รีวิวฉบับที่ 1527 … สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปชมโครงการ The City สาทร – สุขสวัสดิ์ บ้านเดี่ยวใกล้ทางด่วน และสะพานภูมิพลเข้าเมืองง่าย แถมยังไปปั่นจักรยานใน “บางกระเจ้า” พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ได้ง่ายๆ ตัวบ้านเน้นให้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะมากๆ โดยแบบบ้านจะไม่ใช่ขนาดกลางระดับ 200 ตร.ม. แล้วนะครับ แต่มีแบบใหม่มาถึง 5 แบบและได้พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 258 ไปจนถึง 500 ตร.ม.เลย สามารถรองรับครอบครัวใหญ่ได้สบายๆ

Fact @ 6 February 2018

  • The City Sathon – Suksawat (เดอะ ซิตี้ สาทร-สุขสวัสดิ์)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยสุขสวัสดิ์ 39 เขต พระประแดง
  • เนื้อที่โครงการ 44-1-40.9 ไร่ จำนวน 136 ยูนิต
  • City Lux พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาท
  • City Prive(พรีเว่) พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • City Retreat พื้นที่ใช้สอย 258 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาท
  • City Spacious พื้นที่ใช้สอย 304 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 15.9 ล้านบาท
  • City Scenery พื้นที่ใช้สอย 335 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 17.5 ล้านบาท
  • City Myer พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 24.39 ล้านบาท
  • City Lux Lodge พื้นที่ใช้สอย 500 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 29.29 ล้านบาท
  • ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ 50 – 170 ตร.วา
  • เพดานชั้น 1 และ ชั้น 2 สูง 2.8 เมตร
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : พ.ค. 60
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : n/a
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1623

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

ทำเลของโครงการ The City สาทร – สุขสวัสดิ์ อยู่ในย่านสุขสวัสดิ์ที่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ จุดเด่นอยู่ที่ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก และสะพานภูมิพล ทำให้มีการเดินทางโดยใช้รถยนต์ที่สะดวก ซึ่งข้อดีหลักๆ ของโครงการนี้คือเป็นโครงการบ้านขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ถนนสุขสวัสดิ์ ซึ่งไม่ค่อยมีโครงการบ้านมาขึ้นในลักษณนี้สักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่โครงการบ้านเดี่ยวจะไปอยู่ในซอยย่อยต่างๆอย่าง พุทธบูชา หรือประชาอุทิศ  ซึ่งถ้าใครเคยเข้าไปในนั้นจะรู้เลยว่ารถติดขนาดไหน เวลาจะเข้าออกบ้านแต่ละครั้งต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่ต่ำกว่า 5 – 10 นาที ในช่วงเวลาเร่งด่วนนี่เผื่อเวลาไว้ 15 นาทีเลย ทำเลโครงการนี้จึงได้เปรียบเรื่องระยะเวลาในการเดินทางมาก

โครงการนี้แม้จะไม่ได้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่แต่ก็มีระยะห่างจากถนน สุขสวัสดิ์ แค่ 400 เมตร ถ้าขับรถก็แค่ประมาณ 1 นาที ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับคนใช้รถ สำหรับการเดินทางโดยใช้รถโดยรวมแล้วถือว่าทำได้สะดวกเพราะอยู่ใกล้กับทางเชื่อมสำคัญๆหลายจุด จุดแรกคือใกล้สะพานภูมิพลทีสามารถวิ่งไปลงพระราม 3 และโซนสำโรงได้เร็วมากแถมไม่ต้องเสียค่าทางด่วนอะไรด้วย จุดที่สองคือทางด่วนเฉลิมมหานคร จากโครงการไปด่านสุขสวัสดิ์ถือว่าไม่ไกลมากและไม่ต้องรถติดเหมือนคนที่อยู่เส้นพระราม 2 ด้วย จุดที่สามคือทางด่วนกาญจนาภิเษกถ้าใครที่ทำการค้าขายที่ต้องเดินทางไปสำโรง บางนา บาง พลี เทพารักษ์ ก็เดินทางได้สะดวกเลย

สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆ โครงการถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ดีในระยะที่ขับรถ ใกล้สุดจะเป็น Big C ที่สามารถให้แม่บ้านขี่มอเตอร์ไซด์เข้าห้างจากด้านหลังได้ แต่ขับรถเข้าไม่ได้นะมีให้แค่ทางมอเตอร์ไซด์เข้า ถ้าจะหาของกินแบบร้านอาหารทั่วๆไป ก็วิ่งเข้าประชาอุทิศได้เลย มีมากมายหลายร้านยิ่งไปแถวๆ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นี่ยิ่งเยอะใหญ่เลย สำหรับการไปห้างใหญ่ๆ จะมีอยู่ 3 ตัวเลือกที่มีระยะเดินทางเท่าๆ กันคือ เซ็นทรัลพระราม 3 เซ็นทรัลพระราม 2 และ The Mall ท่าพระ

จุดเด่นอีกอย่างนึงของโครงการนี้คือการได้อยู่ใกล้กับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโครงการแนวราบที่สามารถขับรถ หรือขี่จักรยานไปตลาดบางน้ำผึ้ง บางกระเจ้าได้แบบง่ายๆ ด้วยระยะ 7.5 กม. ถ้าขับรถก็ประมาณ 20 นาที ใครเป็นสายปั่นจักรยานน่าจะชอบเพราะไปออกกำลังกายได้ง่ายมากๆเลย

การเดินทางในวันนี้จะเริ่มจากาทางด่วนเฉลิมมหานครและเลี้ยวเข้าถนนสุขสวัสดิ์ วิ่งผ่าน Big C และเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 39 ก็ถึงโครงการนะครับ

ถ้าใครมาจากทางด่วนเฉลิมมหานครพอข้ามสะพาน พระราม 9 มาแล้วให้ชิดซ้ายขับตามป้ายถนนสุขสวัสดิ์

