเลาะไปออกถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง
    • ไม่ใช้รถ 7.75/10 -ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้า แต่โครงการมี Shuttle Service รับส่ง เดินออกมาเรียกรถได้ง่าย
    • วัสดุ 8/10 – ได้ของดี ให้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ครบแต่ก็สอดคล้องกับราคาที่ต้องจ่ายไป
    • แบบ 8.5/10 – ออกแบบสวย น่าใช้งาน มี Concept วางผังทั้งห้องและส่วนกลางลงตัว
    • สาธารณูปโภค 9/10 – จัดมาให้เยอะ ครบครัน และมี Sky Facilities 

    • LUXURY CLASS
    • 7.77 / 10.00

    BOTTOM LINE

    The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านเอกมัย ทองหล่อ สุขุมวิท ที่ เป็นส่วนตัว ชอบสไตล์ญี่ปุ่น หรือ ไว้วางใจคุณภาพบริษัทจากญี่ปุ่น ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ครบ มี Facilities ให้ใช้เยอะ มี Sky Facilities  เดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลักและหวังพึ่งพารถไฟฟ้าอยู่บ้าง มีงบประมาณระดับ 5.5 – 19 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ  39,000 – 133,000 บาท/เดือน