รีวิวฉบับที่ 1451 …  วันนี้จะพาไปชมโครงการ The Connect พระราม 5 – นครอินทร์ ทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น จากพฤกษา ตั้งอยู่ในซอยที่ห่างจากถนนนครอินทร์(พระราม 5) ประมาณ 900 เมตรเท่านั้น เลยเดินทางด้วยรถยนต์สะดวกทีเดียว ตัวโครงการเป็นรูปแบบทาวน์โฮม 2 ชั้นที่มีแบบบ้าน 1 และ 2 ที่จอดรถ เหมาะสำหรับใครที่มองหาทาวน์โฮมหลังเล็ก ราคาหยิบจับง่ายในย่านนี้ ไปชมโครงการพร้อมๆ กันเลยครับ

Fact @ 10 October 2017

  • The Connect Rama 5 – Nakornin (เดอะ คอนเนค พระราม 5 – นครอินทร์)
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY-MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
  • เนื้อที่โครงการ 15-0-79.5 ไร่ จำนวน 164 ยูนิต
  • บ้านขนาดเนื้อที่ประมาณ 17.8 – 45.2 ตารางวา
  • ทาวน์โฮมแบบที่ 1 – HL1- ที่ดิน 17.8 ตร.วา หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 95.02 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
  • ทาวน์โฮมแบบที่ 2 – HL2- ที่ดิน 21.2 ตร.วา หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 109.72 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • เพดานชั้น 1 สูง 2.65 เมตร (ดรอปส่วนงานระบบ 15 ซม.), ชั้น 2 สูง 2.70 เมตร
  • ทาวน์โฮมแบบที่ 1 – HL1 (1 ที่จอดรถ) ราคาเริ่มต้น 2.48 ล้านบาท (โปรโมชั่น) / ราคามาตรฐาน 2.84 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮมแบบที่ 2 – HL2 (2 ที่จอดรถ) ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท (โปรโมชั่น) / ราคามาตรฐาน  3.29 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 50,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : ต้นปี 2017
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : n/a
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1739
  • สำนักงานขาย : 02-083-7553 ถึง 4
  • Presale : August 2017

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.835000, 100.488556

แผนที่จากทางโครงการครับ จุดเด่นที่เห็นอย่างแรกคือตำแหน่งที่ตั้งโครงการ ซึ่งเป็นรูปแบบทาวน์โฮมอยู่ในซอยย่อยที่ห่างจากถนนใหญ่อย่างนครอินทร์ในระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตร ปากทางเป็นซูปเปอร์ใหญ่อย่าง Makro ใกล้กับสะพานพระราม 5 ดูในมุมมองการเดินทางใช้รถส่วนตัวถือว่าสะดวกมาก ส่วนการเดินทางสาธารณะอย่างอื่นจะอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือพระราม 5 (เรือด่วนเจ้าพระยา), รถไฟฟ้าสายสีม่วง(สถานีติวานนท์) และสุดท้ายการใช้ทางด่วนศรีรัชใหม่อย่างกาญจนา-จตุจักร ก็ทำได้ไม่ยากด้วย

ที่ตั้งของโครงการ The Connect พระราม 5 – นครอินทร์ ตั้งในซอยบางไผ่พัฒนาห่างจากถนนนครอินทร์ประมาณ 900 เมตร อีกทั้งถนนเส้นนี้ยังเป็นเส้นที่เชื่อมกับถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนที่เป็นเส้นเชื่อมลัดระหว่างถนนราชพฤกษ์กับถนนนครอินทร์ ยาวไปถึงถนนเส้นเทอดพระเกียรติ นอกจากนั้นยังเป็นทางเชื่อมไปท่าน้ำนนทบุรีอีกด้วย จุดเด่นก็คือการอยู่ใกล้ถนนหลัก อีกทั้งในละแวกใกล้เคียงยังหาของกินไม่ยาก

ความอุดมสมบูรณ์ โดยรวมแล้วรอบๆโครงการละแวกนี้จะเป็นสิ่งปลูกสร้างแนวราบ ที่อยู่อาศัยบ้านคนและหมู่บ้านจัดสรร มี 7-Eleven อยู่ปากซอย และก็ Makro อยู่ติดถนน ฝั่งตรงข้ามยังมี Tesco Lotus อีก รวมไปถึงบนริมถนนนครอินทร์มีเหล่าร้านอาหารฝากท้องอยู่ไม่น้อย ตกเย็นดึกก็มีร้านแนวกินดื่มอยู่พอสมควร แหล่งอาหารการกินที่สำคัญในย่านนี้ก็คงไม่พ้นท่าน้ำนนท์ ที่จะเป็นที่ฝากท้องกัน / ส่วนห้างร้าน แหล่ง Shopping ก็อาจจะต้องออกมาไกลหน่อยที่ใกล้สุดก็เป็น The walk ราชพฤกษ์ ,The crystal SB ราชพฤกษ์ หรือข้ามฝั่งไปเลยก็จะเป็น เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์ หรือจะไปเซ็นทรัลปิ่นเกล้าก็ได้ระยะพอๆกันครับ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกทีเดียว ถ้าง่ายๆก็คือเข้าจากถนนหลักนครอินทร์เลยแค่ 900 เมตร หรือไม่ก็มาจากถนนบางกรวยไทร – ไทรน้อยแล้วลัดเลาะมาก็ได้เช่นกัน ซึ่งตำแหน่งปากซอยทางเข้าบนถนนนครอินทร์ ทั้งสองฝั่งก็มียูเทริ์นมาขนาบอยู่ใช้งานได้ไม่ยากเลย (ยูเทิร์นอยู่ใต้ก่อนสะพานพระราม 5 และแยกบางสีทอง) ประกอบกับทางด่วนพิเศษศรีรัชใหม่(บางซื่อ-กาญจนา) ที่ปัจจุบันมีการเปิดใช้แล้ว โดยจากโครงการถ้าเราวิ่งบนถนนบางกรวย-ไทรน้อย มุ่งลงใต้ผ่านแยกบางสีทองลงยาวๆไปประมาณ 6-7 กิโลเมตร จนไปถึงทางรถไฟ แถวนั้นจะมีจุดขึ้นทางด่วนเข้าเมืองไปโผล่แถวจตุจักรได้เลยครับ

สำหรับการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะนั้นค่อนข้างลำบากนิดนึง อันดับแรกด้วยโครงการอยู่ในซอย 900 เมตร ทำให้การเรียกรถเสริมอื่นอย่างมอเตอร์ไซค์ Taxi ทำได้ยากหน่อย แต่ในรัศมีไม่ไกลจะมีจุดที่ผมวงกลมไว้ให้อย่าง เรือด่วนเจ้าพระยา(ใต้สะพานพระราม 5) ที่สามารถใช้เข้าเมืองต่อเนื่องไปได้เลยไปยันสาทรโน้นน  อีกอย่างคือรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่แยกติวานนท์ ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นตัวเสริมในการเดินทางโดยไม่ใช้รถส่วนตัวได้

การเดินทางในวันนี้ โดยผมมาจากบนถนนกรุงเทพ-นนทบุรี วิ่งมาถึงแยกติวานนท์ หลังจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนนครอินทร์ ข้ามสะพานพระราม 5  หลังจากนั้นเบี่ยงออกซ้ายเพื่อจะเจอกับแยกบางสีทอง เป็นสี่แยกไฟแดง ให้กลับรถอีกทีวิ่งมาหน่อยเดียวเจอกับ Makro นนทบุรีให้ชิดซ้ายสุดเอาไว้เลยเพราะจะเลี้ยวซ้ายซอยบางไผ่พัฒนาข้างหน้า หลังจากนั้นตรงอย่างเดียวเข้ามาอีก 850 เมตรเจอทางยังคับให้เลี้ยวซ้ายอีก 50 เมตรก็ถึงที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือแล้วครับ

ที่แยกติวานนท์นี้เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนนครอินทร์

เข้าสู่ถนนนครอินทร์ เข้ามาวิ่งสู่ทางหลักก็ได้ครับ

ที่ถนนนครอินทร์ หรือย่านพระราม 5 เป็นแหล่งรวมของร้านอาหารขนาดกลาง แหล่งกินดื่ม ตั้งอยู่ริมทางทั้งสองฝั่งเป็นจำนวนมาก ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่

วิ่งตรงต่อมาเราจะข้ามสะพานพระราม 5 มา

ลงมาแล้วก็ยังคงอยู่เลยหลักอยู่ แถวนี้ของกินเยอะมากตามสองฝั่งข้างทาง รวมไปถึงแหล่งร้านจับจ่ายใช้สอยอีกด้วย

หลังจากเราเห็นป้าย Tesco Lotus ไกลๆนั่นแหละ ให้เราเตรียมเบี่ยงออกซ้าย

ออกมาแล้วเราก็จะเห็นป้ายตรงนี้ให้เราชิดขวาสุดเอาไว้ เราจะเตรียมกลับรถใต้สะพานข้างหน้า

แยกไฟแดงข้าหน้าคือแยกบางสีทองที่มีถนนบางกรวยไทรน้อยตัดผ่านนั่นเอง เรากลับรถตรงนี้ได้เลย

กลับรถมาสู่ถนนขนานด้านนอกของนครอินทร์แล้วนะครับ ถ้าใครมาจากทางกาญจนา ตรงนี้ก็มีทางเบี่ยงออกทางขนานได้เลยนะ จุดสังเกตคือก่อนถึง Makro นนทบุรี

ที่เส้นขนานนครอินทร์ก็มีสองแถววิ่งผ่านด้วย ผมอ่านป้ายที่ข้างรถไม่ทันว่าเค้าวิ่งจากไหนถึงไหนบ้าง ถ้าใครคนแถวนี้มาคอมเมนท์บอกเพิ่มได้นะครับ

พอเราถึง Makro นนทบุรี ให้เราชิดเลนซ้ายสุดเอาไว้เตรียมเลี้ยวซ้ายด้านหน้า

เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนบางไผ่พัฒนา หรือทางเข้าวัดอมฤต

เข้ามาแล้วปากซอยจะเจอ 7-Eleven อยู่ทางซ้ายมือ มีซุ้มอาหารของกินอยู่ติดกัน

สภาพแวดล้อมช่วงต้นซอยก็เป็นร้านอาหาร หมู่บ้านเก่า แบบนี้ เป็นชุมชนอยู่อาศัยหนาแน่นกลางๆ

หลังจากตรงมาจากถนนใหญ่เลี้ยวเข้ามาประมาณ 530 เมตร จะเจอซุ้มของป้ายวัดอมฤต ก็ยังตรงไปต่อนะครับ

เราจะเห็นป้ายทางซ้ายมือบอกว่าอีก 200 เมตรก็ถึงโครงการ

เลี้ยวซ้ายตามทางที่จะเข้าไปวัดอมฤต เลี้ยวไปอีกแค่ 50 เมตรก็ถึงละ

ถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ สภาพแวดล้อมก็เป็นชุมชนอยู่อาศัยที่เบาบางลงมาจากปากซอยนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เงียบเหงาจนไม่มีเพื่อนบ้านสักทีเดียว

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการกันหน่อย ถนนบางไผ่พัฒนาเนี่ยเป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง ยังสลับกับที่ดินเปล่าให้พัฒนาได้อยู่อีกพอสมควร แต่ก็มีร้านค้า ร้านอาหาร เข้ามาเปิดกันบ้างในซอย ซึ่งที่ตั้งโครงการจะอยู่แยกเข้ามาในซอย 21 อีกที หรือก่อนถึงวัดอมฤตครับ รอบๆโครงการเป็นที่ดินเปล่าเป็นส่วนใหญ่ยังไม่ได้พัฒนาแต่ก็มีบ้านเดี่ยวนอกโครงการอยู่สลับให้เห็นบ้าง ยกเว้นแต่ฝั่งตะวันตกที่ติดกับคลองบางสีทอง

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (นับจากโครงการไปถึงสถานที่นั้น)

  • 7-Eleven 800 เมตร
  • Makro 900 เมตร
  • Tesco Lotus 3.5 กิโลเมตร
  • ท่าน้ำนนท์ 3.9 กิโลเมตร
  • Big C ติวานนท์ 4.4 กิโลเมตร
  • รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีติวานนท์ 4.6 กิโลเมตร
  • .เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 5.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 7.1 กิโลเมตร
  • The walk ราชพฤกษ์ 7.4 กิโลเมตร
  • จุดขึ้นทางด่วนศรีรัชใหม่(บางซื่อกาญจนา) 7.6 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์ 9.4 กิโลเมตร
  • อนุบาลเด่นหล้า 10 กิโลเมตร
  • ช่างชุ่ย คอมมูนิตี้มอลล์ 10.4 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า 14 กิโลเมตร
  • The crystal SB ราชพฤกษ์ 14.1 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูสภาพแวดล้อมของโครงการกันหน่อย ผมลองตีขอบเขตของที่ดินให้ดู ถึงแม้แปลงที่ดินจะเป็นรูปหลายเหลี่ยมแต่เป็นคล้ายๆสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่วางตัวหัวทิศเหนือ-ใต้ รอบๆโครงการส่วนใหญ่เลยจะเป็นที่ดินเปล่ายังไม่พัฒนาสลับกับชุมชนพักอาศัยทั่วไปอย่างบ้านเดี่ยวและโครงการเพื่อนบ้าน ส่วนความเจริญหลักจะเอนไปทางใกล้ถนนหลักอย่างนครอินทร์

โครงการนั้นมีเนื้อที่ดินประมาณ 15 ไร่เศษ มีจำนวน 164 ยูนิตเท่านั้น รูปแบบของโครงการนั้นจะเป็นทาวนโฮม 2 ชั้นทั้งหมดมีบ้านให้เลือก 2 แบบ นั้นคือ เป็นแบบ 1 ที่จอดรถ และ 2 ที่จอดรถ ซึ่งทั้งคู่นั้นหน้ากว้าง 5.70 เมตรทั้งคู่ | สิ่งอำนวยความสะดวก(Facility) นั้นมีเพียงสวนหย่อม ศาลา สนามเด็กเล่นเท่านั้น เพราะเป็นโครงการขนาดเล็ก-กลาง เลยมีมาให้ไม่เยอะมาก (โครงการขนาดเล็ก-กลาง ราว 100-300 ยูนิต)

ความปลอดภัย เริ่มจากทางเข้าเป็นซุ้มรปภ.ที่มี ต้องใช้ระบบ Keycard Access ระยะใกล้แตะเพื่อเปิดออก มี CCTV ทั้งที่ทางเข้าและภายในโครงการ รั้วกำแพงแถวด้านหน้าซุ้มสูง 3 เมตร แต่จุดอื่นรอบๆโครงการสูง 2.5 เมตร ถนนเมนโครงการกว้าง 12 เมตร และถนนซอย 8 เมตร

ซุ้มทางเข้าออกโครงการออกแบบดูดีทันสมัย Modern ใช้คุมโทนสีเทาเป็นหลัก โดยมีหลังคาคลุมทั้งหมด ช่วยในเรื่องเวลาฝนตก เปิดประตูไปแตะคีย์การ์ดได้

ก่อนเข้าไปดูด้านใน จะเห็นถึงรั้วกำแพงโครงการ ช่วงบริเวณด้านหน้าที่ทำสูงกว่าจุดอื่นหน่อยคือสูง 3 เมตร และที่เห็นรั้วระแนงเหล็กโปร่งจุดนั้นคือบริเวณสวนหย่อมภายในโครงการด้านใน

รั้วเหล็กโปร่งทำให้ลม Flow พัดเข้าไปด้านในพื้นที่สวนหย่อมด้านใน

กลับมาที่ซุ้มทางเข้าโครงการกันอีกครั้ง ด้านบนมีไฟส่องสว่างเวลากลางคืน กับชื่อป้ายโครงการที่เห็นเด่นชัด

ระบบทางเข้าออกที่นี่ใช้เป็นแบบ Keycard Access ระยะใกล้ที่แตะบัตรเพื่อเปิดรั้วไม้กั้นกระดก มีรปภ.คอยสแกนเวลาใครเข้าออกที่ไม่ใช่ลูกบ้านต้องแลกบัตรตรงนี้ และก็มี CCTV ที่ส่องหน้ารถกับป้ายทะเบียน

พอพ้นรั้วโครงการมาแล้วเราจะเจอกับถนนเมนเลย ที่หันขวางตัดผ่านเป็นแนวยาว ชุดบ้านที่มีต้นไม้นั้นเป็นโซนของบ้านตัวอย่าง

หันมาทางซ้ายมือจะเป็นโซนบ้านมาตรฐานที่สร้างแล้วเสร็จเตรียมส่งมอบโอนให้ลูกบ้าน ซึ่งตัวถนนรองจะกว้างประมาณ 8 เมตร เราจะเห็นหน้าบ้านที่เป็น 2 สี นั่นก็คือบ้าน 2 แบบนั่นเอง

ตัวช่องเว้นว่างระหว่างอาคารที่จะจัดเป็นทั้งมุมปลูกต้นไม้และก็สามารถกลับรถได้

ตัวถนนเมนของโครงการนั้นกว้างถึง 12 เมตรทางซ้ายมือจะเป็นโซน Sale Office และก็บ้านตัวอย่างอยู่ติดกัน

ส่วนฝั่งตรงข้าม จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง สวนหย่อมภายในโครงการ ที่เห็นอาคารเล็กๆนั้นคือตัวอาคารนิติบุคคลในอนาคต

นี่ครับ หน้าตาตัวอาคารนิติบุคคลใช้โทนอาคารสีเทา มาอยู่ด้านหน้าโซนสวนให้สีเขียวดูตัดกันดี

ทางเดินเข้าสู่พื้นที่สวนหย่อม ปูด้วยอิฐบล็อค พร้อมมีไฟส่องสว่างตามทางเดินมาให้

ตัวสวนนั้นปูพื้นด้วยานามหญ้า ลงทั้งต้นไม้ใหญ่เอาไว้ อีกทั้งมีจัดสวนพุ่มไม้สลับกันไป

ภายในสวนมีจัดเอาเก้าอี้ไม้โซนกลางแจ้งเอาไว้ให้มานั่งเล่นอยู่เอาไว้เป็นจุดนัดพบยามเย็นได้

ทางเดินต่อเนื่องไปเราจะเห็นศาลานั่งเล่นที่มีหลังคาคลุมเผื่อเวลากลางวันแดดร้อน หรือฝนตก ก็ยังมานั่งเล่นสูดอากาศได้

พื้นที่ภายในศาลาก็ค่อนข้างกว้างอยู่นะครับ กลางคืนก็จะเปิดไฟส่องสว่างให้

ออกมาจากศาลานั่งเล่นมองตรงไป เราจะเห็นทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่สนามเด็กเล่น

ภายในสนามเด็กเล่นจะเปลี่ยนจากหญ้าจริงมาเป็นปูด้วยพื้นหญ้าเทียมหลากสีสัน พร้อมทั้งมีเครื่องเล่นเด็กอยู่ 4-5 ชิ้น

ตัวไฮไลท์ของเด็กๆคงเป็นเจ้าชิ้นนี้ ชิ้นใหญ่เลย ทั้งสไลเดอร์และปีนป่าย ผู้ปกครองควรมาดูและเด็กระหว่างเล่นด้วยนะครับ

สุดโซนเครื่องเล่นเด็ก ยังมีพื้นที่สวนเล็กๆอีกจุดนึง ถ้าตรงนี้ต้นไม้โตหน่อยออกใบมากกว่านี้ ออกมานั่งปิคนิคเล่นท่าจะดี

ส่วนของการเข้ามาใช้งานสวนหย่อม ก็สามารถเข้าได้จากหลายทางอยู่นะครับ โดยอาศัยเดินตามทางอิฐบล็อคที่ปูไว้ให้แบบนี้เป็นตัวนำสายตา

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนสาธารณะ
  • สนามเด็กเล่น
  • ที่นั่งพักผ่อนในร่มภายในสวน
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 ม. (บริเวณด้านหน้าสูง 3 ม.)
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.

โครงสร้าง

  • โครงสร้างบ้านระบบ Pre-casting
  • โครงสร้างโรงรถ Slab on ground
  • โครงสร้างลานซักล้าง เสาเข็ม – คอนกรีตเสริมเหล็ก
  • โครงสร้างบันได Pre-casting

 


Product Walkthrough

โครงการ The Connect พระราม 5 – นครอินทร์  เป็นบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น มีจำนวนบ้านในโครงการทั้งหมด 164 หลัง แบ่งเป็น 2 แบบดังนี้

  • ทาวน์โฮมแบบที่ 1 – HL1- ที่ดิน 17.8 ตร.วา หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 95.02 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
  • ทาวน์โฮมแบบที่ 2 – HL2- ที่ดิน 21.2 ตร.วา หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 109.72 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

HL1 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 95.02 ตร.ม.3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry จอดรถ 1 คัน พร้อมพื้นที่สำหรับลานซักล้างด้านหลังบ้าน ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถ 1 คัน จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จากทางหลักด้านหน้าเท่านั้น คือบานประตูเลื่อนหน้าบ้านตรงห้องรับแขก โดยจะมีพื้นยกระดับจากพื้นที่จอดรถเป็นระเบียงหน้าบ้านก่อนเข้าสู่ตัวบ้านด้านใน และมีห้องสำหรับเก็บของอยู่ใต้บันไดสามารถเข้าจากทางโรงจอดรถได้เท่านั้น

บ้านชั้นล่างวางผังในลักษณะรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นทางยาวเข้าไปจนสุดตัวบ้านด้านใน เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนรับแขกซึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรับทานอาหาร พื้นที่ทั้งสองตำแหน่งนี้ถูกออกแบบให้มีประตูทางเข้าและประตูด้านหลังที่ออกสู่หลังบ้านได้  เป็นบานกระจกขนาดใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติและสามารถถ่ายเทอากาศได้ดี ฝั่งตรงข้ามกับส่วนทานอาหารจะจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือสามารถปรับเป็นครัวภายในบ้านได้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร อาจจะทำประตูบานเลื่อนกั้นพื้นที่ระหว่างครัวเพิ่มเพื่อแยกพื้นที่การใช้งานให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ติดกันกับครัวจะเป็นห้องน้ำ ถัดมาจะเป็นบันไดเพื่อขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้าน ส่วนประตูที่อยู่บริเวณส่วนรับประทานอาหาร เมื่อเปิดประตูออกไปจะเป็นด้านหลังบ้านจะใช้เป็นส่วนซักล้าง หรือปรับเป็นส่วนครัวไว้ทางด้านหลัง ติดหลังคากั้นเป็นครัวปิดได้ หรือจะจัดเป็นพื้นที่สวนหลังบ้านเล็กๆก็ได้

ชั้น 2 แปลนบ้านจะเป็นรูปตัวสี่เหลี่ยมผื่นผ้า มีบันไดขึ้นมาจากชั้นล่างอยู่ชิดกับผนังของตัวบ้าน เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอพื้นที่ชั้น 2 จะมีโถงบันไดเพื่อแยกพื้นที่ไปยังส่วนห้องนอนต่างๆ ที่ชั้น 2 จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง มีห้องน้ำ 1 ห้องใช้ร่วมกัน ห้องนอนใหญ่จะอยู่ตำแหน่งของหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะอยู่ตำแหน่งด้านในของตัวบ้าน

เนื่องจากโซนบริเวณบ้านตัวอย่างมีการปลูกต้นไม้เอาไว้ ในพื้นที่จอดรถของจริง อีกทั้งยังมองไม่ค่อยเห็นหน้าบ้านเท่าไร เลยจะขอกระโดดไปที่บ้านมาตรฐานให้ดูก่อนนะครับ

นี่เป็นบ้านมาตรฐาน ที่สร้างแล้วเสร็จล็อตแรก เตรียมส่งมอบโอนให้ลูกบ้าน เลยถ่ายมาได้แต่บริเวณหน้าบ้านเท่านั้น รูปลักษณ์ภายนอกบ้านมีการใช้โทนสีและการออกแบบสไตล์โมเดิร์นด้วยโทนสี Earth Tone คือเป็นสีขาวและน้ำตาลตัดกัน และเน้นบานกระจกขนาดใหญ่ ตัวประตูบ้านจะเป็นแบบเหล็กข้อพับฝั่งละ 2 ตอน จากมุมนี้เราจะเห็นว่าส่วนตัวบ้านจะสูงกว่าพื้นถนนในโครงการเล็กน้อย

ด้านหน้าบ้านเราจะเห็นพวกชุดโคมไฟ กริ่งกด อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้ทิ้งขยะจากในบ้านได้เลยอีกด้วย ซึ่งเมื่อก่อนพวกทาวน์โฮมจะไม่ค่อยทำให้

ทางขวามือเป็นพื้นที่จอดรถลึกเข้าไป เราจะเห็นมีช่องเปิดจากหน้าบ้านเป็นประตูห้องเก็บของใต้บันไดเป็นแบบดึงเปิดธรรมดาและไม่มีตัวล็อกไว้ใช้เก็บเครื่องมือทำสวน อุปกรณ์ล้างรถรวมถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ ส่วนทางซ้ายมือเป้นประตูทางเข้าบ้านหลักซึ่งมีเฉลียงเล็กๆก่อนทางเข้า

แบบนี้ที่บริเวณชั้น 2 จะไม่มีพื้นที่ระเบียงนะครับ ที่เห็นช่องทางขวามือเป็นส่วนสำหรับที่วางคอมแอร์ฯเท่านั้น

ประตูทางเข้าหน้าบ้านเป็นบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมอบสีดำ บานกระจกแบบตัดแสงสีเขียว มีพื้นที่เฉลียงหน้าบ้าน ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเข้มขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

มุมนี้จะเห็นถึงกรอบของประตูหน้าบ้านที่เป็นอลูมิเนียมสีขาว และตัวล็อคเป็นแบบ 2 ชั้น

ก่อนเข้าไปในตัวบ้าน สิ่งที่ถูกเพิ่มมาใน The Connect แห่งนี้คือ สิ่งเหล่านี้ Magnetic Sensor, IP Camera, Home Automation, Smoke Detection และ Lighting Switch ที่จุดทางเข้าหน้าบ้าน ถือเป็นออฟชั่นเสริมที่โครงการมีมาให้เลยมาตรฐานใน The Connect ยุคใหม่

เข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องรับแขกที่ต่อเนื่องกับพื้นที่ห้องรับประทานอาหาร ทางฝั่งซ้ายเป็นทางไปห้องครัวและห้องน้ำ วัสดุพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ สีขาวขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ผนังบ้านของจริงจะเป็นผนังปูนทาสีขาวทั้งหมด

มุมซ้ายมือเป็นพื้นที่วางชั้นวางทีวีและพื้นที่ใช้สอยชั้นลอยวางของใช้ของโชว์ได้ ระยะดูทีวีประมาณ  3.2 เมตร

พื้นที่นั่งเล่นรับแขก ถือว่าค่อนข้างกว้างในขนาดที่วางโซฟารวมประมาณ 3-4 ที่นั่งได้ แล้วแต่แบบที่เลือก แต่ก็ยังมีช่องแสงธรรมชาติโอบล้อมอยุ่ และจะต่อเนื่องไปกับส่วนรับประทานอาหารถัดไป

บ้านตัวอย่างมีการกั้นพาร์ทิชั่นเล็ก ให้ปรับอารมณ์เปลี่ยนโซนการใช้งานไปสู่ด้านหลังบ้าน

พื้นที่โซนรับประทานอาหารสามารถจัดวางโต๊ะ 4-6 ที่นั่งได้ ถ้าใครเลือกหลังริม มุม ก็จะได้หน้าต่างช่องแสงบริเวณนี้เพิ่มขึ้นมาทำให้ดูโปร่งโล่งขึ้น

ฝั่งตรงข้ามโต๊ะอาหารที่ในแปลนวางผังไว้ให้เป็นครัว ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ทำงานแยกส่วนออกมาอีกที (รูปทางขวาเป็นส่วนของบ้านจริงมาตรฐาน)

จัดพื้นที่อออกมาเป็นห้องนั่งเล่นได้ประมาณนี้ พื้นที่ค่อนข้างจำกัดถ้าจะทำห้องนอน แต่ถ้าใครไม่ได้ทำอาหารทานเองบ่อยๆ บริเวณก็เหมาะจะทำห้องครัวปิดนะ และเหลือลานซักล้างหลังบ้านเอาไว้ตกแต่งอย่างอื่นแทน

หน้าต่างช่องแสงที่เชื่อมต่อไปหลังบ้าน

บริเวณนี้จะมีทางเข้าห้องน้ำของชั้นล่าง พื้นถูกลดระดับลงไปเล็กน้อยเพื่อกันน้ำจากห้องน้ำไหลออกมายังห้องครัว ภายในปูด้วยกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 เซนติเมตร ห้องนี้เป็นห้องน้ำที่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำแต่ไม่ได้กั้นส่วนเปียกแห้งไว้ ภายในจัดเป็นห้องน้ำแบบ 3 ฟังก์ชั่น ไล่ไปตั้งแต่อ่างล้างหน้ามาพร้อมกระจกส่องหน้าด้านบน โถสุขภัณฑ์พร้อมที่ใส่ทิชชูและสายชำระ และพื้นที่อาบน้ำขวาสุด

หน้าตาชุดอ่างล้างมือ ผนังติดกระจกเงาเอาไว้ให้

พวกอ่างและสุขภัณฑ์ได้ของ KOHLER และพวกก๊อกจะได้ของ englefield หรือเทียบเท่า

ถัดมาทางขวาจะเป็นพื้นที่ของสุขภัณฑ์ และด้านใน(ขวาสุด)จะมีฝักบัวติดอยู่ที่ผนังอีกฝั่งหนึ่ง

แต่พื้นทั้งหมดของห้องน้ำนี้จะไม่มีการลดระดับสำหรับการอาบน้ำ ดังนั้นการใช้งานจริงน้ำจะไหลไปโดนส่วนอื่นๆแน่นอน เรียกว่าอาบน้ำทุกครั้ง โถสุขภัณฑ์จะเปียกทุกครั้งแหละ

เนื่องด้วยตำแหน่งห้องน้ำอยู่กลางบ้านโครงการเลยติดเจ้าพัดลมดูดอากาศมาช่วยระบายบริเวณเหนือหัวพื้นที่อาบน้ำครับ

กลับมาที่บันไดขึ้นชั้นบน  ตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตกว้างประมาณ 1 m. ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราประสาน ทำสีไม้จริง มุมนี้เราจะเห็นช่องแสงจากฝั่งหน้าบ้านบริเวณพื้นที่ที่จอดรถ

ลักษณะบันไดเป็นบันไดรูปตัว U หรือแบบพับผ้า ซึ่งช่วงแรกชานพักจะถูกหั่นเยอะหน่อยต้องระวังนิดนึง

แต่พอกลับตัวพ้นมาฝั่งขวาเป็นชานพักรูปสี่เหลี่ยมให้ปรับการเดินได้ง่ายขึ้น จากมุมนี้เราจะเห็นพื้นที่ชั้น 2 แล้วนะครับ เป็นลามิเนตลายไม้หนา 8 mm. แต่โทนสีจะเข้มกว่าพื้นบันไดนิดหน่อย

มองย้อนกลับไปที่บริเวณโถงบันไดเราจะเห็นช่อง Sky Light ที่โครงการเจาะฝ้าเพดานเอามาคอมโบเสริมกับโคมไฟส่องสว่างทำให้ดูโปร่งขึ้นเวลากลางวัน

ขึ้นมาด้านบนจะเจอกับโถงทางเดินเพื่อแยกไปยังห้องต่างๆ ประกอบด้วย 3 ห้องนอน ได้แก่ ซ้ายมือ 2 ห้องเป็นห้องนอนเล็ก (อยู่ฝั่งหลังบ้าน) / ตรงกลาง เป็นห้องน้ำ ออกมาใช้ร่วมกันทุกห้อง / ขวามือ เป็นห้องนอนใหญ่ (อยู่ฝั่งหน้าบ้าน)

นวัตกรรมอีกอย่างที่ The Connect ยุคใหม่นำเข้ามาในโครงการนี้ก็คือ Fresh Air System คือจะมีการติดเจ้ากล่อง Fresh Air  เล็ก 6 ชิ้นเอาไว้ (ด้านหน้าห้องนอน กับ ด้านนอกห้องนอนไปนอกบ้าน) แต่กลไลนี้จะทำงานเต็มที่ก็ต่อเมื่อ เราเปิดเจ้าพัดลมตัวใหญ่กลางบ้าน(เป็นตัวดูดความร้อนออก) ทำให้เกิดกระบวนการ Ventulation Airflow ครับ

นี่เป็นรูปประกอบ Infographic ที่พฤกษาทำให้ดูประกอบเพื่อง่ายต่อความเข้าใจ

และประโยชน์ของระบบ Fresh Air System นี่ช่วยอะไรได้บ้าง

เดี๋ยวเราจะไปดูห้องนอนเล็กฝั่งซ้ายมือ (หลังบ้าน) กันก่อน  ไล่ไปเลยนะครับ

ห้องนี้เป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในจำนวนทุกห้องนอนนะครับ โดยบ้านตัวอย่างจัดไว้ให้เป็นห้องนอนลูกสาว หรือลูกคนเล็กสุดนั่นเอง ถ้าใครที่มีจำนวนสมาชิกในบ้านไม่ถึง ห้องนี้ก็สามารถจัดเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อย่างอื่นก็ได้

โดยพื้นที่ปลายเตียงสามารถเอาไอเดียบ้านตัวอย่างใช้พืนที่ใช้สอยให้คุ้มค่าแบบนี้ก็ได้

ห้องนอนเล็กถัดมา ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้พอดีโดยที่ยังมีทางเดินรอบเตียงเหลือสบายหน่อย

ด้านข้างมีหน้าต่างอลูมิเนียมสามารถเปิดรับแสงและระบายอากาศมาให้ทั้ง 2 ฝั่ง (จะมีเฉพาะบ้านแปลงมุมนะ ถ้าเป็นแปลงมาตรฐานมีบานเดียว)

ระยะพื้นที่ต่างๆจะเหลือพอให้วางโต๊ะทำการบ้าน กับตู้เสื้อผ้าได้

ออกมาจากห้องนอนเล็กถัดไปจะไปดูห้องน้ำที่อยู่กลางบ้าน

ห้องน้ำชั้น 2 ภายในจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิก โดยพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงเล็กน้อยช่วยในเรื่องเวลาทำความสะอาด

ทางซ้ายมือเป็นตำแหน่งของสุขภัณฑ์ให้พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบถ้วน จาก Kohler และ Engfield เช่นเคย

มุมพื้นที่อาบน้ำอยู่บริเวณมุมซ้ายเลย ซึ่งโครงการไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมานะครับ แนะนำว่าหาติดเพิ่มเถอะครับ ไม่ว่าจะเป็นฉากพลาสติกหรืองบมากขึ้นหน่อยก็เป็นกระจกนิรภัยก็ดี เหนือพื้นที่อาบมีติดหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยทั้งเป็นช่องแสงและระบายอากาศ

พื้นที่อาบน้ำที่ไม่ได้ให้ฉากกั้นมาแต่ถ้าติดฉากกั้นแล้วประมาณเหลือพื้นที่ 0.80 x 0.80 เมตรครับ

ด้านบนเพดานห้องน้ำเราจะเห็นโคมไฟสี่เหลี่ยมดาวน์ไลท์ และก็ช่องแสง Sky Light ที่นอกเหนือจากโถงบันไดแล้วยังเอามาให้ที่ในห้องน้ำด้วย

มาดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง ตำแหน่งของห้องนอนใหญ่จะอยู่ด้านหน้าบ้าน ลักษณะเป็นห้องนอนยาวตามความกว้างของหน้าบ้าน รวมทั้งมีลักษณะการจัดวางแบ่งเป็นส่วนเตียงนอนและส่วน Walk in Closet

เนื่องจากห้องนอนใหญ่มีพื้นที่ค่อนข้างยาว เปิดมาทางซ้ายมือจะเป็นมุมบริเวณวางเตียง ซึ่งจัด KingSize ได้เลยนะครับ อีกทั้งยังมีพื้นที่เหลือวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ทั้งสองด้านอีกด้วย

ข้างๆเตียงจะมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ ทำให้ห้องนอนได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ดี แต่ไม่มีระเบียงในตัวนะ สำหรับบ้านแปลงมุมจะได้กระจกด้านข้างหัวเตียงเพิ่มมาด้วย

ฝั่งปลายเตียงเป็นส่วน Walk in Closet สามารถกั้นฉากให้เรียบร้อยเหมือนห้องตัวอย่างได้ ซึ่งก็จะสามารถวางทีวีได้ด้วย

ด้านหลังฉากกั้นก็จะเป็นมุมแต่งตัว โต๊ะเครื่องแป้ง มีหน้าต่างบานเล็กให้อีกจุดหนึ่ง

อันนี้เป็นส่วนของบ้านมาตรฐานในส่วนของ Master Bedroom ที่เราพึ่งดูกันไปเมื่อก่อนหน้านี้ครับ

บ้านอีกหลังที่จะพาไปดูคือ HL2 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 109.72 ตร.ม.3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 Pantry จอดรถ 2 คัน จุดเด่นแรกของบ้านนี้คือสำหรับครอบครัวที่มีรถส่วนตัว 2 คัน ลงจากรถมาจะมีบานประตูเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟาเข้ามุมได้ เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ถัดมาคือส่วนครัวและห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งภายในมีการกั้นพื้นที่อาบน้ำเป็นสัดส่วน เวลาเร่งด่วนยามเช้าก็สามารถแบ่งสมาชิกในบ้านลงมาอาบในห้องชั้นล่างได้อีกห้องหนึ่ง ส่วนพื้นที่ครัวนี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้และดันส่วนครัวไปไว้ยังพื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้านแทน บันไดทางขึ้นชั้น 2 อยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน

ชั้น 2 แบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน 1 ห้อง โดยห้องนอนเล็ก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งหน้าบ้านได้พื้นที่ห้องใหญ่เต็มความกว้างบ้านเลย สามารถกั้นเป็น Walk-in Closet ได้ มีระเบียงเป็นของตัวเอง ทุกๆห้องมีหน้าต่างสำหรับเปิดระบายอากาศ

(รูปบน) บริเวณหน้าบ้านจากบ้านตัวอย่าง /  (รูปล่าง) บริเวฯหน้าบ้านจากบ้านมาตรฐาน  การตกแต่งบ้านภายนอกออกมาเรียบง่ายในสไตล์ Modern ด้วยสีโทนเทา-น้ำตาล ให้ดูตัดกัน ที่ชั้น 2 มีระแนงด้านข้างสามารถบังสายตาส่วน CDU แอร์ หน้าบ้านจอดรถ 2 คัน หลังคาของตัวบ้านเป็นเพิงแหงนเข้าหาหน้าบ้าน ความยาวยื่นออกมาไม่เยอะ ทำให้บังแดดหรือฝนไม่ค่อยได้แต่ก็ไม่ซีเรียสเพราะชั้นบนไม่มีส่วนระเบียงต้องใช้งาน

หน้าบ้านจอดรถได้ 2 คันสบายๆ ด้วยความกว้างของหน้าบ้าน 5.7 ม. พื้นเป็นคอนกรีต บริเวณนี้จะมีลงเสาเข็มมาให้ด้วย โดยพื้นหน้าประตูยกระดับขึ้นจากพื้นลานจอดรถเพื่อแยกเป็นส่วนถอดรองเท้าหน้าบ้าน พื้นยกระดับนี้ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกผิวด้าน ที่มีความสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม. มีข้อดีคือช่วยกันลื่นได้ ส่วนทางเข้าในตัวบ้านก็ยกระดับจากพื้นหน้าประตูอีกระดับหนึ่ง

เข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องรับนั่งเล่นก่อนหันมาทางขวาจะเป็นทางขึ้นบันไดที่ผนังทำเป็นแนวชั้นวางดูทีวีได้ ระยะดูทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 3.50 เมตร วัสดุพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ สีขาวขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ผนังบ้านของจริงจะเป็นผนังปูนทาสีขาวทั้งหมด

ของบ้านมาตรฐานบริเวณตำแหน่งห้องใต้บันไดจะเป็นส่วนของห้องเก็บของได้ด้วย แต่บ้านตัวอย่างแต่งจนดูไม่ออกเลยว่ามี

มุมนั่งเล่นหรือรับแขก ที่จัดเอาโซฟามาอยู่ชิดกับหน้าบ้านเพราะใกล้ช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ดูน่าใช้งานอีก ทั้งถ้าใครเลือกแปลงริมจะได้หน้าต่างที่ด้านหลังเพิ่มมาอีกจุด

พื้นที่การใช้งานต่อเนื่องเปิดโล่งไปยังโซนรับประทานอาหารฝั่งหลังบ้าน

หันมามองทางขวากันนิดนึงที่ผนังมุมนี้สามารถใช้ประโยชน์ของ “พื้นที่ใช้สอยแนวตั้ง” ให้คุ้มค่าได้นะ โดยติดเป็นชั้นวางแบบบ้านตัวอย่างเราจะได้ใช้ประโยชน์ของพื้นได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

และถัดไปเป็นส่วนของพื้นที่ที่ในแปลนวางไว้ให้เป็นครัว แต่บ้านตัวอย่างจัดให้เป็นเหมือนมุมเตรียมอาหารของว่างมากกว่า อยู่ก่อนทางเข้าห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำระยะทางเดินต่างๆก็ไม่ได้แคบติดขุดอะไรนะ สิ่งที่ห้องน้ำนี้มีเพิ่มมาคือมีการแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกเอาไว้กันคนละมุมเป็นสัดส่วนเลย

ฝั่งซ้ายมือเป็นมุมสุขภัณฑ์ ที่ตำแหน่งพัดลมดูดอากาศจะอยู่เหนือด้านบนพอดี

ฝั่งขวามือเป็นมุมอ่างล้างมือ (พวกวัดุจะเหมือนบ้านก่อนหน้าไม่อธิบายซ้ำละนะครับ)

มุมพื้นที่อาบน้ำอันดับแรกต้องบอกก่อนเลยว่า “ดีที่มีมาให้ –  ดีที่แยกมุมออกมาชัดเจน” แต่ข้อเสียก็มีก็คือเพดานมันเตียไปนิดนึง ทำให้ดูแล้วรูสึกอึดอัดเวลาอาบ เพราะตำแหน่งมันอยู่ใต้บันไดด้วยละ มุมนี้น่าจะสูงประมาณ 2 เมตร โดยผมเข้าไปยืนก็เหลือพื้นที่นิดหน่อย(ผมสูง 181 ซม.)/ เราไม่ได้ฉากกั้นมาให้นะครับ ไหนๆก็ก่อธรณีก่อขึ้นมาให้แล้วเน้อ และพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.0 x 1.0 เมตรครับ

ออกมาจากห้องน้ำ จะเป็นส่วนรับประทานอาหาร  โครงการวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ผนังด้านหลังมีประตูที่สามารถเปิดออกไปที่ส่วนหลังบ้านได้ หากพื้นที่ข้างนอกจัดสวนหรือตกแต่งสวยๆ ก็จะช่วยให้ทัศนียภาพในการรับประทานอาหารและการนั่งเล่นตรงนี้ดีขึ้นมากเลย

พื้นที่ซักล้างหลังบ้านในบ้านจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆนะครับ แต่บ้านตัวอย่างตกแต่งต่อเติมให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นและครัว โดยมีการลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้านเอาไว้ให้แล้ว

ครัวต่อเติมด้านหลัง ในบ้านตัวอย่างจัดมาให้ดูเป็นไอเดียในการแต่งบ้านแบบนี้ ของจริงไม่มีให้นะ

อีกมุมนึงครับ

ต่อมาที่บันไดขึ้นชั้น 2 โครงสร้างเป็นคอนกรีตกว้างประมาณ 1 เมตร ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราทำสีไม้จริง ราวบันไดแม้ไม่ได้มีตลอดแนวแต่บันไดช่วงด้านบนก็มีราวกันตกให้เรียบร้อย จากมุมนี้เราจะเห็นช่องแสงฝั่งหน้าบ้านส่องเข้ามาจุดแรก

 

พอเดินขึ้นมาซักระยะ ก่อนจะถึงชั้น 2 จะเจอกับขั้นบันไดรูปสามเหลี่ยมเพื่อเปลี่ยนทิศทางของบันได้ ตรงนี้เวลาเดินต้องระมัดระวังสะดุดนิดนึงนะ ทางทีดีขึ้นลงให้ใช้มือจับเป็นตัวช่วยเซฟตี้อีกขั้นดีที่สุดครับ

โครงการนี้จะมีดีไซน์พิเศษคือจะมีช่องแสง Skylight อยู่ที่บริเวณฝ้าเพดานของโถงบันไดเพื่อรับแสงเข้ามาในตัวบ้าน อ้อ.. แบบนี้ก็มีเจ้า Fresh Air System นะครับ

ขึ้นมาแล้วเดี๋ยวเราไปชมห้องเล็กฝั่งขวามือ (หลังบ้านกันก่อน)

ห้องนอนเล็กห้องนี้ ในบ้านตัวอย่างจัดมาให้ดูเป็นห้องอเนกประสงค์ ห้องนั่งเล่นที่มีโต๊ะทำงานอยู่ด้วย ถ้าจะจัดเป็นห้องนอนเลยก็จะวางเตียงได้ขนาด 3.5 ฟุต  มีหน้าต่างรับแสงและลมเข้ามาในห้อง

มุมโต๊ะทำงานที่แสดงให้เห็นว่ามีพื้นที่เพียงพอทำได้สบายครับ

ห้องนอนเล็กอีกห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้พอดี ผนังมีหน้าต่างอลูมิเนียมสามารถเปิดรับแสงและระบายอากาศให้ทั้งสองฝั่ง ในห้องจริงจะได้เป็นห้องโล่งๆนะ

พื้นที่ผนังข้างห้องสามารถทำเป็นมุมโต๊ะทำงาน ทำการบ้าน และตู้เสื้อผ้าได้มาตรฐาน

ออกจากห้องนอนเล็กตรงกลางบ้านเป็นส่วนของห้องน้ำ ที่ต้องมาใช้ร่วมกันเหมือนเคย

ห้องน้ำแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคและส่วนผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้และเซรามิก ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาและสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบถ้วน แต่ด้วยพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าการเดินใช้งานจะสะดวกกว่าห้องชั้นล่างครับ

พื้นห้องน้ำลดระดับลงไป 3 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร จบขอบปิดขอบด้วยหินแกรนิตสีดำ ซึ่งเป็นข้อดีกว่าการจบขอบด้วยไม้สำเร็จรูปนะ เพราะเวลาทำความสะอาดห้องน้ำก็อาจจะทำให้ตัวจบขอบโดนน้ำไปด้วยถ้าใช้ไม้สำเร็จรูปจบขอบก็สามารถบวมได้

ฝั่งขวามือจะเป็นมุมอ่างล้างมือ ไล่ไปเป็นสุขภัณฑ์ ตำแหน่งของสายฉีดชำระดันแอบล้ำไปยังธรณีกั้นอาบน้ำนิดหน่อย

เช่นเคยครับ พื้นที่อาบน้ำมีการก่อธรณีขึ้นมาให้แล้ว แต่ไม่ได้ฉากกั้นมาให้ ต้องหาติดเพิ่มเองครับ จุดเด่นคือพื้นที่อาบน้ำห้องนี้กว้างสะใจดีครับ เข้าไปยืนอาบกันพ่อ แม่ ลูกได้เลย

ด้านบนมีหน้าต่างบานเลื่อนเป็นทั้งช่องแสงและช่องระบายอากาศ ที่ผนังใกล้ๆฝักบัวเราจะเห็นเตรียมที่ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เสร็จสรรพ

สุดท้ายไปดูห้องนอนใหญ่กัน จริงๆแล้วห้องนี้เป็นห้องโล่งๆ เป็นห้องแนวยาวไม่มีกั้นผนัง แต่ในบ้านตัวอย่างกั้นเป็น Walk-in Closet มาให้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้อง ช่วยให้การจัดพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วนมากขึ้น

โดยฝั่งขวามือจะเป็นมุมวางเตียงนอน ก็คล้ายๆกับบ้านก่อนหน้านะ แต่ Interior มีการเพิ่มกระจกเงามารอบๆห้องทำให้ดูมีมิติที่กว้างกว่า

พื้นที่ห้องนอนอีกฝั่งหนึ่งสามารถแบ่งกั้นฉากทำเป็น Walk – in Closet สำหรับตั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งบ้านจริงจะไม่มีกั้นฉากให้นะครับ จะเป็นห้องเปล่าโล่งๆ

ด้านหลังจะเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง และติดกันมีหน้าต่างช่องแสง ที่ด้านนอกเป็นพื้นที่วางคอมแอร์ โดยมีระแนงเหล็กหน้าบ้านบังเอาไว้เป็นสัดส่วน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10 October 2017

  • ทาวน์โฮมแบบที่ 1 – HL1 (1 ที่จอดรถ) ที่ดิน 17.8 ตร.วา หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 95.02 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 2.48 ล้านบาท (โปรโมชั่น) / ราคามาตรฐาน 2.84 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮมแบบที่ 2 – HL2 (2 ที่จอดรถ) ที่ดิน 21.2 ตร.วา หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 109.72 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท (โปรโมชั่น) / ราคามาตรฐาน  3.29 ล้านบาท
  • โปรโมชั่น ส่วนลดบ้านทุกแบบราคา 200,000 บาท หรือเลือกรับเป็นบัตรเฟอร์นิเจอร์ของ HomePro มูลค่า 150,000 บาทแทน (โปรโมชั่นนี้ถึง 31/10/2017)

  • จอง 5,000 บาท และทำสัญญา 20,000 บาท
  • ดาวน์ 5% ผ่อนดาวน์ 1 งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 50,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลที่ตั้ง ของโครงการตั้งอยู่ในซอยบางไผ่พัฒนาห่างจากถนนนครอินทร์ประมาณ 900 เมตร อีกทั้งถนนเส้นนี้ยังเป็นเส้นที่เชื่อมกับถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนที่เป็นเส้นเชื่อมลัดระหว่างถนนราชพฤกษ์กับถนนนครอินทร์ ยาวไปถึงถนนเส้นเทอดพระเกียรติ นอกจากนั้นยังเป็นทางเชื่อมไปท่าน้ำนนทบุรีอีกด้วย จุดเด่นก็คือการอยู่ใกล้ถนนหลักนครอินทร์ พระราม5 อีกทั้งในละแวกใกล้เคียงยังหาของกินไม่ยาก

ความอุดมสมบูรณ์ โดยรวมแล้วรอบๆโครงการละแวกนี้จะเป็นสิ่งปลูกสร้างแนวราบ ที่อยู่อาศัยบ้านคนและหมู่บ้านจัดสรร มี 7-Eleven อยู่ปากซอย และก็ Makro อยู่ติดถนน ฝั่งตรงข้ามยังมี Tesco Lotus อีก รวมไปถึงบนริมถนนนครอินทร์มีเหล่าร้านอาหารฝากท้องอยู่ไม่น้อย ตกเย็นดึกก็มีร้านแนวกินดื่มอยู่พอสมควร แหล่งอาหารการกินที่สำคัญในย่านนี้ก็คงไม่พ้นท่าน้ำนนท์ ที่จะเป็นที่ฝากท้องกัน / ส่วนห้างร้าน แหล่ง Shopping ก็อาจจะต้องออกมาไกลหน่อยที่ใกล้สุดก็เป็น The walk ราชพฤกษ์ ,The crystal SB ราชพฤกษ์ หรือข้ามฝั่งไปเลยก็จะเป็น เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์ หรือจะไปเซ็นทรัลปิ่นเกล้าก็ได้ระยะพอๆกันครับ

การเดินทาง ถ้าด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกทีเดียว ถ้าง่ายๆก็คือเข้าจากถนนหลักนครอินทร์เลยแค่ 900 เมตร หรือไม่ก็มาจากถนนบางกรวยไทร – ไทรน้อยแล้วลัดเลาะมาก็ได้เช่นกัน ซึ่งตำแหน่งปากซอยทางเข้าบนถนนนครอินทร์ ทั้งสองฝั่งก็มียูเทริ์นมาขนาบอยู่ใช้งานได้ไม่ยากเลย (ยูเทิร์นอยู่ใต้ก่อนสะพานพระราม 5 และแยกบางสีทอง) ประกอบกับทางด่วนพิเศษศรีรัชใหม่(บางซื่อ-กาญจนา) ที่ปัจจุบันมีการเปิดใช้แล้ว แต่การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะนั้นค่อนข้างลำบากนิดนึง อันดับแรกด้วยโครงการอยู่ในซอย 900 เมตร ทำให้การเรียกรถเสริมอื่นอย่างมอเตอร์ไซค์ Taxi ทำได้ยากหน่อย แต่ในรัศมีไม่ไกลจะมีส่วนเสริมอย่างเรือด่วนเจ้าพระยา(ใต้สะพานพระราม 5) ที่สามารถใช้เข้าเมืองต่อเนื่องไปได้เลยไปยันสาทรโน้นน  อีกอย่างคือรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่แยกติวานนท์ ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นตัวเสริมในการเดินทางโดยไม่ใช้รถส่วนตัวได้ครับ

ความปลอดภัย – ตามมาตรฐานของระดับราคานี้ ได้ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการมี รปภ. ดูแลตลอด และมีไม้กระดกกั้น การผ่านเข้า – ออกด้วยระบบ Keycard นอกจากนี้ยังมีระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายใน ส่วนความสูงรั้วรอบโครงการ 2.5 เมตร อีกทั้งตัวบ้านมี Magnetic Sensor และก็ IP Camera มาให้ถึงแม้อย่างละตัวก็ตาม

การออกแบบโครงการ – ตัวโครงการถือเป็นโครงการขนาดเล็ก-กลาง ที่มียูนิตม่หนาแน่นมากทำไม่ให้วุ่นวาย สภาพแวดล้อมภายในโครงการจัดมาให้ตามราคา มีทางเท้าให้เดินได้เฉพาะริมถนนหลักของโครงการ การจัดแบ่งพื้นที่ในโครงการจัดได้ดีพอใช้ ตัวบ้านทำแบบออกมาได้โอเคเลยสำหรับทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาย่อมเยา สไตล์โมเดิร์น เน้นการใช้หน้าต่างกระจกบานใหญ่เพื่อให้รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ คำนึงถึงการใช้งานจริงของสมาชิกในบ้าน อย่างห้องน้ำชั้นล่างที่สามารถอาบน้ำได้ ไม่ต้องแย่งกันอาบน้ำในห้องน้ำชั้นบนห้องเดียว ส่วนครัวให้มาเป็นสัดส่วนสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ และห้องนอนใหญ่ที่มีความยาวตามหน้ากว้างของบ้านทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ส่วนแต่งตัวได้ด้วย บ้านแบบ 2 ที่จอดรถสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยของผู้สูงอายุได้ด้วยถึงแม้จะมีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก เนื่องจากห้องน้ำชั้นล่างที่มีพื้นที่อาบน้ำเป็นสัดส่วนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้การปรับขยายห้องน้ำ และปรับเปลี่ยนฟังก์ชันครัวเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ อาจจะดันครัวออกไปด้านนอกแทน ที่ต่างจากโครงการอื่นๆมีการออกแบบให้ Skylight มาด้วยที่บริเวณชั้นบนทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาตอนกลางวันได้มากขึ้น

วัสดุ – วัสดุโครงการถือว่าได้มาตามมาตรฐาน บ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าสร้างด้วย ระบบ Pre-casting ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ชั้นล่างปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. และชั้นบนปูพื้นลามิเนตหนา 8 มม. ระเบียงและห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. ได้ดวงโคมดาวน์ไลท์ และสุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก Kohler, Karat และ Engfield  มีลงเสาเข็มพื้นที่หลังบ้านเอาไว้ให้ และมีการติดตั้งตัว Fresh Air System มาให้ช่วยในเรื่องของการระบายอากาศและความร้อนในบ้านได้อีก

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – ซุ้มหน้าโครงการถือว่ามีขนาดใหญ่ดี ถนนหลักที่เป็นทางเข้าโครงการมีความกว้างดี โดยถนนหลักและถนนซอยในโครงการมีขนาด 12 และ 8 ม.  ทำให้บริเวณหน้าโครงการดูโล่ง ใช้งานสะดวก และถนนซอยให้มาตามมาตรฐาน สภาพภายในสวนโครงการดูร่มรื่นน่าใช้งาน นอกจากนี้มีพื้นที่สีเขียวระหว่างบล็อกบ้าน เป็นทั้งจุดกลับรถ ใช้เป็นส่วนพักผ่อนได้

สาธารณูปโภค – สาธารณูปโภคถ้าเทียบกับค่าส่วนกลางถือว่าแพงขึ้นมานิดนึง แต่ก็แลกกับด้วยที่ว่าเพื่อนบ้านไม่สูงมากแค่ 164 ยูนิต เหมาะกับคนที่เน้นการอยู่อาศัยมากกว่าเน้นการใช้งาน Facilities โดยมีสวนหย่อม ศาลาที่นั่งพักผ่อน และสนามเด็กเล่นให้ ซุ้มหน้าโครงการถือว่าสวยเข้ากับรูปแบบของโครงการ ทางเข้าออกติดตั้งกล้อง CCTV และระบบ Key Card Access ระยะใกล้ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเข้าออกโครงการ

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 2.8 – 3.8 ล้านบาท, 10 October 2017

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยแต่ใกล้ถนนใหญ่นครอินทร์ มีทางลัดเลาะ ใกล้มินิมาร์ทและซูเปอร์มาร์เก็ต
  • ความปลอดภัย 8/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, Key card Access ระยะใกล้, Magnetic Sensor, IP Camera
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – จัดฟังก์ชันลงตัว เหมาะสำหรับสมาชิก 3-4 คน
  • วัสดุ 7.75/10 – มาตรฐานของระดับนี้, มีเพิ่ม Fresh Air System, Home Automation มาให้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีสวนหย่อมและสวนรอบๆโครงการ สภาพในโครงการดีพอสมควร ตามระดับราคา
  • สาธารณูปโภค 7.0/10 – ไม่เน้น Facilities มาก จัดสวน ที่นั่งพักผ่อน และสนามเด็กเล่นมาให้
  • ECONOMY-MAIN CLASS
  • 7.59 / 10.00

BOTTOM LINE

The Connect พระราม 5 – นครอินทร์  เหมาะกับครอบครัวขยายขนาดเล็ก ที่ต้องการที่อยู่อาศัยหรือทำงานในย่านพระราม 5  ใช้รถยนต์เป็นหลักและเดินทางได้สะดวก ที่อยากได้ที่ทาวน์โฮมขนาดกะทัดรัด แต่ได้พื้นที่การใช้งานครบ ไม่เน้นใช้ Facilities มีงบประมาณ 2.8 – 3.8  หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 19,600 – 26,600 บาท