ลงเลี้ยซ้ายมาแล้วก็ให้ตรงๆมาเรื่อยจนเจอแยกพระประแดงแปลว่าใกล้ถึงแล้ว ให้ตรงต่อไปครับ

ผ่าน Big C ก็ให้เตรียมชิดซ้าย  Big C สาขานี้เป็นสาขาที่ใกล้ที่สุด และสามารถให้แม่บ้านขี้มอเตอร์ไซค์เข้าด้านหลังห้างมาซื้อของได้

ขับมาจนเจอแยกไฟแดงที่อยู่ตรงหน้าปากซอยสุขสวัดิ์ 29 ให้เลี้ยวซ้ายทันที

ภายในซอยจะมีบรรยากาศเป็นแหล่งโรงงานนะครับ

ตรงเข้ามานิดเดียวจะเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้าย

เจอเพื่อนร่วมสำนักอย่าง บ้านกลางเมือง สาทร – สุขสวัสดิ์ ก็ให้วิ่งผ่านไปก่อน

ก่อนถึงโครงการจะเจอกับโรงงาน SSK ที่เป็นโรงงานผลิตชิ้นชวนของอุตสาหกรรมยานยต์ ซึ่งตอนกลางวนจะมีคนงานพักเที่ยงออกมากันเยอะหน่อย

ถัดจากโรงงานมาจะเจอป้ายชื่อโครงการตั้งเด่นอยุ่ด้านขวามือให้เราเลี้ยวขวาเข้าไปได้เลยครับ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

เรามาดูรอบๆ โครงการกันซะหน่อยว่ามีสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าดูจากในแผนที่จะเห็นว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งค้าขาย และโรงงานอุตสาหกรรมเกือบทั้งหมด ส่วนใหญ่คนที่หาบ้านละแวกนี้จะเป็นคนที่คุ้นชินกับทำเลแบบนี้อยู่แล้ว จะหาบ้านหลังใหญ่ที่เป็นจัดสรรบนเส้นนี้ก็หายากนะครับ  หรือจะเรียกว่าแทบไม่มีเลยก็ว่าได้เพราะเค้าเอาพื้นที่มาทำเป็นอาคารเชิงพาณิชย์กันหมด ถ้าเป็นบ้านก็จะอยู่ในซอยลึกและเป็นบ้านขนาดเล็กถึงกลาง เป็นแนวาทวน์เฮาส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยวไม่เกิน 300 ตร.ม. ตัวซอยสุขสวัสดิ์ 39 เองก็เป็นซอยที่สามารถไปทะลุกับตลาดพระประแดงที่มีความอุดมสมบูรณ์อีกจุด ทำให้มีรถสัญจรไปมาเยอะคึกคักพอสมควร

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • วงแหวนอุตสาหกรรม 3 กม./ประมาณ 8 นาที
  • ทางด่วนเฉลิมมหานคร 3.8 กม./ประมาณ 11 นาที
  • สะพานภูมิพล 2.5 กม./ประมาณ 7 นาที (ไม่เสียค่าใช้บริการ)
  • Big C สุขสวัสดิ์ 1.5 กม.
  • Tesco Lotus บางประกอก 5.8 กม.
  • Max Value ประชาอุทิศ 3.9 กม.
  • เซ็นทรัล พระราม 3 8.7 กม.
  • เซ็นทรัล พระราม 2 12.7 กม.
  • โรงเรียนเซนต์ แมรี่ 1.2 กม.
  • โรงเรียนวิสุทธิกษัตรี 1.5 กม.
  • ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 4.3 กม.
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษา 8.1 กม.
  • โรงเรียนรุ่งอรุณ : 9 กม.
  • โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี : 9.9 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูผังโครงการ The City สาทร – สุขสวัสดิ์ กันนะครับ โซนของบ้านพักอาศัยที่เปิดขายในตอนนี้จะอยู่ด้านในเป็นส่วนใหญ่ ส่วนด้านหน้าจะเป็นพื้นที่ขายในอนาคต จะเห็นว่าจำนวนยูนิตมีไม่เยอะมีเพียงแค่ 135 ยูนิตถือว่ามีความเป็นส่วนตัวมากกว่าหมู่บ้านใหญ่ๆที่มีจำนวนยูนิตหลักสองร้อยขึ้นไป สำหรับมีแบบบ้านคละๆ กันไปหลากหลายขนาดตั้งแต่ 190 – 500 ตร.ม. ซึ่งแบบบ้านหลังใหญ่ก็จะอยู่เกาะกลุ่มตรงกลางและบ้านที่มีขนาดรองลงมาจะอยู่กระจายตัวอยู่ด้านบนและด้านล่าง ส่วนอาคารคลับเฮาส์โครงการเค้าวางตำแหน่งให้อยู่ฝั่งที่ติดกับโรงงานพอดี และทำรั้วสูง 8 เมตร เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน โดยมีพื้นที่เป็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่มาให้ด้วย

เรามาเริ่มดูโครงการไปพร้อมๆ กันดีกว่าครับ ปากทางเข้าโครงการถือว่าทำมาใหญ่โตสมราคากับระดับบ้านนะ ตกแต่งมาแนวเรียบหรู

สำหรับระบบความปลลอดภัยที่ประตูหน้าโครงการ จะให้ระบบผ่านประตูกั้นแบบ Easy Pass ลูกบ้านไม่ต้องยื่นมือออกมาแตะบัตรที่ตัวแสกน ไม่ต้องโดนแดด โดนฝน ส่วนผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรตรงป้อม รปภ. ซึ่งตัวประตูโครงการนี้จะให้มาแบบบานเลื่อนอัตโนมัติแทนรั้วกั้นไม้กระดก ทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ถนนหลักของโครงการจะกว้างประมาณ 12 เมตร ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตแล้วถือว่าใหญ่นะวิ่งแบบสบายๆ ด้านซ้ายมือที่เห็นเป็นพื้นที่สีเขียวนี่ไม่ใช่พื้นที่สวนหย่อมนะครับ แต่เป็นพื้นที่ขายในอนาคต

ก่อนเข้าไปถึงโซนที่พักอาศัยด้านในจะต้องข้ามลำลางเล็กๆ ไปก่อนนะ

พอข้ามสะพานมาแล้ว 2 ข้างจะยังคงทำเป็นสวนหย่อมเล็กๆ ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นและดูกว้างไม่แออัด สุดทางนี้จะเป็นทางแยกเพื่อไปยังส่วนต่างๆ ของโครงการ ณ ตอนนี้ด้านซ้ายจะไปสำนักงานขาย และด้านขวาจะไปอาคารคลับเฮาส์

ภายในสวนตอนนี้ต้นไม่เพิ่งมาลงใหม่ๆ อาจต้องรอสัก 3 -5 ปีให้แตกกิ่งแตกใบเยอะกว่านี้หน่อย จะร่มรื่นมากขึ้นไปอีก

เดินเข้ามาดูบรรยากาศซอยภายในโครงการสักหน่อย ตัวถนนภายในซอยจะกว้าง 8 – 9 เมตร แล้วแต่ซอย โดยตลอดแนวถนนจะมีแนวฟุตบาทมาลงหญ้าและต้นไม้มาให้ ซึ่งเป็นข้อดีมากๆสำหรับตัวโครงการ เพราะเวลาต้นไม้ใหญ่โตแล้วจะได้ความร่มรื่นที่ดี บรรยากาศดูไม่อึดอัด

ตัวบ้านแต่ละแบบจะออกแบบมาให้มีสไตล์ตล้ายๆ กัน เวลาวางเรียงๆกันแล้วก็ดูสวยดีครับ ไม่มีหลังไหนดูแปลกแยกถือว่าออกแบบรูปด้านของบ้านมาเข้ากันได้หมด

เดินต่อมายังพื้นที่อาคารคลับเฮาส์ พื้นที่ตรงนี้จะมีการทำสวยหย่อมเอาไว้ให้ลูกบ้านได้มาพักผ่อนกัน

พื้นที่สวนตรงนี้มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตที่ 136 ยูนิต ได้มา 571 ตร.วา

ภายในสวยมีการตกแต่งพื้นที่ต่างๆให้มีหลังคาเอาไว้นั่งพักผ่อนได้ ถ้าใครมีลูกพามาวิ่งเล่นตรงนี้ก็จะได้มาพักเหนื่อยกันตรงนี้แหละครับ

อย่างที่บอกไปว่าพื้นที่ตรงนี้จะอยู่ติดกับโรงงานข้างๆ ทางโครงการเลยทำรั้วกั้นสูงขึ้นมาจนมองแทบไม่เห็นหลังคาโรงงานกันเลย และที่สำคัญวัสดุส่วนที่ต่อเพิ่มขึ้นมาก็เป็นแบบทึบไม่เหมือนกับด้านหน้าที่ยังคงเป็นแบบโปร่ง เพราะโซนด้านหน้าติดกับบ้านพักและที่ดินบุคคลอื่น

ตัวอาคารคลับเฮาส์ตอนที่เข้าไปเก็บข้อมูลยังทำไม่เสร็จนะครับเลยได้แต่ถ่ายด้านหน้าไว้ ซึ่งภายในประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้อง Fitness และ ห้องนั่งเล่น

กลับมาที่ Sale Gallery บ้านหลังนี้เป็นบ้านแบบ City Scenery ขนาด 335 ตร.ม. สำหรับบ้านตัวอย่างจะอยู่ซอยด้านหลังสำนักงานขายนี่แหละครับ เดี๋ยวเราลองไปดูพร้อมๆกัน

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 120 ตร.ม. แบ่งสระเด็กลึก/สระผู้ใหญ่
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาด 65 ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 เครื่อง
  • สวนสาธารณะ 571 ตารางวา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 4 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 ม.และรั้วโปร่งต่อเพิ่มเป็น 8 ม.
  • Key Card Access ระยะไกล
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 – 9 ม.

 


Product Walkthrough

ภายในซอยบ้านตัวอย่างจะมีบ้านให้ดู 2 หลังคือแบบ Scenery พื้นที่ใช้สอย 375 ตร.ม. และ Spacious พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. ตัวบ้านจะมีสีภายนอกให้เลือก 2 คู่สีคือแบบสีขาวเทาและครีมน้ำตาลเข้ม บ้านตัวอย่างที่ตกแต่งแล้วมีให้ดูแบบเดียวคือ Scenery ส่วนอีกหลังจะมีให้ดูแค่บ้านมาตรฐานครับ

ก่อนจะไปดูแบบบ้าน Scenery ผมขออธิบายภาพรวมของแบบบ้านแบบคร่าวๆ เวลาจะเลือกแบบบ้านจะได้เลือกถูกเลือกได้ตรงตามความต้องการของตัวเอง เพราะเค้าทำแบบมาให้เลือกเยอะจริงๆ

  • ถ้าเราดูจากแปลนทั้งหมดบ้านทุกหลังจะได้ห้องนอนที่ชั้นล่าง ตั้งแต่แบบ Scenery ขึ้นไปจะได้ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง
  • ส่วนที่จอดรถแบบ Lux, Prive, Retreat จะเป็นแบบ 2 ที่จอดรถ ที่เหลือตั้งแต่แบบ Spacious ขึ้นไปจะได้ 3 ที่จอดรถ และ Lux Lodge ได้ 4 ที่จอดรถ
  • แบบ Spacious กับแบบ Scenery จะมีพื้นที่ Double Volume ในห้องนั่งเล่น
  • แบบ Mayer จะเป็นแบบที่เน้นพื้นที่ในแต่ห้องใหญ่ๆ ไม่เน้นจำนวนห้องเยอะๆ
  • ตั้งแต่แบบ Scenery ขึ้นไปจะได้ห้องนอนแม่บ้านมาด้วย และแบบ Lux Lodge จะได้ห้องนอนแม่บ้านที่วางเตียง 3.5 ฟุตได้ 2 เตียง
  • ห้อง Master Bedroom จะมีอ่างอาบน้ำให้ ตั้งแต่แบบ Spacious และได้อ่างล้างหน้าแบบ His & Her
  • แบบ Mayer กับ Lux Lodge จะได้ห้อซักรีดเพิ่มขึ้นมาที่ชั้นล่าง

แบบบ้านของ Scenery พื้นที่ใช้สอย 335 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 17.5 ล้านบาท ผังชั้นล่างจะแบ่งโซนมาได้ค่อนข้างดี โซนตรงกลางจะเป็นโซนไว้กิจกรรมหลักอย่างห้องนั่งเล่นและพื้นที่ทานอาหารเชื่อมต่อกัน ส่วนห้องนอนชั้นล่างจะอยู่ติดกับห้องอเนกประสงค์ ซึ่งเราสามารถกั้นห้องตรงนี้ให้เป็นห้องนั่งเล่นของห้องนอนชั้นล่างไปเลยก็ได้่ บ้านไหนมีผู้สูงอายุจะได้มีฟังก์ชันหลักครบในพื้นที่ของตัวเอง ส่วนครัวและห้องแม่บ้านจะอยู่ติดกันที่ด้านซ้ายของบ้าน แม่บ้านตื่นมาตอนเช้าจะทำกับข้าวก็สะดวกเพราะห้องครัวสามารถเข้าจากหลังบ้านได้ไม่ต้องมารบกวนในพื้นที่อื่นๆ ของตัวบ้าน

สำหรับชั้นสอง จะได้ 4 ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวและ ได้มุม Family Area ที่ชั้น 2 ด้วยเอาไว้เวลาผู้ใหญ่รับแขกด้านล่าง เด็กๆก็ยังสามารถทำกิจกรรมของตัวเองที่ชั้น 2 ได้ การออกแบบห้องน้ำจะมียืดผนังออกไปเพื่อให้มีช่องเปิดด้านข้าง เวลาใช้งานจริงจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่ได้ส่องไปด้านหลังบ้านแบบตรงๆ ห้องนอนแต่ละห้องจะมีขนาดใกล้เคียงกันยกเว้น ห้องนอนที่อยู่ใกล้ติดกับห้องนอนใหญ่จะพื้นที่ห้องมากกว่าห้องนอนเล็กอื่นๆ รูปแบบการขายของโครงการจะขายแบบ Partly Fitted ตามปกติของการขายบ้านทั่วๆไป คือได้วัสดุปูพื้น ได้ห้องน้ำตามบ้านตัวอย่าง และได้ครัวมาด้วย

รูปร่างหน้าตาของบ้านแบบนี้จะมีเน้นความเรียบง่าย และมีแนวคิดต้องการให้ตัวบ้านสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ โดยมีการนำวัสดุหินมาปิดผิวของผนังอาคาร การออกแบบรูปด้านหน้าบ้านจะมีผนังและเสายื่นออกมาเพื่อเพิ่มมิติให้กับตัวบ้านทำให้บ้านดูน่าสนใจมากขึ้น

สำหรับบ้านตัวอย่างไม่ได้มีการทำรั้วมาให้ดู เลยไปถ่ายจากบ้านมาตรฐานมาให้ดูแทน ตัวรั้วจะได้เป็นรั้วโปร่งสีดำซึ่งตอนนี้ทางโครงการมีโปรโมชั่นแถมประตูแบบอตโนมัติมาให้ด้วยนะครับ ที่จอดรถกว้างพอให้จอดรถได้ 3 คันนะ

ทางโครงการจะมีการจัดสวนรอบบ้านมาให้ด้วยนะครับเป็นโปรโมชั่น ซึ่งต้นไม้ใหญ่ในภาพที่เห็นคือต้นตีนเป็ดน้ำแดง ดอกจะเป็นสีขาวขอบสีชมพูแล้วลูกเป็นสีแดง (รูปนี้ถ่ายจากบ้านมาตรฐานนะครับ)

ด้านหลังของบ้านจะมีลานซักล้างมาให้พร้อมแทงค์น้ำและปั๊มน้ำ  (รูปนี้ถ่ายจากบ้านมาตรฐานนะครับ)

เดินกลับมาที่หน้าบ้านนะครับ ทางเข้าบ้านจะสามารถเดินจากที่จอดรถได้เลย เวลาฝนตกก็ไม่ต้องเปียกฝน

ประตูทางเข้าบ้านจะไม่ได้อยูติดกับกำแพงด้านหน้าแต่จะอยู่ลึกเข้าไปด้านใน เพื่อให้มีพื้นที่วางชั้นวางรองเท้าและเก้าอี้เอาไว้นั่งใส่รองเท้า

ตัวประตูเป็นบานเปิดคู่โดยบานนึงจะเป็นบานใหญ่ที่ใช้งานปกติ แต่ถ้าจะขนของเข้าบ้านก็เปิดบานเล็กอีกบานได้

บานประตูจะได้เป็นไม้สักพร้อมกลอนประตูของ COLT

เมื่อเปิดประตูมาเราจะได้ไม่เจอกับฟังก์ชันหลักของบ้านเลยนะ แต่จะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังฟังก์ชันหลักของบ้าน พื้นที่ตรงเอาไว้วางตู้โชว์ของหรือตู้เก็บรองเท้าก็ได้ครับ

เดินเข้าบ้านมาแล้วถ่ายหันกลับไปด้านหน้าให้ดู เผื่อให้เห็นว่ามีทางออกไปยังที่จอดรถอีกทาง(ประตูสีขาว) ซึ่งตรงนี้จะมีทางลาดเอาไว้ให้ด้วย

หันกลับมาดูในบ้านกันต่อครับ โซนแรกที่เราจะเจอคือพื้นที่ห้องนั่งเล่นกับ โซนทานอาหารที่เชื่อมต่อเป็นพื้นที่เดียวกัน

ห้องน้ำสำหรับแขกจะอยู่ติดกับส่วนทานอาหาร แต่ทางเข้าห้องน้ำไม่ได้ตรงกับโต๊ะทานข้าว ถ้าใครอยากแต่งเพิ่มแนะนำให้ทำฉากั้นรวมกันชั้นวางของโชว์ไปก็ได้ นอกจากจะได้บังสายตาแล้วยังได้โชว์ของอีกด้วย สำหรับผนังด้านข้างที่ติดกับห้องน้ำแนะนำให้ทำเป็น Pantry แบบบ้านตัวอย่างก็ได้ครับจะได้เอาไว้เตรียมอาหารง่ายๆได้

ภายในห้องน้ำจะทำเป็นห้องแบบ Powder Room คือไม่มีส่วนอาบน้ำมาให้

อ่านล้างหน้าและชุดโถสุขภัณฑ์จะได้ของ Cotto ทั้งหลัง โดยตัวอ่างไม่ได้มีเคาน์เตอร์แต่ก็มีกำแพงก่อเพิ่มมาให้แทน

เดินเลยโต๊ะทานอาหารมาจะเป็นห้องครัวปิดที่โครงการจะให้ประตูบานเลื่อนกระจกมาให้ด้วย ตัวห้องครัวจะเป็นพื้นต่างระดับที่ช่วยให้การทำความทำได้ง่ายขึ้นแต่ก็ต้องระวังเวลายกกับข้าวจากห้องครัวไปเซิฟด้วยนะ

ภายในห้องครัวจะได้วัสดุตามบ้านตัวอย่างเลยยกเว้นเครื่องใช้ไฟ้ฟากับของตกแต่ง ได้เคาน์เตอร์ครัวชุดล่างและชุดบาน และตรงเตาจะมีการลดระดับความสูงของเคาน์เตอร์เพื่อให้เวลาวางเตาแล้วทำอาหารได้สะดวก

หน้าบานเป็น Hi-gloss และ Top เคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิต ผนังส่วนทำอาหารได้ Back Splash ปูกระเบื้องมาให้

มือจับของหน้าบานตู้เป็นสเตนเลสจับได้ถนัดมือ

อีกด้านของครัวจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็นและเป็นประตูไปออกหลังบ้าน และไปห้องแม่บ้าน

รูปนี้ผมเดินออกมาแล้วถ่ายย้อนกลับไปให้ดูนะครับ ตรงห้องแม่บ้านจะมีห้องน้ำอยู่ด้านนอกมาให้ เพื่อว่าเวลามีช่างมาล้างแอร์หรือซ่อมแซมอะไรในบ้านก็ให้มาเข้าห้องน้ำตรงนี้ได้

เดินกลับเข้ามาให้บ้าน ถ่ายรูปนี้มาให้ดูว่าบ้านตัวอย่างเค้าทำฝ้าเล่นระดับเป็นแนวยาวต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมพื้นที่ทั้ง 2 ฟังก์ชันให้ดูต่อเนื่องกัน

สำหรับพื้นที่วางทีวีอาจจะไม่ได้วางตรงตามผัง แต่เค้าสลับด้านการวางทีวีหน่อยนะ โดยพื้นที่ตรงนี้จะได้รับแสงกว่าโซนทานอาหารเพราะได้ช่องเปิดหน้าต่างเป็นแบบสูงทำให้ได้รับแสงธรรมชาติเยอะขึ้น ระยะทีวีก็มีเหลือๆอยู่ที่ 3.2 เมตร

ต่อไปเราไปดูโซนห้องนอนของชั้นล่างกัน

เดินผ่านโถงบันไดมาก็จะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นแยกมาอีกห้อง

ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะเป็นแบบ Double Volume ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่อเนกประสงค์ชั้น 2

ถ้าครอบครัวไหนมีผูู้สูงอายุแล้วอยากให้ท่านมีพื้นที่ส่วนตัวนอกจากห้องนอน สามารถกั้นโซนนี้แยกไปเลยก็ได้นะ จะได้ห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงานที่เป็นสัดส่วนให้กับท่านได้

ภายในห้องนอนสามารถวางเตียง 6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่รอบๆเตียงเหลือให้เดินได้

พื้นที่ปลายเตียงของห้องนี้สามารทำ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ด้านซ้ายและขวาโดยให้ตรงกลางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดีๆ

ภายในห้องน้ำจะได้ฟังก์ชันพื้นฐานครบ ได้กระจกเต็มบาน

และที่อาบน้ำมีทำเก้าอี้มาให้นั่งอาบน้ำได้ด้วย

กลับมาที่โถงบันไดกันต่อ ตัวโถงบันไดมีความกว้างประบาน 2 เมตรตัวบันไดแต่ละด้านจะกว้างประมาณ 1 เมตร เดินขึ้นลงได้สะดวก

ด้านใต้โถงบันไดจะได้เป็นห้องเก็บของที่มีพื้นที่พอประมาณ

ขึ้นมาที่ชานพักบันไดจะมีหน้าต่างเป็นช่องแสงมาเพิ่มความสว่างให้กับโถงบันไดด้วย

พื้นชั้นสองเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. สีของบันไดทำเชดสีออกมาได้ใกล้เคียงกับสีพื้นดีครับ ดูแล้วกลมกลืน

สำหรับบ้านแบบนี้จะได้พื้นที่ชั้นลอยตรงนี้มาด้วย เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่มีความสูงฝ้าถึงพื้น 2.3 เมตร

เอาไว้ทำเป็นห้องพระ หรือห้องมุมนั่งเล่นแบบนี้ก็ได้ เด็กๆน่าจะชอบมุมนี้นะ

เดินต่อมาฝั่งที่เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับ Double Volume พื้นที่ตรงนี้จะเป็นพื้นที ่Family Area ที่ทางโครงการจัดเป็นพื้นที่วางโต๊ะทำงานแทน แต่ถ้าใครอยากปรับเป็นห้องนั่งเล่นก็ทำได้นะ

สำหรับห้องนอนที่อยู่ด้านนี้ ในบ้านตัวอย่างจะถูกแปลงร่างให้เป็นห้องดูหนัง โดยเปลี่ยนทางเข้าห้องน้ำให้เข้าจากโถงทางเดินแทนที่จะเข้าจากในห้อง รูปบนเป็นของบ้านที่ตกแต่ง ส่วนรูปล่างเป็นของบ้านตัวอย่างครับ

ถ้าใคอยากทำห้องดูหนังแบบนี้ก็ทำได้นะแถมวางโซฟาขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้สบายๆ

ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 3 เมตรก็วางทีวี 60″ ได้เลยนะดูหนังกันมันส์

ในส่งของห้องน้ำ จะมีพื้นที่เอาไว้ทำตู้เสื้อผ้าได้

ภายในห้องน้ำจะได้ชุดสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง แต่ที่ได้เพิ่มขึ้นมาก็ถือพื้นที่อาบน้ำด้านใน ตัวผนังจะปูกระเบื้องลายตามบ้านตัวอย่างเลยครับ

หันกลับมาที่โถงทางเดินกันต่อ เมื่อกี้ลืมบอกไปว่าบ้านหลังนี้ได้สัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic + Shock Sensor มาด้วยนะ โดยตัวควบคุมจะอยู่ที่โถงบันไดนี่แหละครับ

ห้องนอนเล็กห้องแรกจมีพื้นที่วางเตียง 6 ฟุตแล้วมีระยะเหลือปลายเตียงพอให้ทำชั้นวางทีวีได้

ด้านข้างของเตียงก็ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน ทำการบ้านก็ได้ มีระยะให้เลื่อนเก้าอี้เข้าไปนั่งได้สบายๆ

บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่ใหทำตู้เสื้อผ้าได้ตลอดแนวผนัง

ภายในห้องน้ำจะได้ชุดสุขภัณฑ์เหมือนห้องแรก แต่สิ่งที่แตกต่างคือกระเบื้องในโซนอาบน้ำ

เดินต่อมายังห้องนอนเล็กที่อยู่ปลายสุด ห้องนี้จะได้เปรียบกว่าห้องอื่นๆ เพราะมีพื้นที่เยอะว่า

ในส่วนแรกของห้องด้านซ้ายมือจะทำเป็นพื้นที่ทำการบ้านหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ เพราะตู้เสื้อผ้าจะไปจัดไว้อีกด้าน

ภายในห้องน้ำมีการวางนวสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องนอนเล็กห้องอื่นๆ

ภายในห้อนอนใหญ่สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ โดยที่หัวเตียงให้หันตามห้องตัวอย่างไปนะครับ ห้องนี้มีหน้าต่างที่ออกแบบมาเพื่อเป็นตำแหน่งวางหัวเตียงอยู่แล้ว

รูปนี้ถ่ายมาให้ดูระยะเหลือข้างเตียงอีก 2 ด้านจะเห็นว่าเดินผ่านได้สบายๆ

สำหรับตำแหน่งตู้เสื้อผ้าจะถูกย้ายมาอยู่ในช่องที่เตรียมไว้ให้ โดยมีความลึกอยู่ที่ 1 เมตรเก็บกระเป๋าเดินทางได้เลย

สุดท้ายมาต่อกันที่ห้องนอนใหญ่ ห้องนี้จะได้พื้นที่เทียบเท่าห้องนอนเล็ก 2 ห้องเลย ใหญ่พอให้วางโซฟาเอาไว้นั่งอ่านหนังสือเล่นๆ ในห้องนอนได้

สำหรับช่องแสงของห้องนี้นอกจากจะได้ตรงประตูแล้วยังได้จากหน้าต่างบานสูงข้างๆ อีกด้วย

พื้นที่ระเบียงที่ิติดกับห้องนอนใหญ่จะกว้างและยาวมากกกก ยาวสุดตัวบ้านตามความกว้างของบ้านเลย สำหรับพื้นที่ระเบียงจะมีบางส่วนที่มีหลังคาคลุมเยอะหน่อย ช่วยบังแสงแดดไม่ให้ส่องตรงเข้าห้องนอนได้

กลับมาดูภายในห้องนอนกันต่อ ด้านซ้ายมือที่เห็นจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้ง

พอเดินตรงเข้ามาด้านในจะเจอ Walk-in Closet อยู่ด้านขวามือซึ่งอยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำพอดีช่วยให้สะดวกต่อการใช้งาน

การวางตู้เสื้อผ้าสามารวางได้ทั้งสองฝั่งตลอดแนว และบ้านหลังนี้มีช่องแสงมาให้ด้วย

ภายในห้องน้ำจะได้อ่างล้างหน้าเป็นแบบ His & Her ได้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าลากยาวไปจนถึงโซนอ่างอาบน้ำ

สำหรับตัวอย่างที่ให้เป็นแบบเต็มความยาวนอนลงไปแช่ได้ทั้งตัวไม่ต้องงอเข่าเลย พื้นที่อ่างตรงนี้มีข้อดีที่มีพื้นที่เคาน์เตอร์ด้านข้างมาให้วางข้าวของต่างๆได้

หันมาอีกด้านจะเป็นโซนวางโถสุขภัณฑ์ และ โซนอาบน้ำ

ชุดโถสุขภัณฑ์ของห้องนอนใหญ่จะเป็นรุ่นที่ดีกว่าห้องน้ำอื่นๆ

 

 

สำหรับโซนอาบน้ำที่ให้มาถือว่ากว้างและอาบน้ำได้สบายๆ มีระยะประมาณ 1.1 x 1.3 ยืดแขนขาได้ไม่ได้อะไร

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 6 February 2017

  • City Retreat ที่ดิน 76.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 13.99 ล้านบาท
  • City Spacious ที่ดิน 85.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 16.19 ล้านบาท
  • City Scenery พื้นที่ใช้สอย 335 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 17.5 ล้านบาท

 

  • จองและทำสัญญา 100,000 – 150,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 100,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 26 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – ทำเลนี้ต้องบอกว่าเป็นทำเลที่เน้นการเดินทางสะดวกนะเพราะอยู่ใกล้ถนนใหญ่สุขสวัสดิ์ ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครไว้วิ่งเข้าตัวเมืองโซนสาทรได้ไม่ยาก มีทางด่วนกาญจนาภิเษก และสะพานภูมิพลที่เชื่อมไปฝั่งพระราม 3 กับปู่เจ้าสมิงรายได้แบบไม่ต้องเสียเงินด้วย ด้วยความสะดวกแบบนี้ทำให้ทำเลในย่านสุขสวัสดิ์กลายเป็นทำเลที่เป็นแหล่งงานตลอดทั้งเส้น พื้นที่บริเวณนี้จึงเป็นที่ตั้งขออาคารพาณิชย์ และโรงงานน้อยใหญ่มากมาย กลุ่มลูกค้าโครงการนี้จึงเป็นคนที่คุ้นชินกับทำเลแถวนี้อยู่แล้ว และต้องการจะบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ใกล้ถนนหลัก ซึ่งหาไม่ได้ง่ายๆ เลยบนถนนเส้นนี้ ส่วนใหญ่จะไปสร้างกันในถ.ประชาอุทิศ และ พุทธบูชาด้านในลึกๆ ซึ่งถ้าใครเคยวิ่งเข้าไปจะรู้อยู่แล้วว่ารถติดหนักมากกกกกกก กว่าจะเข้าออกจากบ้านมาถนนใหญ่ต้องใช้เวลาเยอะ โครงการนี้จะช่วยในเรื่องของการประหยัดเวลาเดินทางได้มากทีเดียว

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์มี Big C ที่อยู่ใกล้โครงการแบบให้แม่บ้านขี่มอเตอร์ไซด์ไปซื้อกับข้าวได้สบายเลย ส่วนการไปเดินเล่นซื้อของในห้างก็มีทางเลือก 3 ห้างคือ เซ็นทรัล พระราม 2 กับพระราม 3 และ The Mall ท่าพระ ซึ่งทั้ง 3 ห้างมีระยะเดินทางพอๆกันคือ 10 กม.นิดๆ และถ้าใครชอบขี่จักรยานยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ถึงแม้จะอยู่ติดกับโรงงานแต่ก็เดินทางไปปั่นจักรยานที่ บางกระเจ้า ปอดของกรุงเทพ ได้แบบใกล้มากๆ ใช้เวลาขับรถไปตลาดบางน้ำผึ้งประมาณ 15 – 20 นาที

ความปลอดภัย – โครงการนี้ให้ระบบความปลอดภัยมาครบตามาตรฐานราคานะ ในส่วนของโครงการได้ประตูแบบบานเลื่อนอัตโนมัติ  ได้ระบบผ่านเข้าออกประตูรั้วโครงการแบบระยะไกลหรือที่หลายๆ คนจะเรียกว่าแบบ Easy Pass คล้ายระบบที่ใช้กับทางด่วนครับ รั้วรอบโครงการทำออกสูงและปลอดภัยเพราะโครงการเค้ารู้อยู่แล้วว่าตัวที่ดินติดกับโรงงานอยู่ส่วนนึง เค้าเลยจัดรั้วรอบโครงการมาสูง 3 เมตรและต่อรั้วขึ้นไปอีกเป็น 8 เมตร ซึ่งส่วนที่ติดกับโรงงานจะได้เป็นรั้วทึบแบบกันเสียงด้วย ให้มาแบบนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านได้เยอะเลยครับ แต่เสียดายที่ให้จำนวน CCTV มาน้อยไปหน่อย สำหรับในตัวบ้านจะได้ระบบกันขโมยทั้งแบบ Magnetic และ Shock Sensor รั้วบ้านได้แบบอัตโนมัติไม่ต้องลงจากบ้านไปเปิดประตู

การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – การออกแบบตัวบ้านต้องบอกว่าจัดแบบบ้านมาหลากหลายขนาด เพื่อให้ครอบคคลุมครอบครัวที่ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยแบบหลายรุ่น ตั้งแต่ 2 รุ่นไปจนถึง 4 รุ่นที่มีตั้งแต่รุ่นอากงอาม่า รุ่นป๊าม๊า รุ่นลูก รุ่นหลาน มีการออกแบบเผื่อไว้ให้ต่อเติมแยกสัดส่วนได้ดีขึ้นอย่างโซนห้องนอนที่ชั้นล่าง สามารถให้ผู้สูงอายุมีพื้นที่เป็นของตัวเองได้มากขึ้น ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว ออกแบบห้องนอนได้ลงตัวและใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า ส่วนครัวมีการแยกครัวปิดและอยู่ติดกับห้องแม่บ้านช่วยให้แม่บ้านสามารถทำงานได้โดยไม่เข้ามารบกวนส่วนที่พักอาศัยหลัก

วัสดุ – วัสดุของโครงการนี้ถ้าเทียบกับระดับราคาบ้านส่วนใหญ่ในโครงการแล้วถือว่าให้มาดีบ้างด้อยบ้าง ได้พื้นแกรนิตโต้ที่ชั้น 1 ได้พื้นลามิเนต 8 มม. น่าเสียดายตรงที่พื้นของชั้น 2 ถ้าเป็นบ้านระดับสิบล้านปลายๆ เกือบยี่สิบล้านนี่ควรได้พื้นไม้ Engineering Wood แล้วนะ ที่ชั้น 2 การปิดผิวผนังด้านนอกของตัวบ้านมีบางส่วนกรุหินมาให้ช่วยให้ตัวบ้านดูสวยงามขึ้น ประตูและหน้าต่างให้มาขนาดใหญ่กำลังดี อุปกรณ์ของประตูหน้าต่างถือว่าใช้งานได้ดี สำหรับตอนนี้จะมีโปรโมชั่น wall paper ทั้งหลัง เคาน์เตอร์ครัว จัดสวนรอบบ้าน ถังเก็บน้ำ บานประตูแบบอัตโนมัติ ถ้ามีตรงนี้เพิ่มมาให้ก็ถือว่าให้มาได้มาตรฐาน ตัวสุขภัณฑ์ได้ของ Cotto ตรงห้องนอนใหญ่ได้แบบที่ดีขึ้นแต่ยังไม่ได้แบบ Washlet

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – สำหรับสภาพของและพื้นที่สีเขียวของโครงการนี้ต้องบอกว่ามีช่วงราคาที่ค่อนข้างกว้างมากกกก ตั้งแต่ 11 ล้านไปจนถึง 30 ล้าน ซึ่งการวิเคราะห์ในภาพรวม ผมจะขอยึดกล่มระดับราคาที่มีจำนวนเยอะๆ นะครับ ซึ่งขนาดบ้านที่มีอยู่เยอะจะเป็นกลุ่ม Retreat Spacious และ Scenery ขนาดบ้านตั้งแต่ 258 – 335 ตร.ม. ตัวโครงการถือว่าออกแบบมาค่อนข้างดี ถ้าเทียบกับบ้านราคาประมาณ 14- 17 ล้านบาท ถือว่าตัวโครงการให้พื้นที่สีเขียวที่เป็นสวนมาใหญ่ดี มีฟุตบาทหน้าบ้านและลงต้นไม้ใหญ่ ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการที่มีไม่เยอะ ถ้าเทียบกับราคาบ้านสิบล้านต้นๆ ก็ถือว่าให้มาดีพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับบ้านระดับ 25 -30 ล้านขึ้นไปก็ถือว่าได้ตามมาตรฐาน ตัวซุ้มประตูและถนนทางเข้าทำออกมาดีดูเหมาะสมกับราคาของบ้าน ถนนหลักได้ 12 เมตรใช้วิ่งสวนได้สบายมากครับเพราะยูนิตน้อย ส่วนในซอยย่อยมีทั้งแบบ 9 เมตรและ 8 เมตร ใครชอบบรรยากาศหน้าบ้านโล่งๆ ก็เลือกโซนที่เป็น 9 เมตรนะ น่าเสียดายตรงที่ไม่ได้สายไฟฟ้าลงดิน ซึ่งโครงการระดับยี่สิบล้านขึ้นไปน่าจะได้แล้วนะ

สาธารณูปโภค – ถือว่าให้มาครบตามมาตรฐานของโครงการระดับดี ตัว Clubhouse ทำออกมาสวยและน่าใช้งาน ได้สระว่ายน้ำแยกส่วนผู้ใหญ่ และ เด็ก โดนโซนเด็กจะอยู่ใกล้กลับห้องนั่งเล่นทำให้ผู้ใหญ่ยังเห็นเด็กๆ อยู่ในสายตาขณะเล่นน้ำ ได้ห้อง Fitness ที่ชั้น 2 ที่เห็นวิวสวยด้านหน้าแบบเต็มๆ

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 14 – 17.5 ล้านบาท, 6 February 2017 การให้คะแนนจะขออิงตามกลุ่มราคา 14 – 17.5  ล้านบาทนะครับเพราะเป็นระดับราคาที่มีจำนวนยูนิตเยอะสุดแล้ว ส่วนแบบหลังใหญ่มากๆ กับเล็กสุดจะมีไม่เยอะ

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ใกล้ถนนใหญ่และทางด่วน
  • ความปลอดภัย 7.75/10 – ประตูเลื่อน, ได้ระบบ Easy pass, รั้วสูง 8 เมตร, ได้สัญญาณกันขโมย 2 แบบ CCTV น้อยไปหน่อย
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – เน้นพื้นที่ใช้งานเยอะ จัดฟังก์ชันได้ลง
  • วัสดุ 7.0/10 – มาตรฐานของระดับนี้ มีของดีบ้างด้อยบ้าง
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – ได้พื้นที่สวนเยอะ มีต้นไม้ใหญ่ตามซอย เสียดายไม่ได้สายไฟฟ้าลงดิน
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ได้ Clubhouse ใหญ่ ได้ฟังก์ชันครบ
  • 7.86 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ The City สาทร – สุขสวัสดิ์ เป็นโครงการที่เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง – ใหญ่ ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยแบบใกล้ถนนใหญ่ ไม่ชอบเข้าซอยลึกๆ ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อการเข้าออกบ้านที่สะดวก และเป็นคนคุ้นชินกับทำเลในย่านนี้อยู่แล้ว ชอบใช้ส่วนกลาง และต้องการบ้านที่มีห้องนอนที่ชั้นล่าง ห้องนอนทุกห้องต้องมีห้องน้ำในตัว ต้องการห้องแม่บ้าน ครอบครัวมีงบประมาณ 14 – 17.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 98,000 – 140,000 บาท/เดือน

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )