รีวิวฉบับที่ 1662 สวัสดีค่ะวันนี้เราจะพาไปชม The Connect รามอินทรา-มีนบุรี2 จากพฤกษา ตั้งอยู่ในย่านสุวินทวงศ์ สามารถเดินทางไปยังรามอินทราและมีนบุรีได้สะดวก ตัวโครงการเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร สไตล์  Modern ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทำให้บ้านไม่ร้อน ถ่ายเทอากาศได้ทุกพื้นที่ด้วยระบบ Fresh Air System  ตัวโครงการมีบ้านทั้งหมด 2 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 17.8 ตารางวา ในราคาที่หยิบจับง่ายเริ่มต้นเพียง 2.25 ล้านบาท เราไปดูกันว่าที่นี่เค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหนค่ะ

Fact @ 22 August 2018

  • The Connect Ramintra – Minburi 2 (เดอะ คอนเนค รามอินทรา-มีนบุรี 2 )
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : มีนบุรี
  • เนื้อที่โครงการ ประมาณ 18-0-02.0 ไร่ จำนวน 201 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 95.02 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถ 1 คัน
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 109.72 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 17.8 และ 20.3 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 2.25 ล้านบาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : ธ.ค. 60
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปลายปี 2561
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • Call Center : 1739

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะคะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.824414 , 100.72610

โครงการ The connect รามอินทรา-มีนบุรี​2 ตั้งอยู่บนถนนสามวา ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสุวินทวงศ์ได้ สามารถเดินทางไปยังรามอินทราและมีนบุรีได้สะดวก และยังใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าในอนาคต

เส้นทางจากโครงการสามารถเชื่อมต่อออกถนนได้ 2 ทาง คือ ออกมาทางต้นซอยเพื่อเข้าถนนสุวินทวงศ์ ซึ่งถนนสุวินทวงศ์เองสามารถเชื่อมไปยังถนนร่มเกล้าเพื่อไปสุวรรณภูมิได้สะดวก และอีกฝั่งยังเชื่อมต่อกับถนนรามอินทรา ใช้ไปออกแจ้งวัฒนะได้ อีกเส้นทางหนึ่งคือเมื่อออกจากโครงการเลี้ยวขวาจะไปเชื่อมต่อกับถนนหทัยราษฏร์ สามารถไปยังสายไหมได้ หรือจะเลี่ยงเส้นรามอินทราซึ่งอาจจะการจราจรหนาแน่น ไปเข้าทางถนนปัญญาอินทราก็ได้เช่นกัน ซึ่งการเดินทางด้วยรถยนต์จะค่อนข้างสะดวกเนื่องจากใกล้ถนนใหญ่ มีเส้นทางเข้า-ออกหลายทาง นอกจากนั้นยังมีรถสองแถว ผ่านหน้าโครงการไปออกถนนสุวินทวงศ์ มี Taxi ซึ่งสามารถเรียกได้ง่าย มีท่ารถตู้ รถสองแถวที่ตลาดมีนอยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก ในอนาคตยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีชมพูทำให้การเดินทางโดยไม่ใช้รถไม่ลำบากเท่าไหร่ค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ถือว่ามีครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาล สามารถจับจ่ายใช้สอยซื้อของได้ที่ Tesco Lotus ที่ห่างจากโครงการไม่ถึง 1.5 กิโลเมตร หรือจะไปห้างใหญ่อย่าง Fashion Island , The Promenade ก็สามารถไปได้สะดวก คนที่ชอบไปตลาดมากกว่าก็มีตลาดมีนบุรี ซึ่งเป็นเป็นแหล่งซื้อของสำหรับคนในย่านนี้แห่งหนึ่งเลย นอกจากนั้นยังใกล้กับสถานศึกษาหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนบางชัน(ปลื้มวิทยานุสรณ์) โรงเรียนสุดใจวิทยา หรือโรงเรียนสองภาษาอย่างโรงเรียนเอกบูรพาวิเทศศึกษาซึ่งอยู่ติดกับโครงการเลย

ในละแวกล้อมรอบโครงการ ภายในถนนสามวามีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven อยู่ระหว่างทาง สามารถแวะซื้อของกินเล่นก่อนเข้าบ้านก็สะดวก นอกจากนั้นด้านข้างโครงการยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ถ้าไม่มีอะไรกินที่บ้านแล้วละก็ สามารถเดินออกมาซื้อได้เลยคือว่าทำเลนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์พอสมควร

บริเวณใกล้ๆกับโครงการจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู เส้นทางแคราย-มีนบุรี เป็นโครงการตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 34.5 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นที่สี่แยกแคราย วิ่งตามแนวถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนติวานนท์ แจ้งวัฒนะ และรามอินทรา ไปสิ้นสุดที่เขตมีนบุรี ซึ่งมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 4 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) รถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่) รถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางกะปิ-มีนบุรี) รวมทั้งสิ้น 30 สถานี  โดยจากการคาดการตำแหน่งสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต โครงการของเราน่าจะใกล้กับสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญมากที่สุดค่ะ

เรามาดูเส้นทางการเดินทางไปทางด่วนกันบ้าง จากโครงการสามารถไปยังทางวงแหวนกาญจนาภิเษกได้โดยผ่านถนนรามอินทรา เป็นระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร โดยออกจากโครงการมาเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนสุวินทวงศ์ กลับรถไปยังถนนรามอินทรา ไปเข้าวงแหวนกาญจนาภิเษกหน้าห้าง Fashion Island ค่ะ ซึ่งอาจจะรถติดในช่วงตอนเย็นๆถึงค่ำซึ่งเป็นเวลาเลิกงาน

วันนี้เราจะพาไปโครงการ จากทางเส้นรามอินทรากันค่ะ เริ่มต้นจากหน้าห้าง Fashion Island ไปยังโครงการ ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรกว่าๆ เราไปดูกันเลยค่ะ

เริ่มต้นที่เส้นรามอินทรา ผ่านหน้าห้าง Fashion Island ทางด้านซ้ายมือให้ตรงไปเรื่อยๆเลยค่ะ

ขับมาเรื่อยๆตามทางจะผ่านด้านหน้าโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ให้เราตรงต่อไป

ด้านขวาจะมีห้าง Makro สำหรับซื้อของสด ของกินของใช้ มีครบทุกอย่างเลยค่ะ โดยทางไปโครงการ เราจะขับบนถนนรามอินทราไปเรื่อยๆ จนเจอทางเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุวินทวงศ์

สองข้างทางบนถนนรามอินทราก็มีทั้งร้านค้า รวมถึงปั๊มน้ำมันอยู่ทั้ง 2 ข้างทาง สามารถแวะเติมน้ำมันก่อนกลับบ้านได้

ขับตรงไปบนถนนรามอินทรา

สังเกตจากป้ายไปมีนบุรี ให้ตรงไปแปลว่าใกล้ถึงทางเลี้ยวเข้าถนนสุวินทวงศ์แล้วค่ะ

ก่อนถึงทางเลี้ยวเราจะขับผ่านโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญอยู่ทางด้านซ้ายมือ อาจจะมีการจราจรหนาแน่นในช่วงเย็น ให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายค่ะ หรือจะขึ้นสะพานข้ามแยกไปลงถนนสุวินทวงศ์ก็สามารถทำได้ โดยให้ชิดขวาไว้เพื่อรอขึ้นสะพาน

โดยเราสามารถขึ้นสะพานหรือไม่ขึ้นก็ได้นะคะ ในวันนี้รถที่ต่อคิวขึ้นสะพานเยอะเลยพามาวิ่งด้านล่างแทน เมื่อขับมาด้านล่าง จะมีทางแยก 2 ทางให้ชิดซ้าย 2 เลนริมสุดและเตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุวินทวงศ์

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุวินทวงศ์ มีสัญญาณไฟจราจรอยู่บริเวณแยก แต่ถ้าใครขึ้นสะพานมาตั้งแต่แรก ก็จะไม่ต้องติดตรงสัญญาณไฟตรงนี้

เลี้ยวเข้ามาถนนสุวินทวงศ์แล้ว ให้ตรงต่อไปเรื่อยๆค่ะ

ผ่าน Big C สุวินทวงศ์ก็เป็นอีกจุดที่แวะซื้อของหรือจะทานข้าวก็สะดวกก่อนกลับบ้าน

ทางเข้าโครงการจะต้องผ่านถนนหทัยราษฏร์ไปก่อนจึงค่อยๆชิดซ้ายไว้เตรียมตัวเลี้ยวเข้าถนนสามวา

ตรงไปเรื่อยๆโดยเราจะเลี้ยวซอยหลังจากผ่านถนนถนนหทัยราษฎร์ไปก่อนค่ะ พอผ่านแยกนี้ไปแล้วให้ชิดซ้าย

สังเกตป้ายไปเลี้ยวซ้ายไปโรงเรียนเอกบูรพาวิเทศศึกษา ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสามวา ฝั่งตรงข้ามจะมี Tesco Lotus ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ

เข้าถนนสามวามาแล้ว ก็จะมีร้านค้าเล็กๆน้อยด้านหน้าซึ่งสามารถมาใช้บริการได้สะดวก มีทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อและ Car Care ให้ตรงไปเรื่อยๆ โครงการเราจะอยู่ทางด้านขวามือค่ะ

ด้านในซอย ผ่าน 7-Eleven และร้านอาหารทั่วไปข้างทางหาซื้อของกินได้ไม่ยาก

นอกจาก 7-Eleven แล้ว เข้ามาอีกก็มี Tesco Lotus Express ร้านกาแฟ ร้านอาหารบริเวณนี้ด้วย แต่ระหว่างทางจะสังเกตเห็นรถบรรทุกอยู่บ้าง เป็นเพราะด้านในของซอยนี้นอกจากมีบ้านพักอาศัยแล้วยังมีคลังสินค้าอยู่ด้วย

เมื่อตรงเข้ามาเรื่อยๆจะเจอโครงการทางด้านขวามือมีซุ้มประตูขนาดใหญ่และป้ายโครงการสีส้มๆคอยบอกทางอยู่ค่ะ สามารถเลี้ยวเข้าโครงการได้เลย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงเรียนเอกบูรพา วิเทศศึกษา  50 เมตร
  • Tesco Lotus สุวินทวงศ์  1.4 กิโลเมตร
  • โรงเรียนพณิชยการ มีนบุรี  3.1 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลนวมินทร์  3.1 กิโลเมตร
  • ตลาดมีนบุรี  4.0 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ  5.1 กิโลเมตร
  • Big C สุขาภิบาล 3  5.9 กิโลเมตร
  • Amorini  5.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี 6 กิโลเมตร
  • The Promenade  8.9 กิโลเมตร
  • Fashion Island  9.0 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ 9.0 กิโลเมตร
  • ม.เทคโนโลยีมหานคร 17.3 กิโลเมตร
  • ม.เกษมบัณฑิต 19.9 กิโลเมตร

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ในพื้นที่บริเวณรอบๆโครงการ The Connect รามอินทรา-มีนบุรี 2 ทางทิศเหนือจะติดกับสนามไดร์ฟกอล์ฟมีนบุรี ไดร์ฟวิ่งเรนจ์ และโรงเรียนเอกบูรพาวิเทศศึกษา ซึ่งการจราจรด้านหน้าถนนสามวาก็จะหนาแน่นช่วงเวลาตอนเช้าและหลังเลิกเรียนเป็นประจำช่วงเปิดเทอม ด้านตรงข้ามทางทิศตะวันตก จะติดกับถนนสามวา กว้างประมาณ 8 เมตร สวนกัน 2 เลน ตรงข้ามถนนเป็นหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 27 ทิศใต้ติดกับโกดังสินค้าความสูงเทียบกับบ้านพักอาศัยประมาณ 3 ชั้นอาจจะบังแดดบางเวลาให้กับบ้านในโครงการที่อยู่ติดกับโกดัง แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ลมผ่านได้น้อยเช่นกันค่ะ ด้านหลังโครงการติดกับคลองสามวา กว้างประมาณ 30 เมตร สรุปได้ดังนี้ค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับโรงเรียนเอกบูรพาวิเทศศึกษา
  • ทิศใต้ ติดกับคลังสินค้า 2 อาคาร
  • ทิศตะวันออก ติดกับคลองสามวากว้างประมาณ 30 เมตร
  • ทิศตะวันตก ติดกับถนนสามวา และโครงการพฤกษาวิลล์มีนบุรี-สุขาภิบาล 2

ด้านหน้าโครงการฝั่งทิศเหนือติดร้านอาหาร ถัดไปเป็นโรงเรียนเอกบูรพาวิเทศศึกษา

ก่อนถึงโครงการทางทิศใต้เป็นคลังสินค้าความสูงเทียบเท่าที่อยู่อาศัยประมาณ 3 ชั้น

ด้านตรงข้ามทางทิศตะวันตก เป็นโครงการหมู่บ้าน พฤกษาวิลล์ มีนบุรี-สุขาภิบาล 2


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Connect รามอินทรา-มีนบุรี2 ประกอบด้วยทาวน์โฮมทั้งหมด 201 ยูนิต รวมอาคารพาณิชย์ด้านหน้า 8 ยูนิต ซึ่งจะอยู่ด้านนอกซุ้มประตูโครงการ แต่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ จ่ายค่าส่วนกลางเท่ากันและสามารถเข้ามาใช้สวนภายในได้ ซึ่งอาคารพาณิชย์ด้านหน้าโครงการจะมีถนนกว้าง 15.20 เมตร เพียงพอให้รถสามารถเข้ามาจอดได้ ถัดมาจะเป็นส่วนของซุ้มประตูด้านหน้าโครงการจะมี รปภ. ประจำอยู่ตลอด 24 ชม. สวนส่วนกลางจะอยู่บริเวณด้านหน้าติดกับสำนักงานขายซึ่งในอนาคตจะเปลี่ยนเป็นนิติบุคคล เมื่อเข้ามาในสวนจะทำให้รู้สึกร่มรื่นก่อนเข้าไปยังตัวบ้าน เมื่อถัดเข้ามาจะเป็นถนนหลักของโครงการซึ่งกว้าง 12 เมตร ถัดไปจะมีความกว้าง 9 เมตร และซอยย่อยกว้าง 9 เมตรทั้งหมด ซึ่งเป็นระยะที่ถ้ามีรถจอดชั่วคราวอยู่ด้านหน้าบ้านก็สามารถขับผ่านไป-มาได้สบาย

การวางผังบ้านจะแบ่งเป็นซอยย่อย โดยทางทิศใต้ในแต่ละซอยย่อยจะมีจำนวนยูนิตที่น้อยกว่า ทำให้มีความเป็นส่วนมากกว่า แนวบ้านส่วนใหญ่วางแนวทิศเหนือ-ใต้ ทำให้ไม่รับแดดร้อนในเวลากลางวันและได้รับลมดี แบบบ้านส่วนใหญ่ของโครงการเป็นบ้านทาวน์โฮม 1 ที่จอดรถ ซึ่งจะมีแบบบ้านทาวน์โฮม 2 ที่จอดรถอยู่แค่ที่เป็นสีส้มซึ่งจำนวนยูนิตไม่มากนักวางหันหน้าเข้าหากัน

ทางเข้าโครงการเป็นถนน 4 เลนเข้า-ออกอย่างละ 2 เลน ซึ่งค่อนข้างกว้างและเข้าสะดวก ทางเข้าสามารถเลี้ยวซ้ายไปยังส่วนอาคารพาณิชย์ได้ ซุ้มประตูของโครงการค่อนข้างใหญ่ มีหลังคากว้างบังแดดและฝนให้กับป้อมยามตรงกลาง ซึ่งจะแบ่งเป็นทางเข้า-ออกชัดเจน ทางเข้ามีช่องสำหรับลูกบ้านซึ่งสามารถแตะบัตรเข้าโครงการได้เลย ซึ่งเป็นระบบ Key Access ระยะใกล้ ถ้าเป็นผู้มาติอต่อจะต้องแลกบัตรก่อนเข้าโครงการ แต่ทางออกมีแค่เลนเดียว ซึ่งถ้าทำเป็น 2 เลนสำหรับลูกบ้านและผู้มาติดต่อเหมือนทางเข้าจะสะดวกกว่านี้ค่ะ

ด้านหน้าโครงการทางด้านขวาเป็นสวนหย่อมเล็กๆ มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นสบายตาก่อนเข้าโครงการ ป้ายชื่อโครงการ The Connect รามอินทรา-มีนบุรี 2 อยู่ด้านหน้าแต่ไม่สูงนัก มาจากไกลๆจะไม่เห็นค่ะ จะเห็นซุ้มประตูหน้าโครงการก่อน ซึ่งมีขนาดใหญ่สังเกตเห็นได้ง่าย

ทางด้านหน้าฝั่งซ้ายของโครงการเป็นส่วนของอาคารพาณิชย์ 8 ยูนิต ถนนด้านหน้ากว้าง 15.20 เมตร ซึ่งสามารถจอดรถได้ สำหรับลูกค้าที่มาใช้อาคารพาณิชย์ แต่ไม่ต้องผ่านซุ้มประตูของโครงการทำให้ลูกบ้านภายในโครงการมีความเป็นส่วนตัวและไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย

ทางเข้าโครงการแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ด้านขวาเป็นทางเข้าสำหรับผู้มาติดต่อ จะต้องแลกบัตรมีกล้อง CCTV ตรวจเช็ครถที่เข้า-ออกตลอดเวลา ด้านซ้ายเป็นทางเข้าสำหรับลูกบ้านที่มี Key Card Access สามารถแตะบัตรเข้าโครงการได้เลยไม่ต้องรอแลกบัตร ซึ่งจะสามารถทำให้เข้าโครงการได้สะดวก

เมื่อเข้ามาภายในโครงการแล้วด้านซ้ายมือจะเป็นบ้านตัวอย่าง ซึ่งจะมีทั้ง 2 แบบคือ ทาวน์โฮม 1 ที่จอดรถ และแบบ 2 ที่จอดรถ ฝั่งขวาเป็นสวนหย่อมภายในโครงการ ศาลานั่งเล่น สนามเด็กเล่น และสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตจะเป็นนิติบุคคล ถนนหลักของโครงการด้านหน้ากว้าง 12 เมตร  ซึ่งถ้ามีรถจอดชั่วคราวเพื่อมาติดต่อสำนักงานขายก็ยังขับสวนทางกันได้สบายๆค่ะ

สวนหย่อมของโครงการ จะมีที่ด้านหน้าเพียงจุดเดียว มีต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่น ศาลาสำหรับนั่งพักผ่อน อาจจะใช้นั่งรอลูกมาเล่นสนามเด็กเล่นก็ได้ค่ะ

สนามเด็กเล่น ทำหญ้าเทียมสีสันสดใสไว้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยดี ทำให้ไม่เลอะเทอะเหมือนกับพื้นหญ้าจริง มีเครื่องเล่นม้าโยก 3 ตัว และบ้านเด็กเล่นสำหรับเด็กปีนป่าย 1 หลัง หรือถ้าเด็กไม่อยากเล่นของเล่นที่โครงการก็มีพื้นที่สนามหญ้าให้วิ่งเล่นได้เหมือนกันค่ะ

ศาลากลางสวน มีหลังคาคลุม ช่วยกันแดดและฝน สามารถออกมานั่งเล่นกินลมชมวิว อ่านหนังสือหรือดูเด็กๆวิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่นได้

พื้นที่สนามหญ้าด้านหลังมีทางเดินล้อมรอบ ตรงสุดทางเป็นลานคอนกรีตสามารถมานั่งปิคนิค เป็นกิจกรรมยามเย็นให้คนในครอบครัวมีเวลาให้กันมากขึ้นค่ะ

มาดูส่วนสำนักงานขายกันบ้าง ด้านหน้ามีน้ำพุให้บรรยากาศผ่อนคลาย พร้อมเสียงน้ำไหล อาคารสำนักงานขายเมื่อขายหมดแล้วจะกลายเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว ล้อมรอบด้วยกระจกทั้ง 3 ด้าน มีห้องน้ำแยกออกมาทางขวามือ คนที่มาใช้สนามหญ้า หรือสนามเด็กเล่นก็สามารถมาเข้าได้ค่ะ

บรรยากาศด้านข้างสำนักงานขาย ร่มรื่นน่ามานั่งเล่นพักผ่อน

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย

ถัดมาด้านในโครงการ ถนนกว้าง 9 เมตร เท่ากับซอยย่อยๆ ซึ่งกว้างพอสำหรับรถวิ่งสวนกันได้สบายๆ ภายในโครงการดูแห้งแล้งไปหน่อย แต่บ้านแต่ละหลังก็สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ที่รากไม่ทำลายบ้านให้ความร่มรื่นได้ เช่น ลีลาวดี หรือต้นไม้จำพวกปาล์ม เช่น อินทผาลัม, ฟอกซ์เทล, หมากแดงหรือหมากเหลือง เป็นต้น

ซอยย่อยของโครงการ ซึ่งเป็นซอยที่มียูนิตไม่มาก(ประมาณ 6 ยูนิตต่อซอย) ทำให้ลูกบ้านมีความเป็นส่วนตัวไม่มีคนผ่านหน้าบ้านบ่อยๆ ถนนของซอยย่อยกว้าง 9 เมตร มีรถมาจอดชั่วคราวหน้าบ้านก็สามารถขับเข้า-ออกได้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนสาธารณะ
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • ถนนหลักกว้าง 12.7 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.


Product Walkthrough

บ้านในโครงการ The Connect รามอินทรา-มีนบุรี 2 เป็นบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น มีการออกแบบที่คำนึงถึงการลดความร้อนภายในอาคาร Fresh Air System โดยการติดตั้งช่องระบายอากาศอยู่ในทุกๆพื้นที่ เช่น ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องนอนทุกห้อง ห้องน้ำ ซึ่งเป็นจุดเด่นของโครงการที่นำเอาเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการออกแบบ ช่วยให้บ้าน อากาศถ่ายเท ไม่อับ ประหยัดไฟ และลดอุณหภูมิภายในบ้านลง 1 องศา แต่เมื่อเข้าไปแล้ว เรื่องอุณหภูมิไม่ค่อยรู้สึกถึงความแตกต่างเท่าไหร่ค่ะ

แบบแรกที่เราจะมาดูกันเป็นแบบบ้านที่มีเยอะที่สุดในโครงการ คือ ทาวน์โฮม หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดิน 17.80 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 95.02 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถ 1 คัน หลังคาเป็นแบบปั้นหยา มีข้อดีคือสามารถระบายน้ำฝนได้ดี เพราะมีพื้นที่ใต้หลังคาเป็นตัวกักความร้อน ทำให้อากาศด้านในบ้านไม่ร้อนจนเกินไปในเวลากลางวัน ซึ่งทาวน์โฮมโดยทั่วไปที่เห็นกันมักจะเป็นหลังคาแบบเพิงหมาแหงน มีพื้นที่ใต้หลังคาน้อยและระบายน้ำฝนไปหลังบ้านอย่างเดียว เราไปดูพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านกันค่ะ

ทาวน์โฮมแบบ 1 พื้นที่ใช้สอย 95.02 ตร.ม. ที่ดิน 17.80 ตร.วา 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถ 1 คัน – ทางเข้า-ออกหลักจะอยู่ที่หน้าบ้านทางเดียว โดยจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกทำให้ด้านหน้าบ้านดูโปร่ง พื้นที่ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่กินข้าว มีส่วนครัวอยู่ติดกับห้องน้ำ ส่วนซักล้างจะเป็นลานคอนกรีตด้านหลังบ้านเป็นโครงสร้างคอนกรีตบนเสาเข็ม (ส่วนครัวด้านหลังสุดของแปลนเป็นพื้นที่ครัวต่อเติมที่ลานซักล้าง ซึ่งที่โครงการจะไม่ได้ก่อสร้างให้) ห้องน้ำด้านล่างมีฝักบัว สำหรับอาบน้ำได้ แต่ไม่ได้แยกส่วนเปียก-แห้งชัดเจน  ชั้นบนเป็นห้องนอนทั้งหมด มีห้องน้ำ 1 ห้อง สำหรับใช้ร่วมกัน ห้องนอน Master Bedroom อยู่คนละฝั่งกับห้องนอนเล็กทำให้มีความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet และมีช่องแสงบานใหญ่ในห้อง สามารถมองออกมาเห็นวิวหน้าบ้านได้

พื้นที่ด้านหน้าทางเข้าบ้านโรยด้วยกรวด แนะนำให้ปูหญ้าหรือปลูกต้นไม้ช่วยให้ร่มเงากับบ้านและสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นได้ โครงสร้างพื้นตรงลานจอดรถด้านหน้า เป็นพื้นคอนกรีตเทบนดิน รั้วบ้านสูง 1.5 เมตร ซึ่งไม่สูงเท่าไหร่นัก ตอนเช้าๆอาจจะเห็นเพื่อนบ้านออกมาล้างรถก็สามารถทักทายกันได้ค่ะ

รั้วบ้านเป็นรั้วระแนงเหล็กสีดำบานพับเปิด 2 ข้างข้างละ 2 ตอน มีจุดล็อคตรงกลาง เปิดออกภายนอก จอดรถยนต์ได้ 1 คัน และมีพื้นที่สำหรับจอดรถจักรยานหรือจักรยานยนต์ได้อีก ด้านหน้าสามารถต่อเติมกันสาดรถยนต์ได้อีก 1 คันบริเวณทางเข้าบ้านเพื่อช่วยกันแดดและฝน และลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านในเวลากลางวัน

ด้านหน้าบ้านมีไฟโคมมาให้ 1 ดวง พร้อมกับกริ่ง และถังขยะด้านล่าง ไม่มีตู้จดหมายมาให้ แต่สามารถซื้อมาติดตั้งเองได้บริเวณข้างๆกับกริ่งค่ะ ถังขยะสามารถเปิดทิ้งจากด้านใน ด้านในจะเป็นฝาด้านบนเพื่อให้ใส่ขยะได้ง่าย ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มาเก็บขยะจะเป็นจากข้างนอกด้านหน้าบ้าน ข้อดีคือความสะดวก เราไม่จำเป็นต้องเปิดประตูหน้าบ้านเพื่อทิ้งขยะ และดูเรียบร้อย ไม่ต้องมีถังขยะรวมอยู่หน้าบ้านใช้ร่วมกับเพื่อนบ้านซึ่งช่วยลดปัญหาระหว่างลูกบ้านในหลายกรณี เช่น ทิ้งขยะไม่ลงถังทำให้เลอะมาถึงหน้าบ้าน ขยะส่งกลิ่นเหม็น เป็นต้น

ด้านหน้าทางเข้าบ้าน เป็นประตูบานเลื่อนกระจก พื้นยกระดับประมาณ 15 เซนติเมตรสามารถวางชั้นวางรองเท้า เป็นพื้นที่ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน ช่วยไม่ให้ฝุ่นผงบริเวณพื้นเข้ามายังประตูบ้านได้ ที่จอดรถมีช่องแสงด้านในบริเวณบันไดที่สามารถมองออกมาเห็นข้างนอกได้ ด้านขวาล่างเป็นช่องสำหรับเก็บของเป็นพื้นที่ใต้บันได ช่วยให้ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า

บริเวณที่จอดรถมีช่องเก็บของบานประตู PVC สามารถเก็บของได้พอสมควร เช่น กระเป๋าเดินทาง เครื่องดูดฝุ่น ไม้กวาด ไม้ถูพื้น เป็นต้น

เมื่อเข้ามาในตัวบ้าน จะเจอกับห้องรับแขกก่อน ซึ่งพื้นที่ห้องรับแขกกับพื้นที่รับประทานอาหารจะเชื่อมกัน ทำให้บ้านดูโล่ง ไม่อึดอัด ถ้าเป็นบ้านแปลงมุมจะได้ช่องแสงด้านข้าง ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าถึงบ้านไม่มืดลดการใช้แสงจากหลอดไฟ

บริเวณห้องนั่งเล่นได้แสงธรรมชาติจากประตูทางเข้าด้านหน้า ทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ดูโปร่งโล่งและสามารถนั่งชมวิวได้อีกด้วย ระยะดูทีวีประมาณ 2.6 เมตร สามารถดู TV ขนาด 32 – 42 นิ้วได้พอดี สามารถวางโซฟาได้ตั้งแต่ 2 – 4 ที่นั่ง ถ้าวางโซฟา 2 ที่นั่งก็จะมีพื้นที่ด้านข้างวางโต๊ะเล็กๆสำหรับชุดโฮมเทียเตอร์ หรือแจกันประดับข้างโซฟาได้

ในห้องตัวอย่างจะมี Partition ผนังยื่นออกมากั้นระหว่างห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหารแต่ของจริงไม่ได้มีให้นะคะ ทำให้ได้พื้นที่โล่ง จะสามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ทำงานก็ได้ ด้านหลังเป็นประตูกระจกบานเลื่อน สามารถเห็นวิวและรับแสงจากด้านหลังบ้านได้ ซึ่งเข้า-ออกสะดวก เนื่องจากเป็นประตูแบบเดียวกับทางด้านหน้าเลย

เมื่อเข้าผ่านห้องรับแขกมาแล้วจะเจอกับบันไดทางขึ้นชั้น 2 อยู่ทางด้านขวามือ ถัดไปเป็นพื้นที่ห้องน้ำและครัวตามลำดับ พื้นที่ตรง Partition ของจริงไม่ได้มีให้ สามารถทำเป็น Function อื่นได้ อย่างที่บอกไปแล้วว่าอาจจะใช้เป็นพื้นที่ตั้งโต๊ะทำงาน เป็นต้น

พื้นที่ห้องรับประทานอาหารสามารถนั่งได้ทั้งหมด 6 คน(ข้างละ 2 และหัว-ท้าย) แต่จากขนาดของบ้านอาจจะเหมาะสมกับการอยู่อาศัยประมาณ 4 คน โดยพื้นที่รับประทานอาหารจะติดกับครัว (ด้านข้าง) เวลาทำอาหารเสร็จ ก็ยกมาวางบนโต๊ะได้เลยไม่ต้องยกไกล เราไปดูพื้นที่ครัวกันค่ะ

ห้องนี้ทางโครงการจัดเป็นห้องนั่งเล่นแต่สามารถทำเป็นครัวได้เช่นกัน มีงานระบบเตรียมไว้ให้พร้อม สำหรับติดตั้งอ่างล้างจาน ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นห้องทำงาน หรือ ห้องนอนผู้สูงอายุได้ มีช่องแสงระบายอากาศ 1 จุด ทางฝั่งขวาเป็นห้องน้ำใช้ร่วมกันของชั้นล่าง

โคมไฟที่ทางโครงการให้เป็นโคม Down Light ทรงสี่เหลี่ยม ให้แสงนวลตา และบนฝ้าเพดานบริเวณส่วนรับประทานอาหาร โครงการได้ติดตั้ง เครื่องตรวจจับสัญญาณควัน (Smoke Detector ) ช่วยแจ้งเตือนในกรณีเกิดอัคคีภัยด้วย

พื้นที่ตรงส่วนครัว ควรจะวางชุดครัวเป็นรูปตัว I หรือ L ชิดผนังด้านในเพื่อไม่ให้กินพื้นที่มาก และใช้งานสะดวก

รูปนี้เป็นบ้านมาตรฐานที่ลูกบ้านจะได้ ด้านหน้าห้องน้ำโครงการติดตั้งถังดับเพลิงมาให้ แสดงถึงการคำนึงและใส่ใจลูกบ้านด้านการป้องกันอัคคีภัย แต่ถ้าใครคิดว่าติดตั้งตรงนี้แล้วไม่สวย อาจจะขวางทางเดินเข้าห้องน้ำ ก็สามารถย้ายที่ไปอยู่ส่วนครัว หรือทางด้านหลังบ้านก็ได้ค่ะ

มาดูห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำในบ้านหลังนี้จะมี 2 ห้อง คือด้านบน 1 ห้อง และด้านล่าง 1 ห้อง ซึ่งเวลาอาบน้ำอาจจะต้องคอยกัน แต่ห้องน้ำชั้นล่างเขาก็มีฝักบัวมาให้อยู่ที่ผนังฝั่งโถสุขภัณฑ์ ไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ อาจจะทำให้เวลาอาบน้ำ พื้นจะเปียกเกือบทั้งหมด แนะนำให้ใช้เฉพาะตอนที่จำเป็น เวลาปกติทั่วไปควรใช้ห้องน้ำด้านบนอาบน้ำค่ะ

พื้นห้องน้ำลดระดับลงประมาณ 5 เซนติเมตร ไม่ให้น้ำไหลไปยังห้องอื่นๆ เวลาล้างห้องน้ำหรือตอนพื้นเปียก

มาดูที่วัสดุกันบ้างค่ะ เราจะได้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวมาพร้อมกับกระจกบานสูง คนที่ตัวเล็กก็สามารถส่องเห็นได้ไม่ต้องยืดตัวค่ะ กระเบื้องผนังกรุกระเบื้องเซรามิค สีน้ำตาลผิวด้านขนาด 30x 30 เซนติเมตร   และด้านหลังกระจกเป็นกระเบื้องเซรามิคสีขาว ลายตารางสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 30x 30 เซนติเมตร

อ่างล้างหน้าเซรามิคสีขาว ของ Kohler ก็อกอ่างล้างหน้าของ Englefield และโถสุขภัณฑ์ Kohler หรือเทียบเท่า มีระยะเหลือทั้งสองด้านพอดีๆ

ส่วนอาบน้ำชั้นล่าง ฝักบัวติดผนังมาให้ แต่ไม่ได้เดินระบบเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้นะคะ ต้องติดตั้งเอง ดีไซน์ฝักบัวมาตรฐานทั่วไปจับใช้งานสะดวก ยี่ห้อ Karat , Englefield หรือเทียบเท่า

พื้นที่ส่วนอาบน้ำจะค่อนข้างเล็กและไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ถ้าต้องการอาบน้ำชั้นล่างจริงๆ แนะนำให้ติดม่านพลาสติก เพราะว่าไม่กินพื้นที่ เวลาเปิดก็สามารถใช้โถสุขภัณฑ์ได้

มาดูทางด้านนอกกันบ้าง ครัวนี้เป็นส่วนที่ทางโครงการต่อเติมขึ้นมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ของจริงจะเป็นพื้นที่ซักล้างโล่งๆด้านหลังบ้านนะคะ โครงสร้างที่ให้มาเป็นพื้นคอนกรีตลงเสาเข็มมาให้ ต่อเติมแล้วไม่ทรุด แต่ก็ต้องคำนึงถึงความยินยอมของเพื่อนบ้านด้วยค่ะ

เปรียบเทียบให้ดูระหว่างบ้านตัวอย่างที่ต่อเติม(ด้านซ้าย) และบ้านที่ได้จริง (ด้านขวา) ซึ่งจะได้เป็นพื้นที่โล่ง พื้นคอนกรีตลงเสาเข็ม และรั้วด้านหลังบ้านสูงประมาณ 3 เมตร

เปรียบเทียบระหว่างบ้านตัวอย่างที่ต่อเติม(ด้านซ้าย) และบ้านที่ได้จริง (ด้านขวา) พื้นที่ต่อเติมด้านหลังสามารถทำเป็นครัวและส่วนซักล้าง หรือจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่เจ้าของบ้านอยากได้เพิ่มเติมก็ได้ เช่น ห้องทำงาน สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ทำงานส่วนตัว โดยไม่ต้องการพื้นที่ครัวมากนัก

เราดูด้านล่างกันไปครบแล้ว ไปดูชั้น 2 กันค่ะ บันไดทางขึ้นชั้น 2 โครงสร้าง Precast  ซึ่งเป็นมาตรฐานจากโรงงานไม่ต้องห่วงว่าช่างจะทำไม่ดีหรือเปล่า ขนาดบันไดกว้าง 0.90 เมตร สามารถเดินได้สบาย มีราวจับแค่ช่วงผนังด้านซ้าย และมีอีกทีด้านบนเลยค่ะ

พื้นบันไดเป็นพื้นไม้ยางพาราประสาน เมื่อขึ้นมาจะเจอกับขั้นบันไดแบบสามเหลี่ยมเพื่อเปลี่ยนทิศทางของบันได ตรงนี้ต้องเดินระวังหน่อยเพราะเดินเร็วๆอาจจะสะดุดได้

พอเดินขึ้นมาจะมีขั้นบันไดแบบสามเหลี่ยมเพื่อเปลี่ยนทิศทางของบันได บริเวณนี้ต้องเดินระวังนิดนึงค่ะ

บริเวณนี้โปร่งฝ้าสูงสามารถติดไฟตกแต่งห้องลงมาได้ และมีช่องแสงที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ด้วย แต่ของจริงแสงไม่ค่อยลงมาเท่าไหร่ เวลาเดินลงบันไดอาจจะต้องเปิดไฟช่วยให้มองเห็นสว่างขึ้น พื้นชั้น 2 เป็นพื้นลามิเนตลายไม้ค่ะ

เมื่อขึ้นมายังชั้น 2 จะเจอกับห้องน้ำตรงกลางและห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ฝั่งซ้ายเป็น Master Bedroom ฝั่งขวาเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ซึ่งการแยกฝั่งแบบนี้ทำให้ห้อง Master Bedroom มีความเป็นส่วนตัว นอกจากนั้นยังมีช่องระบายอากาศ คอยหมุนเวียนอากาศในบ้านกับภายนอก ทำให้มีอากาศที่ถ่ายเท หายใจออกแม้ว่าไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ และนอกจากนั้นยังมีช่องระบายอากาศเล็กที่ห้องนอนทุกห้อง(ติดเหนือประตูห้อง) ระบายออก 2 ด้าน ทั้งด้านในบ้านและนอกบ้าน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่โครงการมีให้ค่ะ

ลักษณะช่องระบายอากาศ ช่องใหญ่(รูปบน) จะอยู่ตรงพื้นที่ต้องการระบายอากาศเยอะๆ เช่นห้องน้ำ และช่องระบายอากาศช่องเล็ก(ด้านล่าง)จะติดอยู่ที่ห้องนอนทุกห้อง แมลงเข้าไม่ได้ค่ะ

ห้องน้ำชั้น 2 นี้มีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกันอาบน้ำให้โดยวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิค สีน้ำตาลผิวด้านขนาด 30x 30 เซนติเมตร   ช่วยให้ไม่ลื่นมากนักเวลาเปียกน้ำ ผนังฝั่งอ่างล้างหน้าเป็นกระเบื้องเซรามิคเงาสีขาว ขนาด 30x 30 เซนติเมตร 

พื้นห้องน้ำลดระดับลงประมาณ 5 เซนติเมตร ไม่ให้น้ำไหลไปยังห้องอื่นๆ เวลาล้างห้องน้ำหรือตอนพื้นเปียก ซึ่งพื้นลามิเนตไม่ควรโดนน้ำค่ะ จะทำให้พื้นบวมได้

เราจะได้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวมาพร้อมกับกระจกบานสูง และอ่างล้างหน้าเหมือนกับที่ชั้นล่างเลยค่ะ

อ่างล้างหน้าเซรามิคสีขาว ของ Kohler ก็อกอ่างล้างหน้าของ Englefield และโถสุขภัณฑ์ Kohler หรือเทียบเท่า มีระยะเหลือทั้งสองด้านพอดีๆ ได้ลองนั่งแล้วสามารถนั่งได้สบายๆค่ะ

ห้องน้ำห้องนี้มีพื้นที่อาบน้ำ ประมาณ 90 x 90 เซนติเมตร ซึ่งสามารถอาบได้สบาย ประตูฉากกั้นเป็นบานเปิด 2 บาน เปิดมุมตรงกลาง มีขอบกั้นไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาสูงประมาณ 3 เซนติเมตร และมีช่องแสงรับแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคในห้องน้ำ และสามารถระบายอากาศออกด้านนอกได้

ฝักบัวที่ห้องอาบน้ำชั้น 2 ก็เหมือนกับชั้นแรก ไม่มีระบบติดตั้งรองรับการติดเครื่องทำน้ำอุ่น แต่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมเองได้

มาดูที่ห้องนอนเล็กกันบ้างค่ะ ห้องนอนนี้เหมาะสำหรับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต และการวางเตียงชิดขอบผนังทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น สำหรับแต่งตัว หรือวางโต๊ะเขียนหนังสือได้

ห้องนี้จะได้หน้าต่างกระจกบานเลื่อนได้รับแสงธรรมชาติ และมีช่องระบายอากาศออกด้านนอกที่มุมห้อง แมลงไม่สามารถเข้ามาได้ ถ้าบ้านเป็นแปลงมุมแบบในห้องตัวอย่างจะได้หน้าต่างทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ 

พื้นที่ด้านข้างจะทำเป็นพื้นที่แขวนเสื้อผ้า หรือจะเป็นโต๊ะอ่านหนังสือก็ได้เช่นกัน แต่สำหรับคนที่วางเตียงไว้ตรงกลางทั้งสองข้างไม่ติดผนัง อาจจะมีพื้นที่ด้านข้างเตียงไม่พอวางโต๊ะเขียนหนังสือ ก็ใช้เป็นพื้นที่ปลายเตียงได้ค่ะ

ห้องนอนเล็กห้องที่ 2 ตกแต่งเป็นห้องเด็กผู้หญิงน่ารักสดใส ซึ่งห้องนี้ขนาดจะพอๆกับห้องนอนเล็กแบบแรกจะมีด้านยาวยาวขึ้นอีกเล็กน้อย ประมาณ 55 เซนติเมตร มีช่องแสงเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อนได้รับแสงธรรมชาติ และมีช่องระบายอากาศออกด้านนอกที่มุมห้อง แมลงไม่สามารถเข้ามาได้ ถ้าบ้านเป็นแปลงมุมแบบในห้องตัวอย่างจะได้หน้าต่างทั้ง 2 ฝั่ง เช่นกันกับแบบแรก

ซึ่งห้องนี้เหมาะสำหรับเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต วางชิดริมผนังเพื่อให้ได้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้น

มาดูที่ห้อง Master Bedroom กันบ้าง โดยห้องนี้จะได้ช่องแสงที่ใหญ่กว่าทั้ง 2 ห้อง และห้องตัวอย่างจะกั้น Partition ไว้เป็นชั้นวาง TV แยกพื้นที่ระหว่างส่วนนอกและส่วน Walk-in Closet

พื้นที่ในห้อง Master Bedroom มีขนาดกว้างขึ้นกว่าห้องอื่นๆ ทำให้สามารถวางเตียง King Size แล้วยังมีพื้นที่เดินได้รอบ สามารถวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆเพิ่มเติมได้

ด้านปลายเตียงก็มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง เมื่อกั้นผนังแบบห้องตัวอย่าง(ของจริงไม่ได้กั้นให้)สามารถวางโต๊ะทำงานได้

Walk-in Closet บ้านมาตรฐานไม่ได้กั้นมาให้ เราสามารถกั้นเพิ่มเองได้ ทำให้การใช้งานเป็นสัดส่วนมากขึ้น แต่ห้อง Master Bedroom ไม่ได้มีห้องน้ำแยกให้ จะต้องไปใช้ร่วมกันกับห้องอื่นๆ ซึ่งอาจจะเสียความเป็นส่วนตัวเล็กน้อย 

ตรงส่วน Walk-in Closet ก็มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถแต่งตัวแล้วหมุนตัวส่องกระจกได้ครบทุกองศา และยังมีแสงธรรมชาติเข้ามายังหน้าต่างด้านข้างได้ ทำให้เราไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวันก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดไฟขึ้นเยอะเลย

ตรงช่องแสงในพื้นที่ Walk in Closet มีระเบียงเล็กๆ ซึ่งเป็นพื้นที่วาง Condensing Unit ไม่สามารถออกไปใช้งานได้จริงค่ะ

ลักษณะของปลั๊กและสวิสซ์ไฟที่ได้ในบ้านวัสดุเป็น PVC สีขาว ยี่ห้อ Schneider หรือเทียบเท่าค่ะ

มาดูบ้านอีกแบบของโครงการกันค่ะ บ้านแบบที่ 2 นี้เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 109.72 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน ที่ดินเริ่มต้น 20.3 ตารางวา มีหลังคาทรงปั้นหยาเหมือนกันกับบ้านหลังแรก มีข้อดีคือช่วยให้ด้านในบ้านไม่ร้อนและสามารถระบายน้ำฝนได้ดีค่ะ

การจัดวางพื้นที่ใช้สอยของบ้านหลังนี้คล้ายกับแบบแรก แตกต่างกันที่เมื่อเข้าบ้านไปแล้ว จะเจอกับผนังตรงกลางทำให้พื้นที่ตรงทางเข้ากลายเป็นโถงก่อนเลี้ยวไปยังส่วนต่างๆของบ้าน โดยทางเข้าเป็นประตูบานเปิด ทำให้วางโซฟาตัวใหญ่เข้ามุมได้ พื้นที่ห้องรับแขกเชื่อมต่อกับพื้นที่กินข้าวและครัว ในผังอันนี้ด้านหลังเขาวางเฟอร์นิเจอร์เป็นครัวให้ ซึ่งของจริงที่ลูกบ้านจะได้เป็นพื้นคอนกรีตลงเสาเข็มไว้ให้เฉยๆค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างของบ้านหลังนี้แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน สามารถใช้อาบน้ำได้สะดวก ส่วนพื้นที่ใช้สอยด้านบนจะเหมือนกับแบบแรกเลย ต่างกันที่รายละเอียดเล็กน้อย ตัวบ้านจะเป็นยังไงไปดูกันเลยค่ะ

เมื่อมองจากด้านหน้าของบ้านจะเห็นว่าชั้นล่างถูกดันเข้าไปใต้ชั้นที่ 2 ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างสำหรับจอดรถได้ ซึ่งช่วยกันแดดและฝนในระดับนึงด้วย แต่ถ้าใครที่อยากให้บ้านดูร่มและกันแดดกันฝนได้ทั้งคันแนะนำให้ติดกันสาด หรือทำหลังคาลานจอดรถเพิ่มเติม ด้านหน้าบ้านมีโคมหลังละ 1 โคมพร้อมกับกริ่งและถังขยะ ให้แบบในรูปทุกหลังค่ะ

รั้วเป็นรั้วเหล็กระแนง สีดำแนวตั้ง บานพับข้างละ 2 ตอนล็อคตรงกลางเหมือนกับบ้านแบบแรก โดยการเอารถเข้า 2 คันจะต้องเปิดประตูให้สุดทั้ง 2 ข้าง

ด้านหน้าจะมีแค่โคมไฟ กริ่ง และถังขยะให้เท่านั้นนะคะไม่มีตู้จดหมาย แต่ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านทั่วไป มีถังขยะที่ทิ้งจากด้านในได้เลย แล้วเจ้าหน้าที่จะนำขยะไปทิ้งโดยการเปิดออกจากด้านนอก ทำให้ทิ้งขยะสะดวกขึ้นไม่ต้องไปทิ้งรวมที่ส่วนกลาง

ที่จอดรถจอดได้ทั้งหมด 2 คันเป็นพื้นคอนกรีตเทบนดิน บ้านแปลงมุมจะได้พื้นที่ด้านข้างเป็นที่ดินโล่ง แนะนำให้ปลูกต้นไม้ปูหญ้าเพิ่มความร่มรื่นให้กับตัวบ้านค่ะ นอกจากจะช่วยให้สบายตา บังสายตาจากภายนอก กรองฝุ่นชั้นนึงแล้ว ยังช่วยลดอุณหภูมิในตัวบ้านให้เย็นขึ้นด้วยค่ะ

ถัดมาที่หน้าบ้าน ประตูทางเข้าจะเป็นประตูบานเปิด มีหน้าต่างบานกว้างสามารถมองออกมานอกบ้านได้ เป็นหน้าต่างบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีขาว และหน้าต่างบานเล็กตรงบริเวณบันได สามารถมองออกมาหน้าบ้านได้เช่นกันค่ะ ก่อนทางเข้าบ้านจะมีพื้นยกระดับจากพื้นที่จอดรถประมาณ 10 เซนติเมตร ช่วยกันไม่ให้ฝุ่นเข้ามาในบ้าน สามารถวางชั้นวางรองเท้า ชั้นเก็บของไว้ใช้งานให้เท้าไม่เลอะฝุ่นจากลานจอดรถด้วยค่ะ

ลูกบิดของบ้านจะได้เป็นแบบที่จับ ด้านนอกต้องไขกุญแจ ส่วนด้านในเป็นลูกบิดล็อค

ภายในบ้านก็จะยกระดับสูงขึ้นอีกประมาณ 5 เซนติเมตร ช่วยกันฝุ่นอีกขั้นหนึ่งก่อนเข้าบ้าน ซึ่งพื้นภายนอกจะเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิค สีเทาผิวด้านขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ภายในปูกระเบื้องเกรนิตโต้สีขาวครีมผิวมัน ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

เมื่อเข้ามาได้บ้าน สามารถขึ้นข้างบนชั้น 2 ได้เลย เนื่องจากบันไดจะอยู่ด้านหน้าทางซ้ายมือ แต่สำหรับคนที่จะใช้งานพื้นที่ชั้นล่าง จะเจอกับส่วนโถงเล็กๆก่อนเข้าห้องรับแขก พื้นที่ตรงนี้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย เช่น เป็นพื้นที่วางรองเท้าจะได้หยิบใส่สะดวกก่อนออกจากบ้าน หรือเป็นพื้นที่วางของสะสม กลับจากที่ทำงานมาเจอของสะสมของตัวเองให้รู้สึกชื่นใจ หรือจะเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้ง งานศิลปะ ก็ได้เช่นกัน

เมื่อเข้ามาในบ้านแล้วจะเจอกับห้องรับแขก เชื่อมต่อไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งระยะระหว่างชุดรับแขกและโต๊ะกินข้าวห่างกันพอสมควร สามารถดันโต๊ะกินข้าวให้ไปด้านหลังอีกหน่อย แล้วใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่นั่งทำงาน หรือพื้นที่เล่นโยคะ ก็ได้ค่ะ ตรงส่วนโต๊ะกินข้าวได้รับแสงธรรมชาติจากทางประตูด้านหลังและหน้าต่างทางด้านข้าง (หน้าต่างด้านข้างได้เฉพาะแปลงมุม) ทำให้ในเวลากลางวันอาจจะไม่ต้องเปิดไฟเลยค่ะ

เมื่อมองย้อนกลับไปทางด้านหน้าประตู หน้าต่างด้านหน้าบ้านจะได้บานใหญ่กว่าหน้าต่างทั่วไป เพื่อให้รับแสงได้มาก เพิ่มมุมมองทำให้บ้านดูโปร่ง ไม่อึดอัด และการที่มีทางเข้าเป็นประตูบานเปิดอยู่ด้านข้างทำให้มีพื้นที่ในการจัดวางโซฟาขนาดใหญ่ ไม่ขวางทางเดิน

ส่วนรับประทานอาหารต่อเนื่องกันกับครัว ใช้งานสะดวก เหมาะกับการใช้งานประมาณ 4 ที่นั่ง

ส่วนครัวจะเชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร มีหน้าต่างบานเลื่อน 2 ตอน 1 บาน สามารถเปิดระบายอากาศเวลาทำครัวได้ รูปด้านซ้ายเป็นห้องตัวอย่างและด้านขวามือคือห้องที่ได้จริง จะมีถังดับเพลิงให้ด้วย เหมือนกับหลังแรกที่เราไปดูกันมาค่ะ

ต่อมาเราจะไปดูที่ห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องปกติประมาณ 2 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้น้ำไหลออกไปยังห้องอื่นๆ กระเบื้องปูพื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 เซนติมเมตร

ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน พื้นที่อาบน้ำ ประมาณ 1 x 1 เมตร ซึ่งอาบได้สบาย แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาด้านนอกตรงหน้าอ่างล้างมือ ฝ้าพื้นที่อาบน้ำสูง 2 เมตร คนที่ตัวสูงมากๆอาจจะรู้สึกอึดอัดนึดนึงค่ะ ส่วนสุขภัณฑ์จะอยู่ทางด้านขวา ระยะที่นั่งสามารถนั่งได้สบายไม่อึดอัด ห้องน้ำห้องนี้ไม่มีช่องระบายอากาศไปด้านนอก วิธีแก้ไขห้องน้ำมีกลิ่นอับหรือไม่พึงประสงค์ให้ใช้สเปรย์ดับกลิ่น หรือน้ำหอมมาตั้งไว้ในห้องน้ำค่ะ

อ่างล้างหน้าเซรามิคสีขาว ของ Kohler ก็อกอ่างล้างหน้าของ Englefield และโถสุขภัณฑ์ Kohler หรือเทียบเท่า มีระยะเหลือทั้งสองด้านพอดีๆ

ฝักบัวมาตรฐานทั่วไปจับใช้งานสะดวก ยี่ห้อ Karat , Englefield หรือเทียบเท่า ไม่ได้มีการเดินท่อสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้ค่ะ แต่มีที่วางสบู่อันเล็กๆมาให้ 1 จุด ถ้าใครมีของใช้ในห้องน้ำเยอะหน่อยแนะนำให้ติดชั้นวางเพิ่มเติมตรงมุมห้องค่ะ

มาดูส่วนซักล้างหลังบ้านกันบ้าง ด้านหลังบ้านที่ได้จริงคือเป็นพื้นคอนกรีตลงเสาเข็มไว้ให้แบบภาพด้านขวาค่ะ ซึ่งห้องตัวอย่างได้ต่อเติมเป็นส่วนนั่งเล่นพักผ่อนหลังบ้าน

อีกด้านนึงเป็นพื้นที่ตั้งถังเก็บน้ำและปั้มที่โครงการให้มา ด้านล่างเป็นพื้นที่ Service ของถังบำบัด อาจจะต่อเติมแบบบ้านตัวอย่างไม่ได้ค่ะ

เราขึ้นไปดูชั้นบนกันค่ะ บันไดขึ้นชั้น 2 จะมีผนังกั้นสูงถึงฝ้าเพดาน พื้นที่ใต้บันไดเป็นห้องเก็บของ ซึ่งต่างจากแบบบ้านหลังแรกตรงที่ห้องเก็บของของหลังนี้อยู่ด้านในบ้าน สามารถ Built in ผนังให้เลื่อนเปิด-ปิดได้แบบห้องตัวอย่าง เป็นส่วนทำงาน ส่วนติดตั้งชั้นวางของ หรือจะใช้เป็นพื้นที่อื่นๆตามที่เจ้าของบ้านต้องการก็ได้ค่ะ

ช่องเก็บของเป็นพื้นที่ใต้บันได ประตูบานเปิดสำเร็จรูปสีขาว ใส่ของชิ้นที่ไม่ใหญ่มากนักเช่น กระเป๋าเดินทาง เครื่องดูดฝุ่น กล่องของต่างๆเป็นต้น

 บันไดทางขึ้นชั้น 2 โครงสร้าง Precast มาตรฐานจากโรงงาน พื้นบันไดเป็นพื้นไม้ยางพาราประสาน ขนาดบันไดกว้าง 1.0 เมตร เดินได้สบายๆ

ราวบันไดมีด้านเดียว ยาวตลอดทั้งแนวจนถึงด้านบน ตรงบันไดทางขึ้นจะมีหน้าต่างมองไปยังหน้าบ้านได้ ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาด้วยค่ะ

บริเวณนี้โปร่งฝ้าสูงสามารถติดไฟตกแต่งห้องลงมาได้ และมีช่องแสงที่ให้แสงธรรมชาติเข้ามา แต่ของจริงไม่ค่อยได้แสงธรรมชาติเท่าไหร่ค่ะ พื้นชั้น 2 เป็นพื้นลามิเนตลายไม้ ลวดลายต่อเนื่องกับบันไดทำให้ดูเข้ากัน พื้นที่ด้านข้างบันไดสามารถวางชั้นวางของ สำหรับใส่ของส่วนกลางในบ้าน เป็นพื้นที่วางพระ หรือจะวางราวแขวนผ้าส่วนกลางก่อนนำเข้าห้องก็ได้ค่ะ ด้านบนโถงบันไดมีช่องระบายอากาศ ช่วยให้อากาศในบ้านถ่ายเท หายใจสะดวกแม้จะไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำใช้ร่วมกันและห้อง Master Bedroom ซึ่งการแยกฝั่งทำให้ห้อง Master Bedroom มีความเป็นส่วนตัว ห้องนอนทุกห้องจะมี ช่องระบายอากาศเล็กๆ คอยหมุนเวียนอากาศในบ้านกับภายนอก ทำให้อากาศถ่ายเท

เรามาดูห้องน้ำกันก่อนค่ะ ห้องน้ำชั้น 2 ของแบบบ้านหลังนี้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วย วัสดุปูพื้นและกรุผนังเป็น กระเบื้องเซรามิค สีน้ำตาลผิวด้านขนาด 30x 30 เซนติเมตร และกระเบื้องเซรามิคเงาสีขาว ขนาด 30x 30 เซนติเมตร ได้กระจกบานยาว มีช่องแสง สามารถเปิดระบายอากาศได้ นอกจากนั้นยังมีพัดลมดูดอากาศช่วยระบายอากาศภายในห้องน้ำด้วย

พื้นห้องน้ำลดระดับลงประมาณ 2 เซนติเมตร ไม่ให้น้ำไหลไปยังห้องอื่นๆ เวลาล้างห้องน้ำหรือตอนพื้นเปียก ซึ่งพื้นลามิเนตไม่ควรโดนน้ำค่ะ จะทำให้พื้นบวมได้

อ่างล้างหน้าเซรามิคสีขาว ของ Kohler ก็อกอ่างล้างหน้าของ Englefield และโถสุขภัณฑ์ Kohler หรือเทียบเท่า ซึ่งเหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆค่ะ

ส่วนอาบน้ำ มีพื้นที่ 1.6 x 0.9 เมตร สามารถอาบน้ำได้ 2 คนสำหรับอาบน้ำให้ลูกหรือนำเก้าอี้ไปวางนั่งอาบน้ำได้ค่ะ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นประตูบานเลื่อนสำเร็จรูป เปิด 2 ตอนได้แบบในรูปเลยค่ะ

ฝักบัวที่ห้องอาบน้ำชั้น 2 ก็เหมือนกับชั้นแรกแต่มีระบบน้ำอุ่นเตรียมไว้ให้ด้วยค่ะ

ช่องแสงภายนห้องน้ำห้องนี้จะมีอยู่ 2 จุด คือ ส่วนหน้าต่างบานเลื่อนระบายอากาศ และช่อง Sky Light เหนือประตู ซึ่งจะทำให้แสงเพียงพอในตอนกลางวัน ไม่ต้องเปิดไฟได้ค่ะ

ต่อไปเราไปดูห้องนอนเล็กกันก่อนค่ะ ห้องนอนเล็ก 2 ห้องจะอยู่ติดกัน ประตูทางเข้า-ออกตั้งฉากกันอาจจะมีเปิดมาเจอกันแล้วตกใจบ้าง

ห้องนอนแรก ห้องตัวอย่างทำเป็นห้องนั่งเล่นมีโซฟายาว ซึ่งห้องนี้ถ้าปรับเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงได้ถึง 5 ฟุต และวางตู้เสื้อผ้าไว้ด้านข้างได้ค่ะ ห้องนี้มีช่องแสง 1 ช่อง และช่องระบายอากาศอีก 2 ช่องช่วยให้อากาศภายในห้องถ่ายเทค่ะ

ห้องนอนเล็กห้องที่ 2 กันบ้าง ถ้าเป็นแปลงมุมก็จะได้หน้าต่างด้านข้างเพิ่มมาอีกบานนึงค่ะ ห้องนี้ก็สามารถวางเป็นเตียง 5 ฟุตได้ แต่อาจจะต้องเสียพื้นที่สำหรับแต่งตัวไปบ้าง แนะนำว่าถ้าอยากวางเตียงใหญ่ 5 ฟุต ให้ใช้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน จะช่วยประหยัดพื้นที่ค่ะ

อีกฝั่งของห้องสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือได้

เราไปดูห้อง Master Bedroom กันค่ะ ห้องนี้จะอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน ซึ่งแยกออกมาจากห้องนอนเล็กทำให้มีความเป็นส่วนตัว

ห้อง Master Bedroom สามารถวางเตียงได้แบบ 6 ฟุตโดยที่ยังมีพื้นที่รอบเตียงสำหรับเดินได้สบายๆ โดยห้องตัวอย่างกั้น Partition เพื่อเป็นพื้นที่วาง TV และเป็นพื้นที่ Walk in Closet ด้านหลัง ซึ่งบ้านจริงที่เราจะได้โครงการไม่ได้กั้นไว้ให้ จะต้องทำเพิ่มเองค่ะ ห้องนี้จะได้หน้าต่างบ้านใหญ่มองออกไปที่หน้าบ้านได้ และมีหน้าต่าง 2 ข้าง สำหรับวางเตียงตรงกลางได้พอดี

บ้านตัวอย่างกั้นปิดเป็นผนังทึบติดกระจกเงาสามารถเลื่อนเปิดได้ ในกรณีที่ไม่อยากให้แสงมาแยงตาเวลานอน สามารถมองวิวจากหน้าต่างบานใหญ่ด้านข้างได้ ด้านบนมุมห้องมีช่องระบายอากาศไปยังด้านนอกบ้าน ช่วยให้อากาศถ่ายเท แมลงไม่สามารถเข้ามาได้

ส่วนอีกฝั่งนึงด้านปลายเตียง ห้องตัวอย่างได้กั้น Partition และทำเป็นพื้นที่ Walk in Closet เมื่อเดินออกจากห้องน้ำมาก็เข้ามาเปลี่ยนชุด แต่งตัวบริเวณนี้ได้เลยค่ะ ถือเป็นตัวอย่างกันจัดพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่า

ส่วน Walk in Closet สามารถวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้ ด้านหน้า Partition ใช้เป็นพื้นที่วาง TV ซึ่งมีระยะดู TV ประมาณ 3.2 เมตร ติดตั้ง TV ขนาด 42 – 46 นิ้ว

การวางตำแหน่งโต๊ะเครื่องแป้งไว้ตรงนี้มีข้อดีคือได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างได้เลย ไม่ต้องเปิดไฟ และยังสามารถมองวิวได้ด้วยค่ะ

ด้านนอกของช่องแสงเป็นพื้นที่วาง Condensing Unit ไม่สามารถออกไปใช้งานที่ระเบียงได้ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 22 August 2018

  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดิน 17.8 (แปลงมาตรฐาน) พื้นที่ใช้สอย 95.02 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถ 1 คัน ราคา 2.67 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดิน 22.0 (แปลงมุม) พื้นที่ใช้สอย 95.02 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถ 1 คัน ราคา 3.18 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดิน 20.3 (แปลงมาตรฐาน) พื้นที่ใช้สอย 109.72 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน ราคา 3.03 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดิน 22.3 (แปลงมุม) พื้นที่ใช้สอย 109.72 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน ราคา 3.32 ล้านบาท
  • จอง 5,000 บาท ทำสัญญา 20,000 บาท
  • ดาวน์ 5% ผ่อนดาวน์ 1 งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 50,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 38 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อและผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – 

โครงการ The Connect รามอินทรา-มีนบุรี 2 ตั้งอยู่ในย่านถนนสุวินทวงศ์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อออกถนนได้ 2 ทาง คือ เข้าถนนสุวินทวงศ์ เชื่อมไปยังถนนร่มเกล้า ไปสุวรรณภูมิได้สะดวก และอีกฝั่งยังเชื่อมต่อกับถนรามอินทรา ไปออกแจ้งวัฒนะได้ ทำให้การเดินทางสะดวก ในย่านนั้นยังมี ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ครบครัน ทั้งห้างสรพพสินค้า โรงเรียน และโรงพยาบาลสามารถเดินทางไปยังห้างใหญ่อย่าง Fashion Island , The Promenade สะดวก หรือจะไปตลาดก็สามารถไปที่ตลาดมีนบุรีได้ นอกจากนั้นยังใกล้กับสถานศึกษาหลายแห่ง ทำให้ทำเลนี้มีความอุดมสมบูรณ์ตามไปด้วย

ในละแวกล้อมรอบโครงการ ภายในถนนสามวามีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven และ Tesco Lotus Express อยู่ระหว่างทางทำให้แวะซื้อของกิน ของใช้ได้สะดวก คือว่าทำเลนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ดี

การเดินทางโดยใช้รถ –

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือว่าสะดวกมาก เนื่องจากใกล้ถนนใหญ่สามารถใช้ถนนได้หลายเส้นทาง ทั้งทางถนนสุวินทวงศ์ เชื่อมไปยังถนนร่มเกล้า,ถนนรามคำแหง และถนนหทัยราฎร์ ที่สามารถทะลุผ่านถนนปัญญาอินทราไปทะลุรามอินทราได้ เป็นการเลี้ยวรถติดอย่างหนึ่ง ถนนหลักภายในโครงการก็มีความกว้าง 9 – 12 เมตร และทางเข้า-ออกมีพื้นที่อย่างละ 2 เลน รวมถึงมีช่องทางเข้าตรงซุ้มประตูแยกทางเข้าระหว่างลูกบ้านกับแขก ทำให้เข้าถึงโครงการสะดวก อาจจะมีรถติดด้านหน้าโครงการบ้างเป็นบางเวลา ส่วนใหญ่จะช่วงเปิดเทอมและเวลาก่อน-หลังเข้าเรียน เนื่องจากโครงการอยู่ติดกับโรงเรียน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ –

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ก็ไม่ได้ลำบากมากนัก เนื่องจากด้านหน้าโครงการ มีรถสองแถวผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน มี Taxi ซึ่งสามารถเรียกได้ง่ายหรือจะใช้บริการ Grab ก็เรียกได้รอไม่นานเลยค่ะ มีท่ารถตู้ รถสองแถวที่ตลาดมีน อยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก ในอนาคตยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ทำให้การเดินทางโดยไม่ใช้รถไม่ลำบากเท่าไหร่ค่ะ

วัสดุ –

วัสดุที่โครงการให้มา ถือว่าเป็นมาตรฐาน กระเบื้องห้องรับแขกเป็นเกรนิตโต้  พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิค 30 x 30 เซนติเมตร พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตลายไม้ สุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้ายี่ห้อ Kohler ฝักบัว วาลล์ ก็อกน้ำอ่างล้างหน้ารวมถึง Accessory ยี่ห้อ Karat, Englefield หรือเทียบเท่า กระจกเขียวตัดแสง รวมถึงใช้ไฟ LED ช่วยลดการใช้พลังงาน และโครงการก็มีการคำนึงถึงการระบายอากาศภายในโครงการ ซึ่งนำเอาระบบ Fresh Air System เข้ามาใช้กับโครงการ มีช่องระบายอากาศ ทุกๆจุดของบ้าน และคำนึงถึงการป้องกันอัคคีภัย ติดตั้งถังดับเพลิง และ Smoke Detector มาให้ด้วย โดยรวมถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวค่ะเมื่อเทียบกับราคาระดับนี้

การออกแบบ –

การออกแบบตัวโครงการ ประตูทางเข้าโครงการใหญ่สังเกตเห็นได้ง่าย ทางเข้ากว้างสามารถเข้าได้สะดวก ถนนทางเข้าหลักกว้าง 9-12 เมตร ซอยย่อยกว้าง 9 เมตร มีพื้นที่ส่วนหย่อมด้านหน้าประมาณ 1 ไร่ และมี สนามเด็กเล่น ศาลาให้นั่งพักผ่อน ให้เด็กๆและผู้ปกครองได้ใช้เวลาร่วมกัน แต่บ้านด้านในสุดจะออกมาใช้สวนต้องเดินไกลหน่อยอาจจะใช้จักรยานปั่นมาแทน ซอยแต่ละซอยมีจำนวนยูนิตไม่มากทำให้มีความเป็นส่วนตัว ถือว่าออกแบบมาค่อนข้างดี

ตัวบ้านเป็นทาวน์โฮมที่เป็นหลังคาปั้นหยา ทำให้ระบายน้ำและกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ดีกว่าหลังคาทาวน์โฮมทั่วไปแบบเพิงหมาแหงน การจะวางพื้นที่ของห้องต่างๆเป็นสัดส่วนดี แต่ห้องน้ำอาจจะมีข้อจำกัดเล็กน้อย เนื่องจากห้องน้ำด้านล่างไม่ได้แยกส่วนเปียก-แห้ง แต่ก็มีฝักบัวติดไว้ให้ใช้ได้ โครงสร้างด้านหน้า คอนกรีตบนดิน พื้นที่ซักล้างด้านหลังเป็นคอนกรีตลงเสาเข็ม จะทำให้ไม่ทรุด ถ้าหลังไหนต่อเติมก็สามารถทำได้เลย

พื้นที่สีเขียวภายในโครงการ – 

พื้นที่สีเขียวภายในโครงการมีแต่บริเวณด้านหน้า ภายในโครงการไม่ค่อยมีพื้นที่สีเขียวเท่าไหร่ ถ้าลูกบ้านอยากได้ความชุ่มชื้น ร่มรื่นก็สามารถปลูกเองได้ที่ด้านหน้าของตัวบ้าน

สาธารณูปโภค –

สาธารณูปโภคในโครงการมีไม่มากนัก จะมีแค่ส่วนด้านหน้าที่ติดกับซุ้มประตูทางเข้า จะมีสวนหย่อม สนามเด็กเล่นซึ่งมีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก 4 ตัว มีลานคอนกรีต และศาลา นั่งพักผ่อนได้ โครงการนี้จะเหมาะกับคนที่ไม่ได้ใช้พื้นที่ส่วนกลางมากนัก

ความปลอดภัย – 

โครงการมีความปลอดภัยในระดับที่โอเค มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงที่ด้านหน้าทางเข้าโครงการ มีกล้อง CCTVทั้งทางเข้าและภายในโครงการ การเข้าถึงของลูกบ้านจะใช้ระบบ Key Card สำหรับผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าโครงการ และต้องไปสแตมป์บัตรที่จุดหมายด้วย รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร เป็นรั้วทึบตันทั้งหมด

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 2.25 – 3.32 ล้านบาท, 22 August 2018

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ออกถนนสุวินทวงศ์ได้ง่าย สามารถทะลุไปรามอินทราได้ รอบด้านมีความอุดมสมบูรณ์ดี
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน 24 ชั่วโมง CCTV ตรง Main Gateและภายในโครงการ  รั้วรอบโครงการ 3 เมตร
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – ออกแบบโครงการมีความเป็นส่วนตัว ตัวบ้านคำนึงถึงการระบายอากาศ และระบบป้องกันอัคคีภัย 
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานและเพิ่มเติมเทคโนโลยี Fresh Air System 
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – มีส่วนหย่อมหน้าโครงการที่ดูร่มรื่น แต่ภายในโครงการไม่ค่อยมีพื้นที่สีเขียว
  • สาธารณูปโภค 7/10 – มีส่วนหย่อม สนามเด็กเล่น และศาลา ไม่มีฟิตเนส,สระว่ายน้ำ
  • 7.56 / 10.00 

BOTTOM LINE

The Connect รามอินทรา-มีนบุรี2 เหมาะกับคนที่อยากได้บ้านในย่านสุวินทวงศ์ที่ใกล้ถนนใหญ่ เป็นคนที่ทำงานหรือเรียนในแถบนั้น หรือคนที่อยากขยับขยายพื้นที่  ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลาง ชอบบ้านที่อยู่สบายมีระบบระบายอากาศ มีงบประมาณ 2.25 – 3.32 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 16,000 – 23,250 บาท