รีวิวฉบับที่ 1550 … The Excel Groove เฟส 3 เปิดขายแล้ว หลังจากที่ทีมงานได้ทำงานรีวิวโครงการ The Excel Groove เฟส 1 ไปเมื่อปี 2016 ตอนเวลาได้ล่วงเลยมา 2 ปีแล้ว ตอนนี้ทั้งเฟส 1 และ เฟส 2 ได้ขายหมดแล้ว ตัวอาคารทั้งสองเฟสก็สร้างใกล้จะเสร็จแล้วผมเลยถือโอกาสพาเข้าไปดูส่วนกลางทั้ง 2 เฟส นะครับ สำหรับเฟส 3 นี้จะเป็นเฟสที่อยู่ใกล้ถนนมากที่สุด และได้ส่วนกลางแยกเหมือนเดิมและมี Shop ที่ด้านหน้าด้วย 

Fact @ 03 May 2016

  • The Excel Groove Phase 3 (ดิ เอ๊กเซล กรูฟ เฟส 3)
  • บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยลาซาล 52 ถนนลาซาล (สุขุมวิท 105) แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 232 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 17 ยูนิต ที่ชั้น 3 – 8
  • ที่จอดรถ ไม่รวมจอดซ้อนคันประมาณ 97 คัน คิดเป็น 42%
  • ที่ดินทั้งหมดประมาณ 2-1-16.3 ไร่
  • ห้องแบบ 1 Bedroom 25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
  • ห้องแบบ 1 Bedroom 27.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
  • ห้องแบบ 1 Bedroom 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.59 บาท ขายแบบ Fully Furnished
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 70,000 บาท/ตร.ม.
  • เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS แบริ่ง ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS บางนาและ BTS แบริ่ง
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 095-558-8456
  • line ID : excelcondo

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

สำหรับรีวิวทำเลและเส้นทางการเดินทางต่างๆ ผมขอยกเอารีวิวของเฟส 1 มานะครับ เพราะตัวโครงการอยู่ติดๆกัน เดี๋ยวผมจะธิบายเพิ่มเติมในส่วนของเฟส 3 อีกที

The Excel Groove_Map

ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนซอยลาซาล(สุขุมวิท 105) ในช่วงซอยลาซาล 52  ไม่ไกลจากโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนาและโรงเรียน ลาซาล ห่างจาก BTS แบริ่งประมาณ 4 กิโลเมตร และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สายอนาคต) สถานีศรีลาซาล ประมาณ 600 เมตร  จากโครงการสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักได้หลายเส้นทางทั้งถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ ถนนบางนา-ตราด และทางด่วน

The Excel Groove_แผนที่รวม

จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายโดยใช้ถนนสุขุมวิทแต่การจราจรอาจจะค่อนข้างติดขัดโดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ สามารถเลี่ยงมาใช้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งเข้าตัวเมืองได้ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที  เส้นสุขุมวิทยังสามารถใช้วิ่งไปจังหวัดสมุทรปราการหรือใช้ลัดออกเส้นศรีนครินทร์เชื่อมออกไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ชลบุรีได้

การเข้าถึงโครงการโดยใช้รถ ถ้าเดินทางมาจากในเมืองหรือจังหวัดสมุทรปราการสามารถใช้ถนนสุขุมวิท เข้าซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ขับตรงมาตามทางเรื่อยๆจนมาเจอซอยลาซาล 52 โครงการจะอยู่ข้างๆซอยนี้เลย หรือถ้ามาจากถนนศรีนครินทร์เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล)  ตรงเข้ามาซักพักก็จะถึงโครงการ ภายในซอยยังสามารถใช้ ซอยหมู่บ้านเทพนฤมิตรลัดไปยังซอยแบริ่งหรือซอยสุขุมวิท 107 และ ใช้ซอยลาซาล 55 ออกถนนบางนาได้ โดยซอยลาซาล 55 จะอยู่เยื้องๆกับเซ็นทรัลบางนาเลย เนื่องจากโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าพอสมควรดังนั้นถ้าจะเดินทางไปไหนมาไหนมีรถจะสะดวกกว่า แต่ถ้าไม่มีรถการเข้าถึงโครงการก็สามารถใช้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งที่บริเวณหน้าปากซอยแต่จะต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว หรือแท็กซี่อีกต่อหนึ่ง ซึ่งสามารถเรียกได้ง่ายเพราะโครงการอยู่ติดกับถนน และรถสาธารณะก็มีวิ่งให้บริการตลอดทั้งซอย

สำหรับทำเลนี้ความเจริญส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มกันอยู่บนถนนสุขุมวิทโดยจะเป็นตลาด Hypermarket และโรงเรียนนานาชาติ  ส่วนสถานที่ช้อปปิ้ง กินเที่ยวที่ใกล้ๆหน่อยก็จะมี อิมพีเรียล สำโรง ถัดไปบริเวณใกล้เคียงจะอยู่บนถนนบางนาคือ เซ็นทรัลบางนา, Big C, Mega บางนา โดยอีกไม่นานจะมีการลงทุนศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ บริเวณตรงข้าม ไบเทค บางนา นั่นก็คือ Bangkok mall ของกลุ่ม The mall  ซึ่งถ้าเปิดตัวจะทำให้ย่านนี้มีความคึกคักและมีสีสันขึ้นไปอีก แต่ก็ต้องทำใจแลกมากับการจราจรที่จะต้องติดขัดเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ห่างไปอีกหน่อยบนถนนศรีนครินทร์จะมีศูนย์การค้า Seacon Square และ Paradise Park เป็นศูนย์การค้าใหญ่เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการมาเดินเล่นครับ  ส่วนความอุดมสมบูรณ์ภายในซอยลาซาล (สุขุมวิท105) และซอยแบริ่ง (สุขุมวิท107) ถือว่าเป็นซอยใหญ่ที่ค่อนข้างคึกคัก ถ้าเทียบกับซอยอื่นๆในย่านนี้ มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ตลาด อยู่ทั้งซอยผลัดกันเปิดตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่าถ้าหิวตอนดึกออกมายังไงก็มีของกิน และยังใช้เป็นเส้นทางลัดออกถนนบางนา ศรีนครินทร์ เทพารักษ์ ได้ในช่วงเวลารถติดหรือถ้าไม่อยากออกถนนใหญ่

The Excel Groove_ทางด่วน

สำหรับทางด่วนบริเวณใกล้ๆโครงการมีอยู่ทั้งหมด 3 จุด คือ ทางด่วนบริเวณซอยสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการประมาณ 8.5 กิโลเมตร , ทางด่วนบางนาอยู่บริเวณ แยกบางนาห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร  และทางด่วนวงแหวน กาญจนาภิเษก อยู่บริเวณพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณห่างจากโครงการประมาณ 7.8 กิโลเมตร

The Excel Groove_รถไฟฟ้า2

หน้าปากซอยจะมีสถานีแบริ่งตั้งอยู่ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง ณ ปัจจุบัน แต่ตอนนี้ทางรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการคาดว่าในอีก 2-3 ปีจะได้เปิดใช้กัน (แต่มีข่าวเพิ่มเติมว่าอาจจะเปิดให้ใช้ส่วนของสถานีสำโรงให้ใช้กันก่อน โดยไม่ต้องรอให้ครบทั้งสาย) และในอนาคตยังมีแผนจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองโดยจะมาเชื่อมกับสถานีสำโรงของสายสีเขียวเป็นสถานี Interchange โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุด (ห่างประมาณ 600 เมตร) คือสถานีศรีลาซาล ซึ่งถ้ารถไฟฟ้าสายนี้เสร็จก็จะทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีความเจริญและอุดมสมบูรณ์มากขึ้นไปอีก

The Excel Groove_การเดินทาง

เส้นทางที่เราพาไปในวันนี้ เราจะเริ่มจากหน้าปากซอยลาซาลที่อยู่ก่อนถึง BTS แบริ่งเล็กน้อย จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยลาซาล ดูบรรยากาศทั้งสองข้างทาง ขับรถตรงไปเรื่อยๆ เลี้ยวไปตามทาง จนถึงซอยลาซาล 52 ตัวโครงการจะอยู่ข้างๆกับซอยนี้เลย

เริ่มจากซอย สุขุมวิท 105 หรือซอย ลาซาล  สถานีรถไฟฟ้าแบริ่งจะอยู่บริเวณหน้าปากซอยพอดี ฝั่งตรงข้ามของซอยเป็น APT แบริ่งมอลล์ มีอาหารและของใช้ให้ซื้อหากันได้

จุดสังเกตคือหน้าปากซอยจะมี 7 – 11 ขนาดใหญ่อยู่  ด้านหน้ามีที่จอดรถค่อนข้างกว้างสามารถมาแวะจอดซื้อของก่อนเข้าบ้านได้

เข้าซอยมาหน่อยตรงเต็นท์เขียวๆจะมีพี่วินประจำอยู่ จากหน้าปากซอยเข้าไปโครงการประมาณ 30 บาท

ในซอยลาซาลจะมี CenterPoint Entertainment ที่เป็นศูนย์ประชุม และ ห้องแสดงคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ รายการเพลงชื่อดังอย่าง The Voice Thailand ก็มาจัดรายการที่นี่ ถนนของช่วงต้นซอยจะเป็นถนน 2 เลน

ขับมาเรื่อยๆเราจะเจอสำนักงานขายของ Excel Hybrid โครงการใกล้เคียงในซอยแบริ่ง ซึ่งสำนักขายนี้ก็จะเป็นจุดหลักที่ขายคอนโด Excel ทุกตัวในละแวกนี้ แต่สำนักงานขายของโครงการ The Excel Groove นี้จะอยู่ที่ที่ตั้งโครงการบริเวณซอยลาซาล 52 ค่ะ

ขับมาเรื่อยๆจะเจอโครงการศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท ที่ตอนนี้สร้างไปได้พอสมควร

ช่วงกลางๆซอยจะมีเต็นท์ขายอาหาร ที่รอบๆจะเป็นอพาร์ทเม้นท์และอาคารพาณิชย์ บริเวณช่วงนี้ของซอยลาซาลจะมีผู้อยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น

ตรงมาตามทางจนถึงทางแยกให้เราเลี้ยวซ้าย

จากนั้นตรงมาเรื่อยๆมาเลี้ยวขวาอีกทีหนึ่งตรงแยกนี้ ตรงช่วงนี้การจราจรจะค่อนข้างหนาแน่นเล็กน้อย

พอเลี้ยวเข้ามาถนนภายในซอยจะกลายเป็นถนน 6 เลนซึ่งทำให้บรรยากาศของซอยดูโล่งขึ้น และการจราจรตรงช่วงนี้ก็จะติดขัดน้อยลงด้วยค่ะ

ถัดเข้ามาประมาณกลางซอย หรือนั่งมอเตอร์ไซค์จากโครงการมา 20 บาท จะเจอตลาดลาซาลเป็นตลาดเช้าเปิดขายตั้งแต่ช่วงเช้าถึงประมาณ บ่าย 2 ฝั่งตรงข้ามเป็น 7 – 11

ถัดมาเป็นตลาดดวงพลอย ตลาดโต้รุ่งเปิดตั้งแต่ประมาณ บ่าย 4 จนถึงประมาณ 4-5 ทุ่มและมีบางร้านอยู่จนเช้าโต้รุ่ง  บริเวณช่วงนี้ก็มีคนออกมาจับจ่ายใช้สอย บรรยากาศค่อนข้างคึกคักมีร้านอาหาร ร้านค้าทั้งสองฟากของถนน ฝั่งตรงข้ามตลาดดวงพลอยก็มี 7-11

ตรงเข้ามาอีกก็จะเจอโรงเรียนบางกอกพัฒนา บริเวณนี้ช่วงเช้าเย็นรถค่อนข้างมากพอสมควร เพราะผู้ปกครองมารอรับลูกๆกัน

ตรงมาอีกพอประมาณจะเจอกับแยกนี้ เลี้ยวขวาไปจะเป็นซอย หมู่บ้านเทพนฤมิตร ลัดไปซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งได้  ถ้าตรงไปเรื่อยๆจะไปออกถนนศรีนครินทร์

ถัดมาอีกก็จะเจอโรงเรียน ลาซาล โรงเรียนชื่อดังในย่านนี้ค่ะ

สุดท้ายขอย้อนพามาดูซอยลัดอีก 1 ซอยคือซอยลาซาล 55 ใช้ลัดออกไปถนนบางนา ซึ่งซอยจะเยื้องๆกับเซ็นทรัลบางนาพอดี

ตรงมาอีกนิดก็จะเจอกับสำนักงานขาย โดยโครงการจะตั้งอยู่ข้างๆกับซอย ลาซาล 52 พอดี

ตอนนี้สำนักงานขายได้กลายเป็นพื้นที่ก่อสร้างของ The Excel Groove เฟส 3 ไปหมดแล้วซึ่งดานหน้าโครงการจะมีส่วนที่เป็น Shop ติดรอมถนนตลอดทั้งแนวและมี 7Eleven มาเปิดด้วย

การวางร้านค้าไว้ด้านหน้าของโครงการช่วยให้ลูกบ้านมีความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยมากขึ้น และยังมีความปลอดภัยเพราะคนที่มาซื้อของก็ไม่ต้องเดินเข้าไปวุ่นวายกับส่วน Residence

The Excel Groove_สภาพแวดล้อม2**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

สำหรับ The Excel Groove เฟส 3 จะเป็นเฟสสุดท้ายที่อยู่ด้านหน้าสุด ซึ่งจะติดกับตัวถนนสุขุวิท 105 เลย มีระยะเดินที่สั้นกว่าโครงการอื่นๆ แต่ทางทางเข้าโครงการยังคงอยู่ด้านข้างนะ อยู่ในซอยที่เป็นทางเข้า/ออกที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 เฟส ส่วนร้านค้าหน้าโครงการตอนนี้โครงการติดป้ายไว้ว่าจะมี 7Eleven มาเปิด ซึ่งช่วยให้ลูกบ้านมีความสะดวกในการใช้ชีวิตมากขึ้นเยอะเลยครับ

  • ทิศเหนือ – ติดกับถนนซอย สุขุมวิท 105 หรือ ซอย ลาซาล ฝั่งตรงข้ามเป็นแนวอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น
  • ทิศตะวันออก – ด้านหน้าฝั่งติดถนนติดกับอาคารพาณิชย์ 4 – 5 ชั้น
  • ทิศใต้ – Excel Groove เฟส 2
  • ทิศตะวันตก – ติดกับซอย ลาซาล 52 ซึ่งมีกลุ่มบ้านพักอาศัย 1 -2 ชั้นอยู่ตลอดแนว

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงเรียนลาซาล ~ 400 เมตร
  • โรงเรียนบางกอกพัฒนา ~ 1.44 กิโลเมตร
  • ตลาดดวงพลอย ~ 1.84 กิโลเมตร
  • ตลาดลาซาล ~ 2 กิโลเมตร
  • Big C และ Major Cineplex ~ 2.4 กิโลเมตร
  • CenterPoint Entertainment ~ 3.8 กิโลเมตร
  • BITEC บางนา ~ 4  กิโลเมตร
  • Central บางนา ~ 4.5 กิโลเมตร
  • Paradise Park ~ 4.5 กิโลเมตร
  • Seacon square ~ 5.2 กิโลเมตร
  • อิมพีเรียลสำโรง ~ 6.3 กิโลเมตร
  • Mega บางนา ~ 7.6 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

ลักษณะตัวอาคารของเฟส 3 นะ้นมีจุดเด่นอยู่ที่เป็นเฟสที่ใกล้ถนนใหญ่มากที่สุดและมีร้านค้าที่หน้าโครงการ สำหรับลักษณะตัวอาคารจะเน้นโทนสีเข้มตัดกับสีส้มซึ่งเป็น Concept ในการออกแบบทั้ง 3 เฟส

ทางเข้า/ออกหลักของโครงการจะอยู่ที่ซอยด้านข้างที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 เฟส

ส่วนกลางของเฟสนี้มีแยกมาให้เหมือนกับเฟส 1 และ 2 ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องไปใช้งานร่วมกน สระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร E

จากผัง Master Plan ของโครงการจะเห็นว่ามีร้านค้าอยู่ด้านหน้าโครงการ โดยที่บุคคลภายนอกสามารถมาซื้อของจาก Shop ได้โดยที่ไม่ต้องเดินเข้ามาในส่วนของที่พักอาศัย ถือเป็นข้อดีมากๆสำหรับลูกบ้านของเฟสนี้ สำหรับ The Excel Groove เฟส 3 จะมีอยู่ 2 อาคารเป็นรูปทรงตัว L การวางผังอาคารของทั้ง 2 อาคารจะโอบล้อมส่วนกลางไว อาคาร D อยู่ด้านซ้ายมือติดกับ Shop อาคาร E อยู่ด้านขวามือติดกับพื้นที่ส่วนกลาง

 

 

 

ผังอาคารชั้น 2 ชั้นนี้จะมีพื้นที่บางส่วนยังเป็นพื้นที่ของ Shop แต่ไม่มีการเชื่อมต่อถึงกันนะ ใครอยู่ชั้นนี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยครับ ถ้ากลัวมีเสียงรบกวนก็เลือกห้องที่ห่างจากโซนร้านค้าหน่อยก็ได้ครับ

ผังอาคารชั้น 3 – 8 จะมีลักษณะเหมือนกันคือเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 17 ยูนิต/ชั้น ถือว่าไม่เยอะนะ โดยห้องพักส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 25 และ 27.5 ตร.ม. มีลิฟต์มาให้ 2 ตัว  อัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 56.5 : 1 ถือว่าหนาแน่นน้อยนะครับ

มาดูที่อาคาร E กันต่อ ผังชั้น 2 อาคารนี้จะมีทางเดินเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสระว่ายน้ำและห้อง Fitness ถ้าใครรู้ตัวว่าชอบออกกำลังกายให้เลือกเฟสนี้เลยครับเวลาใช้งานจะสะดวกกว่าอาคาร D จำนวนยูนิตต่อชั้นของอาคารนี้จะเท่าๆกับอาคาร D อยู่ที่ 17 ยูนิตครับ

สำหรับผังชั้น 3 – 8 ของาคาร D ยังคงมีห้องพัก 17 ยูนิตเหมือนเดิม ทำให้ได้อัตราส่วนลิฟต์ที่ดี มีความหนาแน่นน้อย ส่วนวิวที่ได้จะมีให้เลือกวิวด้านในที่เป็นส่วนกลางกับวิวด้านนอก

ตอนนี้ภายในโครงการทั้ง 3 เฟสอยู่ในระยะหว่างการก่อสร้างทั้งหมด แต่เฟส 1 นี่เรียกว่าสร้างเกือบจะเสร็จ 100% แล้วเหลือขั้นตอนการเก็บงานอีกนิดหน่อย ส่วนเฟส 2 ก็สร้างตามกันมาติดๆ ใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน ทำให้รูปในรีวิวนี้จะเห็นการก่อสร้างและช่างเดินไปเดินมาอยู่นะครับ อย่าได้ตกใจไป

ถนนทางเข้าโครงการทั้ง 3 เฟส ตอนนี้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ละเฟสจะแยกทางเข้าออกกันอย่างชัดเจน ในรูปด้านตึกซ้ายมือจะเป็นการก่อสร้างของเฟส 3  และเฟส 2 จะอยู่ถัดไป ส่วนเฟส 1 อยู่ด้านในสุดครับ

เดินเข้ามาถึงช่วงกลางๆ ซอยจะเป็นเฟส 2 ที่ตอนนี้สร้างใกล้เสร็จแล้วเดี๋ยวเราเข้าไปดูส่วนกลากันหน่อยนะครับ จะได้พอเห็นภาพว่าถ้าเฟส 3 สร้างเสร็จจะเป็นประมาณไหน

ทางเข้าโครงการของจริงมีไม้กระกดกั้นและ Key card Access นะแต่ตอนนี้ยังไม่ได้มาติดตั้ง

สระว่ายน้ำของเฟส 2 จะอยู่ที่ช้น 1 และยกสูงจากพื้นขึ้นมาหน่อย ตัวสระเป็นแบบสระน้ำล้น

ริมสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่นั่งพักผ่อนอยู่ด้วยซึ่งตรงนี้จะได้ร่มเงาจากตัวอาคารทั้ง 2 ด้านมาช่วยให้พื้นที่สระไม่ร้อน

ริมสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่สวนพร้อมที่นั่งพักผ่อน

จากสวนจะมองเห็นตัวพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 2 เป็นห้องออกกำลังกาย และชั้น 3 เป็นห้องสมุด

ห้องออกกกำลังดายที่ให้มาถือว่าให้มาใหญ่เหมือนกันนะ วางเครื่องเล่นได้หลายเครื่องและมีพื้นที่ไว้เล่นโยคะได้อีกด้วย

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ Co-Working Space ที่จัดชุดที่นั่งมาได้ดีนะครับ มีหลากหลายแบบให้เลือก

 

 

ไม่ว่าจะเป็นแบบเอาไว้นั่งเล่นมือถือคุยกับเเพื่อน 2 คน

หรือจะนัดเพื่อนมานั่งเม้าท์กันเป็นหมู่คณะก็ทำได้

หรืออยากจะนั่งคุยกัน ทำงานกลุ่มก็มีโต๊ะที่ใหญ่ขึ้นให้เลือกนะ

ถ้าเพื่อนมาคุยงานกันมากกว่า 6 คนก็มาใช้โต๊ะนี้ประชุมกันได้เลยนะ

บนโต๊ะจะมีวางงเครื่องเขียนและมีของตกแต่งติดมาให้ด้วย ดูน่าใช้งานดี

มีเคาน์เตอร์บาร์เอาไว้วาง Notebook นั่งทำงานเพลินๆ

จบจากส่วนกลางของเฟส 2 แล้วเราเดินมาดูเฟส 1 ที่อยู่ด้านในกันต่อดีกว่า

เฟส 1 ดูจะสร้างเสร็จเรียบร้อยดีแล้วนะ เดี๋ยวเราเข้าไปดูส่วนกลางกันซะหน่อย

ถ่ายรูปหน้าตาตัวตึกมาให้ดูว่าทำออกมาดูดีเหมือนกันนะ มีแนวกำแพงยื่นออกมาช่วยบังแสงแดดได้เหมือนกัน

เข้ามาดูใน Lobby ส่วนกลางกันครับ เฟส 1 สร้างเสร็จแล้วทำออกมาดูดีเหมือนกันนะถึงแม้ฝ้าเพดานจะดูเตี้ยไปหน่อยแต่ก็ตกแต่งเป็นแนว Loft โชว์งานระบบช่วยให้ดูดีขึ้นเยอะเลย

เคาน์เตอร์ตรงโถง Lobby ทำออกมาดูดีนะสำหรับคอนโดระดับราคา

เดินทะลุจาก Lobby มาที่สระว่ายน้ำและอาคาร Clubhouse สำหรับเฟส 1 ถึงแม้สระว่ายน้ำจะอยู่ติดถนนด้านหน้าแต่ก็มีการลงไม้พุ่มเอาไว้บังสายตาจากด้านนอกได้ดีนะ ตัวอาคาร Clubhouse ยกสูงขึ้นจากพื้ั้น 1 เป็น Co-working Space และชั้น 2 เป็นพื้นที่ห้อง Fitness

ที่ปลายสระว่ายน้ำจะมีที่นั่งพักผ่อนแบบ Day bed มาให้นั่งเล่นน้ำชิวๆนะ

มุมจากที่นั่งเล่นหันกลับไปทางตัวอาคาร ซึ่งไม่ได้ตรงกับห้องพักของเฟส 1

เดี๋ยวเราเข้าไปดูบรรยากาศภายในอาคาร Clubhouse กันดีกว่า

ชั้นล่างจะตกแต่งในโทนสีดำขาวมีการวางโต๊ะประชุมและชุดโซฟามาให้นั่งเล่น

วิวจากห้องนี้จะได้เป็นวิวสระว่ายน้ำนะครับ

เดี๋ยวเราขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อ ประตูด้านหลังที่เห็นเป็นทางไปห้องน้ำได้

บริเวณโถงบันไดมีการตกแต่งเพิ่มเติม ถือว่าช่วยสร้างบรรยากาศให้ส่วนกลางน่าใช้งานดีนะครับ

สำหรับพื้นที่ห้อง Fitness ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีนะมีพื้นที่ให้วางเครื่องเล่นได้เยอะ และแต่ละเครื่องก็ไม่ได้วางติดกันมาก

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด n/a เมตร ลึก n/a เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • ห้อง Library
  • สวนหย่อมบริเวณ Court ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 58 : 1
  • Service Lift : ไม่มี
  • ที่จอดรถ ไม่รวมจอดซ้อนคันประมาณ 97 คัน คิดเป็น 42%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

ก่อนหน้านี้เรารีวิวห้องตัวอย่างไป 2 แบบแล้ว เหลือแบบสุดท้ายที่เรายังไม่ได้รีวิวก็คือแบบ 1 ห้องนอน 27.5 ตร.ม. ซึ่งห้องนี้มีสิ่งที่แตกต่างจากแบบ 25 ตร.ม. ก็คือพื้นที่นั่งรับประทานอาหารช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น และพื้นที่ในห้องครัวที่ได้มากขึ้นสามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่กว่าเดิมได้ ครัวเป็นครัวปิดช่วยให้กลิ่นอาหารไม่ไปรบกวนในห้องนั่งเล่นมากนัก ตัวห้องจะออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานสำหรับอยู่อาศัยกัน 1 – 2 คน

โดยเฟอร์นิเจอร์ที่แถมให้ในห้องนี้คือ ตู้วางทีวี + ตู้แขวน , โซฟา , เคาน์เตอร์ครัวไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า + อ่างล้างจาน , โต๊ะทานข้าว , เก้าอี้ , ฉากกั้นอาบน้ำ , เตียง 5 ฟุตไม่รวมฟูก , ตู้เสื้อผ้า , โต๊ะเครื่องแป้ง , แอร์ 1 ตัว

สำหรับห้องตัวอย่างในครั้งนี้ที่ผมพามาดูเป็นห้องตัวอย่างที่อยู่ในเฟส 2 นะครับ บานประตูห้องนี้เป็นประตูลามิเนตลายไม้

กลอนประตูได้แบบ Digital Door Lock แบบใช้คีย์การ์ดและใช้รหัสผ่าน

พื้นห้องพักอาศัยของที่นี่เค้ายกสูงขึ้นมาจากพื้นของโถงทางเดินนะ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับลูกบ้านเพราะฝุ่นหรือแมลงจะเข้าห้องได้ยากกว่า

เข้ามาในห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่โต๊ะกินข้าวด้านซ้ายมือและถัดไปเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกัน

หันกลับมาถ่ายไปทางหน้าห้องให้ดูระยะทีวีของห้องนี้จะกว้างอยู่นะ ประมาณ 2.5 เมตรสามารถวางทีวี 55″ ได้เลย

สำหรับขนาดของโซฟาและชุดโต๊ะกินข้าวจะได้มาตามในรูปนี้เลย ซึ่งเป็นระยะที่พอดีกับขนาดห้องแล้วหละ ถ้าใหญ่กว่านี้ระยะเก้าอี้จะนั่งลำบาก

ส่วนชั้นวางทีวีจะได้ทั้งตู้ชุดล่างและชุดบน

พื้นที่ห้องนอนจะถูกแบ่งด้วยบานเลื่อนฉากกระจกกั้นแบบ 3 ตอน พอบานเลื่อนเป็นกระจกห้องนั่งเล่นจะได้รับแสงธรรมชาติเยอะขึ้น

ในห้องนอนจะแถมเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ โดยวางแล้วจะมีระยะเหลือรอบเตียงกำลังดี

ช่องแสงที่ได้จะเป็นหน้าต่างบานใหญ่มีชุดล่างเป็นบาน Fix ที่ช่วยเพิ่มแสงให้กับห้องนอนแต่ยังปลอดภัยอยู่ ส่วนชุดบนเป็นบานเลื่อนสลับ

บริเวณปลายเตียงจะมีตู้เสื้อผ้าแถมมาให้แบบ 3 บานเปิด ถ้าอยู่กัน 2 คงอาจจะไม่พอนะ แต่ถ้าคนเดียวก็ถือว่า ok อยู่นะ

ด้านข้างของตู้เสื้อผ้าจะได้โต๊ะเครื่องแป้งมาด้วยแต่ไม่มีเก้าอี้มาให้นะ

ส่วนครัวของห้องนี้จะได้เป็นครัวผิด ซึ่งมีข้อดตรงที่กลิ่นอาหารเวลาทำครัวจะไม่ไปฟุ้งกระจายอยู่ในห้องนั่งเล่น กลิ่นอาหารจะได้ไม่ติดโซฟา

มาดูในส่วนของห้องครัวกันต่อนะครับ ห้องนี้มีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องแบบ 25 ตร.ม.อย่างเห็นได้ชัด

เคาน์เตอร์ครัวที่แถมมาให้จะได้ทั้งชุดล่างและบน Top เคาน์เตอร์เป็นลามิเนตแบบกันน้ำ

พื้นที่วางตู้เย็นมีใหญ่พอที่สามารถขยายขนาดตู้เย็นได้สบายๆเลย

ทางออกไประเบียงจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกที่ช่วยเรื่องแสงสว่างและระบายความชื้นออกจากห้องครัว

พื้นที่ระเบียงถือว่าให้มากว้างกำลังดีนะสามารถวางราวตากผ้าได้แล้วยังพอมีที่ให้ยืนนะ

ส่วนแอร์ที่แถมมาให้จะเป่าลมร้อนหันเข้าด้านในระเบียงถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ซื้อกริบเบี่ยงทิศทางลมมาติดเพิ่มนะครับ จะได้ใช้งานระเบียงได้ดีขึ้นไม่ร้อน เว้นเสียแต่ว่าใครอยากให้ผ้าแห้งเร็วๆก็ไม่ต้องติดครับ ;p

เข้ามาดูในห้องน้ำกันต่อ ภายในห้องน้ำจะได้ฟังก์ชันการใช้งานครบ มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย แต่พื้นที่ตรงโถสุขภัณฑ์จะเล็กไปหน่อยตัวโถสุขภัณฑ์ได้ของ American Standard นะครับ และที่แขวนกระดาษทิชชู่ ดูเหมือนจะอยู่ไกลไปนิดและใช้งานลำบากหน่อย แต่ผมก็ลองนั่งดูแล้วถ้าก้มตัวเอาศอกวางบนเข่าก็หยิบได้นะ ที่ต้องติดแบบนี้เพราะพื้นที่นั่งรอบๆโถสุขภัณฑ์มีพื้นที่จำกัดครับ

ตู้ใต้อ่างได้เป็นแบบลิ้นชัก สามารถเก็บผ้าเช็ดหน้า เก็บข้าวของเพิ่มได้

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีฉากกระจกกั้นมาให้ด้วยและมีธรณีกระเบื้อง ช่วยเวลาอาบน้ำ น้ำจะได้ไม่เลอะเทอะออกมา แต่ประตูดันเปิดออกซะงั้น เวลาเปิดออกมาน้ำจะเลอะส่วนแห้งหน่อยนะ

ที่ผนังติดตั้งชุดฝักบัวของ American Standard มาให้  มีที่วางสบู่มาให้ด้วย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12 March 2018

 

  • 1 Bedroom ชั้น 4 แบบ A เนื้อที่ 25 ตร.ม. ราคา 1,637,450 บาท  หรือประมาณ 65,498 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 5 แบบ A เนื้อที่ 25 ตร.ม. ราคา 1,661,700 บาท  หรือประมาณ 66,468 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 7 แบบ C เนื้อที่ 30 ตร.ม. ราคา 2,185,500 บาท  หรือประมาณ 72,850 บาท/ตร.ม.

 

  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink 
  • จอง 2,500 บาท
  • ทำสัญญา 2,500 บาท
  • ค่ากองทุน 600 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

บทสรุปผมขอนำบางส่วนมาจากเฟสแรกที่ทำรีวิวไปแล้วนะครับ เพราะเป็นรีวิวฉบับย่อนี้เป็นการ Update การก่อสร้างและห้องตัวอย่างเหมือนกับแบบเฟสแรกเลย

โครงการ The Excel Groove 3 ตั้งอยู่ในทำเลช่วงลาซาล-แบริ่ง ด้านข้างซอยลาซาล 52 โดยเฟสนี้จะอยู่ใกล้ถนนหน้าโครงการมากที่สุดสามาถรถเดินเข้าจากถนนใหญ่ได้ไม่ยาก มีระยะห่างจากรถไฟฟ้า BTS แบริ่งประมาณ 5 กิโลเมตร แต่ถ้าเข้าจากทางถนนศรีนครินทร์จะเข้ามาประมาณ 600 เมตร ซึ่งไม่ใช่ระยะเดิน คงต้องอาศัยการขับรถยนต์ นั่งพี่วิน สภาพแวดล้อมในซอยค่อนข้างคึกคักเนื่องจากมีทางลัดเชื่อมกับถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ทำให้มีรถผ่านตลอดเวลา และแน่นอนว่าเมื่อเป็นซอยทางผ่านที่มีปริมาณรถหนาแน่น ความอุดมสมบูรณ์ก็มาตามปริมาณรถ สองข้างทางของซอยลาซาลมีของกินของใช้หลากหลาย ทั้งร้านสะดวกซื้ออย่าง 7Eleven, Family Mart, ตลาด, ร้านขายยา และร้านอาหารหลากหลาย สภาพแวดล้อมโดยรอบๆส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ 2-4 ชั้น อพาร์ทเม้นท์ ที่ดินเปล่า และมีบ้านพักอาศัยบ้างประปราย

การเดินทางโดยใช้รถ เดินทางสะดวกมาก ทางเลี่ยงทางลัดเยอะ สามารถเลือกใช้ได้หลายเส้นทาง เวลาเส้นทางหลักติดมากๆ มีทางด่วนให้ใช้เป็นหลักก็คงเป็นด่านบางนา น่าเสียดายที่แม้จะสะดวกต่อการใช้รถมาก แต่เค้าจัดที่จอดรถรวมซ้อนคันแล้วได้มาที่ 42% ซึ่งถ้าเกิดกลุ่มลูกบ้านมีรถยนต์ส่วนตัวกันเยอะ อาจจะมีปัญหาหากบริหารจัดการเรื่องที่จอดรถกันไม่ดี

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้ถนนใหญ่จึงสามารถเดินมาเรียกรถได้ง่าย โดยเฟสที่เปิดขายจะเป็นเฟสสุดท้ายของโครงการซึ่งอยู่ด้านหน้าสุดมีระยะเดินใกล้สุด ตัวซอยลาซาลนั้นมีการสัญจรพลุกพล่าน จึงสามารถหา Taxi ได้เรื่อยๆ และมีพี่วินให้เรียกใช้มากมาย ภายในซอยลาซาลมีรถสองแถววิ่งตลอดเส้นตั้งแต่ฝั่งสุขุมวิทไปจนถึงถนนศรีนครินทร์เลยครับ เดินทางได้ไม่ยาก

วัสดุที่ให้มาถือว่าให้ตามมาตรฐานค่อนข้างไปทางเยอะสำหรับคอนโดราคานี้ โครงการขายแบบ fully furnished ค่อนข้างจัดเต็มแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย เฟอร์นิเจอร์ที่แถมให้มีดีไซน์และวัสดุเหมาะกับระดับราคา ทั้งตู้วางทีวี-ตู้ใส่ของแบบลอยตัว, โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว, เตียง 5 ฟุตไม่รวมฟูก, ตู้เสื้อผ้าแบบเลื่อนเปิด-ปิดได้, ชุดครัว Built-in ที่ให้ซิ้งค์ล้างจานมาให้ , พื้นเป็นลามิเนตลายไม้ และสุขภัณฑ์ส่วนใหญ่ให้ของ American Standard

การออกแบบถือว่า ทำออกมาค่อนข้างดี ตัวอาคารมีการเล่นระดับของผนังให้ยืดหดดูมีมิติ การวางผังของอาคารวางตัวอาคารเป็นแบบตัว L เข้าหากันทำให้เกิด Court ตรงกลาง การออกแบบ Facilities หลักๆของโครงการไว้ที่ชั้น 2 ช่วยให้การใช้งานดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะไม่ได้อยู่ระดับความสูงเดียวกันกับพื้นถนน ห้องพักมีให้เลือกแค่แบบ  1 ห้องนอน ขนาด 25 – 30 ตร.ม. ซึ่งคิดว่าน่าจะทำมาเพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นนักเรียน หรือ คนวัยทำงาน การวางพื้นที่ใช้สอยภายในห้องดูเป็นสัดส่วนดี

สาธารณูปโภคมีให้ทั้ง Lobby , สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส และ พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน Library และมีร้านสะดวกซื้ออยู่หน้าโครงการ  ลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัวอัตราส่วนต่อลิฟต์น้อยถือว่ามีความหนาแน่นต่ำ แต่ไม่มี Service Lift มีบันไดหนีไฟ 2 จุด ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานทั่วๆไป ถือว่ามีมาให้ครบสำหรับครบและน่าใช้งานสำหรับคอนโดระดับราคานี้

 

Judgement

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลอยู่ในย่านชุมชนแหล่งงาน และพักอาศัย มีอาหารการกินในซอยและพื้นที่ใกล้ๆสะดวก
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – อยู่ใกล้ถนนศรีนครินทร์ไปสุขุมวิทง่าย
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีวินรถแดงรับส่งถึงต้นซอยฝั่งสุขุมวิท (BTS แบริ่ง) ตลอดเวลา, Taxi ผ่านบ่อย
  • วัสดุ 7.75/10 – Fully Furnish ให้มาครบแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย
  • แบบ 7.75/10 – ตัวอาคารออกแบบมาน่าใช้งาน และฟังก์ชันห้องใช้งานได้ดี
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบสำหรับคอนโด Low Rise ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 2 มีความเป็นส่วนตัว

  • ECONOMY CLASS
  • 7.61 / 10.00

 

BOTTOM LINE

The Excel Groove 3 เป็นโครงการที่เหมาะกับคนมองหาที่อยู่ในซอยย่านลาซาล-แบริ่ง-บางนา แบบไม่เกิน 2 ล้าน ใช้ชีวิต ทำงาน เรียน อยู่ในละแวกนี้ ยอมขยับเข้ามาอยู่ในซอยเพื่อให้ได้ห้องราคาหยิบจับง่ายขึ้น แต่ยังเป็นระยะที่เดินออกมาเรียกมอเตอร์ไซค์หรือนั่งสองแถวไปปากซอยต่อ BTS ได้ไม่ลำบากนัก มี Facility ส่วนกลางให้ใช้งานได้ ชอบงานดีไซน์แบบทันสมัย มีงบประมาณล้านต้นๆ

 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )