the city cover post

รีวิวฉบับที่ 973 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมบ้านตัวอย่างของโครงการ The City ราชพฤกษ์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของนนทบุรี บนถนนบางใหญ่-บางคูลัด ใกล้กับตลาดบางใหญ่และไม่ห่างจากศูนย์สรรพสินค้าที่เปิดใหม่อย่าง Central Westgate ตรงแยกบางใหญ่ ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีบ้านทั้งหมด 3 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 51.6 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 6.69 ล้านบาท 

Facts @ 17 November 2015

  • The City Ratchapruek (เดอะ ซิตี้ ราชพฤกษ์)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด มหาชน
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • ที่ตั้งโครงการ : อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
  • เนื้อที่โครงการ : 22-0-52 ไร่ จำนวน 88 ยูนิต
  • แบบบ้านที่ 1 MASON 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. ที่ดิน 51.6 ตร.วา
  • แบบบ้านที่ 2 ASTOR  4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. ที่ดิน 52 ตร.วา
  • แบบบ้านที่ 3 ELLA 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 217 ตร.ม. ที่ดิน 70 ตร.วา
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 51.6, 52 และ 70 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 6.69 ล้านบาทหรือ 129,650 บาท/ตร.วา
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : เดือนมีนาคม 2558
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : เดือนธันวาคม 2559
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1623

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.850965, 100.432442

Print

แผนที่โครงการ โครงการอยู่บนถนนบางใหญ่-บางคูลัด ฝั่งมุ่งหน้าไปทางวงเวียนสามแยกที่ตัดกับถนนบางกรวย-ไทรน้อย เยื้องๆกับการไฟฟ้านครหลวงบางใหญ่

แผนที่ระยะไกล 800

ที่ตั้งของโครงการ The City ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่บนถนนบางใหญ่-บางคูลัด เยื้องๆกับการไฟฟ้านครหลวงบางใหญ่ ระหว่างวงเวียนที่ตัดกับสามแยกถนนบางกรวย-ไทรน้อย และฝั่งที่ติดกับถนนกาญจนาภิเษกทางตะวันตก ซึ่งจากที่ตั้งของโครงการ สามารถเข้า-ออกโครงการได้หลายเส้นทางเพราะถนนบางใหญ่-บางคูลัดติดกับถนนใหญ่หลายเส้น ไม่ว่าจะมาจากอีกฝั่งของถนนแม่น้ำเจ้าพระยาที่ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้าอย่างถนนรัตนาธิเบศร์แล้ววิ่งลงถนนบางกรวย-ไทรน้อย หรือว่าจะมาจากตะวันตกที่ถนนกาญจนาภิเษกที่เป็นวงแหวนตะวันตกซึ่งวิ่งรอบกรุงเทพชั้นนอกและจังหวัดรอบๆ อีกทางคือมาจากถนนราชพฤกษ์ที่วิ่งเหนือ-ใต้

ความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ก็จะเป็นลักษณะชานเมืองหน่อยๆตามสไลต์นนทบุรี แต่วงกว้างหน่อยก็ไม่ได้เงียบเหงาอะไรเพราะว่าแถวนี้เป็นชุมชนอยู่อาศัยแนวราบค่อนข้างเยอะ แต่บนถนนบางใหญ่-บางคูลัดจะเงียบลงมาอีกนิดนึงเพราะไม่ใช้ถนนหลัก ริมทางส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าสลับกับร้านค้าอาคารพาณิชย์ และก็โครงการแนวราบต่างๆ รอบนี้เป็นแหล่งชุมชนวัดเก่าแก่ค่อนข้างเยอะ ทำให้เกิดชุมชนรอบวัดขึ้นมา ปั๊มน้ำมันสองฝั่งเยอะมากๆ หรือถ้าหากต้องการซื้อของจากตลาดสด สามารถวิ่งตรงไปทางวงเวียนการไฟฟ้า แล้วเลี้ยวซ้ายก็จะพบกับตลาดเจ้าพระยาครับ ส่วนพวกห้างแหล่งช้อปก็ต้องออกไปตามถนนหลักหน่อยมีให้เลือกมากมายเต็มไปหมด(ดูจากแผนที่) ได้แก่ Tesco Lotus, Plus Mall, BigC, BigC Extra, Central Westgate, The Walk ราชพฤกษ์ และ The Crystal ราชพฤกษ์ เป็นต้น โรงพยาบาลใกล้ๆก็จะมีรพ.บางใหญ่ และรพ.เกษมราษฎร์

ถนนบางกรวยไทรน้อยฝั่งลงไปทางทิศใต้ จะเชื่อมต่อไปถึงถนนราชพฤกษ์ พระราม 5 และมาออกสะพานพระราม 7 ได้เลย ถนนในซอยเป็นแบบ 4 เลน บริเวณรอบๆถนนเส้นนี้มีความเป็นชุมชนที่อยู่กันมานาน มีตลาด มีร้านทำผม ร้านขายของชำ ร้านขายทอง วัด โรงเรียนมีของกินขายให้เห็นตามข้างทางอยู่เรื่อยๆ พูดถึงเรื่องรถติด แถวนี้ยังไม่ค่อยติดเท่าไร และมีบริการรถสองแถวตลอดเส้น ระหว่างทางก็จะมีซอยเชื่อมทะลุถึงกันอีกมากมาย เริ่มมีโครงการใหม่ๆขึ้นในซอยนี้หลายโครงการแล้ว ทำเลนี้เหมาะกับคนที่ต้องการใช้ทางลัดเลาะต่างๆ เพื่อออกไปยังถนนหลักและระหว่างทางก็ไม่ได้เงียบเหงาและแอดอัดจนเกินไป

ถนนบางกรวยไทรน้อยฝั่งขึ้นไปทางทิศเหนือ จะเชื่อมต่อไปออกถนนกาญจนาภิเษก และไปสุดที่ตำบลไทรน้อย ฝั่งนี้จะเป็นเขตอำเภอบางบัวทองนะครับ สภาพแวดล้อมชุมชนจะเจริญมากในช่วงยังไม่เกินถนนกาญจนาภิเษก 2 ฝั่งรายล้อมไปด้วยอาคารพาณิชย์ร้านค้ามากมาย ปั๊มน้ำมันมีให้เลือกทุกยี่ห้อตลอดเส้นทาง และมีห้าง Tesco Lotus อยู่ด้วย อาหารการกินไม่ต้องห่วงเลยที่นี่เค้ามีตลาดบางบัวทอง ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ ขายของเกือบตลอดทั้งวันทั้งคืนกันเลย รอบๆตลาดนี่เป็นแนวอาคารพาณิย์ยาวติดกันเลย ร้านต่างๆเรียกว่ามีกันทุกชนิดเลยทีเดียว และก็ยังมีโรงเรียน โรงพยาบาล สำนักงานราชการ รัฐวิสาหกิจต่างๆ ตั้งอยู่บนเส้นนี้ด้วย

แผนที่ระยะไกล mrt

การเดินทางส่วนใหญ่จะใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ถ้าเอาแค่ผ่านบริเวณถนนหลักด้านหน้าโครงการก็พอมีให้เลือกอยู่บ้าง อาทิเช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่จะทดลองเปิดให้ใช้ประมาณวันแม่ปีหน้า หรือ 12 สิงหาคม 2559 จากที่เลื่อนกันมาหลายรอบ สถานี MRT ที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่สถานีบางพลูบริเวณแยกบางพลูซึ่งถือว่าเป็นแยกใหญ่ หลังจากนั้นบริเวณแยกนี้จะมีรถแท็กซี่ผ่านเยอะอยู่ และก็พี่วินอยู่ที่จุดสี่แยกเช่นกัน แต่พอเย็นหน่อยก็ค่อนข้างเปลี่ยวแล้วไม่แนะนำให้ยืนรอที่มืด ส่วนรถเมล์ สองแถว รถตู้ก็จะมีผ่านไปมาบ้าง

แผนที่ระยะไกลเดินทาง

เส้นทางการเดินทางที่จะพากันไปในวันนี้ จะเร่ิมจากถนนงามวงศ์วานตรงห้างพันธุ์ทิพย์ ตรงมาเรื่อยๆผ่านแยกแคราย แยกนนทบุรี ข้ามสะพานแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างสะพานพระนั่งเกล้า ผ่านวงเวียนราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายที่แยกบางพลู มาอยู่บนถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตรงมาจนสุดจะเจอกับวงเวียนสามแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนบางใหญ่-บางคูลัด ตรงมาอีกประมาณ 600 เมตร โครงการจะอยู่ทางขวามือ

เริ่มการเดินทางกันจากถนนงามวงศ์วานขาออกมุ่งหน้าถนนรัตนาธิเบศร์ คือห้างคือพันธุ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน ซึ่งแถวนี้จะมีวินรถตู้เยอะมากๆ และติดมากๆช่วงเลิกงานตอนเย็น เพราะนอกจากสถานที่ราชการบริเวณนี้จะเยอะแล้วยังมีสถาบันกวดวิชาต่างๆตั้งอยู่สองฝั่งเต็มไปหมด

มุ่งหน้าตรงต่อไปจะเป็นจุดขึ้นลงทางด่วนหลักในละแวกนี้ อย่างทางซ้ายมือจะเป็นทางขึ้นทางด่วนเพื่อเข้าเมือง และเลยไปหน่อยจะเป็นทางลง ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นทางขึ้น-ลงเช่นกัน

ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับแยกแครายด้านหน้า ซึ่งแน่นอน ว่าแยกนี้เป็นแยกมหาโหดช่วงสี่โมงเย็นเป็นต้นไป เนื่องจากเป็นเส้นทางกลับบ้านของหมู่บ้านแนวราบทั้งหลายที่อยู่แถวนนทบุรี-บางบัวทอง เราจะขึ้นสะพานข้ามแยกไป

พอลงสะพานข้ามแยกแครายมาแล้ว ฝั่งตรงข้ามทางขวามือจะเจอกับห้างเอสพลานาดและ Tesco Lotus ครับ

และก็จะเริ่มเห็นรางรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่โค้งมาจากแถวเตาปูนผ่านถนนกรุงเทพ-นนท์ มาบนถนนรัตนาธิเบศร์

ผ่านสถานี MRT ศูนย์ราชการนนทบุรี ซึ่งขวามือตรงนี้ก็จะเป็นตัวศูนย์ราชการเอง ในอนาคตจะเป็นสถานี Interchange ของสายสีชมพูจากหลักสี่และสีน้ำตาลจากม.เกษตร

และก็ผ่านสถานีถัดไปคือบางกระสอ (แต่เดิมตอนแรกตั้งว่าสถานีศรีพรสวรรค์) ทางลงสถานีมี BigC อยู่ทางซ้ายมือด้วย สองฝั่งตามเส้นทางรถไฟฟ้าก็จะมีคอนโด High-rise ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่เรียงกันไปเรื่อยๆ ถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มาตามความเจริญของการขยายเมืองและเส้นทางขนส่ง ในซอยก็จะมีคอนโด Low-rise ที่ราคาย่อมเยาลงมาหน่อย

หลังจากนั้นจะเห็นห้างจับจ่ายใช้สอยของคนแถวนี้คือ Central รัตนาธิเบศร์ ที่มี Index Living Mall อยู่ภายในพื้นที่เดียวกันด้วย อยู่ฝั่งตรงข้าม มีสะพานลอยข้ามได้

พอพ้น Central ไปหน่อยจะเจอกับสถานีแยกนนทบุรี 1

ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอป้ายบอกทาง เราจะยึดตามป้ายที่บอกถึงจุดหมายบางบัวทอง-กาญจนาภิเษกไว้ก่อนนะคะ

ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามา ทางซ้ายมือเป็นบริเวณที่ตั้งสถานี MRT ที่วิวดีเลย

พอลงจากสะพานพระนั่งเกล้ามาแล้วจะเจอกับสถานีไทรม้า ขอติตึงเพื่อการปรับปรุงนิดนึงว่าขนาดของป้ายสถานีที่ติดอยู่บนตัวสถานีค่อนข้างเล็กมากถ้ามองไกลๆ ยิ่งบางจุดจะมีสะพานลอยบังป้ายอยู่เพราะยังไม่ได้รื้อถอน ทำให้แทบไม่รู้ชื่อสถานีเลยสำหรับคนไม่คุ้นเส้นทาง

ตรงมาผ่านวงเวียนราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์  บริเวณนี้อยู่ตัดกับถนนราชพฤกษ์นี่เป็นถนนใหญ่ที่สามารถไปรังสิต-ปทุมธานี และเข้าตัวเมืองไปทางตากสิน-สาธรได้ เต็มไปด้วยห้างต่างๆค่อนข้างเยอะทีเดียวอาทิเช่น The Walk , The Crystal, The CirCle , Homepro , Homeworks , Bar&Restaurant มากมาย นับว่าเป็นจุดตัดกับถนนหลักสำคัญเลยก็ว่าได้ แต่ตัวถนนราชพฤกษ์นี่ก็มีข้อเสียเหมือนกันนะ ซึ่งมันไม่มีรถเมล์ให้ใช้บริการ และวินมอเตอร์ไซต์ก็ไม่มี คงต้องพึ่งบริการแท็กซี่และรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นหลักครับ ถึงจะไม่มีรถสาธารณะให้บริการแต่การจราจรบนเส้นนี้ก็ถือว่าหนาแน่นพอสมควรเลย เพราะว่าเป็นถนนหลักที่เชื่อมต่อไปสายสำคัญต่าง และมี Community Mall อยู่เยอะ

หลังจากพ้นมาแล้วเราจะเห็นป้ายจราจรบอกให้เบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าสู่อ.บางกรวย

พอเบี่ยงซ้ายออกมาเลนนอกแล้วจะเจอกับปั๊มปตท.พอดี

และก็เห็นที่ตั้งสถานีบางพลู ซึ่งเจ้าสถานีบางพลูนั้นตั้งคร่อมอยู่บนแยกนี้พอดี อยู่ตัดกับถนนรัตนาธิเบศร์และถนนบางกรวย-ไทรน้อย ถนนบางกรวย-ไทรน้อยถือเป็นถนนที่มีชุมชนอยู่อาศัยหนาแน่นทั้ง 2 ฝั่ง  มีหมู่บ้านแนวราบเยอะพอสมควร เพราะว่ายังโครงการต่างๆราคายังไม่แพงเท่าพวกที่ติดถนนหลักอย่างราชพฤกษ์และกาญจนาภิเษก

แยกบางพลูถือว่าเป็นแยกใหญ่พอสมควร สังเกตไม่ยาก เราเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดก่อนถึงไฟเขียว-ไฟแดงเข้าสู่ถนนบางกรวย-ไทรน้อย จากแยกตรงนี้ถ้าตรงไปอีกจะไปตัดกับถนนกาญจนาภิเษกที่มีห้าง Central Westgate อยู่ทางขวามือ หรือว่าเลี้ยวขวาไปทางบางบัวทอง

เข้าสู่ถนนบางกรวยไทรน้อยจะเป็นถนน 4-6 เลนสลับกันไปมา สภาพแวดล้อมจะเป็นแนวอาคารพาณิชย์สลับกับที่ดินเปล่า และก็พวกโครงการแนวราบต่างๆ แถวนี้วัดเยอะนะคะ จะมีป้ายชวนทำบุญเทศกาลต่างๆให้เห็นประจำ ทำให้แถวนี้เป็นชุมชนอยู่อาศัยใกล้กับวัด แล้วปัจจุบันก็ขยายตัวบริเวณใกล้ๆเป็นหมู่บ้านต่างๆออกไป

บนถนนบางกรวย-ไทรน้อยจะเจอปั๊มระหว่างทางเต็มไปหมด สองฝั่งตรงนี้จำนวนรถไม่มาก สิ่งปลูกสร้างก็ไม่เยอะด้วย

จากนั้นจะผ่านหน้าวัดสวนแก้วทางซ้ายมือและฝั่งตรงข้ามเป็น 7-11 และร้านค้าของกินรถเข็น

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอทางโค้งขวา เราจะตรงไปเรื่อยๆจนสุดถนนบางกรวย-ไทรน้อยที่ตัดกับถนนบางใหญ่-บางคูลัดนะคะ

ตรงมาอีกก็จะเริ่มเห็นทางเข้าโครงการหมู่บ้านจัดสรรแนวราบเรื่อยๆทางขวามือ

the city location 9 copy

ตรงมาจนสุดที่ถนนบางกรวย-ไทรน้อยตัดกับถนนบางใหญ่-บางคูลัดแล้ว ก็จะเจอวงเวียนที่เป็นสามแยก เราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนบางใหญ่-บางคูลัด ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายโดยไม่ได้เข้าวงเวียนก็จะเป็นเส้นบางกรวย-ไทรน้อย

ผ่านวงเวียนเลี้ยวขวากำลังจะเข้าถนนบางใหญ่-บางคูลัด

the city location 11 copy

ตรงมาหน่อยทางซ้ายมือก็จะเป็นที่ตั้งของการไฟฟ้านครหลวงบางใหญ่ มีที่จอดรถด้านหน้าด้วย บนถนนบางใหญ่-บางคูลัดเป็นถนน 2 เลน 2 ฝั่งรวมเป็น 4 เลนแบบไม่มีเกาะกลาง

the city location 12 copy

จากการไฟฟ้าตรงมาอีกประมาณ 600 เมตรก็จะเจอกับทางเข้าโครงการ The City ราชพฤกษ์ ซึ่งต้องรอจังหวะเลี้ยวเข้าโครงการนิดนึง

เลี้ยวขวาก็จะถึงแล้ว โครงการ The City ราชพฤกษ์

surrounding

พื้นที่รอบๆโครงการในระยะใกล้ๆบนถนนบางใหญ่-บางคูลัดถือว่ายังโล่งๆอยู่ ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยแนวราบ ทั้งในส่วนของชุมชนที่มาตามวัดในพื้นที่ อย่างใกล้ๆฝั่งตะวันตกของโครงการก็จะมีวัดสะแกที่รอบๆก็จะมีที่พักอาศัยอยู่ และในส่วนของหมู่บ้านจัดสรรที่อยู่บนถนนบางกรวย-ไทรน้อยทั้งทิศเหนือ-ตะวันออกของโครงการ ส่วนที่ติดกับถนนบางใหญ่-บางคูลัดหน้าโครงการก็จะเป็นพวกอาคารพาณิชย์เป็นหย่อมๆ เปิดชั้นล่างเป็นร้านค้า ร้านบริการต่างๆรวมถึงบ้านพักอาศัยแบบปลูกเองส่วนตัว แต่โดยรวมก็ยังถือว่าเป็นพื้นที่โล่งๆ ไม่มีความแออัดในพื้นที่เท่าไร

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • การไฟฟ้านครหลวงบางใหญ่ 500 เมตร
  • วัดสะแก 550 เมตร
  • ตลาดบางใหญ่ 1 กิโลเมตร
  • ตลาดเจ้าพระยา 1.4 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus Express 1.7
  • สนามกีฬาจังหวัดนนทบุรี 1.9 กิโลเมตร
  • วัดสวนแก้ว 2.4 กิโลเมตร
  • รพ.บางใหญ่ 3 กิโลเมตร
  • Homepro+BigC 4.1 กิโลเมตร
  • Home Pro ราชพฤกษ์ 4.5 กิโลเมตร
  • PlusMall+Tesco Lotus 5.3 กิโลเมตร
  • รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ 5.7 กิโลเมตร
  • บางใหญ่ไนท์พลาซ่า 5.7 กิโลเมตร
  • ตลาดกลางบางใหญ่ 6 กิโลเมตร
  • Central Westgate 6.2 กิโลเมตร
  • The Crystal ราชพฤกษ์ 8.7 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

surrounding

โครงการ The City ราชพฤกษ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 88 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 22-0-52 ไร่ สามารถเข้าถึงได้ทางเดียวจากถนนบางใหญ่-บางคูลัด ฝั่งมุ่งหน้าไปตัดกับถนนบางกรวย-ไทรน้อย ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ของโครงการยังเป็นพื้นที่ก่อสร้าง กำหนดโอนกรรมสิทธิ์เร็วที่สุดคือช่วงเดือนหน้า หรือเดือนธันวาคมปี 2558 จะขายตั้งแต่บ้านส่วนหน้าไล่ไปเรื่อยๆจนถึงส่วนหลังโครงการ แต่ซอยแรกสุดจะเป็นส่วนของ Sales Office และบ้านตัวอย่างเข้าไปยังถนนซอยย่อยๆ การจัดวางแบบบ้านของโครงการในแต่ละซอยย่อยรวมไปถึงรอบสวนสาธารณะและ Clubhouse ไม่ได้แบ่งแบบบ้านเล็กใหญ่ออกเป็นโซนๆตามพื้นที่ แต่จะมีบ้านทุกแบบสลับๆกันไปในพื้นที่แปลงต่างๆ

จากทางเข้าโครงการตรงถนนใหญ่ จะมีบ้านพักอาศัยทางซ้ายมือ 2 หลังที่เป็นบ้านพักอาศัยของคนในพื้นที่ แต่ใช้ทางเข้า-ออกเดียวกันกับโครงการ ลึกเข้ามาหน่อยก็จะเป็นส่วนของป้อมพี่ยาม ที่จะตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก ลูกบ้านจะเข้าโครงการด้วยการแตะบัตร Keycard ระยะใกล้ เพื่อเปิดประตูบานเลื่อน เข้าไปจะเป็นถนนหลักของโครงการกว้าง 12 เมตร กำแพงรอบโครงการสูง 2.5 เมตร ทางขวามือเป็น Clubhouse สูง 1 ชั้น ประกอบไปด้วย Lobby สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องน้ำแยกชาย-หญิง ส่วนทางซ้ายเป็นซอยแรกที่มีบ้านพักอาศัยแต่เป็น Sales Office และพื้นที่จอดรถของผู้เข้ามาติดต่อโครงการ ถัดเข้าไปหน่อยจะเป็นบ้านตัวอย่างทั้ง 3 หลัง ตรงจากถนนหลักไปก็จะเจอวงเวียนที่ตรงไปก็จะเป็นพื้นที่ก่อสร้าง ทางขวาเป็นรั้วโครงการและทางซ้ายเป็นซอยบ้านจริงที่มีรั้วกั้น ความกว้างในซอยย่อยอยู่ที่ 9 เมตร ซึ่งก็จะมีบ้านอยู่ทั้งสองฝั่ง

การวางตัวบ้านของแต่ละยูนิตจะอยู่ในซอยย่อยทั้งหมด ต่างกันที่ซอยแรกๆหรือซอยหลังๆ ซอยหน้าหน่อยก็จะมีเพื่อนบ้านผ่านเยอะหน่อย ใกล้ Clubhouse ด้วย ซอยหลังๆก็จะเหงาๆ ส่วนใครที่บ้านอยู่ต้นซอยก็จะมีเพื่อนบ้านในซอยผ่านเข้าออกเป็นประจำ ส่วนท้ายซอยก็จะมีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย ซึ่งในซอยๆนึงจะมีไม่เกิน 16 ครอบครัว ส่วนการวางทิศทางตัวบ้าน จะมีเพียงสองแบบคือหันหน้าบ้านไปทางทิศเหนือ และหันหน้าบ้านไปทางทิศใต้ ก็เลือกได้ตามความชอบ ชอบแสงธรรมชาติเป็นคนตื่นเช้าก็เลือกบ้านที่หันไปทางทิศเหนือเพราะห้อง Master Bedroom ส่วนใหญ่จะอยู่หน้าบ้าน ส่วนใครชอบแสงที่แรงขึ้นมาหน่อยแต่ลมดีกว่าและแอบตื่นสายก็เลือกบ้านที่หันไปทางทิศใต้ จะได้นอนได้ยาวๆ

เริ่มต้นที่ทางเข้าโครงการด้านหน้า จะมีป้ายเด่นมากหันหาถนนบางใหญ่-บางคูคด มีตัวเป่าลมโบกๆอยู่ที่ริมถนนใหญ่เพื่อตอนรับผู้ที่สนใจโครงการในวัน Pre-sale 28-29 พฤศจิกายนนี้

หันเข้ามาภายในถนนทางเข้าโครงการหน่อยก็จะเห็นบ้าน 2 หลังสีสันสดใสที่เป็นบ้านที่ต้องใช้ทางเข้า-ออกเดียวกันกับลูกบ้านโครงการ The City ราชพฤกษ์

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นกำแพงโครงการก่อขึ้นมาปกติ

เลยเข้ามาหน่อยก็จะเป็นทางเข้าของ Service Road ของโครงการ เป็นจุดรถเข้าขนทราย ขนของ

the city facility 5

ตรงกลางจะเป็นซุ้มโครงการสีเทา-ขาวตั้งอยู่ ทางขวาเป็นป้ายโครงการ ทางซ้ายเป็นป้อมพี่ยามอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก

the city facility 6

ทางเข้ารถและคนเดินจะอยู่ฝั่งซ้ายมือของป้อมพี่ยาม เทียบสเกลจากความสูงพี่ยามจะเห็นว่าซุ้มโครงการสูงไม่ต่ำกว่า 5 เมตร

การเข้าโครงการของลูกบ้านคือจะได้ Keycard เป็นแบบระยะใกล้คือต้องเปิดกระจกออกมาแตะบัตรที่เครื่องรับสัญญาณนี้แล้วประตูเลื่อนด้านหน้าก็จะเปิดออก ขับรถผ่านเข้าไปได้

โดยการเข้า-ออกก็จะมีกล้อง CCTV ของโครงการติดอยู่ที่ทั้งทางเข้าและรอบๆโครงการรวม 88 จุด

ผ่านจุดรักษาความปลอดภัยเข้ามาแล้วก็จะเจอกับถนนหลักของโครงการกว้าง 12 เมตร

ทางขวามือหลังจากเข้ามาก็จะเป็น Clubhouse สูง 1 ชั้น หันหน้าเข้าหาถนนหลัก ปัจจุบันตัว Clubhouse นี้ก็จะมีทั้งส่วนที่สร้างเสร็จเรียบร้อย และส่วนที่ยังมีการเก็บรายละเอียดอยู่นิดหน่อย ส่วนต้นไม้ที่มีไม้ค้ำตั้งอยู่ด้านหน้า Clubhouse นั้นไม่ได้วางตรงจุดนั้นๆนะคะ แต่เกิดจากการที่ประปาจะเข้ามาในโครงการพอดี เลยต้องมีการขุดจากที่เคยปลูกเอาไว้ทั้งสองฝั่งของถนนหลักโครงการขึ้นมาฝากไว้ก่อน

Clubhouse มีอาคาร 1 ชั้น 2 ส่วนคือส่วนซ้ายและส่วนขวา ตรงกลางจะเป็นพื้นที่กลางแจ้งสำหรับสระว่ายน้ำ เราจะพาไปดูส่วนที่เสร็จเรียบร้อยคือส่วน Lobby ฝั่งซ้ายและสระว่ายน้ำกัน ส่วนฝั่งขวาที่ยังเก็บรายละเอียดกันคือห้องฟิตเนสนะคะ

เดินขึ้นบันไดมาประมาณ 5 ขั้น เปิดประตูบานเลื่อนเข้ามาก็จะเจอกับส่วนที่เป็น Lobby ของโครงการหรือเรียกอีกอย่างคือ Multi-purpose room คือห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์อย่างชุดโซฟาวางไว้ที่มุมต่างๆ มีโต๊ะกลาง มีเคาท์เตอร์วางอยู่ตรงกลาง รอบๆเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเพื่อรับลม แต่ก็จะมีแอร์ติดไว้ให้ด้วยในวันร้อนๆ

อีกมุมหนึ่งของ Lobby ทางซ้ายคือประตูบานเลื่อนที่เราเปิดเข้ามา ภายในเพดานจะค่อนข้างสูง มีช่องแสงจากด้านบน ทำให้เวลากลางวันแทบไม่ต้องเปลืองค่าส่วนกลางในการจ่ายค่าไฟ

หลังเคาท์เตอร์ตรงกลางจะมีประตู 2 บานคือห้องน้ำแยกชาย-หญิงของพื้นที่ส่วนกลาง

ยกตัวอย่างภายในห้องน้ำหญิงก็จะมีวัสดุและการตกแต่งประมาณนี้ ภายในก็จะมีอ่างล้างมือ 2 อ่าง ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ ซึ่งห้องนี้จะไม่ต่อกับสระว่ายน้ำที่อยู่กลางแจ้งด้านนอกนะคะ ดังนั้นถ้าพึ่งขึ้นจากสระว่ายน้ำ ตัวเปียก ก็จะต้องเดินอ้อมมาที่ Lobby เพื่อเข้าห้องน้ำหลังเคาน์เตอร์นี้อยู่ดี

ออกจากภายในห้องมาดูพื้นที่ Outdoor กันบ้าง สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5.7 x 12.7 เมตร ลึก 1.2 เมตร ไม่มีสระเด็ก รอบๆเป็นพื้นที่ข้างสระ 3 ด้าน

ที่มุมสระจะมีพื้นที่ล้างตัว 1 จุดถ้วน ซึ่งจุดนี้ก็ไม่ต่อเนื่องกับห้องน้ำด้านในเช่นกัน

พื้นที่ข้างสระก็จะมีด้านนึงที่อยู่ใต้ร่มหน่อย ก็จะมีเก้าอี้สนามที่เปียกน้ำได้วางไว้ให้ประมาณ 3 ชุด ส่วนถ้าเดินไปทางซ้ายก็จะเป็นห้องฟิตเนสที่อยู่ระหว่างการเก็บความเรียบร้อย

จากหน้า Lobby หันออกมายังฝั่งตรงข้ามกับถนนหลัก ก็จะเจอซอยย่อยซอยแรก ซึ่งเป็นซอยที่เป็นส่วนของ Sales Office และบ้านตัวอย่างทั้งบ้านที่ตกแต่งและบ้านเปล่า รวมถึงที่จอดรถของผู้มาติดต่อ

จากถนนหลัก เราก็จะตรงไปเรื่อยๆเพื่อไปดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันนิดนึง

ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอวงเวียนที่จากวงเวียนนี้จะมีอีก 2 แยก คือตรงไปบนถนนหลัก หรือเลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่ 2 ซ้ายมือ ส่วนทางขวามือจะเป็นรั้วโครงการสูง 2.5 เมตร

ตรงมาบนถนนโครงการจะเป็นพื้นที่ก่อสร้าง มีประตูกั้นไว้

ส่วนทางซ้ายจะเป็นส่วนของซอยย่อยที่พอจะเข้าไปแอบดูได้ จะพาเข้าไปดูบรรยากาศกัน ตรงกลางของวงเวียนมีน้ำพุสร้างบรรยากาศและเสียงได้ดี

ต้นซอย 2 ทางซ้ายมือที่เห็นเป็นพื้นที่สีเขียวปูหญ้าและต้นไม้ ความจริงแล้วในอนาคตจะเป็นพื้นที่ขายนะคะ แต่ปัจจุบันเนื่องจากตรงกับพื้นที่หลังบ้านของบ้านตัวอย่างที่ซอย 1 พอดี เลยยังทำเป็นพื้นที่โล่งไว้ก่อน

ส่วนทางขวาก็จะเป็นบ้านแบบขายจริง ที่บางหลังยังมีช่างเก็บงานความเรียบร้อยขั้นสุดท้ายกันอยู่

ในซอยย่อยถนนจะกว้าง 9 เมตร เดินเข้ามาเรื่อยซักกลางซอยก็จะเร่ิมมีความร่มรื่น ทั้งส่วนของพื้นที่ยกระดับเป็นทางเดินทั้งสองฝั่ง ที่ปลูกหญ้าและต้นไม้ใหญ่ ซึ่งความจริงแล้วถ้าปลูกหญ้าบนทางเดินเท้าแบบนี้ก็ต้องลงมาเดินบนถนนทางรถอยู่ดี

ตรงมาจนสุดซอยก็จะเป็นต้นไม้พุ่ม ที่พออีกหน่อยก็จะสูงเท่ากับความสูงรั้วรอบโครงการ สร้างความเขียวขึ้นได้อีกหน่อย

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5.7 x 12.7 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • สวนสาธารณะ 279 ตารางวา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 26 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
  • ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร

 


Product Walkthrough

โครงการ The City ราชพฤกษ์ ตัวบ้านมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ

  • แบบบ้านที่ 1 MASON 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. ที่ดิน 51.6 ตร.วา
  • แบบบ้านที่ 2 ASTOR  4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. ที่ดิน 52 ตร.วา
  • แบบบ้านที่ 3 ELLA 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. ที่ดิน 70 ตร.วา

12305838_10153623298680310_1749389203_n

แบบบ้านที่เป็นบ้านตัวอย่างแบบตกแต่งแล้วจะมีแบบเดียวคือแบบ ASTOR ที่เป็นบ้านขนาดกลาง มีพื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. บนที่ดิน 52 ตร.วา ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่ลงให้หน้าบ้านตามโปรโมชั่นโครงการ จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จาก 4 ทางหลัก คือบานประตูบานเปิดหน้าบ้านทางห้องรับแขก, บานเปิดจากที่จอดรถ, บานประตูเลื่อนจากเฉลียงข้างบ้านตรงห้องทานข้าว และประตูเปิด-ปิดหลังบ้านจากส่วนซักล้างเข้ามาเจอครัว

จากทางเข้าหลักส่วนห้องรับแขกหน้าบ้านด้านหลังคือห้องทานอาหาร ทางซ้ายมือจะมีทางเดินเข้าไปยังด้านในส่วนหน้าบ้านเป็นบันไดที่อยู่กลางบ้าน และถัดไปเป็นทางเข้าจากที่จอดรถ ห้องครัวที่อยู่หลังบ้าน เปิดประตูหลังบ้านออกไปเป็นลานซักล้าง ด้านหลังเป็นห้องนอนของชั้นล่างที่ถ้าไม่มีความจำเป็นในการใช้งานอย่างเป็นห้องนอนของผู้ใหญ่ก็สามารถปรับเป็นห้องทำงานหรือห้องเอนกประสงค์อื่นๆได้ และในสุดทางซ้ายอีกทีจะเป็นห้องน้ำของชั้นล่างที่แบ่งพื้นที่ภายในห้องน้ำเป็นสามส่วน คืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำแบบลดระดับพร้อมฉากกั้นอาบน้ำ ซึ่งถือว่าให้มาครบพร้อมใช้งาน บางที่จะให้แค่สองส่วนคืออ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์

จากเดินขึ้นมาชั้น 2 ก็จะมีห้องพักผ่อนอยู่ตรงกลางบ้าน ขวามือเป็นทางเข้าห้องนอน Master bedroom ด้านในจะมีห้องน้ำในตัว ระเบียงในตัว รวมถึงพื้นที่สำหรับการ Built-in Walk-in Closet ส่วนทางซ้ายจากส่วนพักผ่อนจะเป็นทางเข้าของห้องนอนกลางหน้าบ้าน ห้องนอนเล็กข้างบ้าน และห้องน้ำหลังบ้าน สมาชิกที่อยู่ภายในห้องนอนกลางและเล็กจะต้องแบ่งกันใช้ห้องน้ำบนชั้น 2

ภายนอกของบ้านจะเน้นดีไซน์เรียบง่าย แปลนบ้านหน้ากว้าง ตกแต่งด้วยสีไมโล-ขาว ตัดด้วยกระจกใสสีเขียวตัดแสง ตัวกรอบเป็น UPVC สีขาว จากภายนอกจะเห็นที่จอดรถ 2 คันอยู่ด้านซ้ายของหน้าบ้าน ส่วนหลังคาของพื้นที่จอดรถ ไม่ได้ปกคลุมกันแดดกันฝนให้รถทั้งคัน แค่ถึงส่วนกลางรถเท่านั้นที่หลังคาจะบังถึง ประตูบานเลื่อนเปิดทางขวามือคือประตูหลักเข้าบ้านไปทางห้องรับแขก บนชั้น 2 ประตูบานเลื่อนและระเบียงที่เห็นคือจากห้องนอนใหญ่ที่เข้าจากชานพักบันได และหน้าต่างทางซ้ายมือคือจากห้องนอนกลาง

ก่อนจะเข้าไปดูบ้านที่ตกแต่งแล้วเรียบร้อยจะแวะมาดูบ้านจริงที่อยู่ในซอย 2 ทางซ้ายมือ ที่มีการก่อรั้วบ้าน ติดประตูครบเสร็จสรรพกันก่อนนะคะ

หน้าบ้านก็จะมีการปลูกหญ้า ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้หน้าบ้านให้สวยงาม ทางขวามือก็จะเป็นประตูบานเลื่อนเข้าที่จอดรถ 2 คัน ไม่ได้ติดตั้งระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติมาให้ มีประตูเล็กอยู่ตรงกลางสำหรับเวลาเดินเข้า

ประตูเลื่อนเวลาเปิด-ปิด

ประตูเล็กก็จะเป็นแบบไขกุญแจเปิดเข้า มีไฟหน้าบ้านดวงเล็ก และกริ่งกดออด

ประตูที่เลื่อนมาก็จะไปเก็บอยู่ด้านหลังรั้วหน้าบ้าน น้ำหนักของรั้วบานเวลาเลื่อนก็ใช้แรงพอสมควร

ส่วนอีกฝั่งหน้าบ้านก็จะมีป้ายทะเบียนบ้านที่อยู่บนกล่องจดหมาย ด้านล่างเป็นที่ใส่ขยะได้จากในบ้าน คนเก็บก็เปิดบานออกมาหยิบออกไปได้เลย

ตัดภาพมาที่บ้านตัวอย่าง แบบที่ไม่มีรั้วบ้านล้อมนะคะ ต่อไปเราจะเดินไปดูรอบๆบ้านกันก่อนที่จะเข้าไปดูในตัวบ้าน

พื้นที่โรงจอดรถอยู่ฝั่งซ้ายมือ สามารถจอดรถได้ประมาณ 2 คัน บนฝ้าเพดานมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง ที่ผนังติดตั้งเต้ารับ 1 จุดเผื่อกรณีล้างรถและดูดฝุ่น พื้นของจริงเป็นคอนกรีตผิวขัดมัน ด้านข้างโรยด้วยหินกรวดตกแต่ง

บานประตูจากพื้นที่จอดรถเข้าตัวบ้านเป็นแบบบานดึงเปิด HDF สีขาว มือจับก้านโยกสแตนเลส และมีการติดตั้งสัญญาณกันขโมยไว้ให้  ทางเข้ามียกระดับขึ้นเพื่อกันน้ำฝนและเวลาซักล้าง ข้างๆเป็นบานประทุ้งจากด้านใน มีช่องเปิดเป็นหน้าต่างกระจกบาน Fix และประตูเข้า-ออก บานใช้ประตู

จากด้านนอกจะต้องไขกุญแจเพื่อเข้าตัวบ้าน แต่จากด้านในจะเป็นที่บิดล็อกปกติ

บริเวณประตูมีติดตัวกันกระแทกไว้ให้

ตัวเปิด-ปิดสัญญาณกันขโมยจะฝังไว้ที่กำแพงตรงส่วนใกล้ๆกับบานกระทุ้ง

ต่อมาเป็นทางเข้าบ้านหลักคือเป็นเฉลียงหน้าบ้านนิดหน่อย เปิดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น

พื้นที่ข้างบ้านทางขวา มีช่องเปิดที่เป็นทั้งหน้าต่างและประตูบานเลื่อน มีการวาง Compressor แอร์ที่พื้นที่ข้างบ้าน ตัวหลังคาไม่ได้ยื่นออกมาบังแดดให้พื้นที่ข้างบ้านนะคะ

ข้างบ้านมีการต่อเติมให้ดูนิดหน่อยคือทำเป็นระเบียงข้างบ้านที่ออกได้จากประตูบานเลื่อนส่วนข้างพื้นที่ทานข้าว มีพื้นที่ใหญ่พอสมควร สามารถวางโต๊ะสนามได้ 1 ชุดสบายๆ

หลังบ้านมีหน้าต่างบานเลื่อนและบานกระทุ้ง มีการเก็บ Compressor แอร์ทั้งแบบแขวนและแบบตั้งหลังบ้านชั้น 2

ใกล้ลานซักล้างมีหน้าต่างบานเกร็ดและประตูห้องครัว โครงการปูพื้นคอนกรีตขัดมันไว้ให้แล้ว ลานซักล้างหลังบ้าน มีปลั๊กกันน้ำ ก๊อกน้ำ ปั๊มน้ำ และแท้งค์น้ำมาให้ ด้านบนติดตั้ง Compressor แอร์แขวนไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งเวลาซ่อมบำรุงก็ต้องออกมาที่บริเวณนี้

เดินวนมาถึงหน้าบ้านเราจะเข้าบ้านทางประตูใหญ่ หรือประตูห้องรับแขกกันนะคะ โดยหน้าทางเข้ามีบันไดทางขึ้น 1 ขั้นไปยังเฉลียงพื้นปูด้วยกระเบื้องสีครีม ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ผนังตรงส่วนนี้ทาสีเทา มีการติดตั้งโคมไฟสีดำให้ทั้งสองจุดซ้าย-ขวา ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อน กระจกใสเขียวตัดแสง กรอบ UPVC สีขาว โดยประตูของบ้านหลังนี้จะมีตัวล็อคให้ 2 ชั้น

ตัวล็อคของประตูมาตรฐานที่ใช้ลูกบิดจากด้านในและไขกุญแจจากด้านนอก

ตัวกรอบประตู UPVC ก็จะวางอยู่ระดับพื้นของชั้น 1 ซึ่งยกขึ้นมาจากเฉลียงหน้าบ้าน ทำให้เวลาเดินผ่านก็จะต้องยกขาก้าวข้ามไป

ตัวล็อคชั้นที่ 2 จะเป็นตัวเล็กที่อยู่ตรงกลางประตู เมื่อต้องการเปิดประตูให้หมุนขึ้น แต่เมื่อต้องการล็อคประตูให้หมุนลงก็จะช่วยล็อกประตูไว้ไม่ให้ขยับได้ ซึ่งการมีตัวล็อค 2 ชั้นแบบนี้ จะช่วยในเรื่องความปลอดภัยค่ะ อย่างเช่น หากบ้านโดนงัด อย่างน้อยขโมยต้องงัดถึง 2 จุดกว่าจะเข้ามาได้ และกว่าจะงัดเสร็จเจ้าของบ้านก็คงรู้ตัวก่อนแล้ว

ด้านบนก็จะเป็นจุดจับสัญญาณของระบบกันขโมยที่ติดอยู่ทุกบานเปิดของบ้าน ทั้งประตูและหน้าต่าง ซึ่งพอมีคนเปิด-ปิดก็จะมีเสียงร้องนิดๆให้รู้

เปิดเข้ามาในบ้านส่วนแรกจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร ผนังโดยรอบห้องนี้เป็นหน้าต่างสามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้ ซึ่งจะทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง

อีกฝั่งจะเป็นผนังทึบหน่อยคือเป็นส่วนที่สามารถ Built เป็นชั้นวางโชว์ของ ชั้นวางหนังสือ ชั้นวางทีวีได้สวยๆ

มุมมองย้อนกลับมา ห้องรับแขกสามารถวางชุดวางทีวีและโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งได้ โดยมีระยะดูทีวีประมาณ  2.40 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะกับทีวีขนาด 52″ นิ้วจะพอดีกับสายตาค่ะ

พื้นที่ที่เชื่อมต่อกับห้องรับแขกคือส่วนรับประทานอาหาร  วางเก้าอี้ได้ 6 ที่นั่ง สามารถต่อหัวท้ายได้อีกเป็น 8 ตัว มีช่องแสงจากข้างบ้าน และหลังบ้าน

ช่องแสงข้างบ้านก็จะเป็นส่วนของประตูบานเลื่อนที่เปิดออกไปยังระเบียงที่ต่อเติมที่เราได้พาไปดูกันตอนเดินรอบบ้าน ซึ่งสามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor ได้อีกส่วน

จากประตูบานเลื่อนข้างบ้าน หันหน้าเข้าบ้านมา ลึกเข้าไปหน่อยจะเป็นโถงทางเดินกว้าง 1 เมตร ซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับหลายๆฟังก์ชั่นทั้งห้องอเนกประสงค์หรือห้องนอนเล็ก, ห้องครัว, โถงบันไดทางขึ้นชั้นสอง, ห้องเก็บของ, ประตูออกโรงจอดรถ และสุดทางที่ห้องน้ำชั้นล่าง

เดินเข้ามาที่ทางเดิน ทางซ้ายมือจะมีบันไดขึ้นชั้น 2 ข้างๆ มีประตูเข้าห้องเก็บของเล็กๆใต้บันได

ภายในห้องเก็บของมีตู้ควบคุมไฟฟ้าและงานระบบอยู่รวมที่เดียวกันเป็นระเบียบเรียบร้อย

เยื้องๆกันกับบันไดก็จะเป็นประตูบานเลื่อนเปิดเข้าห้องครัวที่อยู่ส่วนหลังบ้าน

ระหว่างพื้นห้องโถงและห้องครัว มีลดระดับลงมาประมาณ 10 เซนติเมตร ซึ่งในกรณีที่อยากจะทำความสะอาดพื้นครัวก็สามารถทำได้เต็มที่

ภายในห้องครัวก็จะประกอบไปด้วยพื้นที่วางตู้เย็น เคาท์เตอร์ล่าง-บน ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า เพราะประตูด้านในสุดเป็นประตูบานเปิดออกไปยังพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน

พื้นที่วางตู้เย็นจะอยู่ติดกับประตูบานเลื่อนทางเข้าห้องครัว

ทางโครงการให้เคาน์เตอร์ครัวล่างมาให้ ทางฝั่งที่เป็นเตามีการลดระดับลงมาเพื่อให้ทำอาหารได้ง่าย มีทั้งส่วนมีบานปิดใต้อ่างล้างจาน และแบบช่องเปิดโล่งไปเลย ซึ่งในบ้านตัวอย่างจะตั้งเตาแก๊สแบบ 4 หัว

ด้านบนเป็นตู้เก็บอาคารทั้งในส่วนที่เป็นช่องเปิดและแบบบานปิด แต่เวลาจะวัดขนาด Built ก็ควรจะมีบานเปิดที่อยู่ในระดับที่เปิดถึงด้วยนะคะ

หลังสุดห้องครัวมีประตูออกไปลานซักล้าง มีบานเกร็ดและพัดลมระบายอากาศเวลาทำอาหารอยู่ทางซ้ายมือ

พื้นที่ขวามือเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า มีการต่อท่อและปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อยพร้อมเสียบ

หน้าต่างบานเกล็ดแบบกรอบ UPVC จะไม่เหมือนกับแบบที่ต้องหมุนเก่าๆกันอีกแล้ว

เพราะแค่เอานิ้วเกี่ยวลงมาทีเดียว ตัวบานเกล็ดก็จะเปิดออก ทำให้อากาศถ่ายเททั้งหมด

ประตูครัวเป็นแบบบานเปิดผลักออกไปด้านหลัง มีกลอนล็อกทั้งล่าง-บนอีกชั้นหนึ่ง

ลานซักล้างวัสดุเป็นคอนกรีตขัดลดระดับลงมาจากพื้นห้องครัวประมาณ 10 เซนติเมตร มีโรยกรวดไว้โดยรอบ

ต่อมาเป็นประตูที่สามารถออกไปยังพื้นที่จอดรถหน้าบ้านได้

เปิดออกมาก็จะเป็นพื้นที่จอดรถ 2 คันหน้าบ้าน

ฝั่งตรงข้ามกันก็จะเป็นห้องนอนของชั้นล่าง ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องเอนกประสงค์ได้ อย่างในบ้านตัวอย่างก็จะปรับเป็นห้องสำหรับการทำงานหรืองานอดิเรก

พื้นจะเปลี่ยนจากกระเบื้องขนาด 60 x 60 เซนติเมตรเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร มีตัวจบกั้นระหว่างวัสดุเพื่อความเรียบร้อย

ห้องอเนกประสงค์หรือห้องนอนเล็ก มีการติดตั้งหน้าต่างบานเลื่อนให้ 1 บาน มีตัวล็อค 2 ชั้น และมีสัญญาณกันขโมย Megnetic Sensor และ Shock Sensorให้เหมือนกับหน้าต่างบานอื่นๆ ซึ่งโครงการวางพื้นที่ใช้สอยในผังไว้ให้เป็นห้องนอนชั้นหนึ่ง ซึ่งจริงๆจะเรียกว่าห้องนอนก็ไม่ได้เต็มปากเต็มคำนัก เพราะห้องมีขนาดไม่ใหญ่มาก หากต้องการให้เป็นห้องนอนจริงๆก็สามารถเป็นห้องนอนเด็กหรือผู้สูงอายุที่ขนาดตัวไม่ใหญ่มากได้ หรือจะจัดเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือห้องอ่านหนังสือก็ดูจะเหมาะสมกับพื้นที่มากกว่า ซึ่งทางโครงการเองได้จัดห้องตัวอย่างให้เป็นห้องทำงานที่ประกอบด้วยโต๊ะทำงาน และโซฟาพักผ่อนซึ่งหากใครชอบฟังก์ชั่นแบบนี้ก็เอาไปปรับใช้ได้ไม่ว่ากันค่ะ

ภายในห้องนี้ก็จะมีแอร์ 1 ตัวแบบติดผนังด้านบน

ก่อนจะเข้าห้องน้ำก็จะมีบานกระทุ้งเพื่อรับแสง และสามารถเปิดรับลมให้ถ่ายเทมายังพื้นที่ทางเดินตรงกลางได้จากหน้าบ้าน

สุดทางเดินเป็นทางเข้าห้องน้ำของชั้น 1  ซึ่งในห้องน้ำจะเแบ่งออกเป็น 3 ส่วนการใช้งานคืออ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งพื้นที่อาบน้ำสามารถใช้จากการปรับพื้นที่ห้องเอนกประสงค์ชั้นล่างเป็นห้องนอน หรือเวลาเร่งด่วนก็สามารถมีคนมาอาบน้ำด้านล่างได้   พื้นห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิค ขนาด 0.30 x 0.30 เมตร พื้นส่วนแห้งเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน

อ่างล้างหน้าแบบติดผลังเป็นของ Kohler ขนาดค่อนข้างเล็ก ไม่มีการก่อปูนพื้นที่ข้างๆหรือทำเป็นตู้เก็บของด้านล่างให้

พื้นอาบน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 0.30 x 0.30 เมตร ผนังห้องน้ำเป็นระเบื้องเซรามิคเช่นกัน ทางโครงการไม่ได้ให้กระจกกั้นอาบน้ำมานะคะ ซึ่งเราสามารถหามาติดตั้งเองได้จะเป็นแบบกระจกนิรภัยหรือ เป็นม่านพลาสติกลายสวยๆก็ได้ค่ะ

ขนาดพื้นที่อาบน้ำอยู่ที่ 1.1 x 1.1 เมตร

ด้านข้างฝักบัวมีช่องเก็บของเอาไว้วางสบู่ แชมพูเล็กๆน้อยๆได้ และมีวางงานระบบเอาไว้สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น

หน้าตาฝักบัวที่ทางโครงการให้มา

ข้างๆอ่างล้างหน้า เป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto แบบ 2 ชิ้น ข้างๆมีที่ใส่ทิชชู่และสายฉีดชำระ

เราจะพาขึ้นบันไดไปดูชั้น 2 โครงสร้างบันไดเป็น คอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกตั้งฉาบปูนทาสีขาว ส่วนลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูป ราวจับบันไดเป็นเหล็กทาสีขาว ราวจับบันไดเป็นไม้สีเดียวกับพื้นลูกนอน ใต้บันไดเป็นห้องเก็บของ

ขึ้นบันไดไปจะเจอชานพัก ผนังบริเวณบันไดมีช่องเปิดเป็นกระจกบาน Fix ส่วนด้านล่างเป็นบานกระทุ้ง ในเวลากลางวันแบบนี้แสงธรรมชาติเข้าค่อนข้างดีไม่ต้องเปิดไฟเลย โดยบ้านจริงจะให้โคมไฟติดมาเพียงจุดเดียวนะคะ เราสามารถหาแชนเดอเลียสวยๆมาติดเพิ่มได้ เพราะสำหรับตอนกลางคืน แค่โคมไฟดวงเดียวแสงสว่างอาจจะไม่พอ

ด้านล่างเป็นบานกระทุ้งแบบเปิดล่าง

ด้านบนเป็นบาน Fix แบบที่มี Facade หน้าบ้านกั้นอยู่แล้ว เพื่อความเป็นส่วนตัวหน่อย

ขึ้นมาที่ชั้น 2 เราจะเจอกับโถงชั้นสอง ที่จะจ่ายไปยังห้องนอน 3 ห้อง ฝั่งขวามือเป็น Master Bedroom ส่วนทางซ้ายมือเป็นห้องนอนอีก 2 ห้องและห้องน้ำรวม 1 ห้อง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนต 8 มิลลิเมตรของชั้น 2 สีใกล้เคียงกับลูกนอนของบันได

โถงบันไดเวลามองจากพื้นที่นั่งเล่นชั้น 2 ไม่ได้ให้ไฟติดฝ้ามาด้านบนนะคะ

พื้นที่โถงชั้น 2 บ้านตัวอย่างจัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆ แต่เราสามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงาน หรือห้องพระก็ได้นะคะ

ผนังด้านหน้าติดตั้ง Alarm ของสัญญาณกันขโมยไว้ให้

ฝั่งซ้ายจากพื้นที่นั่งเล่นตรงกลางจะมีประตู 3 บาน คือห้องนอนกลางหน้าบ้าน ห้องนอนเล็กข้างบ้านและห้องน้ำหลังบ้าน แต่เดี๋ยวเราจะมาดูรายละเอียดของห้องฝั่งนี้ทีหลังนะคะ

ส่วนทางด้านขวาเป็นทางเดินไปห้อง Master Bedroom หรือห้องนอนใหญ่ที่มีทั้งห้องน้ำและระเบียงหน้าบ้านเป็นของตัวเอง

พื้นชั้น 2 จะเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตรต่อเนื่องกันทั้งชั้น

ประตูพอเปิดเข้ามาจะมี Doorstop ติดไว้ให้ที่ด้านล่างกันการกระแทก

ภายในห้องนอนใหญ่ แบ่งเป็นส่วนเตียงนอน วางเตียง 5 ฟุตได้หนึ่งหลัง, พื้นที่วางโซฟาเล็กๆเอาไว้นั่งเล่น,  Walk-in closet และห้องน้ำ ประตูและหน้าต่างภายนอกทุกบานในห้องนี้ ติดสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor ไว้ทุกบาน

ฝั่งตรงข้ามกับเตียงก็จะเป็นจุดวางทีวี สามารถเป็นแบบทีวีติดผนังหรือจะเป็นทีวีวางไว้บนชั้นวางของก็ได้ มองไปยังหน้าบ้านก็จะมีช่องแสงที่เป็นบานประตูเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียงได้

ประตูบานเลื่อนเป็นแบบ 2 ตอน กรอบบานอะลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักเป็นกระจกใสสีเขียวตัดแสง

ระเบียงด้านนอกเปิดออกไปจากบ้านตัวอย่างจะเจอกับพื้นที่จอดรถของผู้มาติดต่อ

ฝั่งซ้าย-ขวาของระเบียงจะเป็นราวกันตก มีจุดระบายน้ำทิ้งอยู่ที่มุม เนื่องจากตัวหลังคายื่นออกมาไม่มาก ทำให้อาจจะมีฝนบางส่วนตกถึงยังระเบียงได้ง่ายๆ ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กทาสีเทาดำ

ด้านบนของฝ้าตรงส่วนระเบียงมีจุดส่งสัญญาณของระบบกันขโมยอีกจุดหนึ่ง

จากระเบียงหน้าบ้านมองเข้ามาภายในบ้านอีกฝั่ง มีพื้นที่เว้นไว้ให้ทำเป็น Walk-in Closet ได้สบายๆ ส่วนเดินเข้าไปจะเจอประตูทางเข้าห้องน้ำในตัวของห้องนอนใหญ่

ก่อนหน้าตรงกลางห้องนอนใหญ่ก็จะมีพื้นที่ว่าง สามารถใส่โต๊ะทำงาน ชุดโซฟา​ตัวยาวหน่อย หรือจะเป็นโซฟาเดี่ยวตัวเดียวก็ได้

ลึกเข้าไปด้านใน Walk in Closet สามารถจัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้เป็นรูปตัว L เต็มๆ

ฝั่งตรงข้ามตู้เสื้อผ้าเป็นทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 เซนติเมตร  พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

ห้องน้ำแบ่งออกเป็น 3 ส่วนการใช้งาน จากขวามือคืออ่างล้างมือ ด้านในคือพื้นที่อาบน้ำแบบยืน ส่วนทางซ้ายคือโถสุขภัณฑ์

อ่างล้างหน้าของห้องนี้เป็นทรงสี่เหลี่ยม ติดตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ที่กรุหินแกรนิตสีเทาโดยรอบ มีพื้นที่เอาสำหรับสำหรับวางของได้เยอะพอสมควร

พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.80 x 1.00 เมตร ปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร  มีการลดระดับลงมาจากพื้นที่ส่วนแห้งเล็กน้อย ชุดฝักผัวอาบน้ำ เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง มีช่องวางของและเผื่องานระบบเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้เช่นกัน

อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์ที่หันหน้าเข้าหาบานกระทุ้งแบบเปิดล่าง ในบานจริงเวลาเปิดประตูเข้ามาในห้องน้ำ ตัวบานจะกระแทกกับโถซักหน่อยนะคะ

บานกระทุ้งภายในห้องน้ำ ต้องติดมุ้งลวดกันยุงเติมเข้าไป

ออกจากห้องนอนใหญ่มา ไปดูทางฝั่งซีกซ้ายของบ้านกันบ้าง จะเป็นทางเดินไปสู่ห้องน้ำรวม และห้องนอนอีก 2 ห้อง

มาดูห้องนอนขนาดกลางของบ้านที่ฝั่งหน้าบ้านกันต่อ สามารถจัดพื้นที่วางเตียงนอน 5 ฟุต และชุดโต๊ะเครื่องแป้งได้ แต่ถ้าหันหัวนอนไปฝั่งหน้าบ้านแบบนี้ก็จะเหมือนปิดช่องแสงจากหน้าบ้านไปเต็มๆ

ข้างบ้านก็จะมีช่องแสงเล็กๆอีกสองช่อง ตรงกลางเป็นตำแหน่งแอร์ติดผนัง

ส่วนพื้นที่ข้างเตียงก็ก็สามารถ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าสูงจรดฝ้าเพดานแบบนี้ได้ ข้างเตียงเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า

ต่อมาเป็นทางเข้าห้องนอนเล็กที่ข้างบ้าน

ภายในห้องนอนเล็ก สามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตได้พอดีๆ เหมาะกับเป็นห้องเด็กวัยประถมหรือลูกวัยรุ่น เพราะพื้นที่ค่อนข้างกระทัดรัดเป็นส่วนตัว  ผนังด้านนี้มีหน้าต่างให้ 1 บานเป็นบานเลื่อนเดี่ยว

ฝั่งตรงข้ามเตียงสามารถวางชั้นวางทีวี หรือจะทำแบบติดผนัง และทำเป็นพื้นที่วางของ พื้นที่วางหนังสือได้

ต่อมาคือห้องสุดท้าย ห้องน้ำหลังบ้านที่ต้องแชร์กันระหว่างห้องนอนกลางและห้องนอนเล็ก

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 3 ส่วนปกติ วัสดุและการตกแต่งเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง พื้นที่อาบน้ำไม่ได้กั้นกระจกนิรภัยมาให้เช่นกัน ผนังมีช่องหน้าต่างบานกระทุ้งเอาไว้เปิดระบายอากาศ

แบบที่เล็กที่สุดของโครงการคือแบบ MASON มีพื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. บนที่ดิน 51.6 ตร.วา ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่ลงให้หน้าบ้านตามโปรโมชั่นโครงการ จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จาก 4 ทางหลัก คือบานประตูบานเปิดหน้าบ้านทางห้องรับแขก, ประตูบานเปิดจากที่จอดรถ บานประตูเลื่อนจากเฉลียงข้างบ้านตรงห้องทานข้าว และประตูเปิด-ปิดหลังบ้านจากส่วนซักล้างเข้ามาเจอครัว

จากทางเข้าหลักส่วนห้องรับแขกหน้าบ้านด้านหลังคือห้องทานอาหาร ทางซ้ายมือจะมีทางเดินเข้าไปยังด้านในส่วนหน้าบ้านเป็นบันไดที่อยู่กลางบ้าน และถัดไปเป็นทางเข้าจากที่จอดรถ ด้านหลังเป็นห้องครัวเปิดด้วยประตูบานเลื่อนจากส่วนพื้นที่ทานข้าวได้เลย มีประตูต่อกับส่วนหลังบ้าน ถัดไปเป็นห้องน้ำของชั้นล่าง และห้องนอนชั้นล่างจะเป็นห้องมุมสุดที่ได้ช่องแสงจากทั้งหน้าบ้าน ข้างบ้าน และหลังบ้าน

จากเดินขึ้นมาชั้น 2 ก็จะมีห้องพักผ่อนอยู่ตรงกลางบ้าน ขวามือเป็นทางเข้าห้องนอน Master bedroom ด้านในจะมีห้องน้ำในตัว ระเบียงในตัว รวมถึงพื้นที่สำหรับการ Built-in Walk-in Closet ส่วนทางซ้ายจากส่วนพักผ่อนจะเป็นทางเข้าของห้องนอนกลางหน้าบ้าน ห้องนอนเล็กข้างบ้าน และห้องน้ำหลังบ้าน สมาชิกที่อยู่ภายในห้องนอนกลางและเล็กจะต้องแบ่งกันใช้ห้องน้ำบนชั้น 2

the city 6

ภายนอกของบ้านจะดีไซน์เหลี่ยมมุมเป็นซีรีย์เดียวกัน รวมถึงโทนสีด้วย ตัวบานประตูและหน้าต่างจะเป็นกระจกใสสีเขียวตัดแสง ตัวกรอบเป็น UPVC สีขาว จากภายนอกจะเห็นที่จอดรถ 2 คันอยู่ด้านขวาของบ้าน ส่วนหลังคาของพื้นที่จอดรถถึงส่วนกลางรถเท่านั้น นอกนั้นหน้าตาภายนอกก็จะคล้ายๆกัน ยกเว้นจะมีหน้าต่างบานเลื่อนจากพื้นที่จอดรถคือเป็นห้องนอนที่อยู่มุมบ้าน ได้แสงหน้าบ้าน ข้างบ้านและหลังบ้าน

แบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุดคือแบบ ELLA ที่เป็น Sales Office ของโครงการ มีพื้นที่ใช้สอย 217 ตร.ม. บนที่ดิน 70 ตร.วา ประกอบไปด้วย 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่ลงให้หน้าบ้านตามโปรโมชั่นโครงการ

จากทางเข้าหลักส่วนห้องรับแขกหน้าบ้านด้านหลังคือห้องทานอาหาร ขวามือจะมีประตูเข้าไปยังห้องพักผ่อนอีกห้องทางขวามือ จากผังจะมีประตูบานเลื่อนปิดให้ แต่ในบ้านที่ทำเป็นสำนักงานขายจะเป็นแบบช่องเปิด ไม่มีประตูกั้น ส่วนทางซ้ายมือจะมีทางเดินเข้าไปยังทางเดินเพื่อเข้าห้องต่างๆ อย่างส่วนหน้าบ้านเป็นบันไดที่อยู่กลางบ้าน และถัดไปเป็นทางเข้าจากที่จอดรถ ห้องครัวที่อยู่หลังบ้านสามารถเปิดได้จากพื้นที่ทานข้าวโดยตรง เปิดประตูหลังบ้านออกไปเป็นลานซักล้าง เข้าไปหน่อยเป็นห้องนอนของชั้นล่างและห้องน้ำที่สุดทางเดิน ส่วนห้องแม่บ้านจะเข้าได้จากภายนอกที่หลังบ้านแยกออกไป ให้ความเป็นส่วนตัวทั้งเจ้าของและแม่บ้านเอง

แปลนชั้น 2 จะเหมือนกันทุกหลัง คือ จากเดินขึ้นมาชั้น 2 ก็จะมีห้องพักผ่อนอยู่ตรงกลางบ้าน ขวามือเป็นทางเข้าห้องนอน Master bedroom ด้านในจะมีห้องน้ำในตัว ระเบียงในตัว รวมถึงพื้นที่สำหรับการ Built-in Walk-in Closet ส่วนทางซ้ายจากส่วนพักผ่อนจะเป็นทางเข้าของห้องนอนกลางหน้าบ้าน ห้องนอนเล็กข้างบ้าน และห้องน้ำหลังบ้าน สมาชิกที่อยู่ภายในห้องนอนกลางและเล็กจะต้องแบ่งกันใช้ห้องน้ำบนชั้น 2

ภายนอกของบ้านจะสังเกตได้ว่าเป็นแบบบ้านที่หน้ากว้างที่สุด เพราะมีส่วนห้องพักผ่อนทางขวาเพิ่มขึ้นมา ตัวบานประตูและหน้าต่างจะเป็นกระจกใสสีเขียวตัดแสง ตัวกรอบเป็น UPVC สีขาว จากภายนอกจะเห็นที่จอดรถ 2 คันอยู่ด้านซ้ายของบ้าน ด้านหลังที่เป็นเป็นกระจกใสนั้นเป็นส่วนต่อเติมทำเป็นสำนักงาน แต่ความจริงแล้วจะมีประตูเปิดได้จากพื้นที่จอดรถ มีบานกระทุ้ง และช่องอากาศจากห้องน้ำทั้งสองห้อง

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 November 2015

  • แบบบ้านที่ 1 MASON พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. ที่ดิน 51.6 ตร.วา ราคา 6.69 ล้านบาทหรือ 129.650 บาท/ตร.วา
  • แบบบ้านที่ 2 ASTOR พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. ที่ดิน 52 ตร.วา ราคา 6.99 ล้านบาทหรือ 134,420 บาท/ตร.วา
  • แบบบ้านที่ 3 ELLA พื้นที่ใช้สอย 217 ตร.ม. ที่ดิน 70 ตร.วา ราคา 9.39 ล้านบาทหรือ 134,140 บาท/ตร.วา

  • โปรโมชั่น Pre-sale 28-29 พฤศจิกายน 2558
  • Pre-sale 200,000 บาท
  • ปั้มน้ำและแท๊งค์น้ำ
  • Wallpaper ทั้งหลัง
  • สวนรอบบ้าน

  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 150,000 บาท (ทำสัญญาหลังวันจอง 7 วัน)
  • พร้อมโอนกรรมสิทธภายใน 30 วันหลังจากวันทำสัญญา
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 80,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 47 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

The City ราชพฤกษ์ อยู่พื้นที่ชานเมืองในจังหวัดนนทบุรี นับจากถนนทางเข้าหลักอย่างเส้นบางใหญ่-บางคูลัด ถือว่าเป็นเส้นที่ค่อนข้างชุมชนสลับกับที่ดินว่างเปล่ายังเหลือเยอะ แต่ถ้าขยับวงกว้างออกไปหน่อยแถวบางกรวย-ไทรน้อย นับว่าอยู่ในโซนที่อยู่อาศัยทั้งปลูกสร้างเองและจัดสรร ตามริมทางจะเป็นตึกแถวมีร้านอาหารตามสั่งประปรายอยู่บ้าง ถ้าอยากไปตลาดไล่จากใกล้ไปไกลคือ ตลาดเจ้าพระยา, ตลาดบางใหญ่, ตลาดกลางบางใหญ่ และตลาดบางบัวทอง สำหรับโรงพยาบาลนั้นจะมีโรงพยาบาลบางใหญ่และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ตั้งอยู่บนถนนกาญจนาทั้งคู่ ส่วนพวกห้างก็จะมีทั่วไปอย่าง Tesco Lotus, Plus Mall, BigC และ BigC Extra เพิ่มความอลังการเข้ามาหน่อยคือ Central Westgate, The Walk ราชพฤกษ์ และ The Crystal ราชพฤกษ์

การเดินทางโดยใช้รถจะเป็นที่นิยมกันของคนในพื้นที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ซึ่งจากโครงการสามารถไปออกถนนหลักได้หลายทิศทาง ทั้งถนนรัตนาธิเบศร์เข้าตัวเมืองนนทบุรีเอง หรือลงไปหน่อยแถวบางซื่อได้ ถนนกาญจนาภิเษกหรือวงแหวนฝั่งตะวันตกที่เชื่อมกับพื้นที่รอบนอกของกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียงไปยังแถวนครปฐม สมุทรปราการ หรือเส้นราชพฤกษ์ที่วิ่งเหนือ-ใต้ หรือไปท่าน้ำนนท์เพื่อขึ้นเรือ

สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะ บนถนนบางใหญ่-บางคูลัดช่วงผ่านหน้าโครงการจะมีแท็กซี่ผ่านอยู่ค่อนข้างน้อย ถ้ามาตรงหน้าการไฟฟ้านครหลวงบางใหญ่ตรงวงเวียนสามแยกน่าจะพอมีโอกาสมากกว่า พี่วินมอเตอร์ไซต์จะมีที่วงเวียนนี้แน่ๆ และที่แยกบางพลูที่มี MRT บางพลูอยู่ด้านบน เส้นนี้ยังมีรถเมลล์ผ่านอีกด้วยแต่ก็ไม่ได้เยอะมากนัก ส่วนที่กำลังจะเปิดให้ทดลองใช้ในวันแม่ 2559 นี้คือรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่วิ่งมาจากเตาปูน เรื่อยมาบนถนนรัตนาธิเบศร์ ข้ามแม่น้ำ สถานี MRT ที่ใกล้ที่สุดคือสถานีบางพลู ซึ่งก็จะต้องต่อรถอีกทีเพื่อเข้าโครงการ

การใช้วัสดุให้มาตามมาตรฐานโครงการระดับนี้  โครงสร้างของบ้านเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคาเป็นกระเบื้องลอนคู่ กระเบื้องพื้นชั้นล่างให้กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30×30 ซม. พื้นห้องชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตสำเร็จ หนา 8 มม. พื้นที่จอดรถและพื้นซักล้างเป็นพื้น คสล.ปาดเรียบ บันไดเป็นไม้สำเร็จรูปทั้งลุกตั้งและลูกนอน ส่วนผนังบ้านเป็น คสล.ทาสี ติดบัวสำเร็จรูปให้ที่ผนัง และกระเบื้องห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิคจรดฝ้าเพดาน ประตูหน้าต่างใช้กรอบและวงกบ UPVC กระจกใสเขียวตัดแสง, ประตูภายในทั่วไปเป็นบานไม้ HDF

การออกแบบโครงการบนเนื้อที่ 22 ไร่เศษๆ เทียบกับจำนวน 88 ยูนิต ถือว่าไม่หนาแน่นเลย มีการวางความสำคัญของพื้นที่มาที่ด้านหน้าโครงการหน่อย เพราะตัว Clubhouse วงเวียน และระบบรักษาความปลอดภัยจะมาอยู่ด้านหน้า ใครชอบเข้าถึง Facility หน่อยอยู่ส่วนหน้าก็จะดีกว่า แต่ละซอยมีเพื่อนบ้านประมาณ 16 หลัง ใครชอบเพื่อนบ้านเยอะอยู่ต้นซอย ชอบความเป็นส่วนตัวหน่อยอยู่ท้ายๆซอย ส่วน Landscape ถือว่าทั่วไป แต่ว่าการดูแลรักษาถือว่าหญ้าเต็ม ต้นไม้กำลังโต มีพื้นที่สีเขียวอยู่ในซอยและหน้าบ้านรวมถึงในบ้านตามโปรโมชั่น

บ้านมีทั้งหมด 3 แบบ ถือว่าเป็นบ้านที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ เริ่มที่ 4 ห้องนอน แต่ละแบบแตกต่างกันที่การเพิ่ม-ลดห้องต่างๆตามความจำเป็นของชั้นล่าง ส่วนชั้น 2 ทุกแบบเหมือนกันหมด คือจะมีห้องเอนกประสงค์ที่ชั้นล่างสามารถทำเป็นห้องนอนของผู้ใหญ่สำหรับครอบครัวขยาย หรือจะปรับเปลี่ยนการใช้งานเป็นแบบอื่น ห้องครัวก็สามารถปิดเป็นครัวไทยได้ และมีการใช้งานเสริมสำหรับบ้านหลังใหญ่หน่อยคือมีห้องพักผ่อนเพิ่ม และห้องแม่บ้านเข้าได้จากหลังบ้าน รอบๆบ้านก็สามารถต่อเติมเป็นชานพักนั่งเล่น สวนรอบบ้าน ชั้น 2 ก็จะมี 3 ห้องนอน มีห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำและระเบียงในตัว ที่ดีคือประตูทุกบานรวมถึงหน้าต่างมีสัญญาณกันขโมย และร้องดังทุกครั้งที่มีการเปิด-ปิด

สาธารณูปโภค จากหน้าโครงการเป็นการเข้าแบบ Keycard access ระยะใกล้เลื่อนประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอนที่ข้างป้อมพี่ยามก่อนจะเจอ Clubhouse 1 ชั้นอยู่ทางด้านขวามือเป็นแบบมี Lobby ติดแอร์ ภายในมีห้องน้ำ ส่วนกลางแจ้งมีสระว่ายน้ำขนาด 5.7 x 12.7 เมตร ระบบเกลือ มีพื้นที่รอบสระนิดหน่อย อีกฝั่งเป็นห้องฟิตเนสที่ยังอยู่ระหว่างการเก็บงาน ถ้าอยู่ในโครงการขนาดกลางๆจะดูน้อย แต่พออยู่ในโครงการที่มียูนิต 88 หลังก็จะดูพอตัวกับขนาดโครงการ CCTV หน้าโครงการและภายในมี 26 จุด รั้วโครงการสูง 2.5 เมตร

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 17 November 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 – ติดถนนใหญ่บางใหญ่-บางคูคด 
  • ความปลอดภัย 7.75/10 – Keycard access ระยะใกล้เปิดประตูบานเลื่อน รปภ.หน้าหมู่บ้าน กล้อง CCTV 26 จุดและติดตั้งสัญญาณกันขโมยทุกบานเปิดของบ้าน
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – แบบบ้านค่อนข้างใหญ่ ปรับเปลี่ยนผังชั้นล่างตามขนาดและราคา
  • วัสดุ 7/10 – มาตรฐานของ AP และแบรนด์ใหญ่ปกติ
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – สวนสาธารณะ 279 ตารางวา พื้นที่สีเขียวรอบๆเต็มตาใช้ได้
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ส่วนกลางน้อย แต่ก็ตามขนาดโครงการที่มี 88 ยูนิต ถือว่าโครงการเล็ก น่าจะใช้ทั่วถึง
  • 7.39 / 10.00 

BOTTOM LINE

The City ราชพฤกษ์ ถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่พอสมควร แต่ตัวโครงการค่อนข้างเล็ก จำนวนยูนิตน้อย 88 ยูนิตทางตะวันตกของนนทบุรี เหมาะกับคนที่ต้องการขยายครอบครัว ทำงานในแถวบางใหญ่-รัตนาธิเบศร์อยู่แล้ว ไม่ไกลจากห้างใหญ่อย่าง Central Westgate สำหรับที่สนใจต้องมีงบประมาณ 6.7 – 9.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 47,000 – 66,500 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )