ปกThe connect

รีวิวฉบับที่ 919 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ The Connect หลักสี่-ดอนเมือง ซึ่งตั้งอยู่ในซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 ถนนช่างอากาศอุทิศ สามารถเข้าออกได้ทั้งจากทางถนนวิภาวดีรังสิต ถนนสรงประภาและถนนแจ้งวัฒนะ อยู่ใกล้กับท่าอากาศยานดอนเมือง สถานีรถไฟดอนเมือง รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ที่กำลังก่อสร้างอยู่ด้วย ตัวโครงการเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นและบ้านแฝด ซึ่งตัวบ้านแฝดจะเป็นโครงการในอนาคต เราจึงจะพาไปดูทาวน์โฮมกันก่อน ซึ่งมีทั้งหมด 2 แบบ คือแบบ 1 ที่จอดรถและแบบ 2 ที่จอดรถ หน้าตาของโครงการจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูพร้อมๆกันเลยค่าา 

Fact @ 10 Sep 2015

  • The Connect Luksi-Donmuang (เดอะ คอนเนค หลักสี่-ดอนเมือง)
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
  • เนื้อที่โครงการ 59-3-87 ไร่
  • ทาวน์โฮม 353 ยูนิต และ บ้านแฝด 142 ยูนิต(โครงการในอนาคต) รวม 495 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร และบ้านแฝด
  • แบบ HC 1 : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดิน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 100 ตร.ม.3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว จอดรถ 1 คัน
  • แบบ HC 2 : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดิน 20.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 119 ตร.ม.3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว จอดรถ 2 คัน
  • บ้านแฝด : โครงการในอนาคต
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 18 และ 20.9 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 2.55 ล้านบาทหรือ 141,666 บาท/ตร.วา
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2558
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ เดือนตุลาคม 2560
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • Call Center : 1739

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.917734, 100.586514

Map_CN37__1145x491

โครงการ The Connect หลักสี่-ดอนเมือง ตั้งอยู่บนซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 ขวามือของโครงการจะเป็นถนนวิภาวดีและถนนกำแพงเพชร 6 ที่เป็นถนนโลคัลโรดวิ่งขนานกันไป ด้านซ้ายมือจะเป็นถนนเลียบคลองประปา และมี ถนนสรงประภา เป็นตัวเชื่อมถนนหลักทั้ง 2 สาย ส่วนถนนซอยย่อยในการเข้าโครงการ สามารถมาได้ทั้งจากถนนช่างอากาศอุทิศ, ถนนประชาอุทิศ และถนนวัดเวฬุวนารารามค่ะ ซึ่งในแผนที่จากทางโครงการจะเห็นว่า โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงบางซื่อ(กำลังก่อสร้าง),สถานีรถไฟ และท่าอากาศยานดอนเมือง

Map The connect สถานที่psd

ทำเลของโครงการ The Connect หลักสี่-ดอนเมือง เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในแหล่งที่พักอาศัยที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ หากจะโฟกัสที่ตัวซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 เองแล้ว เป็นซอยที่ไม่ค่อยมีความพิเศษอะไร เข้า-ออก ได้ทางเดียวเพราะเป็นซอยตัน และเนื่องจากเป็นเขตชุมชนที่หนาแน้นจึงทำให้มีขโมยขโจนให้ต้องระวังอยู่บ้าง บรรยากาศในซอยจะค่อนข้างเงียบสงบ แต่พอออกมาทางถนนช่างอากาศอุทิศแล้วก็จะคึกคักขึ้นมาทันที และรถติดมากด้วย โดยบนถนนเส้นนี้จะมีทั้ง Lotus Express, โรงพยาบาลสัตว์, คลีนิค, โรงเรียน, ร้านอาหาร รวมทั้งตลาดใหม่ดอนเมืองที่อยู่ใกล้ๆสำนักงานเขตดอนเมือง ให้มาจับจ่ายใช้สอยซื้อของกินกันได้ ห่างออกไปหน่อยบนถนนแจ้งวัฒนะจะค่อนข้างเจริญ มีห้างสรรพสินค้าให้เลือกไปช็อปปิ้งอย่างหลากหลาย ทั้ง IT Square, Big C, The Avenue, Tesco Lotus, Makro, Central แจ้งวัฒนะ และยังไม่ไกลจาก Impact เมืองทองธานี ที่มักจะมีการจัดงานแฟร์ใหญ่ๆอยู่บ่อยๆ เลยขึ้นไปบนถนนสรงประภาก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย และกองพันทหารที่ค่อนข้างใหญ่

หากไปทางฝั่งถนนวิภาวดี ฝั่งตรงข้ามจะเป็นท่าอากาศยานดอนเมือง ที่ส่วนใหญ่เพื่อนบ้านเราก็มักจะเป็นคนที่ทำงานอยู่ในสนามบิน หรือข้างเคียงนี่แหละค่ะ ดังนั้นหากเราทำงานอยู่แถวนี้ หรือเป็นคนที่ทำงานแล้วต้องเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศบ่อยๆ ทำเลนี้ก็เป็นทำเลหนึ่งที่น่าสนใจ

Map The connect

การเดินทางด้วยรถยนต์ ตัวโครงการตั้งอยู่ฝนซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 ซึ่งเป็นซอยตัน สามารถเข้าได้ทางเดียว คือจากถนนช่างอากาศอุทิศ เลี้ยวเข้าซอยช่างอากาศอุทิศ 10 เลี้ยวซ้าย และเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อเข้าสู่ถนนนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 โดยการเดินทางมาที่ถนนช่างอากาศอุทิศเพื่อมาโครงการ สามารถเข้า-ออก หลักๆได้จาก

จากถนนสรงประภา สามารถเข้าทางถนนประชาอุทิศ ตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนช่างอากาศอุทิศเพื่อมาโครงการได้ หรือเข้าทางถนนเวฬุวนาราม แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนโกสุมร่วมใจ เลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าถนนประชาอุทิศ  แล้วก็จะสามารถมาทะลุถนนช่างอากาศอุทิศเพื่อมาโครงการได้ค่ะ

จากถนนวิภาวดี สามารถเลี้ยวเข้าถนนกำแพงเพชร 6 หรือถนนโรคัลโรด  แล้วเบี่ยงซ้ายเข้าถนนเชิดวุฒากาศ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนช่างอากาศอุทิศได้ ค่ะ

ส่วนถ้าจะมาจากถนนแจ้งวัฒนะ ก็ให้เลี้ยวตรง IT Square เข้าถนนกำแพงเพชร 6 แล้วเบี่ยงซ้ายเข้าถนนเชิดวุฒากาศ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนช่างอากาศอุทิศได้ ก็เป็นเส้นทางที่สะดวกค่ะ

ส่วนถ้ามาจากถนนเลียบคลองประปา ก็สามารถเลือกได้ว่าจะเข้าทางถนนสรงประภา หรือถนนแจ้งวัฒนะก็ได้ค่ะ ตอนเย็นๆรถติดพอกัน เพียงแต่ถ้ามาจากถนนสรงประภา จะสามารถเลี้ยวเข้าถนนวัดเวฬุวนารามหรือซอยประชาอุทิศ เพื่อเลี่ยงรถติดได้

ส่วนถ้าใครต้องการไปขึ้นทางด่วน ก็สามารถเลือกไปขึ้น-ลง ได้ 2 ทาง คือตรงทางด่วนตรงศรีสมาน ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 6.9 กิโลเมตร และทางด่วนตรงแจ้งวัฒนะ ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 9 กิโลเมตร

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ หากจะออกจากโครงการก็ค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะต้องออกไปขึ้นรถสองแถว รถแท๊กซี่ หรือพี่วิน ที่ถนนช่างอากาศอุทิศ ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร ส่วนใครอยากจะไปขึ้นรถประจำทางก็ต้องไปขึ้นบนถนนวิภาวดีรังสิต มีวิ่งผ่านหลายสายเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ- รังสิต เป็นโครงการรถไฟฟ้าสายอนาคตที่กำลังก่อสร้างอยู่บนถนนกำแพงเพชร 6 รวมทั้งทางรถไฟที่อยู่คู่ขนานกับรถไฟฟ้า สามารถไปขึ้นได้ตรงสถานีรถไฟดอนเมือง หรือหากใครเดินทางด้วยสายการบินในประเทศบ่อยๆ ก็สามารถไปได้ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองซึ่งอยู่ห่างจากโครงการ 4.7 กิโลเมตรค่ะ

เดินทาง The connect

การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจากถนนวิภาวดีรังสิต แล้วซ้ายเข้าถนนกำแพงเพชร 6 หรือถนนโรคัลโรด ขับไปบนทางที่สร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต จากนั้นเลี้ยวขวาตรงสำนักงานเขตดอนเมือง เข้าสู่แยกตลาดใหม่ดอนเมือง เพื่อวิ่งบนถนนช่างอากาศอุทิศ พาไปดูบรรยากาศและความอุดมสมบูรณ์บนถนนเส้นนี้ จากนั้นก็เลี้ยวเข้าซอยช่างอากาศอุทิศ 10 วิ่งไปจนสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยช่างอากาศอุทิศ 8 แยก 5 วิ่งไปจนสุดทางจะมาทะลุที่ซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 วิ่งมาเรื่อยๆก็จะถึงโครงการค่ะ

เราเริ่มสตาร์ทกันที่ถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งตรงข้ามท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งฝั่งนี้ทางซ้ายมือเราจะเห็นทางรถไฟแบบออริจินอล และรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ -รังสิต ที่กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการสร้างค่ะ ขึ้นเสากันแล้ว

เราขับมาเรื่อยจนเจอป้ายบอกทางตลาดใหม่ดอนเมือง ให้เตรียมชิดซ้ายไว้นะคะ เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกำแพงเพชร 6 ตรงลูกศรสีแดงข้างหน้ากัน

ทางเลี้ยวเข้าจะเป็นทางเบี่ยงแบบนี้ ตามพี่รถกระบะไปเล้ยย

พอเลี้ยวเข้ามา เราจะเห็นรางรถไฟที่พื้นข้างหน้า ซึ่งทางเข้า-ออก ตรงนี้จะติดขัดเป็นบางช่วงที่รถไฟมาค่ะ เดี๋ยวเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกำแพงเพชร 6 หรือถนนโรคัลโรดกัน

บรรยากาศบนถนนกำแพงเพชร 6 ตอนนี้ก็จะวุ่นวายหน่อย เนื่องจากกำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง

ตรงนี้น่าจะเป็นส่วนของตัวสถานีรถไฟ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว การจราจรก็จะติดขัดเป็นช่วงๆนะคะ เพราะทีมงานช่างก่อสร้างก็กำลังทำงานกันอยู่ด้วย

ขับมาเรื่อยๆ พอเจอสำนักงานเขตดอนเมือง ให้เราเตรียมเลี้ยวขวาข้างหน้าค่ะ

พอเลี้ยวขวาเข้ามาแล้วจะเป็นแยกตลาดใหม่ดอนเมือง ที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนเชิดวุฒากาศกับถนนช่างอากาศอุทิศ ที่เรากำลังจะตรงไปดูกัน

พอเข้ามาบนถนนช่างอากาศอุทิศ จะเป็นถนนสองเลนไม่กว้างมาก การจราจรจะเคลื่อนที่ไปไม่ไวนัก เนื่องจากมีรถเข้า-ออก ตลอดเวลา และค่อนข้างหนาแน่น ตรงซ้ายมือเป็นหน้าสำนักงานเขตดอนเมืองค่ะ

ถัดจากหน้าสำนักงานเขตดอนเมืองไปนิดเดียว จะมีร้านกาแฟ เบเกอรี่ ร้านข้าว ขายอยู่เต็มเลย

ขับมาอีกนิดเราจะเจอสะพานข้ามคลอง

ลงจากสะพานมาหน่อยเดียว จะเจอคลีนิคบ้านรักษ์สัตว์ แถวนี้มีคลีนิคสำหรับสัตว์เลี้ยงเยอะค่ะ และยังมีโรงพยาบาลสัตว์ดอนเมืองด้วย อยู่ในซอยช่างอากาศอุทิศ 8 ที่เราไม่ได้ผ่านไปให้ดู

ขับมาเรื่อยๆจะเจอตลาดทางขวามือ ให้มาจับจ่ายซื้ออาหาร ของสดของคาวได้

CP Fresh Mart, Lotus Express หรือ 7 Eleven ก็มี ร้านสะดวกซื้ออยู่เรียงกันเลย

ไม่ไกลกันตรงอาคารพาณิชย์ล็อกสีส้มเป็นการไฟฟ้านครหลวง แถวนี้ร้านอาหาร ทั้งรถเข็น ร้านตั้งโต๊ะเยอะดี

เลยมาอีกหน่อยก็เจอ 7Eleven อีกที่

10

ร้าน “สยามช็อป” ร้านค้าชุมชนก็มี  ฝั่งตรงข้ามกันเป็นนิรันดร์ คอนโดเทล 2 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ค่อนข้างเก่าแล้ว

เมื่อถึงหน้าซอยช่างอากาศอุทิศ 10 ให้เลี้ยวขวาค่ะ สังเกตุง่ายๆเลย หน้าซอยจะมีศาล ที่ข้างๆเป็นต้นไม้ใหญ่มีผ้าสามสีผูกเด่นเป็นตระหง่าน ซึ่งทางนี้ถ้าตรงไปเราจะสามารถเลี้ยวขวาไปทางซอยประชาอุทิศ เพื่อไปทะลุถนนสรงประภาได้ค่ะ แต่เราจะเลี้ยวขวาเข้าซอยช่างอากาศอุทิศ 10 กันนะคะ

เลี้ยวเข้ามาซอยช่างอากาศอุทิศ 10 กันเลย หน้าซอยจะเป็นร้านรับติดตั้งกล้องวงจรปิด กับร้านขายสี

เข้ามาในซอย เราจะเจอแยกแตงแขนงออกไปเหมือนใยแมงมุม ซึ่งชุมชนแถวนี้แต่ละซอยจะทะลุถึงกันง่าย ตรงนี้จะเป็นจุดตัดของซอยช่างอากาศ 10 กับซอยช่างอากาศอุทิศ 8 แยก 1 หากขวาจะไปซอยช่างอากาศอุทิศ 6 แต่หากเลี้ยวซ้ายจะไปซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาตรงไปก่อนนะคะ

ตรงมาก็จะเจอซอยแยกแขนงไปอีก เดี๋ยวเราจะพาตรงไปสุดทางที่ซอยช่างอากาศอุทิศ 8 แยก 5 นะคะ

มาถึงสุดซอยให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยช่างอากาศอุทิศ 8 แยก 5 เพื่อไปซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1

เลี้ยวเข้ามาในซอยช่างอากาศอุทิศ 8 แยก 5 ก็จะมีทั้งโกดังเก็บของ และบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นซะเป็นส่วนใหญ่

ตรงมาจนสุดซอยเราจะเจออู่ซ่อมรถ ให้เราเลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 กันเลยค่าา

เข้ามาบนซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 เป็นถนน 2 เลนไม่กว้างมาก บรรยากาศ 2 ข้างทางเป็นบ้านคนค่อนข้างเก่า

มาถึงตรงนี้ก็จะเห็นธงสีชมพูสีเด่นๆข้างหน้านั้น ก็คือโครงการ The Connect หลักสี่- ดอนเมืองแล้วค่ะ อาคารที่ติดกับโครงการด้านนี้จะเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น

ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นเช่นกัน ถัดไปเป็นพื้นที่ว่างเปล่า

ถัดจากโครงการไป ก็จะเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นอีกเช่นกัน และตรงไปจะเป็นซอยตันค่ะ

จากตรงนี้เดี๋ยวเราจะพาไปเดินเล่นดูบรรยากาศในโครงการกันนะคะ ^^

แผนที่ซูม The connect

บริบทโดยรอบโครงการ เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชน รอบๆโครงการจึงเป็นที่พักอาศัย บ้าน อาคารพาณิชย์ และอพาร์ทเม้นต์ ซะเป็นส่วนใหญ่ ทางทิศเหนือ จะติดกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น ส่วนทางทิศตะวันออก จะเป็นกับพื้นที่โครงการเฟสถัดไป ซึ่งจะมีทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮม ทางทิศใต้ จะติดกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น และทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะติดกับโรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา ส่วนทางทิศตะวันตก จะติดกับซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 ซึ่งเป็นซอยทางเข้า-ออกหลักของโครงการค่ะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงพยาบาลสัตว์ดอนเมือง~ 850 เมตร
  • สำนักงานเขตดอนเมือง ~ 1.5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง ~  1.9  กิโลเมตร
  • ท่าอากาศยานดอนเมือง ~4.7 กิโลเมตร
  • บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ ~  5.5  กิโลเมตร
  • ร.พ.มงกุฏวัฒนะ ~  5.6  กิโลเมตร
  • โลตัส แจ้งวัฒนะ ~  6  กิโลเมตร
  • ดิ อเวนิว แจ้งวัฒนะ ~  6  กิโลเมตร
  • อิมแพ็ค เมืองทองธานี ~ 6.3   กิโลเมตร
  • ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร~  7.9  กิโลเมตร
  • เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ~  9  กิโลเมตร

 

 

เจาะลึกตัวโครงการ

master plan the connect

 

จาก Master Plan จำลองผังโครงการ จะเห็นว่าโครงการมีทางเข้า-ออก ทางเดียว คือจากซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 หน้าโครงการจะมีซุ้มประตูทางเข้า-ออก ที่มีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนหย่อมทั้งสองข้าง ตรงจุดสีส้มจะเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียของโครงการ ที่ถูกบดบังไว้ด้วยป้ายชื่อโครงการ ไม่ต้องห่วงเรื่องทัศนียภาพที่ไม่ดีค่ะ เข้ามาในโครงการจะเจอถนน Main ของโครงการกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนในซอยย่อย 9 เมตร โดยพื้นที่ในเฟสแรกนี้จะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น มีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบ Type HC 1 แบบจอดรถได้ 1 คัน และแบบ HC 2 แบบจอดรถได้ 2 คัน ซึ่งตอนนี้โครงการกำลังสร้างเฟสแรกซึ่งเป็นทาวน์โฮมทั้งหมดอยู่ ส่วนพื้นที่เฟสถัดไปจะประกอบด้วยบ้านแฝด และทาวน์โฮมซึ่งจะเป็นโครงการในอนาคตค่ะ โดยพื้นที่ส่วนกลางจะมีสวนหย่อม และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้ที่กลางโครงการ

เรามาเริ่มที่ทางเข้ากันก่อนนะคะ โดยทางเข้าซุ้มทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 เลย

ทางด้านข้างมีจัดสวนหย่อมเล็กๆ และป้ายโครงการ “The Connect หลักสี่-ดอนเมือง” สีเทาขนาดไม่สูงมาก ตรงซุ้มทางเข้าโครงการมีป้อมยามอยู่ตรงกลาง 1 จุด ระหว่างถนนทางเข้า-ออก

ลูกบ้านจะผ่านทางเข้า-ออกโดยใช้ Access Card แบบระยะใกล้ คือเปิดกระจกรถ ยื่นบัตรแตะ ผ่านรั้วไม้กระดก โดยมีกล้อง CCTV ส่องหน้าคนขับและส่องป้ายทะเบียนอยู่บริเวณนี้ด้วย ส่วนถ้าเป็นผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ.ก่อนค่ะ นอกจากทางรถเข้าแล้ว ยังมีทางฟุตบาทให้คนเดินเข้า ผ่านซุ้มประตูเล็กๆด้านข้างด้วย

โดยซุ้มทางเข้า-ออกโครงการจะเป็นแบบ Double Gate คือนอกจากมีประตูรั้วไม้กระดกกั้นแล้ว ยังมีประตูรั้วใหญ่กั้นให้อีกชั้นหนึ่งค่ะ

โดยประตูนี้จะปิดตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของทุกๆวัน เนื่องจากวันนั้นเราอยู่เก็บภาพถึงเวลา 18.00 น.พอดี โครงการก็จะปิดประตูรั้วให้แบบนี้ และมีการเปิดไฟสนามตรงทางเดินและสวนหย่อม สร้างบรรยากาศที่แตกต่างกับตอนกลางวัน

เข้ามาในโครงการเราจะเจอกับถนน Main กว้าง 12 เมตร ส่วนถนนรองจะกว้าง 9  เมตร พื้นเป็นคอนกรีตแสตมป์ แบบพิมพ์ลาย และพื้นปูนธรรมดา

มองไปทางด้านขวามือจะทิวแถวของยูนิตพักอาศัยที่หันด้านหน้าเข้าถนน Main หลัก โดยอาคารเล่นลวดลาย  Facade อาคารด้วยสีเหลืองอ่อนจะเป็นทาวน์โฮม Type HC1 แบบจอดรถได้ 1 คัน ส่วนหลังที่ใช้สีส้มอ่อน จะเป็นทาวน์โฮม Type HC2 แบบจอดรถได้ 2 คัน

ถนนในซอยกว้าง 9 เมตร ซึ่งตอนนี้ตัวโครงการกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอยู่ ในอนาคตซอยย่อยก็จะมีการแตกแขนงออกไปอีกค่ะ ตัวโครงการด้านนี้จะอยู่ติดกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น

ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นทิวแถวของยูนิตพักอาศัยเช่นกัน โดยฝั่งนี้อาคารจะหันด้านข้างเข้าถนน Main แบบบ้านก็จะมีทั้งสอง Type ผสมกันไป ตรงรั้วบ้านมีการปลูกทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้น สร้างพื้นที่สีเขียวให้โครงการค่อนข้างร่มรื่น

ในซอยแรก ปัจจุบันจะเป็นสำนักงานขายและห้องตัวอย่างค่ะ

ส่วนซอยถัดๆมาจะเป็นยูนิตพักอาศัย ที่หันหน้าเข้าหากันไม่มีการแตกแขนงออกไปอีก ถนนในซอยกว้าง 9 เมตร พื้นที่โครงการด้านนี้จะติดกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น

โดยในแต่ละซอยจะมีเรียงเป็นหน้ากระดานแบบนี้ และใช้รั้วโปร่งสีดำเหมือนกันทุกหลัง เดี๋ยวเราจะพาไปดูบ้านตัวอย่างและบ้านเปล่าของโครงการกันค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนสาธารณะและสวนหย่อมในโครงการ
  • ระบบ CCTVภายในโครงการ 4 จุด (ในอนาคตจะมีเพิ่ม)
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ Double Gate คือแบบรั้วกั้นไม้กระดกและประตูเหล็กโปร่งเปิด-ปิด กันคนเข้า-ออก ในช่วงเวลา 18.00 น.เป็นต้นไป
  • ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร

 


Product Walkthrough

Classy1_Plan

แบบแรกที่จะพาไปดูคือ Type HC1 แบบ 1 ที่จอดรถ ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดิน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 100 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว โดยเข้ามาในบ้านจะเจอพื้นที่ลานจอดรถขนาด 1 คัน ด้านข้างที่จอดรถจัดเป็นพื้นที่สวนเล็กๆได้ หรือจะปรับพื้นที่ไปใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์วางที่นั่งซักชุด 2 ชุดก็ได้ เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก ต่อเนื่องกับ ห้องรับประทานอาหารที่มีประตูเปิดออกไปสู่หลังบ้านเป็นที่สามารถจัดสวนหรือเป็นพื้นที่ซักล้างได้ ทางด้านขวาของตัวบ้านจะเป็นครัวกับห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำจัดให้มีส่วนอาบน้ำอยู่ด้วย แต่ไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เวลาอาบน้ำเลยจะเลอะหน่อย ส่วนห้องครัวจัดพื้นที่มาเป็นครัวเปิด ซึ่งเราสามารถทำประตูกั้นเป็นครัวปิดได้ เวลาประกอบอาหารกลิ่นจะได้ไม่ลอยฟุ้งไปทั่วบ้าน

ขึ้นไปที่ชั้น 2 บ้าน Type นี้จะแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน โดยแบ่งเป็น Master Room 1 ห้อง ขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถจัดพื้นที่ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือเป็นพื้นที่นั่งทำงานได้ ส่วนห้องนอนขนาดกลาง และขนาดเล็ก ขนาดก็จะลดหลั่นกันลงมา ทั้ง 3 ห้องนอนใช้ห้องน้ำร่วมกัน ในชั่วโมงเร่งด่วนสามารถลงไปใช้ห้องน้ำและอาบน้ำชั้นล่างได้

หน้าตาทาวน์โฮม 2 ชั้นแบบจอดรถได้ 1 คัน ดีไซน์เรียบๆสไตล์โมเดิร์น เวลาที่อยู่รวมกันก็จะมีหน้าตา Facade อาคารแบบนี้ สังเกตง่ายๆคือบ้าน Type นี้จะทาสีตกแต่งอาคารเป็นสีเหลือง-เทา-เทาเข้ม โดยเส้นสีเหลืองจะเป็นตัวสร้างความต่อเนื่องของอาคาร

ตัวบ้านของจริงจะมีรั้วเหล็กโปร่งสีดำ สูง 1.5 เมตร เป็นประตูบานเลื่อนให้ แต่เนื่องจากวันที่เราไปเก็บข้อมูลบ้าน type HC1 ยังก่อสร้างไม่เสร็จ จึงยังไม่มีรั้วบ้านจริงมาตรฐานให้ดูนะคะ (แต่สามารถดูได้จากบ้าน Type HC2 ซึ่งเป็นบ้านอีกแบบหนึ่งที่เราจะพาไปดูในช่วงท้ายนะ เหมือนกันเลย)

โดยหากเป็นทาวน์โฮม 1 หลัง เราจะได้หน้าตาแบบนี้ค่ะ พื้นลานจอดรถของจริงจะเป็นพื้นคอนกรีตธรรมดา

ฝั้งซ้ายมือจะเป็นลานจอดรถของบ้านที่มีประตูสีขาวเป็นห้องเก็บของเล็กๆให้ด้วย เหนือประตูห้องเก็บของจะเป็นหน้าต่างกระจกบาน Fix  ที่เป็นช่องแสงให้แสงธรรมชาติเข้าโถงบันได ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นทางเข้าหลักของบ้าน พื้นหน้าบ้านด้านนี้จะปูสนามหญ้ามาให้ เผื่อเราใช้พื้นที่จัดสวนหรือวางม้านั่งพักผ่อนได้

ทางเข้าบ้านมีเฉลียงยื่นออกมา ขนาด 0.60 x 3.00 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ขนาด 0.30 x 0.30 เมตร โดยระยะยื่นกว้างพอที่จะวางชั้นวางรองเท้า และที่วางร่มลักษณะนี้ โดยยังเหลือที่ใส่รองเท้าได้ หรือใครจะ Built-in ตู้รองเท้าชิดผนังทางขวามือ ก็มีพื้นที่เหลือพอค่ะ

ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูกระจกใสเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีดำ เป็นบานเลื่อนเดี่ยว สามารถเลื่อนได้แค่บานซ้ายบานเดียวนะคะ

ตัวล็อกประตูหน้าตาแบบนี้

เข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องรับแขกที่ต่อเนื่องกับพื้นที่ห้องรับประทานอาหาร พื้นที่รวมประมาณ 5.7 x 6.46 เมตร ค่อนข้างกว้างและปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้หลากหลาย วัสดุพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ สีขาวขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

ลองหันกลับไปที่ส่วนทางเข้าห้องรับแขกให้เห็นชัดๆเมื่อจัดวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว ระยะดูทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 2.20 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 42″-56″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตาค่ะ โดยในบ้านตัวอย่างจะเป็นทาวน์โฮมแปลงมุมที่มีหน้าต่างด้านข้างให้ แต่หากเป็นบ้านแปลงกลางจะไม่มีหน้าต่างนะคะ

ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อกับห้องครัวและห้องน้ำที่อยู่ด้านซ้ายมือ โครงการวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ผนังด้านหลังมีประตูกระจกบานเลื่อนที่สามารถเปิดออกไปที่ส่วนหลังบ้านได้ ดังนั้นหากพื้นที่ข้างนอกจัดสวนสวยๆ ก็จะช่วยให้ทัศนียภาพในการรับประทานอาหารและการนั่งเล่นตรงนี้ดีขึ้นมากเลยนะคะ

หากวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งลักษณะนี้ เมื่อลองเอาเก้าอี้ออกมาเสมือนการนั่งจริงแล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบโตีะอีกสบายๆ

รวมทั้งพื้นที่ระหว่างโต๊ะรับประทานอาหารกับโซฟารับแขก ก็ยังเหลือระยะอีกประมาณ 2 เมตร สามารถวางฉากกั้นห้องสวยๆ, วางโต๊ะทำงาน หรือจะวางโซฟาแบบนั่งเดี่ยวเพิ่มอีกตัวก็ได้ค่ะ

ถัดไปเป็นประตูเปิดออกไปสู่หลังบ้าน จะเป็นประตูกระจก กรอบอลูมิเนียมสีดำ เหมือนกับประตูหน้าบ้าน

พื้นหลังบ้าน มีการลดระดับประมาณ 17 เซนติเมตรรวมรางเลื่อน พื้นหลังบ้านเป็นพื้นปูนขัดมันธรรมดา กว้าง 2.0 x 5.7 เมตร

มองออกไปทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ว่าง มีการต่อท่องานระบบไว้ให้ และติดตั้งเต้ารับแบบมีฝาครอบกันน้ำให้ รั้วระหว่างบ้านเป็นรั้วปูนฉาบเรียบธรรมดาทาสีขาวทึบ สูง 2 เมตร

มองกลับไปตรงประตูทางออกสู่ลานซักล้าง ด้านบนประตูมีการติดหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ให้ด้วย

ถัดไปเป็นพื้นที่ครัว ขนาด 1.80 x 1.85 เมตร จะได้เป็นห้องโล่งๆ มีหน้าต่างบานเลื่อนคู่ให้ 1 บาน โคมไฟซาลาเปา ซึ่งเราสามารถ Built-in ชุดครัวรูปตัว L และกั้นห้องแบบในบ้านตัวอย่างได้ เพื่อทำเป็นครัวปิด ป้องกันกลิ่นที่มาจากการประกอบอาหาร

หน้าต่างห้องครัวเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ กระจกใสเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีดำ

ถัดไปเป็นห้องน้ำรวมชั้น 1 ที่อยู่ในพื้นที่ห้องครัวเลย บานประตูห้องน้ำเป็นบานสำเร็จรูป สีขาว ลูกบิดเป็นแบบหัวกลม ด้านล่างมีเกร็ดระบายอากาศ

พื้นห้องน้ำมีการลดระดับเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 0.30 x 0.30  เซนติเมตร

ห้องน้ำชั้นล่างมีขนาด 1.30 x 1.80 เมตร ขนาดห้องไม่ใหญ่มากแต่มีฟังชั่นครบ คืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และมีพื้นที่อาบน้ำเล็กๆให้

ที่ผนังอ่างล้างหน้า ติดตั้งกระจกเงาแบบเรียบๆให้ 1 บาน อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัว ของ Mogen

ขนาดของอ่างล้างหน้าไม่ใหญ่มาก

#ก็อกน้ำก็เช่นกัน ของ Mogen ค่ะ

โถสุขภัณฑ์ พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ของ Mogen

ผนังข้างๆกันจะติดตั้งที่แขวนผ้าเช็ดตัวและชุดฝักบัวอาบน้ำของ Karat พร้อมที่วางสบู่ให้ โดยพื้นที่อาบน้ำตรงนี้ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้

และพอมองลงไปที่พื้นส่วนอาบน้ำ ก็ไม่มีการลดระดับแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้ด้วย ก็แสดงว่า เวลาเราอาบน้ำก็จะกระเด็นเปียกโถส้วม และเปียกกระดาษทิชชู่ที่แขวนอยู่ด้วย ถ้าใครไม่คิดมากก็โอเค

ฝักบัวขนาดกลางๆ พอดีมือ

ถัดไปเป็นบันไดขึ้นชั้น 2  พื้นที่ข้างบันไดบ้านของจริงจะเป็นผนังว่างๆ เราสามารถ Built-in เป็นโต๊ะเขียนหนังสือ หรือเป็นตู้ Built-in เก็บของ หรือตู้โชว์ก็ได้ ตามใจชอบนะคะ ความกว้างบันไดประมาณ 90 เซนติเมตร วัสดุลูกนอนเป็นไม้ยางพารา

ระหว่างทางขึ้นโถงบันได จะมีหน้าต่างกระจกบาน Fix เป็นช่องแสงเล็กๆให้

มองกลับลงไปจะเห็นว่าบันไดเป็นลักษณะบันไดวน ก่อนขึ้นมาถึงชานพักรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งต้องระวังนิดนึงตรงช่วงโค้ง อาจจะสะดุดล้มได้ พื้นห้องชั้น 2  เป็นพื้นลามิเนตลายไม้ สีใกล้เคียงกับลูกนอนบันไดค่ะ

พอขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นโถงเล็กๆที่เชื่อมต่อกับห้องนอนทั้งสามห้องและห้องน้ำ โดยเราจะพาเดินดูไล่ตั้งแต่ห้องนอน 3 ทางซ้ายมือ ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ไล่มาจนถึง Master Bedroom ทางขวามือนะคะ

ห้องนอนที่ 3 ซึ่งเป็นห้องขนาดกลางๆ มีขนาด 2.30 x 3.00 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้สบายๆโดยห้องจริงจะเป็นห้องโล่งๆมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่มาให้ 1 บาน พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ ติดโคมไฟซาลาเปามาให้

พื้นที่ปลายเตียงเหลือค่อนข้างน้อย สามารถทำชั้นวางของเล็กๆ, ติดตั้งทีวีติดผนัง หรือปล่อยเป็นผนังว่างๆแล้วติดทีวีสวยๆก็ได้ค่ะ

พิ้นที่ผนังข้างเตียง สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าสูงถึงฝ้าเพดานและโต๊ะเครื่องแป้งแบบติดผนังเล็กๆแบบนี้ได้ ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้ห้องนอน ซึ่งทั้งหมดนี้โครงการไม่ได้ให้ แต่เราสามารถเอามาปรับใช้เป็นไอเดียแต่งห้องได้ค่ะ

ถัดไปเป็นห้องนอนเล็กที่สุดของบ้าน ขนาด 2.30 x 2.70 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้โดยห้องจริงจะเป็นห้องโล่งๆมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่มาให้ 1 บาน(แต่ถ้าเป็นแปลงมุมก็จะมีให้เพิ่มอีก 1 บาน) พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ ติดโคมไฟซาลาเปามาให้เหมือนกับห้องแรก

เนื่องจากบ้านตัวอย่างเป็นบ้านแปลงมุม ห้องนี้จึงมีหน้าต่าง 2 บานให้แบบนี้ หากใครเลือกแปลงมุมก็จะได้แสงสว่างเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ แต่ก็พอๆกับความร้อนนะ ต้องติดผ้าม่านด้วยถึงจะช่วยกรองแสงแดด ช่วยให้อยู่สบายและเป็นส่วนตัว

พื้นที่ปลายเตียงเหลือไม่เยอะมาก พอๆกับห้องนอนที่แล้ว

The connect 42

และพื้นที่ข้างเตียงก็ยังเหลือพอให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าและตู้วางของ พร้อมกระจกติดผนังได้แบบนี้ หรือใครจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะเขียนหนังสือก็มีพื้นที่พอ

ถัดไปเป็นห้องน้ำชั้น 2 ที่มีฟังก์ชั้นครบ ทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ โดยห้องนี้จะเป็นสัดส่วนมากกว่าห้องน้ำชั้น 1 เพราะมีฉากกั้นอาบน้ำให้

พื้นมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย มีการปิดคิ้วด้วยแกรนิตสีดำเรียบร้อย

เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า Built-in ตู้เก็บของมาให้ สามารถเปิด-ปิดได้ ที่ผนังติดกระจกเงาเรียบๆมาให้

ก็อกน้ำของ Mogen เหมือนกับห้องน้ำชั้น 1 แต่อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมมีขนาดใหญ่กว่า ของ Mogen เช่นกัน

ข้อดีของห้องน้ำนี้คือมีการกั้นห้องอาบน้ำมาให้เป็นสัดส่วนดี ประตูเป็นบานเลื่อนเปิดจากมุม พื้นที่อาบน้ำ 0.90 x 0.90 เมตร ขนาดสบายๆสำหรับ 1 คน

พื้นไม่มีการลดระดับให้ แต่เนื่องจากการติดตั้งฉากอาบน้ำแบบนี้ ทำให้มีตัวรางเลื่อนเป็นธรณีประตูช่วยกันน้ำให้แทน

ชุดฝักบัวอาบน้ำพร้อมที่วางสบู่ เหมือนห้องชั้น 1

ขนาดพอดีมือ

ส่วนโถสุขภัณฑ์จะอยู่ตรงข้ามกับส่วนอาบน้ำ พื้นที่ประมาณ 0.90 x 0.90 เมตร พอดีๆไม่อึดอัด โถสุขภัณฑ์ให้ของ Mogen รวมทั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ด้วย

เราเปิดประตูมาถึงห้อง Master Bedroom ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของบ้านกันแล้ว ห้องค่อนข้างสว่าง แสงธรรมชาติเข้าดี มีทั้งช่องแสงที่เป็นประตูและหน้าต่าง พื้นที่ห้องนี้มีขนาด 2.70 x 5.70 เมตร โดยโครงการสามารถจัดฟังก์ชันให้ทางซ้ายมือเป็นห้องนอนส่วนทางขวามือกั้นพื้นที่เป็น Walk-in Closed

โดยจะเหลือพื้นที่ทางเดินเข้าห้อง ระหว่าง 2 ฟังก์ชั่นนี้ค่อนข้างเยอะ

ประตูห้องนี้จะใช้ประตูสำเร็จรูปสีขาว มีตัวกันกระแทกติดที่พื้นให้ด้วยนะคะ

มองไปทางซ้ายมือจะเป็นห้องว่างๆโล่งๆ สามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ ผนังด้านขวามือเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ที่เชื่อมต่อกับระเบียงห้อง

โดยเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้เดินไประเบียงได้ประมาณ 0.60 เมตร ไม่แคบจนเกินไปนัก

ประตูทางออกระเบียงเป็นประตูประจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ มองออกไปก็จะเห็นยูนิตอื่นๆในโครงการ

ระหว่างพื้นห้องนอนกับระเบียงมีการยกธรณีประตูกันน้ำ ส่วนพื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ขนาด 0.30 x 0.30  เมตร

ความกว้างของระเบียง 0.50 x 5.7 เมตร เป็นระเบียงรูปเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ค่อนข้างแคบ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำสูง 0.90 เมตร ที่ระเบียงไม่มีท่อระบายน้ำ แต่หากน้ำสาดลงมานองที่ระเบียง ก็จะไหลจากพื้นลงสู่เบื้องล่างเองค่ะ

มุมมองระเบียงจากยูนิตที่หันหน้าเข้าถนน Main มองไปยังโครงการ

ส่วนพื้นที่ปลายเตียง จะเป็นพื้นที่ห้องโล่งๆ กว้างประมาณ 2.00 x 2.70 เมตร สามารถกั้นห้องและ Built-in ส่วน Walk-in closed แบบนี้ได้

ที่ผนังด้านนี้จะมีช่องเปิดให้ 2 บาน คือหน้าต่างบานกระทุ้ง และหน้าต่างบาน Fix

โดยเราสามารถ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งไว้ข้างหน้าต่างแบบนี้ เผื่อไว้แต่งหน้าตอนกลางวัน ก็สามารถใช้แสงธรรมชาติได้โดยไม่ต้องเปิดไฟเลยค่ะ

สวิตซ์เปิด-ปิดไฟให้ของ Schneider หรือเทียบเท่า

Classy2_plan

ถัดไปเป็นทาวน์โฮมแบบที่สองคือ Type HC2  แบบ 2 ที่จอดรถ ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดิน 20.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 119 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว โดยเข้ามาในบ้านจะเจอพื้นที่ลานจอดรถขนาด 2 คัน เต็มพื้นที่หน้าบ้าน เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก ต่อเนื่องกับ ห้องรับประทานอาหารที่มีประตูเปิดออกไปสู่หลังบ้านเป็นที่สามารถจัดสวนหรือเป็นพื้นที่ซักล้างได้ ทางด้านขวาของตัวบ้านจะเป็นครัวกับห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำจัดให้มีส่วนอาบน้ำอยู่ด้วย แต่ไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เวลาอาบน้ำเลยจะเลอะหน่อย ส่วนห้องครัวจัดพื้นที่มาเป็นครัวเปิด ซึ่งเราสามารถทำประตูกั้นเป็นครัวปิดได้ เวลาประกอบอาหารกลิ่นจะได้ไม่ลอยฟุ้งไปทั่วบ้าน

ขึ้นไปที่ชั้น 2 บ้าน Type นี้จะแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน โดยแบ่งเป็น Master Room 1 ห้อง ขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถจัดพื้นที่ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือเป็นพื้นที่นั่งทำงานได้ ส่วนห้องนอนขนาดกลาง และขนาดเล็ก ขนาดก็จะลดหลั่นกันลงมา ทั้ง 3 ห้องนอนใช้ห้องน้ำร่วมกัน ในชั่วโมงเร่งด่วนสามารถลงไปใช้ห้องน้ำและอาบน้ำชั้นล่างได้

หน้าตาทาวน์โฮม 2 ชั้นแบบจอดรถได้ 2 คัน ดีไซน์เรียบๆสไตล์โมเดิร์นเหมือนกับทาวน์โฮมแบบแรกค่ะ จะต่างกันที่ Type นี้ใช้โทนสีส้มอ่อน-เทา-เทาเข้ม โดยเส้นสีส้มจะเป็นตัวสร้างความต่อเนื่องของอาคาร ตัวบ้านของจริงจะมีรั้วเหล็กโปร่งสีดำ สูง 1.5 เมตร เป็นประตูบานพับ 3 ตอนให้ โดยบ้านแปลงมุมจะมีพื้นที่ด้านข้างมากกว่าแปลงกลาง 2 เมตร

มีการติดตั้งโคมไฟหน้าบ้าน และกริ่งสัญญาณให้

(เนื่องจากตัวบ้านจริงยังไม่สามารถเปิดออกได้จึงถ่ายภาพพื้นจากประตูหน้าบ้านมาให้ดูนะคะ) พื้นลานจอดรถหน้าบ้านจะเป็นพื้นคอนกรีตขัดมันธรรมดา สามารถจอดรถที่หน้าบ้านได้ 2 คัน ประตูหน้าบ้านพับแบบเปิดออกด้านนอกนะคะ หากพับเข้าด้านในจะติดพื้นลานจอดรถเพราะเป็นพื้นลาดเอียงที่ระดับสูงกว่าพื้นถนน

มาดูที่บ้านตัวอย่างกัน โดยบ้านตัวอย่างของโครงการ ทำที่นั่งเล่นข้างบ้านมาให้ดูเป็นไอเดียให้ไปปรับใช้กับบ้านเราได้ โดยทางเข้าบ้านเป็นประตูสำเร็จรูปสีขาว ข้างๆกันเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน รับแสงธรรมชาติจากหน้าบ้านได้

ตรงทางเข้าบ้านมีการยื่นเฉลียงออกมาประมาณ 0.60 x 5.70 เมตร เต็มพื้นที่หน้าบ้าน

เมื่อเราเปิดประตูเข้าไปจะเจอกับห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร และที่นั่งเล่น มีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปสู่หลังบ้านได้เหมือนบ้านแบบแรก

พอมองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน มีการเล่นระดับฝ้าให้ด้วย โดยพื้นที่โถงนี้จะติดตั้งโคมไฟซาลาเปาให้ 3 ดวง สามารถใช้กับพื้นที่ 3 ฟังก์ชั่นได้พอดี

มองกลับไปที่ประตูทางเข้า จะเป็นโถงเล็กๆขนาด 1.50 x 1.90 เมตร เป็นเหมือนพื้นที่สำหรับเตรียมตัวเข้า-ออกบ้าน โดยผนังด้านข้างประตูสามารถ Built-in ตู้วางรองเท้า และเก็บของเต็มผนังได้

จากโถงทางเข้าห้องมาจะเจอห้องรับแขก ซึ่งของบ้านขนาดมาตรฐานหากเป็นแปลงกลางจะมีหน้าต่างให้ด้านเดียวเหมือนกับบ้านเปล่า ส่วนแปลงมุมจะมีกระจกให้ 2 ด้านเหมือนกับบ้านตัวอย่างค่ะ เมื่อวางเฟอร์นิเจอร์เป็นโซฟานั่งเล่นสักชุด เพิ่มผ้าม่านไปสักหน่อย ห้องนี้ก็ดูเป็นสัดเป็นส่วนขึ้น

หน้าต่างที่ผนังด้านนี้จะเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อนคู่ กรอบอลูมิเนียมสีดำ

ถัดไปก็จะเป็นห้องโล่งๆที่มีประตูกระจกบานเลื่อนคู่ สามารถเปิดออกไปหลังบ้านได้ โดยเราสามารถจัดพื้นที่ให้เป็นส่วนรับประทานอาหารที่สามารถวางทีวีได้ ซึ่งหากวางทีวีตรงนี้ ก็จะสามารถดูทีวีได้ทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานค่ะ โดยระยะดูทีวีถึงโต๊ะรับประทานอาหาร ประมาณ 1.30 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะกับการวางทีวีขนาดประมาณ 26″ จะพอดีกับสายตาค่ะ

ถัดจากส่วนรับประทานอาหารก่อนออกจากประตูหลังบ้านจะมีพื้นที่ว่างเล็กน้อย หากเป็นทาวน์โฮมแปลงมุมที่มีหน้าต่างแบบนี้ ก็สามารถวางโซฟานั่งเล่นสักตัวไว้นั่งเล่นริมหน้าต่างได้ หรือหากเป็นทาวน์โฮมแปลงกลางที่ผนังด้านนี้จะทึบ ก็สามารถวางโต๊ะเขียนหนังสือ หรือทำเป็นมุมงานอดิเรก นั่งเล่นพักผ่อนก็ได้

ประตูหลังบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อนคู่ กรอบอลูมิเนียมสีดำ พื้นที่หลังบ้านเป็นพื้นปูนขัดมัน มีรั้วเป็นกำแพงปูนฉาบเรียบทึบทาสีขาวสูง 2 เมตร เหมือนกับบ้าน Type HC1 ทุกประการค่ะ

ถัดไปเป็นพื้นที่ครัว ขนาด 1.80 x 2.14 เมตร จะได้เป็นห้องโล่งๆ มีหน้าต่างบานเลื่อนคู่ให้ 1 บาน โคมไฟซาลาเปา ซึ่งเราสามารถ Built-in ชุดครัวรูปตัว L และกั้นห้องแบบในบ้านตัวอย่างได้

ถัดไปเป็นห้องน้ำรวมที่อยู่ในพื้นที่ห้องครัว บานประตูห้องน้ำเป็นบานสำเร็จรูป สีขาว ลูกบิดเป็นแบบหัวกลม ด้านล่างมีเกร็ดระบายอากาศ

ห้องน้ำชั้นล่างมีขนาด 1.30 x 1.80 เมตร ขนาดห้องไม่ใหญ่มากแต่มีฟังชั่นครบ คืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และมีพื้นที่อาบน้ำเล็กๆให้

ที่ผนังอ่างล้างหน้า ติดตั้งกระจกเงาแบบเรียบๆให้ 1 บาน อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัว ของ Mogen และก็อกน้ำสแตนเลสของ Mogen เช่นกัน

โถสุขภัณฑ์ พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ของ Mogen

ถัดไปเป็นบันไดขึ้นชั้น 2  พื้นที่ข้างบันไดบ้านของจริงจะเป็นผนังว่างๆ เราสามารถ Built-in เป็นโต๊ะวางทีวีแบบในห้องตัวอย่าง โต๊ะเขียนหนังสือ เป็นตู้ Built-in เก็บของ หรือตู้โชว์ก็ได้ตามใจชอบนะคะ ความกว้างบันไดประมาณ 90 เซนติเมตร วัสดุลูกนอนเป็นไม้ยางพารา ด้านข้างบันไดมีประตูห้องเก็บของให้ด้วย

โดยประตูห้องเก็บของใต้บันไดเป็นประตูสี่เหลี่ยมเล็กๆบานสีขาว มีเกร็ดระบายอากาศ

เราขึ้นบันไดมาด้านบน มองกลับลงไปจะเห็นว่าบันไดเป็นลักษณะบันไดวน มีชานพัก 2 ครั้ง ชานพักที่ 1 เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูและชานพักที่สองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า พื้นห้องชั้น 2  เป็นพื้นลามิเนตลายไม้ สีใกล้เคียงกับลูกนอนบันได โถงบันไดของหลังนี้จะรู้สึกโปร่งกว่าของ Type แรกเล็กน้อย เพียงแต่ Type นี้ไม่มีช่องเปิดที่โถงบันได ต้องอาศัยไฟจากในบ้าน หรือติดตั้งโคมไฟที่ทางเดินแทนเพื่อให้แสงสว่าง ซึ่งจริงๆในช่วงกลางวัน แสงจากหน้าต่างของห้องรับแขกก็พอส่องถึงค่ะ

ที่โถงบันไดอาจจะหาโคมไฟสวยๆมาห้อยที่โถงบันไดแบบนี้

พอขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นโถงเล็กๆที่เชื่อมต่อกับห้องนอนทั้งสามห้องและห้องน้ำ โดยเราจะพาเดินดูไล่ตั้งแต่ห้องนอน 3 ทางซ้ายมือ ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ไล่มาจนถึง Master Bedroom ทางขวามือนะคะ

ห้องแรกเป็นห้องนอนที่ 3 ห้องขนาดเล็กที่สุดของบ้าน

โดยห้องนอนนี้มีขนาด 2.65 x 2.8 เมตร ไซส์มินิน่ารัก เหมาะกับเป็นห้องลูกชายลูกสาว โดยห้องจริงจะเป็นห้องโล่งๆมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่มาให้ 1 บาน พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ ติดโคมไฟซาลาเปามาให้ ซึ่งจากห้องตัวอย่างเมื่อเดินเข้าไปจะเป็นพื้นที่ปลายเตียงที่สามารถ Built-in โต๊ะเขียนหนังสือได้ยาวแบบนี้เลย

โดยพื้นที่ห้องขนาดนี้สามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้ แต่หัวท้ายเตียงจะเหลือที่แค่นิดหน่อย สามารถ Built-in เตียงและตู้ติดผนังแบบห้องตัวอย่างไปเลยก็เป็นไอเดียที่ดี เป็นการเพิ่มฟังก์ชั่นในห้องได้อีก

ถัดไปเป็นห้องนอนที่ 2 ขนาด 2.70 x 3.90 เมตร ซึ่งเป็นห้องขนาดกลางๆของบ้าน สามารถเป็นห้องนอนพี่คนโตได้ โดยเปิดประตูเข้าไปของจริงจะเป็นผนังว่างเปล่า แต่ห้องตัวอย่าง Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของมาให้เป็นไอเดีย เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้สอยได้เยอะเลย

เมื่อเข้าไปในห้องจะเห็นว่าบ้านมาตรฐานของจริงจะเป็นห้องโล่งๆที่มีหน้าต่างบานเลื่อนคู่ให้ 1 บานเท่านั้น โดยสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ โดยหากไม่ Built-in ตู้ที่ปลายเตียงและหัวเตียงจะเหลือที่เดินนิดหน่อย

ส่วนผนังด้านหัวเตียงก็สามารถ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือยาวมาถึงประตูทางเข้าห้องแบบนี้ เป็นการเพิ่มฟังก์ชั่นให้ห้องได้อีก

ถัดไปเป็นห้องน้ำรวมขนาด 1.40 x 2.70 เมตร ห้องขนาดกลางๆที่ฟังก์ชั่นครบทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์และฉากกั้นส่วนอาบน้ำ ซึ่งห้องน้ำนี้ทุกห้องนอนในชั้นสองจะมาใช้ร่วมกัน

พื้นห้องน้ำมีการลดระดับเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 0.30 x 0.30 เมตร สีครีม มีการยกธรณีกันน้ำด้วยแกรนิตสีดำ และปิดคิ้วรอยต่อด้วยลามิเนตสีเดียวกับพื้น

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมและก็อกน้ำของ Mogen

ข้างๆอ่างล้างหน้าเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Mogen รวมทั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ด้วย

มีฉากกั้นห้องอาบน้ำมาให้เป็นสัดส่วนดี ประตูเป็นกระจกนิรภัยบานเลื่อนเดี่ยว พื้นที่อาบน้ำ 0.90 x 0.90 เมตร สบายๆไม่อึดอัด

ตรงพื้นที่อาบน้ำมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่มาให้ 1 บาน เป็นกระจกฝ้า กรอบอลูมิเนียมสีดำ

ติดตั้งชุดฝักบัวของ Karat พร้อมที่วางสบู่มาให้

ถัดไปเป็นห้องสุดท้าย.. Master Bedroom

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องนอน ขนาด 2.70 x 5.70 เมตร มีการจัดฟังก์ชั่นเดียวกับ Master Bedroom ของบ้าน Type แรกเลย โดยจัดฟังก์ชันให้ทางซ้ายมือเป็นห้องนอนส่วนทางขวามือกั้นพื้นที่เป็น Walk-in Closed

มองไปทางซ้ายมือจะเป็นห้องว่างๆโล่งๆ สามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ ผนังด้านขวามือเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ที่เชื่อมต่อกับระเบียงห้อง

ประตูทางออกระเบียงเป็นประตูประจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ส่วนราวระเบียงด้านนอกเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำสูง 0.90 เมตร

The connect 51

ระหว่างพื้นห้องนอนกับระเบียงมีการยกธรณีประตูกันน้ำ ส่วนพื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ขนาด 0.30 x 0.30  เมตร พื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.50 x 2.7 เมตร พื้นที่ค่อนข้างแคบ

ส่วนพื้นที่ปลายเตียง จะเป็นพื้นที่ห้องโล่งๆ กว้างประมาณ 2.00 x 4.70 เมตร สามารถนำฉากมากั้นห้อง หรือวางโต๊ะวางทีวี แล้ว Built-in ส่วน Walk-in closed แบบนี้ได้

โดยเราสามารถ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งไว้ข้างหน้าต่าง รวมมีพื้นที่พอที่จะ Built-in ตู้เสื้อผ้าสูงถึงฝ้าเพดานได้ตามห้องตัวอย่าง ก็จะเป็นการเพิ่มฟังก์ชั่นของพื้นที่ได้มากขึ้นเยอะเลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10 Sep 2015 

  • ทาวน์โฮมแบบ 1 ที่จอดรถ 100 ตารางเมตร 18.20 ตารางวา ราคา 2,850,000 บาท
  • ทาวน์โฮมแบบ 1 ที่จอดรถ 100 ตารางเมตร 30.30ตารางวา ราคา 3,640,000 ล้านบาท (แปลงมุม)
  • ทาวน์โฮมแบบ 2 ที่จอดรถ 119 ตารางเมตร 20.90 ตารางวา ราคา 3,150,000 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮมแบบ 2 ที่จอดรถ 119 ตารางเมตร 28.30 ตารางวา ราคา 3,650,000 ล้านบาท (แปลงมุม)

  • จองและทำสัญญา 25,000 บาท
  • ดาวน์ 5% ผ่อนดาวน์ 1 งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 60,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ The Connect หลักสี่-ดอนเมือง เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในแหล่งที่พักอาศัยที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ หากจะโฟกัสที่ตัวซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 เองแล้ว เป็นซอยที่ไม่ค่อยมีความพิเศษอะไร เข้า-ออก ได้ทางเดียวเพราะเป็นซอยตัน  แต่พอออกมาทางถนนช่างอากาศอุทิศแล้ว ซอยนี้จะมีทั้ง Lotus Express, โรงพยาบาลสัตว์, คลีนิค, โรงเรียน, ร้านอาหาร รวมทั้งตลาดใหม่ดอนเมืองที่อยู่ใกล้ๆสำนักงานเขตดอนเมือง ให้มาจับจ่ายใช้สอยซื้อของกินกันได้ ห่างออกไปหน่อยบนถนนแจ้งวัฒนะจะค่อนข้างเจริญ มีห้างสรรพสินค้าให้เลือกไปช็อปปิ้งอย่างหลากหลาย ทั้ง IT Square, Big C, The Avenue, Tesco Lotus, Makro และห่างไปหน่อยก็มี Central แจ้งวัฒนะ รวมทั้งไม่ไกลจาก Impact เมืองทองธานี ที่มักจะมีการจัดงานแฟร์ใหญ่ๆอยู่บ่อยๆ ส่วนทางถนนวิภาวดีก็มีท่าอากาศยานดอนเมืองสะดวกกับคนที่เดินทางสายการบินในประเทศ เลยขึ้นไปบนถนนสรงประภาก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย และกองพันทหารที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งตรงนั้นก็จะมีโครงการลักษณะใกล้เคียงกันอย่าง Casa City ดอนเมือง ซึ่งโครงการเราอาจจะเป็นต่อหน่อยตรงที่ใกล้ความอุดมสมบูรณ์มากกว่า

การเดินทางด้วยรถยนต์ ตัวโครงการตั้งอยู่ฝนซอยนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 ซึ่งเป็นซอยตัน สามารถเข้าได้ทางเดียว คือจากถนนช่างอากาศอุทิศ เลี้ยวเข้าซอยช่างอากาศอุทิศ 7 เลี้ยวซ้าย และเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อเข้าสู่ถนนนิเวศน์เจ้าฟ้า 1 โดยการเดินทางมาที่ถนนช่างอากาศอุทิศเพื่อมาโครงการ สามารถเข้า-ออก หลักๆได้จาก ถนนสรงประภา สามารถเข้าทางถนนประชาอุทิศ หรือเข้าทางถนนเวฬุวนารามทะลุซอยประชาร่วมใจ หากใครมาจากถนนวิภาวดีและแจ้งวัฒนะ สามารถเลี้ยวเข้าถนนกำแพงเพชร 6 หรือถนนโรคัลโรด  แล้วเบี่ยงซ้ายเข้าถนนเชิดวุฒากาศ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนช่างอากาศอุทิศได้ ส่วนถ้าใครต้องการไปขึ้นทางด่วน ก็สามารถเลือกไปขึ้น-ลง ได้ 2 ทาง คือตรงทางด่วนศรีสมาน ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 6.9 กิโลเมตร และทางด่วนแจ้งวัฒนะ ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 9 กิโลเมตร

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ หากจะออกจากโครงการก็ค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะต้องออกไปขึ้นรถสองแถว รถแท๊กซี่ หรือพี่วิน ที่ถนนช่างอากาศอุทิศ ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร ส่วนใครอยากจะไปขึ้นรถประจำทางก็ต้องไปขึ้นบนถนนวิภาวดีรังสิต มีวิ่งผ่านหลายสาย นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ- รังสิต เป็นโครงการรถไฟฟ้าสายอนาคตที่กำลังก่อสร้างอยู่บนถนนกำแพงเพชร 6 รวมทั้งทางรถไฟที่อยู่คู่ขนานกับรถไฟฟ้า สามารถไปขึ้นได้ตรงสถานีรถไฟดอนเมือง หรือหากใครเดินทางด้วยสายการบินในประเทศบ่อยๆ ก็สามารถไปได้ใกล้ๆที่ท่าอากาศยานดอนเมืองค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กว่าจะออกมาใช้บริการรถสาธารณะต่างๆเหล่านี้ก็ต้องออกมาจากซอยบ้านให้ได้ก่อน ดังนั้นโครงการนี้ค่อนข้างเหมาะกับคนที่มีรถส่วนตัวมากกว่านะคะ

ความปลอดภัย ต้องบอกนิดนึงว่าเนื่องจากย่านนี้เป็นย่านชุมชนผู้อยู่อาศัยฐานะปานกลางที่ค่อนข้างหนาแน่น สภาพในซอยแม้จะดูสงบแต่ก็ไม่สยบความเคลื่อนไหวของขโมย ซึ่งมีให้เห็นอยู่บ่อยๆเลย ซึ่งในโครงการมีกล้อง CCTV ให้ทั้งหมด 4 ตัว รั้วรอบโครงการ 3 เมตร ประตู Double Gate 2 ชั้น คือประตูกั้นไม้กระดก และ ประตูใหญ่ที่จะปิดหลัง 6 โมงเย็น รวมทั้ง รปภ. 24 ชั่วโมง ซึ่งการรักษาความปลอดภัยโดยรวมถือว่าตามมาตรฐานโครงการทั่ว แต่กล้อง CCTV น้อยไปหน่อย และในบ้านไม่มีระบบใดๆเพื่อป้องกันภัยเลย ซึ่งก็เหมือนๆกับบ้านในโครงการจัดสรรทั่วไป ดีหน่อยที่ประตูทางเข้าเป็น Double Gate ดังนั้นแนะนำให้หากล้องวงจรปิดในบ้าน หรือระบบรักษาความปลอดภัยมาเพิ่มนะคะ กันไว้ดีกว่าแก้

วัสดุที่โครงการให้มาตามมาตรฐานทั่วๆไปคือ ตัวโครงสร้างเป็น Pre-Cast ตามสไตล์พฤกษา ผนังฉาบเรียบทาสี หน้าต่าง-ประตูใช้วงกบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวใสตัดแสง ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 และ 2.75 เมตร โคมไฟซาลาเปา วัสดุปูพื้นใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร และพื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนต  ส่วนกระเบื้องห้องน้ำเป็นเซรามิคแผ่นเล็กขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ฉากกั้นอาบน้ำได้เฉพาะชั้น 2 โถสุขภัณฑ์ของและอ่างล้างหน้าของ M0gen

สภาพโครงการค่อนข้างร่มรื่น ตัวถนนหลัก 12 เมตร และถนนรอง 9 เมตร ค่อนข้างกว้างไม่แออัด และสัญจรสบาย มีต้นไม้ปลูกเป็นทิวตลอดแนวถนน รวมทั้งการวางผังที่คำนึงถึงทิศของแดด ช่วยให้การอยู่อาศัยในบ้านไม่ร้อน 

ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีในการแบ่ง Type ของบ้าน โดยบ้าน Type HC1 แบบ 1 ที่จอดรถจะใช้โทนสีเหลือง-เทา-เทาเข้ม ส่วนบ้าน Type HC2 แบบ 2 ที่จอดรถจะใช้โทนสีส้ม-เทา- เทาเข้ม ส่วนการจัดวาง Function ในบ้านค่อนข้างดีสำหรับพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มาก เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก มีการใช้งานครบทุกส่วน พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่าย และมีการจัดวางพื้นที่และช่องเปิดให้ห้อง Master Bedroom สามารถจัดตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์เช่น นั่งเล่น หรือนั่งทำงานได้

สาธารณูปโภค พื้นที่ส่วนกลางมีสวนหย่อมหน้าโครงการ และสวนสาธารณะที่กลางโครงการพร้อม Clubhouse เล็กๆ เนื่องจากโครงการมีขนาดค่อนข้างใหญ่ พื้นที่ส่วนกลางจึงดูให้มาไม่มากเท่าไหร่ แต่ถ้าเทียบกับค่าส่วนกลาง 30 บาท ต่อตารางเมตร แล้วก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ ไม่มีอะไรต้องดูแลรักษามาก เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กที่ชอบฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ ไม่เน้นส่วนกลางมาก แต่ได้บ้านในราคาย่อมเยา

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจครอบครัวขนาดเล็กถึงปานกลาง  2.55-3.65 ล้านบาท, 10 Sep 2015 

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 –อยู่ในซอยย่อยที่เดินทางไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก แต่ถ้าออกมาที่ถนนหลักจะเดินทางง่ายขึ้นและความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างดี เหมาะกับคนที่มีรถส่วนตัว
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – ประตู Double Gate รั้วกั้นไม้กระดกและประตูใหญ่, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, CCTV 4  ตัว(อาจจะมีเพิ่ม) และเข้าออกโดยใช้ Access card
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – แบบสวย จัดฟังก์ชั่นการใช้งานได้ครบ 
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – ถนน Main 12 เมตร ถนนย่อย 9 เมตร ค่อนข้างกว้างไม่อึดอัด มีสวนหย่อมหน้าโครงการ สวนสาธารณะตรงกลาง และมีการปลูกไม้พุ่มสูง พุ่มเตี้ยตามทิวถนน
  • สาธารณูปโภค 7/10 – ให้พื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างน้อย มีแค่สวนและ Clubhouse เล็กๆ
  • 7.35 / 10.00

BOTTOM LINE

The Connect หลักสี่-ดอนเมือง  เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กถึงปานกลาง หรือคนทำงานในย่านดอนเมือง ที่อยากได้ที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ได้พื้นที่การใช้งานครบ ไม่ซีเรียสเรื่อง Facilities มากนัก ใช้รถยนต์เป็นหลักแต่อยากพึ่งพารถไฟฟ้า หรือบริการสาธารณะอื่นๆบ้างในยามคับขัน มีงบประมาณ 2.55-3.65 ล้านบาท  หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 17,850 – 25,550 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )