%e0%b8%9b%e0%b8%81-the-city-%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%aa%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b9%8c

รีวิวฉบับที่ 1218 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชม โครงการ The City สุขสวัสดิ์ ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่มีเพียง 70 ยูนิต ออกแบบมาในสไตล์  Modern Moroccan โครงการตั้งอยู่บนถนนประชาอุทิศ ใกล้กับ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้ทั้งถนนสุขสวัสดิ์ พุทธบูชา พระราม 2 พระราม 3 และถนนวงแหวนอุตสาหกรรม โดยโครงการจะเปิด Grand Openning ในวันที่ 19-20 พฤศจิกายนนี้ ใครสนใจสามารถอ่านรีวิวเจาะลึกที่นี่ได้เลยค่า ^^

เวปไซต์ลงทะเบียน คลิกที่นี่

 

Fact @ 2 November 2016

  • The City Suksawat (เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด มหาชน
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กทม.
  • เนื้อที่โครงการ16-0-81.1 ไร่
  • จำนวน 70 ยูนิต
  • แบบ Stella ที่ดิน 50.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 169.61 ตร.ม. 4ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 7.6 ล้านบาท
  • แบบ Esther ที่ดิน 52.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 185.92  ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท
  • เพดานชั้น 1 สูง 2.6 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 7.6 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ n/a บาท
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • เวปไซต์ลงทะเบียน คลิกที่นี่
  • Call Center : 1623

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ

 


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.637188, 100.501428

map-the-city-suksawatแผนที่จากทางโครงการค่ะ

ทำเลของโครงการนี้ตั้งอยู่ในย่านประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์-พระราม 2  ซึ่งถือว่าเป็นย่านชานเมืองแต่ก็สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก โครงการถึงแม้ว่าจะชื่อ “The City สุขสวัสดิ์” แต่ที่ตั้งอยู่บนถนนประชาอุทิศใกล้กับแยกนาหลวง ซึ่งถนนประชาอุทิศนี้เป็นถนนที่แยกมาจากถนนสุขสวัสดิ์ที่เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ตัดผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานครผ่านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี แยกนาหลวง วัดทุ่งครุ ไปบรรจบกับถนนเลียบคลองสรรพสามิตที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จะเห็นว่าถนนเส้นนี้เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯและสมุทรปราการ นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนได้อีกหลายสาย ทั้งถนนพระราม 2 พุทธบูชา สุขสวัสดิ์ พระราม 3 ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม และสามารถใช้ทางด่วนได้สะดวก

ซึ่งถ้าจะโฟกัสบริบทของถนนแถวนี้เป็นเหมือนใยแมงมุมใครที่วิ่งโซนนี้บ่อยๆคงเข้าใจดี เพราะมีซอยย่อยไปออกถนนเส้นนั้นเส้นนี้ เลยมีคนเข้ามาใช้เป็นทางลัดเลี่ยงรถติดเป็นประจำ โดยเส้นทางลัดที่สามารถใช้ได้  เช่น

  • จากโครงการหากเลี้ยวซ้ายวิ่งไปบนถนนประชาอุทิศ ผ่านแยกนาหลวง ตรงไปเรื่อยๆบนถนนพุทธบูชา ก็สามารถไปทะลุถนนพระราม 2 ได้
  • จากโครงการ เลี้ยวขวาไปยังซอยประชาอุทิศ 69 แยก 11 (สุขสวัสดิ์ 64) เป็นทางลัดไปยังถนนสุขสวัสดิ์ เพื่อจะไปขึ้นทางด่วนสุขสวัสดิ์, สะพานภูมิพล1,2 ไปยังพระราม 3, บางนา, สมุทรปราการ และทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ได้
  • อีกทางเลือกคือ จากโครงการ เลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวซ้ายไปยังถนนครุใน(สุขสวัสดิ์ 70) ก็สามารถเป็นทางลัดไปยังถนนสุขสวัสดิ์ได้เช่นกัน
  • จากโครงการสามารถใช้ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ หรือ ซอยประชาอุทิศ 90 เป็นทางลัดไปออกถนนเทียนทะเล แล้วออกเส้นพระราม 2 ได้ค่ะ

การเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง หน้าโครงการมีป้ายรถเมล์และสะพานลอยซึ่งเราสามารถรอรถฝั่งโครงการหรือจะไปขึ้นฝั่งตรงข้ามก็สะดวก โดยถนนเส้นนี้จะมีรถสาธารณะวิ่งผ่านค่อนข้างเยอะ ทั้งรถเมล์ รถสองแถว และรถกระป๊อ( Subaru เล็ก) เส้นทางก็มีให้เลือกทั้งที่ไปวิ่งบนเส้นประชาอุทิศ ไป ม.พระจอมเกล้าธนบุรีแล้วออกถนนสุขสวัสดิ์ หรือใครจะไปลงใต้ทางด่วนเพื่อขึ้นรถเมล์อีกต่อเพื่อเข้าเมืองก็ได้ หรือจะไปถนนพุทธบูชาเพื่อออกถนนพระราม 2 ก็มีค่ะ

โครงการอยู่ใกล้แยกนาหลวง ซึ่งเป็นแยกที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนประชาอุทิศกับถนนพุทธบูชา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น Prime Zone ของถนนประชาอุทิศ เนื่องจากอยู่ใกล้กับ ม.พระจอมเกล้าธนบุรีที่เป็นมหาวิทยาลัยใหญ่ รอบๆมหาวิทยาลัยจะมีความอุดมสมบูรณ์สูง มีทั้งร้านอาหาร Mall เล็กๆ เช่น ลานไม้ สวนหมากพลาซ่า มีสวนสาธารณะและสถานที่ออกกำลังกายอย่าง สวนธนบุรีรมย์และศูนย์ฝึกกีฬาเฉลิมพระเกียรติ นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนค่อนข้างเยอะ สามารถส่งบุตรหลานมาเรียนใกล้บ้านได้

ส่วนความอุดมสมบูรณ์หลักๆเลยคือจากหน้าโครงการจะอยู่ใกล้กับ Tesco Lotus ประมาณ 220 เมตร และใกล้กับ Max Valu ในระยะประมาณ 280 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่สามารถเดินไปได้ไม่ไกล เขยิบออกไปหน่อยยังมีตลาดใหม่ทุ่งครุประชาอุทิศ 61 หรือที่คนพื้นที่เรียกว่าตลาด 61 ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ มีของกินของใช้ขายครบ และยังมีตลาดนัดทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ให้ไปช้อปปิ้งกันได้ นอกจากนี้รอบๆโครงการเป็นย่านมุสลิม มีคนอิสลามอยู่ค่อนข้างเยอะ หาอาหารอิสลามกินง่ายยิ่งถ้าใครเคยไปตลาด 61 จะเห็นว่ามีมะตะบะ โรตี ข้าวหมกไก่ ที่เป็นอาหารของคนไทยมุสลิมอยู่เยอะ นอกจากนี้สภาพแวดล้อมของโครงการจะมีสถานที่สำคัญของศาสนาอิสลามให้เห็นโดยรอบ อย่างตรงข้ามโครงการจะเป็นอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ศูนย์วัฒนธรรมอิสลาม ส่วนใกล้ๆตลาด 61 ก็มีมัสยิดอัลอีสติกอมะห์

การเดินทางวันนี้เราจะเริ่มถนนสุขสวัสดิ์ บริเวณจุดลงทางด่วนสุขสวัสดิ์เพื่อไปดูสภาพแวดล้อมบนถนนสุขสวัสดิ์ แล้วไปกลับรถที่แยกวัดสน จากนั้นตรงไปเรื่อยๆจนถึงกิโล 9 แล้วให้เลี้ยวซ้ายซอยสุขสวัสดิ์ 50  ซึ่งเป็นถนนเลียบทางด่วนเพื่อมาทะลุยังถนนประชาอุทิศแล้วเลี้ยวซ้ายมาวิ่งบนถนนประชาอุทิศ เพื่อดูสภาพแวดล้อมทั้งสองข้างทาง ผ่าน ม.พระจอมเกล้าธนบุรี จนถึงแยกนาหลวงให้เลี้ยวซ้ายแล้ววิ่งผ่านตลาดทุ่งครุ ประชาอุทิศ 61, Max Valu, Tesco Lotus แล้วตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นโครงการอยู่ตรงข้ามอิสลามวิทยาลัยค่ะ

เรามาเริ่มที่จุดลงทางด่วนสุขสวัสดิ์ บนถนนสุขสวัสดิ์กันนะคะ

เมื่อลงจากทางด่วนมาเราจะเจอศูนย์ True และสะพานลอยข้างหน้า ซึ่งเป็นจุดจอดรถเมล์ รถตู้ ที่ลงมาจากทางด่วน ช่วงเย็นๆตรงนี้จะมีรถแท๊กซี่จอดรถรับคนที่ลงจากรถโดยสารเหล่านี้ค่อนข้างเยอะ

เราขับตรงมาจะเจอป้ายบอกทางตรงไปสามารถไปยังสะพานภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 ได้

ตรงไปเรื่อยๆจะเห็นสะพานลอยข้างหน้า ซึ่งเป็นแยกวัดสนที่เราสามารถไปกลับรถได้ค่ะ เดี๋ยวเราจะชิดขวาเพื่อเตรียมกลับรถกัน

กลับรถมาเลยยย

เมื่อกลับรถแล้วให้เราตรงไปเรื่อยๆจะเห็นทางด่วนอยู่ข้างหน้า หากตรงไปจะสามารถไปราษฏร์บูรณะได้ แต่เราจะเบี่ยงซ้ายไว้เพื่อหาซอยที่จะไปถนนประชาอุทิศ

เราเบี่ยงซ้ายมาจะเจอ Family Mart ข้างหน้าให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 50 ที่อยู่ข้าง Family Mart เลยค่ะ โดยซอยนี้จะสามารถไปทะลุถนนประชาอุทิศได้

โดยบริเวณนี้เรียกว่ากิโล 9 เป็นพื้นที่ใต้ทางด่วนที่เป็นจุดจอดรถเมล์ รถตู้ที่มารับคนเพื่อขึ้นทางด่วนค่ะ โดยจะมีรถตู้ไปส่งหลายที่ เช่น แยก อสมท, รามคำแหง, จุฬาลงกรณ์, เซนต์จอห์น(ห้าแยกลาดพร้าว) เป็นต้น รวมทั้งรถเมล์หลายสาย ตอนเช้าบริเวณนี้จึงมีคนมารอรถเพื่อไปทำงานเยอะมาก ส่วนเราจะเลี้ยวซ้ายตรงนี้เข้าซอยสุขสวัสดิ์ 50 กัน

ซอยสุขสวัสด์ 50 เป็นซอยเลี้ยบทางด่วนเงียบๆ เคยเดินผ่านกลางคืนก็เปลี่ยวเหมือนกันนะ

ตรงมาเรื่อยๆสุดทางจะมาทะลุถนนประชาอุทิศ หากเลี้ยวขวาจะไปยังถนนสุขสวัสดิ์ได้ แต่เราจะเลี้ยวซ้ายเพื่อไปโครงการกัน

ตอนนนี้เรามาอยู่บนถนนประชาอุทิศแล้ว สองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเป็นโรงเรียน ตึกแถว บ้านพักอาศัย และสำนักงานขนาดเล็กถึงกลางซะส่วนใหญ่

เราขับมานิดเดียวจะเจอวิทยาลัยพณิชยการเชตุพนอยู่ทางขวามือ

ถนนเส้นนี้จะมีปริมาณรถผ่านไปมาค่อนข้างเยอะตลอดวัน ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล แล้วยังมีรถประจำทางหลายรูปแบบทั้งรถแท๊กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสองแถว รถกระป๊อ

ส่วนรถเมล์ เช่น สาย 75 ในภาพนี้จะไปส่งถึงหัวลำโพงเลย ถ้าใครต้องการไป BTS สะพานตากสิน หรือไป MRT หัวลำโพงก็สามารถใช้บริการได้ แต่รถจะไม่ผ่านหน้าโครงการนะคะ ต้องนั่งรถกระป๊อแล้วมาขึ้นต่ออีกที

เราขับรถเข้ามาเรื่อยๆยิ่งใกล้ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี ก็จะเริ่มเห็นคอนโด Low Rise กันแล้ว อย่างทางซ้ายมือนี้เป็น The Privacy คอนโดของพฤกษา

ไม่ไกลกันมี The Cube ประชาอุทิศ

เลยมาอีกหน่อยก็มี Librery Houze ประชาอุทิศ ซึ่งคอนโดเหล่านี้ล้วนขึ้นมาเพื่อรองรับคนที่ทำงานหรือใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้และนักศึกษา ม.พระจอมเกล้าธนบุรีค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆเราจะเจอ Mall เล็กๆชื่อลานไม้อยู่ทางขวามือ ภายในจะมีร้านขายอาหาร ร้านเสื้อผ้าเล็กๆ ซึ่งจากตรงนี้สภาพแวดล้อมจะยิ่งคึกคักขึ้นเรื่อยๆ

บรรยากาศสองข้างทางเป็นตึกแถวที่ใต้ตึกมีทั้งร้านขายเฟอร์นิเจอร์ราคาเบาๆที่ใช้ในหอพัก ร้านอินเตอร์เนต ร้านคอมพิวเตอร์ ร้านอาหาร ร้านนม หลากหลายมาก

ทางซ้ายมือเป็นเวิ้งเล็กๆที่ล้อมรอบด้วยอาคารพาณิชย์ ซึ่งพื้นที่ตรงกลางเป็นพื้นที่ใช้เช่าสำหรับขายอาหาร มีอาหารให้เลือกหลากหลายและคึกคักมากในช่วงเย็น คนที่มากินส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักศึกษาเพราะตรงนี้อยู่ในโซนหน้ามอแล้ว

ไม่ไกลกันจะเจอ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี อยู่ทางขวามือค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นเต้นท์ขายอาหารเล็กๆที่มีของกินขายตลอดวัน

เราตรงมาอีกนิดจะเจอป้ายบอกทางเลี้ยวขวาจะไปพุทธบูชา, พระราม 2 แต่เราจะชิดซ้ายเพื่อไปทางครุในกันนะคะ

สุดทางจะเป็นแยกนาหลวงซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนประชาอุทิศและพุทธบูชา หากเลี้ยวขวาจะไปหลังมอ ถนนพุทธบูชาและสามารถไปยังพระราม 2 ได้ แต่เราจะเลี้ยวซ้ายไปโครงการกัน

พอเลี้ยวซ้ายมา บรรยากาศสองข้างทางก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก สภาพแวดล้อมยังคงเป็นตึกแถว 2-3 ชั้น

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอตลาดทุ่งครุ ประชาอุทิศ 61 อยู่ทางซ้ายมือ โดยตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่มาก มีทั้งโซนตลาดสด โซนขายอาหารปรุงสำเร็จ มีเสื้อผ้า ของใช้ในบ้านครบ

ขับมาเรื่อยๆจะเจอมัสยิดอัลอิสติกอมะห์ซึ่งมีซอยประชาอุทิศ 69  แยก 11  อยู่ข้างๆ ซึ่งซอยนี้สามารถใช้เป็นทางลัดไปทะลุถนนสุขสวัสดิ์เพื่อไปทางด่วน หรือจะไปขึ้นสะพานภูมิพลข้ามไปพระราม 3 ได้

ไม่ไกลกันมี Max valu เปิด 24 ชั่วโมง

เยื้องๆกันเป็น Tesco Lotus

ถัดมาเป็นอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ด้านหน้าอิสลามวิทยาลัยจะมีสะพานลอยซึ่งถัดจากสะพานลอยไปก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ

พอพ้นสะพานลอยมาก็จะเจอโครงการ The City สุขสวัสดิ์ อยู่ทางขวามือค่ะ

เลยจากโครงการไปหน่อยจะเป็นที่ดินเปล่าและตึกแถวค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย ตึกแถว โรงเรียน และมี Hypermarket อย่าง Tesco Lotus และ Max Valu อยู่ไม่ไกล โดยทิศเหนือ ติดกับอาคารพาณิชย์และหมู่บ้านประฃาสุขซิตี้ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย  ทิศใต้ ติดกับที่ดินที่เตรียมพัฒนาโครงการในอนาคตของ AP ทิศตะวันออก เป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการทีติดกับถนนประชาอุทิศ และฝั่งตรงข้ามเป็นอิสลามวิทยาลัย โดยด้านหน้าโครงการจะมีป้ายรถเมล์และสะพานลอยให้ข้ามไปขึ้นรถประจำทางที่ฝั่งตรงข้ามได้

ด้านหน้าโครงการติดกับถนนประชาอุทิศ มีป้ายรถเมล์ให้สามารถมารอรถโดยสารได้ และมีสะพานลอยสามารถข้ามไปรอรถฝั่งตรงข้ามได้เลย โดยฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นอิสลามวิทยาลัยค่ะ

เราขึ้นไปบนสะพานลอยแล้วมองลงมา จะเห็นพื้นที่ด้านหน้าโครงการทั้งหมด ทางขวามือด้านหน้าโครงการจะเป็นป้ายรถเมล์ ส่วนพื้นที่ที่ติดกับโครงการทางซ้ายมือจะเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนาของ AP เลียบถนนประชาอุทิศจะเป็นฟุตบาทที่มีต้นไม้ปลูกตลอดทาง ร่มรื่นดี

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย  ~120 เมตร
  • Tesco Lotus ~220 เมตร
  • Max Valu ~280 เมตร
  • ตลาดใหม่ทุ่งครุ ประชาอุทิศ 61 ~900 เมตร
  • โรงเรียนนาหลวง ~1.5 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ~1.8 กิโลเมตร
  • ศูนย์ฝึกกีฬา กรุงเทพมหานคร ~2 กิโลเมตร
  • สวนธนบุรีรมย์ ~2.1 กิโลเมตร
  • เซนทรัล พระราม 2 ~12 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนประชาอุทิศ โดยจะมีป้อม รปภ. 3 จุด เป็น Triple Gate เข้า-ออก โดยใช้ระบบ Easy Pass เมื่อเข้ามาจะเจอซุ้มทางเข้าโครงการซุ้มใหญ่ที่เข้า-ออกโดยใช้รั้วกั้นไม้กระดก โดยทางเข้านี้จะเป็นทางเข้า-ออกที่ใช้ร่วมกันของโครงการในอนาคตของ AP อีก 2 โครงการด้วยค่ะ จากซุ้มหน้าโครงการเข้ามาจะเป็นถนนภาระจำยอมที่ค่อนข้างร่มรื่น มีต้นไม้ปลูกตลอดทาง ช่วงโค้งแรกจะมีคลองเล็กๆพาดผ่านซึ่งโครงการทำรั้วกั้นสายตาให้เรียบร้อยดี ถัดมาจะมีป้อม รปภ.ป้อมเล็กอีก 1 จุด บริเวณแยกที่ตัดกับซอยประชาอุทิศ 60 เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ลูกบ้าน เข้ามาอีกหน่อยจะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งถ้าเลยไปหน่อยจะเป็นทางเข้าโครงการของ AP อีกหนึ่งโครงการค่ะ

โดยทางเข้าโครงการจะเป็นซุ้มทางเข้า Gate 3 ที่มีป้อม รปภ.รักษาความปลอดภัยให้อีก 1 จุด เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอโครงการบ้านพักอาศัยจำนวน 70 ยูนิต ที่มี Facilities อยู่ด้านหน้าโครงการ ประกอบด้วยสวนสาธารณะและ Clubhouse ที่มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องโยคะให้ ส่วนด้านหลังโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมด ดังนั้นใครที่ชอบใช้ Facilities บ่อยๆหรือชอบวิวสวน แนะนำให้เลือกบ้านโซนหน้าโครงการนะคะ

โครงการออกแบบมาภายใต้คอนเซปต์ Modern Moroccan คือการนำเอาสไตล์ Morocco มาลดทอนให้เรียบง่ายขึ้น โดยใช้โทนสีขาว-ดำ-ลายหินอ่อน โดยมีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออกที่เป็นรั้วกั้นไม้กระดก  โดยลูกบ้านจะเข้าโครงการโดยใช้ระบบ Easy Pass ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ.ก่อนค่ะ

เข้ามาในโครงการจะเจอถนนภาระจำยอมที่เป็นถนน 4 เลน  รั้วโครงการสูงประมาณ 3 เมตร มีการปลูกต้นไม้เป็น Green wall และไม้ยืนต้นไปตลอดทาง ทำให้บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างร่มรื่น

เดินมาอีกหน่อยจะเป็นทางโค้ง ที่ผ่านคลองสาธารณะเล็กๆ โครงการทำกำแพงกั้นสายตาทั้งซ้ายขวาช่วยให้ภาพรวมดูเรียบร้อยดี

เดินมาอีกหน่อยจะเจอป้อม รปภ.เล็กๆอีก 1 ป้อม ที่กั้นด้วยรั้วกั้นไม้กระดก เข้า-ออก โดยใช้ Easy Pass เหมือนป้อมด้านหน้าโครงการ การที่มีป้อม รปภ.อยู่ตรงนี้เนื่องจากด้านหลังป้อม รปภ.นี้จะตัดกับซอยประชาอุทิศ 60 ซึ่งจะมีคนผ่านเข้า-ออกตลอด โครงการจึงทำป้อม รปภ.ไว้อีกจุดหนึ่งเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ลูกบ้านค่ะ โดยหากเลี้ยวซ้ายจะสามารถไปทะลุถนนประชาอุทิศได้ ส่วนถ้าไปทางขวาจะเป็นบ้านพักอาศัยและซอยตัน

ทางขวามือเป็นซอยเล็กๆที่สามารถไปทะลุถนนประชาอุทิศได้ ภายในซอยจะเป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัย

ส่วนทางซ้ายมือเป็นซอยตัน ซึ่งช่วงต้นซอยนี้มีการล้อมรั้วเพื่อทำโครงการของ AP ค่ะ ถ้าเข้าไปในซอยก็จะเป็นบ้านพักอาศัยที่ค่อนข้างเงียบสงบ

ถัดมาจะเป็นถนนภาระจำยอมที่กว้างขึ้น หากตรงไปจะสามารถไปทะลุโครงการในอนาคตของ AP ที่กำลังก่อสร้างอยู่ได้ ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นประตูทางเข้าโครงการนะคะ

ซุ้มทางเข้าโครงการเป็นสีขาว ตกแต่งด้วยลายหินอ่อนและเหล็กดัดเล่นลาย ทางขวามือมีป้าย The City Suksawat ชัดเจน ตรงกลางเป็นป้อม รปภ. อยู่ระหว่างทางเข้า-ออกโครงการที่กั้นด้วยประตูเหล็กโปร่ง ลูกบ้านจะผ่านประตูโดยใช้ระบบ Easy Pass เหมือนกับทางเข้าอื่นๆของโครงการค่ะ

ถนนหลักของโครงการกว้างประมาณ 12 เมตร เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอ Clubhouse และสวนสาธารณะอยู่ด้านหน้าโครงการ ส่วนบ้านพักอาศัยทั้งหมดจะอยู่ด้านหลัง

หันมาทางซ้ายมือจะเป็นสำนักงานขาย บ้านตัวอย่าง และที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่มาติดต่อ

สวนสาธารณะของโครงการมีเนื้อที่ประมาณ 216.3 ตร.วา มีศาลานั่งเล่น สวนน้ำพุสไตล์โมร็อกโค สนามหญ้า มีการนำต้นปาล์มมาใช้ในสวนเพื่อให้เข้ากับคอนเซปต์

ศาลานั่งเล่นของโครงการเป็นศาลาเล็กๆที่มีระดับความสูงกว่าส่วนอื่นๆ

จากศาลานั่งเล่นมองออกไปจะเห็นสวนสาธารณะด้านหน้า

โดยสวนสาธารณะของโครงการเป็นสวนน้ำพุสไตล์โมรอคโค มีลักษณะเป็น Symmetry ตรงกลางเป็นบ่อน้ำพุยาวและสองข้างทางขนาบด้วยต้นปาล์มทรงสูง สามารถเดินไปยังน้ำพุด้านหน้าได้

เดินมาสุดทางจะเป็นแท่นน้ำพุ ที่มีทางแยกขวามือไปยังชิงช้า ตรงไปข้างหน้าเป็นบ้านพักอาศัย ส่วนแยกไปทางซ้ายมือเป็น Clubhouse

จากแท่นน้ำพุมองไปทางขวามือจะมีทางเดินไปยังชิงช้านั่งเล่นสีขาว

ซูมชิงช้านั่งเล่นให้ดูใกล้ๆค่ะ ด้านหน้ามีการวางแท่นฉลุลายตกแต่งด้วย

จากน้ำพุมองไปอีกด้านหนึ่งจะเป็นทางเดินไปยัง Clubhouse ค่ะ

โดย Clubhouse ของโครงการจะใช้โทนสีขาว-ทอง เล่นลายหินอ่อนที่ผนังและหุ้ม Facade (เปลือกอาคาร) ด้านบนด้วยเหล็กโปร่งเล่นลาย ที่ลดทอนรายละเอียดให้ดู Modern ขึ้น ภายใน Clubhouse จะประกอบด้วย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องโยคะ

เข้ามาภายใน Clubhouse จะมีทางเดินไปยังส่วนต่างๆ โดยถ้าตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางไปยังสระว่ายน้ำ ส่วนถ้าขึ้นบันไดไปจะเป็นห้องฟิตเนสและห้องโยคะค่ะ

ภายในพื้นที่สระว่ายน้ำจะใช้โทนสีขาว ผนังห้องเป็นลายหินอ่อน โดยทางขวามือจะเป็นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ ส่วนซ้ายมือจะเป็นทางไปยังห้องน้ำและบันไดทางขึ้นสระว่ายน้ำค่ะ

เมื่อขึ้นบันไดมาแล้วมองกลับไปจะมีพื้นที่ล้างตัวริมสระให้ 1 จุด

สระว่ายน้ำของโครงการเป็นรูปตัว L แบ่งพื้นที่แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่ เมื่ออยู่ในสระจะได้วิวแบบนี้ค่ะ

ออกจากโซนสระว่ายน้ำมาเราจะพาขึ้นไปดูชั้น 2 กันบ้าง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอโถงเล็กๆที่แบ่งไปยังห้องอเนกประสงค์ ห้องโยคะ และห้องฟิตเนส

บรรยากาศภายในห้องฟิตเนสที่บรรจุเครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง ด้านหลังเป็นกระจกเงาช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น และยังสามารถใช้ส่องดูตัวเองขณะออกกำลังกาย ส่วนผนังด้านอื่นจะเป็นกระจกใสจึงสามารถมองวิวด้านนอกได้และมี Facade มาช่วยบังแดดด้วยอีกส่วนหนึ่ง

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
  • สวนสาธารณะ
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • Easy Pass Access
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก/ เลื่อนไฟฟ้า
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor และ Shock Sensor ทุกหลัง

 


Product Walkthrough

แบบบ้านในโครงการมีพื้นที่ใช้สอยและขนาดห้องพอๆกันค่ะ มีบ้านให้เลือก 2  แบบ คือ

  • Stella ที่ดิน 50.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 169.61 ตร.ม. 4ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Esther ที่ดิน 52.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 185.92  ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

โดยชื่อของบ้านทั้งสองมีความหมายว่า “ดาว” ในภาษาอิสราเอลและกรีก ส่วนแบบบ้านที่เราจะพาไปเจาะลึกกันคือแบบบ้านใหญ่  Esther พื้นที่ใช้สอย 185.92 ตร.ม. ค่ะ

เรามาเริ่มที่ผังตัวบ้านกันค่ะ แบบบ้าน Stella Stella ที่ดิน 50.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 169.61 ตร.ม. 4ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
มีพื้นที่ให้สามารถเดินและจัดสวนได้รอบบ้าน โดยทางเข้า-ออกหลักของบ้านจะมี 2 ทางคือเข้าทางโรงจอดรถ และห้องนั่งเล่น

เข้ามาในบ้านจะเจอห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาหาร ถัดไปเป็นพื้นที่ครัว โดยโครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวล่างมาให้เรียบร้อย จากห้องครัวสามารถเปิดออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้ค่ะ ถัดไปเป็นห้องน้ำรวมชั้น 1 ที่มีฟังก์ชั่นให้ครบทั้งส่วนเปียกส่วนแห้ง ติดกันเป็นห้องอเนกประสงค์หรือห้องนอนเล็ก เหมาะจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องดูหนัง เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ หรือเด็กอ่อนก็ได้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นที่จะเป็นรูปตัว U พอขึ้นมาจะเจอโถงชั้น 2 ซึ่งสามารถทำพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่นชั้นบนได้ ห้องนอนมีทั้งหมด 3 ห้องโดยมีห้องนอนเล็ก 2 ห้องใช้ห้องน้ำรวมร่วมกันที่โถง ส่วนห้อง Master Bedroom มีพื้นที่สามารถทำ Walk-in Closet ได้ และมีห้องน้ำให้ในตัว

ตัวบ้านใช้โทนสีน้ำตาล-ขาว มีการตกแต่ง Facade ด้วยเหล็กดัดที่เล่นลวดลายลดทอนมาจากลายของโมร็อคโค บานประตูและหน้าต่างใช้กระจกใสเขียวตัดแสง กรอบ UPVC สีขาว โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Conventional หรือการก่อสร้างแบบเสาคาน สามารถทุบ เจาะ ดัดแปลงบ้านได้ รั้วบ้านเป็นเหล็กโปร่งที่มีประตูเป็นแบบรางเลื่อนให้ ความสูงของรั้ว 1.5 เมตร

เข้ามายังลานจอดรถที่สามารถจอดได้ 2 คัน โดยพื้นบ้านจริงจะเป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก Slab on Ground ผิวขัดเรียบ บนฝ้าเพดานมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง ที่ผนังติดตั้งเต้ารับ 1 จุดเผื่อเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ล้างรถและดูดฝุ่น ทางซ้ายมือมีช่องเปิดเป็นหน้าต่างกระจกบาน Fix และทางขวามือเป็นประตูเข้า-ออกบ้านทางลานจอดรถโดยใช้ประตู HDF สีขาว มือจับก้านโยกสแตนเลส

ส่วนประตูทางเข้าบ้านทางลานจอดรถเป็นประตูบานสำเร็จรูปสีขาว มี Door Stop ให้เรียบร้อย ที่พื้นมีชานยื่นออกมาเล็กน้อยเนื่องจากระดับพื้นบ้านสูงกว่าพื้นลานจอดรถ

เดินมาหลังบ้านจะมีหน้าต่างบานใหญ่ของห้องรับประทานอาหารและลานซักล้างที่สามารถออกมาได้จากห้องครัว  พื้นลานซักล้างมีการปูพื้นปูนคอนกรีตมาให้เรียบร้อย

กลับมาที่ประตูหน้าบ้านที่มีเฉลียงขนาดประมาณ 1.2 x 3.50 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีการติดตั้งโคมไฟสีดำให้ทั้งสองจุดซ้าย-ขวา ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว กระจกใสเขียวตัดแสง กรอบ UPVC สีขาว

นอกจากความปลอดภัยในเรื่องตัวล็อคประตูแล้ว ในบานประตูทุกบ้านและหน้าต่างทุกช่องในชั้นหนึ่ง จะมีการติดตั้งสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic Sensor และ Shock Sensor ไว้ให้ ซึ่งถ้าได้ลองเข้าไปอยู่จะรู้สึกได้ชัดมาก เนื่องจากวันที่ไปเก็บรีวิวเราเปิด-ปิดหน้าต่างประตูเกือบทุกบาน และทุกครั้งที่เราเปิดและปิดก็จะมีเสียงดังเตือนขึ้นทุกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าการมีสัญญาณเตือนแบบนี้จะช่วยให้เจ้าของบ้านรู้ว่ามีใครเข้า-ออกบ้านบ้าง และช่วยในการระแวดระวังขโมยที่อาจมาเยี่ยมเยือนโดยมิได้รับเชิญค่ะ

พื้นบ้านยกระดับขึ้นมาจากชานบ้านมาประมาณ 5 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

เข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องรับแขกที่ต่อเนื่องกับส่วนนั่งเล่นและรับประทานอาหาร โดยรวมแล้วพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลาย เมื่อเปรียบเทียบระหว่างบ้านตัวอย่างกับบ้านมาตรฐานจะเห็นว่าบ้านจริงค่อนข้างเรียบ แต่เมื่อมีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งด้วยฉากลวดลายต่างๆเพิ่มเข้ามาก็ทำให้บ้านมีลูกเล่นมากขึ้น โดยผนังบ้านที่ได้จริงจะติดวอลเปเปอร์สีพื้นมาให้  ฝ้าเพดานแผ่นเรียบติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ทรงกลม และหน้าต่างบานใหญ่ช่วยให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านโปร่งมาก

ลองหันกลับไปที่ประตูทางเข้า สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นแบบบ้านตัวอย่างได้ โดยเมื่อจัดวางเฟอร์นิเจอร์แล้วระยะดูทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 4 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 60″ ขึ้นไปได้สบายๆ ที่ผนังทางขวามือติดตั้งเต้ารับพร้อมสายเคเบิลมาให้เรียบร้อย

ถัดไปเป็นส่วนของห้องรับประทานอาหารขนาดประมาณ 4.3 x 3.6เมตร โดยบ้านจริงที่ได้จะเป็นบ้านเปล่า สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้ บรรยากาศของห้องโปร่งดีเพราะมีทั้งหน้าต่างบ้านใหญ่และประตูทางออกข้างบ้าน

ถัดไปเป็น Corridor ทางเดินไปสู่ห้องอื่นๆของบ้าน เนื่องจากบ้านสร้างด้วยระบบก่ออิฐฉาบปูนจึงทำให้เราสามารถทุบและปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นบ้านได้ โดยบ้านมาตรฐานของจริงจะมีประตูครัวหันหน้ามาทางห้องรับประทานอาหารแต่บ้านตัวอย่างมีการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นให้ทางเข้าห้องครัวหันไปทาง Corridor เมื่อมองจากมุมนี้จึงเป็นผนังเรียบที่สามารถทำประตูทรงโค้งแบบบ้านตัวอย่างได้ค่ะ

เมื่อเดินเข้ามาภายใน Corridor บ้านตัวอย่าง ทางซ้ายมือจะเป็นโถงบันไดและประตูทางออกลานจอดรถ ส่วนทางขวามือเป็นห้องครัว ห้องน้ำ และสุดทางเป็นห้องเอนกประสงค์ค่ะ

เข้ามาภายในห้องครัวขนาดประมาณ 2.6 x 2.45 เมตร โดยโครงการจะ Buiilt-in มาให้เฉพาะเคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง Top หินสีดำ พร้อมอ่างล้างจานเท่านั้น แต่เราสามารถไปติดตั้งตู้ด้านบนเพิ่มเหมือนบ้านตัวอย่างได้ค่ะ โดยห้องนี้จะมีประตูทางออกไปยังลานซักล้างได้

ติดกันเป็นห้องน้ำขนาดประมาณ 2.6 x 1.50 เมตร มีการแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ส่วน คือเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์   และพื้นที่อาบน้ำที่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ ภายในห้องน้ำไม่มีพัดลมดูดอากาศแต่มีหน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อช่วยให้แสงเข้าและสามารถเปิดระบายอากาศได้ไปในตัว

พื้นห้องน้ำลดระดับมาประมาณ 7 เซนติเมตร กันน้ำไหลจากส่วนเปียกไปสู่ส่วนแห้ง พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัวทรงสี่เหลี่ยม ข้างๆกันเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ โดยสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ทั้งหมดของ Eaglefield ที่ผนังด้านบนติดตั้งกระจกเงาแบบเรียบๆมาให้ 1 บานพร้อม Low wall หรือก่อผนังขึ้นมาให้สามารถวางของใช้ในห้องน้ำได้

ตัวอ่างล้างหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดปานกลาง พร้อมก๊อกน้ำสแตนเลสแบบก้านโยก

ข้างๆกันเป็นโถสุขภัณฑ์ พร้อมติดตั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่มาให้เรียบร้อย

ซูมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ให้ดูชัดๆ โดยโครงการจะให้รุ่นนี้ในห้องน้ำทุกห้องค่ะ

ข้างๆกันเป็นพื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.9 x 0.9 เมตร ที่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ แนะนำให้ติดฉากกั้นกระจกหรือหาผ้าม่านอาบน้ำมากั้นนะคะ เวลาเราอาบน้ำจะได้ไม่กระเด็นไปเปียกส่วนอื่นๆ ที่ผนังติดตั้งหน้าต่างช่วยระบายอากาศและช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าดี แต่ไม่ต้องกลัวโป๊เพราะหน้าต่างเป็นกระจกฝ้าค่ะ

พื้นมีการลดระดับลงเล็กน้อยเพื่อให้น้ำไหลลงท่อระบายน้ำและไม่มาเปียกส่วนแห้ง

ผนังด้านนี้ติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำ มีที่วางสบู่มาให้เรียบร้อย

ฝักบัวขนาดใหญ่ดี

หน้าต่างห้องน้ำเป็นกระจกฝ้า บานกระทุ้ง ที่หน้าต่างติดตั้งสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic and Shock Sensor มาให้เรียบร้อยเหมือนหน้าต่างบานอื่นๆของบ้าน

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 ดวง ที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน แสงสว่างกำลังดี

ถัดไปเป็นห้องเอนกประสงค์ขนาดประมาณ  3.2 x 2.7 เมตร สามารถจัดห้องนี้ให้เป็นห้องทำงาน ห้องนอนของผู้สูงอายุที่ขึ้นลงบันไดไม่สะดวก หรือจะจัดเป็นห้องนั่งเล่นแบบห้องตัวอย่างก็เหมาะค่ะ

ข้างๆประตูทางเข้ามีพื้นที่ว่างสามารถวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งแบบบ้านตัวอย่างหรือจะ Built-in ชั้นวางของ ตู้หนังสือก็ได้ค่ะ

ถัดไปเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยตัวบันไดมีความกว้างประมาณ 0.9 เมตร ลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูป ในบ้านตัวอย่างมีการเดินไฟ LED เป็นเส้นตามแนวของบันไดช่วยให้โถงบันไดสว่างมากขึ้นเป็นอีกหนึ่งไอเดียในการแต่งบ้านค่ะ

ราวบันไดเป็นเหล็กดัดเล่นลายเข้ากับธีมโครงการ Modern Moroccan

ตัวบันไดจะวนขึ้นมาเป็นรูปตัว U มีชานพัก 2 Step  พื้นห้องชั้น 2 เป็นพื้นลามิเนตสีเดียวกับพื้นลูกนอนบันได

มองกลับไปที่โถงบันไดจะมีความโปร่งดีเนื่องจากมีหน้าต่างบานใหญ่มาให้  รวมทั้งติดตั้งโคมไฟมาให้ 2 ดวง เป็นแบบสีขาวเรียบๆ ซึ่งเราสามารถหาแชนเดอเลียร์สวยๆหรือหาโคมไฟมาเปลี่ยนแบบบ้านตัวอย่างเพื่อเพิ่มบรรยากาศให้บ้านได้นะคะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นห้องโถงที่สามารถวางโซฟาเป็นมุมนั่งเล่นของครอบครัว หรือจะจัดเป็นฟังก์ชั่นอื่นได้ตามความต้องการ โดยโถงนี้จะสามารถแยกไปสู่ห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเล็กทั้งสองห้อง และห้องน้ำได้

มุมนั่งเล่นชั้น 2 มีขนาดประมาณ 2.8 x 2.45 เมตร เราสามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นแบบบ้านตัวอย่างได้ แต่จะจัดสไตล์ไหนก็แล้วแต่ความชอบนะคะ โดยถ้าจัดเฟอร์นิเจอร์แบบบ้านตัวอย่างจะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2 เมตร เหมาะกับการวางทีวี 52″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตาค่ะ

ถัดจากห้องนั่งเล่นไปจะเป็นโถงเล็กๆที่เชื่อมระหว่างห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องน้ำ โดยเราจะพาดูไล่ไปตั้งแต่ทางซ้ายไปขวา คือ ห้องนอน 2 > ห้องนอน 3 > ห้องน้ำ ตามลำดับนะคะ

ห้องนอนที่ 2 ขนาดประมาณ 5.1 x 2.65 เมตร เป็นห้องรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกลางของบ้าน สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ หรือจะวางเตียงคู่สำหรับลูก 2 คนแบบบ้านตัวอย่างก็ได้ โดยห้องนี้มีหน้าต่างมาให้ทั้งบานใหญ่และบานเล็กที่ผนังสองด้าน ช่วยให้ห้องนี้ดูโปร่งและแสงสว่างเข้าดี

พื้นที่ข้างเตียงเหลือเยอะมาก เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของแบบบ้านตัวอย่างได้ โดยระยะจากเตียงถึงตู้ประมาณ 1.5 เมตร สามารถยืนแต่งตัวได้สบายๆ

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงฝั่งนี้ตามบ้านมาตรฐานของจริงจะเป็นผนังทึบ แต่อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่าบ้านหลังนี้สร้างด้วยโครงสร้างก่ออิฐฉาบปูนจึงสามารถทุบ เจาะ และปรับเปลี่ยนบ้านได้ โครงการจึง Combine ห้องรวมกัน โดยทุบผนังตรงนี้แล้วเปลี่ยนเป็นฉากกั้นบานเลื่อนแทน แล้วปรับให้ห้องนอนข้างๆกลายเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนี้จึงกลายเป็นห้องเด็กที่มีพื้นที่เชื่อมกับห้องนั่งเล่น ลูกๆสามารถมานั่งเล่นทำการบ้านเสร็จแล้วก็ขึ้นเตียงนอนได้เลย เป็นไอเดียที่เหมาะสำหรับครอบครัวเล็กที่อยู่กัน 4 คน พ่อ แม่ และลูกเล็กๆ 2 คน ค่ะ

เปิดประตูมาดูห้องข้างๆที่มีขนาดประมาณ  3 x 3.5 เมตร โดยโครงการจัดให้ห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่น แต่สำหรับบ้านไหนที่มีสมาชิกเยอะหรือลูกโตแล้วต้องการแยกห้อง ก็สามารถจัดให้ห้องนี้เป็นห้องนอน โดยสามารถวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตได้สบายๆค่ะ

ถัดไปเป็นห้องน้ำรวมชั้น 2 ที่จัดฟังก์ชั่นเหมือนห้องน้ำชั้น 1 เป๊ะๆ ตัวห้องมีขนาดประมาณ 1.5 x 2.6 เมตร เป็นห้องขนาดกลางๆที่ฟังก์ชั่นครบทั้งอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์และส่วนอาบน้ำมาให้ โดยกระจกเงาติดผนังเป็นบานใหญ่ดีไซน์เรียบๆ สุขภัณฑ์ติดตั้งมาให้พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ ถัดไปเป็นส่วนอาบน้ำที่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ แต่มีการลดระดับพื้นให้ตามมาตรฐาน ซึ่งเราสามารถไป Built-in ฉากกั้นอาบน้ำเองได้ค่ะ

ถัดไปเราจะไปดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง ซึ่งประตูของจริงจะเป็น HDF สีขาวธรรมดา ส่วนทรงโค้งนี้เป็นการทำไอเดียให้ดูในบ้านตัวอย่างเฉยๆนะคะ

เข้ามาในห้องนอนใหญ่พื้นที่กว้างขวางสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ บรรยากาศในห้องโปร่งมาก เนื่องจากมีหน้าต่างทั้งสามบานและประตูบานใหญ่ ช่วยให้แสงเข้าดี

พื้นที่ปลายเตียงเหลือค่อนข้างเยอะ เราสามารถวางโต๊ะทำงาน ตู้วางของ หรือโต๊ะวางทีวีแบบบ้านตัวอย่างก็ได้เนื่องจากโครงการติดตั้งเต้ารับพร้อมที่เสียบสายเคเบิลมาให้เรียบร้อย ทางซ้ายมือเป็นประตูบานใหญ่ที่เปิดไปยังระเบียงได้

กลอนประตูเป็นตัวล็อก 2 ชั้นกันการงัดแงะ

พื้นระเบียงมีการลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำจากระเบียงเข้าห้อง พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งเล่นลายสีดำ ที่ข้างประตูติดตั้งโคมไฟทรงคลาสสิคมาให้แบบนี้เลย

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานติดตั้งระแนงเหล็กตกแต่งมาให้แบบนี้ด้วย

ถัดไปเป็นส่วนของ Walk-in Closet ซึ่งของจริงจะเป็นพื้นที่ว่างที่เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบในบ้านตัวอย่างได้ ส่วนทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ เวลาอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้เลยสะดวกดี

เข้ามาภายในห้องน้ำขนาด 2.8 x 1.45 เมตร มีการแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ส่วนเหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆ คือมีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า,โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ โดยห้องนี้จะพิเศษกว่าห้องอื่นตรงที่จะได้อัพเกรดรุ่นสุขภัณฑ์ โดยเฉพาะโถสุขภัณฑ์ที่เป็นแบบ Washlet

อ่างล้างหน้าของ Eaglefield ทรงเหลี่ยมขอบโค้งขนาดปานกลาง พร้อมก๊อกน้ำสแตนเลสแบบก้านโยก

ที่ต่างจากห้องน้ำห้องอื่นอย่างเห็นได้ชัดคือห้องนี้จะได้โถสุขภัณฑ์แบบ Washlet

มีปุ่มควบคุมตามนี้ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1.45 x 0.9 เมตร ที่พื้นมีการลดระดับให้เล็กน้อยกันน้ำไหลไปเปียกส่วนแห้ง แต่ไม่มีการกั้นฉากอาบน้ำให้แนะนำให้หามาติดนะคะ ที่ผนังติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน ไม่ต้องกลัวโป๊เพราะเป็นกระจกฝ้า

ติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำมาให้พร้อมที่วางสบู่เรียบร้อย

ฝักบัวของห้องนี้เป็นทรงกลมขนาดใหญ่ดี

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน โครงการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 3 ดวง พร้อมแสงธรรมชาติจากหน้าต่างช่วยให้ห้องนี้มีแสงสว่างดีมาก

ชุดปลั๊กและสวิตซ์ไฟของบ้านหลังนี้จะได้ของ Gratia เป็นแบบ Tounch Screen ทั้งหมดค่ะ

ปิดท้ายด้วยหน้าตาบ้านแบบ Stella ซึ่งเป็นบ้านบนที่ดิน 50.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 169.61 ตร.ม. 4ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ตัวบ้านคล้ายๆกับบ้านแบบแรก ใช้โทนสีขาว-น้ำตาลเหมือนกัน แต่ตัวบ้านมีหน้ากว้าง 14 เมตร จึงดูเล็กกว่าบ้านแบบแรกเล็กน้อยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 November 2016

  • แบบ Stella แปลง H03 พื้นที่ใช้สอย 169.61 ตร.ม. ที่ดิน 55.25 ตร.วา ราคา 7.6 ล้านบาท
  • แบบ Esther แปลง J02 พื้นที่ใช้สอย 185.92 ตร.ม. ที่ดิน 52.65 ตร.วา ราคา 8 ล้านบาท

  • จองและทำสัญญา 50,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ The City สุขสวัสดิ์ เหมาะกับคนที่อยากได้บ้านติดถนนประชาอุทิศที่สามารถไปยังพระราม 2 สุขสวัสดิ์ พระราม 3 ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม และใช้ทางด่วนสะดวก อาจเป็นคนในพื้นที่เดิมที่อาศัยอยู่ประชาอุทิศช่วงท้ายๆที่ไม่ค่อยมีอะไรมากนัก แล้วต้องการเขยิบเข้ามาในโซนที่คึกคักมากขึ้น หรือคนที่ต้องการบ้านในโซนใกล้สถานศึกษาที่มีความคึกคักสูง ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการบ้านเดี่ยวในละแวกนี้อย่างมัณฑนา พุทธบูชา, ศุภาลัย(ประชาอุทิศ 131) หรือ Centro (ประชาอุทิศ 69 แยก 11) ทำเลของโครงการนี้จะดีกว่าตรงที่อยู่ติดถนนหลักประชาอุทิศ ใกล้กับ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี ตลาด 61 และมี Lotus, Max Value อยู่ในระยะไม่เกิน 300 เมตร สามารถไปซื้อของเข้าบ้านได้ง่าย ด้วย Product ของโครงการที่เป็นบ้านเดี่ยวขนาด 169-185 ตร.ม. แบบ 4 ห้องนอน จึงเหมาะกับคนในพื้นที่ที่ต้องการขยายครอบครัว เขยิบจากทาวน์โฮมขึ้นมาอยู่บ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้น

การเดินทางด้วยรถยนต์ สามารถไปยังถนนพระราม 2 พุทธบูชา สุขสวัสดิ์ พระราม 3 ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม และใช้ทางด่วนสะดวก ทั้งทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์และทางด่วนเฉลิมมหานคร โดยถนนเส้นนี้มีปริมาณรถต่อวันค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังดีที่มีซอยย่อยทะลุถึงกันได้เป็นใยแมงมุม ทำให้มีทางลัดเลี่ยงรถติดได้ ส่วนการเดินทางด้วยรถประจำทางก็สะดวกมากเพราะโครงการติดถนนประชาอุทิศ ที่หน้าโครงการมีป้ายรถเมล์และมีสะพานลอย จะรอรถฝั่งโครงการหรือจะข้ามไปรอรถฝั่งตรงข้ามก็ได้ โดยหน้าโครงการมีทั้งรถเมล์ รถกระป๊อ รถแท๊กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ให้เลือกใช้ได้สะดวก แต่ต้องเดินหน่อย โดยจากประตูโครงการเดินออกไปประตูใหญ่มีระยะทางประมาณ 130 เมตร

ความปลอดภัยของโครงการมีประตูทางเข้าแบบ Triple Gate เข้า-ออกโดยใช้ระบบ Easy pass เหมือนระบบทางด่วน แต่ Visitor ต้องแลกบัตรกับพี่ยามก่อน ส่วนความปลอดภัยภายในบ้านจะติดตั้งระบบสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic และ Shock Sensor ที่หน้าต่างประตูทุกบานที่ชั้นบนและล่าง รวมทั้งติดตั้งกลอนประตู 2 ชั้น คือตัวล็อคธรรมดาและตัวล็อคก้นหอยป้องกันการโจรกรรม 

การใช้วัสดุให้มาตามมาตรฐานโครงการระดับนี้  โครงสร้างของบ้านเป็นแบบ Conventional หรือการก่อสร้างแบบเสาคาน กระเบื้องพื้นชั้นล่างให้กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30×30 ซม. พื้นห้องชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนตสำเร็จ หนา 8 มม. พื้นที่จอดรถและพื้นซักล้างเป็นพื้น คสล.ปาดเรียบ บันไดเป็นไม้สำเร็จรูปทั้งลูกตั้งและลูกนอน ส่วนผนังบ้านติดวอลเปเปอร์ให้ทั้งหลัง และกระเบื้องห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิคจรดฝ้าเพดาน ประตูหน้าต่างใช้กรอบและวงกบ UPVC กระจกใสเขียวตัดแสง, ประตูภายในทั่วไปเป็นบานไม้ HDF

การออกแบบโครงการมาในสไตล์ Modern Moroccan ที่มีการลดทอนสไตล์โมร็อคโคให้ดูทันสมัยและเรียบง่ายขึ้น โดยสะท้อนออกมาที่ส่วนกลางซะเป็นส่วนใหญ่ ถือว่าทำให้สภาพแวดล้อมภายในโครงการน่าอยู่และมีคอนเซปต์ชัดเจน การวางผังโครงการบนเนื้อที่ 16 ไร่เศษๆ เทียบกับจำนวน 70 ยูนิต ถือว่าสบายๆไม่หนาแน่น มีการวางความสำคัญของพื้นที่มาที่ด้านหน้าโครงการ โดยตัว Clubhouse สวนสาธารณะจะมาอยู่ด้านหน้า ใครชอบใช้ Facilities บ่อยๆหรือชอบวิวสวนก็แนะนำแปลงด้านหน้าโครงการค่ะ

บ้านในโครงการมีทั้งหมด 2 แบบ ขนาดตั้งแต่ 169 – 185 ตารางเมตร เป็นแบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถทั้งหมด โดยแต่ละแบบแตกต่างกันที่ขนาดพื้นที่และตำแหน่งของห้อง โดยรวมแล้วเน้นครอบครัวขยาย ที่ต้องการบ้านพื้นที่ใช้สอยครบ และมีห้องนอนด้านล่างสำหรับผู้สูงอายุ ส่วนพื้นที่ชั้นสองจะมีห้องนอนเล็ก 2 ห้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน และห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวให้เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันตรงที่บ้านแบบใหญ่จะมีพื้นที่นั่งเล่นที่ชั้น 2 ให้ด้วย

ส่วนกลางทำออกมาได้น่าใช้งาน มีคอนเซปต์ชัดเจน โดยมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่  มี Clubhouse ที่ให้ครบทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องโยคะพอดีกับ 70 ยูนิต สำหรับค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.วา ถือว่าสมเหตุสมผลดีที่จะจ่ายเมื่อเทียบกับ Facilities ที่ให้มา เนื่องจากมีพื้นที่ที่ต้องดูแลรักษาพอสมควรเลย

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 7.6 – 8 ล้านบาท, 2 November 2016

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนประชาอุทิศ ใกล้ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี และสามารถไปยัง Tesco Lotus และ Max Valu ได้ในระยะเดิน
  • ความปลอดภัย 7.5/10 –ประตูทางเข้า 3 Gate เข้า-ออกโครงการโดยใช้ระบบ Easy Pass มีสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic & Shock Senser ติดให้ที่ประตูและหน้าต่าง
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – แบบสวย ฟังก์ชั่นครบและปรับเปลี่ยนการใช้งานง่าย
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – โครงการไม่ใหญ่มาก สภาพโครงการร่มรื่นดี และมีคอนเซปต์ชัดเจน
  • สาธารณูปโภค 8/10 – สวนสาธารณะ สระว่ายนำ้ ฟิตเนส
  • 7.68 / 10.00

BOTTOM LINE

The City สุขสวัสดิ์ เหมาะกับคนที่ต้องการมองหาบ้านติดถนนประชาอุทิศ ต้องการบ้านในทำเลที่อุดมสมบูรณ์ เดินทางสะดวกทั้งการใช้รถยนต์และรถประจำทาง เป็นครอบครัวขยายที่ต้องการบ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอยครบ  ชอบโครงการเงียบสงบ ยูนิตน้อยๆและมี Facilities น่าใช้งาน ชอบโครงการที่มีคอนเซปต์ชัดเจน มีงบประมาณ 7.6 – 8 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 53,200 – 63,000 บาท

 

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )